คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ϟ C H A P T E R 5 ϟ
-
08.30 AM
ขายาวรีบวิ่งเข้าบริษัทเหงื่อที่ชุ่มหลังมือหนาปาดเหงื่อตามหน้าผาก ตอนนี้เข้างานสายไปเป็นครึ่งชั่วโมงพนักงานที่อยู่ชั้นแรกมองเขาก่อนจะหลุดขำออกกันมาเล็ก ร่างสูงที่โค้งให้รุ่นพี่พนักงานก่อนเขาจะหมุนตัวมองรอบๆ
เขากำลังมองหาคุณเลขาตัวดีที่ทำให้เขาเข้างานสายนี่แหละ อุส่าห์ทำตัวดีแล้วแท้ๆ ซื้อของไปให้ เลี้ยงข้าวอีกต่างหาก เขาโดนตอบแทนโดนการปล่อยลมยางรถเสียอย่างนั้น
นิสัยไม่ดีเลย..
“มาช้าไปสามสิบสองนาที” ร่างบางเดินมาตรงหน้าเขายกมือขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้าบอกคนที่กำลังยืนเหนื่อยหอบ แอลพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะส่ายหัวเอือมๆ
“พี่นั่นแหละทำผมมาช้า”
“อะไร?”
“รถผมยางแบน..”
“พี่ทำใช่ปะ” แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนซองจงจะขมวดคิ้วตามเช่นกัน เขามองหน้าแอลอย่างไม่เข้าใจว่าคนที่กำลังโทษเขาสื่อถึงอะไร นิ้วเรียวยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ตัวเอง
“ฉัน?” ซองจงถามย้ำอีกครั้งก่อนแอลจะพยักหน้า สีหน้าซองจงที่ไม่เข้าใจกลับทำให้แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องไม่ทำให้แอลหลงกลได้ง่ายหรอก
“ทำเป็นไม่รู้อีกหรอ ก็พี่นั่นแหละ” แอลพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ ซองจงที่โดนคนตรงหน้าดุใส่เป็ครั้งแรกกลับปลุกความโมโหออกมาทันที ซองจงรีบหันหลังใส่หนุ่มตากล้องก่อนจะรีบเดินไปไกลๆจากคนที่หูแดงหน้าแดงแบบนั้น ซองจงไม่อยากคุยกับคนที่มาเหวี่ยงใส่เขาแบบนี้หรอกนะ
“พี่เกลียดผมจนต้องทำแบบนี้เลยหรอ”
ขายาวรีบเร่งฝีเท้าตามเลขาที่กำลังเดินหนีเขาออกไป มือหนาอีกข้างรีบจับข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนคนที่เดินหนีเขาจะหันหลังมาอย่างไม่พอใจอีกครั้ง
“เฮ้ย! ฉันไม่ได้ทำเข้าใจปะ”
“ไม่เข้าใจ”
“..เรื่องของนาย” ซองจงรีบสะบัดข้อมือออกจากมือหนาก่อนจะหันหลังเดินต่อไป ซองจงรู้สึกเริ่มไม่โอเคกับแอลอีกครั้ง ซองจงอายุ 25 นะไม่ใช่ 15 อายุครึ่ง 50 คงไม่ทำอะไรไร้สาระเหมือนเด็กแบบนั้นหรอกนะ
ตั้งแต่แอลเข้ามาในชีวิตนี่ไม่มีสิ่งดีๆเลยจริงๆ..
“น้องซองจงครับ” เสียงของคนข้างหลังเรียกเลขาซองจง ใบหน้าสวยจากที่ไม่พอใจอยู่แล้วกลับไม่พอใจมากกว่าเดิมคิ้วขมวดติดกันอย่างไม่พอใจเขาค่อยๆหันไปมองคนที่เรียกชื่อเขา ซองจงพ่นผมหลายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนแขนทั้งสองข้างจะยกขึ้นมากอดอกไว้
“ว่า” คนที่ทำให้ซองจงไม่พอใจอีกตอนนี้ก็มีแต่ซองยอลนั่นแหละที่เรียกเขาน้องซองจงครับน้องซองจงขาอะไรนั่น หนุ่มนายแบบหุ่นดีรีบเดินเข้าหาร่างบางก่อนจะหันไปมองรอบๆซองยอลยิ้มโชว์เหงือกและฟันที่เรียงสวยออกมา
“เพิ่งมาหรอครับ”
“ทำไมเมื่อวานไม่รับสายพี่”
“เมื่อวานพี่ว่าจะชวนเราออกมาหาอะไรทานสักหน่อย”
หนุ่มนายแบบที่รัวคำถามรัวคำพูดออกมาโดยไม่ทันที่ซองจงจะได้ตอบ ร่างบางส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆถอยหลังออกห่างหนุ่มนายแบบ
“พี่เป็นใครหรอครับ ทำไมผมถึงต้องรับสายพี่”
“ถ้าโทรมาด้วยเรื่องไร้สาระผมคงไม่อยากรับ” เสียงที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์เลขาคนนี้ไม่เคยอารมณ์เสียอะไรขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่โดนแอลเหวี่ยงซองจงกลับกลายเป็นคนอารมณ์ร้อนซะจนซองยอลแทบจะตกใจกับคำพูดที่ดูไม่ใส่ใจและน้ำเสียงที่ดุดันกว่าเดิม
“อารมณ์เสียอะไรมาครับ..”
“หมอนั่นหรอ ที่คุยกับซองจงเมื่อกี้” ซองยอลที่เห็นแอลและซองจงคุยกันมาสักรีบเอ่ยถามทันทีก่อนใบหน้าสวยจะบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ
เขาเริ่มปวดหัวขึ้นทันทีเมื่อเจอคนน่ารำคาญทั้งสองคนในเวลาไร่เรี่ยกัน ซองจงคิดว่าวันนี้จะได้ทำงานดีๆแล้วแท้ๆแต่ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย วันซวยของอีซองจงหรือไง
“ขอตัวทำงานครับ พี่มีถ่ายแบบใช่ไหมครับ”
“เชิญ” ซองจงยกมือชี้ไปทางลิฟต์ก่อนซองยอลจะพยักหน้าเข้าใจ มือหนาค่อยๆเอื้อมไปจับข้อมือเล็กไว้มืออีกข้างก็ยกขึ้นมากุมมือบางอีกที ซองจงขมวดคิ้วและก้มลงมองมือของตัวเองที่นายแบบนหนุ่มกำลังจับเอาไว้
“ไอหมอนั่นทำให้ซองจงไม่พอใจใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้” ทำหน้าที่ปกป้องคนที่ชอบก่อนข้อมือเล็กจะรีบสบัดออกอีกครั้ง ซองจงมองด้วยสีหน้าที่ไม่พึงพอใจ
“อย่าทำให้ผมปวดหัวไปมากกว่านี้ เข้าใจนะครับ” พูดตัดบทสนทนาทันทีก่อนขาเรียวจะรีบเร่งฝีเท้าไปอีกทาง วันนี้เป็นวันซวยของซองจงจริงๆด้วยถ้าสองคนนี้มีเรื่องกันอีกหัวซองจงคงระเบิดตู้มมันตรงนั้นไปแล้ว
ขายาวรีบก้าวไปอย่างเร็วๆ มือหนาเปิดประตูเข้าห้องถ่ายภาพอย่างแรงวันนี้เขาดูอารมณ์เสียเช่นกัน อารมณ์เสียจนแสดงออกมาอย่างได้ชัด แสดงจนโฮวอนที่นั่งหน้าคอมจะสุ้งและมองร่างสูงที่เดินตรงเข้ามานั่งข้างๆ
“ใครไปกัดหางนายอ่ะ” เสียงเหน่อเอ่ยถามทันทีเมื่อเพื่อนตรงหน้าของเขาวางกระเป๋ากล้องไว้บนโต๊ะ แอลถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะส่ายหัวเบา
“ไม่มีอะไร”
“หลอกคนอื่นได้แต่หลอกหนุ่มปูซานไม่ได้นะแอล”
“บอกมา..” กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของโฮวอนขึ้นมาทันที ตาคมเหลือบมองเพื่อนตัวเองก่อนจะพยักหน้ายอมบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“จริงหรอวะ..”
“เออ” จบคำถามของโฮวอนแอลก็ตอบขึ้นทันที โฮวอนหลุดขำอย่างดังจนพนักงานที่กำลังจัดฉาก จัดเสื้อผ้านับสิบหันมามองกันหมด แอลต่อยที่แขนโฮวอนเบาๆก่อนคนที่กำลังขำจะค่อยๆเงียบลง
“คิดมากไปเองเปล่า เขาอาจจะไม่ได้ทำ”
“ไม่คิดมากหรอก เขาไม่ชอบฉันเขาทำอยู่แล้ว”
“เขาแกล้งเพราะเขาชอบนายปะ” สิ้นสุดประโยคของโฮวอนแอลที่กำลังหัวเสียกับชะงักทันที ชอบหรอ เป็นไปได้หรอ แค่ได้ยินประโยคของโฮวอนใจเขาเชื่อมากๆไปแล้ว 70% อีก 30% คือเชื่อนิดๆ สรุปแล้วเขาก็เชื่อคำพูดที่ชวนเขาหลงตัวเอง 100% นั่นแหละ
“เออ พอเลย” แอลรีบสลัดความคิดบ้าๆนี้ทิ้งก่อนจะเตือนสติเพื่อนร่างสูงรีบลุกขึ้นยกกล้องออกจากกระเป๋าไปวางไว้ที่ขาตั้งกล้อง เขาเช็คกล้องเรียบร้อยก่อนขายาวจะก้าวมานั่งข้างๆเพื่อนที่กำลังนั่งมองเขาอย่างยิ้มๆ
“วันนี้ถ่ายใคร”
“ซองยอล”
“อีกละ”
“ถ้าวันนี้ต่อยกันฉันไม่ช่วยนะโว้ย” โฮวอนชี้หน้าแอลก่อนหนุ่มตากล้องจะหัวเราะออกมา เขาส่ายหัวก่อนจะมองคนที่เดินเข้ามาในสตูดิโอ
“นั่นใคร” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนโฮวอนจะรีบหันไปมองตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างงงๆทั้งคู่หันไปมองพร้อมกันอีกครั้ง หุ่นที่ดูสมส่วนแต่ก็ตัวเตี้ยๆประมาณโฮวอนเดินตรงเข้ามาหาเขาทั้งสองก่อนจะก้มหัวให้นิดๆ
“ผมเป็นเด็กใหม่ครับ ฝากตัวด้วย” เสียงที่ดูสดใสดังขึ้นก่อนจะยิ้มโชว์ฟันทั้ง 32 ซี่ ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้เหมือนกัน
“ผมแอลนะครับ ส่วนนี่โฮวอนครับ”
“ครับผมโฮวอนเอง” พูดจบโฮวอนก็รีบพูดต่อ เด็กใหม่ที่ยืนมองทั้งคู่หัวเราะออกมาก่อนจะโค้งให้อีกครั้ง เขาดูสุภาพและเรียบร้อยดูจากหน้าตาก็คงจะเป็นคนตลกเช่นกัน
“ผมดงอูครับ จางดงอู!” เขาแนะนำตัวทันทีพออีกทั้งสองแนะนำตัวก่อน โฮวอนรีบลุกขึ้นไปยกเก้าอี้มาตั้งไว้ข้างๆอีกตัวก่อนจะชวนเด็กใหม่ที่ยืนอยู่มานั่งด้วยกัน
“นายไปแนะนำตัวกับพี่ๆหรือยังอ่ะ” โฮวอนรีบถามก่อนจะส่งยิ้มให้ ดงอูที่กำลังนั่งลงบนเก้าอี้หัวเราะและพยักหน้าแทนคำตอบ แอลที่นั่งมองเงียบๆก็ยิ้มตามเช่นกัน
“ผมเริ่มทำงานตั้งแต่เมื่อวาน” ดงอูพูดขึ้นก่อนแอลจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เมื่อวานมันวันหยุดนะ”
“ผมมาดูห้องนี้แล้วก็แนะนำตัวอะไรเรียบร้อยแล้วล่ะ คือเมื่อวานก็มีคนมาน้า..”
“ผมมาทำหน้าที่ดูเสื้อผ้าอะไรแบบนี้น่ะ” ดงอูตอบมาอย่างยาวแต่ก็ทำให้ทั้งแอลและโฮวอนเข้าใจสิ่งกำลังสงสัย ดงอูเป็นคนที่ชอบพูดไปหัวเราะไป บุคลิกของเขาดูอารมณ์ดีแต่บางทีก็ฟังไม่รู้เรื่องซะอย่างนั้น
“ซองยอลมาแล้ว เตรียมตัวเลย” เสียงของพนักงานสาวดังขึ้นหลังจากที่เขาเปิดประตูเข้ามา ทุกคนที่ได้พักไม่ถึงสิบนาทีรีบลุกขึ้นไปประจำที่ของตัวเองทันที ดงอูก็เช่นกัน ทั้งสามพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ไม่ต่อยกันนะ” โฮวอนพูดเตือนเพื่อนที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินชื่อของนายแบบหนุ่ม แอลหันมองหน้าเพื่อนก่อนจะพยักหน้า
“ไม่ต่อยก็คงต้องเอามีดไปแทงกันถ้าเขายังดูถูกฝีมือฉันอยู่”
เมเนเจอร์สาวของซองยอลเปิดประตูขึ้นอีกครั้งก่อนหนุ่มนายแบบร่างสูงจะเดินเข้ามาโค้งตัวให้เหล่านูนาที่กำลังจัดงาน เสียงสาวๆตะโกนเรียกซองยอลไปมาจนเสียงดัง ดังซะจนแอลอยากจะหยิบหูฟังมายัดหูเปิดเพลงดังๆไปเลย
สายตาหนุ่มนายแบบเหลือบมองหนุ่มตากล้องที่กำลังเช็คกล้องของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดที่ไหล่เบาๆ แอลหันหน้ามองด้วยหางตานิดๆก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย หนุ่มตากล้องหมุนตัวมามองหนุ่มนายแบบก่อนจะขมวดคิ้วจนติดกัน
“วันนี้นายทำอะไรซองจง”
“ต้องรู้ไปซะทุกเรื่องเลยหรอครับ” แอลสวนกลับอย่างไวจนซองยอลแทบจะยกกำปั้นเข้าไปชกใบหน้าหล่อแรงๆสักครั้ง เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาจากหนุ่มนายแบบก่อนแขนทั้งสองข้างจะยกขึ้นมากอดอกไว้
“ขอเตือนนะ”
“อย่า ยุ่ง กับ ซองจง” ซองยอลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งก่อนสายตาทั้งคู่จะจ้องกันอย่างไม่พอใจ มือหนาของแอลค่อยๆกำแน่นขึ้นก่อนจะกระตุกยิ้มนิดๆ
“คุณเป็นใครหรอครับ”
“ฉัน? ก็นายแบบไงวะ”
“ดีเลยครับ คุณไม่ใช่พ่อผม” หลังจากที่ได้คำตอบจากปากซองยอลคำพูดกวนตีนของแอลออกเอ่ยออกมาทันทีจนซองยอลแทบจะจับหัวไอตากล้องนี่โขกกำแพงเข้าให้
“ทำหน้าที่นายแบบต่อไปเถอะครับ ทำตัวเป็นพ่อผมมันลำบาก”
หมัดของหนุ่มนายแบบยกขึ้นเตรียมชกเข้าไปที่หน้าของแอลจะชะงักขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงใสของหนุ่มเลขาที่ตะโกนบอกพนักงานให้ประจำที่
ใช่แล้ว ซองจงเห็นว่าซองยอลจะทำอะไร เขาแค่ทำหน้าที่เลขาที่ดีไว้ก่อน ความจริงไม่ได้อยากจะปกป้องตากล้องนั่นเลยด้วยซ้ำ เป็นไปได้เขาอยากจะเขกหัวไอตากล้องแรงๆสักสิบทีให้มันสมองเสื่อมไปเลย
“วันนี้นายรอดนะ..” ซองยอลพูดเบาๆก่อนจะคลายกำปั้นเป็นการแบมือเขาตบบ่าแอลเบาๆก่อนจะรีบหันไปหาซองจง ใบหน้าหล่อที่ค่อยๆหันไปมองคุณเลขาที่เมินหน้าหนีหมาทั้งสองตัวที่กำลังกัดอยู่ เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันไปมองหนุ่มปูซานที่มองสถานการณ์ตลอดเวลา โฮวอนยิ้มให้ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นมาแทนคำชม แอลก็ยักคิ้วตามเช่นกัน
“ซองจงอารมณ์ดีแล้วหรอครับ” เสียงทุ้มของหนุ่มนายแบบดังขึ้นเมื่อเขาเดินไปอยู่ตรงหน้าของหนุ่มเลขา ซองจงค่อยๆหันมามองใบหน้าของหนุ่มนายแบบ ซองจงไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นเลยมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ ใบหน้าสวยนิ่ง ไม่ยิ้ม ไม่พูด ดูดุมากจริง
“เมื่อกี้จะทำอะไรแอลหรอครับ” ซองจงเอ่ยปากถามก่อนคิ้วทั้งสองจะขมวดติดกันอย่างไม่พอใจ ซองยอลที่ทำตามลอกแลกคิดคำตอบแทนการพูดความจริงก็หัวเราะออกมาพร้อมส่ายหัวเบาๆ
“แค่คุยกันเฉยๆ”
“น่าจะคุยกันจริงๆ จ้องหน้าเหมือนหมาจะกัดกันขนาดนั้น ใช่ไหมล่ะครับ?” น้ำเสียงนิ่งๆที่ทำเอาซองยอลสะดุ้งนิดๆ ซองยอลยักไหล่เบาๆก่อนจะรีบเดินเข้าไปแต่งตัว นายแบบที่ทำตัวเป็นนักเลง ทำตัวเป็นหมาหวงของเล่น ซองจงเกลียดมากเลยจริงๆ
♡
การถ่ายแบบราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดี ดีเพราะมีคนอย่างเลขาอี ซองจงมาคุมนี่แหละ ถ้าซองจงมาไม่ทันเวลาคงมีเรื่องใหญ่โต ซองยอลคงเสียชื่อเสียงที่ไปต่อยเขาก่อน ส่วนแอลก็คงโดนพักงานหรือไม่ก็โดนไล่ออกไปเลย
“ถ่ายยังไงให้รูปนี้ผมดูไม่มีจุดสนใจ” ซองยอลติเรื่องการถ่ายรูปของตากล้องแอลอีกครั้งก่อนจะคมจะเหลือบมองซองยอลอย่างไม่พอ ซองจงที่กอดอกยืนมองอยู่ข้างหลังทั้งสองกำลังมองปฏิกิริยาของแอลว่าจะทำอะไรต่อไป
“ขอโทษด้วยครับ” เหมือนแอลจะรู้ว่ามีคนจ้องมองเขาทั้งสองตลอดเวลา แอลเลี่ยงที่ใช้คำพูดดูหาเรื่อง เขาใช้แค่คำว่าขอโทษเข้าต่อสู้กับไอหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลจนทำเอาซองยอลเหวอไปชั่วขณะ ซองจงที่กำลังมองก็ค่อยๆยิ้มมุมปากเล็กเหมือนพึงพอใจที่แอลพูดคำนี้ออกมา
“ผมว่าองค์ประกอบรูปนี้มันก็สวยนะครับพี่ซองยอล”
“…”
“ตาบอดหรือไง คนเก่าก็ถ่ายแนวแบบนี้เหมือนกัน” เหมือนซองจงจะอ่านใจแอลออก เสียงใสพูดขึ้นเหมือนจะแซวแต่ก็ซ้อนคำด่าออกไป ทำเอาพนักงานที่อยู่ในห้องและได้ยินหัวเราะไปตามๆกัน
แอลก็เช่นกัน..
ใบหน้าหล่อยิ้มจนตาแทบปิดก่อนจะหันหน้าไปมองคุณเลขาที่กำลังมองเขาอยู่ข้างหลัง แอลค่อยๆหุบยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าสวยไม่ยิ้มตามไปกับเขา หน้าสวยที่นิ่งไม่ยิ้มไม่ขมวดคิ้วมันก็ดูสวยแต่ก็แฝงความดุไปในตัวเช่นกัน
“ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะครับ” เสียงของหนุ่มนายแบบดังขึ้นก่อนพนักงานที่ทำหน้าที่ทุกคนจะปรบมือพร้อมกัน ซองยอลยิ้มนิดๆอย่างมีเสน่ห์ก่อนเมเนเจอร์จะเตรียมของให้พ่อหนุ่มนายแบบ
ซองยอลหันไปมองซองจงก่อนจะยิ้มโชว์ฟันขาว แอลที่กำลังเก็บกล้องใส่กระเป๋าเตรียมพักเที่ยงแอบมองการกระทำของซองยอลด้วยหางตา ทำเหมือนไม่สนใจแต่ลึกๆก็สนใจเอามากๆ
“พักเที่ยงแล้ว ยังไงซองจงไปทานอะไรกับพี่ไหมครับ” ซองยอลรีบพูดเข้าเรื่องก่อนจะยิ้มให้อยู่อย่างนั้น ซองจงที่ยังคงกอดอกมองอยู่ทำหน้าคิดก่อนจะพยักหน้าเบาๆ การพยักหน้าที่ไม่มีคำพูดออกมาทำแอลแทบใจเต้นไปถึงตาตุ่ม
ปฏิเสธสิ..
ไม่ไป..
พูด..
“ไม่ครับ ผมอยากทำอะไรเงียบๆคนเดียว” ถึงแม้การพยักหน้าของซองจงจะดูเหมือนตอบตกลงว่าไป ซองยอลที่กำลังยิ้มอย่างดีใจกลับค่อยๆหุบยิ้มลงเสียอย่างนั้น แต่คนที่ทำเป็นไม่สนใจนี่สิ ในใจแทบจะตีลังกาสิบตลบตะโกนดังๆอยู่แล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ผมมีรถ เชิญไปกับพี่เมเนเจอร์ดีกว่านะครับ” พูดจบซองจงรีบหมุนตัวหันหลังใส่หนุ่มนายแบบขาเรียวก้าวเดินออกจากห้องสตูดิโอเร็วๆ ทำเอาหนุ่มนายแบบที่โดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีเหวอไปสักครู่
“โฮวอนนายเคยเห็นนกปะ” หลังจากที่ซองจงออกไปแน่นอนต่อมกวนบาทาของแอลก็กระตุ้นขึ้นมาทันทีเขาเอ่ยเสียงดังถามเพื่อนที่นัดกันไว้ ใช่แล้วซองยอลได้ยินหนุ่มนายแบบหันไปมองตากล้องที่สะพายกระเป๋ากล้องไว้ข้างกายก่อนโฮวอนจะหัวเราะ
“เห็นเมื่อกี้เลย”
“ไอ้..” ซองยอลพูดเสียงดังก่อนจะรีบเดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย มนุษย์กวนบาทาสองคนที่มองหนุ่มนายแบบเดินออกไปหลุดขำออกมาทันที หัวเราะเสียงดังซะเหล่าสาวๆหันไปมองกันอย่างแปลกใจ ทั้งสองโดนหลายสายตามองมาก่อนจะค่อยๆหยุดหัวเราะแล้วรีบโค้งให้ทันที
“ไปยังเนี่ย” แอลรีบเอ่ยถามก่อนโฮวอนจะมองหน้าเพื่อนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย โฮวอนถอนหายใจเขาเอนตัวพิงเบาะก่อนจะส่ายหัว
“NO NO NO”
“Why?” แอลถามต่อด้วยภาษาอังกฤษ เขารู้ว่าโฮวอนไปต่อไม่ถูกแล้วก็ต้องยอมพูดภาษาที่ตัวเองพูดได้ออกมา โฮวอนถอนหายใจอีกครั้งเสียดายที่เพื่อนตากล้องรู้ทัน
“จะไปกินกับสาวๆ ผมนี้ขอทิ้งนายแบบที่นายทิ้งฉันหน้าหมู่บ้านบ้าง” โฮวอนพูดจบแอลก็ทำเสียงโห่แซวเพื่อนหนุ่มปูซานที่แปปๆก็มีสาวๆไว้คุยแล้ว
“อืม ไม่เสียใจ” พูดจบแอลที่สะพายกระเป๋าเช็คทุกอย่างเสร็จสรรพโบกมือก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องทันที ทำเอาเพื่อนที่กำลังอวดสาวอยู่หยกๆเกาหัวอย่างงงๆ แน่นอนที่แอลรีบออกมาแบบนี้เพราะกลัวไม่ทันคุณเลขาซองจงต่างหาก
ขาเรียวรีบก้าวไปอย่างเร็วๆ มือบางที่ถือกุญแจรถของตัวเองปล่อยกุญแจก่อนจะควงไปมา มือบางค่อยๆเปิดประตูรถก้มตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนจะปิดประตูทันที มือบางหันไปจับเข็มขัดนิรภัยมาติดไว้อีกฝั่ง เลขาหน้าสวยที่กำลังวุ่นอยู่กับรถของตัวเองกลับชะงักทันทีเมื่อหางตาของเขาเห็นคนที่กำลังเปิดประตูอีกฝั่งของคนขับ
หนุ่มร่างสูงรีบเข้ามานั่งข้างๆคุณเลขาก่อนจะปิดประตูรถเขาหันมามองซองจงก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เลขาหน้าสวยพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบหันไปถลึงตาใส่คนที่กำลังยิ้มให้เขา
“ปะ กินข้าว” ใช่แล้วหนุ่มตากล้องกวนประสาทคนเดิมกลับมาแล้ว จากเมื่อเช้าที่ตึงใส่ซองจงไปเขากลับลืมตัวเองตอนนั้นกลับมาเป็นแอลที่ชอบสะกิดเท้าซองจงขึ้นมานี่แหละ
“ขึ้นมาทำไม ลงไป!” ซองจงพูดเสียงดังลั่นทั่วข้างในรถก่อนแอลจะยกนิ้วทั้งสองข้างขึ้นมาอุดหูไว้ ท่าทางที่กวนประสาททำเอาสะกิดมือบางตบไปที่หัวของแอลอย่างแรง แรงจนจากมือที่อุดหูยกมากุมหัวตัวเองซะอย่างนั้น
“โอ้ย!”
แอลร้องออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะลูบหัวตัวเองเบาๆ ซองจงที่ยกมือขึ้นตบหัวหนุ่มตากล้องไปก็กลับมากอดอกไว้เหมือนเดิม เขาขมวดคิ้วไม่พอใจใส่อีกครั้งจนแอลหัวเราะออกมา
“หัวเราะอะไร”
“เดี๋ยวนี้หัวรุนแรง” แอลพูดแซวนิดๆก่อนซองจงจะง้างมืออีกครั้ง มือหนารีบยกขึ้นมากุมหัวตัวเองไว้ก่อนจะเหลือบมองหนุ่มเลขาที่กำลังดุเขา ซองจงถอนหายใจอีกครั้งใบหน้าสวยส่ายเบาๆเขาหันไปสตาร์ทรถอีกครั้งก่อนแอลจะค่อยๆเลื่อนมือออกจากหัวตัวเอง
“พี่ต้องให้ผมไปด้วยสิครับ วันนี้พี่ก็ต้องพาผมกลับคอนโดด้วย”
“กลับเองดิ”
“อยากให้กลับเองแล้วปล่อยลมยางผมทำไมล่ะครับ”
“ก็บอกว่าไม่ได้ทำ!” มือบางที่จับพวงมาลัยไว้อีกครั้งกลับยกขึ้นมาง้างมืออีกครั้ง อยากจะตบไอตากล้องนี่แรงๆให้สมองเสื่อมไปเลย แต่มือหนาก็รีบจับข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนจะค่อยๆกดข้อมือเล็กลงไปวางไว้กับพวงมาลัยเหมือนเดิม
“ยอมๆ” แอลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะยิ้มใส่เลขาอีกครั้ง ซองจงทำตาขวางใส่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ รถเก๋งสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากโรงจอดรถ แขนแกร่งยกขึ้นไปกอดอกก่อนจะจ้องหน้าใบหน้าสวยที่มองไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ
ริมฝีปากหยักค่อยๆยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นการตั้งใจขับรถของซองจง ตาคมจ้องจนตาไม่กระพริบ จ้องจนมือบางอีกครั้งยกขึ้นมาดันใบหน้าหล่อให้หันกลับไป แอลหัวเราะเบาๆก่อนหันไปตามที่มือบางดันใบหน้าของเขาไปนั่นแหละ
มือนุ่มจัง..
“เอาจริงๆนะ พี่ได้ทำอะไรกับรถผมปะ”
“ตอบตามความจริงนะครับ” แอลเริ่มเข้าเรื่องที่เขาคาใจอีกครั้ง ใบหน้าสวยจากที่มองทางอยู่นั้นค่อยๆหันมามองหนุ่มตากล้อง ซองจงส่ายหัวแทนคำตอบ
“พูดซิ ผมอยากได้ยินเสียงที่จริงใจของพี่นะครับ” แอลพูดอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ทำ” ซองจงจ้องหน้าแอลครู่นึงก่อนใบหน้าสวยจะรีบหันไปมองทางเหมือนเดิม แอลยิ้มอีกรอบพร้อมพยักหน้าตาม ใบหน้าที่จริงจังของซองจงทำให้เขาเชื่อขึ้นมาอีก 70% จากที่แทบจะไม่เชื่อคนที่เอ่ยปากบอกว่าไม่ชอบเขาเกลียดเขากลับเชื่อซะง่ายๆ
บางทีเขาอาจจะไม่ได้ทำจริงๆนะแอล..
รถที่เคลื่อนตัวอย่างพอประมาณเริ่มเร็วขึ้นจนแอลรู้สึกได้ การขับรถที่ชวนแอลปวดหัวมือหนาจับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น แน่นจนมือแทบสั่น ใช่แล้วเขารู้สึกว่าการใช้รถของซองจงมาอันตรายมากๆ นี่ถ้ายังขับเร็วแบบนี้ซองจงจะมีอายุถึงห้าสิบไหมยังไม่รู้เลย
หันไปมองเจ้าของรถเก๋งสีดำก็ดูจะมุ่งมั่นกับการขับรถเฉียดตายแบบนี้ ทั้งๆที่แอร์รถก็เย็นช่ำแต่เหงื่อก็ดันผุดทั่วใบหน้าหล่อ นี่ซองจงเป็นนักซิ่งเก่าหรือไง หรือเขากำลังจะแกล้งคนอย่างแอล
“พี่ครับ ขับช้าๆกว่านี้ได้ไหม” หมดความอดทนแล้วจริงๆ แอลรีบเอ่ยปากขอซองจงก่อนร่างบางจะเหลือบมองตากล้องที่ดูเหมือนจะตัวสั่นนิดๆ ริมฝีปากสวยยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยอมทำตามที่แอลขอ หนุ่มตากล้องรู้ว่าซองจงยอมทำตามที่เขาบอกแล้ว มือหนารีบยกขึ้นไปทาบอกตัวเอง หัวใจที่เต้นแรงอย่างกลัวตายก็ค่อยๆเบาลง
“พี่ครับ”
“ว่า”
“..พี่ชอบคุณซองยอลหรือเปล่าครับ”
ϟ
อ่านแล้วเมนท์กันด้วยนะครับ ทุกคนน่าจะรู้ใช่เปล่าว่าไรท์เตอร์ต้องการกำลังใจ ยังไงให้กำลังใจกันด้วยนะครับ!
ps. พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
#สตูดิโอแอลจง ♥♥♥
ความคิดเห็น