ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #6 : ϟ C H A P T E R 5 ϟ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 59





     
    ϟ 0 5 ϟ
    -

     

                08.30 AM

     

    ขายาวรีบวิ่งเข้าบริษัทเหงื่อที่ชุ่มหลังมือหนาปาดเหงื่อตามหน้าผาก ตอนนี้เข้างานสายไปเป็นครึ่งชั่วโมงพนักงานที่อยู่ชั้นแรกมองเขาก่อนจะหลุดขำออกกันมาเล็ก ร่างสูงที่โค้งให้รุ่นพี่พนักงานก่อนเขาจะหมุนตัวมองรอบๆ

                เขากำลังมองหาคุณเลขาตัวดีที่ทำให้เขาเข้างานสายนี่แหละ อุส่าห์ทำตัวดีแล้วแท้ๆ ซื้อของไปให้ เลี้ยงข้าวอีกต่างหาก เขาโดนตอบแทนโดนการปล่อยลมยางรถเสียอย่างนั้น

     

                นิสัยไม่ดีเลย..

     

                มาช้าไปสามสิบสองนาที ร่างบางเดินมาตรงหน้าเขายกมือขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้าบอกคนที่กำลังยืนเหนื่อยหอบ แอลพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะส่ายหัวเอือมๆ

     

                พี่นั่นแหละทำผมมาช้า

     

                อะไร?

     

                รถผมยางแบน..

                พี่ทำใช่ปะ แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนซองจงจะขมวดคิ้วตามเช่นกัน เขามองหน้าแอลอย่างไม่เข้าใจว่าคนที่กำลังโทษเขาสื่อถึงอะไร นิ้วเรียวยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ตัวเอง

     

                ฉัน?ซองจงถามย้ำอีกครั้งก่อนแอลจะพยักหน้า สีหน้าซองจงที่ไม่เข้าใจกลับทำให้แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องไม่ทำให้แอลหลงกลได้ง่ายหรอก

     

                ทำเป็นไม่รู้อีกหรอ ก็พี่นั่นแหละ แอลพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ ซองจงที่โดนคนตรงหน้าดุใส่เป็ครั้งแรกกลับปลุกความโมโหออกมาทันที ซองจงรีบหันหลังใส่หนุ่มตากล้องก่อนจะรีบเดินไปไกลๆจากคนที่หูแดงหน้าแดงแบบนั้น ซองจงไม่อยากคุยกับคนที่มาเหวี่ยงใส่เขาแบบนี้หรอกนะ

     

                พี่เกลียดผมจนต้องทำแบบนี้เลยหรอ

                ขายาวรีบเร่งฝีเท้าตามเลขาที่กำลังเดินหนีเขาออกไป มือหนาอีกข้างรีบจับข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนคนที่เดินหนีเขาจะหันหลังมาอย่างไม่พอใจอีกครั้ง

     

                เฮ้ย! ฉันไม่ได้ทำเข้าใจปะ

                ไม่เข้าใจ

     

                “..เรื่องของนาย ซองจงรีบสะบัดข้อมือออกจากมือหนาก่อนจะหันหลังเดินต่อไป ซองจงรู้สึกเริ่มไม่โอเคกับแอลอีกครั้ง ซองจงอายุ 25 นะไม่ใช่ 15 อายุครึ่ง 50 คงไม่ทำอะไรไร้สาระเหมือนเด็กแบบนั้นหรอกนะ

                ตั้งแต่แอลเข้ามาในชีวิตนี่ไม่มีสิ่งดีๆเลยจริงๆ..

     

                น้องซองจงครับ เสียงของคนข้างหลังเรียกเลขาซองจง ใบหน้าสวยจากที่ไม่พอใจอยู่แล้วกลับไม่พอใจมากกว่าเดิมคิ้วขมวดติดกันอย่างไม่พอใจเขาค่อยๆหันไปมองคนที่เรียกชื่อเขา ซองจงพ่นผมหลายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนแขนทั้งสองข้างจะยกขึ้นมากอดอกไว้

     

                ว่า คนที่ทำให้ซองจงไม่พอใจอีกตอนนี้ก็มีแต่ซองยอลนั่นแหละที่เรียกเขาน้องซองจงครับน้องซองจงขาอะไรนั่น หนุ่มนายแบบหุ่นดีรีบเดินเข้าหาร่างบางก่อนจะหันไปมองรอบๆซองยอลยิ้มโชว์เหงือกและฟันที่เรียงสวยออกมา

     

                เพิ่งมาหรอครับ

                ทำไมเมื่อวานไม่รับสายพี่

                เมื่อวานพี่ว่าจะชวนเราออกมาหาอะไรทานสักหน่อย

     

                หนุ่มนายแบบที่รัวคำถามรัวคำพูดออกมาโดยไม่ทันที่ซองจงจะได้ตอบ ร่างบางส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆถอยหลังออกห่างหนุ่มนายแบบ

     

                พี่เป็นใครหรอครับ ทำไมผมถึงต้องรับสายพี่

                ถ้าโทรมาด้วยเรื่องไร้สาระผมคงไม่อยากรับ เสียงที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์เลขาคนนี้ไม่เคยอารมณ์เสียอะไรขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่โดนแอลเหวี่ยงซองจงกลับกลายเป็นคนอารมณ์ร้อนซะจนซองยอลแทบจะตกใจกับคำพูดที่ดูไม่ใส่ใจและน้ำเสียงที่ดุดันกว่าเดิม

     

                อารมณ์เสียอะไรมาครับ..

                หมอนั่นหรอ ที่คุยกับซองจงเมื่อกี้ ซองยอลที่เห็นแอลและซองจงคุยกันมาสักรีบเอ่ยถามทันทีก่อนใบหน้าสวยจะบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ

                เขาเริ่มปวดหัวขึ้นทันทีเมื่อเจอคนน่ารำคาญทั้งสองคนในเวลาไร่เรี่ยกัน ซองจงคิดว่าวันนี้จะได้ทำงานดีๆแล้วแท้ๆแต่ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย วันซวยของอีซองจงหรือไง

     

                ขอตัวทำงานครับ พี่มีถ่ายแบบใช่ไหมครับ

                เชิญ ซองจงยกมือชี้ไปทางลิฟต์ก่อนซองยอลจะพยักหน้าเข้าใจ มือหนาค่อยๆเอื้อมไปจับข้อมือเล็กไว้มืออีกข้างก็ยกขึ้นมากุมมือบางอีกที ซองจงขมวดคิ้วและก้มลงมองมือของตัวเองที่นายแบบนหนุ่มกำลังจับเอาไว้

     

                ไอหมอนั่นทำให้ซองจงไม่พอใจใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้ทำหน้าที่ปกป้องคนที่ชอบก่อนข้อมือเล็กจะรีบสบัดออกอีกครั้ง ซองจงมองด้วยสีหน้าที่ไม่พึงพอใจ

     

                อย่าทำให้ผมปวดหัวไปมากกว่านี้ เข้าใจนะครับ พูดตัดบทสนทนาทันทีก่อนขาเรียวจะรีบเร่งฝีเท้าไปอีกทาง วันนี้เป็นวันซวยของซองจงจริงๆด้วยถ้าสองคนนี้มีเรื่องกันอีกหัวซองจงคงระเบิดตู้มมันตรงนั้นไปแล้ว

     

                ขายาวรีบก้าวไปอย่างเร็วๆ มือหนาเปิดประตูเข้าห้องถ่ายภาพอย่างแรงวันนี้เขาดูอารมณ์เสียเช่นกัน อารมณ์เสียจนแสดงออกมาอย่างได้ชัด แสดงจนโฮวอนที่นั่งหน้าคอมจะสุ้งและมองร่างสูงที่เดินตรงเข้ามานั่งข้างๆ

     

                ใครไปกัดหางนายอ่ะ เสียงเหน่อเอ่ยถามทันทีเมื่อเพื่อนตรงหน้าของเขาวางกระเป๋ากล้องไว้บนโต๊ะ แอลถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะส่ายหัวเบา

     

                ไม่มีอะไร

                หลอกคนอื่นได้แต่หลอกหนุ่มปูซานไม่ได้นะแอล

                บอกมา..” กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของโฮวอนขึ้นมาทันที ตาคมเหลือบมองเพื่อนตัวเองก่อนจะพยักหน้ายอมบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้น

     

                จริงหรอวะ..

                เออ จบคำถามของโฮวอนแอลก็ตอบขึ้นทันที โฮวอนหลุดขำอย่างดังจนพนักงานที่กำลังจัดฉาก จัดเสื้อผ้านับสิบหันมามองกันหมด แอลต่อยที่แขนโฮวอนเบาๆก่อนคนที่กำลังขำจะค่อยๆเงียบลง

     

                คิดมากไปเองเปล่า เขาอาจจะไม่ได้ทำ

                ไม่คิดมากหรอก เขาไม่ชอบฉันเขาทำอยู่แล้ว

                เขาแกล้งเพราะเขาชอบนายปะสิ้นสุดประโยคของโฮวอนแอลที่กำลังหัวเสียกับชะงักทันที ชอบหรอ เป็นไปได้หรอ แค่ได้ยินประโยคของโฮวอนใจเขาเชื่อมากๆไปแล้ว 70% อีก 30% คือเชื่อนิดๆ สรุปแล้วเขาก็เชื่อคำพูดที่ชวนเขาหลงตัวเอง 100% นั่นแหละ

     

                เออ พอเลย แอลรีบสลัดความคิดบ้าๆนี้ทิ้งก่อนจะเตือนสติเพื่อนร่างสูงรีบลุกขึ้นยกกล้องออกจากกระเป๋าไปวางไว้ที่ขาตั้งกล้อง เขาเช็คกล้องเรียบร้อยก่อนขายาวจะก้าวมานั่งข้างๆเพื่อนที่กำลังนั่งมองเขาอย่างยิ้มๆ

     

                วันนี้ถ่ายใคร

                ซองยอล

                อีกละ

                ถ้าวันนี้ต่อยกันฉันไม่ช่วยนะโว้ย โฮวอนชี้หน้าแอลก่อนหนุ่มตากล้องจะหัวเราะออกมา เขาส่ายหัวก่อนจะมองคนที่เดินเข้ามาในสตูดิโอ

     

                นั่นใคร เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนโฮวอนจะรีบหันไปมองตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างงงๆทั้งคู่หันไปมองพร้อมกันอีกครั้ง หุ่นที่ดูสมส่วนแต่ก็ตัวเตี้ยๆประมาณโฮวอนเดินตรงเข้ามาหาเขาทั้งสองก่อนจะก้มหัวให้นิดๆ

     

                ผมเป็นเด็กใหม่ครับ ฝากตัวด้วย เสียงที่ดูสดใสดังขึ้นก่อนจะยิ้มโชว์ฟันทั้ง 32 ซี่ ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้เหมือนกัน

     

                ผมแอลนะครับ ส่วนนี่โฮวอนครับ

                ครับผมโฮวอนเอง พูดจบโฮวอนก็รีบพูดต่อ เด็กใหม่ที่ยืนมองทั้งคู่หัวเราะออกมาก่อนจะโค้งให้อีกครั้ง เขาดูสุภาพและเรียบร้อยดูจากหน้าตาก็คงจะเป็นคนตลกเช่นกัน

     

                ผมดงอูครับ จางดงอู!” เขาแนะนำตัวทันทีพออีกทั้งสองแนะนำตัวก่อน โฮวอนรีบลุกขึ้นไปยกเก้าอี้มาตั้งไว้ข้างๆอีกตัวก่อนจะชวนเด็กใหม่ที่ยืนอยู่มานั่งด้วยกัน

     

                นายไปแนะนำตัวกับพี่ๆหรือยังอ่ะ โฮวอนรีบถามก่อนจะส่งยิ้มให้ ดงอูที่กำลังนั่งลงบนเก้าอี้หัวเราะและพยักหน้าแทนคำตอบ แอลที่นั่งมองเงียบๆก็ยิ้มตามเช่นกัน

     

                ผมเริ่มทำงานตั้งแต่เมื่อวานดงอูพูดขึ้นก่อนแอลจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

                เมื่อวานมันวันหยุดนะ

     

                ผมมาดูห้องนี้แล้วก็แนะนำตัวอะไรเรียบร้อยแล้วล่ะ คือเมื่อวานก็มีคนมาน้า..

                ผมมาทำหน้าที่ดูเสื้อผ้าอะไรแบบนี้น่ะดงอูตอบมาอย่างยาวแต่ก็ทำให้ทั้งแอลและโฮวอนเข้าใจสิ่งกำลังสงสัย ดงอูเป็นคนที่ชอบพูดไปหัวเราะไป บุคลิกของเขาดูอารมณ์ดีแต่บางทีก็ฟังไม่รู้เรื่องซะอย่างนั้น

     

                ซองยอลมาแล้ว เตรียมตัวเลยเสียงของพนักงานสาวดังขึ้นหลังจากที่เขาเปิดประตูเข้ามา ทุกคนที่ได้พักไม่ถึงสิบนาทีรีบลุกขึ้นไปประจำที่ของตัวเองทันที ดงอูก็เช่นกัน ทั้งสามพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

     

                ไม่ต่อยกันนะ โฮวอนพูดเตือนเพื่อนที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินชื่อของนายแบบหนุ่ม แอลหันมองหน้าเพื่อนก่อนจะพยักหน้า

     

                ไม่ต่อยก็คงต้องเอามีดไปแทงกันถ้าเขายังดูถูกฝีมือฉันอยู่

     

                เมเนเจอร์สาวของซองยอลเปิดประตูขึ้นอีกครั้งก่อนหนุ่มนายแบบร่างสูงจะเดินเข้ามาโค้งตัวให้เหล่านูนาที่กำลังจัดงาน เสียงสาวๆตะโกนเรียกซองยอลไปมาจนเสียงดัง ดังซะจนแอลอยากจะหยิบหูฟังมายัดหูเปิดเพลงดังๆไปเลย

                สายตาหนุ่มนายแบบเหลือบมองหนุ่มตากล้องที่กำลังเช็คกล้องของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดที่ไหล่เบาๆ แอลหันหน้ามองด้วยหางตานิดๆก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย หนุ่มตากล้องหมุนตัวมามองหนุ่มนายแบบก่อนจะขมวดคิ้วจนติดกัน

     

                วันนี้นายทำอะไรซองจง

                ต้องรู้ไปซะทุกเรื่องเลยหรอครับ แอลสวนกลับอย่างไวจนซองยอลแทบจะยกกำปั้นเข้าไปชกใบหน้าหล่อแรงๆสักครั้ง เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาจากหนุ่มนายแบบก่อนแขนทั้งสองข้างจะยกขึ้นมากอดอกไว้

     

                ขอเตือนนะ

                อย่า ยุ่ง กับ ซองจงซองยอลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งก่อนสายตาทั้งคู่จะจ้องกันอย่างไม่พอใจ มือหนาของแอลค่อยๆกำแน่นขึ้นก่อนจะกระตุกยิ้มนิดๆ

     

                คุณเป็นใครหรอครับ

                ฉัน? ก็นายแบบไงวะ

                ดีเลยครับ คุณไม่ใช่พ่อผมหลังจากที่ได้คำตอบจากปากซองยอลคำพูดกวนตีนของแอลออกเอ่ยออกมาทันทีจนซองยอลแทบจะจับหัวไอตากล้องนี่โขกกำแพงเข้าให้

     

                ทำหน้าที่นายแบบต่อไปเถอะครับ ทำตัวเป็นพ่อผมมันลำบาก

     

                หมัดของหนุ่มนายแบบยกขึ้นเตรียมชกเข้าไปที่หน้าของแอลจะชะงักขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงใสของหนุ่มเลขาที่ตะโกนบอกพนักงานให้ประจำที่

     

                ใช่แล้ว ซองจงเห็นว่าซองยอลจะทำอะไร เขาแค่ทำหน้าที่เลขาที่ดีไว้ก่อน ความจริงไม่ได้อยากจะปกป้องตากล้องนั่นเลยด้วยซ้ำ เป็นไปได้เขาอยากจะเขกหัวไอตากล้องแรงๆสักสิบทีให้มันสมองเสื่อมไปเลย

     

                วันนี้นายรอดนะ.. ซองยอลพูดเบาๆก่อนจะคลายกำปั้นเป็นการแบมือเขาตบบ่าแอลเบาๆก่อนจะรีบหันไปหาซองจง ใบหน้าหล่อที่ค่อยๆหันไปมองคุณเลขาที่เมินหน้าหนีหมาทั้งสองตัวที่กำลังกัดอยู่ เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันไปมองหนุ่มปูซานที่มองสถานการณ์ตลอดเวลา โฮวอนยิ้มให้ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นมาแทนคำชม แอลก็ยักคิ้วตามเช่นกัน

     

                ซองจงอารมณ์ดีแล้วหรอครับ เสียงทุ้มของหนุ่มนายแบบดังขึ้นเมื่อเขาเดินไปอยู่ตรงหน้าของหนุ่มเลขา ซองจงค่อยๆหันมามองใบหน้าของหนุ่มนายแบบ ซองจงไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นเลยมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ ใบหน้าสวยนิ่ง ไม่ยิ้ม ไม่พูด ดูดุมากจริง

     

                เมื่อกี้จะทำอะไรแอลหรอครับซองจงเอ่ยปากถามก่อนคิ้วทั้งสองจะขมวดติดกันอย่างไม่พอใจ ซองยอลที่ทำตามลอกแลกคิดคำตอบแทนการพูดความจริงก็หัวเราะออกมาพร้อมส่ายหัวเบาๆ

     

                แค่คุยกันเฉยๆ

                น่าจะคุยกันจริงๆ จ้องหน้าเหมือนหมาจะกัดกันขนาดนั้น ใช่ไหมล่ะครับ? น้ำเสียงนิ่งๆที่ทำเอาซองยอลสะดุ้งนิดๆ ซองยอลยักไหล่เบาๆก่อนจะรีบเดินเข้าไปแต่งตัว นายแบบที่ทำตัวเป็นนักเลง ทำตัวเป็นหมาหวงของเล่น ซองจงเกลียดมากเลยจริงๆ

     

     

     

     

     

                การถ่ายแบบราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดี ดีเพราะมีคนอย่างเลขาอี ซองจงมาคุมนี่แหละ ถ้าซองจงมาไม่ทันเวลาคงมีเรื่องใหญ่โต ซองยอลคงเสียชื่อเสียงที่ไปต่อยเขาก่อน ส่วนแอลก็คงโดนพักงานหรือไม่ก็โดนไล่ออกไปเลย

     

                ถ่ายยังไงให้รูปนี้ผมดูไม่มีจุดสนใจ ซองยอลติเรื่องการถ่ายรูปของตากล้องแอลอีกครั้งก่อนจะคมจะเหลือบมองซองยอลอย่างไม่พอ ซองจงที่กอดอกยืนมองอยู่ข้างหลังทั้งสองกำลังมองปฏิกิริยาของแอลว่าจะทำอะไรต่อไป

     

                ขอโทษด้วยครับ เหมือนแอลจะรู้ว่ามีคนจ้องมองเขาทั้งสองตลอดเวลา แอลเลี่ยงที่ใช้คำพูดดูหาเรื่อง เขาใช้แค่คำว่าขอโทษเข้าต่อสู้กับไอหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลจนทำเอาซองยอลเหวอไปชั่วขณะ ซองจงที่กำลังมองก็ค่อยๆยิ้มมุมปากเล็กเหมือนพึงพอใจที่แอลพูดคำนี้ออกมา

     

                ผมว่าองค์ประกอบรูปนี้มันก็สวยนะครับพี่ซองยอล

                “…”

                ตาบอดหรือไง คนเก่าก็ถ่ายแนวแบบนี้เหมือนกัน เหมือนซองจงจะอ่านใจแอลออก เสียงใสพูดขึ้นเหมือนจะแซวแต่ก็ซ้อนคำด่าออกไป ทำเอาพนักงานที่อยู่ในห้องและได้ยินหัวเราะไปตามๆกัน

     

                แอลก็เช่นกัน..

     

                ใบหน้าหล่อยิ้มจนตาแทบปิดก่อนจะหันหน้าไปมองคุณเลขาที่กำลังมองเขาอยู่ข้างหลัง แอลค่อยๆหุบยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าสวยไม่ยิ้มตามไปกับเขา หน้าสวยที่นิ่งไม่ยิ้มไม่ขมวดคิ้วมันก็ดูสวยแต่ก็แฝงความดุไปในตัวเช่นกัน

     

                ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะครับ เสียงของหนุ่มนายแบบดังขึ้นก่อนพนักงานที่ทำหน้าที่ทุกคนจะปรบมือพร้อมกัน ซองยอลยิ้มนิดๆอย่างมีเสน่ห์ก่อนเมเนเจอร์จะเตรียมของให้พ่อหนุ่มนายแบบ

     

                ซองยอลหันไปมองซองจงก่อนจะยิ้มโชว์ฟันขาว แอลที่กำลังเก็บกล้องใส่กระเป๋าเตรียมพักเที่ยงแอบมองการกระทำของซองยอลด้วยหางตา ทำเหมือนไม่สนใจแต่ลึกๆก็สนใจเอามากๆ

     

                พักเที่ยงแล้ว ยังไงซองจงไปทานอะไรกับพี่ไหมครับซองยอลรีบพูดเข้าเรื่องก่อนจะยิ้มให้อยู่อย่างนั้น ซองจงที่ยังคงกอดอกมองอยู่ทำหน้าคิดก่อนจะพยักหน้าเบาๆ การพยักหน้าที่ไม่มีคำพูดออกมาทำแอลแทบใจเต้นไปถึงตาตุ่ม

     

                ปฏิเสธสิ..

              ไม่ไป..

              พูด..

     

                ไม่ครับ ผมอยากทำอะไรเงียบๆคนเดียว ถึงแม้การพยักหน้าของซองจงจะดูเหมือนตอบตกลงว่าไป ซองยอลที่กำลังยิ้มอย่างดีใจกลับค่อยๆหุบยิ้มลงเสียอย่างนั้น แต่คนที่ทำเป็นไม่สนใจนี่สิ ในใจแทบจะตีลังกาสิบตลบตะโกนดังๆอยู่แล้ว

     

                งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง

                ผมมีรถ เชิญไปกับพี่เมเนเจอร์ดีกว่านะครับ พูดจบซองจงรีบหมุนตัวหันหลังใส่หนุ่มนายแบบขาเรียวก้าวเดินออกจากห้องสตูดิโอเร็วๆ ทำเอาหนุ่มนายแบบที่โดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีเหวอไปสักครู่

     

                โฮวอนนายเคยเห็นนกปะหลังจากที่ซองจงออกไปแน่นอนต่อมกวนบาทาของแอลก็กระตุ้นขึ้นมาทันทีเขาเอ่ยเสียงดังถามเพื่อนที่นัดกันไว้ ใช่แล้วซองยอลได้ยินหนุ่มนายแบบหันไปมองตากล้องที่สะพายกระเป๋ากล้องไว้ข้างกายก่อนโฮวอนจะหัวเราะ

     

                เห็นเมื่อกี้เลย

     

                ไอ้.. ซองยอลพูดเสียงดังก่อนจะรีบเดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย มนุษย์กวนบาทาสองคนที่มองหนุ่มนายแบบเดินออกไปหลุดขำออกมาทันที หัวเราะเสียงดังซะเหล่าสาวๆหันไปมองกันอย่างแปลกใจ ทั้งสองโดนหลายสายตามองมาก่อนจะค่อยๆหยุดหัวเราะแล้วรีบโค้งให้ทันที

     

                ไปยังเนี่ย แอลรีบเอ่ยถามก่อนโฮวอนจะมองหน้าเพื่อนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย โฮวอนถอนหายใจเขาเอนตัวพิงเบาะก่อนจะส่ายหัว

     

                “NO NO NO”

                “Why?” แอลถามต่อด้วยภาษาอังกฤษ เขารู้ว่าโฮวอนไปต่อไม่ถูกแล้วก็ต้องยอมพูดภาษาที่ตัวเองพูดได้ออกมา โฮวอนถอนหายใจอีกครั้งเสียดายที่เพื่อนตากล้องรู้ทัน

     

                จะไปกินกับสาวๆ ผมนี้ขอทิ้งนายแบบที่นายทิ้งฉันหน้าหมู่บ้านบ้าง โฮวอนพูดจบแอลก็ทำเสียงโห่แซวเพื่อนหนุ่มปูซานที่แปปๆก็มีสาวๆไว้คุยแล้ว

     

                อืม ไม่เสียใจ พูดจบแอลที่สะพายกระเป๋าเช็คทุกอย่างเสร็จสรรพโบกมือก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องทันที ทำเอาเพื่อนที่กำลังอวดสาวอยู่หยกๆเกาหัวอย่างงงๆ แน่นอนที่แอลรีบออกมาแบบนี้เพราะกลัวไม่ทันคุณเลขาซองจงต่างหาก

     

                ขาเรียวรีบก้าวไปอย่างเร็วๆ มือบางที่ถือกุญแจรถของตัวเองปล่อยกุญแจก่อนจะควงไปมา มือบางค่อยๆเปิดประตูรถก้มตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนจะปิดประตูทันที มือบางหันไปจับเข็มขัดนิรภัยมาติดไว้อีกฝั่ง เลขาหน้าสวยที่กำลังวุ่นอยู่กับรถของตัวเองกลับชะงักทันทีเมื่อหางตาของเขาเห็นคนที่กำลังเปิดประตูอีกฝั่งของคนขับ

                หนุ่มร่างสูงรีบเข้ามานั่งข้างๆคุณเลขาก่อนจะปิดประตูรถเขาหันมามองซองจงก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เลขาหน้าสวยพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบหันไปถลึงตาใส่คนที่กำลังยิ้มให้เขา

     

                ปะ กินข้าวใช่แล้วหนุ่มตากล้องกวนประสาทคนเดิมกลับมาแล้ว จากเมื่อเช้าที่ตึงใส่ซองจงไปเขากลับลืมตัวเองตอนนั้นกลับมาเป็นแอลที่ชอบสะกิดเท้าซองจงขึ้นมานี่แหละ

     

                ขึ้นมาทำไม ลงไป!” ซองจงพูดเสียงดังลั่นทั่วข้างในรถก่อนแอลจะยกนิ้วทั้งสองข้างขึ้นมาอุดหูไว้ ท่าทางที่กวนประสาททำเอาสะกิดมือบางตบไปที่หัวของแอลอย่างแรง แรงจนจากมือที่อุดหูยกมากุมหัวตัวเองซะอย่างนั้น

     

                โอ้ย!”

     

                แอลร้องออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะลูบหัวตัวเองเบาๆ ซองจงที่ยกมือขึ้นตบหัวหนุ่มตากล้องไปก็กลับมากอดอกไว้เหมือนเดิม เขาขมวดคิ้วไม่พอใจใส่อีกครั้งจนแอลหัวเราะออกมา

     

                หัวเราะอะไร

                เดี๋ยวนี้หัวรุนแรง แอลพูดแซวนิดๆก่อนซองจงจะง้างมืออีกครั้ง มือหนารีบยกขึ้นมากุมหัวตัวเองไว้ก่อนจะเหลือบมองหนุ่มเลขาที่กำลังดุเขา ซองจงถอนหายใจอีกครั้งใบหน้าสวยส่ายเบาๆเขาหันไปสตาร์ทรถอีกครั้งก่อนแอลจะค่อยๆเลื่อนมือออกจากหัวตัวเอง

     

                พี่ต้องให้ผมไปด้วยสิครับ วันนี้พี่ก็ต้องพาผมกลับคอนโดด้วย

                กลับเองดิ

                อยากให้กลับเองแล้วปล่อยลมยางผมทำไมล่ะครับ

     

                ก็บอกว่าไม่ได้ทำ!” มือบางที่จับพวงมาลัยไว้อีกครั้งกลับยกขึ้นมาง้างมืออีกครั้ง อยากจะตบไอตากล้องนี่แรงๆให้สมองเสื่อมไปเลย แต่มือหนาก็รีบจับข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนจะค่อยๆกดข้อมือเล็กลงไปวางไว้กับพวงมาลัยเหมือนเดิม

     

                ยอมๆ แอลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะยิ้มใส่เลขาอีกครั้ง ซองจงทำตาขวางใส่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ รถเก๋งสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากโรงจอดรถ แขนแกร่งยกขึ้นไปกอดอกก่อนจะจ้องหน้าใบหน้าสวยที่มองไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ

                ริมฝีปากหยักค่อยๆยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นการตั้งใจขับรถของซองจง ตาคมจ้องจนตาไม่กระพริบ จ้องจนมือบางอีกครั้งยกขึ้นมาดันใบหน้าหล่อให้หันกลับไป แอลหัวเราะเบาๆก่อนหันไปตามที่มือบางดันใบหน้าของเขาไปนั่นแหละ

     

                มือนุ่มจัง..

     

                เอาจริงๆนะ พี่ได้ทำอะไรกับรถผมปะ

                ตอบตามความจริงนะครับ แอลเริ่มเข้าเรื่องที่เขาคาใจอีกครั้ง ใบหน้าสวยจากที่มองทางอยู่นั้นค่อยๆหันมามองหนุ่มตากล้อง ซองจงส่ายหัวแทนคำตอบ

     

                พูดซิ ผมอยากได้ยินเสียงที่จริงใจของพี่นะครับ แอลพูดอีกครั้ง

     

                ฉันไม่ได้ทำ ซองจงจ้องหน้าแอลครู่นึงก่อนใบหน้าสวยจะรีบหันไปมองทางเหมือนเดิม แอลยิ้มอีกรอบพร้อมพยักหน้าตาม ใบหน้าที่จริงจังของซองจงทำให้เขาเชื่อขึ้นมาอีก 70% จากที่แทบจะไม่เชื่อคนที่เอ่ยปากบอกว่าไม่ชอบเขาเกลียดเขากลับเชื่อซะง่ายๆ

     

                บางทีเขาอาจจะไม่ได้ทำจริงๆนะแอล..

     

                รถที่เคลื่อนตัวอย่างพอประมาณเริ่มเร็วขึ้นจนแอลรู้สึกได้ การขับรถที่ชวนแอลปวดหัวมือหนาจับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น แน่นจนมือแทบสั่น ใช่แล้วเขารู้สึกว่าการใช้รถของซองจงมาอันตรายมากๆ นี่ถ้ายังขับเร็วแบบนี้ซองจงจะมีอายุถึงห้าสิบไหมยังไม่รู้เลย

                หันไปมองเจ้าของรถเก๋งสีดำก็ดูจะมุ่งมั่นกับการขับรถเฉียดตายแบบนี้ ทั้งๆที่แอร์รถก็เย็นช่ำแต่เหงื่อก็ดันผุดทั่วใบหน้าหล่อ นี่ซองจงเป็นนักซิ่งเก่าหรือไง หรือเขากำลังจะแกล้งคนอย่างแอล

     

                พี่ครับ ขับช้าๆกว่านี้ได้ไหม หมดความอดทนแล้วจริงๆ แอลรีบเอ่ยปากขอซองจงก่อนร่างบางจะเหลือบมองตากล้องที่ดูเหมือนจะตัวสั่นนิดๆ ริมฝีปากสวยยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยอมทำตามที่แอลขอ หนุ่มตากล้องรู้ว่าซองจงยอมทำตามที่เขาบอกแล้ว มือหนารีบยกขึ้นไปทาบอกตัวเอง หัวใจที่เต้นแรงอย่างกลัวตายก็ค่อยๆเบาลง

     

                พี่ครับ

                ว่า

    ..พี่ชอบคุณซองยอลหรือเปล่าครับ

     


    ϟ


         วู้วๆ อัพรัวๆเลยครับ เพราะว่าว่าง ตอนนี้ยาวหน่อยนะครับตอนแรกว่าจะต่อแต่ว่าเก็บไว้ในแชปที่6 แชปนี้อาจจะไม่มีหวานๆแหววๆมีแต่กัดกันทั้งคุณซองยอลคุณซองจงคุณแงลเลย พรุ่งนี้ถ้าขยันเหมือนเดิมจะอัพยาวๆเลยครับ
         อ่านแล้วเมนท์กันด้วยนะครับ ทุกคนน่าจะรู้ใช่เปล่าว่าไรท์เตอร์ต้องการกำลังใจ ยังไงให้กำลังใจกันด้วยนะครับ!
         ps. พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
         #สตูดิโอแอลจง ♥♥♥
    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×