ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #4 : ϟ C H A P T E R 3 ϟ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 59






    ϟ 0 3 ϟ
    -

                ถ้าพูดถึงเรื่องวงการแฟชั่น Fashion Week เป็นที่ที่ใครก็อยากไปใช่ไหมล่ะครับ..

     

                ผมก็เช่นกัน

     

                คุณคิม แฮรัน ผู้มีชื่อเสียงด้านแฟชั่นก็มาด้วยหรอครับครั้งนี้ เสียงหนุ่มนักข่าวถามขึ้นก่อน เจ้าของชื่อ คิม แฮรัน จะหันไปตามเสียง หญิงสาวอายุวัยเลขสี่ที่แต่ใบหน้ายังคงสภาพเหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่เขาเข้าวงการแฟชั่นใหม่ๆ

     

                ใช่ค่ะ ถึงครั้งที่แล้วฉันจะไม่ได้มา แต่ก็เสียดายมากๆเขากล่าวก่อนหนุ่มร่างบางผิวพรรณดีจะเดินมายืนข้างๆของหญิงสาวคนนั้น

     

                ส่วนครั้งนี้ฉันพาลูกชายคนเดียวของฉันมาด้วยค่ะ..

     

              ผม อี ซองจง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับเสียงใสดังขึ้นก่อนนักข่าวจะยิ้มรับ ทุกคนดูชอบบุคคลิกของซองจงด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง ร่าเริงสดใส ก็ทำให้คนที่มองเขาอยู่เอ็นดูเป็นธรรมดา

     

                ต่างจากตอนที่อยู่บริษัท..

     

                มือของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของซองจงจับข้อมือของลูกก่อนจะพาเดินออกมาจากฝูงนักข่าวตรงนั้น ขาเรียวยาวก้าวตามแม่ของเขาที่เดินนำหน้า ซองจงมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

                ผมอยู่กับแม่ได้ไม่นานอีกแล้ว..

     

              อืม.. แม่เข้าใจน่าแฮรันพูดก่อนจะลูบหัวคนเป็นลูกเบาๆ ซองจงที่อยู่กับแม่จากคนที่ดูเข้มงวดก็กลายเป็นเด็กขึ้อ้อนซะอย่างนั้น ซองจงกอดแม่ของเขาก่อนจะคลายกอดเขายิ้มจนตาแทบจะปิดก่อนจะพาแม่ของเขาไปนั่งประจำที่ ขาเรียวยาวยกขึ้นมานั่งไขว่ห้างก่อนจะหันไปมองรอบๆงาน

     

                มาอีกแล้ว..

     

                ซองจง รอนานไหมครับซองยอลนายแบบร่างสูงเพอร์เฟคแถมสาวๆยังชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก เขาเดินไปนั่งข้างซองจงก่อนจะทักทายแม่ของซองจงด้วย

     

                ผมว่าผมไม่ได้มารอพี่

     

              อ่า.. พี่คิดว่าเรามารอพี่ซะอีก น้ำเสียงของซองยอลหงอยลงก่อนซองจงจะส่ายหัวเบาๆ เขาหันไปมองทางอื่นก่อนจะก้มมองนาฬิกาอีกครั้ง

     

                แม่ครับ อีกสิบนาทีผมต้องไปแล้ว ซองจงหันไปมองแม่ของเขาก่อนจะทำหน้าเสียดายนิดๆ มือเรียวของผู้เป็นแม่ค่อยๆตบบ่าซองจงเบาๆก่อนจะพยักหน้า ซองยอลที่มองอยู่ก็ยิ้มออกมานิดๆ มือหนาของซองยอลเอื้อมไปจับบ่าของซองจงเช่นกันก่อนร่างบางจะค่อยๆหันหน้าไปหาหนุ่มนายแบบซองจงมองมือหนาก่อนจะมองซองยอลสลับกัน

     

                เอาออกไปเลย ซองจงพูดแบบไม่ออกเสียงก่อนจะยักไหล่เบาๆ มือหนาของซองยอลค่อยๆเอาลงจากไหล่ของร่างบางเขายิ้มอย่างเสียดายนิดๆก่อนจะกอดอกมองงานที่กำลังจะเริ่ม

     

                สิบนาทีแล้ว..

     

                งานเริ่มแปปเดียวแต่ซองจงก็ต้องกลับไปทำหน้าที่เลขาตามเดิม ซองจงสะกิดแฮรันก่อนจะกระซิบข้างหูเพื่อบอกว่าเขาจะต้องไปแล้ว แฮรันพยักหน้าก่อนจะลูบหัวของคนเป็นลูกเบาๆ ซองจงรีบลุกก่อนซองยอลจะค่อยๆลุกตาม

     

                อะไร?

     

              เดี๋ยวพี่ไม่ส่ง..

     

              ไม่ต้องหรอกครับ เกรงใจ พูดจบซองจงก็รีบเดินออกจากงานทันทีร่างบางมองนาฬิกาก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม

     

                ซองจง

     

              ซองจงชะหงักก่อนจะค่อยๆหมุนตัวหันไปมองคนที่กำลังจะทำให้เขาเข้างานช้าก็คนขี้ตื้ออย่าง ซองยอล นั่นแหละที่ไม่ยอมฟังซองจงตั้งแต่ในงาน

     

                ผมบอกว่าไม่ต้องตามมาไง ซองจงพูดอย่างหงุดหงิด

     

                พี่ตามตื้อเรามาสองปีแล้วนะซองจง..”

     

              ไม่คิดจะใจอ่อนหน่อยหรอครับ

     

              ซองยอลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนขี้หงุดหงิดอย่างซองจงใจเย็นขึ้นเลย เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

     

                พี่ควรเลิกตื้อผมตั้งแต่เดือนแรกแล้วครับ.. ไม่ใช่สิ

     

              “..”

     

              ตั้งแต่วันแรกเลยด้วยซ้ำคำพูดแทงใจซองยอลเข้าอีกแล้ว เขาโดนปฏิเสธไปเป็นร้อยๆครั้งแต่ก็ไม่หยุดที่จะชนะใจซองจงเลย ร่างบางพูดจบก็รีบหมุนตัวกลับไปก่อนจะขึ้นรถเก๋งสีดำของเจ้าตัว

     

                น่าเบื่อจริงๆ..

     

                พี่ว่าพี่ชอบซองจงนะครับ

              เอาตรงๆนะครับพี่ซองยอล ผมไม่คิดที่จะเดทกับใคร

              แต่..

              ผมอยากทำงานครับ

     

              ซองจงไม่เคยมีรักแรกและเขาก็บอกกับตัวเองตลอดเวลาว่าจะไม่มีความรักกับใครสิ้น จนกว่ามันจะถึงเวลานั้นจริงๆ เขาอยากทุ่มเทกับงานตอนนี้มากกว่าไม่ได้คิดอยากจะเดทกับใครทั้งนั้น แค่พูดออกมาว่าชอบซองจงก็ปฏิเสธไปตั้งแต่วินาทีแรกเลยนั่นแหละ

     

                ซองจงอยู่ได้โดยไม่ต้องมีใครมาดูแลเขาเลยสักนิด

     

                รถเก๋งสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากงานแฟชั่นวีค ซองจงรีบเหยียบคันเร่งไปบริษัทให้ทันเวลารถที่ขับตามถนนไม่เป็นอุปสรรคกับซองจงเลยแม้แต่น้อย เจ๋งกว่านักซิ่งก็ซองจงนี่แหละ

                รถเก๋งสีดำที่ขับเร็วกลางถนนซิกแซกไปมาจนทำให้คนที่ขับรถคันอื่นแทบจะเปิดกระจกออกมาด่า ซองจงไม่สนใจเลยสักนิดเขาชินอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ถ้ามัวแต่ขับอืดอาดเมื่อไหร่จะถึงที่ทำงานล่ะ น่าจะรู้ว่าซองจงตรงเวลาและเข้มงวดเรื่องเวลาแค่ไหน จากที่ดุไอหนุ่มตากล้องกับเพื่อนของเขาไปวันนั้นน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

     

                รถเก๋งสีดำเคลื่อนตัวมาจอดที่ประจำของพนักงานชั้นสูงก็พวกประธานหรือเลขาอะไรนั่นล่ะ ซองจงดับเครื่องยนต์ก่อนมือเรียวบางจะถือกระเป๋าและรีบออกมาจากรถของตัวเอง

     

                ตรงเวลาพอดีเป๊ะ

     

                เขามองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ ร่างบางรีบเร่งฝีเท้าเข้าบริษัทก่อนพนักงานทั้งหลายจะโค้งให้เขา ซองจงพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินไปหน้าลิฟต์ ร่างบางมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้งก่อนจะยืนรอลิฟต์ที่กำลังจะเปิดภายในไม่กี่วินาที

     

                ..ติ๊ง

     

                วันนี้เข้าบริษัทด้วยหรอครับ

     

              ซองจงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองคนในลิฟต์ก่อนจะขมวดคิ้วใส่ทันที ไอตากล้องกวนประสาทอีกแล้วนี่ซองจงจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ได้เลยหรือไงอยู่ที่นั่นก็เจอคนขี้ตื้ออย่างซองยอล มาที่นี่ยังมาเจอคนกวนประสาทของแอลอีก เกิดเป็นซองจงนี่มันไม่สนุกเอาซะเลย

     

                อืมร่างบางตอบรับแค่นั้นก่อนจะก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ที่มีเพียงแอลคนเดียวเท่านั้น ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนเสียงในลิฟต์จะเงียบแทบจะได้ยินเสียงหายใจของเขาและแอลแค่นั้น แอลที่เอามือไขว่หลังมองคุณเลขาผมสีบลอนด์ก่อนจะยิ้มมุมปากนิดๆ

     

                ชั้นไหนครับ

     

                สิบซองจงตอบสั้นๆก่อนนิ้วเรียวยาวจะกดเลขสิบเขายิ้มก่อนจะหันมองคุณเลขาที่กอดอกมองแต่ประตูลิฟต์ไม่สนใจแอลเลยสักนิด ตาคมมองกระเป๋าที่ซองจงถืออยู่ก่อนจะนึกสนุกๆอะไรขึ้นได้

     

                หนักไหมครับแอลเอ่ยปากถาม

     

                อะไร

     

              กระเป๋านั่นน่ะพูดจบมือหนาก็รีบแย่งกระเป๋าที่อยู่ในมือของซองจงมาถือเองซะอย่างนั้น คุณเลขาสะดุ้งก่อนจะหันไปถลึงตาใส่หนุ่มตากล้องที่กำลังก่อกวนเขาอีกครั้ง

     

                ไม่มีมารยาท!” เสียงซองจงดังทั่วลิฟต์ก่อนคนที่โดนดุจะหลุดยิ้มออกมาซะอย่างนั้น มือหนาจับกระเป๋าไว้แน่นก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

     

                ยอมรับครับ ผมไม่มีมารยาทแต่แค่กับพี่เท่านั้นนะครับ พูดจบแอลก็ค่อยๆยิ้มอย่างกวนๆออกมาซะจนทำเอาซองจงหมั่นไส้กับการกระทำของเขามากจริงๆ มือบางค่อยๆกำแน่นขึ้นเพื่อระงับอารมณ์โมโหของเขาเองคิ้วที่ขมวดแทบจะติดกันปากที่บ่นพึมพำเบาๆทำให้คนที่กำลังก่อกวนซองจงหลุดหัวเราะออกมา

     

                น่ารักมากจริงๆ

     

              หัวเราะอะไร

             

              เปล่าครับ น่ารักดี

                พี่ได้ไปงานแฟชั่นอะไรนั่นมาหรือเปล่าครับไม่ทันที่ซองจงจะพูดแอลก็รีบถามต่อก่อนที่คุณเลขาจะกริ้วขึ้นมาอีก จากคิ้วที่กำลังขมวดก็ค่อยๆคลายออกซองจงพยักหน้าแทนคำตอบก่อนคนที่ถามจะพยักหน้าล้อเลียนตามคนตรงหน้า

     

                งานนี้จะมีอีกไหมครับ

     

              ก็ต้องมีอยู่แล้ว

     

              งั้นดีเลยครับ ไว้มีอีกพี่พาผมไปหน่อยดิ พูดจบซองจงก็กลับขมวดคิ้วอีกครั้งร่างบางจิ๊ปากไม่พอใจอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

                ไปเองดิ

     

              แต่ผ..

     

              ..ติ๊ง

     

                เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก แปปเดียวก็ถึงชั้นสิบแล้วแอลยังไม่พอใจที่จะได้อยู่กับซองจงสองต่อสองเลย ทั้งคู่ค่อยก้าวออกจากลิฟต์ก่อนซองจงจะแบมือออกมา แอลเอียงคออย่างไม่เข้าใจ ดวงตากลมโตส่งสายตาไปทางกระเป๋าของเขาก่อนแอลจะมองตามและสะดุ้งเล็กน้อย มือหนาจับกระเป๋าแน่นกว่าเดิมก่อนจะยิ้มออกมา

                ซองจงมองเขาอย่างไม่พอใจอีกแล้วนิ้วเรียวยาวชี้ไปที่กระเป๋าของตัวเองก่อนจะแบมืออีกครั้ง ตากล้องหนุ่มทำเป็นไม่เข้าใจก่อนจะหมุนตัวมองรอบๆก่อนจะหยุดมองคุณเลขาอีกครั้ง ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะยั่วโมโหซองจงเข้าเสียแล้ว

     

                กระเป๋า!” เหมือนจะหมดความอดทนซองจงพูดเสียงดังจนพนักงานรอบๆหันมามองกันเป็นแถบ แอลมองพนักงานรอบๆก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ พอใจที่ได้แกล้งซองจงนั่นแหละ มือหนายื่นกระเป๋าให้คุณเลขาซองจงก่อนคนที่กำลังโมโหจะรีบแย่งกระเป๋าของตัวเอง

                ยุ่ง!’ ซองจงพูดแบบไม่ออกเสียงอีกครั้งก่อนจะรีบเดินอย่างหงุดหงิดเข้าห้องประการของตัวเอง คนมองตามหลังอย่างแอลก็ได้แต่กอดอกมองยิ้มๆอย่างไม่อายพนักงานที่มองมาทางเขาทั้งสองแล้วก็หัวเราะกันอยู่อย่างนั้น มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่ลิฟต์เหมือนเดิม

     

                ก็แค่อยากมาส่งแค่นั้นเอง..

     

     

                หายไปไหนมาล่ะครับพ่อคนเก่ง เสียงเหน่อของเพื่อนปูซานดังขึ้นตอนที่แอลเดินกลับเข้ามาในห้องถ่ายภาพอีกครั้ง แอลกรอกตากไปมาก่อนจะรีบไปนั่งข้างๆเพื่อนสนิทที่กำลังจิบกาแฟจากมินิมาร์ท

     

                เข้าห้องน้ำมาไง

     

              นานขนาดนี้สร้างบ้านในห้องน้ำยังไงล่ะพูดจบหนุ่มปูซานก็หัวเราะออกมาซะดังลั่นมือหนารีบแย่งกาแฟจากเพื่อที่แซวเขามายกดื่มซะแทบจะหมด โฮวอนมองเพื่อนตัวเองอย่างงงๆก่อนจะมองแก้วกาแฟของตัวเองที่กลับมาอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม

     

                โอ้โห..

     

              เหมือนซื้อมาเปลืองเงินเล่นๆ..” กาแฟที่โฮวอนใช้เงินของตัวเองซื้อมาถูกไอเพื่อนหน้าหล่อซดไปซะจนหมดแก้ว เขาถอดแว่นออกก่อนจะทำท่าเหมือนปาดน้ำตาพร้อมกับใส่เหมือนเดิม

     

                ซื้อคืนด้วยนะ

     

              รู้แล้วน่า.. พูดจบแอลก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่จนเจ้าของแก้วกาแฟเมื่อกี้จะมองตาม

     

                เป็นอะไรอ่ะโฮวอนรีบเอ่ยถามก่อนแอลจะส่ายหัวเบาๆ

     

                เขาบอกจะมีนายแบบมาถ่ายแบบอ่ะ พี่พนักงานก็เตรียมของกันเรียบร้อยยังไม่เห็นจะโผล่มา

     

              เขาบอกกี่โมงนะ

              สี่โมง โฮวอนถามทันทีก่อนแอลจะตอบทันทีเช่นกัน ทั้งคู่ถอนหายใจพร้อมกันก่อนแอลจะนั่งกระดิกเท้าเล่นๆฆ่าเวลารอไอนายแบบที่ไม่ตรงเวลาเอาซะเลย

     

                ถ้าไอนายนี่เป็นพนักงานที่นี่คงโดนพี่ซองจงด่าเละไปแล้วแน่ๆ

     

                ซองจงอีกแล้ว..

     

                ก๊อก ก๊อก..

     

                เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนแอลและโฮวอนจะรีบลุกขึ้น พนักงานสาวค่อยๆเปิดประตูมาและสาวตัวเล็กจะเดินมาเช่นกัน ส่วนหนุ่มตัวสูงๆก็น่าจะเป็นนายแบบ เอารวมๆแล้วคุณผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นคงเป็นเมเนเจอร์ของไอนายแบบไม่ตรงเวลานั่นแหละ

     

                โอเคห้องพร้อมแสงพร้อมใช่ไหมคะน้องแอล

     

              พร้อมตั้งแต่สามสิบนาทีที่แล้วละครับ หนุ่มตากล้องพูดจิกนายแบบคนนั้นเล็กน้อยก่อนเมเนเจอร์สาวจะรีบขอโทษที่ทำให้เวลามันล่วงเลย แต่หนุ่มนายแบบคนนั้นกลับไม่พอใจเอาซะเลย

     

                เป็นช่างภาพมีสิทธิ์มาว่าเขาด้วยหรอ..

     

               

     

     

     

     

                เปิดเสื้อออกนิดนึงด้วยครับ

     

              แช๊ะ!

     

              อย่ายิ้มนะครับ

     

              แช๊ะ!

     

              การถ่ายแบบของหนุ่มนายแบบคนนี้ผ่านไปเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงจนหนุ่มตากล้องพยักหน้าแล้วส่งสัญญาณให้พอได้แล้ว หนุ่มนายแบบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนเหล่านูน่าทั้งหลายจะวิ่งกรูเข้าไปเช็คหน้าตาของหนุ่มนายแบบ ซับงงซับเหงื่อให้

     

                อะไรจะขนาดนั้นนะ..

     

                แอลหมุนตัวและเดินไปหาโฮวอนที่กำลังรีทัชรูปอย่างตั้งใจ พ่อหนุ่มนายแบบก็กำลังเดินมาเช่นกัน เขากอดอกมองก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

     

                คุณถ่ายรูปยังไงทำไมมันดูไม่สวยเลยล่ะครับ

     

              ซองยอลติการถ่ายรูปของแอลจนทำเอาพ่อหนุ่มตากล้องหัวร้อนจนได้เขาถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหน้าหนุ่มนายแบบ แอลกอดอกมองก่อนจะมองหัวจรดเท้าของซองยอล

     

                ผมไม่อยากจะเอามันมาพูดนะครับ แต่ประธานซองจินเขาก็ชอบการถ่ายรูปของผมเหมือนกันถ้าผมถ่ายแย่ท่านคงไม่เอาผมเข้ามาทำงาน ถูกไหมล่ะครับ เด็กฝึกที่ตั้งใจก็เข้าสิงเขาจากที่เป็นคนขี้เล่นก่อกวนคนนี้ไปเรื่อย พอเจอไปนายแบบหน้าตากวนๆอย่างซองยอลก็ทำเอาเขากลายเป็นคนจริงจังกับอะไรไปซะทุกอย่าง

     

                ถูกใจกับท่านประธานซองจิน แต่ก็ไม่ได้ถูกใจฉันนะ

              งั้นก็ต้องดูที่ตัวเองแล้วล่ะครับ ว่าการจัดทรงตัวเองมันดีหรือเปล่า

     

                แอลพูดแทรกทันทีก่อนจะเดินไปเก็บกล้องใส่กระเป๋าหนุ่มนายแบบที่ไม่ยอมก็เดินตามเขาไปเช่นกัน เขากอดอกมองคนที่กำลังเก็บกล้องก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

     

                เจ๋งมากหรือไง ถึงมาพูดแบบนี้กับนายแบบอย่างฉัน

              คุณชื่อซองยอลใช่ไหมครับ

              “…”

              เอาจริงๆเลยนะครับ ผมไม่อยากมีปัญหากับคุณคุณคงจะชินกับตากล้องที่เคยถ่ายคุณมาก่อน แต่ตอนนี้คุณคนไหนเขาไปบริษัทอื่นแล้ว คุณลองย้ายตามเขาไปดูสิครับ คำพูดกวนๆจากแอลทำเอาซองยอลโมโหขึ้นมาทันทีถ้าไม่มีคนอยู่ในนี้เขาคงชกหน้าไปตากล้องนี่ไปแล้ว

     

                แถมยังมาช้าไปตั้งครึ่งชั่วโมง ให้คนอื่นรอมันไม่ดีนะครับ

                นี่นายอยากเด้งออกจากงานหรือไง

              ครับ?

              จะบอกให้นะฉันสนิทกับซองจง รู้จักไหม

     

              สนิทกับพี่ซองจงหรอ..

     

                บอกผมทำไมอ่ะครับ พูดจบแอลก็รีบสะพายกระเป๋ากล้องก่อนจะรีบเดินออกจากห้องถ่ายภาพที่มีไอนายแบบมาก่อกวนเขาตอนนี้ เขาล้วงโทรศัพท์ก่อนจะจะส่งข้อความหาเพื่อนที่กำลังนั่งรีทัชรูปไอหมอนั่นแหละ

     

                วันนี้กลับเองนะ

     

                วันนี้เขาต้องทิ้งเพื่อนตัวเองอีกแล้ว ขายาวค่อยก้าวเดินอย่างช้าๆเขาก้มลงมอนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

     

                ห้าโมงกว่าแล้ว..

     

                หลังจากที่คิดอะไรในสมองมากมายเขาก็ต้องหยุดเดินอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่อยู่จากที่ไกลๆเป็นซองจง ที่สำคัญเขาคุยกับไอนายแบบที่ชื่อซองยอลอยู่ด้วย คงฟ้องสินะหน้าตาเครียดขนาดนั้น

     

                ไม่พอใจเลย

              ไม่ชอบที่เห็นพี่เขาอยู่กับคนอื่นแบบนั้น

              สนิทกันมากปะ..

     

                แอลขมวดคิ้วคิดอะไรหลายๆอย่างในใจก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดทันที เขาไม่อยากจะขึ้นลิฟต์เพราะไม่อยากรอและเห็นภาพที่ไอนายแบบยืนคุยกับซองจงนั่นแหละ

     

                นี่

     

              แอลหยุดเดินก่อนจะค่อยๆหมุนตัวหันไปมองคนที่เรียกเขาเมื่อสักครู่

     

                ครับ? แอลขานรับทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่เรียกเขาคือคุณเลขาซองจง ใบหน้าสวยที่ดูไม่สบอารมณ์เอาซะเลย ส่วนคนที่มักจะกวนประสาทเวลาเจอหน้าซองจงตอนนี้ก็ดูจะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองด้วย

     

                นายไปว่าอะไรพี่ซองยอล

              เขาฟ้องหรอครับ

              ตอบ

     

              แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจใส่ซองจงเป็นครั้งแรกซองจงที่ไม่พอใจอยู่แล้วก็ยิ่งไม่พอใจขึ้นไปใหญ่มือหนายกหมวกกันน็อคที่ตัวเองถือสวมใส่ทันทีก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง

              เป็นคำถามที่แอลไม่ต้องการที่จะตอบมัน ใช่แล้วล่ะเขาไม่ชอบซองยอลและถ้าเห็นซองจงมาด้วยเรื่องของซองยอลเขาก็ยิ่งไม่ชอบเหมือนกัน เป็นครั้งแรกที่แอลไม่สนใจที่จะตอบคำถาม ไม่กวนไม่ประสาท ไม่อะไรเลย ตอนนี้แค่กลับบ้านก็พอ

     

                หึง..

     

                นี่! มยองซู!” ซองจงพูดเสียงดังลั่นโรงจอดรถแต่คนที่ถูกเรียกก็ไม่สนใจ ทำเมินและสตาร์ทรถขับออกไปต่อหน้าต่อตาซองจงเสียอย่างนั้น จากที่ไม่ชอบอยู่แล้วซองจงกลับไม่ชอบเข้าไปใหญ่

     

                รถมอไซค์สีดำขับออกจากบริษัทอย่างเร็ว ภายใต้หมวกกันน็อคไอตากล้องหน้าหล่อนี่ก็ยังคงขมวดคิ้วไม่พอใจเหมือนเดิม ส่วนรถเก๋งสีดำที่ตามหลังเขามา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

     

                รถของซองจงนั่นแหละ..

     

                ถ้าซองจงไม่ได้คำตอบเป็นคนอื่นซองจงคงปล่อยๆมันไปแต่กับแอล ยังไงเขาก็ต้องได้คำตอบที่เขาต้องการให้ได้ และนี่ก็เป็นคนแรกเหมือนกัน

     

                ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ สงสัยจะไม่ชอบไอนี่มากจริงๆจนอยากจะหาเรื่องให้ถึงที่สุด..

     

                รถมอไซค์สีดำขับเร็วขึ้นก่อนจะเหลือบตามองกระจกรถ รถของคุณเลขาก็ยังคงตามอยู่ดี ยิ่งขับเร็วแค่ไหนไอรถเก๋งคันนั้นก็เร็วตามเช่นกัน

                นี่คุณเลขาไม่กลัวตายเลยหรือไง รถเยอะแบบนี้ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย เป็นนักซิ่งเก่าหรือไงกัน

     

               

     

                รถมอไซค์สีดำจอดที่โรงจอดรถของคอนโดที่ตัวเองอาศัยรถเก๋งคันนั้นก็เช่นกัน มือหนาถอดหมวกกันน็อคออกก่อนจะรีบดึงกุญแจรถ ใบหน้าหล่อหันไปมองรถเก๋งคันนั้นก่อนจะรีบลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง เช่นเดียวกันคุณเลขาก็ลงออกมาจากรถอย่างไม่เข้าใจ

     

                นี่นายเป็นโรคจิตปะ มาถึงคอนโดฉันเลยหรือไง ซองจงรีบพูดขึ้นมาทันทีทำเอาหนุ่มตากล้องหันมองรอบๆก่อนจะยกนิ้วชี้มาตัวเอง

     

                ผม?

     

              จริงด้วย ผู้ชายผมบลอนด์ที่อยู่ชั้นเดียวกับเขาคือคุณเลขาซองจงจริงๆ ริมฝีปากหยักเข้ารูปยิ้มมุมปากน้อยๆ ซองจงที่กำลังโมโหที่ยังไม่ได้คำตอบจากตากล้องคนนี้แถมยังตามมายันคอนโดยิ่งโมโหกว่าเดิมเสียอย่างนั้น

     

                นี่นายตามฉันมายันคอนโดเลยหรอ

     

              เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับพี่

              ผมก็อยู่ที่นี่นะเสียงทุ้มพูดจบซองจงก็ถลึงตาใส่เสียอย่างนั้น เขาจิ๊ปากตามสเต็ปอีกแล้ว จากหนุ่มตากล้องที่กำลังหัวเสียกับเรื่องซองจงกับนายแบบซองยอลคนนั้นกลายเป็นแอลที่กวนประสาทคนเดิม

     

                ผมยอมตอบก็ได้ นายแบบคนนั้นว่าผมก่อนนะ แล้วก็เลิกถามต่อด้วยนะครับแอลยอมตอบคำถามที่ซองจงต้องการก่อนจะพูดกันไว้ว่าอย่าถามเขาอีก ซองจงกอดอกมองก่อนจะจิ๊ปากตามเช่นเดิม

     

                เกลียดจริงๆเลย

              ดุจังเลย

     

              นี่มยองซู ฉันเกลียดนายจริงๆนะ

              รู้ไว้ด้วย!” พูดจบซองจงก็รีบเดินไปทางประตูทางเข้าคอนโด เขาหันมามองหนุ่มตากล้องก่อนจะทำตาขวางใส่ซะอย่างนั้นแต่แอลก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับการกระทำซองจงเลย มือหนาโบกมือบ้ายบายซองจงก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจ

     

                เขาพอใจที่ได้แกล้งซองจงนี่แหละ..

    น่ารักที่สุดเลย..


    ϟ


     

    มาลงแชปสามแล้วนะครับ อัพบ่อยอย่างถ่องแท้ ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยอย่างยิ่งนะครับไว้ว่างกว่านี้จะมาแก้ไขให้ทันทีครับ แล้วก็อย่าลืมคอมเมนท์ให้กำลังใจน้องกิมคนนี้ด้วยนะครับผม! #สตูดิโอแอลจง ♥♥♥

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×