คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ϟ C H A P T E R 3 ϟ
ϟ 0 3 ϟ
-
ถ้าพูดถึงเรื่องวงการแฟชั่น Fashion Week เป็นที่ที่ใครก็อยากไปใช่ไหมล่ะครับ..
ผมก็เช่นกัน
“คุณคิม แฮรัน ผู้มีชื่อเสียงด้านแฟชั่นก็มาด้วยหรอครับครั้งนี้” เสียงหนุ่มนักข่าวถามขึ้นก่อน เจ้าของชื่อ คิม แฮรัน จะหันไปตามเสียง หญิงสาวอายุวัยเลขสี่ที่แต่ใบหน้ายังคงสภาพเหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่เขาเข้าวงการแฟชั่นใหม่ๆ
“ใช่ค่ะ ถึงครั้งที่แล้วฉันจะไม่ได้มา แต่ก็เสียดายมากๆ” เขากล่าวก่อนหนุ่มร่างบางผิวพรรณดีจะเดินมายืนข้างๆของหญิงสาวคนนั้น
“ส่วนครั้งนี้ฉันพาลูกชายคนเดียวของฉันมาด้วยค่ะ..”
“ผม อี ซองจง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เสียงใสดังขึ้นก่อนนักข่าวจะยิ้มรับ ทุกคนดูชอบบุคคลิกของซองจงด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง ร่าเริงสดใส ก็ทำให้คนที่มองเขาอยู่เอ็นดูเป็นธรรมดา
ต่างจากตอนที่อยู่บริษัท..
มือของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของซองจงจับข้อมือของลูกก่อนจะพาเดินออกมาจากฝูงนักข่าวตรงนั้น ขาเรียวยาวก้าวตามแม่ของเขาที่เดินนำหน้า ซองจงมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ผมอยู่กับแม่ได้ไม่นานอีกแล้ว..”
“อืม.. แม่เข้าใจน่า” แฮรันพูดก่อนจะลูบหัวคนเป็นลูกเบาๆ ซองจงที่อยู่กับแม่จากคนที่ดูเข้มงวดก็กลายเป็นเด็กขึ้อ้อนซะอย่างนั้น ซองจงกอดแม่ของเขาก่อนจะคลายกอดเขายิ้มจนตาแทบจะปิดก่อนจะพาแม่ของเขาไปนั่งประจำที่ ขาเรียวยาวยกขึ้นมานั่งไขว่ห้างก่อนจะหันไปมองรอบๆงาน
มาอีกแล้ว..
“ซองจง รอนานไหมครับ” ซองยอลนายแบบร่างสูงเพอร์เฟคแถมสาวๆยังชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก เขาเดินไปนั่งข้างซองจงก่อนจะทักทายแม่ของซองจงด้วย
“ผมว่าผมไม่ได้มารอพี่”
“อ่า.. พี่คิดว่าเรามารอพี่ซะอีก” น้ำเสียงของซองยอลหงอยลงก่อนซองจงจะส่ายหัวเบาๆ เขาหันไปมองทางอื่นก่อนจะก้มมองนาฬิกาอีกครั้ง
“แม่ครับ อีกสิบนาทีผมต้องไปแล้ว” ซองจงหันไปมองแม่ของเขาก่อนจะทำหน้าเสียดายนิดๆ มือเรียวของผู้เป็นแม่ค่อยๆตบบ่าซองจงเบาๆก่อนจะพยักหน้า ซองยอลที่มองอยู่ก็ยิ้มออกมานิดๆ มือหนาของซองยอลเอื้อมไปจับบ่าของซองจงเช่นกันก่อนร่างบางจะค่อยๆหันหน้าไปหาหนุ่มนายแบบซองจงมองมือหนาก่อนจะมองซองยอลสลับกัน
‘เอาออกไปเลย’ ซองจงพูดแบบไม่ออกเสียงก่อนจะยักไหล่เบาๆ มือหนาของซองยอลค่อยๆเอาลงจากไหล่ของร่างบางเขายิ้มอย่างเสียดายนิดๆก่อนจะกอดอกมองงานที่กำลังจะเริ่ม
สิบนาทีแล้ว..
งานเริ่มแปปเดียวแต่ซองจงก็ต้องกลับไปทำหน้าที่เลขาตามเดิม ซองจงสะกิดแฮรันก่อนจะกระซิบข้างหูเพื่อบอกว่าเขาจะต้องไปแล้ว แฮรันพยักหน้าก่อนจะลูบหัวของคนเป็นลูกเบาๆ ซองจงรีบลุกก่อนซองยอลจะค่อยๆลุกตาม
“อะไร?”
“เดี๋ยวพี่ไม่ส่ง..”
“ไม่ต้องหรอกครับ เกรงใจ” พูดจบซองจงก็รีบเดินออกจากงานทันทีร่างบางมองนาฬิกาก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม
“ซองจง”
ซองจงชะหงักก่อนจะค่อยๆหมุนตัวหันไปมองคนที่กำลังจะทำให้เขาเข้างานช้าก็คนขี้ตื้ออย่าง ซองยอล นั่นแหละที่ไม่ยอมฟังซองจงตั้งแต่ในงาน
“ผมบอกว่าไม่ต้องตามมาไง” ซองจงพูดอย่างหงุดหงิด
“พี่ตามตื้อเรามาสองปีแล้วนะซองจง..”
“ไม่คิดจะใจอ่อนหน่อยหรอครับ”
ซองยอลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนขี้หงุดหงิดอย่างซองจงใจเย็นขึ้นเลย เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่ควรเลิกตื้อผมตั้งแต่เดือนแรกแล้วครับ.. ไม่ใช่สิ”
“..”
“ตั้งแต่วันแรกเลยด้วยซ้ำ” คำพูดแทงใจซองยอลเข้าอีกแล้ว เขาโดนปฏิเสธไปเป็นร้อยๆครั้งแต่ก็ไม่หยุดที่จะชนะใจซองจงเลย ร่างบางพูดจบก็รีบหมุนตัวกลับไปก่อนจะขึ้นรถเก๋งสีดำของเจ้าตัว
น่าเบื่อจริงๆ..
“พี่ว่าพี่ชอบซองจงนะครับ”
“เอาตรงๆนะครับพี่ซองยอล ผมไม่คิดที่จะเดทกับใคร”
“แต่..”
“ผมอยากทำงานครับ”
ซองจงไม่เคยมีรักแรกและเขาก็บอกกับตัวเองตลอดเวลาว่าจะไม่มีความรักกับใครสิ้น จนกว่ามันจะถึงเวลานั้นจริงๆ เขาอยากทุ่มเทกับงานตอนนี้มากกว่าไม่ได้คิดอยากจะเดทกับใครทั้งนั้น แค่พูดออกมาว่าชอบซองจงก็ปฏิเสธไปตั้งแต่วินาทีแรกเลยนั่นแหละ
ซองจงอยู่ได้โดยไม่ต้องมีใครมาดูแลเขาเลยสักนิด
รถเก๋งสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากงานแฟชั่นวีค ซองจงรีบเหยียบคันเร่งไปบริษัทให้ทันเวลารถที่ขับตามถนนไม่เป็นอุปสรรคกับซองจงเลยแม้แต่น้อย เจ๋งกว่านักซิ่งก็ซองจงนี่แหละ
รถเก๋งสีดำที่ขับเร็วกลางถนนซิกแซกไปมาจนทำให้คนที่ขับรถคันอื่นแทบจะเปิดกระจกออกมาด่า ซองจงไม่สนใจเลยสักนิดเขาชินอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ถ้ามัวแต่ขับอืดอาดเมื่อไหร่จะถึงที่ทำงานล่ะ น่าจะรู้ว่าซองจงตรงเวลาและเข้มงวดเรื่องเวลาแค่ไหน จากที่ดุไอหนุ่มตากล้องกับเพื่อนของเขาไปวันนั้นน่าจะรู้กันอยู่แล้ว
รถเก๋งสีดำเคลื่อนตัวมาจอดที่ประจำของพนักงานชั้นสูงก็พวกประธานหรือเลขาอะไรนั่นล่ะ ซองจงดับเครื่องยนต์ก่อนมือเรียวบางจะถือกระเป๋าและรีบออกมาจากรถของตัวเอง
ตรงเวลาพอดีเป๊ะ
เขามองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ ร่างบางรีบเร่งฝีเท้าเข้าบริษัทก่อนพนักงานทั้งหลายจะโค้งให้เขา ซองจงพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินไปหน้าลิฟต์ ร่างบางมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้งก่อนจะยืนรอลิฟต์ที่กำลังจะเปิดภายในไม่กี่วินาที
..ติ๊ง
“วันนี้เข้าบริษัทด้วยหรอครับ”
ซองจงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองคนในลิฟต์ก่อนจะขมวดคิ้วใส่ทันที ไอตากล้องกวนประสาทอีกแล้วนี่ซองจงจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ได้เลยหรือไงอยู่ที่นั่นก็เจอคนขี้ตื้ออย่างซองยอล มาที่นี่ยังมาเจอคนกวนประสาทของแอลอีก เกิดเป็นซองจงนี่มันไม่สนุกเอาซะเลย
“อืม” ร่างบางตอบรับแค่นั้นก่อนจะก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ที่มีเพียงแอลคนเดียวเท่านั้น ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนเสียงในลิฟต์จะเงียบแทบจะได้ยินเสียงหายใจของเขาและแอลแค่นั้น แอลที่เอามือไขว่หลังมองคุณเลขาผมสีบลอนด์ก่อนจะยิ้มมุมปากนิดๆ
“ชั้นไหนครับ”
“สิบ” ซองจงตอบสั้นๆก่อนนิ้วเรียวยาวจะกดเลขสิบเขายิ้มก่อนจะหันมองคุณเลขาที่กอดอกมองแต่ประตูลิฟต์ไม่สนใจแอลเลยสักนิด ตาคมมองกระเป๋าที่ซองจงถืออยู่ก่อนจะนึกสนุกๆอะไรขึ้นได้
“หนักไหมครับ” แอลเอ่ยปากถาม
“อะไร”
“กระเป๋านั่นน่ะ” พูดจบมือหนาก็รีบแย่งกระเป๋าที่อยู่ในมือของซองจงมาถือเองซะอย่างนั้น คุณเลขาสะดุ้งก่อนจะหันไปถลึงตาใส่หนุ่มตากล้องที่กำลังก่อกวนเขาอีกครั้ง
“ไม่มีมารยาท!” เสียงซองจงดังทั่วลิฟต์ก่อนคนที่โดนดุจะหลุดยิ้มออกมาซะอย่างนั้น มือหนาจับกระเป๋าไว้แน่นก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“ยอมรับครับ ผมไม่มีมารยาทแต่แค่กับพี่เท่านั้นนะครับ” พูดจบแอลก็ค่อยๆยิ้มอย่างกวนๆออกมาซะจนทำเอาซองจงหมั่นไส้กับการกระทำของเขามากจริงๆ มือบางค่อยๆกำแน่นขึ้นเพื่อระงับอารมณ์โมโหของเขาเองคิ้วที่ขมวดแทบจะติดกันปากที่บ่นพึมพำเบาๆทำให้คนที่กำลังก่อกวนซองจงหลุดหัวเราะออกมา
น่ารักมากจริงๆ
“หัวเราะอะไร”
“เปล่าครับ น่ารักดี”
“พี่ได้ไปงานแฟชั่นอะไรนั่นมาหรือเปล่าครับ” ไม่ทันที่ซองจงจะพูดแอลก็รีบถามต่อก่อนที่คุณเลขาจะกริ้วขึ้นมาอีก จากคิ้วที่กำลังขมวดก็ค่อยๆคลายออกซองจงพยักหน้าแทนคำตอบก่อนคนที่ถามจะพยักหน้าล้อเลียนตามคนตรงหน้า
“งานนี้จะมีอีกไหมครับ”
“ก็ต้องมีอยู่แล้ว”
“งั้นดีเลยครับ ไว้มีอีกพี่พาผมไปหน่อยดิ” พูดจบซองจงก็กลับขมวดคิ้วอีกครั้งร่างบางจิ๊ปากไม่พอใจอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ไปเองดิ”
“แต่ผ..”
..ติ๊ง
เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก แปปเดียวก็ถึงชั้นสิบแล้วแอลยังไม่พอใจที่จะได้อยู่กับซองจงสองต่อสองเลย ทั้งคู่ค่อยก้าวออกจากลิฟต์ก่อนซองจงจะแบมือออกมา แอลเอียงคออย่างไม่เข้าใจ ดวงตากลมโตส่งสายตาไปทางกระเป๋าของเขาก่อนแอลจะมองตามและสะดุ้งเล็กน้อย มือหนาจับกระเป๋าแน่นกว่าเดิมก่อนจะยิ้มออกมา
ซองจงมองเขาอย่างไม่พอใจอีกแล้วนิ้วเรียวยาวชี้ไปที่กระเป๋าของตัวเองก่อนจะแบมืออีกครั้ง ตากล้องหนุ่มทำเป็นไม่เข้าใจก่อนจะหมุนตัวมองรอบๆก่อนจะหยุดมองคุณเลขาอีกครั้ง ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะยั่วโมโหซองจงเข้าเสียแล้ว
“กระเป๋า!” เหมือนจะหมดความอดทนซองจงพูดเสียงดังจนพนักงานรอบๆหันมามองกันเป็นแถบ แอลมองพนักงานรอบๆก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ พอใจที่ได้แกล้งซองจงนั่นแหละ มือหนายื่นกระเป๋าให้คุณเลขาซองจงก่อนคนที่กำลังโมโหจะรีบแย่งกระเป๋าของตัวเอง
‘ยุ่ง!’ ซองจงพูดแบบไม่ออกเสียงอีกครั้งก่อนจะรีบเดินอย่างหงุดหงิดเข้าห้องประการของตัวเอง คนมองตามหลังอย่างแอลก็ได้แต่กอดอกมองยิ้มๆอย่างไม่อายพนักงานที่มองมาทางเขาทั้งสองแล้วก็หัวเราะกันอยู่อย่างนั้น มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่ลิฟต์เหมือนเดิม
ก็แค่อยากมาส่งแค่นั้นเอง..
“หายไปไหนมาล่ะครับพ่อคนเก่ง” เสียงเหน่อของเพื่อนปูซานดังขึ้นตอนที่แอลเดินกลับเข้ามาในห้องถ่ายภาพอีกครั้ง แอลกรอกตากไปมาก่อนจะรีบไปนั่งข้างๆเพื่อนสนิทที่กำลังจิบกาแฟจากมินิมาร์ท
“เข้าห้องน้ำมาไง”
“นานขนาดนี้สร้างบ้านในห้องน้ำยังไงล่ะ” พูดจบหนุ่มปูซานก็หัวเราะออกมาซะดังลั่นมือหนารีบแย่งกาแฟจากเพื่อที่แซวเขามายกดื่มซะแทบจะหมด โฮวอนมองเพื่อนตัวเองอย่างงงๆก่อนจะมองแก้วกาแฟของตัวเองที่กลับมาอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม
“โอ้โห..”
“เหมือนซื้อมาเปลืองเงินเล่นๆ..” กาแฟที่โฮวอนใช้เงินของตัวเองซื้อมาถูกไอเพื่อนหน้าหล่อซดไปซะจนหมดแก้ว เขาถอดแว่นออกก่อนจะทำท่าเหมือนปาดน้ำตาพร้อมกับใส่เหมือนเดิม
“ซื้อคืนด้วยนะ”
“รู้แล้วน่า..” พูดจบแอลก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่จนเจ้าของแก้วกาแฟเมื่อกี้จะมองตาม
“เป็นอะไรอ่ะ” โฮวอนรีบเอ่ยถามก่อนแอลจะส่ายหัวเบาๆ
“เขาบอกจะมีนายแบบมาถ่ายแบบอ่ะ พี่พนักงานก็เตรียมของกันเรียบร้อยยังไม่เห็นจะโผล่มา”
“เขาบอกกี่โมงนะ”
“สี่โมง” โฮวอนถามทันทีก่อนแอลจะตอบทันทีเช่นกัน ทั้งคู่ถอนหายใจพร้อมกันก่อนแอลจะนั่งกระดิกเท้าเล่นๆฆ่าเวลารอไอนายแบบที่ไม่ตรงเวลาเอาซะเลย
ถ้าไอนายนี่เป็นพนักงานที่นี่คงโดนพี่ซองจงด่าเละไปแล้วแน่ๆ
ซองจงอีกแล้ว..
ก๊อก ก๊อก..
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนแอลและโฮวอนจะรีบลุกขึ้น พนักงานสาวค่อยๆเปิดประตูมาและสาวตัวเล็กจะเดินมาเช่นกัน ส่วนหนุ่มตัวสูงๆก็น่าจะเป็นนายแบบ เอารวมๆแล้วคุณผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นคงเป็นเมเนเจอร์ของไอนายแบบไม่ตรงเวลานั่นแหละ
“โอเคห้องพร้อมแสงพร้อมใช่ไหมคะน้องแอล”
“พร้อมตั้งแต่สามสิบนาทีที่แล้วละครับ” หนุ่มตากล้องพูดจิกนายแบบคนนั้นเล็กน้อยก่อนเมเนเจอร์สาวจะรีบขอโทษที่ทำให้เวลามันล่วงเลย แต่หนุ่มนายแบบคนนั้นกลับไม่พอใจเอาซะเลย
เป็นช่างภาพมีสิทธิ์มาว่าเขาด้วยหรอ..
♡
“เปิดเสื้อออกนิดนึงด้วยครับ”
แช๊ะ!
“อย่ายิ้มนะครับ”
แช๊ะ!
การถ่ายแบบของหนุ่มนายแบบคนนี้ผ่านไปเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงจนหนุ่มตากล้องพยักหน้าแล้วส่งสัญญาณให้พอได้แล้ว หนุ่มนายแบบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนเหล่านูน่าทั้งหลายจะวิ่งกรูเข้าไปเช็คหน้าตาของหนุ่มนายแบบ ซับงงซับเหงื่อให้
อะไรจะขนาดนั้นนะ..
แอลหมุนตัวและเดินไปหาโฮวอนที่กำลังรีทัชรูปอย่างตั้งใจ พ่อหนุ่มนายแบบก็กำลังเดินมาเช่นกัน เขากอดอกมองก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“คุณถ่ายรูปยังไงทำไมมันดูไม่สวยเลยล่ะครับ”
ซองยอลติการถ่ายรูปของแอลจนทำเอาพ่อหนุ่มตากล้องหัวร้อนจนได้เขาถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหน้าหนุ่มนายแบบ แอลกอดอกมองก่อนจะมองหัวจรดเท้าของซองยอล
“ผมไม่อยากจะเอามันมาพูดนะครับ แต่ประธานซองจินเขาก็ชอบการถ่ายรูปของผมเหมือนกันถ้าผมถ่ายแย่ท่านคงไม่เอาผมเข้ามาทำงาน ถูกไหมล่ะครับ” เด็กฝึกที่ตั้งใจก็เข้าสิงเขาจากที่เป็นคนขี้เล่นก่อกวนคนนี้ไปเรื่อย พอเจอไปนายแบบหน้าตากวนๆอย่างซองยอลก็ทำเอาเขากลายเป็นคนจริงจังกับอะไรไปซะทุกอย่าง
“ถูกใจกับท่านประธานซองจิน แต่ก็ไม่ได้ถูกใจฉันนะ”
“งั้นก็ต้องดูที่ตัวเองแล้วล่ะครับ ว่าการจัดทรงตัวเองมันดีหรือเปล่า”
แอลพูดแทรกทันทีก่อนจะเดินไปเก็บกล้องใส่กระเป๋าหนุ่มนายแบบที่ไม่ยอมก็เดินตามเขาไปเช่นกัน เขากอดอกมองคนที่กำลังเก็บกล้องก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“เจ๋งมากหรือไง ถึงมาพูดแบบนี้กับนายแบบอย่างฉัน”
“คุณชื่อซองยอลใช่ไหมครับ”
“…”
“เอาจริงๆเลยนะครับ ผมไม่อยากมีปัญหากับคุณคุณคงจะชินกับตากล้องที่เคยถ่ายคุณมาก่อน แต่ตอนนี้คุณคนไหนเขาไปบริษัทอื่นแล้ว คุณลองย้ายตามเขาไปดูสิครับ” คำพูดกวนๆจากแอลทำเอาซองยอลโมโหขึ้นมาทันทีถ้าไม่มีคนอยู่ในนี้เขาคงชกหน้าไปตากล้องนี่ไปแล้ว
“แถมยังมาช้าไปตั้งครึ่งชั่วโมง ให้คนอื่นรอมันไม่ดีนะครับ”
“นี่นายอยากเด้งออกจากงานหรือไง”
“ครับ?”
“จะบอกให้นะฉันสนิทกับซองจง รู้จักไหม”
สนิทกับพี่ซองจงหรอ..
“บอกผมทำไมอ่ะครับ” พูดจบแอลก็รีบสะพายกระเป๋ากล้องก่อนจะรีบเดินออกจากห้องถ่ายภาพที่มีไอนายแบบมาก่อกวนเขาตอนนี้ เขาล้วงโทรศัพท์ก่อนจะจะส่งข้อความหาเพื่อนที่กำลังนั่งรีทัชรูปไอหมอนั่นแหละ
‘วันนี้กลับเองนะ’
วันนี้เขาต้องทิ้งเพื่อนตัวเองอีกแล้ว ขายาวค่อยก้าวเดินอย่างช้าๆเขาก้มลงมอนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
ห้าโมงกว่าแล้ว..
หลังจากที่คิดอะไรในสมองมากมายเขาก็ต้องหยุดเดินอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่อยู่จากที่ไกลๆเป็น ‘ซองจง’ ที่สำคัญเขาคุยกับไอนายแบบที่ชื่อซองยอลอยู่ด้วย คงฟ้องสินะหน้าตาเครียดขนาดนั้น
ไม่พอใจเลย
ไม่ชอบที่เห็นพี่เขาอยู่กับคนอื่นแบบนั้น
สนิทกันมากปะ..
แอลขมวดคิ้วคิดอะไรหลายๆอย่างในใจก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดทันที เขาไม่อยากจะขึ้นลิฟต์เพราะไม่อยากรอและเห็นภาพที่ไอนายแบบยืนคุยกับซองจงนั่นแหละ
“นี่”
แอลหยุดเดินก่อนจะค่อยๆหมุนตัวหันไปมองคนที่เรียกเขาเมื่อสักครู่
“ครับ?” แอลขานรับทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่เรียกเขาคือคุณเลขาซองจง ใบหน้าสวยที่ดูไม่สบอารมณ์เอาซะเลย ส่วนคนที่มักจะกวนประสาทเวลาเจอหน้าซองจงตอนนี้ก็ดูจะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองด้วย
“นายไปว่าอะไรพี่ซองยอล”
“เขาฟ้องหรอครับ”
“ตอบ”
แอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจใส่ซองจงเป็นครั้งแรกซองจงที่ไม่พอใจอยู่แล้วก็ยิ่งไม่พอใจขึ้นไปใหญ่มือหนายกหมวกกันน็อคที่ตัวเองถือสวมใส่ทันทีก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
เป็นคำถามที่แอลไม่ต้องการที่จะตอบมัน ใช่แล้วล่ะเขาไม่ชอบซองยอลและถ้าเห็นซองจงมาด้วยเรื่องของซองยอลเขาก็ยิ่งไม่ชอบเหมือนกัน เป็นครั้งแรกที่แอลไม่สนใจที่จะตอบคำถาม ไม่กวนไม่ประสาท ไม่อะไรเลย ตอนนี้แค่กลับบ้านก็พอ
หึง..
“นี่! มยองซู!” ซองจงพูดเสียงดังลั่นโรงจอดรถแต่คนที่ถูกเรียกก็ไม่สนใจ ทำเมินและสตาร์ทรถขับออกไปต่อหน้าต่อตาซองจงเสียอย่างนั้น จากที่ไม่ชอบอยู่แล้วซองจงกลับไม่ชอบเข้าไปใหญ่
รถมอไซค์สีดำขับออกจากบริษัทอย่างเร็ว ภายใต้หมวกกันน็อคไอตากล้องหน้าหล่อนี่ก็ยังคงขมวดคิ้วไม่พอใจเหมือนเดิม ส่วนรถเก๋งสีดำที่ตามหลังเขามา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
รถของซองจงนั่นแหละ..
ถ้าซองจงไม่ได้คำตอบเป็นคนอื่นซองจงคงปล่อยๆมันไปแต่กับแอล ยังไงเขาก็ต้องได้คำตอบที่เขาต้องการให้ได้ และนี่ก็เป็นคนแรกเหมือนกัน
ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ สงสัยจะไม่ชอบไอนี่มากจริงๆจนอยากจะหาเรื่องให้ถึงที่สุด..
รถมอไซค์สีดำขับเร็วขึ้นก่อนจะเหลือบตามองกระจกรถ รถของคุณเลขาก็ยังคงตามอยู่ดี ยิ่งขับเร็วแค่ไหนไอรถเก๋งคันนั้นก็เร็วตามเช่นกัน
นี่คุณเลขาไม่กลัวตายเลยหรือไง รถเยอะแบบนี้ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย เป็นนักซิ่งเก่าหรือไงกัน
รถมอไซค์สีดำจอดที่โรงจอดรถของคอนโดที่ตัวเองอาศัยรถเก๋งคันนั้นก็เช่นกัน มือหนาถอดหมวกกันน็อคออกก่อนจะรีบดึงกุญแจรถ ใบหน้าหล่อหันไปมองรถเก๋งคันนั้นก่อนจะรีบลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง เช่นเดียวกันคุณเลขาก็ลงออกมาจากรถอย่างไม่เข้าใจ
“นี่นายเป็นโรคจิตปะ มาถึงคอนโดฉันเลยหรือไง” ซองจงรีบพูดขึ้นมาทันทีทำเอาหนุ่มตากล้องหันมองรอบๆก่อนจะยกนิ้วชี้มาตัวเอง
“ผม?”
จริงด้วย ผู้ชายผมบลอนด์ที่อยู่ชั้นเดียวกับเขาคือคุณเลขาซองจงจริงๆ ริมฝีปากหยักเข้ารูปยิ้มมุมปากน้อยๆ ซองจงที่กำลังโมโหที่ยังไม่ได้คำตอบจากตากล้องคนนี้แถมยังตามมายันคอนโดยิ่งโมโหกว่าเดิมเสียอย่างนั้น
“นี่นายตามฉันมายันคอนโดเลยหรอ”
“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับพี่”
“ผมก็อยู่ที่นี่นะ” เสียงทุ้มพูดจบซองจงก็ถลึงตาใส่เสียอย่างนั้น เขาจิ๊ปากตามสเต็ปอีกแล้ว จากหนุ่มตากล้องที่กำลังหัวเสียกับเรื่องซองจงกับนายแบบซองยอลคนนั้นกลายเป็นแอลที่กวนประสาทคนเดิม
“ ผมยอมตอบก็ได้ นายแบบคนนั้นว่าผมก่อนนะ แล้วก็เลิกถามต่อด้วยนะครับ” แอลยอมตอบคำถามที่ซองจงต้องการก่อนจะพูดกันไว้ว่าอย่าถามเขาอีก ซองจงกอดอกมองก่อนจะจิ๊ปากตามเช่นเดิม
“เกลียดจริงๆเลย”
“ดุจังเลย”
“นี่มยองซู ฉันเกลียดนายจริงๆนะ”
“รู้ไว้ด้วย!” พูดจบซองจงก็รีบเดินไปทางประตูทางเข้าคอนโด เขาหันมามองหนุ่มตากล้องก่อนจะทำตาขวางใส่ซะอย่างนั้นแต่แอลก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับการกระทำซองจงเลย มือหนาโบกมือบ้ายบายซองจงก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจ
เขาพอใจที่ได้แกล้งซองจงนี่แหละ..
น่ารักที่สุดเลย..
ϟ
มาลงแชปสามแล้วนะครับ อัพบ่อยอย่างถ่องแท้ ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยอย่างยิ่งนะครับไว้ว่างกว่านี้จะมาแก้ไขให้ทันทีครับ แล้วก็อย่าลืมคอมเมนท์ให้กำลังใจน้องกิมคนนี้ด้วยนะครับผม! #สตูดิโอแอลจง ♥♥♥
ความคิดเห็น