คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ϟ C H A P T E R 1 2 ϟ
ϟ 12 ϟ
-
“เมื่อไหร่จะคบกับผมหรอครับ”
ใบหน้าหล่อยังคงจ้องไปที่คนตรงหน้าอย่างตั้งใจ ริมฝีปากหยักที่ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ ถึงแม้แอลจะเขินนักเวลาโดนเพื่อนแซวหรือถามอะไรเกี่ยวกับซองจง แต่พอแอลได้อยู่กับคนที่เขาต้องที่จะอยากอยู่ด้วยอย่างซองจง
ไม่ว่าจะเขินแค่ไหนยังไงก็ต้องทำหน้าตายเอาไว้
แอลไม่อยากได้ฉายาปอดแหกแล้วแจกนกหรอกนะ..
“...”
ใบหน้าสวยที่นิ่งเงียบ เขาไม่พูดอะไรหลังจากที่ได้ยินคำถามที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากของไอตากล้องนี่เลยสักนิด
“พี่ครับ”
“พี่”
“ฉัน..”
“ฉันจะยอมคบกับนายก็ต่อเมื่อนายทำให้ฉันมั่นใจนั่นแหละ”
“มั่นใจในทุกๆเรื่องเลยน่ะ” แต่เหมือนคนปากร้ายปากแข็งอย่างซองจงจะต้องยอมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา คำตอบซองจงไม่ได้ทำให้แอลหมดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว
ใบหน้าคมที่จ้องซองจงเขาค่อยๆฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด ยิ้มที่ตามด้วยเสียงหัวเราะของแอลเอง เขาคิดว่าตัวเองจะโดนปฏิเสธเหมือนคนก่อนๆที่เขาเคยจีบเสียอีก
ถ้าเขาโดนปฏิเสธอีกครั้งคงต้องพิจารณาตัวเองแล้วแหละ..
ถึงจะไม่ใช่คำว่าคบ แต่แบบนี้ก็มีโอกาสใช่ไหมล่ะ
“พี่พูดจริงนะครับ!”
“อืม”
“งั้น.. สิ่งแรกที่พี่ควรมั่นใจคือผมจะจริงจังกับพี่คนเดียวครับ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ตอนนี้แอลดีใจมากๆ ดีใจจนแทบบ้า แต่โรบอทอย่างเลขาซองจงก็ยังคงนิ่งอยู่แบบนั้น
ถึงจะตอบออกไปแบบนั้น..
แต่เขาก็ยังโกรธแอลอยู่ดี..
“นายกลับไปเถอะ ฉันอยากทำงานคนเดียวอ่ะ” จากที่พูดประโยคที่ทำให้แอลดีใจแล้วเขาควรตบท้ายด้วยคำพูดไม่ดีใส่แอลบ้าง คงคอนเซ็ปต์ปากร้ายไว้นั่นแหละ
แอลยิ้มเจื่อนๆเลยล่ะ..
“อ่า...”
“ก็ได้ครับ..” คำตอบยอมรับที่ออกมาจากปากของหนุ่มตากล้องอย่างแผ่วเบา เขาโดนคนที่พูดให้เขาดีใจไล่อีกแล้ว ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ก่อนจะหันหลังเดินไปที่ประตู
ร่างสูงจับลูกบิดประตูก่อนเขาจะหันไปมองคุณเลขาอีกครั้ง ในใจที่คิดแค่ว่าเขากำลังมองเราอยู่..
แต่ก็ไม่..
“..เฮ้อ” เสียงพ่นลมหายใจที่ดังออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างสูงรีบเปิดประตูออกจากห้องทันทีก่อนจะกระแทกประตูซะเสียงดัง
แอลกำลังโชว์อาการของคนขี้งอนออกมา แถมยังทำเสียงดังตึงตังเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กอยากกินขนมอีก
เวลาทำแบบนี้ กลัวซองจงจะไม่ชอบมากยิ่งขึ้น..
เสียงประตูที่ปิดอย่างแรงทำเอาร่างบางเงยหน้ามองทันที ซองจงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองแจกันที่มีดอกกุหลาบเพียงสองดอกอยู่ในนั้น
แอลคงไม่ได้สังเกตตอนเข้ามาหาซองจงแต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะซองจงจงก็ไม่ได้อยากให้ไอตากล้องนั่นเห็นสักเท่าไหร่
ความจริงแล้วมันต้องมีดอกที่สาม..
นี่แหละสาเหตุที่ซองจงยังคงโกรธแอลอยู่..
เสียง Kakao Talk ดังขึ้นก่อนใบหน้าสวยจะหันไปมองตามเสียงข้อความจากแอพโผล่ขึ้นมา และคนที่ส่งข้อความมาก็คนเดิม
มยองซู..
[พี่ไล่ผม..] 04:31 PM
[ผมเสียใจนะครับ ㅠㅠ] 04:31 PM
ฟอร์มจัดแค่ไหนสุดท้ายคนที่โตกว่าก็ต้องเอาชนะเด็กอย่างแอลได้อยู่ดี ข้อความที่ส่งมาอีโมจิที่น่าเอ็นดู ใบหน้าสวยจากที่นิ่งๆริมฝีปากสวยกลับคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
นิ้วเรียวสวยปลดล็อคหน้าจอก่อนจะใช้สายตาจ้องไปที่หน้าจอสี่เหลี่ยม นิ้วที่สัมผัสหน้าจออย่างตั้งใจ ซองจงพยักหน้าทวนข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไปก่อนจะกดส่งทันที
“ฉันไม่แคร์หรอกนะ” 04:33 PM
Read
[แต่ผมน่ะ..]
[แคร์พี่มากๆนะครับ.. ㅠㅠ]
[เป็นอะไรก็บอกผมสิครับ] 04:34 PM
ซองจงอ่านข้อความของคนที่เพิ่งตอบมาก่อนหัวใจที่เต้นปกติมันดันเต้นเร็วและแรงขึ้นอีกครั้ง ริมีปากสวยรีบเม้มเข้าหากัน นิ้วเรียวรีบทำหน้าที่พิมพ์ข้อความและส่งข้อความไป
“ฉันก็ปกติ”
“สงสัยช่วงนี้ฉันทำตัวไม่ค่อยปกติใส่นายสินะ นายถึงเหลิงแบบนี้น่ะ” 04:35 PM
Read
…
พอซองจงส่งข้อความไปอีกฝ่ายก็ขึ้นอ่านทันทีเหมือนเปิดหน้าสนทนาของซองจงค้างไว้ แต่คราวนี้เหมือนจะไม่ได้ตอบแล้วล่ะ..
04:50 PM
…
ไม่มีวี่แววว่าจะตอบสินะ
ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ซองจงลุกขึ้นเก็บของอย่างหงุดหงิดใบหน้าที่แสนจะไม่สบอารมณ์ สายตาที่ยังคงมองไปทางหน้าจอสี่เหลี่ยมตลอดเวลา
ไม่ตอบ..
อ่านไม่ตอบเลยสินะ..
จากที่โกรธอยู่แล้วซองจงกลับยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม ซองจงไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้งกับอีแค่อ่านไม่ตอบ แต่พอกับแอลแล้วมันทำให้ซองจงเครียดขนาดนี้เลยหรอ
ไม่ชอบเลย
05:15 PM
ร่างบางที่กำลังบังคับรถเก๋งสีดำของตัวเอง ใบหน้าสวยที่ขมวดคิ้วหงุดหงิดมาตั้งแต่ในบริษัท แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนซองจงก็ยังคงรอบางอย่างอยู่นั่นแหละ
ข้อความ..
วัตถุสี่เหลี่ยมที่ไม่มีการสั่นหรือแจ้งเตือนข้อความอะไรออกมายิ่งทำซองจงหงุดหงิด ซองจงไม่เคยหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆนะ
คนรอมันเป็นแบบนี้หรอ?
รถเก๋งสีดำที่เคลื่อนตัวเข้าไปที่โรงจอดรถของคอนโด ซองจงใช้เวลาอยู่นานในการจอดรถของตัวเอง ใบหน้าสวยหันไปมองรถมอเตอร์ไซค์สีดำที่กำลังจอดอยู่ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
ถึงแล้วหรอ..
ซองจงนึกในใจพร้อมกับนั่งเงียบๆในรถของตัวเองสักพักก่อนร่างบางจะออกมาจากรถ มืออีกข้างปิดประตูอย่างแรงก่อนร่างบางจะเดินเข้าตัวคอนโดไปด้วยความหงุดหงิด
โคตรโกรธเลย..
ใบหน้าสวยที่เดินไปที่ห้องของตัวเองอย่างไม่พอใจ คิ้วที่ขมวดจนแทบติดกันตั้งแต่อยู่บนรถ ส่วนมือที่ถือสมาร์ทโฟนก็เริ่มกำแน่นขึ้น ซองจงหยุดที่หน้าห้องของตัวเองก่อนนิ้วเรียวจะยกขึ้นมากดพาสเวิร์ด
Kakao Talk!
เสียงแจ้งเตือนของแอพลิเคชั่นดังขึ้นมือที่จะกดพาสเวิร์ดกลับชะงักทันที เขารีบยกวัตถุสี่เหลี่ยมขึ้นมาดูทันที
[ขอโทษที่ไม่ได้ตอบพี่นะครับ]
[มาเจอกันที่ร้านกาแฟข้างๆคอนโดได้ไหมครับ]
[รีบๆลงมานะครับ..] 05:30 PM
จากที่หงุดหงิดมาตั้งนานเขากลับโยนความหงุดหงิดนั้นออกไป ใบหน้าสวยจากที่ดูไม่พอใจกลับค่อยๆเผลอรอยยิ้มออกมาซะอย่างนั้น
ถึงจะชวนแบบนี้ยังไงก็ไม่หายโกรธหรอกนะ..
♡
L’s Part
ผมนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟข้างๆคอนโดมาสักพัก บรรยากาศของร้านที่โรแมนติกเสียงเพลงในร้านที่คลอเบาๆ แถมบรรยากาศข้างนอกจะเริ่มหนาวๆอีกต่างหาก ผมหวังว่ามันจะประทับใจพี่ซองจง..
ผมรีบส่งข้อความเรียกพี่เขาให้มาหาผมก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆดอกกุหลาบที่อยู่บนโต๊ะ โต๊ะของผมอยู่ริมกระจกพอจะเห็นบรรยากาศข้างนอกได้ ผู้คนที่เดินไปมาจนทำให้ผมอยากจะเปลี่ยนที่ไปตรงอื่น
แต่ก็เลือกแล้วนี่เนอะ..
วันนี้พี่ซองจงพูดจาไม่ดีกับผมหลายรอบมาก ถ้าเป็นคนอื่นคงโกรธจนตัวสั่นเลิกคุยกับพี่เขาไปนานแล้ว แต่คนอื่นนั่นไม่ใช่ผมและผมก็เชื่อว่าผมไม่มีวันหนีพี่เขาไปไหนแน่นอน
ผมมองดอกกุหลาบบนโต๊ะก่อนจะหยิบมันขึ้นมา ผมมองเจ้าดอกกุหลาบสีแดงสดก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เจ้าดอกกุหลาบไม่น่ารักทำไมถึงทำให้พี่ซองจงโกรธผมด้วย..
“ผมขอโทษครับพี่.. ทีหลังจะไม่ลืมแล้ว” ผมพูดออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบไปตรงหน้า ตอนนี้ผมกำลังซ้อมง้อคุณโรบอทซองจงอยู่นั่นแหละ
ทำแบบไหนก็ไม่ถูกใจเลยสักนิด..
“อะ เอาไปของพี่อ่ะ” ผมลองเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วโยนดอกกุหลาบสีสวยลงโต๊ะก่อนจะรีบหยิบขึ้นมา ผมถอนหายใจจนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเอง
ถ้าทำแบบเมื่อกี้มีหวังตายแน่..
ผมซ้อมอยู่กับพี่ซองจงที่เป็นเงาตรงหน้าของผม ก็.. ซ้อมคนเดียวนั่นแหละ ผมทำจนลืมไปเลยว่าตัวเองอยู่ริมกระจก แถมยังมีคนมองผมแปลกๆอีกต่างหาก
ผมไม่ใช่คนบ้านะครับ
ผมนั่งรอพี่ซองจงไปประมาณสิบกว่านาที สายตาของผมเหลือบไปเห็นผู้ชายร่างบางเหมือนผู้หญิง ผมสีบลอนด์คุ้นตาเดินตรงมาที่ร้านกาแฟที่ผมนั่งอยู่ตอนนี้
แต่พี่เขาใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว อากาศเริ่มจะเปลี่ยนแปลงแล้วด้วย ไม่แปลกที่คนที่ชอบพี่เขาอย่างผมจะเป็นห่วง เวลาเห็นพี่ซองจงเป็นแบบนี้ผมยิ่งอยากดูแลนานๆ
ผมรีบยืดตัวตรงพร้อมกับรีบหยิบดอกกุหลาบไว้ใต้โต๊ะ สีหน้าของพี่ซองจงดูไม่ค่อยสบอารมณ์นักให้ผมเดาเล่นๆ พี่คงยังโกรธผมอยู่แน่ๆ
พี่ซองจงผลักประตูร้านกาแฟเข้ามา เขามองรอบๆเหมือนกำลังหาผมก่อนใบหน้าสวยๆนั่นจะหยุดมามองที่ผมจากใบหน้าที่หงุดหงิดเขาก็หงุดหงิดใส่ผมกว่าเดิมอีก
นี่พี่เขาอยากให้ผมจีบจริงๆปะเนี่ย..
“พี่มาช้าจังครับ” ผมรีบเอ่ยปากถามทันทีที่พี่ซองจงเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าของผม พี่เขากอดอกมองผมอีกครั้งไม่ยอมพูดอะไรเลยเอาแต่ขมวดคิ้วใส่ผมอยู่นั่น
“มีอะไร”
“ผมเลือกที่โรแมนติกปะครับ” ผมรีบถามอีกครั้งก่อนพี่เขาจะส่งสายตาไม่พอใจใส่ผมอีกครั้ง เหมือนผมจะกลัวนะครับแต่ไม่เลย ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งอยากเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิมซะอีก
“ถ้าไม่มีอะไรฉันไปละ” พี่ซองจงทำท่าจะลุกออกจากเก้าอี้
“ไม่ๆ คือผมเอาดอกกุหลาบมาให้ครับ” ผมพูดออกมาอย่างเร็วก่อนจะยื่นดอกกุหลาบสีแดงสดไปให้คนตรงหน้าของผม จากที่เขาทำท่าจะลุกขึ้นกลับนั่งลงไปอย่างเดิม ซึ่งมันทำให้ผมสบายใจว่าพี่ซองจงจะไม่หนีผม
“…”
“คือเมื่อเช้าร้านที่ผมซื้อเขาไม่เปิดน่ะครับ..”
“แต่ตอนเย็นเขาดันเปิดผมเลยซื้อมาให้พี่ครับ”
“ผมไม่ได้ลืมนะครับ ผมจำไว้ในสมองแล้วว่าการเอาดอกกุหลาบให้พี่วันละดอกคือหน้าที่ใหญ่ที่ผมต้องทำเวลาจะอยู่กับพี่”
ผมพูดไปยาวเหยียดก่อนพี่ซองจงจะรับดอกไม้ในมือของผมไป ผมสังเกตจากใบหน้าพี่เขาจากที่หงุดหงิดพี่เขากลับดูสดใสขึ้นมาเหมือนดอกไม้ที่โดนน้ำ
ที่ผมอธิบายไปมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ผมไม่เคยลืมว่าตัวเองต้องทำอะไรนะจะเอาใจใครมันต้องทำหน้าที่ที่ตัวเองเคยพูดสิ แต่เมื่อเช้าไอร้านนี้มันไม่เปิดจริงๆนี่นา..
“ขอโทษที่ดอกที่สามไม่ได้อยู่ในแจกันห้องทำงานพี่นะครับ”
“แต่เก็บไว้ในห้องนอนพี่ก็ได้นี่ เนอะ”
ผมพูดต่อก่อนพี่ซองจงจะเอียงคอเล็กน้อยเขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความสงสัยแน่ๆล่ะ ผมยิ้มให้พี่ซองจงจนตาแทบปิดแต่พี่เขาก็ดันทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี
“รู้ได้ยังไง”
“เห็นรึไง”
“สนใจด้วยหรอ”
คำถามสั้นๆของพี่ซองจงที่ทำเอาผมอยากจะจับพี่เขาฟัดมันตรงนี้ สำหรับผมแล้วพี่เขาเก็บอาการไม่เก่งเลยด้วยซ้ำ ดูก็รู้ว่าน้อยใจ รู้ว่าโกรธแล้วก็กำลังอยากให้สนใจ
“ผมเก็บรายละเอียดนะครับพี่โรบอทซองจง ถ้ายืนตรงประตูมองตรงไปจะเป็นรูปครอบครัวของพี่ ถ้าเดินเข้าไปหน่อยจะเจอผลงานของพี่ ส่วนตรงที่ผมนั่งถ้าหันหลังไปก็จะเห็นแจกันที่พี่เก็บดอกไม้ของผมไว้”
ผมพูดรายละเอียดทุกอย่างถี่ยิบ ผมน่ะถ้าสนใจใครแล้วฝุ่นบนพื้นยังจำเลยว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง ผมยิ้มออกมาก่อนพี่ซองจงจะลุกขึ้นจากเกาอี้ตรงหน้าผม
“เฮ้ยพี่..”
“ฉันจะไปสั่งกาแฟเฉยๆ เอาปะ” เสียงใสของพี่ซองจงดังออกมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนผมจะส่ายหัวเบาๆ ความจริงแล้วผมมาที่นี่เพื่อมาแค่เอาดอกไม้ให้พี่ซองจง
คือมันก็คือพล็อพนั่นแหละ..
“ไม่เป็นไรครับพี่ ไปหาอะไรกินที่อื่นดีกว่า”
ผมตัดสินใจพูดออกไปก่อนพี่ซองจงจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ผมหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะก่อนจะมองบรรยายกาศข้างนอก แดดที่ส่องมาไม่ใช่แดดที่ทำให้ร้อนมากนักก็แค่แดดตอนเย็น แถมอากาศก็เริ่มหนาวอีกด้วย
“?”
“คือว่าผมไม่ชอบกินกาแฟครับ ที่มาแค่มานัดพี่เฉยๆเดี๋ยวไปหาอะไรกินที่อื่นอีกที”
“มากินพื้นที่ชาวบ้านที่เขาจะมานั่งกันนี่นะ?”
“ครับ ร้านมันกว้าง”
ไม่ได้กวนตีนนะ แต่คิดอะไรก็ชอบทำมันตอนนั้นเลยนี่น่า..
End of L Part
บรรยายของกรุงโซลเริ่มเข้าหน้าหนาวเข้าทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน ร่างสูงที่เดินข้างกับร่างบางมองรอบๆก่อนซองจงจะยกฝ่ามือขึ้นมาลูบต้นแขนตัวเอง ลมหายใจเริ่มมีควันออกจากปากนี่มันหนาวลงมากจริงๆนะ เสื้อเชิ้ตตัวเดียวของซองจงเอาไม่อยู่แน่ๆ
“หนาวหรอครับพี่” เสียงของแอลเอ่ยถามขึ้นมาก่อนใบหน้าสวยจะหันไปมองพร้อมกับพยักหนาแทนคำตอบ แอลหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นท่าทางของซองจง
“พี่เป็นพวกไม่ดูแลตัวเองหรอครับ ไม่สิ แบบว่าพี่ไม่ค่อยจะสนใจข่าวสารบ้างหรอ” แอลพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่บีบลักยิ้มออกมา ดวงตาเหลือบมองก่อนจะเบือนหน้าหันไปทางอื่น
“พี่น่ะ ต้องดูแลตัวเองแล้วก็ฟังข่าวสารเกี่ยวกับอากาศของกรุงโซลด้วยนะครับ ปีนี้หนาวเร็วด้วยแล้วก็หนาวกว่าปีอื่น ถ้าพี่ไม่ดูแลตัวเองใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวกากๆแบบนี้ไปไหนมาไหนพี่คงเป็นมนุษย์น้ำแข็งแน่ๆอ่ะ”
แอลกอดอกพูดต่อ จากแต่ก่อนที่ดูพูดมากอยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาเริ่มพูดมากกว่าเดิมเสียอีก อายุยี่สิบที่ชอบพูดเหมือนผู้ใหญ่อายุสามสิบอัพ ซองจงที่มองทางอื่นหันมาทำตาขวางใส่ก่อนจะจิ๊ปากใส่คนข้างๆ
“จู้จี้”
“ต้องจู้จี้สิครับ ถ้าพี่เป็นแบบนี้ผมยิ่งต้องดูแลนะ” แอลพูดออกมาตรงๆอย่างไม่คิดอะไร เขารู้ว่าตอนนี้เขายังมีความสัมพันกับซองจงแค่พี่น้อง เจ้านายกับพนักงาน
ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อย
“ถามจริงนายเป็นคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร” น้ำเสียงของเลขาซองจงเริ่มดูหงุดหงิดแต่หนุ่มตากล้องก็ยังคงหน้าตายทำหูทวนลมไปแบบนั้น
“ฐานะคนที่ห่วงคุณ”
“…”
“อ้วกเหอะ” พูดจบซองจงรีบเร่งฝีเท้าเดินห่างจากแอลทันทีแต่ถึงยังไงไอคำพูดเสี่ยวๆแบบนั้นก็กลับทำให้ซองจงยิ้มออกมาอยู่ดี เสียงหัวเราะของหนุ่มตากล้องดังขึ้นทันทีก่อนเขาจะรีบเร่งฝีเท้าตามซองจง
แค่นี้ซองจงก็หายเหงาแล้วล่ะ..
“กินแต่ไก่ทอด กินมากอกใหญ่นะครับ”
“ทะลึ่งหรอ”
“เป็นเก๊าก็ได้อะ” เสียงของทั้งคู่ดังอยู่ในลิฟต์ของคอนโด หลังจากที่เดินไปเดินมาก็ได้เพียงแค่ไก่ทอดกล่องใหญ่บวกกับโซจูแถมเป๊ปซี่อีกด้วย
“นายนี่ขี้บ่นมาตั้งแต่เกิดเลยปะ”
“จู้จี้”
“ที่ผมพูดเพราะเป็นห่วงหมดเลยนะ โห” แอลเอ่ยออกมาก่อนซองจงจะทำเหมือนไม่ได้ยินเขากอดอกมองไปทางกำแพงของลิฟต์ มองจนหนุ่มตากล้องต้องหันไปมองบ้าง
“มันมีหน้าผมหรอในนั้นอ่ะ”
“ไอบ้านี่!” ซองจงรีบหันมาง้างมือใส่คนที่กำลังก่อกวนเขาอยู่ แอลรีบเอียงหัวออกห่างจากฝ่ามือเพชฌฆาตตรงนั้น ใบหน้าหล่อที่ยักคิ้วทีสองที ท่าทางที่กวนบาทาทำเอาซองจงยิ่งอยากจะยกรองเท้ามาฟาดไอบ้านี่แรงๆ
“พี่เคยมีแฟนปะ”
“ไม่เคยอ่ะ”
“แล้วคุณซองยอลหายไปไหนอ่ะช่วงนี้”
“…”
“เห็นว่าไปถ่ายแบบต่างประเทศ” ซองจงเงียบไปครู่หนึ่งเขาทำท่าคิดก่อนจะตอบออกมา หนุ่มตากล้องทำแค่เพียงพยักหน้าก่อนจะยืนคิดอะไรบางอย่าง
“แล้วเขาไปแบบไม่กลับมาเลยปะ”
“จะบ้าหรือไง” ซองจงถลึงตาใส่คำถามกวนประสาทของหนุ่มตากล้องข้างๆ ประตูลิฟต์ที่เปิดออกและทั้งสองคนก็เดินตรงไปที่ห้อง แต่เหมือนจะหยุดที่ห้องซองจงนะ
“ผมไม่อยากเห็นหน้าเขาอ่ะ”
“นายก็เอาปี๊บคลุมหัวเดินดิ”
“…”
“พี่เอาฮาหรือเปล่าครับ ถ้าผมเอามาคลุมคุณซองยอลนั่นแหละที่จะไม่เห็นหน้าผม” แอลยืนพูดข้างๆมองคนที่กำลังกดพาสเวิร์ดเข้าห้องอย่างตั้งใจ
“พี่ใส่พาสเวิร์ดว่าอะไรอ่ะ”
“ยุ่ง”
“พี่ให้ผมเข้าห้องพี่แล้วหรอ” หลังจากที่ถามไปซองจงก็ว่า แอลจึงถามอีกครั้งใบหน้าหล่อที่นิ่งแต่เต็มไปด้วยคำว่ากวนตีนตรงหน้านี่ทำเอาซองจงอยากจะยกมือขึ้นมาฟาดแอลไปอีกหลายๆที
“งั้นนายกลับห้องตัวเองไปเลยไป” พูดจบนิ้วเรียวยกขึ้นชี้ไปที่ห้องของหนุ่มตากล้อง แอลมองตามที่ร่างบางชี้ก่อนจะรีบส่ายหัวรัวๆแทนคำตอบ เสียงจิ๊ปากซองจงดังอีกครั้งก่อนมือหนาจะแกว่งถุงไปมา
ประตูห้องถูกเปิดออกก่อนจะของห้องจะเดินเข้าไปก่อนพร้อมกับหนุ่มตากล้องอย่างแอลที่ตามหลังเข้าไป มือหนาดันประตูให้ปิดลง ซองจงก้มตัวลงถอดรองเท้าก่อนจะยกขึ้นมาวางบนชั้นวางรองเท้า
แต่แอลเหมือนจะชินกับนิสัยของตัวเอง..
แอลยืนมองนิ่งๆก่อนจะถอดรองเท้าด้วยเท้าของตัวเองนั่นแหละ ซองจงที่เดินเข้าไปหันมามองก่อนจะทำตาเขียวใส่ทันที รองเท้าของหนุ่มตากล้องที่ถอดแล้วเกะกะที่หน้าประตูซองจงเดินเท้าเอวเข้ามาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับนิ้วเรียวที่หยิกต้นแขนของคนตรงหน้า
“โอ้ย!”
“ว่าแต่คนอื่น ไอสล็อต! ทำดีๆเลยนะ!” ซองจงชี้ลงไปที่รองเท้าของหนุ่มตากล้อง ใบหน้าหล่อที่ทำหน้าหงอยเสียงบ่นงึมงำเบาๆก่อนร่างสูงจะก้มลงไปวางรองเท้าของตัวเองดีๆ
ซองจงกอดอกมองก่อนจะเดินนำเข้าไปเตรียมของรอ แอลเดินหลังโก่งๆด้วยความขี้เกียจเข้ามามือหนาที่ถือถุงไก่ทอดวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเหลือบตามองขวดโซจูเช่นกัน
ซองจงไม่ดูแลตัวเองจริงๆ
“พี่ทำไมถึงชอบดื่มของมึนเมานักครับ” แอลเอ่ยปากถามทันทีเมื่อร่างบางถือจานถือแก้วมาไว้บนโต๊ะ เขาวางทุกอย่างไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มตากล้องตรงหน้า
“ผู้ชายทุกคนก็ต้องดื่มนี่นา ฉันไม่ดีขนาดนั้นหรอกนะ”
“ผมรู้ครับ”
“ทำไมนายไม่ดื่มหรอ”
“ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะต่างหาก อีกอย่าง..”
“พอเห็นสภาพพี่เมื่อวานนั้นผมก็เริ่มไม่อยากดื่มเลย” แอลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนร่างบางจะกอดอกมองเขาด้วยความสงสัย ใบหน้าหล่อค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะพูดต่อ
“ไม่ใช่เพราะมันอันตรายนะครับ”
“แต่ผมเห็นแล้วอยากจะดูแลพี่มากกว่า”
ϟ
แชป12มาแล้วเย่ๆ ช่วงนี้อาจจะมาแนวอัพวันเว้นวันนะค้าบ หรือสองวันแชปนึงตามเวลาที่ของเราเอง รีบมาเชียร์ให้คุณซองจงคบกับเจ้าแอลกันไวๆนะครับ ส่วนเรื่องพิมพ์ผิดต้องขออภัยด้วยนะค้าบเพราะเราเป็นคนพิมพ์เร็วและไม่ค่อยเงยหน้ามาอ่านเท่าไหร่เลยมึนๆไปนิด แต่จะหาเวลาว่างจริงๆมานั่งตรวจสอบแล้วแก้ไขให้ทีละแชปเลยงับ!
♥ ฝากเมนท์ให้กำลังใจ+สกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ด้วยนะครับ ตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆเลย
♥ พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
ความคิดเห็น