ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #13 : ϟ C H A P T E R 1 2 ϟ

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59







    ϟ 12 ϟ
    -

     

                เมื่อไหร่จะคบกับผมหรอครับ

     

                ใบหน้าหล่อยังคงจ้องไปที่คนตรงหน้าอย่างตั้งใจ ริมฝีปากหยักที่ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ ถึงแม้แอลจะเขินนักเวลาโดนเพื่อนแซวหรือถามอะไรเกี่ยวกับซองจง แต่พอแอลได้อยู่กับคนที่เขาต้องที่จะอยากอยู่ด้วยอย่างซองจง

     

                ไม่ว่าจะเขินแค่ไหนยังไงก็ต้องทำหน้าตายเอาไว้

     

              แอลไม่อยากได้ฉายาปอดแหกแล้วแจกนกหรอกนะ..

     

              ...

     

                ใบหน้าสวยที่นิ่งเงียบ เขาไม่พูดอะไรหลังจากที่ได้ยินคำถามที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากของไอตากล้องนี่เลยสักนิด

     

                พี่ครับ

     

                พี่

     

                ฉัน..”

                ฉันจะยอมคบกับนายก็ต่อเมื่อนายทำให้ฉันมั่นใจนั่นแหละ

     

                มั่นใจในทุกๆเรื่องเลยน่ะ แต่เหมือนคนปากร้ายปากแข็งอย่างซองจงจะต้องยอมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา คำตอบซองจงไม่ได้ทำให้แอลหมดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                ใบหน้าคมที่จ้องซองจงเขาค่อยๆฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด ยิ้มที่ตามด้วยเสียงหัวเราะของแอลเอง เขาคิดว่าตัวเองจะโดนปฏิเสธเหมือนคนก่อนๆที่เขาเคยจีบเสียอีก

     

                ถ้าเขาโดนปฏิเสธอีกครั้งคงต้องพิจารณาตัวเองแล้วแหละ..

     

              ถึงจะไม่ใช่คำว่าคบ แต่แบบนี้ก็มีโอกาสใช่ไหมล่ะ

     

                พี่พูดจริงนะครับ!”

     

                อืม

     

                งั้น.. สิ่งแรกที่พี่ควรมั่นใจคือผมจะจริงจังกับพี่คนเดียวครับเสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ตอนนี้แอลดีใจมากๆ ดีใจจนแทบบ้า แต่โรบอทอย่างเลขาซองจงก็ยังคงนิ่งอยู่แบบนั้น

     

                ถึงจะตอบออกไปแบบนั้น..

     

              แต่เขาก็ยังโกรธแอลอยู่ดี..

     

              นายกลับไปเถอะ ฉันอยากทำงานคนเดียวอ่ะ จากที่พูดประโยคที่ทำให้แอลดีใจแล้วเขาควรตบท้ายด้วยคำพูดไม่ดีใส่แอลบ้าง คงคอนเซ็ปต์ปากร้ายไว้นั่นแหละ

     

                แอลยิ้มเจื่อนๆเลยล่ะ..

     

                อ่า...

                ก็ได้ครับ..” คำตอบยอมรับที่ออกมาจากปากของหนุ่มตากล้องอย่างแผ่วเบา เขาโดนคนที่พูดให้เขาดีใจไล่อีกแล้ว ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ก่อนจะหันหลังเดินไปที่ประตู

     

                ร่างสูงจับลูกบิดประตูก่อนเขาจะหันไปมองคุณเลขาอีกครั้ง ในใจที่คิดแค่ว่าเขากำลังมองเราอยู่..

     

                แต่ก็ไม่..

     

                ..เฮ้อ เสียงพ่นลมหายใจที่ดังออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างสูงรีบเปิดประตูออกจากห้องทันทีก่อนจะกระแทกประตูซะเสียงดัง

                แอลกำลังโชว์อาการของคนขี้งอนออกมา แถมยังทำเสียงดังตึงตังเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กอยากกินขนมอีก

     

                เวลาทำแบบนี้ กลัวซองจงจะไม่ชอบมากยิ่งขึ้น..

     

               

     

                เสียงประตูที่ปิดอย่างแรงทำเอาร่างบางเงยหน้ามองทันที ซองจงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองแจกันที่มีดอกกุหลาบเพียงสองดอกอยู่ในนั้น

     

                แอลคงไม่ได้สังเกตตอนเข้ามาหาซองจงแต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะซองจงจงก็ไม่ได้อยากให้ไอตากล้องนั่นเห็นสักเท่าไหร่

     

                ความจริงแล้วมันต้องมีดอกที่สาม..

     

                นี่แหละสาเหตุที่ซองจงยังคงโกรธแอลอยู่..

     

                เสียง Kakao Talk ดังขึ้นก่อนใบหน้าสวยจะหันไปมองตามเสียงข้อความจากแอพโผล่ขึ้นมา และคนที่ส่งข้อความมาก็คนเดิม

     

                มยองซู..

     

              [พี่ไล่ผม..] 04:31 PM

                [ผมเสียใจนะครับ ] 04:31 PM

     

                ฟอร์มจัดแค่ไหนสุดท้ายคนที่โตกว่าก็ต้องเอาชนะเด็กอย่างแอลได้อยู่ดี ข้อความที่ส่งมาอีโมจิที่น่าเอ็นดู ใบหน้าสวยจากที่นิ่งๆริมฝีปากสวยกลับคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

     

                นิ้วเรียวสวยปลดล็อคหน้าจอก่อนจะใช้สายตาจ้องไปที่หน้าจอสี่เหลี่ยม นิ้วที่สัมผัสหน้าจออย่างตั้งใจ ซองจงพยักหน้าทวนข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไปก่อนจะกดส่งทันที

     

                ฉันไม่แคร์หรอกนะ04:33 PM

     

                Read

     

              [แต่ผมน่ะ..]

                [แคร์พี่มากๆนะครับ.. ]

                [เป็นอะไรก็บอกผมสิครับ] 04:34 PM

     

                ซองจงอ่านข้อความของคนที่เพิ่งตอบมาก่อนหัวใจที่เต้นปกติมันดันเต้นเร็วและแรงขึ้นอีกครั้ง ริมีปากสวยรีบเม้มเข้าหากัน นิ้วเรียวรีบทำหน้าที่พิมพ์ข้อความและส่งข้อความไป

     

                ฉันก็ปกติ

                สงสัยช่วงนี้ฉันทำตัวไม่ค่อยปกติใส่นายสินะ นายถึงเหลิงแบบนี้น่ะ” 04:35 PM

     

                Read

     

             

     

                พอซองจงส่งข้อความไปอีกฝ่ายก็ขึ้นอ่านทันทีเหมือนเปิดหน้าสนทนาของซองจงค้างไว้ แต่คราวนี้เหมือนจะไม่ได้ตอบแล้วล่ะ..

     

                04:50 PM

     

             

                ไม่มีวี่แววว่าจะตอบสินะ

     

                ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ซองจงลุกขึ้นเก็บของอย่างหงุดหงิดใบหน้าที่แสนจะไม่สบอารมณ์ สายตาที่ยังคงมองไปทางหน้าจอสี่เหลี่ยมตลอดเวลา

     

                ไม่ตอบ..

     

              อ่านไม่ตอบเลยสินะ..

     

              จากที่โกรธอยู่แล้วซองจงกลับยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม ซองจงไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้งกับอีแค่อ่านไม่ตอบ แต่พอกับแอลแล้วมันทำให้ซองจงเครียดขนาดนี้เลยหรอ

     

                ไม่ชอบเลย

     

               

                05:15 PM

     

              ร่างบางที่กำลังบังคับรถเก๋งสีดำของตัวเอง ใบหน้าสวยที่ขมวดคิ้วหงุดหงิดมาตั้งแต่ในบริษัท แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนซองจงก็ยังคงรอบางอย่างอยู่นั่นแหละ

     

                ข้อความ..

     

                วัตถุสี่เหลี่ยมที่ไม่มีการสั่นหรือแจ้งเตือนข้อความอะไรออกมายิ่งทำซองจงหงุดหงิด ซองจงไม่เคยหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆนะ

     

                คนรอมันเป็นแบบนี้หรอ?

     

     

     

                รถเก๋งสีดำที่เคลื่อนตัวเข้าไปที่โรงจอดรถของคอนโด ซองจงใช้เวลาอยู่นานในการจอดรถของตัวเอง ใบหน้าสวยหันไปมองรถมอเตอร์ไซค์สีดำที่กำลังจอดอยู่ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา

     

                ถึงแล้วหรอ..

     

                ซองจงนึกในใจพร้อมกับนั่งเงียบๆในรถของตัวเองสักพักก่อนร่างบางจะออกมาจากรถ มืออีกข้างปิดประตูอย่างแรงก่อนร่างบางจะเดินเข้าตัวคอนโดไปด้วยความหงุดหงิด

     

                โคตรโกรธเลย..

     

              ใบหน้าสวยที่เดินไปที่ห้องของตัวเองอย่างไม่พอใจ คิ้วที่ขมวดจนแทบติดกันตั้งแต่อยู่บนรถ ส่วนมือที่ถือสมาร์ทโฟนก็เริ่มกำแน่นขึ้น ซองจงหยุดที่หน้าห้องของตัวเองก่อนนิ้วเรียวจะยกขึ้นมากดพาสเวิร์ด

     

                Kakao Talk!

     

                เสียงแจ้งเตือนของแอพลิเคชั่นดังขึ้นมือที่จะกดพาสเวิร์ดกลับชะงักทันที เขารีบยกวัตถุสี่เหลี่ยมขึ้นมาดูทันที

     

                [ขอโทษที่ไม่ได้ตอบพี่นะครับ]

                [มาเจอกันที่ร้านกาแฟข้างๆคอนโดได้ไหมครับ]

                [รีบๆลงมานะครับ..] 05:30 PM

     

                จากที่หงุดหงิดมาตั้งนานเขากลับโยนความหงุดหงิดนั้นออกไป ใบหน้าสวยจากที่ดูไม่พอใจกลับค่อยๆเผลอรอยยิ้มออกมาซะอย่างนั้น

     

              ถึงจะชวนแบบนี้ยังไงก็ไม่หายโกรธหรอกนะ..

     

     

     

     

     

     

                L’s Part

     

                ผมนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟข้างๆคอนโดมาสักพัก บรรยากาศของร้านที่โรแมนติกเสียงเพลงในร้านที่คลอเบาๆ แถมบรรยากาศข้างนอกจะเริ่มหนาวๆอีกต่างหาก ผมหวังว่ามันจะประทับใจพี่ซองจง..

     

                ผมรีบส่งข้อความเรียกพี่เขาให้มาหาผมก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆดอกกุหลาบที่อยู่บนโต๊ะ โต๊ะของผมอยู่ริมกระจกพอจะเห็นบรรยากาศข้างนอกได้ ผู้คนที่เดินไปมาจนทำให้ผมอยากจะเปลี่ยนที่ไปตรงอื่น

     

               แต่ก็เลือกแล้วนี่เนอะ..

     

                วันนี้พี่ซองจงพูดจาไม่ดีกับผมหลายรอบมาก ถ้าเป็นคนอื่นคงโกรธจนตัวสั่นเลิกคุยกับพี่เขาไปนานแล้ว แต่คนอื่นนั่นไม่ใช่ผมและผมก็เชื่อว่าผมไม่มีวันหนีพี่เขาไปไหนแน่นอน

     

                ผมมองดอกกุหลาบบนโต๊ะก่อนจะหยิบมันขึ้นมา ผมมองเจ้าดอกกุหลาบสีแดงสดก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เจ้าดอกกุหลาบไม่น่ารักทำไมถึงทำให้พี่ซองจงโกรธผมด้วย..

     

                ผมขอโทษครับพี่.. ทีหลังจะไม่ลืมแล้ว ผมพูดออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบไปตรงหน้า ตอนนี้ผมกำลังซ้อมง้อคุณโรบอทซองจงอยู่นั่นแหละ

     

                ทำแบบไหนก็ไม่ถูกใจเลยสักนิด..

     

              อะ เอาไปของพี่อ่ะ ผมลองเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วโยนดอกกุหลาบสีสวยลงโต๊ะก่อนจะรีบหยิบขึ้นมา ผมถอนหายใจจนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเอง

     

                ถ้าทำแบบเมื่อกี้มีหวังตายแน่..

     

              ผมซ้อมอยู่กับพี่ซองจงที่เป็นเงาตรงหน้าของผม ก็.. ซ้อมคนเดียวนั่นแหละ ผมทำจนลืมไปเลยว่าตัวเองอยู่ริมกระจก แถมยังมีคนมองผมแปลกๆอีกต่างหาก

     

                ผมไม่ใช่คนบ้านะครับ

     

                ผมนั่งรอพี่ซองจงไปประมาณสิบกว่านาที สายตาของผมเหลือบไปเห็นผู้ชายร่างบางเหมือนผู้หญิง ผมสีบลอนด์คุ้นตาเดินตรงมาที่ร้านกาแฟที่ผมนั่งอยู่ตอนนี้

                แต่พี่เขาใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว อากาศเริ่มจะเปลี่ยนแปลงแล้วด้วย ไม่แปลกที่คนที่ชอบพี่เขาอย่างผมจะเป็นห่วง เวลาเห็นพี่ซองจงเป็นแบบนี้ผมยิ่งอยากดูแลนานๆ

     

                ผมรีบยืดตัวตรงพร้อมกับรีบหยิบดอกกุหลาบไว้ใต้โต๊ะ สีหน้าของพี่ซองจงดูไม่ค่อยสบอารมณ์นักให้ผมเดาเล่นๆ พี่คงยังโกรธผมอยู่แน่ๆ

                พี่ซองจงผลักประตูร้านกาแฟเข้ามา เขามองรอบๆเหมือนกำลังหาผมก่อนใบหน้าสวยๆนั่นจะหยุดมามองที่ผมจากใบหน้าที่หงุดหงิดเขาก็หงุดหงิดใส่ผมกว่าเดิมอีก

     

                นี่พี่เขาอยากให้ผมจีบจริงๆปะเนี่ย..

     

              พี่มาช้าจังครับ ผมรีบเอ่ยปากถามทันทีที่พี่ซองจงเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าของผม พี่เขากอดอกมองผมอีกครั้งไม่ยอมพูดอะไรเลยเอาแต่ขมวดคิ้วใส่ผมอยู่นั่น

     

                มีอะไร

     

                ผมเลือกที่โรแมนติกปะครับ ผมรีบถามอีกครั้งก่อนพี่เขาจะส่งสายตาไม่พอใจใส่ผมอีกครั้ง เหมือนผมจะกลัวนะครับแต่ไม่เลย ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งอยากเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิมซะอีก

     

                ถ้าไม่มีอะไรฉันไปละ พี่ซองจงทำท่าจะลุกออกจากเก้าอี้

     

                ไม่ๆ คือผมเอาดอกกุหลาบมาให้ครับ ผมพูดออกมาอย่างเร็วก่อนจะยื่นดอกกุหลาบสีแดงสดไปให้คนตรงหน้าของผม จากที่เขาทำท่าจะลุกขึ้นกลับนั่งลงไปอย่างเดิม ซึ่งมันทำให้ผมสบายใจว่าพี่ซองจงจะไม่หนีผม

     

                “…”

     

                คือเมื่อเช้าร้านที่ผมซื้อเขาไม่เปิดน่ะครับ..

                แต่ตอนเย็นเขาดันเปิดผมเลยซื้อมาให้พี่ครับ

                ผมไม่ได้ลืมนะครับ ผมจำไว้ในสมองแล้วว่าการเอาดอกกุหลาบให้พี่วันละดอกคือหน้าที่ใหญ่ที่ผมต้องทำเวลาจะอยู่กับพี่

     

                ผมพูดไปยาวเหยียดก่อนพี่ซองจงจะรับดอกไม้ในมือของผมไป ผมสังเกตจากใบหน้าพี่เขาจากที่หงุดหงิดพี่เขากลับดูสดใสขึ้นมาเหมือนดอกไม้ที่โดนน้ำ

     

                ที่ผมอธิบายไปมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ผมไม่เคยลืมว่าตัวเองต้องทำอะไรนะจะเอาใจใครมันต้องทำหน้าที่ที่ตัวเองเคยพูดสิ แต่เมื่อเช้าไอร้านนี้มันไม่เปิดจริงๆนี่นา..

     

                ขอโทษที่ดอกที่สามไม่ได้อยู่ในแจกันห้องทำงานพี่นะครับ

                แต่เก็บไว้ในห้องนอนพี่ก็ได้นี่ เนอะ

     

                ผมพูดต่อก่อนพี่ซองจงจะเอียงคอเล็กน้อยเขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความสงสัยแน่ๆล่ะ ผมยิ้มให้พี่ซองจงจนตาแทบปิดแต่พี่เขาก็ดันทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี

     

                รู้ได้ยังไง

                เห็นรึไง

                สนใจด้วยหรอ

     

                คำถามสั้นๆของพี่ซองจงที่ทำเอาผมอยากจะจับพี่เขาฟัดมันตรงนี้ สำหรับผมแล้วพี่เขาเก็บอาการไม่เก่งเลยด้วยซ้ำ ดูก็รู้ว่าน้อยใจ รู้ว่าโกรธแล้วก็กำลังอยากให้สนใจ

     

                ผมเก็บรายละเอียดนะครับพี่โรบอทซองจง ถ้ายืนตรงประตูมองตรงไปจะเป็นรูปครอบครัวของพี่ ถ้าเดินเข้าไปหน่อยจะเจอผลงานของพี่ ส่วนตรงที่ผมนั่งถ้าหันหลังไปก็จะเห็นแจกันที่พี่เก็บดอกไม้ของผมไว้

     

    ผมพูดรายละเอียดทุกอย่างถี่ยิบ ผมน่ะถ้าสนใจใครแล้วฝุ่นบนพื้นยังจำเลยว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง ผมยิ้มออกมาก่อนพี่ซองจงจะลุกขึ้นจากเกาอี้ตรงหน้าผม

     

                เฮ้ยพี่..

     

                ฉันจะไปสั่งกาแฟเฉยๆ เอาปะ เสียงใสของพี่ซองจงดังออกมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนผมจะส่ายหัวเบาๆ ความจริงแล้วผมมาที่นี่เพื่อมาแค่เอาดอกไม้ให้พี่ซองจง

     

                คือมันก็คือพล็อพนั่นแหละ..

     

                ไม่เป็นไรครับพี่ ไปหาอะไรกินที่อื่นดีกว่า

     

                ผมตัดสินใจพูดออกไปก่อนพี่ซองจงจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ผมหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะก่อนจะมองบรรยายกาศข้างนอก แดดที่ส่องมาไม่ใช่แดดที่ทำให้ร้อนมากนักก็แค่แดดตอนเย็น แถมอากาศก็เริ่มหนาวอีกด้วย

     

                ?

     

                คือว่าผมไม่ชอบกินกาแฟครับ ที่มาแค่มานัดพี่เฉยๆเดี๋ยวไปหาอะไรกินที่อื่นอีกที

     

                มากินพื้นที่ชาวบ้านที่เขาจะมานั่งกันนี่นะ?

     

                ครับ ร้านมันกว้าง

     

                ไม่ได้กวนตีนนะ แต่คิดอะไรก็ชอบทำมันตอนนั้นเลยนี่น่า..

     

     

              End of L Part

     

     

                บรรยายของกรุงโซลเริ่มเข้าหน้าหนาวเข้าทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน ร่างสูงที่เดินข้างกับร่างบางมองรอบๆก่อนซองจงจะยกฝ่ามือขึ้นมาลูบต้นแขนตัวเอง ลมหายใจเริ่มมีควันออกจากปากนี่มันหนาวลงมากจริงๆนะ เสื้อเชิ้ตตัวเดียวของซองจงเอาไม่อยู่แน่ๆ

     

                หนาวหรอครับพี่เสียงของแอลเอ่ยถามขึ้นมาก่อนใบหน้าสวยจะหันไปมองพร้อมกับพยักหนาแทนคำตอบ แอลหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นท่าทางของซองจง

     

                พี่เป็นพวกไม่ดูแลตัวเองหรอครับ ไม่สิ แบบว่าพี่ไม่ค่อยจะสนใจข่าวสารบ้างหรอ แอลพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่บีบลักยิ้มออกมา ดวงตาเหลือบมองก่อนจะเบือนหน้าหันไปทางอื่น

     

                พี่น่ะ ต้องดูแลตัวเองแล้วก็ฟังข่าวสารเกี่ยวกับอากาศของกรุงโซลด้วยนะครับ ปีนี้หนาวเร็วด้วยแล้วก็หนาวกว่าปีอื่น ถ้าพี่ไม่ดูแลตัวเองใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวกากๆแบบนี้ไปไหนมาไหนพี่คงเป็นมนุษย์น้ำแข็งแน่ๆอ่ะ

     

                แอลกอดอกพูดต่อ จากแต่ก่อนที่ดูพูดมากอยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาเริ่มพูดมากกว่าเดิมเสียอีก อายุยี่สิบที่ชอบพูดเหมือนผู้ใหญ่อายุสามสิบอัพ ซองจงที่มองทางอื่นหันมาทำตาขวางใส่ก่อนจะจิ๊ปากใส่คนข้างๆ

     

                จู้จี้

     

                ต้องจู้จี้สิครับ ถ้าพี่เป็นแบบนี้ผมยิ่งต้องดูแลนะ แอลพูดออกมาตรงๆอย่างไม่คิดอะไร เขารู้ว่าตอนนี้เขายังมีความสัมพันกับซองจงแค่พี่น้อง เจ้านายกับพนักงาน

     

                ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อย

     

              ถามจริงนายเป็นคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร น้ำเสียงของเลขาซองจงเริ่มดูหงุดหงิดแต่หนุ่มตากล้องก็ยังคงหน้าตายทำหูทวนลมไปแบบนั้น

     

                ฐานะคนที่ห่วงคุณ

     

                “…”

                อ้วกเหอะ พูดจบซองจงรีบเร่งฝีเท้าเดินห่างจากแอลทันทีแต่ถึงยังไงไอคำพูดเสี่ยวๆแบบนั้นก็กลับทำให้ซองจงยิ้มออกมาอยู่ดี เสียงหัวเราะของหนุ่มตากล้องดังขึ้นทันทีก่อนเขาจะรีบเร่งฝีเท้าตามซองจง

     

                แค่นี้ซองจงก็หายเหงาแล้วล่ะ..

     

             

                กินแต่ไก่ทอด กินมากอกใหญ่นะครับ

     

                ทะลึ่งหรอ

     

                เป็นเก๊าก็ได้อะ เสียงของทั้งคู่ดังอยู่ในลิฟต์ของคอนโด หลังจากที่เดินไปเดินมาก็ได้เพียงแค่ไก่ทอดกล่องใหญ่บวกกับโซจูแถมเป๊ปซี่อีกด้วย

     

                นายนี่ขี้บ่นมาตั้งแต่เกิดเลยปะ

                จู้จี้

     

                ที่ผมพูดเพราะเป็นห่วงหมดเลยนะ โห แอลเอ่ยออกมาก่อนซองจงจะทำเหมือนไม่ได้ยินเขากอดอกมองไปทางกำแพงของลิฟต์ มองจนหนุ่มตากล้องต้องหันไปมองบ้าง

     

                มันมีหน้าผมหรอในนั้นอ่ะ

     

                ไอบ้านี่!” ซองจงรีบหันมาง้างมือใส่คนที่กำลังก่อกวนเขาอยู่ แอลรีบเอียงหัวออกห่างจากฝ่ามือเพชฌฆาตตรงนั้น ใบหน้าหล่อที่ยักคิ้วทีสองที ท่าทางที่กวนบาทาทำเอาซองจงยิ่งอยากจะยกรองเท้ามาฟาดไอบ้านี่แรงๆ

     

                พี่เคยมีแฟนปะ

                ไม่เคยอ่ะ

                แล้วคุณซองยอลหายไปไหนอ่ะช่วงนี้

     

                “…”

                เห็นว่าไปถ่ายแบบต่างประเทศ ซองจงเงียบไปครู่หนึ่งเขาทำท่าคิดก่อนจะตอบออกมา หนุ่มตากล้องทำแค่เพียงพยักหน้าก่อนจะยืนคิดอะไรบางอย่าง

     

                แล้วเขาไปแบบไม่กลับมาเลยปะ

     

                จะบ้าหรือไง ซองจงถลึงตาใส่คำถามกวนประสาทของหนุ่มตากล้องข้างๆ ประตูลิฟต์ที่เปิดออกและทั้งสองคนก็เดินตรงไปที่ห้อง แต่เหมือนจะหยุดที่ห้องซองจงนะ

     

                ผมไม่อยากเห็นหน้าเขาอ่ะ

                นายก็เอาปี๊บคลุมหัวเดินดิ

     

                “…”

                พี่เอาฮาหรือเปล่าครับ ถ้าผมเอามาคลุมคุณซองยอลนั่นแหละที่จะไม่เห็นหน้าผมแอลยืนพูดข้างๆมองคนที่กำลังกดพาสเวิร์ดเข้าห้องอย่างตั้งใจ

     

                พี่ใส่พาสเวิร์ดว่าอะไรอ่ะ

                ยุ่ง

                พี่ให้ผมเข้าห้องพี่แล้วหรอ หลังจากที่ถามไปซองจงก็ว่า แอลจึงถามอีกครั้งใบหน้าหล่อที่นิ่งแต่เต็มไปด้วยคำว่ากวนตีนตรงหน้านี่ทำเอาซองจงอยากจะยกมือขึ้นมาฟาดแอลไปอีกหลายๆที

     

                งั้นนายกลับห้องตัวเองไปเลยไป พูดจบนิ้วเรียวยกขึ้นชี้ไปที่ห้องของหนุ่มตากล้อง แอลมองตามที่ร่างบางชี้ก่อนจะรีบส่ายหัวรัวๆแทนคำตอบ เสียงจิ๊ปากซองจงดังอีกครั้งก่อนมือหนาจะแกว่งถุงไปมา

     

                ประตูห้องถูกเปิดออกก่อนจะของห้องจะเดินเข้าไปก่อนพร้อมกับหนุ่มตากล้องอย่างแอลที่ตามหลังเข้าไป มือหนาดันประตูให้ปิดลง ซองจงก้มตัวลงถอดรองเท้าก่อนจะยกขึ้นมาวางบนชั้นวางรองเท้า

     

                แต่แอลเหมือนจะชินกับนิสัยของตัวเอง..

     

              แอลยืนมองนิ่งๆก่อนจะถอดรองเท้าด้วยเท้าของตัวเองนั่นแหละ ซองจงที่เดินเข้าไปหันมามองก่อนจะทำตาเขียวใส่ทันที รองเท้าของหนุ่มตากล้องที่ถอดแล้วเกะกะที่หน้าประตูซองจงเดินเท้าเอวเข้ามาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับนิ้วเรียวที่หยิกต้นแขนของคนตรงหน้า

     

    โอ้ย!”

     

    ว่าแต่คนอื่น ไอสล็อต! ทำดีๆเลยนะ!” ซองจงชี้ลงไปที่รองเท้าของหนุ่มตากล้อง ใบหน้าหล่อที่ทำหน้าหงอยเสียงบ่นงึมงำเบาๆก่อนร่างสูงจะก้มลงไปวางรองเท้าของตัวเองดีๆ

     

    ซองจงกอดอกมองก่อนจะเดินนำเข้าไปเตรียมของรอ แอลเดินหลังโก่งๆด้วยความขี้เกียจเข้ามามือหนาที่ถือถุงไก่ทอดวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเหลือบตามองขวดโซจูเช่นกัน

     

    ซองจงไม่ดูแลตัวเองจริงๆ

     

    พี่ทำไมถึงชอบดื่มของมึนเมานักครับ แอลเอ่ยปากถามทันทีเมื่อร่างบางถือจานถือแก้วมาไว้บนโต๊ะ เขาวางทุกอย่างไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มตากล้องตรงหน้า

     

    ผู้ชายทุกคนก็ต้องดื่มนี่นา ฉันไม่ดีขนาดนั้นหรอกนะ

     

    ผมรู้ครับ

     

    ทำไมนายไม่ดื่มหรอ

     

    ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะต่างหาก อีกอย่าง..

    พอเห็นสภาพพี่เมื่อวานนั้นผมก็เริ่มไม่อยากดื่มเลยแอลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนร่างบางจะกอดอกมองเขาด้วยความสงสัย ใบหน้าหล่อค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะพูดต่อ

     

    ไม่ใช่เพราะมันอันตรายนะครับ

     

    แต่ผมเห็นแล้วอยากจะดูแลพี่มากกว่า

     

     

     

    ϟ

     

     

    แชป12มาแล้วเย่ๆ ช่วงนี้อาจจะมาแนวอัพวันเว้นวันนะค้าบ หรือสองวันแชปนึงตามเวลาที่ของเราเอง รีบมาเชียร์ให้คุณซองจงคบกับเจ้าแอลกันไวๆนะครับ ส่วนเรื่องพิมพ์ผิดต้องขออภัยด้วยนะค้าบเพราะเราเป็นคนพิมพ์เร็วและไม่ค่อยเงยหน้ามาอ่านเท่าไหร่เลยมึนๆไปนิด แต่จะหาเวลาว่างจริงๆมานั่งตรวจสอบแล้วแก้ไขให้ทีละแชปเลยงับ!

         ♥ ฝากเมนท์ให้กำลังใจ+สกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ด้วยนะครับ ตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆเลย
         ♥ พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×