ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #16 : ϟ C H A P T E R 1 5 ϟ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 117
      0
      9 พ.ย. 59


     


    ϟ 15 ϟ
    -

     

                    I am not really  known for ever being speechless

              But now, but now somehow

              My words roll off my tongue right onto your lips

              I’m keeping cool while you keep smiling

              Saying all the things I’m thinking

              I am like you so I want proof I’m what you’re feeling..

              Close – Nick Jonas

     

     

              ผมจะไม่ทำให้พี่รำคาญแล้วครับ

     

              “..เฮ้อ เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ซองจงเหนื่อยและคำพูดของผู้ชายคนนั้นมันก้องในหัวของซองจงตลอด ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนไล่เขาไปแท้ๆ

     

                เก่งแต่ปาก..

     

                ซองจงเป็นอะไรหรือเปล่า

                นายดูไม่สนุกกับหนังที่เราไปดูกันเลย

     

                เสียงของหนุ่มนายแบบดังขึ้นเรียกสติของหนุ่มเลขาที่เอาแต่เหม่อลอยกลับมาใบหน้าสวยที่ทำหน้าสวยที่ทำเหรอหรา และทำท่าให้ซองยอลพูดประโยคนั้นอีกครั้ง

     

                อะไรนะครับ

     

                พี่ถามว่า หนังเรื่องที่เราดูไปมันไม่น่ากลัวหรอ ซองยอลทวนคำพูดตัวเองอีกครั้งก่อนซองจงจะส่ายหัวไปมา ริมฝีปากสวยที่คลี่ยิ้มออกมานิดๆ ยิ้มที่ดูฝืน ฝืนจนซองยอลดูออก หนุ่มนายแบบพยักหน้าเบาๆ เขาไม่รู้ว่าซองจงเป็นอะไร เขาไม่รู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้ซองจงเป็นแบบนี้เพราะอะไร

     

              ซองยอลรู้

              ซองยอลรู้ว่าที่ซองจงตกลงมาดูหนังกับเขา..

              ไม่ได้ตั้งใจจะมาจริงๆ

     

              มันน่ากลัวดีครับ

                แต่เนื้อเรื่องมัน.. ซองจงพูดพร้อมกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ คนรักหนังสยองขวัญอย่างซองจงผ่านมาหลายๆเรื่องแล้ว และเขาสามารถดูออกว่าเรื่องไหนน่ากลัวหรือเรื่องไหนไม่น่ากลัว เช่นเรื่องนี้ก็เหมือนกัน.. ไม่รู้ว่ามันไม่น่ากลัวหรือซองจงไม่สนใจมันกันแน่

     

                แต่คนอื่นก็กริ๊ดกันนี่นา พี่ยังปิดตาเลย ซองยอลพูดพร้อมกับทำท่าทางออกมา ท่าทางแสนตลกที่ทำซองจงยิ้มออกมาเล็กน้อย แค่ยิ้มที่มันไม่เต็มที่เขายิ้มไม่ออกตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ และตอนนี้ก็ตกเย็นแล้วด้วย ซองจงกำลังทิ้งให้คนที่ไม่ได้เอารถมาอย่างแอลรอหรือเปล่า

     

                หรืออาจจะกลับเองไปแล้ว..

     

              พี่จะให้ผมไปส่งที่บ้านไหมครับ ผมว่าจะกลับแล้ว ซองจงถามคนที่ยืนอยู่ข้างเขาทันทีเพียงแต่ร่างสูงกลับส่ายหัวแทนคำตอบ ซองยอลไม่ยอมให้ซองจงไปส่ง น่าแปลกใจที่คนขี้ตื้ออย่างซองยอลจะปฏิเสธง่ายๆ

     

                เดี๋ยวเมเนเจอร์จะมารับพี่ พี่ต้องไปงานต่อน่ะ

                นายขับรถดีๆล่ะ

                พี่เป็นห่วง แบบนี้นี่เองซองยอลถึงเลือกที่จะปฏิเสธซองจง ประโยคสุดท้ายของซองยอลที่ทำให้หนุ่มเลขาชะงัก คำว่าเป็นห่วงที่ทำให้นึกถึงใบหน้าของใครบางคนขึ้นมา ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย

     

                ขอบคุณครับ

                ผมขอตัวนะ ซองจงยกฝ่ามือขึ้นบริเวณอกก่อนจะโบกลาหนุ่มนายแบบเบาๆ ท่าทางของซองจงที่น่ารักสำหรับซองยอลแต่มันก็ยังแฝงความรู้สึกแปลกๆอยู่ดี เขาเดาใจซองจงไม่ถูกเลยแม้แต่น้อย

     

                ขาเรียวก้าวออกจากโรงภาพยนตร์ชื่อดังย่านกรุงโซล การเดินที่เชื่องช้าของซองจงใบหน้าสวยที่กำลังคิดอะไรบางอย่างในใจ เขาถอนหายใจออกมาเป็นพักๆ ซองจงคิดถึงแต่คนที่ชื่อแอล เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้แอลจะรู้สึกยังไง

                หรือบางทีซองจงแรงกับแอลเกินไป แรงเกินที่คนอื่นจะรับได้แต่แอลกลับรับมันได้ ได้แต่คิดสุดท้ายซองจงก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ร่างบางที่หยุดตรงรถเก๋งสีดำของตัวเองก่อนจะนึกบางอย่างออก

     

                ซองจงลืมกระเป๋าไว้ที่บริษัท..                 

     

              ขี้ลืมจริงๆเลยซองจง..” พึมพำกับตัวเองเบาๆมือบางที่เปิดประตูรถพร้อมกับเข้าไปนั่งข้างในรถของตัวเอง มือบางเอื้อมไปปิดประตูรถทันทีก่อนเขาจะเอนตัวพิงกับเบาะ

     

                ...คิดถึงทำไมไม่รู้

     

              รถเก๋งสีดำเคลื่อนตัวออกจากสถานที่นั้นสักพักแล้วตรงดิ่งไปที่บริษัทของผู้เป็นพ่อของตัวเอง ซองจงถอนหายใจอย่างสิ้นเปลืองมาเป็นสิบๆรอบของวันนี้อากาศที่หนาวเย็นและท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีฟ้าเข้ม แสงพระอาทิตย์ที่เริ่มหายไป บรรยากาศมันเหมือนวันที่อยู่ร้านกาแฟนั่นอีกแล้ว

     

                ...

     

              ซองจงเปิดเพลงบนรถพอที่จะผ่อนคลายความเครียดของเขาได้ เสียงเพลงที่คลอเบาๆทำให้สบายหูมากขึ้น แต่เสียงที่เนื้อหาความเศร้าของเพลงก็ซ่อนไว้อยู่ด้วย

     

                맨발로 기억을 거닐

              เดินไปเรื่อยๆด้วยเท้าเปล่า พลางนึกถึงความทรงจำในวันวาน

              붉게 물든 하늘      

              กับท้องฟ้าที่ถูกย้อมด้วยสีแดงหม่น

              그간 함께 못한 사람들을 올린

              บางทีการที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อาจทำให้เราเข็มแข็งขึ้นบ้างก็ได้

                    AKMU - TIME AND FALLEN LEAVES

     

              เนื้อหาเพลงที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกเขาตอนนี้ แต่มันกลับหน่วงอย่างบอกไม่ถูกเพลงช้าๆฟังสบายๆ ทำให้ซองจงเคลิ้มและอินตามไปกับมัน เสียงใสที่ฮัมเพลงตามเบาๆ เสียงหวานๆเพราะๆที่ซองจงไม่เคยร้องให้ใครมาก่อน เขาเก็บเสียงนี้ไว้คนเดียวเท่านั้น

     

                ไม่นานรถเก๋งสีดำก็เคลื่อนตัวมาถึงที่ซองจงค่อยจอดๆไว้หน้าบริษัท ซองจงออกจากรถมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เขามองเข้าไปในบริษัทและมันไม่มีใครเลยสักคน พูดตรงๆ ซองจงก็กลัวเหมือนกันจากที่จะก้าวไปกลับไม่ขยับซะอย่างนั้น ซองจงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆและตัดสินว่าจะไม่เข้าไปเอากระเป๋าแน่นอน

     

                ไม่น่าจะมีอะไรสำคัญหรอก..

     

                คุณเลขาอีครับ!” เสียงของหนุ่มรักษาการประจำบริษัทดังขึ้น เขาเดินออกมาจากอีกฝั่งก่อนซองจงจะมองวัตถุที่มือของเขา

     

              นั่นกระเป๋าของซองจง       

     

              นั่นกระเป๋าฉัน ซองจงขึ้นเสียงดุทันทีที่เห็นของของตัวเองอยู่กับคนอื่น ก่อนเสียงของหนุ่มตรงหน้าจะดังขึ้นมาแทรกเขา

     

                มีคนฝากมาให้คุณเลขาอีครับ เขาบอกว่าถ้าเห็นคุณให้เอามาให้คุณ

     

                งั้นหรอ..

                “…ขอบใจนะ

     

                ซองจงตอบเพียงสั้นๆก่อนเขาจะรับกระเป๋าของตัวเองมาไว้ข้างกาย

     

                ซองจงพอจะรู้ว่าใครฝากมาให้ เขารู้ว่าแอลแอบเข้าไปในห้องทำงานของเขาถึงแม้จะไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไร แต่อย่างน้อยแอลก็ยังเอาของสำคัญออกมาให้ซองจง

     

                ถึงแม้แอลจะไม่ได้เอามาให้เองก็เถอะ..

     

                นี่นาย..

                คนที่เอากระเป๋ามาให้ฉันไปไหนแล้วล่ะ อดที่จะถามไม่ได้ ไม่รู้ว่าเจ้านั่นจะไปยังไง ความรู้สึกแปลกๆเหมือนจะเป็นห่วง.. แต่ก็ไม่เชื่อความคิดอยู่ดี

     

                อืม.. เห็นเขาเอามาให้ผมแล้วก็ไปขึ้นรถประจำทางน่ะครับ

               

                ซองจงเพียงแต่พยักหน้าก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่รถตัวเอง แอลกลับเองได้ ซองจงไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง แอลไม่ใช่เด็กอายุสิบขวบ เจ้านั่นมันอายุยี่สิบแล้วล่ะ

     

                แต่ยังไงก็ห่วงอยู่ดี

     

             

     

                “Color Tranparency..”

                ปวดหัวจังแฮะ.. เสียงของหนุ่มตากล้องดังขึ้นในห้องของตัวเอง ร่างสูงนั่งมองศัพท์ภาษาอังกฤษที่อยู่ในสมุดที่วางไว้บนโต๊ะของเขา การใช้พลังงานของตัวเองมาแทบทั้งวันแถมยังต้องมานั่งท่องจำไอพวกนี้เอาไปสอบอีก

     

                เบื่อ แอลเบื่อ วันนี้เป็นวันที่โคตรจะไม่ใช่วันดีของเขาเลยสักนิด เป็นวันที่สุดจะซวย โดนคนชอบเก่ามาเจ๊าะแจ๊ะ แถมยังต้องมานั่งโง่ๆอ่านศัพท์อังกฤษ แย่ที่สุดก็คงเป็น

     

                ทะเลาะกับซองจง

     

                เขาพยายามที่จะไม่นึกถึงเรื่องเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ แอลเริ่มก้มหน้ามองตัวหนังสืออีกครั้ง เขาจ้องและพยายามที่จะอ่านมันต่อ เขาพยายามจะไม่สนใจเรื่องของซองจงจนกว่าตัวเองจะสอบจนเสร็จ

     

                จำไว้ว่าสองวันนี้เราไม่รู้จักซองจง

     

              ทำไม่ได้..

     

              เฮ้อ เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างดังภายในห้องนอนของหนุ่มตากล้อง ร่างสูงที่ฟุบหัวลงกับโต๊ะเขาเริ่มปวดหัวขึ้นมาทีละนิด และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ

     

              09:00 PM

     

              ร่างสูงเงยหน้ามองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เขาใช้เวลาตั้งแต่กลับจากบริษัทและมานั่งจำอะไรพวกนี้เป็นชั่วโมงๆ อาหารที่ไม่ทันจะตกถึงท้อง ชุดของเขาที่ยังไม่ได้เปลี่ยน ใบหน้าที่ร้อนผ่าวเขามองตัวหนังสือที่เต็มสมุดก่อนเขาจะส่ายหัวเบาๆ

     

                ปวดหัว..

              แอลกำลังไม่สบาย..

     

              ฤดูกาลที่เริ่มเปลี่ยนแปลงบวกกับการทำงานอย่างไม่ได้พักผ่อนของแอลมันยิ่งทำให้ร่างกายของเขายิ่งอ่อนแอมากขึ้น ตอนนี้ตัวเขาเริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ อุณหภูมิในร่างกายที่เริ่มเปลี่ยนแปลง เขารู้สึกหนาวเกินความที่จะเป็น

     

              ไม่ว่ายังไงก็ต้องอ่านให้จบคืนนี้..

     

              จากที่ใส่เสื้อแขนยาวธรรมดาเวลาผ่านไปนานจนเขาเอาลากผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ใบหน้าคมที่จดจ้องสมุดจดของตัวเองอย่างตั้งใจ การปวดหัวของตัวเองแต่เขาก็ต้องใช้สมองในการจำสิ่งที่ต้องไปสอบในเช้าของวันพรุ่งนี้

     

                ยิ่งฝืนยิ่งแย่ลง

     

              อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวเลยสักอย่าง เขาปวดหัวและมันยิ่งแรงขึ้นถ้าเขายิ่งฝืนอ่านมัน

     

                อย่าทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีกับนาย และก็อย่าทำให้ฉันรำคาญนายไปมากกว่านี้ถ้าเรายังต้องทำงานด้วยกันอยู่

     

              อยู่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกแล้ว

     

              สิ่งที่ทำให้อาการของแอลแย่ลงก็น่าจะมีแค่เรื่องนี้ เรื่องของเขากับซองจงนั่นแหละ ยิ่งคิดก็ยิ่งแย่ แย่กว่าเรื่งสอบของเขาในวันพรุ่งนี้อีก

     

                เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นมาอีกครั้ง ดังขึ้นเรื่อยๆเวลาที่คิดถึงเรื่องของซองจงเขาคิดแค่ว่าจะพยายามไม่ทำให้ซองจงรำคาญอีก พยายามเจอกันให้น้อยลง พยายามคุยให้น้อยลง พยายามไม่คิดถึง

     

                ทำไม่ได้อย่าก็ต้องทำให้ได้

              อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ซองจงต้องเบื่อเขาไปมากกว่านี้

     

              แต่ยังไงผมก็ยังอยากได้กำลังใจจากพี่อยู่นะครับ..

     

     

     

     

     

     

              Daekyung University

              ร่างสูงโปร่งที่เดินมาแบบสภาพเหมือนผีดิบ เสื้อคลุมที่หนาเพื่อให้ความอบอุ่นตอนนี้แอลป่วยและป่วยมากๆด้วย เสียงไอดังตามทางก่อนเขาจะเร่งฝีเท้าไปยังโต๊ะกลุ่มช่างภาพอายุน้อยทั้งหลาย

     

                ไอมนุษย์แอล

                ทำไมสภาพเป็นแบบนี้เนี่ย

     

                เสียงของเพื่อนร่วมคณะดังขึ้น พวกเขาสนิทกันพอๆกับที่สนิทกับโฮวอนแอลเดินไปนั่งกับเก้าอี้ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา เขานอนตอนเที่ยงคืนเพื่อนตื่นตอนหกโมงมามหาลัย อากาศที่หนาวเย็นจนพ่นลมหายใจออกมาก็มีแต่ควัน

     

                แอลหนาวจนแทบจะเป็นเจ้าชายน้ำแข็งซะตอนนี้ เสื้อที่หนาปึกไม่ได้ช่วยให้เขาอุ่นขึ้นเลย หลังจากสอบเสร็จแอลเลือกที่จะไปหาคุณหมอเช็คอาการดู

     

                ปวดหัวไม่หายสักที

              ...พี่ซองจงจะตื่นหรือยังเนี่ย

     

              เออ ฉันไม่สบาย

                ขอโทษที่วันนี้หล่อไม่ได้นะมินซอก เสียงทุ้มที่เงียบสักพักดังขึ้น แม้ว่าตัวเองจะป่วยแค่ไหนสุดท้ายความหลงตัวเองก็ยังคงอยู่กับเขาตัวเอง เขาตอบคำถามของเพื่อนตัวเองจบเสียงแซวของกลุ่มผู้ชายก็ดังขึ้น มันก็น่าสนุกอยู่หรอกถ้าเขาไม่ได้อยู่สภาพแบบนี้น่ะ

     

                หงุดหงิด..

     

                เสียงกลุ่มเพื่อนของเขายังคงดังตลอดเวลาแต่แอลเลือกที่จะเงียบ เขาไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ ไออารมณ์หงุดหงิดซ้ำซากมันมักเกิดขึ้นทุกครั้งที่แอลนึกถึงคุณเลขาซองจง

                นึกถึงทีไรก็หงุดหงิด ไม่ได้หงุดหงิดซองจงแต่แอลหงุดหงิดตัวเองมากกว่า ร่างสูงโปร่งพ่นลมหายใจออกมาก่อนมือหนาจะหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋า

     

                แอพลิเคชั่นลักษะณะไอคอนสี่เหลืองเช่นเดิมเด้งขึ้น แอลเลือกที่จะเปิดมันขึ้นมาดูบางอย่างเขาคิดถึงซองจง คิดถึงมากจนแค่อ่านข้อความเก่าๆก็พอบรรเทาได้

     

              ไม่เคยคิดถึงใครเท่านี้มาก่อน

             

              28 Oct 2016

              พี่อ่านไม่ตอบผมหรอครับ10:00 PM

                [ไร้สาระ] 10:00 PM

                ว้าว ยังไม่นอนนี่นา

                คิดถึงผมไหมครับคุณโรบอทซองจง10:01 PM

                [ไม่]

                [ยุ่งจัง]

                [นอนไป] 10:01 PM

                ผมนอนไม่หลับครับ

                พี่ร้องเพลงให้ผมฟังหน่อยสิ

                ผมเล่นกีตาร์เป็น มาเคาะห้องผมเลย10:02 PM

                [ไม่จำเป็นที่จะต้องร้อง] 10:03 PM

                โหย... แย่เลย

                ไม่เป็นไรครับ10:04 PM

     

                Read

     

              […เอาไว้จะร้องให้ฟัง] 10:06 PM

     

              บทสนทนาจบลงในวันนั้นและไม่มีการตอบกลับใดๆทั้งสิ้น เพราะอีกสองวันนั้นเขาอยู่ด้วยกันจนไม่ต้องพึ่งไอพวกแอพลิเคชั่นแบบนี้ แต่ตอนนี้แอลกลับอยากคุยถึงแม้จะได้คุยกันแค่ในนี้ก็ตาม

     

                พี่ครับ

              คิดถึง..

              ขอโทษนะครับ..

     

              ประโยคนับสิบที่พิมพ์และก็ลบออกไป เขาไม่กล้าที่จะกดส่งไปจากที่หน้าด้านหน้าทนตลอด คำพูดของซองจงเมื่อวานทำเขากลายเป็นคนไม่กล้าที่จะทำอะไรอีกเลย

     

                แอลกลัวว่าถ้าทำแล้วซองจงจะรำคาญ

              ไม่อยากให้คนที่ตัวเองชอบรำคาญหรอกนะ

     

              ผมขอลาครึ่งวันครับ06:59 AM

     

    Read

             

              [ผมขอลาครึ่งวันครับ] 06:59 AM

             

                ข้อความของแอพลิเคชั่น Kakao Talk ดังขึ้นจากวัตถุสี่เหลี่ยมที่ตั้งไว้บนหัวเตียง เสียงที่ค่อนข้างดังเหมือนนาฬิกาปลุกทำให้ร่างบางที่นอนซึมอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมา

                เสียงอู้อี้ของหนุ่มเลขาขี้เซาบนเตียงดังขึ้น ร่างบางเล็กยันตัวขึ้นมานั่งกับเตียงนุ่มก่อนฝ่ามือบางจะเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนที่ขัดจังหวะการนอนของเขาขึ้นมาดู

     

                ข้อความของคนที่เขาคิดถึงตั้งแต่ตื่นนอนมันโผล่ขึ้นมา..

     

              ลางั้นหรอ..” เสียงใสพึมพำเบาๆ นิ้วเรียวที่สัมผัสกับหน้าจอสี่เหลี่ยมพร้อมจะพิมพ์ข้อความตอบแต่แล้วเขาก็กลับชะงักทันที

     

                ลืมตัวว่าตัวหรือไงซองจง..

     

              จากที่กำลังจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปซองจงกลับวางวัตถุสี่เหลี่ยมไว้กับเตียงนุ่ม เสียงถอนหายใจดังขึ้นครั้งแรกของวันที่หนึ่งในเดือนใหม่

     

                วันแรกของเดือนใหม่มันไม่ได้ดีอย่างที่ซองจงคิดไว้ ซองจงอยากรู้ว่าเจ้าหนุ่มตากล้องคนนั้นลาไปทำไมแต่เขากลับต้องรักษาฟอร์มของตัวเองเอาไว้ ตัวเองก็ว่าเขาไปหยกๆว่าทำตัวน่ารำคาญแต่ก็ดันอยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้างซะอย่างนั้น

     

                อากาศที่หนาวเย็นอย่างเห็นได้ชัด ขาเรียวขาวที่ก้าวลงจากเตียงนุ่ม ฝ่าเท้าที่สัมผัสกับพื้นกลับสะดุ้งขึ้นมาทันที พื้นที่เย็นเฉียบ เย็นจนซองจงไม่กล้าจะเดินไปไหนเขาอยากจะล้มตัวลงไปนอนกับเตียงแล้วก็หลับๆไป

     

                จะได้ไม่ต้องนึกถึงคนที่ทำให้เขาคิดถึง

     

              ร่างบางพยายามดันตัวเองออกมาจากที่นอนนั้นได้ มือบางที่หยิบผ้าเช็ดตัวมาพาดไว้ที่บ่าซองจงที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ เขาควรไปเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกายและไปทำงานซะ แต่กลับเดินวนรอบห้องของตัวเอง

     

                คิดถึง ซองจงคิดถึงคนที่กำลังมีปัญหาอยู่ตอนนี้ เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าแอลกำลังรู้สึกยังไง ไม่กล้าที่จะไปถาม ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งด้วย

                เพราะตัวเองพูดออกไปเองว่าไม่อยากให้เขามายุ่ง ความผิดมันก็คงอยู่ที่ตัวเองด้วยซ้ำหรือที่เขาเป็นแบบนี้เพราะเรื่องนั้น เวลาคิดถึงนางแบบสาวคนนั้นกับแอลทีไรซองจงก็รู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ หงุดหงิดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

                หึงงั้นหรอ?

              ...

              ก็คงงั้น

     

              คงต้องยอมรับแล้วล่ะมั้งว่าหึงแอลจริงๆ

     

                12:30 PM

             

                แอลมาหรือยัง

     

                อืม.. ยังครับ เสียงใสและเสียงทุ้มหนาดังขึ้นโต้ตอบกัน ซองจงกำลังถามโฮวอนถึงใครบางคนและคนคนนั้นก็ยังไม่โผล่เข้างานมา เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนซองจงจะพยักหน้าเข้าใจ

     

                เห็นบอกว่าวันนี้ต้องไปสอบน่ะครับ สักแปปโฮวอนก็พูดออกมาต่อ เหมือนซองจงจะได้คำถามที่อยู่ในใจแต่ได้คำตอบจากคนที่ไม่ใช่แอลออกมา ดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นริมฝีปากสวยที่นิ่งกลับคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย

     

                อย่างน้อยก็รู้ว่าหายไปไหน

     

              เวลาที่ผ่านไปหลายชั่วโมงซองจงก็ยังคงทำงานอยู่ เขามองนาฬิกาบนผนังเหนือหัวของเขาก่อนเสียงพ่นลมหายใจจะดึงขึ้นมาอีก

     

                บ่ายสามแล้วหรอ..

     

                ร่างบางรีบเร่งฝีเท้าออกจากห้องทำงานของตัวเอง เขารีบลงไปดูสตูดิโอที่มักจะมีหนุ่มตากล้องหน้าตามึนๆอยู่ในนั้นตลอดเวลา มือบางที่ผลักประตูเข้าไปก่อนเขาจะมองรอบๆห้องนั้น ซองจงแค่หวังว่าจะเจอแอลนั่งอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งในห้องนี้

     

                มองหา ซองจงมองหาร่างสูงโปร่งที่มักจะถือกล้องอยู่ในห้องนี้ตลอด ตอนนี้ซองจงกลับรู้สึกแปลกๆที่ไม่ได้เห็นแอลเข้ามาทำงานอย่างที่เจ้าตัวบอก

     

                ครึ่งวันงั้นหรอ มันเลิกมาเป็นชั่วโมงแล้วล่ะ ซองจงเดินไปทั่วห้องเสียงเหล่าพนักงานที่กล่าวทักทายคุณเลขาดังขึ้นเรื่อยๆแต่ซองจงก็ทำเพียงแค่พยักหน้าให้ก็เท่านั้น เสียงของหนุ่มแว่นปูซานดังขึ้นก่อนซองจงจะรีบหันไปมอง

     

                มีอะไรหรือเปล่าครับคุณเลขา

                แอลมาหรือยัง

     

                โฮวอนถามมาซองจงก็รีบถามคำถามที่ตัวเองต้องการคำตอบทันที คำถามที่รวมเร็วของซองจงทำโฮวอนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนร่างหนาจะขยับแว่นทำท่าคิด

     

                ก็เห็นบอกว่าจะลาครึ่งวันนี่ครับ เขาโทรมาบอกผมเมื่อช่วงเช้าๆ

                เขาไม่ได้บอกคุณหรอครับ

     

                โฮวอนเอียงคอถามนิดๆ ซองจงรู้ว่าเจ้านั่นลาเพราะไปสอบแต่ถ้ามันไม่มีอะไรแอลก็คงจะมาทำงานตามปกติ แต่นี่ใกล้เวลาเลิกงานแล้วแอลกลับไม่มาสักที

     

                ขี้เกียจ? ไม่อยากเจอหน้า? หรือไม่ว่าง?

     

              ซองจงคอตกเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มแว่นอย่างโฮวอนอีกครั้ง โฮวอนคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะจ้องไปที่ใบหน้าสวยอีกครั้ง

     

                ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมครับ

                แอลน่ะ ยังไงก็ต้องมาถ้าได้เจอคุณซองจง

                เจ้านั่นชอบคุณซองจงจะตาย ที่ไม่มาอาจจะมีอะไรบางอย่างก็ได้นะครับ

     

                โฮวอนที่ค่อนข้างพูดเยอะเหมือนเพื่อนของตัวเองรีบพูดขึ้นแบบที่ซองจงจะไม่ทันได้ตอบอะไร คำพูดที่ทำให้ซองจงเบิกตากว้างขึ้น ริมฝีปากสวยกลับค่อยๆเม้มเข้าหากัน

     

                ใจสั่น ซองจงรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ยินคำว่าแอลชอบซองจง ไม่ว่าจากปากของแอลหรือจากปากของคนอื่น อาการของแอลมันแสดงให้รู้ว่าชอบซองจงขนาดไหนทำไมทุกคนถึงดูออกขนาดนั้น ใบหน้าสวยที่เริ่มแดงขึ้นจนโฮวอนสังเกตได้ เพียงแต่โฮวอนเลือกที่จะไม่พูดและเดินจากออกไป

     

                นายมันนิสัยไม่ดีมยองซู ไอบ้าเอ๊ย..

     

     

              3 Nov 2016

     

              คุณซองจงเห็นไอเพื่อนตัวดีของผมบ้างไหมครับ มันไม่มาสองวันแล้วนะเสียงทุ้มหนาของโฮวอนดังขึ้นหลังจากที่เห็นคุณเลขาเข้าบริษัท ใบหน้าสวยที่ดูหม่นหมอง ดูไม่มีความสุขตั้งแต่วันที่แอลไม่โผล่มา

                นายไม่เห็น ฉันก็ไม่เห็น ซองจงตอบเพียงสั้นๆก่อนขาเรียวจะก้าวต่อ

     

                คุณกับแอลมีปัญหากันใช่ไหมครับ

     

                คำถามตรงๆจากหนุ่มปูซานทำเอาซองจงไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ ใบหน้าสวยที่ออกอาการอ้ำอึ้ง ซองจงไม่รู้จะตอบว่ายังไงแต่ความรู้สึกของโฮวอนมันแม่นมากจริงๆ ซองจงเพียงแต่ส่ายหัวก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากบริเวณนั้น

     

     ใจสั่นเวลาคุยกับคนนั้น ชอบเวลาที่อยู่กับเขา มองหาเขาเวลาที่เขาหายไป ยิ้มทุกครั้งที่คิดถึง

               “แล้วก็ ถ้าคิดถึงเขาจะใจสั่นมากๆ

     “แล้วเรารู้สึกแบบนั้นไหมเวลาคิดถึงใครสักคน

     

     ใจสั่น คิดถึง มองหา..

     

    ร่างบางที่เดินไปที่ห้องทำงานของตัวเองกำลังคิดถึงเรื่องวันที่เขาคุยกับพ่อของตัวเอง คำพูดของประธานอีซองจินยังดังอยู่ในหัวเขาเสมอ และวันนี้มันก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

     

     

    ผมคิดว่าตัวเองมั่นใจที่จะบอกพ่อแล้วล่ะครับ.."

     

     

     

    ϟ

     

     

     

         Hello แชปที่15ครับ เย่ๆ ดราม่าไม่ค่อยจะออกเท่าไหร่แต่ต่างก่อนต่างซึนๆอยู่ 5555555555 แชปหน้าที่สะไพ้แล้วครับ! คิดว่าอะไรมารอกังนะ♥

         ฝากเมนท์ให้กำลังใจด้วยนะค้าบคือตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆ อ่านอย่างเดียวมันก็น่าน้อยใจใช่เปล่า ถ้าไม่ค่อยมีจะพักผ่อนสักแปปครับ สู้ๆเฮๆ ^_^

         ยังไงฝากสกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ในทวิตเตอร์ด้วยนะคร้าบ
                     ps. พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วครับ มีเวลาว่างจะมาแก้ไขให้น้า

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×