ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #14 : ϟ C H A P T E R 1 3 ϟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 101
      0
      6 พ.ย. 59






    ϟ 13 ϟ
    -

     

                    อันนี้อร่อยอ่ะ...เสียงใสพูดขึ้นนิ้วเรียวชี้ไปที่น่องไก่บนจานก่อนจะจับมาไว้ในมือ คำพูดของคนอายุยี่สิบห้าห่วงกินอย่างซองจงทำเอาแอลหลุดยิ้มออกมา ร่างสูงนั่งมองคนตรงหน้าที่นั่งครอบครองไก่ทอดแสนอร่อยทั้งจาน

     

                พี่กินไก่บ่อยๆ พี่ต้องหน้าอกใหญ่แน่เลย เสียงทุ้มของหนุ่มตากล้องอายุยี่สิบดังขึ้นหลังจากที่จดจ้องซองจงอยู่นาน คำพูดที่ดูทะลึ่งทำให้ซองจงทำตาเขียวใส่อย่างรวดเร็ว คำพูดของแอลที่เริ่มสนิทมากขึ้นทุกทีบางครั้งซองจงก็ไปต่อไม่ถูก เขาจิ๊ปากเบาๆก่อนจะจับน่องไก่มากัดไว้

     

                ผมล้อเล่นน่า

                แต่อย่ากินเยอะมากนะครับ มันไม่ดี แอลพูดต่อหลังจากที่เห็นคนตรงหน้าทำเสียงฟึดฟัดไม่พอใจใส่ มือหนายกกระป๋องเป๊ปซี่ขึ้นมาดื่มแต่สายตาที่ยังคงมองซองจงตลอดเวลาก็ยังทำหน้าที่ถึงแม้จะทำอย่างอื่นด้วยก็ตาม

     

                แถมมันยังมีแป้งเยอะอีก พี่ต้องควบคุมน้ำหนักตัวเองด้วยนะครับ นิสัยเอาใจใส่ การดูแลด้วยคำพูดบางทีซองจงกลับชอบยิ่งกว่าการกระทำเสียด้วยซ้ำ ร่างบางเหลือบมองคนตรงหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา

     

                รู้แล้ว

     

                โซจูที่ซื้อมาด้วย พี่ห้ามดื่มนะครับเพราะมันส่งผลกับน้ำหนักของพี่เหมือนกันแถมถ้าพี่ดื่มแล้วเมาเดี๋ยวก็ทำอะไรบ้าๆบอๆอีก ดีนะครับที่พี่ยังมีบุญอยู่ถึงขับรถกลับมารอดน่ะ นอกจากการเอาใจใส่แอลก็ยังแฝงความขี้บ่นออกมาด้วย การพูดที่ทำตัวเหมือนแก่กว่าซองจงทำเอาร่างบางทำปากงุบงิบเหมือนกำลังล้อคนที่กำลังบ่นอยู่

     

                เสียงบ่น เสียงถกเถียง เสียงหัวเราะ ดังขึ้นมาเป็นพักๆ ซองจงอายุยี่สิบห้าที่ไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยมีรักแรก เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกับตากล้องบ้านี่ ถึงแม้จะปนความรำคาญด้วยก็เถอะ

     

                เงียบไปสักพักแอลยกนิ้วขึ้นมานับคิ้วขมวดขึ้นทันทีก่อนซองจงจะเงยหน้ามอง เหมือนแอลกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ท่าทางที่กำลังคิดทำให้ซองจงอยากจะรู้สิ่งที่แอลกำลังคิดอยู่ใบหน้าสวยจ้องมองคนที่กำลังก้มหน้านับนิ้วตัวเอง

     

                ทำอะไร

                พรุ่งนี้วันฮาโลวีนครับเสียงใสถามก่อนหนุ่มตากล้องจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ ท่าทางที่คิดเหมือนนับเลขเยอะๆทำซองจงแทบหลุดขำ แค่พรุ่งนี้ก็ยกนิ้วขึ้นมานับเหมือนห่างกันหลายอาทิตย์ สีหน้าซองจงที่เหมือนจะหัวเราะออกมาทำแอลขมวดคิ้วใส่ทันที

     

                ที่ผมนับเนี่ยผมคิดว่าจะซื้อดอกกุหลาบให้พี่ครบร้อยดอกวันไหน

     

                แล้วเกี่ยวอะไรกับวันฮาโลวีน ซองจงถามต่อก่อนใบหน้าหล่อจะทำตาลอกแลก เขาทำท่าทางเหมือนคนมีพิรุธสักพักก็รีบส่ายหัวไม่มีอะไร

     

                แค่บอกเฉยๆครับ แอลรีบพูดออกมาก่อนร่างบางจะพยักหน้าอย่างไม่รู้อะไร รอยยิ้มมุมปากที่กระตุกเล็กน้อยเหมือนเด็กที่กำลังคิดซุกซน แอลกำลังคิดว่าจะแกล้งอะไรซองจงในวันพรุ่งนี้ต่างหาก

     

                ฉันอยากดูหนังผีอ่ะ

                เลิกงานมาดูเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ปะ ซองจงรีบชวนหนุ่มตากล้องที่กำลังเช็คกล้องอยู่ก่อนใบหน้าหล่อจะทำตาโตใส่ ซองจงใช้ชีวิตคนเดียวบ่อยมากกว่าจะใช้ชีวิตกับคนอื่นหรือครอบครัวแต่มันก็แปลกที่ซองจงกลับชวนแอลซะอย่างนั้น

     

                ผมไม่ชอบหนังผีครับ มนุษย์แอลนิสัยกวนตีนแต่ใจกากพูดออกมาอย่างแผ่วเบาแต่พอที่ซองจงจะได้ยิน แค่ได้ยินคำว่าหนังผีแอลปฏิเสธแน่นอนเพราะเขาโคตรจะกลัวหนังพวกนี้เลย

     

                แต่พอเป็นซองจงแล้วเขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเช่นกัน

                ยิ่งคำพูดต่อไปนี้ที่ทำให้แอลแทบจะตอบตกลงไปแทบไม่ทัน

     

                โอเค งั้นฉันรอพี่ซองยอลมาดูก็ได้นะ

                งั้นผมไปก็ได้ครับ!”

     

                เสียงหัวเราะซองจงดังขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงของคนตรงหน้ารีบพูดออกมาอย่างเร็ว ซองจงแค่จะกลั่นแกล้งคนตรงหน้าแค่นั้น แต่ก็แปลกๆที่อยากจะลากเจ้าหนุ่มตากล้องนี่ไปด้วยกันขนาดนี้

     

                ขนาดต้องเอาซองยอลมาอ้างเลยนะ..

     

              แต่ว่าเอาเรื่องที่น่ากลัวไม่มากได้ไหมครับ

                อืม

                แล้วดูที่ไหนหรอครับ

                ที่นี่แหละ

     

                แอลแทบควันออกหูเมื่อได้ยินว่าความจริงแล้วจะมาดูหนังในห้องของซองจงเอง ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากดูแต่พอรู้ว่าถ้าซองจงพาซองยอลมาก็คงจะมาอยู่ในห้องซองยอลนี่แหละ แอลถึงไม่พอใจขนาดนี้

     

                ใจเย็นไว้น่า นายยังไม่ได้คบกับพี่ซองจงนะ ใจเย็นๆ..              

     

              แอลคิดในใจเสียงกัดฟันดังออกมาจากปากแอลพร้อมกับสีหน้างอนๆ คิ้วที่ขมวดจนแทบจะติดกัน เหมือนซองจงจะรู้ว่าการแกล้งของซองจงมันได้ผลแน่ๆถ้าแอลเลือกที่จะปฏิเสธไม่ยอมมาดูหนังกับเขาน่ะ

     

                โอเคไม่แกล้งแล้ว ซองจงตอบสั้นๆพร้อมรอยยิ้มที่สดใส             

     

                อย่าทำหน้าเหมือนตูดลิงนักเลยไอบ้ามยองซู

     

     

     

     

     

                ในขณะเดียวกันกับที่แอลและซองจงอยู่ด้วยกันอยู่นั้นยังเลือกอีก หนึ่งคู่ ที่กำลังมานัดเจอกันในที่สุดสวีทแบบนี้ ถึงแม้จะเพิ่งคุยกันและความเพ้อเจ้อของโฮวอนเองนั่นแหละ

     

                แม่น้ำฮันเนี่ยนะ..

     

              ถ้าเป็นปูซานน่าจะดีกว่านี้.. โฮวอนบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ เขายืนโดดๆคนเดียวใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่เสื้อกันหนาวสีม่วงที่ค่อนข้างจะสะดุดตาคนส่วนมาก นิสัยมนุษย์โฮวอนนี่มันก็ไม่ค่อยจะต่างกับแอลสักเท่าไหร่หรอกนะ

     

                หน้าตาย กวนตีน เล่นใหญ่..      

              โฮวอนและแอลคือฝาแฝดกันชัดๆ

     

              ร่างหนาเดินวนต้นไม้จนคนรอบๆมองอย่างแปลกใจ โฮวอนไม่ได้สนใจใครเลยสักนิดนอกจากรอ หนุ่มนายแบบหน้าใหม่ มาหาเขาตามนัดในช่วงเวลาเย็นๆแบบนี้

     

                แต่ถ้าเรื่องความรักโฮวอนแทบจะเก่งยิ่งกว่าแอลเสียด้วยซ้ำ หนุ่มปูซานที่ผ่านการพูดคุยกับสาวๆมากมายแน่นอนว่ายังไงคารมณ์เป็นต่ออยู่แล้วล่ะ

     

                ถ้าแอลได้ฟังเรื่องราววันนี้ของเขาในวันพรุ่งนี้ล่ะก็..

    แอลจะได้รู้ว่าโฮวอนคนนี้แหละกำลังมีความรัก

     

                โฮวอน!” เสียงนุ่มดังขึ้นจากอีกฝั่งโฮวอนหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อของเขาก่อนนิ้วหนาจะยกขึ้นมาขยับแว่นของตัวเอง หนุ่มนายแบบหุ่นดียกมือขึ้นโบกพอจะให้หนุ่มแว่นอีกฟากเห็น ซองกยู รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยืนรอเขาอยู่

     

                เพราะซองกยูเพิ่งเป็นนายแบบใหม่ชื่อเสียงอาจจะยังไม่ค่อยดังนักมันจึงเป็นข้อดีที่เขาจะออกข้างนอกเหมือนผู้คนปกติ เขาไม่ใช่ไอดอลที่ต้องมาปิดตัวนี่นา อีกอย่างออกมาหาผู้ชายด้วยกันมันก็ไม่ได้ผิดด้วย

     

                รอนานไหม ซองกยูถามขึ้นทันทีหลังจากที่เดินมายืนอยู่ตรงหน้าของหนุ่มแว่นที่ส่วนสูงเท่าๆกัน ดวงตาที่เล็กอยู่แล้วกลับเหมือนคนที่หลับตาเข้าไปใหญ่เวลาที่เขายิ้ม แต่สำหรับโฮวอนแล้ว ซองกยูโคตรจะน่ารักเลยแหละ

     

                ไม่นานนะครับ ก็แค่ยืนจนขาชา เสียงเหน่อๆพูดปนกวนนิดๆ ซองกยูหัวเราะขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น โฮวอนจดจ้องมองซองกยูอยู่นานก่อนริมฝีปากหนาจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา

     

                หนุ่มนายแบบอายุยี่สิบเจ็ดแต่ใบหน้าที่ยังคงความเด็กเอาไว้ มองเผลอๆโฮวอนกลับดูแก่กว่าซองกยูเสียอีก ทั้งคู่เริ่มก้าวขาเดินไปเรื่อยๆ วิวของแม่น้ำพร้อมกับแสงแดดสีส้มเข้ม ดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกไปอากาศที่เริ่มเย็นลงแต่มันก็ยังคงความโรแมนติกเอาไว้

     

                เราจะไปไหนกันหรอโฮวอน หลังจากที่เงียบจนน่าอึดอัดซองกยูจึงเลือกที่จะพูดออกมาก่อน โฮวอนทำท่าทางเงอะงะก่อนจะก้มหน้าไปเหมือนเดิม

                บางทีซองกยูก็ไม่เข้าใจว่าโฮวอนเป็นคนยังไง ตั้งแต่ทำงานร่วมกันครั้งนั้นก็เป็นโฮวอนเองที่เข้ามาหาเขาก่อนซะด้วย ตอนแรกซองกยูกลัวว่าโฮวอนจะมาทำร้ายร่างกายเขาซะอีก

     

                แต่โฮวอนก็เป็นคนที่มีเสน่ห์เหมือนกันนะ ถ้าถอดแว่นน่าจะดูดีกว่านี้..

     

                ผมอยากซื้ออะไรมากินแล้วก็นั่งดูแม่น้ำฮันสบายๆ คุณว่าดีไหม โฮวอนเงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาจนซองกยูตามไม่ทัน ใบหน้าเรียวพยักหน้าก่อนก้มมองเสื้อกันหนาวของหนุ่มปูซานขำๆ

     

                ก็ได้ ฉันได้หมดนะ

                ว่าแต่... เสื้อนายน่ะ หนุ่มนายแบบยกมือเรียวขึ้นมาปิดปากพร้อมกับหัวเราะออกมา โฮวอนมองเสื้อของตัวเองหนุ่มปูซานที่ไม่ได้ใส่ใจแฟชั่นของตัวเองนักทำหน้าตาเหรอหราไม่เข้าใจ ซองกยูหัวเราะทำไม เสื้อสีม่วงที่เขาชอบมันตลกนักหรอ

     

                ทำไมหรอครับ มันไม่เท่หรอ นิ้วหนาชี้ที่เสื้อกันหนาวสีม่วงของเขา สีหน้าของหนุ่มปูซานทำหน้าไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียว ซองกยูส่ายหัวก่อนมือเรียวนั้นจะเลื่อนออกจากใบหน้าของเขา

     

                ฉันว่ามันไม่เข้ากับนายนะ

                ผมชอบสีนี้นี่ครับ

                มันเข้มไปนี่นา ถ้าสีอ่อนกว่านี้ฉันว่ามันต้องเข้ากับนายมากกว่านี้แน่ๆเลยล่ะ หนุ่มนายแบบอายุยี่สิบเจ็ดปีที่ใส่ใจแฟชั่นของคนอื่นพูดขึ้น มือเรียวยกขึ้นไปจับแขนเสื้อของคนข้างๆของเขา

     

                คุณก็ซื้อให้ผมสิครับ โฮวอนพูดด้วยน้ำเสียงซื่อๆทื่อๆแต่ก็แฝงไปด้วยความทะเล้นอยู่ดี ซองกยูรีบส่ายหัวแทนคำตอบก่อนเขาจะหันไปมองทางแม่น้ำ

     

                แสงที่ตกกระทบกับแม่น้ำสวยจนอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ซองกยูจดจ้องไปที่แม่น้ำจนแทบจะลืมหนุ่มพนักงานข้างๆอย่างโฮวอนไปจนโฮวอนต้องกระแอมเสียงนั่นแหละซองกยูถึงจะกลับไปสนใจเขาอีกครั้ง

     

                คุณชอบที่นี่หรอครับ คุณซองกยู เสียงทุ้มเอ่ยถามทันทีที่เห็นหนุ่มนายแบบหันมามองใบหน้าของเขา

     

                อ่อ.. อื้ม ฉันชอบเพราะมันสวย

                งั้นผมขอชอบด้วยคนนะครับ

     

                โฮวอนพูดออกมานิ่งๆ คำพูดที่ทำซองกยูแทบจะยกมือขึ้นมาแทบอก เขาไม่เคยโดนผู้ชายด้วยกันมาพูดอะไรแบบนี้ ไม่สิแค่เขาบอกว่าชอบแม่น้ำด้วยเหมือนกันมันไม่น่าตกใจหรอก แต่คำพูดต่อไปนี่แหละที่ทำซองกยูแทบอยากจะทรุดลงกับพื้นหญ้า

     

                แล้วผมก็ชอบคุณด้วยครับ คุณซองกยู

     

                !!!

     

                ไอบ้าเอ๊ย นี่ซองกยูต้องมาเจอผู้ชายด้วยกันพูดอะไรน่ากลัวๆแบบนี้ด้วยหรอ คำพูดที่พูดออกมานิ่งๆใบหน้านิ่งๆของโฮวอนทำซองกยูแทบอยากจะกุมขมับ ถึงอีกใจมันจะเขินแปลกๆก็ตามเถอะ

     

                เอ่อ... ซองกยูถึงกับพูดไม่ออก ยังไงก็ตามโฮวอนก็ไม่ได้สนใจอยู่ดีหนุ่มแว่นค่อยๆหันมามองใบหน้าเรียวของหนุ่มนายแบบริมฝีปากหนาค่อยๆยิ้มมุมปากออกมา

     

                เชื่อไหมครับ ที่ผมพูดเมื่อกี้น่ะ

                ความจริง

     

                โฮวอนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เอาจริงๆแล้วโฮวอนถึงจะผ่านการคุยกับสาวๆมาเยอะก็ตามแต่นี่มันเพศเดียวกัน และเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน เพราะเขาเป็นคนตรงๆที่ด้วยพอจะสารภาพอะไรมันเลยทำตัวไม่ถูก อยากจะยิ้มแต่หน้ามันดันยิ้มไม่ออกซะอย่างนั้น

     

                แต่ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย!” เสียงนุ่มพูดออกมาเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ชัดเจนของโฮวอน แม้เหตุผลของซองกยูมันจะมีสาระ ความเป็นไปได้ยากสูงแต่โฮวอนก็ไม่ได้ใส่ใจ อีกอย่าง..

     

                ความรักมันจำกัดเพศไม่ได้หรอกนะ

     

     

     

     

     

     

              ศัพท์ของการถ่ายถ่ายภาพมันเยอะนะครับพี่ซองจง

     

                เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนใบหน้าสวยจะเลื่อนไปมองหน้าจอของกล้อง หน้าจอสี่เหลี่ยมนั่นกำลังโชว์ใบหน้าของเขาอยู่นั่นแหละ ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มให้กับรูปของตัวเองเล็กๆ จริงๆแล้วแอลเป็นคนที่ถ่ายรูปสวยมากจริงๆ เขาเชื่อแล้วที่พ่อของเขาดูจะชอบแอลมากๆ

     

                ยังต้องมาจำอะไรแบบนั้นอีกหรอ แค่กดถ่าย

     

                มันไม่ได้ง่ายนะครับ ผมเรียนมาทางนี้ด้วยน้า จะถ่ายรูปสวยๆมันก็ต้องรู้จักองค์ประกอบรู้จักอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยสิ

     

                แค่นี้เองไม่เห็นต้องพูดเยอะเลย การอธิบายของแอลที่ค่อยข้างเยอะจนซองจงไม่อยากจะฟัง เขารีบพูดตัดหน้าไม่ยอมให้แอลพูดออกมาอีก

                แล้วมันมีคำว่าอะไรบ้างล่ะ..

     

                ไม่อยากฟังแต่ก็อยากรู้อยู่ดี..

     

              มันจะแยกเป็นหมวดตัวอักษร A-Z ครับ อย่างเช่นหมวด A” เพราะซองจงอยากรู้แอลจึงเริ่มอธิบายด้วยความตั้งใจและซองจงก็เลือกจะเป็นผู้ฟังที่ดีและตั้งใจฟังเจ้าหนุ่มตากล้องนี่เหมือนกัน

     

                อย่างหมวด A – Absorption”

                หมายถึง?

                หมายถึงการดูดกลืนแสงของฟิลเตอร์ครับ เช่น ฟิลเตอร์สีแดงดูดกลืนแสงสีเขียวและแสงสีน้ำเงินไว้ แอลอธิบายอย่างตั้งใจ ใบหน้าหล่อที่ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาเขาแสดงความรู้ที่ตัวเองมีออกมาพูดและซองจงก็พยักหน้ารับ

     

                “Action Photography ก็คือการถ่ายภาพเคลื่อนไหว

                ผมต้องรู้คำศัพท์พวกนี้แล้วก็เอาไปใช้ในการถ่ายภาพด้วย อย่างที่กำลังทำตอนนี้ พูดจบมือหนาก็ยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ใส่คนตรงหน้า ใบหน้าสวยที่ไม่ได้แม้แต่จะยิ้มให้กล้อง

     

                แต่มันก็ยังงดงามเหมือนดอกไม้อยู่ดี..

     

              มยองซู!”

                พี่ดูครับว่าสวยไหม เสียงพูดที่ดังออกมาจากซองจงไม่ได้ทำให้แอลสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียวเขากลับถามซองจงอย่างหน้านิ่ง มือหนาเลื่อนหน้าจอของกล้องไปหาหนุ่มเลขาที่นั่งกอดอกมองอย่างหงุดหงิด

     

                โห นายถ่ายฉันตอนที่ฉันยังไม่ทันจะได้เก๊กท่าเลยนะมยองซู

                โคตรแกล้งเลยอ่ะ ซองจงพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ แต่หนุ่มตากล้องกลับฉีกยิ้มออกมาซะอย่างนั้น เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ซองจงเล็กน้อยใบหน้าหล่อจดจ้องไปที่ใบหน้าสวยที่กำลังขมวดคิ้วมองเขาอยู่

     

                แต่สำหรับผม รูปไหนพี่ก็สวยครับ คำพูดที่ทำเอาใบหน้าสวยร้อนผ่าว ซองจงค่อยๆเม้มริมฝีปาก ความใกล้ชิดและสายตาของแอลกำลังจ้องซองจงอยู่มันทำให้ซองจงแทบอยากจะวิ่งออกจากห้องแล้วไปตะโกนดังๆ

     

                พี่ดูองค์ประกอบของรูปสิครับ แบบนี้เรียกว่า Absorption” แอลรีบเข้าเรื่องต่อก่อนซองจงจะรีบก้มหน้ามองรูปของตัวเองในกล้อง องค์ประกอบรูปที่สวยจนอยากจะได้มาเก็บไว้ บางทีถ้าในชีวิตมีคนแบบแอลอยู่ด้วยอย่างน้อยเราก็ได้รูปดีๆโดนไม่ต้องถ่ายเองออกมาบ้าง

     

                อื้มก็.. สวยดี ซองจงตอบสั้นๆ ใบหน้าสวยที่ปนความเขินอายจนเห็นได้ชัดทำแอลอยากจะหัวเราะความน่ารักของคุณเลขาตรงหน้าออกมา

     

                ไว้คบกัน เราไปเที่ยวกันไหมครับ

                เพ้อเจ้อ

     

                ขอเพ้อเจ้อต่อให้จบก่อนสิครับ

                ...

                ถ้าวันนึงเราคบกันแล้ว เราลองไปสถานที่ต่างๆไหมครับ ผมว่าถ้าที่นั่นมีพี่อยู่ด้วยมันจะต้องสวยมากๆ พี่ต้องเป็นนายแบบส่วนตัวให้ผมนะ

     

                คำเพ้อเจ้อของแอลที่เต็มไปด้วยความจริงจัง ใบหน้าหล่อที่จดจ้องแต่ซองจง ความคิดของแอลที่พูดออกมามันน่ารักจนซองจงก็อยากจะยิ้มออกมาเหมือนกัน

                เป็นผู้ชายคนนึงที่จริงจังกับทุกเรื่องแถมยังชอบคิดเรื่องอนาคตแบบไกลริบหรี่อีกด้วย มือบางยกขึ้นดันใบหน้าของหนุ่มตากล้องออกด้วยความรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่มากเกินไป

     

                เขาไม่ยอมให้มีเหตุการณ์ครั้งที่สองหรอกน่า..

     

              พรุ่งนี้ผมไปทำงานพร้อมพี่ได้ไหมครับ รถของผมมันแปลกๆ แอลพูดต่อหลังจากที่โดนหนุ่มเลขาตรงหน้ารู้ทันแผนทะลึ่งๆของตัวเอง

     

                ก็ขับได้ปกติไม่ใช่หรือไงซองจงรีบตอบ

     

                มันไม่ปกติก็ตั้งแต่พี่อยู่กับผมนั่นแหละ

                เพราะมันอยากให้ผมไปกับพี่ไม่รู้หรอ พูดจบแอลก็หลุดขำออกมาอย่างดัง ดังจนซองจงแทบอยากจะเอามือปิดหู อยากจะยกมือไปฟาดให้เลือดกลบปากอีกแรงๆ

     

                ไร้สาระว่ะ กลับห้องตัวเองไปเลยไป

     

                เขินแล้วก็ไล่กันหรอครับพี่ซองจง

     

                “…”

     

                เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะมาดูหนังกับพี่นะครับ

     

     

     

    31 Oct 2016 : Halloween Day

    05:00 AM

     

              ..กริ๊ง!           

              เสียงดังมาจากหน้าประตูของห้องพักสุดหรู ดังครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง และครั้งที่สามจนเจ้าของห้องรู้สึกตัว เสียงบ่นพึมพำเบาๆของคนที่กำลังเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอน ซองจงเดินเซๆมาที่หน้าประตู เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าแอลจะมาปลุกเขาและลากเขาไปทำงานแต่เช้าแน่ๆ

     

                เสียงเปิดประตูดังขึ้นร่างบางชะโงกมองซ้ายขวา เสียงกริ่งมันดังในห้องของเขาซองจงฟังไม่ผิดแน่ๆ ถ้าเป็นห้องอื่นเขาคงได้ยินเสียงคนคุยกันหรือเปิดประตูแล้ว

     

                ไม่มีใครเลย..

     

                คอนโดสุดหรูชื่อดังของกรุงโซลเวลาตีห้าชั้นสิบที่เงียบจนได้ยินเสียงลมหนาวๆที่พัดมา นั่นทำให้ซองจงรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที แต่อีกใจซองจงก็คิดแค่ว่าคงคิดไปเอง ไม่มีใครหรอกน่า ผีก็ผีเถอะเขาไม่กลัวหรอกนะ

     

                เสียงปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง ซองจงกันหลังให้กับประตูขาเรียวค่อยๆก้าวกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สอง และ

     

                ก้าวที่สาม..

     

                ..ก๊อก ..ก๊อก ..ก๊อก

     

              ก้าวที่สี่หายไปทันทีที่ซองจงได้ยินเสียงเคาะประตูแทน เคาะสามครั้งจังหวะการเคาะที่น่าขนลุก ตอนนี้ซองจงไม่กล้าที่หันหลังไปมองประตูด้วยซ้ำ จากที่ไม่กลัวอยู่ๆมันรู้สึกว่าน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ เสียงเงียบสงัดทั้งห้อง บรรยากาศที่คล้ายกับหนังผีสยองขวัญที่ซองจงมักจะชอบดู

     

                นึกถึงหนังผีที่เคยดูซองจงจึงตัดสินใจหันไปมองประตูห้องของเขาเอง ซองจงผ่านหนังผีมากเยอะและตอนนี้เขาเชื่อมั่นว่าไอหนังผีหลอกคนดูให้กลัวโดยการสร้างบรรยากาศหลอนๆ เสียงเคาะประตูโง่ๆ พอเปิดออกไปก็คงเห็นแค่อากาศว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ดี

     

                ซองจงหายใจเข้าลึกๆเต็มปอดก่อนจะถอนออกมา ขาเรียวก้าวไปที่ประตูมือบางที่จับลูกบิดและเปิดประตูอย่างรวดเร็ว แค่วินาทีเดียวเท่านั้น..

     

                แฮ่!!!”

     

                แค่วินาทีเดียวจริงๆ ซองจงแทบจะล้มลงไปดิ้นกับพื้น เสื้อสีดำผ้าคลุมสีดำกับหน้ากากผีโง่ๆที่ทำซองจงแทบล้มตึงลงไปนอนกับพื้น แผนการโง่ๆของแอลมันสำเร็จแล้วล่ะเพราะหลังจากที่เขาทำเสียงประหลาดๆออกมาซองจงก็ร้องลั่นยิ่งกว่าเจอผีจริงๆซะอีก

     

                ออมม่า!!!” เสียงใสตะโกนลั่นทันทีที่เห็นผีปลอมๆมากระโดดใส่หน้า ดวงตาเรียวสวยที่หลับตาปี๋เขาแทบจะวิ่งกลับเข้าห้องนอนแล้วล็อคประตูมันซะ เสียงอวดครวญดังสังพักก่อนเสียงหัวเราะของคนที่ใส่หน้ากากผีจะดังออกมาเช่นกัน

     

                โฮะ โฮะ โฮ้..”

                เอาลูกอมมาเลยนะ ไม่งั้นฉันจะบีบคอนาย

     

                เสียงที่ดัดให้ดูใหญ่และเหมือนคนแก่ดังขึ้นภายใต้หน้ากากผีตรงหน้าของซองจง เหมือนคนที่ตกใจจนแทบเสียสติจะรวบรวมสติได้กลับคืนมาเหมือนเดิม ดวงตาสวยค่อยๆเปิดขึ้นมามองคุณผีปลอมที่ทำท่าจะบีบคอเขา และตอนนี้เขารู้แล้วว่าใครมันมาเล่นอะไรแบบนี้

     

                ลูกอม.. เสียงจากภายใต้หน้ากากดังขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยเริ่มนิ่งคิ้วสวยขมวดติดกันทันที

     

                ลูกอมหรอ..จากที่ง่วง จากที่กลัว ตอนนี้กลับกลายเป็นแม่มดที่พร้อมจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตายไปเป็นผีจริงๆ มือบางยกขึ้นมากระชากหน้ากากผีออกจากคนตรงหน้าทันที และเขาคิดถูกไอคนที่เล่นแบบนี้คือแอลหนุ่มตากล้องที่มาทั้งรบกวนการนอนของเขาและยังมาทำให้กลัวอีกต่างหาก

     

                ลูกอมหรอ!” กระแทกเสียงแรงๆก่อนจะยกหน้ากากฟาดไปที่หัวของหนุ่มตากล้องตรงหน้าไปสองสามที เกือบจะมีครั้งที่สี่ถ้าเจ้านั่นไม่ยกมือขึ้นมาบังก่อน เสียงทุ้มหัวเราะออกมาแล้วลูบหัวตัวเองเบาๆ เหมือนแอลกำลังรู้สึกดีใจที่ได้แกล้งซองจงสำเร็จ ดีใจยิ่งกว่าเรียนจบหรือใดๆทั้งสิ้น

     

                ไปเลยนะไอบ้างมยองซู!” เสียงใสพูดเสียงดังจนเหมือนแทบจะรบกวนห้องอื่นๆ ร่างบางที่กำลังโกรธกับสิ่งที่แอลทำเขายกมือขึ้นมาจะปิดประตูใส่หน้าทันที แต่คนอย่างแอลก็คงเข้ามาได้อยู่ดีก็เท่ากับว่าซองจงปิดประตูไม่ทันแต่แอลก็แทรกตัวเข้ามาแล้ว

     

                เดี๋ยวนี้ทำตัวไม่มีมารยาท

     

              ทั้งคู่นั่งมองหน้ากันมาสักพักบนโซฟาหลังจากที่ต่างคนต่างต่อล้อต่อเถียงกันหน้าห้องไปสักพัก ใบหน้าซองจงที่โคตรจะหงุดหงิดเหมือนในหัวสมองมีแต่เสียงสงครามตลอดเวลา ซึ่งมันต่างกับอีกคนที่กำลังยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกินขึ้นไปเมื่อสักครู่ แถมยังเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความก่อกวนเหมือนในสมองเขาก็คงจะมีแต่เสียงบ้าๆบอๆในนั้น

     

                ผมคือไมเคิล ฆาตกรต่อเนื่อง!” เหมือนจะไม่สนใจสีหน้าของคนตรงหน้าเขาหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมอีกครั้งพร้อมกับหยิบมีดของเล่นมาทำท่าจะแทงซองจง บางทีซองจงก็ไม่มั่นใจว่าแอลคือหนุ่มวัยรุ่นอายุยี่สิบจริงๆหรือเปล่า หรือตานี่มันไปสลับร่างกับเด็กสิบขวบกันแน่

     

                โคตรบ้า

     

              เหอะ ซองจงกระตุกยิ้มอย่างเอือมๆ เหมือนความง่วงจะกลับเข้ามาครอบงำเขาอีกครั้งซองจงสั่นหัวเบาๆพร้อมกับเอนตัวลงไปนอนกับโซฟานุ่ม ซองจงที่ง่วงขึ้นมาอีกครั้งและต้องการพักผ่อนต่อก่อนจะไปทำงาน คำว่า เอ้า ดังออกมาจากปากของหนุ่มตากล้องที่ใส่หน้ากากตรงนั้น

     

                ไปไกลๆจะนอน ซองจงพูดตัดบทสนทนาก่อนหนุ่มตากล้องจะรีบดึงหน้ากากออกจากหัวตัวเอง

     

                พี่ต้องไปทำงานครับ!”

                ลุกเลยนะ คุณสล็อตซองจง ฉายาที่ล้านดังขึ้นจากปากของหนุ่มตากล้องอีกแล้ว แต่เหมือนซองจงไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาแย้งชื่อใหม่ๆของเขาแล้วล่ะ ซองจงต้องการที่จะนอน นอน นอน และนอนเท่านั้นในเวลานี้

     

                คุณสล็อตซองจง

     

                “…”

     

                เหมือนจะหลับไปแล้ว แอลสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยออกมาอย่างเหนื่อยล้า ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนจากโซฟา การกอดอกมองคนที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง เขากระดิกเท้าเพื่อทำให้สมองแล่นคิดแผนการไม่ดีกับซองจงขึ้นมาอีกครั้ง

     

                และเหมือนแอลจะคิดออกแล้วล่ะ..

     

              ร่างสูงก้มลงไปใกล้ๆร่างบางที่ยังคงนอนอยู่บนโซฟานุ่มๆนั่น ริมฝีปากหยักยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เขาเลื่อนใบหน้าเรียวไปข้างๆหูของคนที่กำลังหลับอยู่ และเหมือนแอลจะรู้ว่าซองจงยังหลับไม่สนิท

     

                ถ้าพี่ไม่ตื่น

                “…” เสียงกระซิบเบาๆดังขึ้นจนซองจงที่นอนนิ่งๆจะรีบหลับตาปี๋พยายามไม่สนใจอะไร เขายังทำตัวเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไรทั้งๆที่ตอนนี้หัวใจเขากำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

     

                ผมจะปล้ำพี่ตอนนี้เลยนะ

     

                !!!




    ϟ



         สวัสดีครับทุกคนแหะๆ แชป13มาแล้วนะครับคราวนี้ปล่อยโฮกยูมาด้วยสเปเชี่ยลเลย ส่วนมยองจงยังน่ารักเหมือนเดิมนะครับ อย่าลืมติดตามน้า

         ฝากเมนท์ให้กำลังใจด้วยนะครับตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆ ถ้าไม่มีคงต้องพักไปยาวๆ..
         ยังไงฝากสกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ในทวิตเตอร์ด้วยนะคร้าบ
         ps. พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วครับ มีเวลาว่างจะมาแก้ไขให้น้า
    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×