คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท รู้อยู่แล้วละว่ารักนี้มันผิด!!!
ที่นี้ที่ไหนนะ !!! ภาพเบื้องหน้ามันคล้ายความฝัน ผมยืนอยู่ในที่ไหนซักแห่ง สถานที่ๆเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด แสงแดดที่แยงมากระทบบนร่างกายกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผมเดินไปเรื่อยๆบรรยากาศรอบกายช่างสบายเหลือเกิน สุดท้ายผมก็เดินไปหยุดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ใจกลางที่นั้น
“ต้นแอปเปิ้ล!!”ผมพึมพำแล้วเอื้อมมือไปหยิบผลแอปเปิ้ลที่อยู่ใกล้มือมา สีแดงสดของมันช่างดูยั่วยวน ผมได้กลิ่นหองจางๆของมันอย่าชัดเจน ราวกับได้ยินเสียงของมันกระซิบข้างหูนับครั้งไม่ถ้วนว่า‘กินฉันเถอะ’ แต่ผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะกัดกินมันดังใจอยาก ทำไมนะ ทั้งที่มันก็แค่ผลไม้แต่ผมกลับกลัว กลับไม่กล้าที่จะกัดมันซักคำ ผมมองไปรอบตัวต้นไม้เกือบทุกชนิดเต็มไปด้วยผลสุกงอมน่าลิ้มลอง แต่แปลกดูเหมือนผมจะผูกใจเจ็บกับเจ้าผลสีแดงในมือ ผมขยับมันเข้าใกล้ใบหน้าตัวเองกลิ่นหอมเตะจมูกทำให้ผมอยากจะลิ้มลองรสหวานละมุนของมันเหลือเกิน ริมฝีปากของผมอ้าออกอย่างที่ผมไม่คิดจะห้าม ผมกัดมันเต็มปากเต็มคำแล้วเขี้ยวอย่างละเลียด
เสี้ยววินาทีที่รับรู้ถึงรสหวานละไมร่างกายผมก็ทรุดลงกับพื้นปล่อยผลไม้สีแดงสดกระแทกพื้นอย่างไม่มีกำหนด
รู้สึกถึงสัมผัสทั้ง5ที่เริ่มพร่าเลือน แม้แต่จะหายใจก็ยังยากลำบาก ผมรู้ดีว่าไม่นานผมคงครองสติไม่ได้แน่ แดดที่เคยอบอุ่นแปรเปลี่ยนเป็นแผดเผาร่างกายจนร้อนไปหมด ก่อนที่จะหมดสติผมก็ได้เข้าใจ นี้ไม่ใช้นิทานที่น่ายินดีและพบรักจากแอปเปิ้ลอย่างสโนไวท์ แต่เป็นความผิดบาปที่กัดกินผลไม้แห่งพระเจ้าในสวนเอเดนต่างหากบางที่ผมอาจต้องรับโทษมากกว่าอดัมกับอีฟก็ได้ เพราะผมเลือกที่จะกัดกินมันเองโดยไม่ต้องมีเจ้างูวายร้ายมายุยงอย่างอีฟ
ผมลืมตาโพลงจากฝันร้าย ใช้มือควานหานาฬิกาหัวเตียงมาดู เผ่งมองตัวเลขหน้าปัดอย่างยากลำบากเพราะสายตายังไม่ชินกับแสง ตัวเลขในนาฬิกาบอกเวลากว่า4ทุ่ม ดูเหมือนผมจะเผลอหลับไปโดยไม่ได้ปิดไฟ ก่อนหน้านี้เกือบ2ชั่วโมงผมกำลังนอนรอน้องสาวที่ออกไปเที่ยวงานวันเกิดเพื่อนโดยสัญญาว่าจะไม่กลับบ้านเลย2ทุ่ม
พอเลยเวลากลับมามากผมเลยตัดสินใจมานอนในห้องน้องสาว เพื่อที่จะได้ดุให้หนัก บอกจะกลับบ้าน2ทุ่มนี้ปาไป4ทุ่ม สงสัยจะตามใจมากไปสินะ
กึก!! กึก!! กึก!!
ผมกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเสียงคนย่องจากหน้าประตู ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยื่นยิ้มนิ่งอยู่ตรงประตู
เอี้ยด!!
บานประตูถูกเปิดออกอย่างเบามือน้องสาวผมยืนจับลูกบิดมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง หนอย!!ยัยตัวแสบ
“ค่อยยังชั่ว สงสัยจะหลับไปแล้วมั่ง” ยัยตัวดีพูดเบาๆโดยไม่หันมามอง ยังคงแลซ้ายดูขวาต่อไป แต่เสียใจผมได้ยินชัดเลยล่ะ
“กลับดึกนะ เที่ยวเพลินหรือไง” ผมพูดเสียงเย็นส่งยิ้มหวานไปให้ ยัยตัวดีสะดุ้งหันมามองแล้วยิ้มแหย่ๆกลับมา
“พี่ชายจ้า ยังไม่นอนอีกหรอ” ยังไม่ทันได้ดุเธอก็กระโดดกอดผมจนเซไปข้างหลังทั้งคู่
“ก็รอให้คุณน้องจ้ากลับบ้านก่อนไงล่ะ”ผมอุ้มเธอขึ้นแล้ววางลงบนเตียง น้องผมนะต่อให้อายุจะเพิ่มขึ้นทุกปีแต่ตัวดูเหมือนจะหยุดโตตั้งแต่อายุ13งั้นล่ะ
“งั้นนอนด้วยกันนะ หนูไม่อยากนอนคนเดียว ”
“อ้อนแล้วอย่าคิดว่าพี่จะไม่ดุนะที่เรากลับดึกนะ”ผมใช้นิ้วดีดหน้าผากเธอเบาๆ
“อย่าโกรธเลยนะไดจัง ก็ยัยออยนั้นละ ไม่ยอมให้โซระกลับบ้านอ่ะ ” โซระน้องสาวตัวดีแสนซนของผมเกาะแขนอ้อนแบบเด็ก และนั้นก็ได้ผล ผมไม่สามารถดุเธอได้จริงๆ ผมอมยิ้มน้อยๆแล้วลูบหัวเธอเบาๆ
“งั้นก็ไปอาบน้ำก่อนสิ นี้ก็ดึกมากแล้ว นอนดึกเดี๋ยวจะไม่โตเอานะ” โซระยิ้มแก้มแทบปริที่รู้ว่าจะไม่โดนผมดุ แต่ก็ไม่วายหันมาค้อนน้อยๆให้ผมที่แอบหยอดเรื่องส่วนสูงของเธอ แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่โดยดี
ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงจ้องมองโคมระย้าสีนวลที่ย้อมห้องนี้ให้กลายเป็นสีส้มอ่อนๆก่อนจะค่อยๆหลับตาพริ้มอย่างครุ่นคิด ‘ปีนี้ก็จะอายุ 18 แล้วซินะ’ ผมนึกย้อนกลับไปยังภาพสาวน้อย10ขวบที่กำลังวิ่งเล่นในสวนสาธารณะอย่างสนุกสนาน ผมกับน้องสาวอายุห่างกัน 5ปี เราทั้งคู่เป็นลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนจะมีเชื้อสายเป็นเชื้อพระวงศ์ยุโรปซะด้วย นั้นทำให้ผมกับน้องสาวหน้าตาท่าทางดูไม่ค่อยเหมือนกันนี้สิ โซระนะหน้าตาสวยคมในแบบฝรั่งแต่ตัวกลับเล็กยังกับเด็กโตเกียว ส่วนผมแม้ว่าหน้าตาจะจิ้มลิ่มในแบบพวกลูกครึ่งทั่วไปแต่รูปร่างก็ดันเบี่ยงไปทางพวกฝรั่งที่ออกแนวจะสูงใหญ่เกินจำเป็นอะไรแบบนั้น ในขณะที่คิดอะไรเพลินๆและใกล้จะหลับมิหลับแหล่ คุณน้องสาวสุดที่รักก็กระโดดขึ้นมานอนบนเตียงและกอดผมซะเต็มรัก เล่นเอาความคิดเตลิดหายไปหมด
“ไดจัง อากาศเมืองไทยร้อนจังเลย” โซระบ่นอุบแต่กลับกอดผมแน่นจนรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจซะให้ได้
“งั้นก็อย่ากอดสิ ร้อนจะตายอยู่แล้วยังจะมากอดอีก”ผมหยิกแก้วเธอเบาๆอย่างเอ็นดู
“ไม่เอาหรอก ถ้าไม่กอดไว้ไดจังก็ต้องหนีกลับไปนอนห้องตัวเองแน่เลย” เป็นไง น้องผมเรื่องเอาแต่ใจเนี้ยที่หนึ่งเลย
“คืนนี้ไม่ล่ะ พี่อยากนอนกับโซระ”แล้วจึงหอมหน้าผากเธอเบาๆเพิ่มยืนยันว่าผมไม่ได้โกหก ยังไงซะก็ก่อนจะหมดเวลาที่เราจะสามารถอยู่ด้วยกันในฐานะคนรัก ก่อนที่วันเกิดอายุครับ 18ของโซระจะมาถึงแล้วเราก็จะต้องกลับญี่ปุ่นไปเพื่อฉลองวันเกิดของเธอกับพ่อแม่ แล้วก็ต้องกลับไปเป็นพี่น้องธรรมดาที่ไม่มีทางสมหวังกับรักต้องห้ามนี้ ไม่ต้องกลับไปอ่านใหม่หรอกพวกคุณไม่ได้อ่านผิด ผมกับน้องสาวเราสองคนรักกัน รักจริงๆในรูปแบบรักแบบชายหญิง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
“งั้นราตรีสวัสดิ์นะ ไดจัง โซระรักไดจังมากนะ”ไม่ทันไรเธอก็หลับไปซะแล้ว ผมนอนมองใบหน้าเนียนสวยที่หลับตาพริ้มเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว เรือนผมสีดำสลวยที่เข้ากับใบหน้าหวานคมอย่างเหมาะเจาะ จมูกโด่งรับกับรูปหน้า ริมฝีปากอิ่มเย้ายวนที่มันทำให้ผมต้องเตือนตัวเองเสมอว่าไม่มีสิทธ์แตะต้อง จังหวะการหายใจที่สม่ำเสมอกับชุดนอนลายการ์ตูนตัวโปรดของเธอทำให้เธอดูใส่ซื่อ ต่างกับผมที่คิดอะไรโสโครกกับน้องสาวตัวเองอยู่เสมอ
“พี่ก็รักเธอ โซระ น้องสาวแสนสวยของพี่” ผมกระซิบข้างหูเธอก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องของเธออย่างเงียบเชียบ แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องตัวเองคว้าโทรศัพท์ที่มีรายชื่ออยู่ไม่ถึงสิบชื่อขึ้นมากดโทรออกหาปลายสายที่ขึ้นชื่อว่า ‘แม่’อย่างเหม่อลอย
‘ฮาโหล ว่าไงจ๊ะไดจัง สบายดีรึเปล่า’ ปลายสายพูดขึ้นมาอย่างร่าเริงทั้งที่นี้ก็ดึกดื่นแต่เธอกลับไม่ว่าผมเลย น้ำเสียงของเธออบอุ่นและไร้พิษภัย ผมมั่นใจว่าเธอรักผมกับโซระมากและนั้นคือเหตุผลที่ผมจำต้องหยุดความสำพันธ์สารเลวของเราทั้งคู่ลงไม่เช่นนั้นคนที่เสียใจที่สุด ก็จะเป็นตัวเธอคนนั้นผู้หญิงที่รักเราที่สุดในโลกผู้หญิงที่ขึ้นชื่อ ‘แม่’
“สบายดีครับ แล้วแม่ละ สบายดีไหม ทะเลาะกับกับพ่อรึเปล่า” ผมถามกลับ อมยิ้มน้อยๆกับรอยตำหนิสีดำในใจของตัวเอง
“ถามเป็นคนแก่ไปได้ไดจัง พ่อกับแม่ไม่ทะเลาะกันหรอก แล้วโซระละสบายดีรึเปล่า พี่น้องรักกันดีไหมนะ”คำถามของแม่เล่นเอาผมสะอึก แต่ก็พยายามไม่แสดงออกทางเสียง
“ก็สบายดีครับ หลับไปได้ซักพักแล้วล่ะ เดี๋ยวผมจะบอกเธอให้นะครับว่าคุณแม่คิดถึง”ผมชะงักก่อนตอบคำถามสุดท้ายของแม่“แล้วพวกเราก็รักกันดีด้วยครับ”
‘งั้นหรอ ดีจังเลย ฝากดูแลน้องด้วยนะไดจัง ไว้แม่จะนับวันรอวันที่พวกเราจะกลับมานะ’
“ครับ แค่นี้นะครับ ดูแลตัวเองด้วยนะแม่”ผมเองก็จะนับวันรอเหมือนกัน วันที่ความรักของผมจะจากไปและไม่มีวันคว้ามันกลับมาได้อีก ตลอดกาล.ผมกดวางสายแล้วนอนบนเตียงของตัวเองนึกโทษโชคชะตา ทำไมนะ ทำไมต้องมีผมคนเดียวที่ไม่มีสิทธ์รักเธอ ผมคนเดียวที่จะไม่มีสิทธ์รักไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ผมค่อยๆหลับตาพาตัวเองสู่การพักผ่อน ก่อนที่สติจะเลือนรางเต็มทนจนต้องปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่นิทราที่ไม่ยาวนาน แต่ก็สามารถทำให้รักของผมเป็นจริง แม้จะแค่ในความฝันก็ตาม
ผมคงบ้าไปแล้วแน่ทำไมรู้สึกเหมือนใบหน้าทั้งสองข้างมันเจ็บจนชาแบบนี้นะ แถมยังเหมือนได้ยินเสียงด่าจากน้องสาวตัวดีอีกด้วย ฝันอะไรแปลกๆนะผมเนี้ย
เพี๊ยะ ที่ 1!!!
“ไดจังบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! ไม่ได้ยินหรือไงตาบ้า”
เพี๊ยะ ที่ 2!!
“บอกให้ตื่นไงไม่ได้ยินรึ ตื่นซิ ตื่นๆๆๆ”
เพี๊ยะ ที่ 3,4,5และตามมาอีกมากมาย !!
“ถ้าไม่ยอมตื่นโซระจะโกรธจริงๆด้วย” สงสัยจะไม่ได้ฝันนะ ระบมขนาดนี้
“พอแล้วโซระ พี่เจ็บไปหมดแล้ว ตัวเล็กนิดเดียวทำไมแรงเยอะนักนะ” ผมปรือตามองเธอที่คล่อมอยู่บนตัวผมตั้งท่าพร้องมอบฝ่ามือพิฆาตมาได้ตลอดเวลา
“ไม่รู้ล่ะ ก็ไดจังนั้นแหละ สัญญาไม่ใช่หรอว่าจะนอนกับโซระ ไหงหนีกลับมานอนห้องตัวเองได้ย่ะ ตาบ้า”เธอทุบอกผมเป็นท่าประกอบ โซระที่คล่อมอยู่บนตัวผมย่อมได้เปรียบ ผมจับข้อมือของเธอแล้วพลิกตัวเป็นฝ่ายขึ้นคล่อมเธอทันที ตาฉันล่ะยัยตัวแสบ!!
“ก็พี่กลัวจะห้ามใจไม่ไหวทำมิดีมิร้ายโซระนี้นา”ผมแกล้งกระซิบเธอเสียงแผ่วก่อนจะดูปฏิกิริยาของเธอ
“โซ โซระไม่เกี่ยงอยู่แล้ว” เธอพูดเสียงสั่นใบหน้าแดงระเรื่อ รู้สึกเหมือนท่าทีแบบนี้จะทำให้ผมเลือดพล่านยังกับจะกระอักมันออกมาทางจมูกงั้นแหละ “ถ้าเป็นไดจังล่ะก็โซระไม่เกี่ยงหรอก”
เฮือก!!!
ผมกระเด้งตัวออกจากเธอทันทีใบหน้าร้อนผ่าว มือไม้อ่อนแรงไปหมด ยัยบ้านี้ ทำผมคิดเรื่องลามกแต่เช้าเลย
“ยัยเด็กลามกเอ๊ย”ผมดีดหน้าผากเธอที่หนึ่ง “ออกไปก่อนซิเดี๋ยวพี่อาบน้ำแล้วตามออกไป” ก่อนที่จะห้ามใจไม่ไหวจริงๆต้องไสส่งยัยนี้ออกไปก่อน
“ให้โซระถูหลังให้ไหม”เธอลุกขึ้นเท้าคางนอนมองผม จังหวะนั้นแหละที่หัวใจผมเต้นระรัวใบหน้าร้อนผ่าวรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเอาใน ณ บัดนั้น
“ไม่-ต้อง-ก็-ได้” รู้สึกเสียดายตงิดๆ กว่าจะพูดออกมาเป็นคำช่างยากลำบากจริง
“งั้นโซระลงไปรอข้างล่างนะ รีบลงมาละ กับข้าวหมดไม่รู้ด้วยนะ” เธอลุกจากเตียงไปทิ้งผมไว้ในห้องโดยไม่ได้รู้เลยว่าไอคำพูดเล่นๆของเธอมันได้ไปปลุกพญามังกรของผมขึ้นมาแล้ว อย่าหาว่าผมลามกเลยนะ ยังไงๆผมก็ยังหนุ่มยังแน่นความรู้สึกแบบนี้มันก็เรื่องธรรมดา จะแปลกก็คงที่ผมรู้สึกกับน้องสาวแท้ๆละมั่ง ผมเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำแต่กลับฟุ้งซ้านจนกรุไม่กลับแล้ว ห้ามคิดว่าผมจะไปทำอะไรลามกกับตัวเองในห้องน้ำละ ขอเตือน!!!
เพราะว่าคุณจะคิดถูกอย่างแรงเลยล่ะ
หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวและอะไรต่อมิอะไรที่ผมมั่นใจว่าพวกคุณรู้ความหมายว่ามันคืออะไรเสร็จผมก็เดินออกจากห้องลงบันไดไปยังห้องอาหารภายในบ้านพักส่วนตัวทันที
“วันนี้ภรรยาคนเก่งทำอะไรให้พี่กินค่ะ”ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงมาถามเธออย่างร่าเริง ทั่งทีเท้ายังไม่แตะถึงพื้นบ้านด้วยซ้ำ เหนือสิ่งอื่นใดผมพึ่งได้เข้าใจความหมายของคำว่าปากพาซวยก็วันนี้ละ ทำไมนะเหรอก็คุณเพื่อนน้องสาวสาเหตุการกลับบ้านดึกของโซระดันเผอิญนั่งรอทานข้าวพร้อมผมกับน้องอยู่นะสิ และดูเหมือนเธอจะเผอิญได้ยินคำพูดของผมด้วย
“พี่ไดซึเกะพูดว่าอะไร นะค่ะ” ไม่ต้องสงสัยว่าไดซึเกะคือใคร ใครคือไดซึเกะ นั้นคือชื่อจริงๆของผมและมันก็เป็นแค่ประเด็นรอง ส่วนประเด็นหลักก็คือ เผอิญว่าผมคิดคำแก้ตัวไม่ออกด้วยนี้สิ
“จริงสิไดจัง!! วันนี้สัญญาว่าจะพาโซระไปเที่ยวนี้ ออยอยู่ด้วยก็ดีนะ วันนี้เราไปเทียวกันสามคนดีกว่า” เยี่ยม!!
โซระเดินถือจานใส่อาหารมาแก้สถานการณ์ทันพอดี
“นะ นั้นสินะ”ถ้าวันนี้ความเผอิญจะมีมากมายขนาดนี้ รวมทั้งที่ผมเผอิญไปสัญญาพาทัวร์โดยไม่รู้ตัวด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการเผอิญซวยขึ้นอีก เลยรีบเดินไปนั่งเก้าอี้ทานอาหารทันที “แล้วทำไมออยถึงมาแต่เช้าละค่ะ”
“วันนี้ออยว่างทั้งวันน่ะค่ะเลยแวะมาเยี่ยม โซระบ่นถึงพี่ให้ฟังจนคิดถึงเลย ” น้องออยพูดขณะรับจานข้าวมาจากโซระพร้อมส่งยิ้มมาให้ผม
“งั้นวันนี้ถ้าไม่รังเกียจ พี่จะพาไปเที่ยวละกันนะสาวๆ” ผมแอบลอบถอนหายใจเบาๆ
ความคิดเห็น