รักนี้ไม่มีแอบ

                ตอนที่1

       ภาพของหญิงสาวคนสุดท้ายที่กำลังวิ่งหอบกระเป๋าพะรุงพะรังพลางกระหืดกระหอบขึ้นมาบนรถโดยสารปรับอากาศสองชั้นแบบสามสิบที่นั่งทางนั้น  แทบจะทำให้คนที่นั่งอยู่บนรถก่อนหน้าหล่อนอดหันไปมอง แววตาแสดงความตำหนิของผู้ใหญ่บางคนฉายชัดออก แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา  

ก็เจ้าหล่อนเล่นมาสายเกินกว่าเวลาที่นัดกันไว้ ตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง  ทำให้ทุกคนต้องมานั่งรอหล่อนอยู่คนเดียว  นี่ถ้าหล่อนไม่โทรศัพท์มาขอร้องให้คนขับรถรอหล่อนอยู่ก่อนปานนี้หล่อนคงจะมาไม่ทันเวลาที่รถออกอย่างแน่นอน

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน ขอโทษนะค่ะที่มาช้าไปหน่อย เผอิญรินแม่ของรินท่านไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ    หล่อนกล่าวขอโทษทุกคนพร้อมกับโปรยรอยยิ้มอย่างอ่อนหวานที่สุดไปยังผู้โดยสารที่นั่งอยู่ก่อนทุกคน

นี่...คุณปล่อยให้คนอื่นๆเขาต้องมานั่งรอคุณแค่คนเดียว ไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้างหรือไงทำไมไม่รู้จักรักษาเวลาบ้าง นี่มันเลยเวลามาตั้งชั่วโมงหนึ่งแล้วนะคุณชายหนุ่มหน้าตาคมคาย รูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายได้เนี้ยบราวกับนักธุรกิจชั้นนำที่นั่งอยู่ก่อนแล้วที่เบาะติดกันกับหล่อนพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ หน้าตาเขาบูดบึ้งบอกบุญไม่รับแสดงถึงความอารมณ์เสียสุดๆ   

รินทรายจำเจ้าของเสียงนั้นได้แม่น นายปฐวีหรือนายดินคู่ปรับเก่าเจ้าของรีสอร์ทฟ้าเพียงดินที่ตั้งอยู่ติดกันกับรีสอร์ทบ้านน้ำรินของหล่อนนั่นเอง นี่เขามาร่วมทัวร์ของพวกผู้สูงอายุด้วยหรือนี่

ฉันก็ขอโทษทุกคนแล้วไง นายจะเอายังไงอีก จะต้องให้ฉันคุกเข่ากราบขอโทษทุกคนเลยดีไหม

ก็เอาซี่ ....คุณสมควรจะต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้วนี่

พอเถอะหนูรินนี่เราจะไปทำบุญทอดผ้าป่ากันนะลูก เขาห้ามทะเลาะกันเดี๋ยวจะเป็นบาป ดินก็เลิกพูดว่าน้องเขาได้แล้ว นางประภาซึ่งเป็นมารดาของปฐวีเป็นคนเอ่ยห้ามปรามทั้งคู่ ที่เหมือนเป็นขมิ้นกับปูน

                ทั้งๆที่ต่างก็ประกอบกิจการรีสอร์ทริมทะเลบนเกาะเหมือนๆกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็ไม่ถูกชะตากันมาตั้งแต่เด็กๆ  เจอหน้ากันที่ไรก็เป็นต้องฮึ่มฮั่มใส่กันอยู่ตลอดเวลา  ทั้งๆที่บิดามารดาของทั้งคู่ก็รู้จักสนิทสนมคุ้นเคยกันมาแต่ไหนแต่ไร

เอาละค่ะทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม ดิฉันนางสาวใบเฟิร์นขอนำชาวเกาะทุกท่านขึ้นสู่ภาคพื้นดินเดี๋ยวนี้   ออกรถได้แล้วค่ะโชเฟอร์เสียงของบัสโฮสเตสสาวสวยทำให้ทุกคนเลิกสนใจรินทราย หันมาสนใจเสียงบรรยายถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนกำลังจะไปเยือนแทน 

ทันทีที่รถปรับอากาศแบบสองชั้นเริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานี การออกตัวอย่างแรงของรถทำให้รินทรายเสียหลักตัวเอียงวูบไปซบไหล่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ติดกันทันที  ผลก็คือสีหน้าแสนรังเกียจของอีกฝ่ายที่มองมา เหมือนว่าหล่อนฉวยโอกาสแตะอั๋งเขายังไงยังงั้น  เขาเอานิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวดันตัวหล่อนออกไปให้ห่างตัวอย่างรวดเร็ว  ทำอย่างกับว่าหล่อนเป็นตัวเชื้อโรคร้ายแรงยังไงยังงั้น กริยาท่าทางของเขาเหมือนพวกเกย์ในหนังไม่มีผิดเพี้ยน  รินทรายค้อนขวับพลางกระเถิบไปจนสุดเบาะที่นั่ง  

เชอะ!...ตาเกย์บ้านี่ ฉันก็ขยะแขยงคุณเหมือนกันล่ะน่าทำไมหล่อนจะต้องมาเจอกะอีตาบ้านี่ซะทุกทีไป  นี่ถ้าหล่อนรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะเดินทางมาร่วมทริปนี้ด้วยหัวเด็ดตีนขาดหล่อนก็จะไม่ขอมาด้วยแน่นอน  และ ถ้านางรินรดีมารดาของหล่อนไม่ขอร้อง(แกมบังคับ)ให้หล่อนมาเป็นตัวแทนท่าน เพราะว่าจู่ๆนางก็อาการเกิดปวดข้อเข่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน  ซึ่งอาการปวดเข่านั้นเป็นโรคประจำตัวของมารดามาแต่ไหนแต่ไรเพราะน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไปของนางนั่นเอง หล่อนจึงต้องมานั่งอดทนกับตาเกย์กวนประสาทนี่ต่อไป

รินขอเปลี่ยนที่นั่งกับป้าเพลินได้ไหมค่ะ รินไม่อยากนั่งใกล้กับตานี่ หญิงสาวหันไปสะกิดนางเพลินศรีซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่าในตลาดที่รู้จักคุ้นเคยกับมารดาของหล่อนดีขอแลกที่นั่งกับนาง

 ไม่ได้หรอกหนูรินป้าชอบเมารถ เวลาจะอาเจียนป้าจะได้เปิดหน้าต่างออกทัน

ป้าสำเภาละค่ะ ขอรินแลกที่นั่งได้ไหมนางสำเภาส่ายหน้าดิกปฏิเสธทันที

                 ไม่ได้หรอกป้าชอบดูวิวน่ะหนูรินนานป้าจะได้มาเที่ยวไกลๆแบบนี้สักที ป้าอยากดูวิวเยอะๆ

ทำเป็นเรื่องมากไปได้น่าคุณ ทำไมจะต้องไปวุ่นวายรบกวนคนอื่นๆเขาด้วย ผมเองก็ต้องอดทนที่ต้องมานั่งติดกับคุณเหมือนกัน

นั่งๆไปเถอะน่าหนูริน เปลี่ยนที่นั่งตอนนี้มันลำบากรถก็กำลังวิ่งๆอยู่ ให้คนแก่ๆลุกขึ้นยืนจะพลอยหกล้มหกลุกแข้งขาหักกันไปซะเปล่าๆนางประภาวีมารดาของปฐวีเตือนสติหญิงสาว รินทรายจึงจำเป็นต้องนั่งลงที่เดิมอย่างจำใจ โดยไม่เห็นว่าปฐวีลอบยิ้มสะใจที่แกล้งหล่อนได้

เขารู้ดีว่าแม่เขากับแม่ของหล่อนวางแผนจะทำให้เขาชอบพอกับรินทราย  เพื่อจะได้จัดการรวมสองรีสอร์ทเป็นให้หนึ่งเดียว  เขาแอบได้ยินแผนการของแม่ๆเข้าโดยบังเอิญ  เมื่อเขารู้เข้าก็เลยคิดวางแผนเลยวางซ้อนแผนของพวกนางอีกที  โดยเขาจะแกล้งทำว่าตัวเองเป็นเกย์ให้หล่อนเกลียดขยะแขยงเขาจนทนไม่ไหวอกแตกตายไปเลย  เขาเกลียดนักล่ะผู้หญิงที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองยอมให้คนอื่นจูงจมูกได้ง่ายๆแบบหล่อน

                เมื่อคิดแผนการได้ นางประภาวีกับนางรินรดีมารดาของรินทรายที่จะให้ทั้งคู่ชอบพอกันนั้นจึงเริ่มขึ้น  นางจึงทำการจัดทัวร์ทอดผ้าป่าครั้งนี้ขึ้นมา และนางเองที่เป็นคนขอร้องให้ผู้สูงอายุคนอื่นๆในรถช่วยกันเปลี่ยนที่นั่งเพื่อให้ทั้งคู่ได้ที่นั่งติดกัน  และก็ขอร้องไม่ให้ใครยอมแลกที่นั่งด้วย  การที่ปฐวียอมตามนางมาด้วยก็เพราะนางแสร้งทำเป็นว่านางนั้นไม่ค่อยสบาย  ชอบหน้ามืดเป็นลมเวียนหัวอยู่บ่อยๆต้องการให้เขาตามไปคอยดูแลใกล้ชิด และงานนี้นางก็เป็นคนต้นคิดจัดมันขึ้นมาจึงยกเลิกไม่ได้ นางจึงต้องขอร้องให้ลูกชายคนเดียวมาเป็นเพื่อนและคอยดูแลนางด้วย

เมื่อนางสาวใบเฟิร์นแอร์บัสสาวเอาน้ำดื่มมาแจกทุกคนในรถ ปฐวีก็แกล้งยกแก้วน้ำขึ้นดื่มทำนิ้วก้อยกระดกๆ ให้เหมือนกับในหนังสือคู่มือวิธีดูเกย์ที่เขาแอบอ่านมา  คราวนี้ทำเอารินทรายตาเหลือกจ้องมองกริยาเขาเขม็ง   ก็หล่อนเพิ่งไปดูหนังเรื่องแก็งชะนีกับอีแอบมาเหมือนกันนี่นา อีตานี่ต้องเป็นเกย์ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่ๆ

ว้าย เขาแกล้งร้องอุทานเมื่อแก้วน้ำทำท่าจะหลุดมือ

                ตายล่ะ!..แล้วนี่มารดาเขาจะรู้ไหมว่าลูกชายคนเดียวของท่านกำลังเบี่ยงเบนทางเพศ ยิ่งคิดหล่อนก็นึกสงสารแม่ของเขาที่ดูท่าทางจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย แล้วไหนยังจะแม่ของหล่อนอีกที่คอยชมเขาให้หล่อนฟังอยู่เสมอว่าคุณดินดีอย่างนั้น..คุณดินเก่งอย่างนี้ ท่านคงอยากจะจับคู่ให้หล่อนกับเขาเต็มแก่ทำไมหล่อนจะดูไม่ออกว่าแม่ของหล่อนอยากจะให้หล่อนชอบพอกับเขามากแค่ไหน อยากจะหัวเราะให้ฟันหักนัก คอยดูนะหล่อนจะกระชากหน้ากากเจ้าเกย์แอ๊บแมนคนนี้ออกให้ได้ แม่ของหล่อนจะได้เลิกมายุ่งวุ่นวายคิดจับคู่ให้หล่อนซะที

หญิงสาวคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายก็กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่เหมือนกัน นางประภาซึ่งคงยังไม่รู้ถึงรสนิยมที่แท้จริงของลูกชาย นางยังคงตั้งหน้าตั้งตาหาลูกสะใภ้ให้เขาอยู่นั่นแหละ คนแล้วคนเล่าที่เจอแผนเกย์ของเขาเข้าต้องเผ่นแน่บไปแทบทุกราย  รินทรายนี่ก็เป็นรายล่าสุด เพราะว่าแม่คงไม่มีตัวเลือกอีกต่อไปแล้วถึงได้คิดจับคู่เขากับยายศัตรูคู่อาฆาตที่มีเรื่องกันประจำตั้งแต่สมัยเด็ก เขาอยากเห็นเวลาเจ้าหล่อนเผ่นแนบเหมือนคนอื่นๆจังคงจะสนุกพิลึก เขารู้มาว่ารินทรายเกลียดเกย์เข้าไส้เพราะสมัยเรียนมหาลัยหล่อนเคยแอบรักผู้ชายที่เป็นเกย์แล้วหล่อนไปสารภาพรักกับเขา แต่โดนเกย์คนนั้นด่ากลับมาแทน และเป็นข่าวดังไปทั่วมหาลัย เขาซึ่งเป็นรุ่นพี่ในตอนนั้นยังอดขำไปด้วยไม่ได้

นี่คุณอย่าแสดงออกให้มันมากนักนะ คุณแม่คุณท่านมีลูกชายอยู่คนเดียว เดี๋ยวเกิดท่านรับไม่ได้แล้วหัวใจวายตายขึ้นมาคุณจะบาปเปล่าๆรินทรายแกล้งโน้มตัวไปกระซิบที่หูชายหนุ่มเบาๆ ซึ่งนางประภาวีหันมาเห็นเข้า ก็แอบยิ้มอย่างพอใจในผลงาน คิดว่าทั้งคู่กระซิบกระซาบคุยกันอย่างสนิทสนม รินทรายฝืนยิ้มตอบมารดาของชายหนุ่มแหยๆ

                คุณพูดอะไรผมแสดงออกอะไรกัน อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่าชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตีหน้าเซ่อเข้าไว้ ทั้งๆทีอยากจะหัวเราะเต็มทีเลยต้องกลั้นเอาไว้จนปวดแก้ม

                เชอะ!..นายก.ท.ม.อย่ามาทำเป็นอินโนเซ้นท์ไปหน่อยเลย แค่นายอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่นายแล้ว ฉันรู้ทันนายหรอกน่า รินทรายยังกัดต่อ ท่าทางหล่อนยังสนุกปากกับการได้พูดจาเสียดสีเขาเป็นอย่างยิ่ง 

                อะไรคือ ก.ท.ม.เขาถามสีหน้างงๆ

                ก็กะเทยเก็กแมนไงยะ

                แหม...เพิ่งรู้นะเนี่ย สงสัยว่าจะเป็นศัพท์ใหม่นะตัวเอง

โดยหารู้ไม่ว่าปฐวีเองก็กำลังคิดจะดัดหลังหล่อนอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวเถอะพ่อจะแกล้งปล้ำซะให้เข็ด เอาให้หายเกลียดกะเทยไปซะเลย เขาคิดกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ

                 แล้วเวลาหลับนายไม่ต้องเอนมาซบไหล่ฉันนะ เดี๋ยวไอ้เชื้อเบี่ยงเบนของนายมันจะมาติดฉันเข้า ฉันขยะแขยง

                คุณนั่นแหละอย่ามาโดนตัวผม แค่ต้องนั่งใกล้คุณผมก็ขนลุกจะแย่อยู่แล้วทำไมจะต้องมานั่งข้างๆชะนีแบบคุณก็ไม่รู้ เขาทำท่าเชิดใส่หล่อนราวกับอิสตรี

 คุณนั่นแหละนายกะเทยควาย หุ่นไม่ให้แต่ดันอยากเป็นกะเทย ทุเรศที่สุด รินทรายรู้สึกฉุนที่ตนโดนเรียกว่าชะนี

อย่าเพิ่งกลั้นใจตายไปก่อนนะฮ้า.....ที่รักคราวนี้ชายหนุ่มยิ่งแกล้งใหญ่ ด้วยฝีมือการแสดงระดับพระเอกละครเวทีสมัยเรียนมหาลัย ทำให้กริยาของชายหนุ่มดูสมบทบาทมากยิ่งขึ้น

 รินทรายอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆให้สาแก่ใจ แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวคนอื่นๆจะคิดว่าหล่อนเป็นบ้าแน่ๆ  เมื่อไหร่รถจะถึงวัดที่จะไปทำบุญซะทีนะ หล่อนจะบ้าตายอยู่แล้วที่ต้องมานั่งอยู่ใกล้ๆหมอนี่เกินห้านาที

                ปฐวียิ้มพรายอย่างพึงพอใจ หล่อนกำลังตกหลุมพรางของเขาเข้าแล้ว เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะดูคนไม่เป็นจริงๆ ว่าเขาเป็นชายเทียมหรือชายแท้กันแน่  ยายปากปลาฉลามเอ้ยสวยก็ไม่สวยยังจะปากคอเราะร้ายอีกเขาคิด

  ความจริงแล้วรินทรายนั้น  ก็จัดว่าเป็นสาวสวยตามสมัยนิยม คือขาว สวย หมวย เอ็กซ์ รูปร่างที่สูงโปร่งได้สัดส่วนและดวงหน้าที่สวยโฉบเฉี่ยวอยู่แล้ว ยิ่งหล่อนไปทำสีผมให้เป็นสีโค้กและทำไฮไลท์สีทองอ่อนๆและดัดให้หยิกเป็นลอนเล็กๆเลยยิ่งทำให้หล่อนดูสวยเปรี้ยวมากขึ้น การแต่งเนื้อแต่งตัวของหล่อนก็ดูดีสวยงามแบบผู้หญิงทำงานทั่วไป แต่ความเป็นคนปากร้ายช่างค่อนแคะของหล่อนทำให้ปฐวีไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเพื่อค้นหาความสวยของเจ้าหล่อนให้เสียเวลา

รถบัสเลี้ยวตรงทางโค้งอย่างแรง ทำให้รินทรายซึ่งนั่งอยู่แบบไม่ทันระวังตัวเสียหลักเซเข้าอยู่ไปในอ้อมแขนของชายหนุ่มอีกครั้งทันที ปฐวีเองก็รีบกอดหล่อนไว้ตามสัญชาตญาณ แต่หล่อนรีบตะกายออกมาจากตักของเขาราวกับโดนถ่านร้อนๆ พอออกมานั่งที่เดิมได้หล่อนก็ทำท่าปัดเนื้อปัดตัวอย่างรังเกียจมองค้อนเขาตาคว่ำ

ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนตกลงไปทับอีกฝ่าย

 ไม่ต้องทำท่าราวกับผมมีเชื้อโรคติดต่อขนาดนั้นหรอก ผมสะอาดพอ แต่คุณซิตัวเหม็นเหงื่อเป็นบ้า ผู้หญิงอะไร เขาพูดเริ่มหาเรื่องให้หล่อนโกรธอีกครั้ง

ฉันเหม็นเหรอ รินทรายทำหน้างงยกคอเสื้อของตนเองขึ้นมาดมอย่างขาดความมั่นใจ นี่น้ำหอมชาแนลขวดละหลายพันของหล่อนไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอ แต่เอ๊ะ...มันก็ไม่ได้เหม็นอย่างที่เขาว่าสักนิดนี่นา หมายความว่าอีตาเกย์นี่มันแกล้งว่าหล่อนอย่างนั้นเหรอ

นายดิน...นายนี่มันไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย หล่อนโต้กลับแต่พอนึกขึ้นได้ก็หน้าเสีย นั่นนะซิก็เขาเป็นเกย์จะเป็นสุภาพบุรุษได้ที่ไหนกัน

ใช่...เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับผมอีก ขยับไปนั่งห่างๆเลย

เชอะ...ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับนายให้เสียอีโก้ฉันเหมือนกัน หล่อนว่าเสร็จก็สะบัดหน้าเชิดใส่เขาจนตุ้มหูพวงระย้านั้นแกว่งสะบัดไปอย่างแรง จนมันไปเกี่ยวเข้ากับทรงผมที่ดัดหยิกเป็นลอนของหล่อน เจ้าหล่อนต้องจัดการแกะมันออกอย่างทุลักทุเล ก่อนจะหันไปค้อนเขาจนตาคว่ำเพราะเกลียดใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยแววเยาะของเขา

ปฐวีนึกขำหล่อนจนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ยายหน้าปลาฉลามเอ้ย!..ยังเฟอะฟะเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ชายหนุ่มยังจำภาพเด็กหญิงตัวเล็กๆผอมเก้งก้าง ที่เขาเรียกหล่อนว่ายายขี้มูกมากที่คอยวิ่งตามเขาต้อยๆไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าเขาไปที่ไหน

สาเหตุที่ทำให้รินทรายเปลี่ยนความรู้สึกกลายเป็นเกลียดเขาอย่างฝังใจ ทั้งที่ตอนแรกๆเขากับหล่อนก็เป็นเพื่อนเล่นหัวกันมาตลอด ขณะนั้นเขาอายุสิบสองในขณะที่รินทรายมีอายุแค่สิบขวบ เขาพาหล่อนและเพื่อนๆหลายคนเคยพากันออกไปเล่นน้ำที่นอกทะเลลึกไปเล่นกันบนโขดหินกลางน้ำตอนที่น้ำลง แล้วเล่นกันเพลินจนถึงเวลาน้ำขึ้น เพื่อนๆคนอื่นๆต่างพากันว่ายน้ำหนีกลับเข้าฝั่งจนหมด

ทิ้งไว้แค่เพียงรินทราย ซึ่งหล่อนยังว่ายน้ำไม่เก่งนัก หล่อนจึงไม่กล้าว่ายน้ำตามคนอื่นๆกลับขึ้นฝั่ง ปฐวีเองก็ว่ายหนีไป ทิ้งให้หล่อนยืนร้องไห้เรียกให้เขาช่วยจนเสียงแหบเสียงแห้งอยู่บนโขดหินเพียงลำพัง ในขณะที่น้ำทะเลกำลังขึ้นสูงมาเรื่อยๆ แต่เขาก็วิ่งกลับไปตามพวกผู้ใหญ่ให้ช่วยเอาเรือมารับหล่อนกลับเข้าฝั่งได้ในที่สุด นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมารินทรายก็ไม่เคยญาติดีกับเขาอีกเลย หล่อนผูกใจเจ็บว่าเขาจงใจจะแกล้งให้หล่อนตายอยู่ที่นั่น ทั้งๆที่ในตอนนั้นเขาเองก็ยังเป็นเด็กและว่ายน้ำไม่เก่งเช่นกัน

ตะวันบ่ายคล้อยลงทุกที คนขับเปลี่ยนเพลงจากเพลงลูกทุ่งมาเป็นเพลงบรรเลงแบบช้าๆเบาๆ รินรายเริ่มตาปรือเพราะหล่อนต้องนอนเฝ้ามารดาซึ่งเอาแต่ร้องโอดโอยให้หล่อนคอยบีบนวดทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เป็นสาเหตุที่ทำให้หล่อนตื่นสายและมาขึ้นรถเป็นคนหลังสุด รินทรายเริ่มง่วงจนทนไม่ไหวในที่สุดหล่อนก็ผล็อยหลับไป

มารู้สึกตัวตื่นอีกที่ก็พบว่าหล่อนกำลังนอนซบไหล่หนาของคนที่ตนรังเกียจอยู่ หนำซ้ำมือใหญ่ๆยังกะใบพายของนายเกย์แอ๊บแมนนั่นยังดันมาโอบกอดหล่อนไว้แน่นซะอีก

นี่...นายตื่นเดี๋ยวนี้นะ หล่อนทุบพลั่กลงบนไหล่หนานั้นเต็มแรง จะเป็นด้วยความอายหรือความโกรธผสมกัน

โอ้ย!..มาทุบผมทำไมเนี่ยชายหนุ่มร้องเสียงดังสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ

นายกล้าดียังไงมากอดฉันหล่อนเม้มปากแน่น

ผมกอดคุณที่ไหนกันเล่า ผมกำลังฝันว่าได้กอดแฟนผมอยู่ต่างหาก

นี่นายหาว่าฉันเป็นผู้ชายงั้นเหรอ ไอ้บ้า

ก็อาจจะใช่ เพราะนี่ถ้าคุณไม่ใส่เสื้อผ้าซะหวานขนาดนี้ ผมคงนึกว่าคุณกะเทยเพิ่งไปแปลงเพศมา

อ๊าย...ไอ้บ้านาย...หล่อนสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเพราะความโมโห เพราะหล่อนเป็นคนที่มีรูปร่างสูงโปร่งและผอมมาก หน้าอกของหล่อนก็ไม่ได้ใหญ่นักแต่มันสวยงามสมส่วนไม่ได้เล็กอย่างที่ปฐวีค่อนขอด

เอ้าๆ เต้นเข้าไป เดี๋ยวไอ้ของที่เพิ่งไปทำใหม่ๆมาก็ระบมหมดหรอกเขาพูดพลางจ้องมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนจะประเมินอะไรสักอย่าง

 ฮึยย์... หล่อนโกรธจนต้องยกมือทุบเบาะพนักพิงของคนที่นั่งข้างหน้าเพื่อระบายความคับแค้นใจ

พวกเธอสองคนช่วยเงียบๆหน่อยได้ไหมป้าจะนอนนางเพลินจิตหันมาว่าหน้าดุๆ ก่อนจะหันไปแอบยิ้มกับนางประภามารดาของปฐวีอย่างรู้กัน

รินทรายจึงยอมสงบปากสงบคำหล่อนยกมือกอดอกอย่างขัดใจ ปฐวียิ้มน้อยๆอย่างพอใจที่ได้ยั่วให้หล่อนโมโหได้

                รถจอดสนิทบริเวณหน้าลานวัด ทุกคนต่างพากันลุกจากที่นั่ง ขณะที่รินทรายยังนอนหลับน้ำลายไหลยืดอยู่และซบไหล่ของเขาอยู่อีก ปฐวีต้องค่อยเอามือดันศีรษะของหล่อนออกไป พอเขาออกมายืนข้างนอกได้ รินทรายก็ค่อยๆล้มตัวลงไปบนพื้นเบาะที่เขาเพิ่งลุกไปอย่างแรง หล่อนถึงกับลืมตาลุกพรวดพราดจากที่นั่งยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำลายอย่างรวดเร็ว

                ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาหรือถึงได้หลับมาตลอดทาง แถมน้ำลายไหลยืดมาเลอะผมอีกอีกต่างหากสกปรกจริงๆเลยคุณนี่ เขาแสดงท่าทางรังเกียจอย่างออกนอกหน้า

                ช่างฉัน หล่อนหน้าแดงที่ตนยังนอนหลับน้ำลายไหลยืดเป็นเด็กๆอยู่อีก คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าได้หล่อนก็เดินดุ่มๆนำหน้าเขาไปโดยไม่สนใจรอเขาแต่อย่างใด

                อ้าว...ขอโทษก็ไม่มีสักคำ คนอุตส่าห์ให้นอนพิงไหล่มาตั้งหลายชั่วโมง เฮ้อ...นี่เหรอกุลสตรีของแม่ชายหนุ่มรำพึงออกมาคนเดียวเบาๆ เมื่อนึกถึงตอนที่มารดาของเขาชมรินทรายว่าหล่อนสุภาพเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีขึ้นมา