ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใส่ร้ายป้ายรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวไถ่โทษ

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 49


    "กร นายคิดว่าน้องเค้าจะอ่านจดหมายนั่นรึยังอะ"กุลบุตรถามพลางเอามือไปจวก

    ข้าวเหนียวมาจิ้มน้ำส้มตำกินอย่างเอร็ดอร่อย

    "น้องเขาคงอ่านแล้วแหละ เล่นยัดไว้ใต้โต๊ะขนาดนั้นอ่ะ"เมื่อทิวากรพูดจบก็รีบเอา

    มือไปหยิบข้าวเหนียวก้อนสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้กินข้าวเพราะโดนกุลบุตรแย่งกินจน

    เกือบหมดจาน

    "ขอโทษทีลืมดูว่ามันจะหมดแล้ว รีบจวกไปหน่อย ...ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าน้องเขา

    นั่งตรงนั้น"กุลบุตรถามต่อ คำถามนี้เล่นเอาทิวากรอึ้งไปเหมือนกัน เพราะจริงๆแล้ว

    เขาไม่รู้เลยว่าภัทรินนั่งตรงไหน เพียงแต่เดาๆเอาแล้วถูก แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเดา

    ถูก หรือ เดาผิด

    "คือว่า..เราเดามั่วๆเอาน่ะ ขอโทษด้วยนะ ถ้าเกิดนัดผิดคนยังไงก็ไปแอบดูก่อนถ้าไม่

    ใช่ก็ค่อยเบี้ยวแล้วกัน"ทิวากรตอบอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

    "เอาอย่างนี้ดีมั้ย ถ้าเกิดว่านายเดาถูก เราจะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวตอนเย็น2วันเลย แต่ถ้า

    หากนายเดาผิด พรุ่งนี้เราจะไม่เลี้ยงข้าวกลางวันให้นาย"กุลบุตรพูดเสนอข้อตกลง

    ข้อตกลงแนวนี้ทำให้ทิวากรตอบตกลงได้อย่างทันทีทันควันได้เลย เพราะถ้าเดาผิดก็

    แค่เสียผลประโยชน์แค่ไม่เลี้ยงข้าวกลางวัน ซึ่งทิวากรสามารถเอาเงินเก็บของตัว

    เองมาซื้อข้าวกินได้สบายๆอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากุลบุตรชอบออกตัวว่าจะเป็นคนเลี้ยง

    จึงทำให้ทิวากรแทบจะไม่เคยต้องจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันเองเลยสักครั้ง และถ้า

    เดาถูก ก็จะได้กินก๋วยเตี๋ยว2วันซ้อนซึ่งเป็นอาหารที่ทิวากรชอบที่สุด จึงทำให้แทบ

    จะไม่ต้องคิดเลยว่าจะเอาหรือไม่เอา

    *****************************

    เมื่อถึงเวลาหลังเลิกเรียน....

    ภัทรินและการเวกก็มารอที่โต๊ะม้าหินตามนัด

    "ริน...เธอแน่ใจหรอว่าโต๊ะนี้อ่ะ"การเวกถามอย่างไม่แน่ใจ ที่เธอถามเพราะว่าไม่เห็นมี

    ใครสักคนเดินมาที่โต๊ะม้าหิน แต่อันที่จริงแล้วพวกเธอมาเร็วมาก จึงยังไม่มีใครมา

    "แน่ใจสิเวก เราว่านะทำการบ้านที่ครูสั่งไว้ตอนนี้เลยดีกว่า จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็น

    ประโยชน์"ภัทรินพูดเรียบๆอย่างเคยชิน เพราะตอนสมัยมัธยม เธอก็ใช้เวลาหลังเลิก

    เรียนในการทำการบ้านเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว........เวลาผ่านไป10นาทีก็มีผู้ชาย2คน

    เดินมา นั่นก็คือกุลบุตร กับ ทิวากรนั่นเอง

    "กุล ใช้น้อง2คนนั้นหรอ"ทิวากรถาม

    "ใช่ น้องคนซ้ายนั่นไงที่เราเคยชน ส่วนคนขวานี่สงสัยจะเป็นเพื่อนน้องเขาละ

    มั้ง"กุลบุตรตอบ พลางเดินไปที่โต๊ะมาหิน  แต่ดูว่าทั้งคู่จะไม่รู้เลยว่ามีคนแอบสะกด

    รอยตามอยู่

    "สวัสดีครับน้องๆ พี่คือคนที่เขียนจดหมายไปหาน้องเองนะครับ พี่ต้องขอโทษด้วย

    ถ้าทำให้น้องตกใจ"กุลบุตรพูดกับภัทรินและการเวก

    "ไม่เป็นไรค่ะพี่ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าหนูนั่งติดริมประตูคะ"ภัทรินถามกุลบุตร

    "เพื่อนพี่เขาเดาเอาน่ะครับ อ้อ!ลืมบอกไป พี่ชื่อกุลบุตรนะครับ เรียกว่ากุลเฉยๆก็ได้

    ครับ ไม่ทราบว่าน้องชื่ออะไรครับ"กุลบุตรแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร  ภัทรินได้ยินดัง

    นั้นก็จึงกล่าวแนะนำตัวเองบ้าง

    "หนูชื่อภัทรินนะคะ เรียกว่ารินก็ได้ค่ะ ส่วนข้างๆนี่เพื่อนหนูเองค่ะ ชื่อว่าการเวก"

    "เรียกเวกเฉยๆก็ได้นะคะ แล้วพี่อีกคนชื่ออะไรหรอคะยังไม่ได้ถามเลย"การเวกพูด

    สวนขึ้นมาทันทีที่ภัทรินพูดจบ

    "ครับผม...พี่ชื่อ..."ทิวากรยังไม่ทันจะพูดจบภัทรินก็ได้ทีพูดขึ้นมาเลยว่า

    "พี่กร!! ป..ป..ประธานสีของสีเขียวตอนสมัยหนูอยู่มัธยมนี่นา"

    "รินรู้จักพี่เขาด้วยหรอ"การเวกถามอย่างรู้สึกสงสัย

    "พี่คนนี้แหละที่ขอให้เราไปเป็นดัมเมเยอร์  ควงคฑายากจะตาย คฑานี่ก็อันย้าว...

    ยาวเหวี่ยงพลาดนิดเดียวก็คงฟาดหัวตัวเองแล้ว จำไม่ได้ก็บ้าแล้วเวก"ภัทรินพูด

    พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเคยเหวี่ยงคฑาพลาดจึงทำให้คฑาฟาดตัวเองอยู่หลาย

    รอบ

    "นี่น้องรินใจเย็นๆหน่อยสิครับ พี่ยังพูดไม่จบเลย พี่ชื่อทิวากรนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก
    ครับ"

    "ว่าแต่...พี่กรมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะเนี่ย"ภัทรินถาม

    "ก็เอ็นท์มาสิครับ จะให้พี่ขุดอุโมงค์เป็นขอมดำดินมาหรือไงน้องริน"ทิวากรตอบภัท
    รินอย่างกวนๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×