คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวไถ่โทษ
"กร นายคิดว่าน้องเค้าจะอ่านจดหมายนั่นรึยังอะ"กุลบุตรถามพลางเอามือไปจวก
ข้าวเหนียวมาจิ้มน้ำส้มตำกินอย่างเอร็ดอร่อย
"น้องเขาคงอ่านแล้วแหละ เล่นยัดไว้ใต้โต๊ะขนาดนั้นอ่ะ"เมื่อทิวากรพูดจบก็รีบเอา
มือไปหยิบข้าวเหนียวก้อนสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้กินข้าวเพราะโดนกุลบุตรแย่งกินจน
เกือบหมดจาน
"ขอโทษทีลืมดูว่ามันจะหมดแล้ว รีบจวกไปหน่อย ...ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าน้องเขา
นั่งตรงนั้น"กุลบุตรถามต่อ คำถามนี้เล่นเอาทิวากรอึ้งไปเหมือนกัน เพราะจริงๆแล้ว
เขาไม่รู้เลยว่าภัทรินนั่งตรงไหน เพียงแต่เดาๆเอาแล้วถูก แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเดา
ถูก หรือ เดาผิด
"คือว่า..เราเดามั่วๆเอาน่ะ ขอโทษด้วยนะ ถ้าเกิดนัดผิดคนยังไงก็ไปแอบดูก่อนถ้าไม่
ใช่ก็ค่อยเบี้ยวแล้วกัน"ทิวากรตอบอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย
"เอาอย่างนี้ดีมั้ย ถ้าเกิดว่านายเดาถูก เราจะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวตอนเย็น2วันเลย แต่ถ้า
หากนายเดาผิด พรุ่งนี้เราจะไม่เลี้ยงข้าวกลางวันให้นาย"กุลบุตรพูดเสนอข้อตกลง
ข้อตกลงแนวนี้ทำให้ทิวากรตอบตกลงได้อย่างทันทีทันควันได้เลย เพราะถ้าเดาผิดก็
แค่เสียผลประโยชน์แค่ไม่เลี้ยงข้าวกลางวัน ซึ่งทิวากรสามารถเอาเงินเก็บของตัว
เองมาซื้อข้าวกินได้สบายๆอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากุลบุตรชอบออกตัวว่าจะเป็นคนเลี้ยง
จึงทำให้ทิวากรแทบจะไม่เคยต้องจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันเองเลยสักครั้ง และถ้า
เดาถูก ก็จะได้กินก๋วยเตี๋ยว2วันซ้อนซึ่งเป็นอาหารที่ทิวากรชอบที่สุด จึงทำให้แทบ
จะไม่ต้องคิดเลยว่าจะเอาหรือไม่เอา
*****************************
เมื่อถึงเวลาหลังเลิกเรียน....
ภัทรินและการเวกก็มารอที่โต๊ะม้าหินตามนัด
"ริน...เธอแน่ใจหรอว่าโต๊ะนี้อ่ะ"การเวกถามอย่างไม่แน่ใจ ที่เธอถามเพราะว่าไม่เห็นมี
ใครสักคนเดินมาที่โต๊ะม้าหิน แต่อันที่จริงแล้วพวกเธอมาเร็วมาก จึงยังไม่มีใครมา
"แน่ใจสิเวก เราว่านะทำการบ้านที่ครูสั่งไว้ตอนนี้เลยดีกว่า จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็น
ประโยชน์"ภัทรินพูดเรียบๆอย่างเคยชิน เพราะตอนสมัยมัธยม เธอก็ใช้เวลาหลังเลิก
เรียนในการทำการบ้านเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว........เวลาผ่านไป10นาทีก็มีผู้ชาย2คน
เดินมา นั่นก็คือกุลบุตร กับ ทิวากรนั่นเอง
"กุล ใช้น้อง2คนนั้นหรอ"ทิวากรถาม
"ใช่ น้องคนซ้ายนั่นไงที่เราเคยชน ส่วนคนขวานี่สงสัยจะเป็นเพื่อนน้องเขาละ
มั้ง"กุลบุตรตอบ พลางเดินไปที่โต๊ะมาหิน แต่ดูว่าทั้งคู่จะไม่รู้เลยว่ามีคนแอบสะกด
รอยตามอยู่
"สวัสดีครับน้องๆ พี่คือคนที่เขียนจดหมายไปหาน้องเองนะครับ พี่ต้องขอโทษด้วย
ถ้าทำให้น้องตกใจ"กุลบุตรพูดกับภัทรินและการเวก
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าหนูนั่งติดริมประตูคะ"ภัทรินถามกุลบุตร
"เพื่อนพี่เขาเดาเอาน่ะครับ อ้อ!ลืมบอกไป พี่ชื่อกุลบุตรนะครับ เรียกว่ากุลเฉยๆก็ได้
ครับ ไม่ทราบว่าน้องชื่ออะไรครับ"กุลบุตรแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร ภัทรินได้ยินดัง
นั้นก็จึงกล่าวแนะนำตัวเองบ้าง
"หนูชื่อภัทรินนะคะ เรียกว่ารินก็ได้ค่ะ ส่วนข้างๆนี่เพื่อนหนูเองค่ะ ชื่อว่าการเวก"
"เรียกเวกเฉยๆก็ได้นะคะ แล้วพี่อีกคนชื่ออะไรหรอคะยังไม่ได้ถามเลย"การเวกพูด
สวนขึ้นมาทันทีที่ภัทรินพูดจบ
"ครับผม...พี่ชื่อ..."ทิวากรยังไม่ทันจะพูดจบภัทรินก็ได้ทีพูดขึ้นมาเลยว่า
"พี่กร!! ป..ป..ประธานสีของสีเขียวตอนสมัยหนูอยู่มัธยมนี่นา"
"รินรู้จักพี่เขาด้วยหรอ"การเวกถามอย่างรู้สึกสงสัย
"พี่คนนี้แหละที่ขอให้เราไปเป็นดัมเมเยอร์ ควงคฑายากจะตาย คฑานี่ก็อันย้าว...
ยาวเหวี่ยงพลาดนิดเดียวก็คงฟาดหัวตัวเองแล้ว จำไม่ได้ก็บ้าแล้วเวก"ภัทรินพูด
พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเคยเหวี่ยงคฑาพลาดจึงทำให้คฑาฟาดตัวเองอยู่หลาย
รอบ
"นี่น้องรินใจเย็นๆหน่อยสิครับ พี่ยังพูดไม่จบเลย พี่ชื่อทิวากรนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก
ครับ"
"ว่าแต่...พี่กรมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะเนี่ย"ภัทรินถาม
"ก็เอ็นท์มาสิครับ จะให้พี่ขุดอุโมงค์เป็นขอมดำดินมาหรือไงน้องริน"ทิวากรตอบภัท
รินอย่างกวนๆ
ความคิดเห็น