ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD]Snow Town~ รักหมดใจยัยน้ำแข็ง

    ลำดับตอนที่ #3 : level 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 52


    level 2"

     

              ร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยพร้อมกับหายใจสม่ำเสมอ ฉันมองแล้วก็ได้แต่ระบายยิ้มน้อยๆออกมา
    ขยับผ้าห่ม ให้คนตรงหน้าดีขึ้น เอ่ยคำบอกลาก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

               "หลับฝันดีนะ ซูยอน ^^"

     

              "อยากรู้จังแฮะ ว่าเกิดอะไรขึ้น" ฉันได้แต่พูดพึมพำเมื่อเดินมาถึงลิฟต์ตัวใหญ่ ไม่ช้ามันถูกเปิดออก และพบกับพี่พยาบาลคนสนิทอยู่ด้วย

               "อ่าว ยูลยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ"

               "อือ พี่ลีน่า เอ่อ ยูลขอเบอร์โทรศัพท์ คุณพ่อของซูยอนหน่อยสิ คนที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้"

               "ได้สิ ว่าแต่จะเอาไทำอะไรจ๊ะ"พยาบาลสาวสวยเอ่ยถามขึ้น ฉันจึงตอบกลับไปตามความเป็นจริง

               "แค่อยากจะขอบคุณเค้าเฉยๆ ^^"

               "รอแปบน่ะ พี่ไปหยิบมาให้"

               "ค่า ^________^"

     

               เมื่อได้เบอร์โทรศัพท์แล้ว ฉันเลยเดินตรงออกมาจากตัวตึกโรงพยาบาล ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถคันเก่งที่ฉันขับเป็นประจำ กดเบอร์โทรศัพท์เพื่อโทรออกทันที

               "สวัสดีครับ" ปลายสายเอ่ยทักอย่างสุภาพ ฟังดูแล้วน่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นคนนึงเชียวและ

    ได้ยินดังนั้นฉันจึงตอบกลับด้วยเสียงที่เป็นมิตรเช่นเดียวกัน

               "คุณพ่อซูยอนหรือเปล่าค่ะ"

               "ครับ ซูยอนคงไม่ได้ก่อเรื่องอะไรอีกนะครับ"

               "อ๋อ เปล่าค่ะ หนู ควอน ยูริ คนที่...."

               "หนูคนที่ช่วยสิก้านะเอง คุณพยาบาลเค้าโทรมาขออนุญาตลุง"

               "ค่ะ หนูจะโทรมาขอบคุณคุณลุงนะค่ะ"

               "ไม่เป็นไรหรอกหนู ลุงต้องขอบคุณหนูมากกว่า"

               "คุณลุงค่ะ คือหนูอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับซูยอนนะค่ะ คุณลุงพอจะมีเวลา เล่าเรื่องให้หนูฟังได้ไหมค่ะ"

               "ได้สิ พอดีตอนนี้ลุงอยู่ที่บริษัท นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ออกไปนั่งหาอะไรทานไหม"

               "ค่ะ ^^"

     

               "คุณหนูยูริหรือเปล่าครับ" ชายอายุราวสามสิบกว่าๆเอ่ยทักฉันที่อยู่ในห้องรับรองในร้านอาหาร

               เค้าเด็กเกินกว่าจะเป็นพ่อของซูยอนหรือเปล่าเนี้ย อาจจะเป็นคนหน้าเด็กก็ได้ละมั้ง ^^

               "ค่ะ หนูเอง สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณลุง"

               "อ๋อ ไม่ใช่ผมหรอกครับ คุณท่านคนนี้ครับ ^^"

               ชายคนนั้นได้แต่ยิ้มกว้างก่อนจะหลีบทางให้เจ้านายของตนที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก

     

               =[]= หน้าแตกเลยฉัน

     

               "สวัสดีหนูยูริ"ชายวัยกลางคนเอ่ย ดูท่าทางเค้าเป็นคนใจดี เหมือนน้ำเสียงที่เค้าเปล่งออกมาเลยละ

               "ค่ะคุณลุง ^^"

               "ออกไปก่อนไป"

               "ครับท่าน"

               "จะสั่งอะไรเชิญเลยนะหนู ลุงเป็นเจ้ามือเอง ^-^"

               "อะค่ะ"

               "ว่าแต่ทำไมอยากรู้เรื่องซูยอนละ"

               "หนูเห็นเค้าเป็นแบบแล้ว อยากจะทำให้เค้ายิ้มขึ้นมาบ้างนะค่ะ ซูยอนได้แต่มองไปที่หน้าต่างทุกวัน หนูก็เลยสงสัยค่ะ ว่าทำไมเค้าเป็นแบบนี้"

               "แสดงว่าหนูไปเยี่ยมซูยอนทุกวันเลยเหรอ"

               "ค่ะ ยังไงหนูก็ต้องไปทำแผลอยู่แล้ว เลยแวะขึ้นไปเยี่ยมทุกวัน"

               "ขอบคุณนะหนูยูล ซูยอนเค้าเจ็บปวดมามากเลยละ ถ้าเค้ายิ้มได้สักนิดลุงก็คงมีความสุข"

               "เอาเป็นว่าลุงจะเริ่มเล่าเรื่องตอนเด็กๆให้หนูฟังแล้วกันนะ ^^"

               ฉันได้แต่พยักหน้า และนั่งฟังเรื่องที่คุณลุงจะพูดให้ฟังอย่างตั้งใจ

               จะได้รู้เสียทีว่าจอง ซูยอน คนนี้เป็นอะไรกันแน่

     

     

               เมื่อสิบปีที่แล้ว ซูยอนเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความน่ารักสดใส  ร่าเริง  และเอาใจใส่ทุกคนๆ

               ผู้คนที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอจะมองว่าเด็กคนนี้มีความสุขมาก  ไม่มีเรื่องทุกข์ใดใด 

               อยู่กับคุณพ่อคุณแม่และน้องสาวสุดที่รัก  เมื่อผ่านมาวันนึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

     

               "คุณอย่าเป็นอะไรเลยน่ะ อย่าเป็นอะไร"

               ชายร่างสูงพูดกับภรรยาที่อยู่บนเตียงและกำลังรีบจะเข็นเข้าห้องผ่าตัด

               "หมอ หมอครับช่วยภรรยาผมด้วย จะต้องการเงินเท่าไหร่ผมก็หามาให้ได้ ได้โปรดช่วยภรรยาของผมไว้ด้วยเถอะครับ"

               "กรุณารออยู่ด้านนอกด้วยครับ  เราจะช่วยอย่างสุดความสามารถ"

               หมอและพยาบาลรีบพาภรรยาของชายคนนี้เข้าไปในห้องไอซียูเพื่อช่วยชีวิต

     

               การผ่าตัดเริ่มขึ้นเป็นเวลาอยู่นานหลายชั่วโมง ทำเอาชายที่เป็นสามีเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจ เก็บน้ำตาที่เอ้อล้นไม่ให้มันไหลออกมา รอจนกว่าที่หมอจะออกมาจากห้องผ่าตัด

               "หมอ  ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้าง  หายแล้วใช่มั้ยหมอ"

               "ตอนนี้เราได้ช่วยสุดความสามารถแล้วน่ะครับ อาการที่จะเกิดขึ้นยังไม่แน่นอน" 

               "เรากำลังจะย้ายผู้ป่วยไปห้องพิเศษน่ะครับ" หมอพูดอธิบายให้ฟัง

               "แล้วเมื่อไหร่จะหายล่ะหมอ" ผู้ชายร่างสูงพูดอาการสั่นๆไปหมด

               "คือหมอคิดว่าคุณต้องทำใจเอาไว้บ้างน่ะครับ เรายังไม่ทราบโรคที่ภรรยาของคุณเป็นแน่ชัด เพราะฉะนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่"

               ผู้ชายร่างสูงวัยกลางคนเข้ามาจับเสื้อของหมอไว้ก่อนจะทรุดตัวลงร้องไห้

     

     

               "ซูจอง มาเล่นทำอาหารกันเถอะ ^^"

               "อือ พี่สิก้า ทำไมคุณพ่อคุณแม่ยังไม่กลับมาอีก คริส คิดถึงคุณแม่"

               "ไม่เป็นไรน่ะ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ก็กลับมาแล้วละ"

               ซูจองน้องสาวคนเดียวของซูยอนได้แต่ยิ้มกว้าง ก่อนจะนั่งเล่นทำอาหารกันสองคนอย่างสนุกสนาน และไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเธอทั้งสองคน วันนั้นเป็นวันที่พ่อและแม่ของทั้งคู่ไม่ได้กลับบ้าน มีเพียงเด็กตัวเล็กๆสองคน อยู่กับบรรดาแม่บ้านทั้งหลาย ในถานะคนเป็นพี่จึงต้องดูแลน้องเมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ด้วย

     

               "พี่ซูยอน คริส ฮือๆ ทำไมคุณแม่ยังไม่กลับมา"

               "ไม่เป็นไรน่ะ คุณพ่อคุณแม่คงติดธุระอยู่ ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเถอะ"

               "วันนี้คริส ไปนอนห้องพี่เจสได้ไหม"

               "ไม่ได้น่ะ คริส เดี๋ยวคุณพ่อมาว่าพี่"

               "=3= พี่เจสใจร้ายที่สุดเลย น้องงอนพี่เจสแล้ว"

               "เอาเถอะ รีบๆอาบน้ำแล้วเข้านอนซะ"

     

               แอ๊ดดดดดด....  เสียงเปิดประตูห้องนอนสีชมพูดังขึ้นจนร่างที่กำลังจะนอนหลับถึงกับหันไปมองด้วยความสงสัย ว่าใครกันถึงเข้ามาในเวลาดึกแบบนี้ อาจจะเป็นคุณแม่ก็ได้กระมั้ง ที่เข้ามาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนทุกคืน

               "อ่าว คริส ยังไม่นอนอีกเหรอ"

               "คริสนอนไม่หลับอ่ะ ขอนอนด้วยคนน่ะ ^^"

               "เอาก็เอา วันนี้วันเดียวนะ"

               "พี่เจสใจดีที่สุด"

               "เปลี่ยนคำพูดบ่อยจังนะเรา เมื่อก่อนหน้านี้ยังว่าพี่ใจร้ายอยู่เลย"

               "แหะๆ" เด็กตัวเล็กที่เอนตัวลงนอนได้แต่หัวเราะคิกคัก ไม่ช้าก็เผลอหลับไปทั้งคู่

     

               เมื่อตื่นมาตอนเช้าก็พบว่าคนเป็นพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่นั่นก็ไม่ได้มีเงาของคนเป็นแม่อยู่เลย เจสสิก้าซึ่งเป็นเด็กที่ค่อนข้างฉลาดเอ่ยถามขึ้นจนพ่อตัวเองต้องรีบปาดน้ำตาให้หมดไป

               "คุณพ่อ คุณแม่ละค่ะ ไม่มาทานข้าวเช้าเหรอ"

               "อือ อยู่กันได้หรือเปล่าสองคน เมื่อคืน"

               "ค่ะ"

               "แล้วคุณแม่ไปไหนค่ะ ทำไมคุณพ่อต้องร้องไห้ด้วย"

               "คุณแม่ไม่ค่อยสบายนะซูยอน แล้วซูจองละ"

               "แต่งตัวอยู่ค่ะ ^^"

               "คุณพ่อ ทำไมตาแดงละค่ะ" เด็กตัวเล็กที่เพิ่งจะเดินลงมาจากบันไดบ้านเอ่ยถามพ่อของตนทันที

               "นั่งทานข้าวกันเถอะนะ ลูก แล้วเดี๋ยวพ่อจะพาไปเยี่ยมคุณแม่"

     

               เมื่อทานอาหารมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายร่างสูงอุ้มลูกคนเล็กก่อนจะเดินจูงมือลูกสาวคนโตมาที่รถ

    เพื่อขับออกไปเยี่ยมอีกคนที่โรงพยาบาล สำหรับอาการแล้ว ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

     

     

               "คุณ ผมพาลูกๆมาเยี่ยม แต่งตัวน่ารักกันทั้งสองคนเลยใช่ไหมละ"

               "ค่ะ ^^" ร่างบางที่นอนนิ่งพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบๆ พร้อมกับพยายามที่จะฝืนยิ้มไม่ให้ลูกทั้งสองเป็นห่วงด้วย

               "คุณแม่ เป็นอะไรค่ะ คุณแม่ต้องทานข้าวทานยาเยอะๆ จะได้หายไวไวนะค่ะ"

               "จ๊ะ ซูยอนลูกต้องรักซูจองให้มากๆน่ะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาเบาๆ เจสสิก้าที่ยืนอยู่ขอบเตียงได้แต่พยักหน้าให้

               "คุณแม่ คริสคิดถึงคุณแม่จังเลย ถ้าคุณแม่หาย พาคริสกับพี่สิก้าไปเที่ยวสวนสนุกด้วยนะค่ะ ^^"

               "จ๊ะ แม่จะรีบๆหาย แล้วพาเราสองคนไปเที่ยวนะ อย่าดื้อกับคุณพ่อรู้ไหม"

               "ค่ะ" เด็กสองคนขานรับพร้อมกัน เด็กตัวเล็กกว่านั่งขึ้นมาบนเตียงก่อนจะกอดแม่ตัวเองไว้

               ผู้เป็นแม่ได้แต่ระบายยิ้มให้ทั้งสอง ลูบผมเด็กตัวเล็กด้วยความเอ็นดู

     

     

               หลังจากนั้นไม่นาน งานศพของผู้เป็นแม่ของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความเศร้าสลดของทุกๆคน  

               ชายร่างสูงได้แต่ปล่อยน้ำตาใสๆออกมา ไม่คิดว่าคนที่เค้ารักที่สุดจะจบชีวิตลงเร็วขนาดนี้

               "คุณพ่อ คุณแม่ ทำไม ฮือๆ ฮึก ไม่ฟื้น ฮึก ขึ้นมาละ"

               "ซูยอนคุณแม่เค้าไปสบายแล้วนะลูก"

               "คุณแม่ ฟื้นขึ้นมาสิค่ะ หนูยังไม่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกเลย ฮือๆ คุณแม่"

               ชายร่างสูงได้แต่กอดลูกสาวคนโตไว้ เด็กตรงหน้าได้แต่กำมือแน่นทุบเข้าที่หลังของพ่อรัวๆ

               "ฮือๆ คุณแม่ หนูยังไม่ได้กอดแม่เลย ทำไมคุณแม่ทิ้งหนูไป"

               "ซูยอน อย่าไปโกรธคุณแม่เลยนะ"

               "ฮือๆ พี่สิก้าร้องไห้ทำไม ร้องไห้ทำไมค่ะพ่อ"

               เด็กตัวเล็กอีกคนได้แต่ร้องไห้ตามพี่สาวของเธอเท่านั้น ไม่ค่อยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนักหรอกเพราะว่าตัวเองยังเด็กอยู่มาก

     

               เหตุการณ์ครั้งนั้นถึงกับเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนึงเป็นอย่างมาก จากที่เคยมีรอยยิ้มที่สดใส ก็กลับกลายเป็นการยิ้มที่ดูจะฝืนๆ ให้ผู้เป็นพ่อไม่ต้องเป็นห่วง จากที่เคยพูดคุยและเล่นกับทุกคน ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกับใครอีกนอกจากพ่อและน้อสาวของตน สำหรับคนอื่นจะคุยต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น และนั่นก็ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกหนักใจไม่ใช่น้อย อยากได้ลูกสาวที่น่ารักเหมือนคนเดิมกลับมา แต่มันคงเป็นไปได้ยาก หรือไม่อาจกลับไปเป็นเจสสิก้าคนเดิมได้แล้วก็ได้

     

    .
    .

     

               ฉันได้แต่เอามือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ซูยอน ฉันรู้แล้ว ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น ชายวัยกลางคนได้แต่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ฉันก้มหัวให้พยักหน้าเป็นการขอบคุณ หยิบผ้าผืนนั้นมาซับน้ำตาให้แห้ง ต่อจากนั้น ชายวัยกลาง คนพ่อของซูยอนก็เริ่มเล่าเรื่องต่อ

     

     

               แต่แล้วเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดสำหรับทั้งสองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

               "พี่สิก้า คริสไปหาคุณพ่อนะ พี่อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม"

               "อือ จะไปกี่วันละคริส"

               "ก็คงอาทิตย์นึง"

               "งั้นพี่ก็คิดถึงเราแย่"

               "พี่เจสก็ไปกับคริสสิ"

               "ไม่เอาอะ พี่อยากอยู่บ้าน"

               "งั้นคริสไปก่อนนะ รักพี่สิก้าที่สุดในโลก ^^"

               "เหมือนกันจ๊ะ เดินทางปลอดภัยนะเรา"

               "^_______________^"

     

               เมื่อตกบ่าย เจสสิก้าที่กำลังดูโทรทัศน์รายการโปรดอย่างสนุกสนาน ไม่นานก็ตัดภาพขึ้นมาเป็นนักข่าว ด้านข้างเขียนว่าข่าวด่วน และนั่นทำให้เจ้าตัวไม่พอใจเท่าไหร่

               มีรายงาน เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก จากสายการบิน Japan airline เที่ยวบินจากโซลมุ่งหน้าไปกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากระบบเครื่องบินเกิดการขัดคล่องการอากาศ ทำให้ตกลงมาจากความสูง 1200 ฟุต ตอนนี้กำลังตรวจสอบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บค่ะ และจะรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ พึ่บ !!

     

               ร่างบางที่นั่งดูโทรทัศน์อย่างไม่วางตา ถึงกับเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจ เพราะน้องสาวของตนที่ออกเดินทางไปหาพ่อเมื่อเช้า ขึ้นสายการบินนี้แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเที่ยวบินไหนเท่านั้นเอง ก่อนจะกดโทรหาน้องของตนทันที ใจคอเริ่มไม่ดีเท่าไหร่ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

               "หมายเลขที่คุณเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ the number you call...."

               ได้ยินดังนั้นเจสสิก้าถึงกับหัวเสีย ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นพ่อของตนที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น

     

               "คุณพ่อค่ะ คริสไปถึงญี่ปุ่นหรือยังค่ะ"

               "ซูยอน ลูกฟังพ่อดีๆนะ เครื่องบินที่ซูจองนั่งมา ตอนนี้ตกแล้ว พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง พ่อกำลังจะกลับเกาหลี"

               "ปุก คริสอย่าเป็นอะไรนะ"

               เจสสิก้าปล่อยโทรศัพท์ลงไปที่พื้น ก่อนจะรีบคว้ากุญแจรถและวิ่งออกมาจากบ้าน เพื่อจะขับรถไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมฟังข่าวในรถเป็นระยะ มีเพียงการภาวนาเท่านั้นที่พอทำได้ในตอนนี้

     

               ตอนนี้มาเจสสิก้ามาถึงที่เกิดเหตุ มีคนมากหน้าหลายตามามุมดู และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยคนรอดก็ประกาศเสียงดัง

               "กรุณาอยู่ในเขตเส้นสีเหลืองด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างสุดความสามารถ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ"

     

               เจสสิก้าไม่ได้ฟังที่อีกฝ่ายพูดเท่าไหร่ ก่อนจะพยายามแทรกตัวเข้าไปในที่ว่าง

               ก่อนจะตรงไปที่รถของสถานี MBC ทันที

               "พี่ค่ะ พี่ ทราบหรือยังว่ามีคนเสียชีวิตกี่คน บาดเจ็บกี่คนค่ะ"

               "ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่นอนเลยครับ ว่าแต่น้องมีญาติมากับเที่ยวบินนี้เหรอ"

               "ค่ะ" เจสสิก้าตอบกลับชายคนนั้นทั้งน้ำตา กวาดสายตามองน้องสาวตัวเองให้ทั่วๆ

     

               เจสสิก้ารีบวิ่งไปใกล้ที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อมองหาน้องสาวตัวเอง  แต่ภาพที่เห็นคือน้องสาวของตัวเอง

               นอนอยู่บนผ้าผืนสีขาวที่มีคนนอนอยู่หลายคน สิก้าเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตรงมาที่ร่างของน้องสาวตนทันที

     

               "คริสตื่นสิ คริส ตื่นมาคุยกับพี่ก่อน" ร่างบางพูดพร้อมเขย่าร่างน้องสาวแรงขึ้นแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตรงหน้า เจสสิก้าร้องไห้ออกมาเสียงดัง เลือดเปราะเสื้อผ้าเต็มไปหมด พยายามให้น้องตัวเองฟื้นขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล พยายามเรียกหน่วยกู้ภัยให้เข้ามาช่วย 

     

               "พี่ค่ะ ช่วยน้องชั้นด้วย" ซูยอนเอ่ยขึ้นเสียงสั่นๆ เจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นก็ทำหน้าเศร้า

               "ตรงนี้เป็นผู้เสียชีวิต พี่เสียใจด้วยนะ"

               "คริส อย่าทิ้งพี่ไป อย่าทิ้งพี่ไปอีกคน แล้วพี่จะอยู่ยังไง คริสตัลฟื้นขึ้นมาสิ ฮือๆ

               ถ้าวันนี้พี่ไม่ให้เธอไป เธอ ฮึก ก็จะไม่ต้องตาย ตื่นขึ้นมาคุยกับพี่เถอะนะ ฮือๆๆ พี่ขอร้อง"

               เจสสิก้าได้แต่เพียงกอดร่างน้องสาวตัวเองให้แน่นขึ้นร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ  จนตัวเองซะหลบไป การลาครั้งนั้น    เจสสิก้าไม่ได้นึกฝันว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอน้องสาวของตัวเอง

     

               "ทำไมทุกๆคนถึงจะทิ้งฉันไปหมด" เจสสิก้าได้แต่ละเมออกมาเบาๆ เมื่อกำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง คนเป็นพ่อก็เศร้าไม่น้อยไปกว่าลูกคนนี้เท่าไหร่

     

               ตั้งแต่วันนั้นเจสสิก้ากลายเป็นคนที่ไม่พูดอะไรกับใครเลยนอกจากพ่อของตัวเอง น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มทุกๆครั้งที่คิดถึงคุณแม่และคริสตัล  ในสายตาของเจสสิก้าจึงกลายเป็นคนอ้างว้างไม่มีจุดหมาย เพียงได้แต่เหม่อลอยไปวันๆ  โดยการมองที่หน้าต่างเพื่อคริสตัลจะเห็นตนเองบ้าง

     

               ซูยอนพยายามพาตัวเองหนีออกมาจากห้องผู้ป่วยหลายครั้ง และเมื่อมีโอกาสที่จะหนีจึงพาตัวเองลงมาข้างล่างด้วยการถือมีดติดตัวมาด้วย ลงไปถึงข้างล่างแล้วสิก้าจึงเริ่มที่จะขู่ฆ่าตัวตาย  ทำให้ทั้งหมอ  พยาบาล และ รปภ. แตกตื่นกันยกใหญ่ และนั่นทำให้พบเจอเข้ากับยูริ คนที่มาเยี่ยมซูยอนทุกๆวัน ตั้งแต่นั้น

     

               "ฮือๆ ซูยอนน่าสงสารจังเลยนะค่ะ"

               ฉันได้แต่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ให้ตายเถอะนี่ชีวิตจริงเหรอเนี้ย ฉันเริ่มเข้าใจ

               เข้าใจทุกๆอย่างแล้วละ ว่าทำไมคนคนนี้ถึงเป็นแบบนี้ ฉันจะทำให้เธอยิ้มให้ได้ จอง ซูยอน


    ................................................................... TCB Wait for level 3"

    Writer Talk : มาแล้วค้าบ ตอนที่สอง เป็นอย่างไรกันบ้าง ^^
    แหะๆ ไรเตอร์สัญญาแล้วว่าจะไม่ดอง ก็คงเอามาลงให้ประมาณนี้เน้อ
    ขอบคุณทุกคอมเม้น และแฟนคลับ โว้โว้ มีแฟนคลับด้วยละ ดีใจจัง ฮ่าๆ
    ไรเตอร์บ้าไปและ คู่ทั้งหมดมี ยูลสิก แททิฟ ยุนซันซอซู ที่เหลือสี่คนหลังเดี๋ยวเดากันเอาเองนะ คิคิ
    ไปละ วันนี้เหนื่อยๆ ภาษาอังกฤษ =[]= บะบายรีดเดอร์ทุกท่าน ^^

    ปล.เรื่องนี้ถ้าจะตามไปอ่านที่บอร์ดโน้นก็ได้ แต่ว่าไรเตอร์เอามีรีใหม่หมด เนื้อเรื่องอาจจะเปลี่ยนเยอะหน่อยนะ
    สุดท้าย ก็ Happy New Years สวัสดีปีใหม่คร้าบผม ^0^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×