คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : แผนสูง
ในที่สุดกล้วยไม้ก็หายป่วยกลับมาดูแลน้องยิ้มหวานได้ตามปกติ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของไวน์กับแพทก็คืบหน้าจากการที่ต้องติดต่อทำงานร่วมกัน และสาวเจ้าเองก็เริ่มจะเปิดใจให้บ้างหลังจากเห็นด้านสว่างของไวน์ที่ยังพอหลงเหลือให้อยากค้นหาจากที่เคยคิดว่ามีแต่ด้านมืดมาตลอด รอยยิ้ม และการแสดงออกที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของหญิงสาว ทำให้ไวน์ถึงกับฮัมเพลงออกมาเมื่อเดินกลับเข้าห้องในตอนเย็นเลยทีเดียว
แล้วก็ได้พบกับความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อก้าวเข้าไปในห้อง และพบร่างจ้ำม่ำของน้องยิ้มหวานในชุดบิกินี่สีแดงลายจุด พร้อมทั้งคาดผมสีแดงสดที่ทำให้ความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เสียงกดชัดเตอร์แชะๆ ที่ดังจากกล้องดิจิตอลของยู่ยี่ทำให้ไวน์ถามออกมาอย่างอดไม่ได้ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนรักกำลังทำอะไร
“เล่นอะไรกันน่ะ”
“อ้าว พี่ไวน์กลับมาแล้วเหรอ ดูนี่สิน้องยิ้มหวานน่ารักมั้ย” กล้วยไม้หันมาถามอย่างตื่นเต้น ในขณะที่ยู่ยี่วุ่นวายกับการจัดท่าทางเด็กน้อยให้ดูเซ็กซี่จนไม่สนใจการกลับมาของเพื่อนรักเอาเสียเลย
“ให้เด็กมันได้โตอย่างธรรมชาติบ้างเห้อ จะเสี้ยมเด็กให้แก่แดดตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือยังไง”
“แหม พี่ไวน์ดูพูดเข้า ก็วันนี้พอดีกล้วยกับพี่ยี่ออกไปซื้อของกันมา ได้เสื้อผ้าเด็กของน้องยิ้มหวานมาเยอะแยะเลย ก็เลยอยากถ่ายรูปเก็บไว้น่ะค่ะ”
“แล้วชุดที่ซื้อมานี่จะได้ใส่ไปไหนมั้ยน่ะ แต่ละชุด” ไวน์บ่นพร้อมกับปรายตามองดูชุดเด็กที่วางเรียงรายสีสันแสบทรวงอยู่เกลื่อนห้อง แต่ละดีไซน์นี่ถ้าเด็กน้อยพูดได้ ยัยเพี้ยนสองคนคงโดนด่าไปบ้างแล้ว เล่นแต่งตัวกันอย่างกับเปลี่ยนชุดตุ๊กตา ยู่ยี่ที่ถ่ายรูปน้องยิ้มหวานในชุดบิกินี่จนพอใจแล้วหันมาบอกกล้วยไม้
“ไม่ต้องไปสนใจไอ้ไวน์มันหรอกกล้วย คนไม่รักเด็กอย่างมันไม่มีวันเข้าใจหัวอกแม่ที่จะต้องนับวันถอยหลังลาจากลูกรักอย่างพวกเราหรอก”
“โห วิญญาณผีแม่ลูกอ่อนเข้าสิงเหรอนังยี่ แล้วให้เด็กนอนเปิดพุงอย่างนั้นเดี๋ยวปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไง” เอ่ยพร้อมกับส่ายหน้าเมื่อมองเห็นพุงป่องขาวจั๊วะของเด็กน้อยจ้ำม่ำที่โผล่พ้นบิกินี่สีแดงสดลายจุดออกมา ไวน์ทิ้งกระเป๋าใส่เอกสารและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คลงบนโซฟา ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปคว้าเอาผ้าขนหนูสีชมพูสดใสของน้องยิ้มหวานมาคลุมที่พุงให้เด็กน้อย เอียงคอมองนิดหน่อยแล้วก็คว้าเอาของเล่นรอบๆ มาตั้ง จัดวางองค์ประกอบให้ดูน่ารัก ไวน์พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะหันไปบอกเพื่อน
“เออ แบบนี้ค่อยดูได้หน่อย ไหนลองถ่ายรูปใหม่สิ” ทั้งๆ ที่ยังงงๆ แต่ยู่ยี่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย เสียงชัดเตอร์ดังขึ้นจากกล้องดิจิตอล ทั้งกล้วยไม้ ทั้งไวน์ ยื่นหน้าเข้าไปมองดูรูปบนหน้าจอด้วยความสนใจ ภาพเด็กน้อยตัวกลมป๊อกในชุด บิกินี่น่ารักน่าเอ็นดูเสียจนพี่เลี้ยงชมเปาะ
“ว้าย น่ารักจริงๆ เลย พี่ยี่ถ่ายรูปเก่งจังเลยค่ะ” คำชมของหญิงสาวทำให้ยู่ยี่ยืดอกน้อยๆ ขึ้นอย่างภูมิใจ
“แน่นอนอยู่แล้วย่ะหล่อน คนสวยไม่ได้มีดีแค่หน้าตานี่คะ โฮ๊ะๆๆๆ” ท่าปิดปากหัวเราะของกะเทยนั้นดูน่าหมั่นไส้เสียจนคนปากเสียอย่างไวน์อดกัดไม่ได้
“หือ ฉันจัดองค์ประกอบให้ดีขนาดนี้แล้ว ยังถ่ายออกมาได้แค่นี้แล้วยังมีหน้ามาโอ่อีกเหรอ ไม่ได้เรื่อง”
“อะไรยะไอ้ไวน์ แล้วแกทำได้หรือเปล่า ถ่ายรูปเด็กน่ารักๆ แบบนี้น่ะ ทำได้หรือเปล่า” ยู่ยี่ท้าทายอย่างไม่ยอมแพ้ ไวน์หัวเราะหึๆ ก่อนจะยักไหล่แล้วเดินเข้าห้องตัวเอง สองสาวหันมามองหน้ากันงงๆ เค้าถามว่าทำได้มั้ย แต่ไวน์กลับเดินเข้าห้องไม่พูดไม่จาเสียอย่างนั้น พิลึกคน แต่สงสัยไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทั้งสองจึงหันไปให้ความสนใจกับการถ่ายรูปต่อ แต่นั่นเป็นอาการก่อนที่จะได้ยินเสียงชัตเตอร์รัวๆ ดังขึ้นมาจากข้างหลัง เมื่อหันกลับมาสองสาวก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ไวน์ยืนกระดิกเท้ายิ้มๆ ในมือมีกล้องถ่ายรูปแบบมืออาชีพที่แค่ตัวเลนซ์ก็ราคาเหยียบแสนแล้ว
“ว้ายไอ้ไวน์ เด็กนะยะไม่ใช่ดาวพระศุกร์ จะเอากล้องดูดาวมาทำม๊าย!” ยู่ยี่อดท้าวสะเอวจิกเพื่อนไม่ได้เมื่อเห็นขนาดกล้องอันมหึมานั้น
“ก็นี่ไง มืออาชีพเค้าทำกันแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะถ่ายรูปเด็กน่ารักระดับเทพให้แกดู แล้วแกจะได้รู้ว่าของจริงนั้นเป็นยังไง” ไวน์พูดพร้อมกับยักคิ้ว ก่อนจะยกกล้องขึ้นกดชัดเตอร์ด้วยความชำนาญ เสียงชัดเตอร์รัวๆ ทำเอาสองสาวได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ก่อนที่ไวน์จะหันมาพยักหน้าแล้วเรียกให้เข้ามาดูรูปที่ตัวเองถ่าย
“อ่ะ ดูซะ ของจริงมันต้องแบบนี้ ฉันอุตส่าห์จัดองค์ประกอบให้อย่างหรู แกถ่ายออกมาแล้วไม่ได้เรื่องเลย” ทั้งๆ ที่ยู่ยี่อยากจะหาคำมาคัดค้านท่าทางจองหองของเพื่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่ารูปที่ไวน์ถ่ายออกมานั้น ดูดีมากจริงๆ ทั้งมุมกล้อง ทั้งแสงสมกับเป็นกล้องมืออาชีพ กะเทยสาวยืนกัดฟันกรอด ในขณะที่กล้วยไม้ได้แต่มองดูอย่างหวาดๆ ทั้งๆที่เริ่มแรกเป็นแค่การถ่ายรูปสนุกๆ เท่านั้น แต่เอาไปเอามากลับกลายเป็นการแข่งขันกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยู่ยี่ที่เสียหน้าสุดๆ ยืนหน้าหงิกบีบมือแน่นจนสั่น ก่อนจะเดินกระแทกส้นปังๆ เข้าห้องไป
“พี่ไวน์น่ะ ทำไมพูดอย่างนั้น พี่ยี่เค้าตั้งใจมากเลยนะ” กล้วยไม้ตำหนิไวน์ออกมาด้วยห่วงความรู้สึกของยู่ยี่ หากแต่ไวน์เพียงแค่ยิ้ม ลุกไปจัดท่าทางของเด็กน้อย
“อย่าไปสนใจมันเลย นับหนึ่งถึงสิบในใจสิ เดี๋ยวมันก็กลับมา” คำพูดแปลกๆ ที่หลุดออกจากปากคนใจร้ายทำให้หญิงสาวทำได้เพียงกระพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องนับหนึ่งถึงสิบ
หนึ่ง สอง สาม สี่ แม้จะยังงุนงง แต่กล้วยไม้ก็เป็นคนซื่อ ถ้าเค้าบอกให้นับ ฉันก็จะนับนั่นแหละ แต่ก็นับไปงงไปด้วยนะ ห้า หก เจ็ด แปด
“แต่น แตน แต๊นนนนนน!!!” ยังไม่ทันได้นับถึงเลขเก้า ประตูห้องนอนของยู่ยี่ก็เปิดผ่างออกมา พร้อมกับร่างสะโอดสะองของเจ้าของที่ออกมายืนโพสท่าในชุดราตรีสีแดงขลิบเขียวประดับด้วยลูกไม้กรุยกราย
“พี่ยี่ ชุดอะไรเนี่ย” พี่เลี้ยงเด็กถามออกมาอย่างตกตะลึงพรึงเพริด
“เป็นไง สวยมั้ย จะได้เข้ากับชุดสีแดงของลูกสาวฉัน ฮิฮิ” บอกพร้อมกับเดินนวยนาดไปนั่งโพสท่าเซ็กซี่อยู่ข้างๆน้องยิ้มหวาน เล่นเอาไวน์หลุดหัวเราะพรืดออกมาหันไปบอกกล้วยไม้
“กล้วยๆ ไปหาชุดสีดำมาใส่ทีสิ”
“ทำไมอ่ะพี่ไวน์” หญิงสาวหันมาถามงงๆ
“จะได้ครบสูตรเป็นอีกาคาบพริก ฮ่าๆ”
“ว้าย ไอ้ตากล้องปากเสีย มีหน้าที่ถ่ายรูปก็ถ่ายไปเลยย่ะ อย่าให้นางแบบคอยนาน อารมณ์เสีย เนาะลูกเนาะ” ยู่ยี่จีบปากจีบคอด่าเพื่อนก่อนจะหันไปอุ้มน้องยิ้มหวานขึ้นมาพยักพเยิดให้กัน ไวน์ส่ายหน้าขำๆ หากแต่ก็ยอมถ่ายรูปให้ตามบัญชา ซึ่งนางแบบเองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โพสมาแต่ละท่านี่เล่นเอาคนมองจินตนาการออกถึงเวทีแคทวอล์คที่มีแสงสีเสียงตระการตาเลยทีเดียว
ถ่ายกันไปได้หลายกระบวนท่า ยู่ยี่ก็กวักมือเรียกกล้วยไม้ยิกๆ ให้มาถ่ายรูปด้วยกัน บรรยากาศอบอุ่นเกิดขึ้นในห้องที่เคยเต็มไปด้วยความว่างเปล่าไร้จุดหมาย คนแปลกๆ สามคนที่มารวมกันได้ เพราะการปรากฏกายของเด็กหญิงตัวน้อย กล้วยไม้จ้องมองดูใบหน้าบ้องแบ๊วน่ารักของน้องยิ้มหวาน อดไม่ได้ที่จะถามกับตัวเอง เอ
หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นกามเทพหลงทางปลอมตัวลงมากันน้อ
กล้วยไม้นั่งเล่นกับเด็กหญิงตัวน้อยบนพื้นที่ปูผ้าขาวสะอาดในห้องรับแขก หญิงสาวมีกระพรวนหลากสีในมือ เสียงดังก๊องแก๊งเรียกเสียงหัวเราะจากน้องยิ้มหวานได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ตาก็คอยเหลือบมองดูอาการของแบงค์ที่แวะมาเที่ยวหา หลังจากทานข้าวเที่ยงด้วยกันทั้งสามคนกล้วยไม้ แบงค์ และยู่ยี่ เจ้าหนุ่มก็คอยชะเง้อชะแง้มองตามร่างบางที่ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัว และนั่นก็ทำให้เขาถึงกับนั่งอยู่ไม่เป็นสุข กล้วยไม้ขมวดคิ้วมองเพื่อนอย่างประหลาดใจในท่าทีนั้น ลางสังหรณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในใจ พักนี้แบงค์มาเยี่ยมเธอบ่อยอย่างน่าสงสัย นี่คงจะไม่ใช่ว่า
“เป็นอะไรแบงค์ ชะเง้อชะแง้จนคอยาวแล้ว”
“อะ เอ่อ เปล่าหรอก ว่าแต่นี่ พี่ยี่เค้าไม่มีแฟนจริงๆเหรอ”
“ก็เห็นบอกว่าอย่างนั้นล่ะนะ”
“แปลกจังนะ น่ารักขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง” ชายหนุ่มถามออกมาตาลอยให้เพื่อนสาวมองแล้วหัวเราะแห้งๆ อยู่คนเดียว
“พี่เค้าบอกว่ายังไม่เจอคนที่เกิดมาเพื่อพี่เค้าน่ะ” กล้วยไม้บอกเพื่อน ในใจคิดไปถึงคำพูดที่ยู่ยี่เคยบอกเอาไว้ ว่าคงจะมีสักวันที่หล่อนจะได้พบผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อกะเทยอย่างหล่อน
“งั้นเหรอ นี่แหละนะที่เค้าว่าสวยเลือกได้” ชายหนุ่มที่ไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนไว้ของกล้วยไม้บอกเสียงอ่อย ใช่สิ หากพี่ยู่ยี่คนสวยรอคอยเจ้าชายขี่ม้าขาว ผู้ชายที่ท่าทางเหมือนคนตัดฟืนอย่างเขาคงไม่มีสิทธิ์ กล้วยไม้มองดูอาการของเพื่อนแล้วก็ทำให้รู้สึกเสียวรูทวารแทนเพื่อนเสียจริง จนป่านนี้มันยังไม่รู้ความจริงอีกเหรอเนี่ย ใจจริงก็อยากจะบอกเพื่อนรักเกี่ยวกับเพศที่แท้จริงของยู่ยี่
แต่กล้วยไม้ก็ไม่อยากจะทำตัวเป็นพวกปากสว่างบ่างช่างยุ เพราะยู่ยี่ขอร้องแกมบังคับเอาไว้ว่า ห้ามบอกเด็ดขาด ถ้าไม่อยากถูกเฉดหัวออกจากบ้านเอเอฟ ทำให้ต้องเธอต้องมานั่งทำหน้าเนียนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างนี้ เอาเถิดเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง อาจจะต้องสังเวยเพื่อนไปบ้างสักคนสองคน แต่ก็เป็นด้วยความเต็มใจของเจ้าตัวเองล่ะนะ กล้วยไม้พยายามคิดในแง่ดีก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างเห็นใจ เล่นเอาเจ้าหนุ่มงงว่า เพื่อนสาวเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาอีกแล้ว
แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในกลุ่มเด็กศิลป์อย่างพวกเขาที่มีเรื่องราวขบคิดในหัว แต่ลืมที่จะพูดจึงเผลอแสดงผ่านท่าทางแปลกๆ ออกมา ความจริงแล้วเขาพอใจเสียมากกว่าที่เพื่อนสาวไม่คิดเซ้าซี้ถามว่า เพราะอะไรเขาถึงได้แวะเวียนเข้ามาหาบ่อยครั้งถึงเพียงนี้ เพราะหากโดนถามเช่นนั้นเขาคงจะอายม้วนต้วนจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ว่าตั้งแต่เกิดมาเป็นหนุ่มจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ได้เจอกับผู้หญิงที่โดนใจเช่นนี้มาก่อน
พี่ยู่ยี่ คนสวยที่แตกต่างจากผู้หญิงสวยๆ ทุกคนที่เขาได้พบเจอ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่รู้ตัวว่าตัวเองสวยมักจะใช้สิทธิ์ของการเป็นคนสวยแล้วหยิ่ง มองดูเด็กศิลป์อย่างพวกเขาเหมือนหนอนบนยอดหญ้า นอกจากจะรังเกียจถือตัวแล้วยังใช้ปลายเท้าเขี่ยๆ เวลาอยากไล่ให้พ้นหน้าอีกต่างหาก แต่พี่ยู่ยี่กลับแตกต่าง ทั้งน่ารักเป็นกันเอง ยิ้มก็สวย แถมยังรักเด็ก รับเด็กมาดูแลทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติ แถมยังช่วยเหลือกล้วยไม้ให้มีที่อยู่ที่อาศัย งดงามทั้งกายทั้งใจแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังโสดไม่มีใคร และนั่นก็เป็นเหตุที่ทำให้แบงค์อดไม่ได้ที่จะแวะเวียนมาหา ก็แหม แค่ได้เห็นหน้าก็ชื่นใจแล้ว ความสุขเล็กๆ ของหนอนน้อยบนยอดหญ้า ที่ใครๆ คงจะไม่เข้าใจ
แต่นั่นเป็นยู่ยี่ในจินตนาการของชายหนุ่มที่ยังอ่อนประสบการณ์ ผู้หญิงสวยงามแบบนั้นคงจะมีแค่ในนิยายเท่านั้น เพราะกะเทยอย่างยู่ยี่เกิดมาแบบชีวิตต้องสู้ ฝ่าฟันอุปสรรค์เพื่อที่จะได้เป็นกะเทยอย่างที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ ต้องพยายามอธิบายให้ครอบครัวเข้าใจจนถึงขั้นทะเลาะกันเสียใหญ่โต แต่ทุกสิ่งเหล่านั้นก็หล่อหลอมให้ยู่ยี่ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเช่นทุกวันนี้
เพราะเช่นนั้นเมื่อกะเทยสาวสวยรับรู้ถึงอาการมีใจของชายหนุ่ม หล่อนก็เริ่มวางแผนการในใจ ดวงตาของแบงค์นั้นบอกความรู้สึกซื่อตรงอย่างไม่ปิดบัง โอ้
หรือว่านี่จะเป็นเวลาที่ฟ้ากำหนดให้ยู่ยี่ได้เจอกับเจ้าชายที่รอมาแสนนาน แต่จะให้อยู่เฉยเหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยก็กะไรอยู่เดี๋ยวจะไม่ทันการ เพราะช่วงนี้ผู้ชายขาดแคลน แค่ชะนีทั้งหลายก็ไม่ค่อยจะได้ผู้ชายตกถึงท้องแล้ว ยังต้องมาแชร์ให้เก้งกวางที่แอบอยู่ตรงซอกหลืบอีก มัวแต่ชักช้าแล้วเมื่อไหร่จะถึงมือกะเทย
เมื่อคิดได้อย่างนั้นหญิงสาวก็สำรวจรอบกาย แล้วดวงตาก็เกิดประกายปิ๊งปั๊ง หล่อนรีบเปลื้องผ้าให้เหลือแค่ตัวบางๆ กับผ้าเช็ดตัวผืนเดียว วิ่งเข้าไปอาบน้ำใส่ครีมเสียหอมฉุยจัดการซ่อนช้างน้อยให้มิดชิด สำรวจความเซ็กซี่ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายจากหน้ากระจก หล่อนส่งจูบให้ตัวเอง ก่อนที่จะเหลือบตามองดูก๊อกน้ำ เอื้อมมือบิดเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะออกเสียงเรียกพลัง
“ฮึ๊ย ย๊ากกกก!” เสียงแมนๆ หลุดออกมาจากปากยู่ยี่เมื่อหล่อนรวบรวมพลังทั้งหมดบิดก๊อกน้ำ แขนบางๆ มีกล้ามขึ้นเป็นมัดจนเส้นเลือดปูดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นพลังแฝงของกะเทยที่อดอยากปากแห้งมานาน เสียงครึ๊กดังขึ้นก่อนที่ก๊อกจะหลุดติดมือมา จนน้ำฉีดกระจายเต็มห้องน้ำให้กะเทยหัวเราะสะใจ หล่อนกระแอมเบาๆ ก่อนจะทดลองปรับโทนเสียงตัวเองให้กลับมาน่ารัก
“ฮัลโหล เทสๆ” เมื่อได้เสียงน้อยๆ เป็นที่พอใจแล้ว หล่อนก็หายใจเข้าลึก แล้วหวีดร้องตะโกนลั่นบ้าน
“ว้าย ตายแล้ว!!” เสียงแปดหลอดของยู่ยี่ดังลั่นเต็มห้องให้หนุ่มสาวที่นั่งคุยกันมองหน้ากันด้วยความตกใจ แบงค์รีบวิ่งไปที่ห้องของยู่ยี่ ในขณะที่กล้วยไม้อุ้มน้องยิ้มหวานแล้ววิ่งตามไปติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ยี่” ชายหนุ่มไปถึงที่เกิดเหตุก่อนเพื่อน แล้วก็ต้องผงะเมื่อมองเห็นผู้เสียหายในสภาพที่มีผ้าเช็ดตัวสีชมพูผืนเดียวพันกาย ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นมาทันควัน พูดอะไรไม่ออก ยู่ยี่กระชับผ้าเช็ดตัวทำท่าแอ๊บแบ๊วแอบเซ็กซี่ได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
“ก๊อกน้ำมันแตกอ่ะ ทำไงดี” กล้วยไม้ที่พึ่งมาถึงชะเง้อชะแง้มองเข้าไปในห้องน้ำที่มีน้ำพุ่งเป็นสาย ความที่ตัวเองอุ้มน้องอยู่จึงไม่สามารถเข้าไปดูใกล้ๆ ได้แต่ตะโกนถาม
“ก๊อกแตกเหรอ เรียกช่างประจำคอนโดมาดูมั้ยพี่ยี่” คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มคนเดียวในห้องได้สติ เขารีบบอกทันที
“เดี๋ยวผมดูให้ครับ” แน่อยู่แล้ว โอกาสจะได้โชว์แมนแบบนี้อุตส่าห์วิ่งเข้ามาหา จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง แบงค์จึงก้าวเข้าห้องน้ำไป
“งั้นให้แบงค์ดูก่อนก็แล้วกัน พี่ปิดประตูห้องน้ำก่อนนะกล้วยเดี๋ยวน้ำจะเปียกเต็มห้อง” ยู่ยี่บอกด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล หากแต่แท้ที่จริงแล้วหล่อนกำลังพยายามกลั้นยิ้ม แหม ก็แผนการมันช่างราบรื่นเสียนี่กะไร กล้วยไม้ยืนกระพริบตาปริบๆ อยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อเพื่อนชายกระโดดลงหลุมเองก็คงจะห้ามไม่ได้หรอกนะ หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมานั่งดูทีวีต่อกับน้องยิ้มหวาน หากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ
“ขอให้พระคุ้มครองนะแบงค์”
ในห้องน้ำที่มีแต่แบงค์กับยู่ยี่สองคน ชายหนุ่มยืนมองสภาพก๊อกน้ำด้วยความประหลาดใจ สภาพเหมือนโดนค้อนปอนด์ทุบเละซะขนาดนี้คนทำพังคงต้องแรงควายมาก ทันทีที่ความคิดนั้นแล่นเข้าหัวชายหนุ่มก็รีบสะบัดหน้าเพื่อไล่ข้อกล่าวหาอันเลวร้ายนั้นออกไปเสียด้วยความรู้สึกผิด ก็แหม เอวบางร่างน้อยอย่างพี่ยู่ยี่จะไปมีแรงทำแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า กูนี่ช่างโง่เง่ากล่าวหาคนสวยได้ยังไง เพียงแค่คิดก็ผิดต่อพี่ยู่ยี่แล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสภาพของก๊อกตอนนี้คงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องเปลี่ยนอันใหม่เท่านั้น เขาหันกลับไปบอกยู่ยี่และด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัว (ของแบงค์แต่ยู่ยี่นั้นรอเวลานี้อยู่แล้ว) สองร่างก็ปะทะกันเข้าอย่างจัง
“ว้าย” เสียงร้องของคนร่างบางทำให้เจ้าหนุ่มสะดุ้งรีบถลาเข้าไปประคองหญิงสาว(?) ที่กำลังจะล้มเอาไว้ในอ้อมกอด พลันสองสายตาก็ประสานกันด้วยความตกตะลึง ท่ามกลางหยดน้ำที่ยังคงกระจายไปทั่วห้อง ยู่ยี่ช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มแก้มขาวมีเลือดฝาดขึ้นมาอย่างชวนมอง บอกกับเขาสีหน้าเอียงอาย
“ขะ ขอโทษค่ะ พี่ไม่รู้ว่าแบงค์จะหันมาแบบนี้” ดวงตากลมโตที่พราวไปด้วยหยดน้ำและกลิ่นกายหอมๆ จากครีมอาบน้ำ รูปร่างสะโอดสะองที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูแค่เพียงผืนเดียว ท่าทางเขินอายของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับเลือดทั้งกายถูกฉีดขึ้นมาบนใบหน้า แม่เจ้าโว้ย น้ำหน้าอย่างกูได้กอดนางฟ้า ถึงตายตอนนี้ก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดจมูกที่รู้สึกเหมือนเลือดกำเดากำลังจะทะลักออกมา เอ่ยตะกุกตะกัก
“อะ เอ่อ ไม่หรอกครับ ผมผิดเอง”
“แล้ว
จะซ่อมได้มั้ยคะ”
“คงต้องซื้อก๊อกใหม่มาเปลี่ยนน่ะครับ”
“ว้า จริงเหรอ คงต้องเรียกช่างประจำคอนโดมาจริงๆ สินะ”
“เดี๋ยวผมไปซื้อมาเปลี่ยนให้ก็ได้ครับ”
“อย่างนั้นก็รบกวนแบงค์แย่เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ” ชายหนุ่มบอกจากใจให้หญิงสาวหัวเราะคิก
“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปเลือกซื้อด้วยกันมั้ยคะ พอดีเลยพี่อยากได้ของแต่งห้องใหม่ๆ พอดี” คำชวนของหญิงสาว(?) ทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างยินดี โอ้วววว จะได้ไปเดินซื้อของกับพี่ยู่ยี่คนสวย นี่กูฝันไปหรือเปล่าเนี่ย ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งอยู่แล้วครับพี่น้อง ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักอย่างยินดีด้วยความเคยชิน เป็นปฏิกิริยาที่ติดต่อกันมาในกลุ่มเพื่อนเด็กศิลป์เวลาที่มีความรู้สึกมากมายอยู่ในหัว จนลืมที่จะเอ่ยออกมาทำให้คนมองอดหัวเราะน้อยๆ ไม่ได้ ยู่ยี่ยกมือขึ้นจับใบหน้าของชายหนุ่ม บอกเสียงหวาน
“ถ้าอย่างนั้นแบงค์ปล่อยพี่ก่อนดีมั้ยคะ พี่จะได้แต่งตัว แล้วเราก็ออกไปซื้อของด้วยกัน” คำพูดของยู่ยี่ทำให้เจ้าหนุ่มพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองยังคงกอดนางฟ้าเอาไว้แนบอก เขารีบปล่อยมืออย่างรวดเร็ว
“ขะ ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ งั้นเดี๋ยวผมจะออกไปรอข้างนอกนะครับ” เขาพูดละล่ำละลักใบหน้าแดงก่ำก่อนจะเดินตาลอยออกมาจากห้องน้ำ หน้าตาเหมือนคนพึ่งโดนของมา แค่คิดถึงร่างบางในอ้อมกอดก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาคนเดียวอย่างมีความสุข
ทันทีที่ชายหนุ่มเดินออกไปพ้นห้อง ยู่ยี่ก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปปิดประตู เสียงหัวเราะหึหึดังออกมาจากริมฝีปากของหล่อน นางฟ้าของแบงค์หัวเราะออกมาได้เหมือนนางมารไม่มีผิด หล่อนกระโดดโลดเต้นคนเดียวอย่างตื่นเต้นเพื่อระบายความรู้สึกที่อยากจะกรี๊ดออกมาให้ลั่นห้องของตัวเอง หนุ่มน้อยมีอาการค่าาาาาา! ท่าทางเขินอายหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแบบนี้มีใจแน่แล้ว ในที่สุดวันนี้ก็เดินทางมาถึงยู่ยี่ วันที่ได้พบกับเจ้าชายที่เกิดมาเพื่อกะเทยอย่างหล่อน
ยู่ยี่ภูมิใจอย่างมากกับแผนการที่สำเร็จลุล่วงไปหนึ่งขั้นของตัวเอง รีบปรี่ไปแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อที่จะได้ออกไปซื้อของกับชายหนุ่มอย่างอารมณ์ดี ความสุขลอยวนเวียนอยู่ในห้องของกะเทยสาว จนหล่อนลืมสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งไปเสียสนิท เรื่องสำคัญที่ว่า แบงค์ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเพศที่แท้จริงของยู่ยี่อย่างไรเล่า
.
--------------------------------
NuN : น้องนุ่น อิอิ พี่ก็ไปดูวงษ์คำเหลามา แต่พี่กะให้เป็นเหมือนบ้านทรายทองมากกว่า ฮ่าๆ กล้วยจะได้สวยจริงเหรอ พี่ยังมองไม่เห็นทางเลย ถ้าไม่สวยแล้วจะเป็นนางเอกไม่ได้เหรอ ให้โอกาสสาวเซอร์ได้เป็นนางเอกบ้าง ฮ่าๆๆๆ
ใครไปจีบสาว???? ข่าวลือแน่เลยน้อง พี่ไม่มีหรอกนะ อิอิ
ความคิดเห็น