คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บ้านผีสิง
ในที่สุด เมื่อยังขาดข้าวของเครื่องใช้มากมาย ทั้งสามคนก็กระเตงเด็กน้อยมายังซุเปอร์มาเก็ตที่อยู่ใกล้บ้าน
ทั้งยู่ยี่และกล้วยไม้นั้นออกอาการกระดี้กระด้ากันสุดฤทธิ์ที่ได้มาช๊อปปิ้งในขณะที่ไวน์ได้แต่เดินเข็นรถตามเซ็งๆ
คนหนึ่งก็กะเทยอีกคนก็ยัยกล้วยตานีขี้เหร่แถมยังมีเด็กอีกต่างหากคนอื่นเขาจะคิดว่าฉัน
เป็นพวกเดียวกับยัยคู่เพี้ยนนั่นหรือเปล่านะ สงสัยต้องไปขอน้ำมนต์มาล้างซวยบ้างเสียแล้ว
ยู่ยี่แย่งเด็กน้อยไปอุ้มเล่นเมื่อเห็นว่าเด็กอารมณ์ดีจนสามารถหัวเราะได้แล้ว
ทำให้กล้วยไม้สามารถเลือกของได้อย่างสะดวก และถึงแม้จะบอกว่ามาซื้อของให้เด็กน้อย
แต่เมื่อเดินนานมากขึ้นไวน์ก็ยิ่งแปลกใจกับของในรถเข็นที่มีทั้งขนมอาหารสดอาหารกระป๋อง และ
“เฮ้ยๆ นี่ไรเนี่ย” คนเข็นรถถามออกมาเสียงหลงเมื่อเห็นกล้วยไม้หยิบชั้นในใส่รถเข็น
“ก็ของกล้วยไง” หญิงสาวตอบทั้งๆที่ไม่มองหน้าไวน์แก้มใสแดงระเรือ ตาบ้า เรื่องแค่นี้ก็ต้องทักซะเสียงลั่นเชียว
“แล้วใครจ่าย” คนสูงกว่าถามหยิบบราเซียร์คัพบีขึ้นมามองให้เจ้าของรีบคว้าหมับออกมาจากมือตอบเสียงดัง
“ก็พี่ไวน์ไง”
“ทำไมฉันต้องจ่าย”
“ก็กล้วยไม่มีอะไรเหลือเลยนี่นา จะให้กล้วยใส่เสื้อผ้าซ้ำๆเดี๋ยวก็สกปรกจนน้องไม่สบายหรอก”
เห็นไหมถึงกล้วยไม้จะเซอร์ (เซ่อ) แต่ก็ไม่ได้โง่ เมื่ออ้างเด็กขึ้นมาแล้วยู่ยี่ที่ยืนเล่นเด็กอยู่ใกล้ๆ
ก็สนับสนุนขึ้นมาอย่างเห็นด้วย
“เอาน่าจ่ายไปก่อน แค่นี้ขนหน้าแข้งแกไม่ร่วงหรอกไวน์”
“อ้าวนังยี่ แกก็ต้องช่วยจ่ายด้วยนะ อย่ามาเนียน”
“ว้าย จ่ายอะไรยะคนสวยไม่เคยพกกระเป๋าตังค์ไม่รู้เหรอ”
ตอบลอยหน้าลอยตาพร้อมกับหอมแก้มป่องของเด็กน้อยฟอดใหญ่
“งั้นแกนั่นแหละที่ต้องพก หน้ายังก๊ะกะเทยชนตึก”
ไวน์บ่นอย่างหงุดหงิดแต่เพื่อนสาวไม่ได้ฟังแล้ว มือเรียวหยิบเอาชั้นในของกล้วยไม้ไปวางที่เดิม
เล่นเอาหญิงสาวประท้วงตาโต
“อ้าว พี่ไวน์ทำไมทำงี้อ่ะ”
“อันนั้นมันแพงไป อย่างเธอใส่แบบสามตัวร้อยก็พอแล้ว”
“จะบ้าเหรอ ใส่อย่างนั้นหน้าอกก็เสียทรงหมดสิ”
“โอ้ย ยัยกล้วยตานี ของเธอไม่ใส่บรายังไม่มีใครมองเห็นเล้ย แล้วของเธอน่ะมันต้อง 30/65 B ไม่ใช่หรือไง” บอกพร้อมกับเหล่ตามองหัวเราะหึหึ
กล้วยไม้ยกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเองอยากตกตะลึงเมื่ออีกฝ่ายเดาไซส์เธอได้ถูกเป๊ะๆ
ไม่รู้ล่ะทั้งๆที่ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ทำไมยังรู้สึกเหมือนตาหื่นนี่มองทะลุได้อย่างงั้นแหละ
“หยาบคาย!”
“แล้วจะเอาหรือไม่เอา จะเดินโทงๆในห้องก็ไม่มีใครว่านะ แค่เห็นหน้าเธอฉันก็เซ็กส์เสื่อมแล้ว
ยังไงก็ไม่มีใครเกิดอารมณ์กับเธอได้หรอก”
“ไม่เอาอ่า เค้าไม่อยากใส่แบบสามตัวร้อยนี่”
“เอ้า ไม่รู้จักของดีซะแล้ว แบบถูกๆอ่ะ มีกระเป๋าติดซิบไว้ใต้ราวนมด้วยนะ
เอาไว้ซ่อนตังค์คราวหน้าเพื่อนจะได้ไม่ขโมยไปไง”
“จะบ้าเหรอ แบบนั้นมีแต่ป้าๆเท่านั้นแหละที่ใส่”
“ป้าที่ไหนกันเล่า รุ่นยายโน่นแล้ว เอ้อ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยคนเรา”
บอกแล้วก็เข็นรถเข็นเดินต่อไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้กล้วยไม้ยืนงง
กับภาพชั้นในที่ไวน์พูดถึงอยู่คนเดียวอย่างไม่เก็ท ยู่ยี่เลยช่วยบอกให้
“ไอ้ไวน์มันว่ากล้วยเป็นยายแก่หงำเหงือกน่ะ”
“อ๋อ
กล้วยก็งงตั้งนาน
อ้าว เฮ้ย พี่ไวน์ปล่อยหมาออกมาจากปากอีกแล้ว”
กล้วยไม้ร้องออกมาอย่างคนความรู้สึกช้า ทำเอายู่ยี่หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
กล้วยไม้หยิบบราเซียร์ของตัวเองกลับมาใส่รถเข็นงอนๆ รีบหาเรื่องอื่นมาพูด
ให้พ้นจากหน้าอกเธอเสียที
“ว่าแต่พี่ยี่ น้องชื่ออะไรเหรอคะ” เป็นคำถามที่ทำให้สองเพื่อนซี้หันมามองหน้ากันทันที
“เออ ลืมคิดไปเลยแฮะไอ้ไวน์ ชื่ออะไรดีอ่ะ ชื่อ อลิสซาเบธดีไหม ไฮโซ” ยู่ยี่เสนอ
“ไม่เอาเดี๋ยวจะรีบมีลูกตั้งแต่ยี่สิบ ใช้หัวป่าววะตอนคิดน่ะ เอาชื่อหลงมั้ย
ก็ดันหลงมาอยู่หน้าห้องเราได้”
กล้วยไม้มองดูสองคนงงๆ ในหัวของคนพวกนี้มีอะไรกันบ้างนะนี่
เรื่องแบบนี้ลืมคิดกันได้ยังไง ถึงหญิงสาวจะคิดอย่างนั้นแต่ก็พูดกับตัวเองในใจ
ไม่กล้าพูดออกมา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็หวังเปลื่ยนเรื่องให้ไวน์ลืมเรื่องชั้นในของเธอ
จึงหันไปตั้งหน้าตั้งตาเล่นกับเด็กน้อยที่ยู่ยี่อุ้มอยู่ ดวงตาแป๋วแหวว
จ้องมองดูหญิงสาวด้วยความสนใจ
“ยิ้มหวานๆ เอ้ายิ้มหวานๆ” พูดเสียงเล็กเสียงน้อย แค่นั้นเด็กก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“แหมไอ้ไวน์ คิดชื่ออะไรไม่น่ารักเอาเลย ชื่อมาริรีนได้ไหม เซ็กส์ซี่ดี”
ยู่ยี่ยังเสนอความคิดให้เพื่อนส่ายหน้าดิก
“หืม ตั้งชื่อไม่ดูหน้าเด็กเลยนะ หัวก็ดำตาก็ดำขนาดนั้น ชื่อไทยๆไม่มีหรือไง งั้นก็บ้องแบ๊ว
หน้าตาดูแบ๊วๆดี”
“อ๊าย ไม่เอาหรอก แก่ตัวมาเค้าเรียกยายแบ๊วๆ น่าเกลียดจะตาย”
“เอ้ายิ้มหวานๆ” เสียงกล้วยไม้กับเด็กยังคงเล่นกันหัวเราะคิกคัก
“เอาชื่อไทยๆเหรอ เด็กหญิงฟ้ามิอาจกั้นได้ไหม อ๊าย ได้อารมณ์ความรักมั่นคงจังเลย”
“เห๊อะ งี้ถ้าเก็บเด็กได้อีกคนต้องตั้งว่าทะเลมิแปรผันไหม โหยกะเทยไรวะไม่มีหัวครีเอทเลย”
“แล้วแกล่ะ ดีแต่ติ มีชื่ออะไรสวยๆมั่ง”
“งั้นชื่อสวยมั้ยล่ะ เหิรฟ้าาาาาาา”
“ค่ะ ประชดประชันกันเข้าไป นี่ถ้ารู้จักพ่อแม่เด็กก็ดีสิจะได้คิดได้ง่ายๆ
อย่างถ้าพ่อแม่ช่วยกันทำที่ทะเลก็จะได้ชื่อ Sea ฮ่าๆ”
“เออ เอาเข้าไป แล้วก็มาว่าแต่ฉัน แกมันก็นังกะเทยหื่นแหละว้า”
สองเพื่อนซี้ยังคงช่วยกันระดมความคิด กล้วยไม้เลยแย่งเด็กจากยู่ยี่มาอุ้ม
ดึงมือน้อยขึ้นมาทำท่าหม่ำๆ ด้วยความมันเขี้ยวแล้วสองคนก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“อ๊าย ยิ้มหวานจังเลยเด็กอะไร” หญิงสาวพูดกับเด็กน้อยอย่างชื่นชม
“เลือกๆมาสักชื่อเหอะยี่ เดี๋ยวก็ต้องส่งคืนพ่อแม่เด็กแล้วจะคิดมากอะไรนักหนา”
“เออ นั่นสินะ งั้นให้ชื่อ กัญณ์ได้ไหม นางเอกในนิยายที่ฉันหยิบของแกมาอ่านอ่ะ
บุคลิกเฉียบขาดมาดนางพญาดีฉันชอบ แต่โตมาอาจจะชอบผู้หญิงได้นะ ฮ่าๆ”
“เออ ยังไงก็ได้แล้วแต่ ชื่อนี้ก็ไม่น่าเกลียดนี่” เมื่อตกลงกันได้แล้วยู่ยี่ก็หันมาบอกเด็กน้อย
“งั้นต่อไปนี้น้ายี่จะเรียกหนูว่าน้องกัญณ์นะคะ น้องกัญณ์ๆ” ดวงตากลมๆบ้องแบ๊วมองดูยู่ยี่งงๆ
“ต้องเรียกบ่อยๆ เดี๋ยวก็จำชื่อเองแหละอีกหน่อยเรียกแล้วก็จะวิ่งมาหา” ไวน์บอก
“หืม เด็กนะยะไม่ใช่หมา เอ้าน้องกัญณ์ๆๆ”
ถึงจะหันหน้าไปด่าเพื่อน แต่ยู่ยี่ก็เริ่มกรอกชื่อใหม่เข้าหูเด็กทันที
หากแต่เด็กน้อยก็ยังไม่มีปฏิกริยา กล้วยไม้ที่ยังเล่นเด็กติดพันดึงมือป้อมขึ้นมาทำท่าหม่ำๆ
ปากก็พูดเสียงเล็กเสียงน้อยไปด้วย
“ยิ้มหวานๆ” แล้วใบหน้ากลมบ๊องก็หัวเราะคิกคัก ให้สองเพื่อนซี้มองหน้ากันงงๆ ไวน์สะกิดเพื่อน
“ฉันว่าไม่ทันแล้วว่ะ รู้สึกว่าจะมีคนพูดกรอกหูเด็กไปแล้ว” แต่ยู่ยี่ยังไม่ยอมแพ้ เริ่มพยายามใหม่
“น้องกัญณ์จ๋า” เงียบ เด็กไม่มีปฏิกริยา
“เอ้า ยิ้มหวานๆ” เด็กน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“น้องกัญณ์ๆๆๆ” เงียบ
.
“เอ้ายิ้มหวานๆ” เอิ๊กๆๆๆ แค่นั้นยู่ยี่ก็เข้าใจทุกสิ่ง ไหล่บางลู่ลงอย่างหดหู่
ไวน์แตะไหล่เพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
“ตัดใจเหอะยี่” คำปลอบใจไม่ได้ผล ยู่ยี่เดินกระแทกเท้าปังๆนำไปที่รถอย่างงอนๆ
ก็แหมฉันเลี้ยงมาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเด็ก ดันมาถูกยัยกล้วยไม้ปาดหน้าเค้ก
ชิงตัดหน้าตั้งชื่อให้อย่างนั้น มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ ถึงเด็กกล้วยจะไม่ตั้งใจ
แต่ยังไงก็ไม่รู้แหละ กะเทยหมั่นไส้ กะเทยจะงอน เชอะ!
เมื่อได้กล้วยไม้มาช่วยเลี้ยงเด็ก วงจรชีวิตของไวน์ก็เกือบจะกลับกลายเป็นเหมือนปกติ
ย้ำ แค่เกือบนะ
วันนี้เป็นอีกวันที่ไวน์ตื่นมาพบกับอาหารเช้าที่ตั้งรอไว้เต็มโต๊ะ
เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อตอนที่ทั้งห้องมีแค่ยู่ยี่และไวน์ที่ต่างฝ่าย
ต่างทำงานกันคนละเวลา อาจจะมีซื้อของมาติดตู้เย็นเอาไว้บ้าง แต่ส่วนใหญ่
เวลาใครหิวก็จะหากินเอง
แต่ว่าตั้งแต่กล้วยไม้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องยิ้มหวาน ไวน์ก็ตื่นเช้าขึ้นมาพบกับอาหารทุกวัน
ร่างสูงในชุดเสื้อเชิร์ตแขนยาวและกางเกงยีนส์สีดำยืนมองอาหารอุ่นควันกรุ่นมากมายตรงหน้า
ก่อนจะหันไปบอกยู่ยี่ที่อยู่ในสภาพยับเยินที่แม้จะกลับดึกก็ยังอุตสาห์ตื่นขึ้นมา
เพราะได้กลิ่นอาหารเลย
“กินขนาดนี้แล้วกลับไปนอนเดี๋ยวก็ได้กลายเป็นกะเทยถึกหรอก”
ประโยคแรกของวันทำให้เพื่อนสาวอดที่จะหันมาค้อนให้ไม่ได้ กระแทกเสียงตอบไปแดกดัน
“อรุณสวัสดิ์ ฮึ!” ไวน์ยักคิ้วไม่สนใจก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ของตัวเอง
เสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยทำให้รู้ว่าน้องน้ำหวานตื่นแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน
พี่เลี้ยงประจำตัวก็อุ้มออกมาที่โต๊ะ เด็กน้อยหน้ากลมบ้องแบ้วปรากฏกายในชุดสีชมพู
มีที่คาดผมเป็นรูปดอกไม้ประดับบนศรีษะที่ผมยังสั้นเต่อด้วย
“เอาไรติดหัวเด็กน่ะ” ไวน์ถามทั้งๆที่รู้ดีว่าคืออะไร
“แหม เด็กผู้หญิงนี่คะ ก็ต้องแต่งเนื้อแต่งตัวกันเป็นธรรมดา นี่พี่ยี่อยู่ส่าห์ซื้อมาฝากเลยนะ”
กล้วยไม้บอกแล้วหันไปยิ้มกับยู่ยี่ที่กำลังนั่งละเลียดอาหารเช้าอยู่ ไวน์มองตามแล้วบอกเพื่อน
“คราวหน้าก็หาอะไรสวยๆงามๆมาให้พี่เลี้ยงเด็กมั่งสิ ฉันตื่นมาเห็นหน้าตอนเช้าๆ
แล้วชอบคิดว่ายังฝันร้ายอยู่เรื่อยเลย”
“อ๊ะพี่ไวน์ ตื่นมาก็กัดเค้าไปทั่วเลยนะ รีบกินแล้วรีบไปทำงานเถอะ”
“ก็อยากอยู่หรอก แต่เยอะขนาดนี้จะไปกินหมดได้ไง”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก มีกล้วยอยู่ทั้งคน”
หญิงสาวบอกแล้วยิ้มกว้างให้คนมองตักข้าวเข้าปากแล้วบ่นพึมพำ
“กินจุยังกะปอบลง ยังมีหน้ามาภูมิใจอีก”
“พี่ไวน์ว่าอะไรนะ”
“เปล๊า แค่คิดว่าเย็นนี้ต้องซื้อของมาใส่ตู้อีกแล้ว ปกติซื้อทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์
เดี๋ยวนี้ต้องสองวันซื้อที ใครมาเจาะรูในตู้เย็นรึเปล่าวะ”
ยู่ยี่ได้ยินก็หัวเราะพรืด ในขณะที่กล้วยไม้ไม่ทันมุกเลยไม่รู้ว่าตัวเองโดนด่าอ้อมๆ
รีบปั้นหน้าถามไวน์เสียงอ่อนเสียงหวาน
“เป็นยังไง อร่อยมั้ยคะพี่ไวน์”
“ก็ดี ทำไม”
“ชอบรสแบบไหนก็บอกได้นะคะ กล้วยจะได้ทำให้ถูกปาก”
คำพูดหวานๆที่น่าสงสัยสุดๆทำให้ไวน์อดถามออกมาอย่างไม่ไว้ใจไม่ได้
“พูดงี้จะเอาไรน่ะ” ท่าทางรู้ทันที่ให้กล้วยไม้หัวเราะเขินๆ
“แหะๆ คือว่า กล้วยอยากจะขอเบิกตังค์หน่อย”
“เฮ้ย ไปซื้อของวันนั้นยังใช้หนี้ไม่หมดเลยจะขอเบิกตังค์อีกแล้ว”
“ก็กล้วยมีของจำเป็นที่ต้องซื้อนี่นา มีงานที่ต้องทำ”
“งานอะไร ก็เธอวาดรูปไม่ใช่เหรอ อุปกรณ์อะไรก็มีนี่”
“ป่าว อีกงานหนึ่ง”
“งานไร”
เกิดความเงียบขึ้นมาเมื่อทั้งไวน์ทั้งยู่ยี่หยุดกินเพื่อที่จะรอฟังคำตอบจากกล้วยไม้
หญิงสาวหรุบตาลงมองจานอาหารตอบอย่างเขินอาย
“
เขียนหนังสือ”
“กล้วยเป็นนักเขียนด้วยเหรอ” ยู่ยี่ถามขึ้นมาอย่างสนใจ
“ก็ พยายามเป็นอยู่ กล้วยเขียนนิยายส่งสำนักพิมพ์ตอนนี้ก็รอคำตอบอยู่น่ะ
ระหว่างนี้ก็เขียนเรื่องใหม่ไปพลางๆแต่ว่ากล้วยไม่มีอุปกรณ์”
“ว้ายจริงเหรอ ดีจังวันหลังเธอก็เขียนเรื่องฉันให้เป็นนางเอกบ้างสิ”
“จะให้ยัยกล้วยเขียนเรื่องบ้านผีปอบหรือไง” ไวน์พูดแทรกขึ้นมาให้เพื่อนสาวค้อนขวับ
“ดีกว่าเขียนเรื่องของแกละกันไอ้ไวน์ คงจะลามกจกเปรตจนหาที่พิมพ์ไม่ได้ เชอะ”
คนโดนว่าหัวเราะหึอย่างยอมรับ ก่อนหันมาถามกล้วยไม้ต่อ
“แล้วจะเอาอะไร อยากได้พิมพ์ดีดเหรอ”
“หูยพี่ไวน์ นักเขียนสมัยไหนน่ะ เดี๋ยวนี้เค้าส่งทางเมล์แล้ว เขียนในคอมสิ”
“อ่อ จะเบิกตังค์ไปซื้อคอมว่างั้น”
“ช่าย ขอเบิกหน่อยนะคะพี่”
เมื่อตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่อย่างไวน์ทำท่าเหมือนเข้าใจก็ทำให้กล้วยไม้อดประเหลาะไม่ได้
แต่ปฏิกริยาหลังจากนั้นก็ทำให้หญิงสาวชะงัก
“จะบ้าเรอะ คอมเครื่องหนึ่งเป็นหมื่น คิดว่าตัวเองเงินเดือนเยอะขนาดนั้นเลยหรือไง”
“อ๊า พี่ไวน์อ่ะ พี่ยี่ช่วยพูดหน่อยสิ” เมื่อขอไวน์ไม่ได้ผลกล้วยไม้เลยหันไปหายู่ยี่
แต่พอเป็นเรื่องเงินเมื่อไหร่กะเทยหน้าใสก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ทุกที
“อ๊า หิวน้ำจัง” พูดแล้วก็ลุกไปเปิดตู้เย็นให้กล้วยไม้มองตามตาละห้อย
“อืม อยากได้ก็ขอเบิกอียี่ไปละกัน ถ้ามันจะยอมควักกระเป๋าบ้างนะ ฉันไปทำงานละ”
ไวน์บอกแล้วก็ลุกจากโต๊ะ กล้วยไม้รีบอุ้มเด็กวิ่งตาม
“พี่ไวน์อ่ะ นะคะ กล้วยจำเป็นจริงๆ”
“จำเป็นอะไร ฉันจ้างมาเลี้ยงเด็กไม่ได้จ้างมาเขียนหนังสือ”
ตอบเสียงห้วนแค่นั้นกล้วยไม้ก็หน้าจ๋อย ไวน์ที่กำลังใส่รองเท้าหันมามองอย่างรำคาญ
พลางคิดในใจ คนอะไรวะ ในใจมีเรื่องอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าหมด
ร่างสูงเคาะปลายเท้าป๊อกๆให้รองเท้าเข้าที่ก่อนบอก
“ไปดูในห้องทำงานฉันไป มีโน๊ตบุ๊คเก่าเครื่องหนึ่ง แบตมันไม่ค่อยดีแล้ว
แต่ถ้าเสียบสายไฟตลอดก็ใช้ได้ ใช้นั่นไปก่อนแล้วกัน”
“จริงเหรอ พี่ไวน์ใจดีจังขอบคุณค่ะ!”
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างยินดี ก่อนจะหันไปยกมือป้อมของน้องยิ้มหวานมาเฮด้วยกัน
เออความจริงตาทอมหื่นนี่ก็ไม่ได้ใจร้ายนักนี่นะ เพียงแต่ปากหมา
แล้วก็ไม่ค่อยทำใจดีให้ใครเห็นเท่านั้นเอง
ไวน์มองใบหน้าขาวที่ยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้าเรื่องแค่นี้ก็ดีใจ
เกิดมาเป็นคนไม่คิดอะไรมากอย่างยัยนี่ก็ดีเหมือนกันนะ
ร่างสูงกำลังจะก้าวออกจากห้องแล้วเมื่อยู่ยี่ยื่นหน้าเข้ามาบอก
“ไวน์ ขากลับอย่าลืมซื้อโยเกิร์ตวุ้นมะพร้าวใส่ตู้เย็นให้ฉันด้วยนะ”
สั่งแล้วก็หันไปเล่นกับน้องยิ้มหวานกล้วยไม้เหมือนจะคิดได้เลยรีบสั่งออเดอร์บ้าง
“เออใช่ ผ้าอ้อมกับนมของน้องยิ้มหวานก็จะหมดแล้วค่ะ ซื้อมาด้วยนะคะ”
ไวน์ถอนใจก่อนรับคำห้วนๆ
“เออ”
เมื่อพร้อมจะออกไปทำงานเสียงกล้วยไม้ก็เจื้อยแจ้วตามมา
“เอ้า บ้ายบายป่ะปี๊เร้ว ป่ะปี๊จะไปทำงานแล้ว” พูดแล้วก็ยกมือเล็กขึ้นมาโบกพร้อมรอยยิ้ม
ยู่ยี่เห็นอย่างนั้นก็แกล้งจี๋ที่พุงจนป่องของเด็กน้อยจนได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก
ไวน์มองดูสองสาวเล่นกะเด็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วอยู่ๆก็รู้สึกปวดหัวเหมือนไมเกรนจะขึ้น
พึมพำกับตัวเองในใจ กะเทย เด็ก ปอบ ห้องกูจะกลายเป็นบ้านผีสิงเข้าไปทุกทีแล้ว
------------------------------- --
เอาตอนใหม่มาฝากจ้า ด้วยความเร่งรีบมากมายเนื่องจากงานด่วนเข้า = =” ไว้ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ ไปแระ ฟิ้วววว
ความคิดเห็น