คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Surprise!!!
ร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์และเสื้อเชิร์ตสีดำที่แขนเสื้อถูกพับไว้ครึ่งหนึ่งก้าวลงจากรถเอื่อยเฉื่อย
ดวงตาคมเหลือบมองป้ายบาร์เพื่อความมั่นใจ ก่อนจะเดินเข้าร้าน ทันทีที่ประตูกระจกถูกเปิดไอเย็นพร้อมกับเสียงดนตรีก็ปะทะใบหน้า
ภวรัญชน์กระพริบตาปริบๆ เพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืด นัยน์ตาคมกวาดไปทั่วร้านที่ไร้เงาของผู้หญิงแท้ๆ มีแต่ผู้ชายและกะเทย
ก่อนที่เสียงโหวกเหวกจากกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในร้านจะเข้ามาดึงดูดความสนใจ
“ไอ้ไวน์ ทางนี้ๆ”
เพื่อนสาวเทียมคนสนิทตะโกนพลางโบกไม้โบกมือหยองแหยงให้ภวรัญชน์ก้าวไปหายิ้มๆ
วันนี้เป็นวันเกิดของพี่แนทเจ้าของคณะคาบาเร่ต์ที่ยู่ยี่ทำงานอยู่ สาวๆนางโชว์และผองเพื่อนจึงยกขบวนกันมาฉลองด้วยความพร้อมเพรียง
ภวรัญชน์ยกมือไหว้เจ้าของวันเกิดพร้อมกับยื่นของขวัญวันเกิดให้
“พี่แนท ของฝาก แฮปปี้เบิร์ดเดย์”
เหล้านอกราคาแพงขวดลิตรถูกยื่นให้เจ้าภาพ เล่นเอาเหล่านางโชว์กรี๊ดกร๊าดด้วยความยินดี
“แหม ไม่น่าลำบาก แค่มาได้พี่ก็ดีใจแล้ว”
พี่แนทชายร่างเล็กผอมบางในชุดรัดรูปลายงูเหลือมกรีดกรายบอกอย่างมีจริตให้คนมองหัวเราะ
“แหม ของฝากเล็กน้อย คืนนี้กะเมาหัวทิ่มเลยไง มีของมาเซ่นจะได้ไม่น่าเกลียด ฮ่าๆ"
“คิดอยู่แล้วล่ะว่าอย่างแกไม่น่าจะหิ้วของแพงอย่างนี้มาถ้าไม่อยากกินเอง” ยู่ยี่แอบกัดเพื่อน
“ดีกว่าพวกที่มากินฟรีไม่มีของขวัญล่ะย่ะ”
พี่แนทออกโรงปกป้องให้ทันที ด้วยถูกชะตากับภวรัญชน์มาตั้งแต่สมัยให้ช่วยทำโฆษณาคณะคาบาเร่ต์ให้จนสามารถกลายเป็นที่รู้จักได้อย่างทุกวันนี้
เพราะอย่างนั้นสาวหล่อเลยได้กลายเป็นคนเดียวในกลุ่มกะเทยที่ได้มานั่งลอยตาในงานเลี้ยงวันเกิดแบบนี้
ยู่ยี่มองค้อนเพื่อนที่ยิ้มเยาะอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่ความสนใจจะถูกพุ่งไปยังชายหนุ่มที่นั่งคนเดียวอยู่หน้าบาร์
สายตาร้อนแรงพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาทำให้สาวๆในกลุ่มสะกิดกันหัวเราะคิกคัก
“ดูคนนั้นสิ กรี๊ดหล่อง่ามมากๆ มองจิกฉันสุดฤทธิ์อ่ะ เค้าอยากได้ฉันๆ”
ยู่ยี่ที่ออกอาการสะดิ้งมากกว่าเพื่อนจีบปากจีบคอบอกให้กะเทยนางอื่นในกลุ่มค้อนให้อย่างหมั่นไส้
“แหมอียี่ นมเนิมก็ไม่มี ต้องอย่างฉันสิยะ ตูมๆ”
ลิลลี่ สาวประเภทสองที่เน้นออฟชั่นลอยหน้าลอยตาบอกพลางเอามือดันอกอึ๋มคัพดีที่พึ่งไปทำมาของตัวเองจนจุกนมชี้หน้าเพื่อน ยู่ยี่ค้อนควับ
“แหม นังลี่ พูดจาไม่ดูหนังหน้า มีนมแล้วไงยะ ยังไงซะหนังหน้าฉันก็ดีกว่าหล่อน”
“ค่ะ ช่างกล้าพูด หน้าตาดีไม่มีนมใครจะมาสนยะ รอฉันเก็บตังค์ทำหน้าได้ก่อนเถอะ แล้วหล่อนจะร้อง”
“รอเก็บตังค์ งั้นคงชาติหน้าแหละ จะให้หล่อนหน้าตาได้ต้องใช้ไม่รู้กี่สิบล้านละม้าง โฮ๊ะๆๆ” ยู่ยี่ปิดปากหัวเราะสะใจ
เกิดศึกชิงชายขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าหนุ่มหล่อคนนั้นส่งสายตาให้ใคร
สองนางร่ำๆจะฟ้อนเล็บใส่กันอยู่แล้วเมื่อคอกเทลสีฟ้าอ่อนในแก้วทรงก้านยาวถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ เรียกความสนใจจากทุกคนได้อย่างรวดเร็ว
ภวรัญชน์ก้มลงมองค๊อกเทลสีสวยที่ตั้งตรงหน้าตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพนักงานเสิร์ฟด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“จากท่านโน้นครับ” เขาตอบอย่างรู้หน้าที่พร้อมกับผายมือไปยังชายหนุ่มที่เป็นเป้าสายตาของเหล่านางโชว์
ซึ่งบัดนี้กำลังยกแก้วขึ้นเพื่อทักทายพร้อมกับส่งยิ้มเก๋มาให้เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นจากกะเทยได้ทั้งโต๊ะ
แน่นอนมันย่อมไม่ใช่เสียงกรี๊ดแห่งความยินดี
คนได้ค๊อกเทลฟรีกระพริบตาปริบๆ รีบสะกิดเพื่อนสาวยิกๆเมื่อหนุ่มหล่อคนนั้นลุกขึ้นเดินเข้ามาหาช้าๆอย่างมีมาด ภวรัญชน์กระซิบกับยู่ยี่
“แมร่งคิดว่ากูเป็นผู้ชายแหงเลยว่ะ” เอ่ยกลั้วหัวเราะ แต่คนฟังกรี๊ดด้วยความหงุดหงิด
“อ๊าย กะเทยรับไม่ได้ เสียหน้าอย่างแรง มีตาหามีแววแบบนี้เดี๋ยวแม่ก็ฟ้อนเล็บใส่หน้าเสียเลย!”
“ใจเย็นอียี่ บางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่แกคิด นั่นๆ มาแล้วๆ”
ภวรัญชน์บอกพร้อมกับหันมาเก๊กขรึมอย่างมีมาดเมื่อหนุ่มคนนั้นเข้ามาใกล้
เขาส่งยิ้มให้ทุกคนในโต๊ะหากแต่นัยน์ตาเป็นประกายเมื่อทอดมองมายังคนที่หน้าตาหล่อที่สุดในกลุ่มกะเทย
“เครื่องดื่มไม่ถูกใจเหรอครับ ผมไม่เห็นคุณยกขึ้นดื่มสักนิด”
ภวรัญชน์เก๊กหน้ายิ้มตอบ ทั้งๆที่กำลังพยายามกลั้นหัวเราะแทบแดดิ้น ตอบเสียงต่ำ
“เอ่อ ไม่หรอกครับ ผมแค่กลัวว่าถ้าดื่มผสมกันหลายอย่างมากเกินไป คืนนี้คงกลับบ้านไม่ไหว”
“นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ ขอแค่ร่างกายได้พัก ที่ไหนก็นอนได้อยู่แล้ว”
คำตอบอย่างมีความนัยด้วยน้ำเสียงและแววตากรุ้มกริ่มนั้นฟันธงในความสนใจของชายหนุ่มจนยู่ยี่เก็บอาการหงุดหงิดไม่ไหวโกรธที่โดนเพื่อนปาดหน้าเค้ก
หล่อนเอื้อมมือคว้าแก้วค๊อกเทลที่ได้ฟรีขึ้นมากระดกอึ๊กๆรวดเดียวหมดท่ามกลางความตกใจของชายหนุ่ม
เสียงเรอดังยาวเมื่อเหล้าหมดแก้ว ยู่ยี่ยกมือขึ้นปาดริมฝีปากก่อนหันไปประกาศกับเขา
“พี่คะ คนนี้ผัวหนู กรุณาอย่ายุ่ง!” เล่นเอาใบหน้าหล่อๆเจื่อนไปทันที
เขาหันมามองภวรัญชน์ที่บัดนี้โดนเพื่อนสาวกอดเกยจนแทบจะนั่งตักกันตาปริบๆก่อนจะเห็นใบหน้าขาวใสนั้นพยักหน้าน้อยๆอย่างยอมรับ
“อะ เอ่อ ผมแค่อยากเลี้ยงเหล้าน้องเค้าสักแก้ว”
“ได้แค่แก้วเดียวเท่านั้นแหละค่ะ เดี๋ยวผัวหนูเมาแล้วจะขับรถกลับบ้านไม่ไหว ขอบคุณพี่มากนะคะ”
คำพูดบวกกับสีหน้าถมึงทึงของยู่ยี่ทำให้เจ้าหนุ่มจำใจต้องบอกลาแล้วหันหลังเดินคอตกจากไปในที่สุด
แปลกจริงหนอ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองจับตามองดีอยู่แล้ว ก็เขาสังเกตุเห็นหนุ่มหน้าใสคนนั้นตั้งแต่เดินเข้าร้านมา
ตอนที่นั่งกับกะเทยทั้งก็ไม่เห็นมีใครอี๋อ๋อกับหนุ่มหน้าใสคนนี้สักคนนี่นา
คล้อยหลังชายหนุ่ม ภวรัญชน์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาน้ำหูน้ำตาไหลหลังจากพยายามเก๊กหล่ออยู่ตั้งนาน
“โอ้ย ฮาอ่ะ นี่แสดงว่าอย่างฉันนี่ก็เสปกเกย์เหมือนกันนะเนี่ย”
“ย่ะ ภูมิใจเข้าไปเป็นทอมโดนเกย์จีบ ปาดหน้าเค้กสุดฤทธิ์ รับไม่ได้!”
ยู่ยี่สะบัดหน้าใส่พรืด ก่อนจะหันไปประกาศกับผองเพื่อนเหล่านางโชว์
“คืนนี้ฤกษ์ไม่ดีย่ะ ผู้ชายคนแรกที่เดินเข้ามาหาดันมาจีบทอม คนสวยรับไม่ด้าย อย่างนี้มันต้องเมา!”
สิ้นเสียงกะเทยทั้งหลายก็หันมาตีมือกันพร้อมกับยกแก้วขึ้นชน เรียกความสนุกสนานเฮฮากลับมาได้อีกครั้ง
คืนนั้นสองเพื่อนซี้พากันเดินกอดคอเมาแอ๋กลับคอนโดตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาหนึ่งที่มองตามอยู่ในความมืด
ร่างตะคุ่มที่แอบอยู่มุมเสาจับจ้องดูคนทั้งสองที่เดินตุปัดตุเป๋อย่างครุ่นคิดบีบมือแน่นจนสั่น
ทันทีที่ถึงห้องภวรัชญณ์ก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาด้วยความมึนและหลับลงไปแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอนในขณะที่ยู่ยี่เองก็ประคองตัวเองแทบไม่ไหวแต่ก็ปวดฉี่เกินจะทน
ร่างบางเดินโซเซเข้าห้องน้ำยืนตัวเอียงพยายามเล็งให้ตรงแต่ก็ไม่วายเลอะเทอะก่อนที่จะถูกโจมตีด้วยความคลื่นเหียน
แต่ก็ยังคงมีสติพอที่จะรู้ว่าในโถส้วมสีเหลืองอ๋อยนั้นยังไม่ได้ถูกกดชักโครกทิ้ง
‘อ๊าก ฉันไม่อยากอ้วกใส่ฉี่ตัวเอง’
คิดได้อย่างนั้นก็หมุนตัวโดยสัญชาติญาณพร้อมกับของเก่าที่จุกขึ้นมาที่คอ หล่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโก่งคอคายของเก่าออกมาจนหมดไส้หมดพุง
หมดแรงจนต้องเอาหัวพิงกับกำแพงส้วมเพื่อประคองตัวเอง ก่อนจะเผลอหลับไปทั้งสภาพอเน็จอนาถอนาถาที่หัวเบี้ยวคอเอียงแปะกำแพงอ้าปากน้ำลายไหลย้อยอย่างนั้น
เสียงกริ๊งถี่ๆนั้นน่ารำคาญจนคนที่กำลังหลับสนิทหน้านิ่วคิ้วขมวด วูบแรกที่รู้สึกคือศรีษะอันหนักอึ้งและอาการคลื่นเหียนวิงเวียน
ภวรัญชน์แยกไม่ออกว่าเสียงที่ได้ยินนั้นคือความจริงหรือความฝัน รู้แต่ว่ามันหนวกหูเป็นบ้า ใครก็ได้ทำอะไรสักอย่างกับไอ้เสียงกวนประสาทนั่นสักหน่อยได้ไหม
บางทีอาจจะเป็นเสียงนาฬิกาปลุก คิดในใจพร้อมกับพยายามเอื้อมมือควานหา ก่อนจะพบกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย
ภวรัญชน์ใช้เวลาชั่วครู่เพื่อเรียกสติ ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาช้าๆและพบว่าตัวเองกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนโซฟา
เป็นท่านอนที่ไม่สบายเอาเสียเลยเพราะเมื่อขยับตัวอาการปวดร้าวที่ต้นคอก็ทำให้ต้องครางออกมาด้วยความปวดเมื่อย
นัยน์ตาแดงก่ำกระพริบปริบๆ เสียง กริ๊ง ยังดังกวนประสาทหากแต่เจ้าตัวจำได้แล้วว่าเป็นเสียงอะไร
“ใครวะมากดกริ่งแต่เช้าเลยหนวกหูชิบเป๋ง ยี่ไปเปิดประตูหน่อย!”
ตะโกนแล้วก็ซุกหน้าลงกับหมอนต่อ หากแต่เสียงกริ่งก็ยังคงดังไม่หยุดในขณะที่เพื่อนรักก็ไม่มีวี่แววว่าจะโผล่หน้าออกมา
ภวรัชณ์จุ๊ปากก่อนตะโกนเรียกเพื่อนอีกครั้ง
“อียี่ใครมาไม่รู้ ไปดูเซ่!”
เสียงตะโกนทำให้ยู่ยี่ได้สติ ร่างบางสะดุ้งเฮือกก่อนจะขยับตัวอย่างเมื่อยขบเมื่อพบว่าตัวเองยังคงค้างอยู่ท่านั่งหัวพิงกำแพงตั้งแต่เมื่อคืน
เศษอาหารยังคงกองตรงหน้าให้คนมองพะอืดพะอมให้อยากคายของเก่าอีกครั้งจนต้องพาตัวเองสะโหลสะเหลออกมาจากห้องน้ำ
แต่ก็ไปได้ไม่ไกลอย่างที่เพื่อนรักอยากให้ทำเพราะในที่สุดหล่อนก็ทิ้งตัวลงนอนบนพื้นพรมข้างโซฟาที่ภวรัญชน์นอนอยู่นั่นเอง
เสียงกระดิ่งดังรัวและยู่ยี่ก็ไม่มีทีที่ว่าจะฟื้น ในที่สุดภวรัญชน์ก็หมดความอดทนตัดสินใจลุกขึ้นทั้งๆที่ปวดหัวตุบๆ
“คอยดูเหอะ จะเป็นใครก็ช่างมากวนแต่เช้าแบบนี้ต้องโดนกูเตะแน่ๆ”
คนพึ่งตื่นคาดโทษพร้อมกับกระชากประตูเปิดอย่างหงุดหงิด แต่ยังไม่ทันได้มองเห็นใครดี เสียงตึงตังก็ดังจากระเบียงทางเดิน
ใครบางคนที่กดปุ่มกริ่งหน้าห้องอาจรู้ตัวว่าตัวเองจะโดนเตะเลยรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด เห็นแค่เพียงแผ่นหลังที่ทำให้ภวรัญชน์ได้แต่มองตามด้วยความหงุดหงิด
“เวร ใครกวนตรีนกูแต่เช้าเลยเนี่ย”
ครางออกมายานคางพร้อมกับอาการปวดหัวที่แล่นขึ้นสมองจนต้องนิ่วหน้า
ร่างสูงกำลังจะผลุบหายกลับเข้าห้องไปแล้วเมื่อได้ยินเสียง ‘แอ๊ะ’ ที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
คิ้วหนาขมวดมุ่นด้วยความประหลาดใจ เสียงอะไรหว่าน่าเกลียดพิลึก ภวรัญชน์หันซ้ายหันขวาเพื่อค้นหาต้นเสียง แต่ก็หามันไม่เจอ
กำลังจะตัดใจไปนอนต่อแล้วเมื่อเสียง ‘แอ๊ะ’ที่สองดังตามมา นัยน์ตาคมกระพริบปริบๆ เสียงนั้นใกล้มาก ใกล้เหมือนกับจะดังขึ้นมาจาก
.
เร็วเท่าความคิดภวรัญชน์ก้มลงมองที่พื้นทันที และภาพที่เห็นนั้นเล่นเอาเจ้าตัวตาเหลือก ต้องลองหลับตาลงและลืมตาขึ้นมามองอีกครั้ง
สมองมึนๆของคนเมาค้างใช้เวลาเกือบยี่สิบวิในการประเมินผล
เมื่อภาพที่เห็นคือ เด็กน้อยที่คะเนว่าอายุไม่น่าจะเกินสี่เดือนรูปร่างจ้ำม้ำนอนนิ่งอยู่ในตะกร้าสีชมพูที่วางอยู่บนพื้น
มีกระดาษสีขาวเขียนข้อความสั้นๆติดอยู่แต่อ่านแล้วได้ใจความว่า
‘ลูกแก!’
นัยน์ตากลมโตบ้องแบ๊วของเด็กน้อยจ้องมองมายังภวรัญชน์ก่อนที่จะส่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“แอ๊ะ ”
เจ้าของห้องค่อยๆปิดประตูช้าๆ พลางยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองเพื่อเรียกสติ
“เวร นี่เมื่อคืนมีใครเอาอะไรใส่ในเหล้าที่ฉันดื่มหรือเปล่าวะเนี่ย ทำไมตื่นมาแล้วเห็นภาพหลอน”
ภวรัชญน์ถามตัวเอง “อ๊ะ หรือว่าเราจะยังไม่ตื่น นี่อาจจะเป็นความฝัน
”
ทั้งๆที่อยากจะคิดอย่างนั้น แต่เสียง ‘แอ๊ะ’ ที่ยังคงดังมาจากด้านนอกก็ทำให้คนในห้องเริ่มมั่นใจ
มือเรียวเอื้อมจับลูกบิดพร้อมกับค่อยๆเปิดประตูห้องอย่างช้าๆ เพื่อพบว่าตะกร้าสีชมพูนั้นยังคงตั้งอยู่ที่เดิม
และดวงตาแป๋วๆของเด็กน้อยก็ยังคงจับจ้องมาอยู่เช่นเดิมด้วย
“เวร ชัดเจนเลย”
พึมพำได้แค่นั้นก็ถอยกรูดหากแต่ทิ้งประตูให้เปิดค้างไว้ดวงตาจับจ้องไปยังตะกร้าสีชมพูส่วนเท้าสะกิดร่างคนที่ที่นอนอืดอยู่บนพื้น ปากก็บอกเสียงสั่น
“ยี่ๆ” ยู่ยี่เงยหน้าขึ้นมาถามเสียงต่ำแหบพร่า ไม่มีปัญญาแอ๊บสาวอย่างที่เคยด้วยเมาค้างอย่างหนัก
“อาไรวะ คนจะนอน” ภวรัญชน์ทำเสียงจิ๊ในลำคอเมื่อเห็นท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวของเพื่อน
“อียี่ มีของมาส่งแกแน่ะ”
“ของห่ะไรมาแต่เช้า” ถามเสียงหงุดหงิด
“แกก็มาดูเองสิ”
ยู่ยี่ไม่สนใจเพื่อน หล่อนไม่มีแรงขยับกาย จริงๆก็อาจจะมีถ้าใครสักคนจะจับผู้ชายหล่อล่ำมาตั้งล่อหน้าล่อตา
แต่ไวน์ไม่เร้าใจสำหรับหล่อน และคนสวยก็เมาค้าง จึงคว้าหมอนบนโซฟามาปิดหน้าเป็นสัญญาณว่ากะเทยไม่สนใจ กะเทยจะหลับ
เมื่อสะกิดไม่ได้ผลยู่ยี่เลยได้บริการนวดด้วยฝ่าเท้าฟรีจากเพื่อนหนักหน่วงเสียจนหลังแอ่นพร้อมกับถ้อยคำระคายหู
“อียิ่งยง กูบอกให้ลุกมาดูไรนี่!”
“แอ๊ก!!!” เสียงต่ำห้าวหลุดจากปากกะเทยขี้เซา หล่อนทะลึ่งพรวดขึ้นมาด่าเพื่อนด้วยความโมโห
“อ๊ายยยยย!!! เป็นห่ะไรของมึงเนี่ยไอ้ไวน์คนจะน๊อนนนน แล้วเรียกซะเต็มยศ ชื่อยู่ยี่ดีๆทำไมมึงไม่เรียกห๊า อารมณ์เสีย!”
ทั้งๆที่ผรุสวาทใส่หน้าเพื่อนไปเต็มๆ หากเป็นเวลาปกติภวรัญชน์จะต้องมีคำแรงๆกว่านี้สวนกลับมาแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งตาเหลือก
ก่อนจะพยักเผยิดให้เพื่อนสาวหันไปมองทางหน้าห้อง ยู่ยี่มองตามด้วยความประหลาดใจ
เกิดความเงียบขึ้นมาเมื่อต่างฝ่ายต่างทำท่าเหมือนมองเห็นกับระเบิดที่ต้องค่อยๆย่องเข้าไปดูอย่างระแวดระวัง
กะเทยสวยครึ่งๆกลางๆเกาะขอบประตูยื่นหน้าไปมอง เสียงอ้อแอ้ดังออกมาจากตะกร้าสีชมพูพร้อมกับใบหน้ากลมมนของเด็กน้อยที่ทำให้ยู่ยี่ตาโต
“เด็ก?!?”
ภวรัญชน์พยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่ยอมพูดอะไรราวกับว่าคำพูดของตัวเองจะเป็นชนวนจุดระเบิด
ร่างสูงเอื้อมสุดมือจนถ้าใครเดินผ่านคงคิดว่าในตะกร้าสีชมพูนั้นมีเชื้อโรคร้ายแรงติดอยู่
ใช้ปลายนิ้วหนีบเศษกระดาษแล้วส่งให้เพื่อนอ่าน กระซิบบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“ลูกมึงแน่ะ”
ยู่ยี่กระพริบตาอ่านข้อความในเศษกระดาษและใช้เวลาในการประมวลผลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกรี๊ดออกมา
“อ๊าย อีบ้า! ทำไมกูต้องไปทำชะนีท้องด้วย ลูกมึงนั่นแหละ กูบอกแล้วให้ใช้คอนด้อมๆ หิ้วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแล้วไม่รับผิดชอบ เป็นไงล่ะ จนเค้าเอาลูกมาทิ้งให้มึงเนี่ย”
“อ้าวอีนี่ กูจะมีปัญญาทำผู้หญิงท้องมั้ย ของมึงนั่นแหละ ทำเป็นกลัวมีด จริงๆเก็บช้างน้อยเอาไว้ทำผู้หญิงท้องใช่มั้ย กูก็นึกว่ามึงเป็นกะเทย เป็นไบก็ไม่บอก”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด อย่ามาดูถูกกูนะ กะเทยอย่างกู ต่อให้สิ้นไร้ผู้ชายบนโลกกูก็ไม่นอนกะชะนีให้เสียของรักกูหรอก”
“ก็ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใคร ลูกมึงนั่นแหละ!” ภวรัญชน์โบ้ยใส่เพื่อน ในขณะที่กะเทยก็เถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“ของมึงนั่นแหละ!“
“ของมึงๆๆๆ!”
“กรี๊ดดดดดด ของเมิ๊งงงง!”
สองคนเถียงกันเสียงดัง กว่าจะรู้ตัวเสียงอ้อแอ้ก็กลายเป็นเสียงร้องเมื่อเด็กน้อยเกิดอาการตกใจกับเสียงดังของคนทะเลาะกัน ภวรัญชน์มองตาเหลือก
“ตายห่ะ ร้องแล้ว อียี่ทำไรสักอย่างสิ”
“ทำไมต้องให้ฉันทำ แกก็ทำอะไรสักอย่างสิ” สองคนเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา เสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ จนห้องข้างๆที่เป็นสามีภรรยาต้องเปิดประตูออกมาดู
“เด็กที่ไหนคะน้องไวน์” คุณสายสวรรค์ถามออกมาพร้อมกับส่งสายตาสอดรู้สอดเห็นมาด้วย ยู่ยี่กำลังจะอ้าปากตอบว่าใครไม่รู้เอาเด็กมาทิ้งไว้หน้าห้องแต่ไวน์ก็ชิงตอบเสียก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีเพื่อนพาลูกมาค้างขอโทษที่เสียงดังนะคะ”
บอกแล้วก็รีบคว้าตะกร้าสีชมพูเข้าห้องพร้อมกับหันไปบ่นเพื่อน “ไม่ต้องไปบอกอะไรคุณนายสายข่าวคอนโดหรอก เดี๋ยวก็กลายเป็นข่าวลือไปทั้งตึกฉันรำคาญ”
“เออว่ะ ฉันก็ลืมไปว่าแต่จะทำยังไงกับเด็กดีเนี่ย”
“หิวนมหรือเปล่า” ภวรัญชน์ถามให้ยู่ยี่ครางออกมาอย่างคิดได้
“เออ จริงด้วย” ไวน์รีบสะกิดบอกเพื่อนทันที
“แกก็ป้อนนมเด็กสิวะ จะปล่อยให้ร้องจนคอแตกตายหรือไง”
“เออๆๆ “
ยู่ยี่ก็บ้าจี้อุ้มเด็กขึ้นมาแล้วเปิดนมน้อยๆที่ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยได้เพราะยาคุมมาจ่อปากเด็ก
เล่นเอาเด็กน้อยเด็กเบือนหน้าหนีเบ้ปากทำหน้าเหมือนจะตายร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม ยู่ยี่โวยวาย
“อ๊าย เรื่องมากแบบนี้ต้องเป็นชะนีเด็กน้อยแน่ๆ หนอยยยยย ทำเชิดใส่นมฉัน”
“กูว่าเด็กไม่อ้วกใส่หน้ามึงก็บุญแค่ไหนแล้ว”
ไวน์เอ่ยกลั้วหัวเราะ เออเพื่อนกูก็ประสาทบอกให้ทำอะไรก็ทำ ก่อนจะหันไปค้นของในตะกร้ากุกกักปากก็บ่นพึมพำ “ไหนดูสิในตะกร้ามีไรบ้าง อ๊ะนี่ไงขวดนม”
พอได้อาหารเด็กน้อยก็เงียบเสียง ดูดนมจุ๊บๆทั้งๆที่น้ำตาเปื้อนเต็มหน้า สองคนยืนจ้องเด็กนิ่ง ยู่ยี่ที่เป็นคนอุ้มเด็กอยู่บ่นพึมพำ
“เออ พอเงียบแล้วก็น่ารักดีแฮะ”
“เหรอ แต่น่าสงสารนะมีพ่อเป็นกะเทย”
“อ๊ะไอ้ไวน์ ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่ ลูกแกนั่นแหละ”
“ฉันจะเอาปัญญาอะไรไปทำผู้หญิงท้อง ต้องลูกแกแหงมๆอยู่แล้ว”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ช่ายยยยยยยย” สองคนตั้งท่าจะเถียงกันใหม่อีกครั้ง เสียงที่เริ่มดังทำให้เด็กน้อยเบ้ปาก ยู่ยี่รีบหันมาโอ๋อย่างรวดเร็ว
“โอ๋ๆๆๆ ไม่ร้องๆๆๆ น้าไม่ได้ด่าพ่อหนูสักหน่อยนะลูก”
“เอ้าอียี่ อย่ามาโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นสิวะ”
“นี่ไวน์ ฉันรู้ว่าแกทั้งบ้ากามทั้งติดเซ็กส์ แต่คนเราก็ต้องมีความรับผิดชอบกันบ้างนะยะ ทำท้องแล้วไม่รับ หน้าตัวเมียมากๆ”
“เหอะ เหรอ งั้นแกก็รับผิดชอบไปคนเดียวละกัน”
ไวน์เอ่ยพร้อมกับเงยหน้ามองนาฬิกาพลันตาก็เหลือกอุทานออกมาเสียงดัง
“ตายหองสายขนาดนี้แล้วเหรอวะ ฉันต้องไปทำงานแล้วอียี่ดูแลลูกแกไปก่อนนะ” เอ่ยแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าห้องตัวเองทันทีปล่อย
“อ๊าย ไอ้ไวน์อย่าทิ้งกันสิยะ แล้วเด็กนี่จะทำยังไง” ยู่ยี่ถามเสียงหลง
“เดี๋ยวตอนบ่ายค่อยพาไปส่งตำรวจสินังโง่ คนมีการมีงานทำนะโว้ย ตอนนี้แกว่างแกก็เลี้ยงไปก่อน”
เสียงภวรัณชน์ตะโกนตอบจากในห้อง ปล่อยให้ยู่ยี่ที่ยังอุ้มเด็กยืนหันรี่หันขวางอยู่คนเดียว
ภวรัญชน์วิ่งออกจากลิฟท์ด้วยความเร่งรีบทั้งๆที่หอบเอกสารเต็มมือ ร่างสูงก้าวยาวๆไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่
แล้วอยู่ๆก็รู้สึกถึงบรรยากาศอืมครึมที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างผอมบางของผู้หญิงผมยาวที่เดินเซื่องซึมออกมาจากหลังเสา
เล่นเอาคนรีบไปทำงานสะดุ้งเฮือกนึกว่าโดนพี่หลอกแต่เช้าเสียแล้ว
“ไอ้ส้ม ไอ้เพื่อนบ้า ฮื่อๆ”
หญิงสาวในความอึมครึมบ่นพึมพำเสียงสะอื้นหลอนจนภวรัญชน์ต้องค่อยๆเดินเลี่ยงด้วยความสยอง ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถเพื่อความปลอดภัย
รถเก๋งคันหรูแล่นออกจากตึกไปแล้วเมื่อกล้วยไม้ยกมือขึ้นจับหน้าท้องแบนราบของตัวเองที่ส่งเสียงร้องครืดคราดครวญครางด้วยความหิว
เงินก็ไม่เหลือติดตัวแล้วโทรศัพท์มือถือก็แบตหมดเพื่อนสาวตัวดีก็ไม่ทิ้งแม้แต่ที่ชาร์จแบตไว้ให้
หญิงสาวตัดสินใจเดินไปขอความช่วยเหลือจากธนพลเพื่อนสนิท แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อได้ทราบว่าเขากลับบ้านที่ต่างจังหวัด
กล้วยไม่เองก็ไม่ใช่คนเพื่อนเยอะ เวลาลำบากแบบนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ได้แต่เดินวนเวียนอยู่ในคอนโดและหวังว่าส้มอาจจะกลับเข้ามาบ้าง
เสียงท้องร้องโครกครากทำให้หญิงสาวต้องนิ่วหน้า แล้วนี่ฉันจะรอดไหมหรือว่าต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนอนาถาในที่สุด หญิงสาวคร่ำครวญกับตัวเอง
-------------------------------------------------------------------------------
เฮ ตอนใหม่มาแร้ว อิอิ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนกันนะคะ ดีใจจนน้ำลายไหล เอ้ยน้ำตาไหล แหะๆ
อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงก็แนะนำกันได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นจ้า
วันนี้ยังอยู่ช่วงทำทัวร์ แต่ว่าเป็นเวลาว่าง มาตอบเม้นท์กันดีกว่าเนาะ
พี่ของหมอหมา : ดีใจที่ตามมาอ่านเป็นกำลังใจกันเหมือนเดิม ขอบคุณมากนะคะ ^__^
p-cha-ruch: แหม แสดงความหื่นออกมาได้ขัดกับหน้าตาของคุณน้องเลยนะคะอิอิ เรื่องนี้มี nc แค่นิดหน่อยจ้า ที่เหลือจะบ้าๆบอๆฮ่าๆ
Vincent มีหนังสือเราเพราะแฟนซื้อให้เหรอคะ แสดงว่าคุณได้แฟนที่น่ารักและนิสัยดีมากฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ พอเล่มใหม่บอกรีบบอกแฟนให้ซื้อให้เลยนะคะ อิอิ
ca'ลามก? = =" บร้า อย่าว่าตัวเองอย่างนั้นจิ ca'อิอิ เรื่องลามกเป็นเรื่องธรรมชาติ ฮ่าๆ
Ma-Bung (มะบุง) น้องบุง แหมว่าเค้าหื่น ตัวเองก็หื่นตามกันมาติดๆเลยไม่ใช่เหรอ เรื่องใหม่พี่ไม่หื่นแล้ววว มี nc แค่พองาม ฮ่าๆ แหมเข้าใจจิ้นนะคะ แต่หมอฟันเก่งจริงๆนั่นแหละ ตั้งกะเกิดมาก็มีคนนี้ที่ทำให้พี่ครางออกมากลางที่สาธารณะได้ฮ่าๆ
WinD อารมณ์เสียวค้างจากการไปฟัน ฮ่าๆ นี่เลยต้นเหตุให้น้องมะบุงจิ้นไปไกล แหม คราวหน้าอธิบายชัดๆดีกว่าจะได้ไม่เข้าใจผิด แต่ทำฟันเจ็บจริงๆนา พี่ต้องบอกหมอเลยนะว่าว่า "หมอขา เบาๆค่ะ มันเสียว" ฮ่าๆๆ
let's sea กระฉูด ? คิดอาไร คิดเหมือนตะเองนั่นแหละ ตะเองคิดไงล่ะคิดเหมือนกันใช่ไหม? ว่าแล้วเชียว..... บร้า ลามก =///= อิอิ
poohjung เริ่มแรกก็มีแล้ว แต่อาจะทั้งเรื่องมีแค่นี้ก็ได้นะใครจะรู้ ฮี่ๆๆ
aikawa_taku ฮ่าๆ ปาดเลือดกำเดาเลยเหรอ แหม ไปให้หมอฟัน เอ้ย ให้หมอทำฟันมันก็ต้องเสียวเป็นธรรมดา ใช่มั้ยล่ะ อิอิ
waanwaew อ่า ทำไมอ่านนิยายรักหวานแหววพี่แล้วเลือดกำเดาไหลเนี่ย อ่านไปทำอาไรไปหรือเปล่า อิอิ พี่ไม่เขียนฉากหื่นแล้ว เดี๋ยวคนอ่านเลือดหมดตัวละจะไม่แรงมาซื้อนิยายพี่ฮ่าๆ
Icecold ให้เวลาคิดหาคำมากล่าว คิดได้หรือยัง พี่ให้เวลาคิด ไม่ต้องยาวมากหรอก เอาเวลาไปโหลดหนังโป๊ เอ้ย การ์ตูนยูริให้พี่ดีกว่า อิอิ คราวหน้าเอามาฝากเพิ่มอีกนะที่ให้มาดูหมดแล้ว
nantasingha เราตั้งใจให้ตอนสองออกมาคลายเครียด รู้สึกว่าจะยิ่งตึงเครียดมากกว่าเดิมเพราะนักอ่านเริ่มเสียเลือดกันแล้วล่ะฮ่าๆ
528522 เด็กมาแล้วๆ อิอิ เก็ทหรือยางงง เรื่องนี้ไม่ซึ้งไม่เศร้า ไม่หื่น อ๊ะ แล้วนิยายเราจะเหลืออะไรอีกเนี่ย ฮ่าๆ กะเอาฮาน่ะเปลี่ยนอารมณ์ดีเนาะ
a-nin คุณอนิลนี่ใครไปตกลงด้วยคะว่าจะให้เม้นท์สามตอนครั้ง ข้อสัญญาเป็นโมฆะค่ะเพราะว่าทำคนเดียวไม่มีพยาน อิอิ ทำหน้าที่แกนนำหน่อยจิ หลอกคนมาอ่านนิยายเค้าด้วย จะล่อด้วยรูปสาวๆที่สะสมไว้ หรือจะเป็นคลิปลับแบล็คเมย์ก็ได้ ว่ากันเป็นรายๆไป ฮ่าๆๆ
NuN_BUU อ่านนิยายพี่แล้วก็อย่าลืมอ่านหนังสือนะคะ พี่ลงสั้นๆ หนูจะได้อ่านนิยายแล้วกลับไปอ่านหนังสือไงเนาะ (เฮ ในที่สุดก็หาข้ออ้างอัพตอนสั้นๆได้แร้ว อิอิ)
แว่นคุง ห๊า ไปเป็นครูบ้านนอก แถวไหนเหรอน้อง สนุกป่าว อิอิ น่าสนใจแฮะ ว่างๆออนเอ็มก็คุยกันนะ เทคแคร์ๆ
ยิ้ม....ยิ้ม แหม มีมาทวง 45 ที่บอร์ดนี้ด้วย = =" อัพให้แร้วค่า ใช้คุณอนิลอัพให้ฮ่าๆ อันนี้ต้องยกเครดิตให้เค้าปาย
ไอ่ ตัว บ้า ขอบคุณที่มาติดตามน้าาา อิอิ ตัวเอกเรื่องนี้เจ้าชู้หื่นกามใจร้ายไม่รักเด็ก ครบสูตรเลย อ๊ะนี่มันเป็นตัวเอกหรือตัวโกงกันแน่เนี่ย
patza ฮ่าๆ มาแซวเค้า แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม เอิ๊กๆๆๆ เออเนาะ ขาดแอปเปิ้ลกะมะละกอ = =" พอดีเลยตั้งชื่อภาษาไทยเรื่องนี้ว่า Love you Baby รักนะสลัดผลไม้
ความคิดเห็น