คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ร่างบางในชุดเสื้อตัวโคร่งลายดอกเข้ากับกระโปรงยาวรุ่มรามก้าวเอื่อยเฉื่อยเข้าสู่คอนโดมิเนียมที่ตั้งตระหง่านตรงหน้า บรรยากาศยามดึกทำให้เกิดความรู้สึกวังเวงแก่ผู้เฝ้ามอง หญิงสาวคิดถึงหนังผีที่มีฉลากสยองขวัญในลิฟท์พลันขนอ่อนๆก็ลุกเกรียวเมื่อคิดได้ว่าตัวเองต้องกลายเป็นผู้โดยสารคนเดียวในลิฟท์ยามดึกสงัดเช่นนี้ เธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหนา หายใจเข้าจนเต็มปอดรู้สึกถึงกลิ่นไอชื้นเย็นสดชื่น
“เดี๋ยวฝนตกแน่เลย ยัยส้มจะเก็บผ้าให้ฉันไหมนี่” กล้วยไม้พึมพำเบาๆคิดถึงเพื่อนสนิทที่ป่านนี้คงจะนอนหลับปุ๋ยไปแล้วอย่างชั่งใจว่าจะโทรเรียกให้ลงมารับกันได้ไหมเพราะตัวเองกลัวผียิ่งกว่าอะไร ก่อนจะปรายตามองดูนาฬิกาที่ริ้วรอยบนตัวเรือนบ่งบอกถึงความโบราณบนข้อมือด้วยความทุลักทุเลด้วยสองมือพะรุงพะรังไปด้วยอุปกรณ์วาดภาพและถุงก๋วยเตี๋ยวที่ซื้อมาทานมื้อดึก โทรไปตอนนี้มีหวังโดนด่าขึ้นลิฟท์แค่แปบเดียวคงจะไม่เป็นไรหรอกมั้งหญิงสาวบอกกับตัวเอง
เสียงกรุ๊งกริ๊งดังขึ้นมาเมื่อแขนบางที่เต็มไปด้วยกำไลข้อมือถูกยกขึ้นมาเสยผมยาวหยักศกของตัวเองที่รุ่ยลงมาปิดใบหน้าพร้อมกับดันแว่นสายตาหนาเตอะกรอบลายสีน้ำตาลทรงสี่เหลี่ยมให้เข้าที่ หญิงสาวก้าวเข้าลิฟท์พยายามยักแย่ยักยันกดหมายเลขชั้นของตัวเอง ประตูลิฟท์กำลังจะปิดอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของคนสองคนที่วิ่งจูงมือกันมา
“รอด้วยค่ะรอด้วย” เสียงร้องเรียกทำให้คนที่อยู่ในลิฟท์รีบกดหยุดให้อย่างมีน้ำใจ โดยลืมไปว่าตัวเองนั้นหอบหิ้วข้าวของมากมายแค่ไหนอยู่ ผลก็คือเมื่อคนมาใหม่ทั้งสองเข้ามายืนหัวเราะให้กันในลิฟท์พร้อมกับกลิ่นเหล้าที่เปลี่ยนบรรยากาศในลิฟท์ให้ฉุนกึก คนมีน้ำใจก็ต้องทรุดตัวลงนั่งเก็บของตัวเองที่ตกเกลื่อนเต็มพื้น หญิงสาวหวังว่าความมีน้ำใจของตัวเองจะทำให้คนมาใหม่แสดงน้ำใจกลับมาโดยการช่วยเธอเก็บของบ้าง หากแต่ทั้งสองยังคงหัวเราะต่อกระซิกกันอยู่อย่างนั้นราวกับไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของเธอ
“ขอบคุณนะ” กล้วยไม้พูดเสียงเบาอย่างประชดประชันพร้อมกับช้อนสายตาขุ่นคลักขึ้นมอง ก่อนดวงตากลมโตที่ดูโปนอยู่แล้วเมื่อมองผ่านเลนส์สายตาจะเบิกกว้างให้ปากอ้าค้างกระพริบปริบๆอย่างตกตะลึง ใบหน้าขาวแดงซ่านด้วยรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่าผู้มาใหม่ไม่เห็นหัวเธอจริงๆ หรืออาจจะมองเห็นแต่เป็นลูกหมาลูกแมวก็ไม่ทราบ เพราะสองคนเริ่มกอดจูบพัวพันกันอย่างไม่อายสายตาใคร จนทำให้คนมองต้องเบือนหน้าหนีด้วยความกระดากระคนอึดอัดแทน
กล้วยไม้เงยหน้าขึ้นมองหมายเลขลิฟท์พร้อมกับถอนหายใจเฮือกๆ หวังให้ดาราหนังสดรู้ตัวบ้างว่าที่สาธารณะแห่งนี้ยังมีเธออยู่อีกคน หากแต่ก็ยังไม่มีใครสนใจ เสียงดูดปากเบาๆดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวร่อคิกคัก กล้วยไม้ปรายตามองด้วยความหงุดหงิดทนอีกหน่อยให้ถึงห้องก่อนแล้วค่อยทำมันจะตายหรือไง หรือเป็นพวกชอบโชว์ถ้าไม่มีใครยืนมองจะไม่มีอารมณ์ เมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะมียางอายเธอก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะจ้องเหมือนกัน
ดวงตาโปนจากแว่นสายตาหนาเตอะปรายหางตามองดูหญิงสาวร่างอวบอั๋นในชุดกระโปงเกาะอกชิ้นจิ๋วที่กำลังยืนเบียดจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับร่างสูงในสุดเสื้อเชิร์ตและกางเกงยีนส์สีดำ มือขาวเรียวโอบรอบเอวหญิงสาวส่วนตัวเองนั้นโดนเบียดจนหลังติดกำแพงลิฟท์ กล้วยไม้พยายามจ้องหน้าคนชอบโชว์ อยากจะเห็นเหลือเกินว่าหน้าตาเป็นอย่างไรถึงได้หน้าด้านหน้าทนกันขนาดนี้ หากแต่ความที่เสียงดูดปากยังคงไม่เงียบลง ศรีษะของสาวเปรี้ยวก็บดบังใบหน้าของคนร่างสูงนั้นเสียจนมิด กล้วยไม้อดสงสัยปนหมั่นไส้ไม่ได้ว่าผู้ชายมือบางขนาดนี้ คงจะเป็นพวกพวกลูกคุณหนูที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากหลอกแอ้มสาวไปวันๆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ถ้าหากไม่มีเงินที่พ่อแม่ประเคนให้คงไม่มีปัญญาทำอะไรด้วยตัวเองสินะ หญิงสาวแอบสบประมาทอีกสายในใจ มองไล่ไปจนถึงช่วงไหล่ที่ถูกทับด้วยเสื้อเชิร์ตสีดำ แล้วอยู่ๆยัยสาวเปรี้ยวก็เปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากไปที่ซอกคอคนสูงกว่าเสียอย่างนั้น
เผยให้เห็นใบหน้าใสที่แดงก่ำของคนในเชิร์ตสีดำทำให้หญิงสาวเบิกตามองด้วยความประหลาดใจ ผมสั้นสีดำสนิทยาวระต้นคอค่อนข้างชี้ยุ่งเพราะถูกขยี้ตามแรงอารมณ์ด้วยมือสาวเปรี้ยวหากแต่มันกลับขับให้ใบหน้าใสที่แดงปลั่งด้วยฤทธิ์สุรานั้นเด่นขึ้นมา คิ้วค่อนข้างหนายาวเป็นเส้นเหมือนกับถูกวาดให้รับกับดวงตายาวที่แม้เวลานี้จะหรี่ปรือแต่ก็คมคาย ยิ่งเสริมด้วยจมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากแดงสดที่พึ่งโดนบดขยี้ด้วยริมฝีปากของสาวเปรี้ยวแล้วยิ่งทำให้คนที่เผลอจ้องมองอยู่นั้นแทบจะลืมความหมั่นไส้ไปเลยด้วยความตกตะลึงว่าผู้ชายอะไรจะหน้าสวยได้ขนาดนี้ สองสายตาประสานกัน ก่อนที่เสียง ‘ติ๊ง’ ของลิฟท์จะดังขึ้นมา เกิดความเงียบขึ้นเมื่อริมฝีปากแดงสดขยับช้าๆเอ่ยแผ่วเบาหากแต่ทำให้คนฟังเหมือนโดนมีดทิ่มที่กลางแสกหน้า
“มองอยู่ได้ ยัยโรคจิต”
กล้วยไม้พบตัวเองยืนอึ้งอยู่หน้าประตูลิฟท์ ภาพใบหน้าของคนที่คิดว่าเป็นผู้ชายยังคงติดตาถ้าหากว่าไม่ได้ยินเสียงต่ำๆจากปากแดงๆนั่น ก่อนที่ความโกรธจะแล่นปรี๊ดขึ้นมาบนสมอง
“ใครกันแน่โรคจิต ที่ตัวเองชอบโชว์อย่างนี้มันไม่โรคจิตกว่าหรือไง ไอ้ทอมบ้า!!!” ร่างบางยืนกระทืบเท้าเร่าๆด้วยความโมโหอยู่คนเดียว เกลียดตัวเองที่ความรู้สึกช้า โดนเค้าว่าต่อหน้าแล้วยังมายืนเอ๋ออยู่หน้าลิฟท์อีก กว่าจะคิดได้เค้าก็ไปไหนถึงไหนแล้ว หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมองหมายเลขบนหน้าลิฟท์ ที่แสดงให้รู้ว่าคนข้างในขึ้นไปถึงชั้นบนๆของคอนโด นั่นยอมหมายถึงเป็นชั้นห้องชุดราคาแพงที่ทั้งชั้นจะมีอยู่แค่สองห้องเท่านั้น หนอยแค่หน้าตาดีมีเงินหน่อยแล้วทำตัวแบบนี้ คิดว่าตัวเองดีเด่มาจากไหนกัน ร่างบางที่หิ้วของพะรุงพะรังเดินกระแทกส้นเท้าเข้าห้องด้วยความหงุดหงิด เมื่อไขประตูเข้าไปก็พบว่าภายในนั้นมืดสนิท เมื่อทิ้งของลงกับพื้นก็ยกมือควานหาสวิตช์ไฟ หากแต่ทันทีที่ห้องสว่างจ้า ดวงตาโปนบนแว่นหนาเตอะก็เบิกกว้างที่สุดในคืนนี้ เมื่อพบกับห้องที่โล่งและว่างเปล่า ไม่เพียงไร้เงาเพื่อนที่แชร์ห้องกันอยู่ หากแต่เฟอร์นิเจอร์ทรัพย์สินทุกชิ้นก็ไม่มีเหลือ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษที่มีลายมือยุกยิกตั้งไว้กลางห้องโดยมีขวดน้ำเปล่าที่เหลือน้ำไม่ถึงครึ่งวางทับเอาไว้ร่างบางปราดเข้าไปหาทันที กวาดสายตาไปตามตัวหนังสืออย่างรวดเร็ว
‘กล้วยไม้เพื่อนรัก ฉันขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้ ฉันจำเป็นจริงๆ ถ้าหาเงินไปคืนพวกมันไม่ได้ พี่ทิวแฟนฉันก็คงไม่รอด หากวันไหนพวกฉันหาเงินได้ครบใช้หนี้เจ้าหนี้โต๊ะบอลหมดแล้วฉันจะค่อยๆทยอยหาเงินมาคืนแก
รักเพื่อนนะ แต่ว่าแฟนก็สำคัญใช่ไหม ดูแลตัวเองด้วยนะเพื่อน
ส้ม
ปล.แกก็น่าจะหนีเหมือนกันนะ ได้ข่าวว่าพวกเจ้าหนี้รู้ที่อยู่ของเราแล้ว หลบไปซักพักดีกว่า ขอให้แกปลอดภัย’
กล้วยไม้อ่านจดหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไปหญิงสาวก็ฉีกจดหมายนั้นเป็นชิ้นๆ ตะโกนออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น
“ไอ้เพื่อนบ้า ยกเค้าเพื่อนเพราะผู้ชาย โง่งี่เง่าปัญญาอ่อนเอ้ย ไอ้ส้มหัวกลวงงงงงงงงง!!!!” กล้วยไม้มองรอบห้องที่ว่างเปล่าด้วยความท้อใจ ช่วงเงินช๊อตแบบนี้อย่าว่าแต่หนีเลย ข้าวสารกรอกปากยังไม่มี นอกจากเรื่องผู้ชายแล้วทำอะไรไม่คิดถึงกันเลย ไอ้เพื่อนบ้า!
s----------------------------s-------------------------------------s---------------------------s
อิอิ เอาเรื่องใหม่มาฝาก เพราะว่า 45 Days ใกล้จบแล้ว เรื่องนี้จะเป็นอะไรที่สบายๆไม่ซีเรียสนะคะ
อยากจะเขียนอะไรเบาๆบ้างหลังจากเขียนแต่เรื่องหนักๆมามากแล้ว ขอกำลังใจหน่อยน้า เดี๋ยวเขียนไม่จบฮ่าๆ
ความคิดเห็น