ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    12Tails: Tails Apocalypse Ⓣ (Turn Bringer Invasion)

    ลำดับตอนที่ #53 : Chapter 42: The X

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 83
      0
      2 พ.ค. 58

    Chapter 42: The X (Perfect Form)


    ภาพแรกที่สะท้อนเข้าสู่ดวงตาคือความว่างเปล่า สถานที่ที่ไม่รู้จักรอบด้านมีแต่ความมืดมิดและจุดแสงระยิบระยับจำนวนเทียบเท่ากับดวงดาวบนท้องฟ้า ในตอนนั้นเองความทรงจำก็บอกให้รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ช่างละม้ายคล้ายกับท้องฟ้าตอนกลางคืน

    ที่นี่คือ….”

    อยู่ๆก็รู้สึกอยากพูดออกไป คงเป็นเพราะความสงสัยที่อัดสะสมอยู่ภายในอยากหาทางระบายมันออกแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีใครจะมาตอบคำถามให้ที่นี่

     

    ตื่นแล้วหรือ เทพีแห่งแสง….”

    เสียงลึกลับตอบกลับมา และไม่ได้มีแค่เสียงนั้นแต่เหมือนกับว่าประสาทการได้ยินพึ่งจะกลับคืนมาจึงได้ยินเสียงอื่นนอกจาเสียงที่ตอบรับคำถามของเธอ เสียงประหลาดดังแกร๊กๆ รัวไม่ยอมหยุด

     

    ที่นี่คือที่ไหนแล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”

    ร่างของเทพีแห่งแสง ถูกตรึงไว้ด้วยวงแหวนสีดำทั้งแขนและขาไม่อาจขยับหรือสลัดให้หลุดออกมาได้ราวกับต้องมนต์สะกด จู่ๆเสียงประหลาดก็หยุดดัง

     

    ลองคีย์ข้อมูลวิเคราะห์รูปแบบทั้งหมดไปแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถคัดลอก ประกาศิตไร้เทียมทานได้- มันไม่ใช่สกิลที่ใช้งานด้วยตัวคนเดียวสินะ คงจะต้องจับตัว มูราดิน บาเบร็อก แล้วก็ที่เหลือมาด้วย

     

    ที่นี่คือที่ไหน…”

    “……ที่นี่คือสุดขอบจักรวาล คาบสมุทรแห่งดวงดาวที่ว่างเปล่า ดาร์คเนบิวลา(Dark Nebular)

     

    ………………………………………………….

    …………………………..

    วังแห่งแสงคือพระตำหนักของเทพีอัลคาเซียเทพผู้ควบคุมแสงสว่าง ตัวพระราชวังนั้นลอยอยู่บนท้องฟ้าสูงจากพื้นดินหลายพันเมตรด้วยพลังงานจากมานา ในเขตพระราชวังจะแบ่งเป็นสามฝั่งคือฝั่งตะวันออกและตะวันตกเชื่อมต่อหับส่วนกลางด้วยสะพานเดี่ยว บนสะพานมีทางเดินที่ไม่กว้างไม่แคบจนเกินไปนักมีระเบียงกั้นไว้สองฝั่งแต่ก็ไม่สูงมากหากไม่ระวังก็อาจพลัดตกลงไปและนั่นหมายถึงชีวิต กระนั้นก็ยังมีผู้ที่ไม่รักตัวกลัวตายมากระทำการต่อสู้กันบนสะพานแคบๆแห่งนี้

     

    หมาป่าดำผู้สำเร็จราชการวัยหนุ่มทำหน้าที่ปกครองเมืองแห่งแสงแทน ยุวราชาแห่งแสงองค์ก่อนที่เลื่อนขึ้นไปเป็นจักรพรรดินี เขาสวมใส่ชุดเกราะสีดำขลิบด้วยลวดลายสีทองบุด้วยผ้าสีแดงเข้ม มีเกราะที่ไหล่ขวาแกะเป็นรูปศรีษะอาชา ชุดเกราะชุดนี้สร้างขึ้นจากเลือดของเขาเองมันจึงมีพลังของเก้าบุตรอยู่เต็มเปี่ยม เขาเผชิญหน้าอยู่กับชายที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยต่อสู้มาตลอดชีวิตการเป็นอัศวินเลยก็ว่าได้

     

    สัตว์หางเผ่าอีกาผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคนสำคัญขององค์พระจักรพรรดินี และผู้บัญชาการของกองกำลังอัศวินปีศาจเดโมนิกครูเซเดอร์ บุรุษอีกาแต่งกายด้วยชุดสูทสีขาวและกางเกงสีขาวกับหมวกทรงสูงสีขาวเข้าชุดกันทั้งหมดตรงกันข้ามกับขนสีดำสนิทของเขาเองสร้างเสน่ห์อันลึกลับให้แก่ผู้ที่พบเห็น

     

    ในมือขวาถือกระบี่หน้าตาธรรมดาๆที่ไม่ได้มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษหากแต่อำนาจของมันนั้นหาได้เหมือนกับรูปกายภายนอก มันเป็นดาบปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีของชนเผ่าไร้หาง ถูกเรียกว่า AG8 ลูซิเฟอร์ หรือราชาปีศาจแห่งแสงสว่าง มันมีอำนาจในการเข้าถึงความทรงจำของทุกสรรพสิ่งที่สัมผัสถูก

     

    "ศรเพลิงดำหยาจื้อ"

    หมาป่าดำ ยืดแขนออกไปสุดตัวเลือดซึ่งป้ายอยู่ที่มือเดือดพล่าน แล้วพุ่งออกไปเป็นลูกศรเพลิงสีดำ ส่วนปลายของลูกศรแยกออกจากกันราวกับปากของสัตว์ร้ายบินฉวัดเฉวียนไล่ตามเป้าหมายราวกับฝูงมังกรออกล่าเหยื่อ

     

    "บุยเทน โฮวโฮว"

    บุรุษอีกาซึ่งหลบหนีจากการตามล่าของศรมังกรกล่าวขึ้นพร้อมกับยกขวดสเปรย์ที่บรรจุเลือดสีดำข้นขึ้นมาฉีดพ่น มันคือเลือดของหมาป่าดำที่มีพลังแห่ง

    เก้าบุตรมังกรสถิตย์อยู่ ละอองแสงสว่างแห่งมานาได้กลั่นตัวออกมาจากชั้นบรรยากาศควบรวมเข้ากับเลือดดำ แล้วเปลี่ยนรูปร่างเป็นแผ่นศิลาหินขนาดยักษ์มีรูปใบหน้าสลักอยู่บนแผ่นศิลา มันคือภูตรับใช้ธาตุดินที่มีพลังในการปกป้องผู้อัญเชิญ

     

    "ลืมไปแล้วรึไงว่าพลังของหยาจื้อคือการบุกทะลวง ภูตรับใช้นั่นช่วยปกป้องแกไม่ได้หรอก"

    หมาป่าดำพูดอย่างมีชัยพร้อมกับสั่งให้ศรมังกรทั้งหมดปิดล้อมทางหนีทั้งหมด

     

    "จัดการเลย!!"

    ศรเพลิงทั้งหมดพุ่งลงไปพร้อมกันหมายปลิดชีพบุรุษอีกาให้แดดิ้น

     

    "ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอามาป้องกันอยู่แล้วล่ะขอรับนี่น่ะเพื่อเปิดทางสู่การโจมตีต่างหาก"

    บุรุษอีกาย้อนก่อนวิ่งเข้าไปหลบข้างหลังกำแพงศิลา ศรมังกรจำนวนหนึ่งได้ชนเข้ากับกำแพงศิลาจนแหลกเป็นผุยผง ฝุ่นควันกระจายตลบไปทั่วทั้งสะพานจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ในจังหวะนี้เองศรมังกรที่เหลืออยู่จึงพุ่งสะเปะสะปะ เพราะหมาป่าดำที่เป็นผู้ควบคุมมองไม่เห็นเป้าหมาย

     

    นี่จึงเป็นโอกาสให้บุรุษอีกาใช้หมอกฝุ่นอำพรางตัวแล้วอาศัยจังหวะที่หมาป่าดำยังไม่ทันตั้งตัวนี้บุกเข้าประชิดในทันที

     

    "เบลดซอง"

    เสียงของบุรุษอีกาดังแว่วมาแต่ยังไม่รู้ว่าจะถูกโจมตีมาจากทิศทางใดเพราะหมอกฝุ่นที่ยังคงฟุ้งกระจายอยู่ กระนั้นก็ตามด้วยสัมผัสอันเฉียบคมกับการขัดเกลาในฐานะอัศวินมาแรมปี แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่มองไม่เห็น แต่ก็ยังได้ยินเสียง

     

     เสียงหวีดหวิวของสายลมที่ถูกสุญญากาศอันคมกริบแหวกผ่าน เมื่อม่านควันที่ปกคลุมอยู่รอบๆมีการเคลื่อนไหวก็จับสัมผัสได้ในทันที เขาใช้เลือดของตัวเองสร้างดาบขึ้นมาปัดป้องคลื่นสุญญากาศที่เกือบจะบั่นศรีษะขาดออกไปได้ทันหวุดหวิด แม้ว่าอีกสองครั้งจะป้องกันไว้ไม่ได้แต่คลื่นสุญญากาศที่ปัดออกไปไม่ทันก็แค่เฉี่ยวถูกส่วนเป็นชุดเกราะเท่านั้นจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

     

    " คากามิ!"

    ร่างของหมาป่าดำเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า ในขณะที่บุรุษอีกาแหวกออกมาจากม่านควันพร้อมกันตวัดดาบหมายจะฟันใส่โดยไม่ให้ทันตั้งตัว แต่ก็สายเกินไปแล้วหมาป่าดำรู้แต่แรกแล้วว่าการโจมตีที่แท้จริงจะตามมาหลังจากคลื่นสุญญากาศสามครั้ง จึงชิงลงมือก่อน

     

    ดาบของบุรุษอีกาฟาดใส่ร่างซึ่งเปล่งแสงสว่าง และหยุดนิ่งอยู่แค่นั้นไม่ว่าจะออกแรงกดดาบมากแค่ไหน ก็ไม่อาจฟันเข้าไปได้ ไม่นานนักแสงสว่างที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของหมาป่าดำก็หยุดลง พร้อมกับชุดเกราะชุดใหม่ ชุดสีขาวขลิบด้วยลายสีทอง ส่วนเกราะคาดที่อยู่บนหน้าผากกางออกเหมือนดอกไม้บานเผยให้เห็นนอสีทองคำที่อยู่ภายใน นอกจากนี้ทั้งร่างยังมีออร่าแสงสีทองเปล่งประกายออกมาตลอดเวลาและออร่านี้เองที่ป้องกันดาบของบุรุษอีกาไม่ให้ฟันเข้ามาถึงตัวได้

     

    "โฮลี่วูฟล์  เฟนริลไชนิ่งเดอะไฟนอล (Fenrir Shining the Final) “

     

    คิดอยู่แล้วว่าการโจมตีจริงๆจะต้องเป็นดาบนั่นเพราะแกจะต้องใช้ดาบนั่นอ่านความคิดของคู่ต่อสู้ก่อนเสมอสินะ

    เมื่อได้ยินคำพูดนั้นบุรุษอีกาถึงกับทำเสียงจิกจักในปาก ด้วยความไม่พอใจที่ถูกอ่านออกซ้ำยังเป็นคนที่ดูแล้วไม่ค่อยใช้หัวคิดอย่างทอลแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกเสียหน้าไม่น้อย

     

    ย้ากกกกกก"

    ดาบโลหิตในมือของหมาป่าดำถูกเปลี่ยนเป็นดาบสีขาวใบดาบทำจากคริสตัลสีฟ้าที่มีความแข็งเทียบเท่าเพชร เขาเอี้ยวตัวกลับพร้อมฟาดดาบทั้งสองมือพร้อมกัน

     

    แต่บุรุษอีกาไหวตัวทัน เขาชักดาบที่ฟันค้างไว้อยู่กลับแล้วยกขึ้นกันดาบที่ฟันเข้ามาจากทางขวาอาศัยจังหวะที่ดาบปะทะกันจนหยุดนิ่ง ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้นกับร่างกายที่ผอมบางลอดผ่านใต้แขนหมาป่าดำและสามารถหนีออกมาจากวงการโจมตีของหมาป่าดำได้สำเร็จ แต่ก็ยังรู้สึกทึ่งกับการโจมตีเมื่อครู่ที่รวดเร็วจนเกือบเสียท่าให้

     

    "จะว่าไปแล้วตะโกนขื่อน้องชายแล้วใช้ร่างแห่งแสงได้แบบนี้แสดงว่าคากามิคุงมีเอี่ยวด้วยสินะขอรับ"

     

    "ใช่คากามิอยู่กับฉันตลอดมาหมอนั่นไม่ได้หายไปแต่อยู่กับฉันเสมอนั่นก็เพื่อที่พวกเราพี่น้องจะโค่นแกลงสักวัน ย้ากกกกก"

     

    ออร่าแห่งแสงที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของหมาป่าดำแปรเปลี่ยนเป็นแสงดำ

    ชุดเกราะสีขาวสะอาดถูกย้อมจนกลายเป็นสีดำหม่น รูปร่างของเกราะก็พลอยเปลี่ยนแปลงไปดัวย

    ตะปุ่มหนามผุดขึ้นตามจุดต่างๆของชุดเกราะ เกราะซึ่งเอาไว้ที่หน้าผากได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นหมวกที่มีปลายหางห้อยออกไปทางด้านหลังมีเหล็กไนที่เหมือนกับของแมงป่อง

    ดาบเองก็เปลี่ยนรูปร่างไปด้วยเช่นกันใบดาบขยายกว้างออกมีส่วนเว้าโค้งเหมือนก้ามหนีบ

     

    "ลูน่าอีคริปส์ โซล่าอีคริปส์ เฟนริลไรซิ่งเดอะเฟิร์ส(Fenrir Rising the First)"

    หมาป่าดำทะยานออกไปข้างหน้ารวดเร็วประดุจแสงแล้วร่างของเขาก็ได้กลายเป็นแสงไปจริงๆ แสงสีดำพุ่งทะยานผ่านร่างของบุรุษอีกา วินาทีต่อมาร่างนั้นก็ขาดเป็นสองเสี่ยง

    ดาบที่คมที่สุดกับความเร็วแสงที่ช่วยให้การฟันครั้งนั้นเปรียบเสมือนเส้นด้ายที่ถูกขึงจนตึงแล้วตัดด้วยกรรไกร การรอดชีวิตนั้นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่ไม่ใช่สำหรับคามิโอ กินนัมกาแกป

     

    "ไฟนอลมูฟ อบราคาดาบราอลาคาซัม ไทม์พาราดอกซ์"

    ร่างที่เคยแยกออกเป็นกลับรวมเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    "ไฟนอลอีคริปส์"

    ========Final Eclipse========

     

    ก่อนที่บุรุษอีกาซึ่งกลับมาจากความตายจะทันรู้สึกตัว แสงดำก็พุ่งตัดร่างขาดท่อนอีกคราแต่หนนี้ไม่ได้จบลงแค่ครั้งเดียว ก่อนที่จะฟื้นคืนชีพ หมาป่าดำวกกลับมาฟาดฟันใส่ร่างนั้นให้ขาดเป็นสี่เสี่ยงแล้ววนซ้ำอีกครั้งโดยไม่ให้โอกาสอีกฝ่านได้มีเวลาฟื้นคืนชีพ หารพุ่งกลับไปกลับมาดำเนินซ้ำกันเป็นร้อยเป็นครั้งในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยเส้นทางสะพานที่ค่อนข้างแคบทำให้การพุ่งโจมตีมีประสิทธิภาพมากที่สุด การโจมตีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนร่างของบุรุษอีกาแปลสภาพเไปเป็นเศษเนื้อิ้นเล็กชิ้นน้อยนับหมื่นๆชิ้น

     

    แต่กระนั้นหมาป่าดำยังคงไม่รามือเขายังคงพุ่งทะยานย้อนกลับไปกลับมาจนกว่าเศษเสี้ยวของศัตรูจะไม่หลงเหลือแม้เพียงฝุ่นละอองก็ตาม

     

    "จะวิ่งไปถึงเมื่อไหร่ล่ะนั่นขอรับ"

     

    หมาป่าดำหยุดกระทันหันจนเกือบเสียหลักล้มหน้าคะมำพื้น เขาพึ่งรู้สึกตัวว่าสถานที่รอบตัวเลี่ยนไปตอนนี้เขาไม่ได้ยืนอยู่บนสะพานแต่เป็นพื้นดิน รอบด้านก็มีกำแพงสูงล้อมไว้หลังกำแพงเป็นที่นั่งอัฒจันทร์เรียงกันเป็นขั้นบันได เมื่อพิจารณาดูจากสิ่งที่เห็นทำให้รู้ว่าตอนนี้ตนถูกย้ายมาอยู่บนสังเวียนในลานประลองโคลอสเซียม

     

    "สนุกมากรึเปล่าล่ะขอรับวิ่งไล่งับหางตัวเองแบบนั้นหึๆๆ"

     

    หมาป่าดำพยายามมองหาที่มาของเสียง แต่ก็ไม่พบบุรุษอีกาอยู่ในที่ใดๆของลานประลองแห่งนี้เลย

     

    "ข้างบนนี่ขอรับ"

    เมื่อเขาชะเง้อหน้าขึ้นมองข้างบนตามที่เสียงบอกก็พบกับเงาสะท้อนจากแสงจันทร์ตกลงมากระทบกับใบหน้า ที่นั่นร่างของบุรุษอีกากำลังลอยอยู่กลางอากาศ

     

    "กระผมถามจริงๆเถอะทำไมอยู่ถึงคิดจะมาฆ่าแกงกันแบบนี้ด้วยที่ผ่านมากระผมก็ออกจะญาติดีกับคุณมาตลอดแท้ๆ ทั้งตอนคดีของโลกิคุง ทั้งเรื่องของกษัตริยา..."

     

    "ตรงนั้นนั่นแหละที่ฉันไม่พอใจแกที่สุดเพราะแก กษัตริยาถึงได้เปลี่ยนไป เพราะแกทำให้บ้านเมืองแตกแยก เพื่อนๆฉันก็ต้องมาแยกจากกัน พวกเด็กในเมืองก็ต้องมาถูกจับเป็นเครื่องสังเวย และเพราะแกที่ทำให้ฉันกับคากามิ ต้องมีชีวิตแย่ๆแบบนี้"

     

    หลังจากตะโกนออกไปแล้วหมาป่าดำก็มีอาการหอบหายใจแรงเป็นเพราะได้หยุดพักทำให้ร่างกายลดการหลั่ง อะดีนารีน จึงรู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมากขึ้นมากะทันหัน

     

    "ถ้าอย่างนั้นคุณไม่เห็นจะต้องรีบเลยก็ได้ ยังไงซะที่กระผมจะปลุกพลังเก้าบุตรของคุณให้ตื่นขึ้นก็เพื่อให้มาฆ่าตัวกระผมเองอยู่แล้วอดทนรอจนถึงเวลานั้นดีกว่าน่าขอรับ"

     

    "เรื่องสิ! ใครจะไปยอมเดินตามแผนของแกกัน"

     

    "ว้า~~~ถ้างั้นแล้วคุณจะทำยังไงมิทราบ ยังไงๆตัวคุณในตอนนี้ก็ไม่มีทางฆ่ากระผมให้ตายได้อยู่แล้วไม่หัดเรียนรู้เอาซะเลยนะครับ งั้นกระผมจะยอมเล่นด้วยกันซักหน่อยก็ได้ "

    บุรุษอีกายักไหล่ไปพลางพูดไปพลาง ก่อนจะยกดาบขึ้นวาดไปมาในอากาศ เกิดเป็นเส้นแสงลากออกมาจากปลายของดาบ

     

    อบราคาดาบราอลาคาซัม ไร้รูปไม่ไร้ตนเจ้าจงแปรเปลี่ยนไปดั่งใจข้าจงมาเป็นศาสตราให้ข้าได้ทำลายและปกป้อง ออกมา โครมไนท์!! (Chrome Knight)”

    แสงสว่างตีเส้นเป็นวงกลม ประตูเหล็กกล้าผุดขึ้นมาจากวงแสง แล้วเปิดผัวะ ออกมาเหมือนกับถูกผลักออกมา ทันใดนั้นขวานเล่มเขื่องก็พุ่งออกจากบานประตู และทุบใส่พื้นสนามจนแตกร้าวในทันที มือซึ่งจับขวานเอาไว้ลากเอาร่างของ

     โกเล็มซึ่งสร้างขึ้นจากโลหะผสมออกมาด้วย ขนาดตัวของมันนั้นมหึมา เมื่อมันก้าวขาออกจากประตู

     ทุกย่างก้าวนั้นทำให้รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดิน

     

     

    เชอะ เอาเจ้ายักษ์แบบนี้ออกมาก็ทำอะไรฉันไมได้หรอกน่า

    แม้โกเล็มตรงหน้าจะมีร่างกายใหญ่โตกว่าถึงสามเท่า แต่นั่นก็หาได้สร้างความหวาดวิตกหรือความกังวลเลยแม้แต่น้อย หมาป่าดำใช้พลังจากโซล่าอีคริปส์ วิชาที่ทำให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงทะยานไปฟาดฟันโกเล็มยักษ์ก่อนที่มันจะทันรู้ตัว ก็ถูกทอลฟาดด้วยดาบที่อาบคลุมด้วยเพลิงดำซึ่งมีอำนาจตัดได้ทุกสิ่ง กระนั้นก็ตาม ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตเอามากๆ ทำให้ดาบไม่สามารถตัดผ่ามันได้ แม้ว่าจะกดใบดาบจนมิดด้ามก็ตาม

     

    ชิ เพราะตัวมันใหญ่เกินไป งั้นแบบนี้ล่ะ

    หมาป่าดำทะยานเข้าไปอีกครั้งคราวนี้ เขาปักดาบทั้งสองเล่มลงไปเพียงครึ่งด้าม จากนั้นจึงออกวิ่งโดยไต่ไปตามร่างกายอันใหญ่โตพร้อมกับลากดาบไปด้วย ใบดาบที่เสียบลงไปจึงเปรียบได้กับเลื่อยของเครื่องเปิดกระป๋อง หากว่าเขาทำแบบนี้ไปจนกระทั่งใบดาบผ่าไปได้ครบทั้งร่างแล้วล่ะก็ โกเล็มยักษ์ตนนี้จะต้องสิ้นฤทธิ์อย่างแน่นอน

     

    คอล(Call) โบรอนท์ไนท์!!

    ประตูเหล็กกล้าปรากฏขึ้นมาอีก 2 บานพร้อมกันนั้น โกเล็มเหล็กที่มีขนาดตัวเล็กกว่าตัวแรกประมาณครึ่งหนึ่ง ก็ออกจากประตู โกเล็มทั้งสองตัวเข้ามาล้อมโกเล็มยักษ์แล้วช่วยกันปัด หมาป่าดำจนกระเด็นตกไป

     

     

    บ้าน่า เราวิ่งด้วยความเร็วแสงแท้ๆ เจ้าสองตัวนั่นมันเร็วขนาด….”

    ยังไม่ทันจะหายตกใจ โกเล็มเล็กทั้งสองตัว ก็มาโผล่ตรงหน้าแล้ว หมัดฮุกซ้ายอัดเข้าที่ท้องอย่างจัง ร่างของหมาป่าดำกระเด็นลอยละลิ่วไปจนกระแทกติดขอบสนาม

     

    หลังจากอาเจียนออกมาอย่างหนักเพราะความจุกที่แล่นพรวดขึ้นมา หมาป่าดำก็ต้องพบกับความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อขวานของโกเล็มยักษ์ ได้เหวี่ยงมาหาจนอยู่ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร

    เสียงปูนแตกกระจายดังสนั่นไปทั้งลานประลอง ขวานได้อัดร่างของหมาป่าดำจมลึกเข้าไปติดกับขอบสนาม

    โชคยังดีที่ก่อนจะถูกขวานจามเข้าให้นั้น เขาได้เปลี่ยนไปอยู่ในร่าง เดอะไฟนอล คุณสมบัติของวิชา โฮลี่อาเมอร์ที่รวมเข้ากับโฮลี่ซอร์ดได้ให้กำเนิด พระพรป้องกันโฮลี่วูฟล์  คุ้มครองเอาไว้ร่างกายของเขาจึงไม่ขาดเป็นสองเสี่ยง แต่ถึงแม้ชุดเกราะที่เสริมพลังจะต้านทานขวานเอาไว้ได้ก็ตาม แรงกระแทกที่ขวานอัดเข้ามาก็ยังส่งไปถึงร่างกายจนกระอักออกมาเป็นเลือด  ซี่โครงเกือบทั้งหมดหักละเอียดจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้

     

    มันก็จริงที่โกเล็มพวกนี้ไม่มีวันตามคุณที่วิ่งด้วยความเร็วแสงทัน แต่คุณลืมไปรึเปล่าว่าพลังของกระผมนั้นอยู่กว่าความเร็วทั้งปวง เพียงแค่ควบคุมเวลาของคุณให้มันเดินช้าลง แล้วเร่งให้พวกโกเล็มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นก็แก้ปัญหานั้นได้แล้ว อีกอย่างโกเล็มพวกนี้ที่ไม่มีชีวิตดังนั้นต่อให้ขยับเกินขีดจำกัดร่างกายก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่ดี

    บุรุษอีกา เผยความจริงให้รู้โดยไม่ปิดบัง เพราะถึงจะรู้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังร่างของหมาป่าดำที่นอนจมกองเลือดที่กระอักออกมาอยู่ในกำแพงสนาม คอยดูท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาอีกหรือไม่ และเมื่อเห็นร่างของหมาป่าดำเริ่มขยับจึง ยกมือขึ้นเตรียมให้สัญญาณกับพวกโกเล็ม

     

    มันมีสุภาษิตอยู่ว่า กาลเวลาไม่เคยรอใคร แต่ยกเว้นกระผมนะขอรับ ฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

    หลังจากระเบิดเสียงหัวเราะจึงดีดนิ้วเป็นสัญญาณ

    อัดให้หลับไปซะ

     

    และแล้วกำปั้นเหล็กก็ถลุงใส่ราวกับพายุ ไร้ซึ่งความปราณีใดๆพวกโกเล็มขนาดเล็กรุมทุบใส่ไม่มียั้งแรงไว้

    ถึงจะมีชุดเกราะที่เสริมด้วยโฮลี่วูฟล์ก็ตาม แต่ร่างกายก็อาจจะต้านไม่ไหวไปซะก่อน ถึงจะไม่ตายเพราะโดนทุบแต่หากอยู่ต่อไปแบบนี้ก็จะต้องหมดแรงไปก่อนพวกมันอย่างแน่นอน

     

    หมาป่าดำยกแขนขึ้นตั้งการ์ดปกป้อบริเวณใบหน้าเอาไว้ ปากก็พึมพำบางอย่างออกมาโดยพยายามไม่ให้ บุรุษอีกกาได้ยิน

     

    หยุดก่อน

    เสียงของบุรุษอีกาสั่งให้หยุด ดูเหมือนว่าการปกปิดของเขาจะถูกมองออกเสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่อาจถูกหยุดเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

     

    แกบอกสินะว่าเวลาไม่เคยรอใครนอกจากแก แต่ฉันน่ะบอกเลิกกับเวลาไปตั้งนานแล้วโว้ยยย

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เลือดของหมาป่าดำซึ่งออกมาในตอนที่ถูกรุมซ้อมนั้นได้กระจายไปทั่วทั้งอาณาบริเวณ

     

    ถอยออกมา!!!

    บุรุษอีกาตะโกนพร้อมด้วยสีหน้าซึ่งคงความสงบนิ่งเอาไว้จนถึงเมื่อครู่ได้พังทลายลง พวกโกเล็มที่ได้ยินคำสั่งถอยออกมาจากบริเวณที่มีเลือดกระจายอยู่ทันทีเมื่อเลือดเหล่านั้นเริ่มเปล่งแสง

     

    ไฟนอลมูฟ แกรนครอสอันลิมิตเต็ด!!

    หยดเลือดทั้งหมดลุกไหม้ด้วยไฟดำก่อนจะก่อหวอดขึ้นครั้งใหญ่กลายเป็นเสาเพลิงพุ่งทะยานแหวกผ่านท้องฟ้าราวกับจะขึ้นไปให้ถึงสวรรค์

     

    ที่เมื่อกี้ยอมให้โดนอัดก็เพราะจะทำแบบนี้เองสินะ แต่ว่าท่านั่นหลังจากใช้แล้วก็สูญเสียพลังเป็นอย่างมาก เท่านี้กระผมก็เป็นฝ่ายชนะแล้วล่ะนะทอลคุ….

     

    หมาป่าผู้ถือกำเนิดขึ้นโดยการถักทอตำนานและปกรนัมเทพเข้าไว้ด้วยกัน…..”

    ยังไม่ทันที่จะดื่มดำกับชัยชนะเสียงของหมาป่าดำก็ดังแว่วออกมาจากเสาเพลิง

     

    จงขับขานตำนานด้วยร่างที่เจ้าปรารถนา !!!!

    เสาเพลิงแหวกออกพร้อมกับพร้อมกับปรากฏการณ์ประหลาด เมื่อดวงจันทร์ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงก่ำราวกับเลือด

     

    ภายใต้อุปราคาแห่งวันสิ้นโลก (Eclipse of The Apocalypse) แรคนาร็อก!! (Ragnarok)”

    [Limit Break Final Move]

    <<<<< Ragnarok >>>>>

     

    ร่างอวตารแห่งวันสิ้นโลก(Apocalypse) ได้ก้าวออกมาจากเพลิงนรก ชุดเกราะหนาเทอะทะที่เคยสวมใส่ในร่างก่อนหน้าได้หลุดลอกออกไปทั้งหมด เหลือเพียงส่วนน้อยและกลายเป็นสีเทา

    ขนตัวที่เคยเป็นสีดำสนิทได้ย้อมกลายเป็นสีเทาราวกับความมืดที่ได้รับเอาแสงสว่างมารวมไว้ด้วยกัน

     

    สรรพสิ่งทั้งหมดล้วนประกอบขึ้นด้วยความสมดุลของหยินและหยาง

     

    แสงสว่างคือเงาที่ส่องประกาย เงาดำคือแสงที่เงียบสงบ พวกมันคือหนึ่งเดียวกัน

     

    ความมืดเป็นพี่ แสงสว่างคือน้อง พวกเราคือหนึ่งเดียวกัน

     

    จิตวิญญาณของคากามิที่หลับอยู่ในจิตใจของทอล ได้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและร่ำร้องออกมา

    เฟนริล อเมซิ่ง !!!เสียงของทอลตะโกนก้อง

    เดอะ ครอส!!!เสียงของคากามิก็ดังกังวานออกมาเช่นกัน

    บัดนี้พวกเราคือหนึ่งเดียวกัน <<<< Fenrir Amazing The X  >>>>>

     

     

    “……………”

    บุรุษอีกา สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่เห็นแกรนครอสอันลิมิเต็ดเป็นแรกครั้ง ตัวเขาในตอนนั้นได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตะลึงงึนงันเหมือนๆกับคนอื่นที่เป็นสักขีพยานในห้องใต้ดินวันนั้น

     

    เดอะครอส….หรือว่าลิมิตเบรก….”

    แม้จะพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ แต่บุรุษอีกาก็พยายามเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับมือกับ หมาป่าดำที่ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง

     

    ย้ากกกกกก!!!!!!!!”

    เดอะครอส เปล่งแสงสว่างออกมาจากร่างแสงเจิดจ้าย้อมอาบโลกให้กลายเป็นสีขาวในพริบตา

    แล้วเมื่อ เดอะครอสเคลื่อนไหว ก็เกิดแรงช็อกมหาศาลพัดกระหน่ำออกไปทั่วทั้งอาณาบริเวณ พื้นดินลอกออกเป็นแผ่นก่อนจะถูกป่นขยี้เป็นผุยผงและเกิดซ้ำไปซ้ำมาตลอดเส้นทางที่ เดอะครอส วิ่งผ่าน

    ร่างของโกเล็มไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่เมื่อเดอะครอสเดินผ่านพวกมันก็ปลิวลอยละล่องราวกับกระดาษ

     

    อบราคาดาบราอลาคาซัม เวลาเอ๋ยจงหยุด ออะไรกัน

    บุรุษอีกา พยายามจะหยุดโดยใช้พลังควบคุมเวลาเข้าช่วย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเดอะครอสยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอะไรแค่เป็นการเดินย่างก้าวแบบธรรมดาแต่กลับมีความน่าเกรงขามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

     

    อุปราคาแห่งวันสิ้นโลก คราสสีแดงที่ย้อมทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ กลายเป็นตัวตนของสิ่งที่เรียกว่าอสูรมายาทำให้ตัวตนอยู่นอกขอบเขตของกฎแห่งเวลาไปแล้วสินะ

    บุรุษอีกา กล่าวด้วยอาการสงบแม้ว่ามือของเขาจะสั่นอย่างรุนแรงแต่ก็พยายามรักษามาดเอาไว้

     

    แรคนาร็อก จะผลักทุกสิ่งให้กระเด็นออกไป ถ้าหากพุ่งชนใส่ก็จะเป็นการพุ่งชนที่เทียบเท่ากับถูกอุกกาบาตทั้งลูกทุ่มใส่ ถึงจะฆ่าแกไม่ตายแต่พวกเราจะเนรเทศแกให้กระเด็นไปถึงสุดขอบจักรวาลเลย

     

    เอาอย่างนั้นเลยสินะขอรับ……ฆ่าไม่ได้ก็จะเนรเทศแทนเรื่องแบบนั้นน่ะ….เจอมามากพอเกินทนแล้วล่ะ

    บุรุษอีกา บุกเข้าไปชนตรงๆไม่มีหลบหรือหนี ในขณะที่เดอะครอสกระโดดพุ่งขึ้นไปหาเช่นกัน ทันใดนั้นร่างของเดอะครอสก็ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแสง ความเร็วของการพุ่งทะยานก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ

    ครอสอีคริปส์ (X Eclipse)”

     

    ผลของการปะทะกันคือบุรุษอีกา ต้องรับแรงกระแทกที่เทียบเท่ากับอุกกาบาตทั้งลูกทุ่มใส่ จนร่างลอยกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า กระนั้นแล้ว เดอะครอสก็ยังคงทะยานขึ้นไปหาแล้วกระแทกซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ความสูงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งกระแทกมากเท่าไหร่กระดูกในร่างกายก็ยิ่งแหลกละเอียดมากเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับเสียชีวิต สำหรับกรณีที่แย่ที่สุดคือการที่ถูกผลักกระเด็นจนออกนอกชั้นบรรยากาศที่มีแรงดึงดูดโดยที่ยังไม่ตายซะก่อน ก็จะต้องลอยเคว้งอยู่ในอวกาศไปตลอดกาล

     

    -เรื่องแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก- บุรุษอีกาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนั้น

    ทอลคุง….คุณเก่งมากเติบโตขึ้นจากวันนั้นมากเลยทีเดียวช่วงพันปีนี้ไม่มีใครทำให้ต้องเอาพลังนี้มาใช้เลย…….แต่ตอนนี้พลังที่สะสมมาพันปี….โครมไนท์ แล้วก็โบร่อนไนท์ ยังอยู่ตรงนั้นสินะเอาล่ะ………

    โอเวอร์ไรด์!! (Override)

     

    โหลด!!(Load)”

    ……………………………………………………………………

    …………………………………….

     

    เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ทิวทัศน์รอบข้างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ราวกับกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าที่พร่างพรายไปด้วยดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน

     

    หมาป่า….หมาป่าที่อยู่ตรงนั้นน่ะ

    เสียงเรียกนั้นชวนให้รู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยได้ยินมาก่อน แล้วเมื่อหันไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังมาก็รู้สึกช็อกอย่างคาดไม่ถึง

     

    ท่าน..อัลคาเซีย….”

    เบื้องหน้าเดอะครอส คือร่างของเทพีแห่งแสงซึ่งถูกพันธนาการไว้ในถ้าตรึงแขนและขาด้วยวงแหวนสีดำ

     

    ทำไมท่านอัลคาเซียถึงมาอยู่ที่นี่ได้…..แล้วที่นี่มันที่ไหนกันล่ะเนี่ย…”

     

    ที่นี่คือสุดขอบจักรวาล คาบสมุทรแห่งดวงดาวที่ว่างเปล่า ดาร์คเนบิวลา(Dark Nebular)

    เจ้าของเสียงซึ่งดังแว่วขึ้นมาอย่างเป็นปริศนา ได้ก้าวออกมาจากความมืดมิด เฟรมสีขาวที่ดูเหมือนจะเป้นชุดเกราะรูปร่างแปลกประหลาดใบหน้ายาวและมีเขี้ยวโง้งยาวจากกราม ที่เบื้องหลังนั้นวงแหวนสีดำส่องแสงอันไร้ชีวิตชีวาหมุนกวัดแกว่งไปมาอย่างนุ่มนวลราวกับว่ามันกำลังเยาะเย้ยนักโทษผู้น่าสมเพชที่ถูกดูดกลืนมายังนรกแห่งความว่างเปล่า

     


     

    *********โปรดติดตามตอนต่อไป********

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×