ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    12Tails: Tails Apocalypse Ⓣ (Turn Bringer Invasion)

    ลำดับตอนที่ #23 : chapter:20 Attack on Titan & Guren No Yumiya(Blazing Arrow)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 153
      0
      25 พ.ค. 59

     

     chapter:20 Attack on Titan & Guren No Yumiya(Blazing Arrow)

     

    ภายในเขาวงกตโลกิ และกลุ่มของเขาเดินทางไปถึงส่วนลึกสุดปลายทางที่รอพวกเขาอยู่  คือห้องแห่งโอเบลิคส์ ที่นั่นอสูรร้ายแห่งพีรามิด ได้ออกมาต้อนรับพวกเขา และพรากเอาชีวิตของสหายร่วมรบไปถึง2คน

    มัมมี่ยักษ์สูง เกือบ 10เมตร หากมันไม่ได้ยืนก้มโค้ง คงจะสูงเกิน 12เมตรเป็นแน่ ขนาดที่ใหญ่โตของมันทำให้พีรามิดสั่นสะเทือนทุกครั้งที่เคลื่อนไหว ด้วยพลังขนาดที่สามารถถล่มเพดานห้องนี้ทั้งห้องลงมาทับพวกเขาให้บี้แบนได้ในพริบตาไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะมันได้โดยไม่มีการสูญเสีย และพวกเขาก็สูญเสียพวกเสือดาวไปทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ 9 คน ที่ยังต่อสู้ได้ไม่นับแพนด้าแดงก็มีแค่ 8 คนเท่านั้น  คือ ฝาแฝดพาลาดิน กับพวกเสือดำอีก 6 คน และ โลกิ

     

    บ้าชิบนี่มันตัวอะไรกันเนี่ย!”

    เสือดำไอน สบถ ด้วยความกดดันจากสถานการณ์เป็นตายในตอนนี้ทุกคนเองก็อยากจะตะโกน ออกมาเหมือนๆกันเพียงแค่เหยียบเข้ามาในห้องนี้ เพื่อนพ้องก็ตายไปแล้ว 2 คน แล้วยังต้องมาเจอกับยักษ์ใหญ่ที่ลำพังกองทหารเพียงหยิบมืออย่างพวกเขาไม่มีทางจะโค่นมันได้ง่ายๆเลย หนำซ้ำมันยังเป็น ซอมบี้ที่ไร้ความรู้สึกเจ็บปวดจะฆ่ามันมีแต่ต้องทำลายเป็นผุยผงหรือเผาให้มอดไหม้จนหมดในทีเดียว ช่างเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังโดยแท้

     

    --ยังไปไม่ถึงอีกเหรอ….ฟีนิกซ์--

     นี่คือคำภาวนาในใจของโลกิ เขาภาวนาต่อมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าฟีนิกซ์ที่เขาส่งไปยังเมืองแสงเพื่อส่งข้อความจะทำหน้าที่ลุล่วงโดยเร็วเพราะบัดนี้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้มัน เพื่อที่จะโค่นมัมมี่ยักษ์เดธคาเมล จำเป็นต้องใช้พลังไฟที่แข็งแกร่ง กว่า ไฟร์บอล (Fire Ball)หรือ แฟลชไฟร์(Flash Fire) และการจะใช้มันได้เขาจำเป็นต้องใช้ฟีนิกซ์

    ตอนนี้เขาต้องเลือกแล้วระหว่างตัดใจจากความช่วยเหลือที่เมืองแล้วช่วยทุกคนที่ยังรอดอยู่ที่นี่ หรือ ยื้อเวลาออกไปจนกว่าสารจะส่งสำเร็จแล้วค่อยเรียกฟีนิกซ์มา หากเลือกที่จะรอก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกกี่คนที่จะต้องสังเวยชีวิตในระหว่างการรอคอย

     

    "เฮ้ยมีแผนอะไรไหม!"

    เสียงของฮาจิดึงเขากลับมาจากภวังค์ความคิดตอนนี้ทุกคนรอคำสั่งเคลื่อนไหวจากฮาจิอยู่ซึ่งจะสั่งการทันทีเมื่อเขาเสนอแผนการ แต่หนนี้

    โลกิแทบไม่เห็น ทางที่จะเอาชนะได้เลยทว่าหากมัวแต่ลังเลพวกเขาก็จะตายกันหมด ที่สุดแล้วการตัดสินใจที่เขาเลือกคือถ่วงเวลาจนกว่าฟีนิกซ์ จะส่งสารเสร็จ

     

    "ขากับดวงตาเล็งการโจมตีที่สองจุดนี้ทำลายสมดุลของมัน"

     

    "สมดุลงั้นเรอะ เข้าใจแล้ว"

    ฮาจิตอบแล้วจึงหันไปออกคำสั่ง

    " ไอน กับซไว ทำลายดวงตา ไดร ฟึนฟ เฟีย เซค ใช้ค่ายกลสี่ดาราล้อมวงโจมตีทำลายการทรงตัวของมัน ตอนที่มันล้มลงนานะ กับ ชั้นจะใช้ครอสอิมแพคกับแกรนครอส!!”

     

    คำถามผุดขึ้นในหัวของโลกิ เขาตั้งใจฟังคำสั่งของฮาจิและได้ยินมันชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด แต่กลับไม่มีคำสั่งถึงตัวเขาเลยกระนั้นก็ตามการถามอะไรอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่นิสัยของเขา ในเมื่อไม่มีคำสั่งเขาก็จะรอจนกว่าจะได้รับเพราะตอนนี้หัวหน้ากลุ่มคือ ฮาจิ

     

    โลกิ  เฝ้าดูการจู่โจมของกลุ่มซึ่งเป็นไปตามรูปแบบ กลุ่มทหารเสือสี่นาย กระจายกันออกไปล้อมกรอบ

     มัมมี่ยักษ์ ไว้สี่ทิศทาง และอีกสองแยกกันกระโจนขึ้นไปเกาะกับผนังห้องคนละฝั่ง เมื่อฮาจิ ให้สัญญาณ เสือดำที่ล้อมกรอบอยู่ก็เริ่มการโจมตี หอกยาวตั้งฉากกับลำตัวแล้วพุ่งทะยานออกไปสุดแรงขาที่มี ร่างของเสือดำกลายเป็นดั่งกระสุนปืนที่มีปลายแหลมของหอก ราวกับเป็นฉมวกที่ยิงออกไปด้วยปืนใหญ่

    คมหอกแทงทะลุแข้งของมัมมี่ยักษ์ แล้วจึงบิดข้อมือหันคมหอกออกเพื่อกระชากเฉือนเนื้อของมัน

     

     ด้วยสภาพร่างที่เป็นศพแห้งๆ ทำให้การถอนคมหอกออกมาไม่ใช่เรื่องยากเย็นและยังสร้างความเสียหายให้กับมันได้หมากกว่าการแทงแล้วถอนออกตรงๆ ขาที่บาดเจ็บทำให้ร่างมหึมาเริ่มเสียสมดุล

    ขาขวาของมัมมี่ยักษ์ทรุดลงหนึ่งข้าง ร่างของมันทรุดตามลงมาด้วยนั่นทำให้ความสูงของมันลดต่ำลงมาจนถึงระยะกระโดดของ เสือดำสองนายที่เกาะผนังห้องรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งคู่ก็กระโจนออกจากผนังทั้งสองฝั่งพร้อมๆกันแล้วซัดหอกออกไปโดยเล็งที่ดวงตาของมัน คมหอกเสียบทะลุเบ้าตาของเหลวสีเขียวไหลทะลักออกจากดวงตาของมันมันร้องคำรามโหนหวนราวกับเจ็บปวดเจียนตายทั้งที่มันเป็นเพียงซากศพที่ตายไปแล้ว

     

    เมื่อดวงตาถูกทำลายการเคลื่อนไหวจึงเริ่มสะเปะสะปะ ในที่สุ ร่างมหึมาก็เสียหลัก ทรุดล้มลงกับพื้นขนาดร่างกายของมันแทบจะยัดเต็มบ่อกลางห้องที่พวกเขายืนอยู่ วินาทีนี้ทุกคนกระจายแยกย้ายกันไปคนละทิศ จนแตกออกจากรูปกระบวนจู่โจมในตอนแรก

     

    ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์ พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ

    ..........”

    พระสูตรขับขานพี่น้องหมาป่าประสานเสียง มานาในบรรยากาศกลั่นตัวกลายเป็นอณูของแสงสว่าง

    หลั่งไหลมารวมยังคมดาบของทั้งคู่ ใบดาบเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าราวกับแสงแรกเช้าแห่งรุ่งอรุณ หมาป่าทั้งสองกระโจนตัวขึ้นสู่อากาศ เบื้องบนเหนือร่างของมัมมี่ยักษ์ เมื่อแรงส่งจากากรกระโดดหมดลงทั้งคู่ร่อนลงพร้อมกับฟาดดาบแสงสว่าง

    ลงบนร่างของมัน

     

    พระอาณาจักรจงมาถึง !!”

    เสียงประกาศก้องกังวาน จากแสงสว่างบนใบดาบได้แผ่พุ่งออกไปสี่ทิศทางเป็นลักษณะของกางเขน แสงสว่างลุกไหม้กลายเป็นอัคคีสีขาว เผาไหม้ร่างมหึมาอย่างรวดเร็ว เมื่อไฟดับลงก็เหลือเพียงกองขี้เถ้ามากมายมหาศาลเท่านั้น

     

    สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่แต่ซากขี้เถ้าที่เคยเป็นร่างมหึมาของมัมมี่ยักษ์ ซึ่งมันได้ฆ่าพวกของเขาไปถึงสองคนตอนนี้พวกเขาได้ล้างแค้นให้กับเพื่อนนักรบด้วยกันได้แล้ว

     

    นูบี้!!!

    เสียงร้องแหลมเล็กดังลอดเข้ามาท่ามกลางความเงียบสงัด ทุกคนหันไปยังทิศทางเดียวกัน ที่ประตูอีกฟากหนึ่งของห้องอานูบี้ มากกว่าสิบตัว กำลังทยอยเข้ามาภายในห้องแล้วเริ่มบริกรรมคาถา เกิดแสงสว่างขึ้นบนพื้นห้องตีเส้นเป็นสัญลักษณ์วงเวทย์ พวกเขารู้ได้ในทันทีว่านั่นหมายถึงอะไร หากพวกมันทำสำเร็จสิ่งที่พวกเขาทำกันมานั้นจะสูญเปล่าในทันที ทุกคนจับอาวุธของตนเองแล้วบุกตรงเข้าไปหมายจะขัดขวางพิธีกรรม ทว่า

     

    โอววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    เสียงคำรามอันคุ้นเคย ดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องอีกครา  เมื่อพวกเขาหันกลับไปมอง ร่างมหึมาที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากกองขี้เถ้า พวกอานูบี้ชุบชีวิตให้กับ เดธคาเมล เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

     

    ร่างมหึมานั้นยกเท้าขึ้นก่อนจะปล่อยให้กระแทกลงกับพื้นห้องอย่างรุนแรง  ผลที่ตามมาคือห้องทั้งห้องสั่นสะเทือนไปชั่วขณะ เพดานก้อนอิฐเริ่มถล่มลงมา โดยที่ไม่ทันตั้งตัว เสือดำ 3 นายก็ถูกทับอยู่ใต้กองก้อนอิฐเหล่านั้นเสียแล้ว

     

    ไอน! ซไว! ไดร!”

    พวกเสือดำที่ยังเหลือรอด พยายามเรียกชื่อของเพื่อนๆที่ถูกทับอยู่ใต้กองก้อนอิฐ พวกเขาพยายามจะขนย้ายก้อนอิฐออก

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกก!!

     

    เสียงกรีดร้องอย่างทรมาน ดังลั่นไปทั้งห้อง ฮาจิหันไปมองยังต้นเสียงนั้น สายตาของเขาได้เผชิญกับภาพอันหน้าสยดสยองที่สุดยิ่งกว่าสมรภูมิไหนๆ พวกทหารเสือดำที่เหลือรอดอยู่นั้นถูกบี้จนร่างแหลกเหลวเละกลายเป็นกองเลือดสดๆอาบชโลมบนกองก้อนอิฐที่ทับพวกเสือดำที่หนีจากการถล่มของเพดานไม่ทัน

     

    ฮาจิ กัดฟันของเขาแน่น เพื่อข่มความเศร้าโศกเอาไว้ ตอนนี้เขาต้องรวบรวมพรรคพวกที่ยังเหลือรอด ไป

    ตั้งหลักกันใหม่เสียก่อน นอกจาก นานะ น้องชายฝาแฝดของเขาที่ตอนนี้ขาหักเพราะถูกลูกหลงจากเพดานถล่มใส่จนขยับไม่ได้ ที่ฝั่งตรงกันข้าม เขาเห็นโลกิ กำลังอุ้มแพนด้าแดง หลบหลีก เพดานที่ถล่มลงมา โดยพยายามวิ่งมารวมกลุ่มกับพวกเขา

     

    ในที่สุดเพดานก็หยุดถล่มลงมา พวกพ้องของเขาตายจากการถล่มของเพดานไปถึง 6 คนหนำซ้ำ ศัตรูยังฟื้นคืนชีพได้เรื่อยๆ พวกเขาไม่มีกำลังมากพอจะจัดการกับ อานูบี้จำนวนขนาดนั้น ไปพร้อมๆกับจัดการ

     เดธคาเมลไปด้วยหนทางรอดของพวกเขามันถูกปิดตายโดยสมบูรณ์

     

    โอวววววววววววววววว

     

    เดธคาเมล คำรามด้วยเสียงอันกึกก้องของมันอีกครั้ง ราวกับกำลังหยามน้ำหน้าพวกเขาว่ามีปัญญาทำได้เพียงเท่านี้เองงั้นหรือ

     

    ในที่สุด ฮาจิ ก็พยุง นานะน้องชาย ของตนมารวมกลุ่มกับโลกิ ที่อุ้มแพนด้าแดงมาแต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรดี

     

    ระวัง!!”

    นานะ ตะโกนเสียงดังลั่น พร้อมกับใช้แรงเฮือกสุดท้ายเท่าที่จะเค้นได้จากร่างกายที่บอบช้ำผลักเอาร่างของพี่ชายให้กระเด็นออกไปจนไปล้มอยู่กับพื้นใกล้ๆ

     

    ทำบ้าอะไรของนายวะน่ะ นานะ…..”

    ฮาจิ บ่นขณะที่พลิกตัวลุกจากพื้น คำพูดของเขาถูกกลืนลงไปในลำคอจนหมด ร่างของน้องชายฝาแฝด

    ตกอยู่ในอุ้งมือของมัมมี่ยักษ์ ค่อยๆถูกแรงบีบจากมืออัด เสียงกระดูกในร่างกายหักเปาะเลือดทะลัก

    ออกจากปาก หู จมูกและดวงตา อวัยวะภายในร่างกายแหลกเหลว โดยสมบรูณ์ ร่างของนานะที่สิ้นใจไป

    แล้ว ถูกจับกรอกลงไปในปากของมัน ฟันหน้าเขมือบกัดและฉีกทึ้งจนร่างกายขาดออกจากกันเป็นส่องท่อน

    ร่างกายส่วนบนของนานะ ตกลงไปอยู่ในท้องของมันแล้วก่อนจะตามไปด้วยส่วนที่เหลือยู่ในมือ

     

    พี่ชายฝาแฝดซึ่งเห็นน้องของตนถูกกินไปต่อหน้าแบบนั้น ความรู้สึกของเขาจะเป็นอย่างไร

    โลกิ เริ่มเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขามองไปยัง ฮาจิ ที่นิ่งค้างอยู่อย่างนั้นหลังจากนานะถูกกินเข้าไป

     

    หลังจากที่กลืนทั้งหมดของนานะลงท้องไปแล้ว เดธคาเมล จึงเริ่มเกมล่าของมันต่อใครกันที่จะถูกเขมือบเป็นรายต่อไป พวกเขาต้องรีบขยับตัวกันแล้วแต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีที่จะให้พวกเขาหนีไปได้อยู่ดี

    รอบห้องถูกล้อมไว้ด้วยฝูงอานูบี้ไม่มีหนทางหนีออกไปได้เลย ด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้

     

    อุ้งมืออันใหญ่โต เคลื่อนเข้ามาหาพวกเขาทั้งสาม โลกิ ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว

    แต่เพราะการตัดสินใจชักช้านี้เอง ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาร่ายคาถา เพื่อโจมตีสวนกลับได้

    อุ้งมือยักษ์ตรงรี่เข้าหาแพนด้าแดงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา โลกิ รีบพลิกตัวเพื่อหันเอาแพนด้าแดงออกจากทิศของมือ ทำให้ร่างของเขาตกเป็นเป้าแทน

     

     

    จงถือพระแสงแห่งพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า !”

    ( the sword of the Spirit, which is the word of God.)

    แสงสว่างเจิดจ้าลอดผ่านหลังมือของมัมมี่เข้ามาตกกระทบใส่พวกเขาตามมาด้วยเสียง หึ่งสั้นๆเหมือน

    เสียงเหวี่ยงอะไรบางอย่าง เมื่อโลกิ หันกลับไปก็พบว่ามือของเดธคาเมล ตกอยู่บนพื้นตรงหน้าพวกเขา

     

    เสียงร้องคำรามของมันดังลั่นไปทั้งห้องอีกครั้ง มือของมันถูกตัดจนขาดออกจากแขนก่อนที่จะได้ทันแตะต้องถูกพวกเขา และคนที่ทำแบบนั้นได้ก็คือ ฮาจิ ที่เขาคิดว่าตกห้วงภวังค์ของการสูญเสียน้องชายไปจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว ด้วยพระสูตรที่ ฮาจิ ร่ายขึ้นมาก่อนหน้านี้ทำให้ดาบคู่ของเขาเปล่งรัศมีแสงสว่างเจิดจ้า

    และแสงนั้นยังคงรูปของความพลิ้วไหวที่หักเหไปมาให้อยู่ในรูปของคมดาบ สิ่งนี้คือวิชาที่พลังรองลงมาจากครอสอิมแพค เมื่อพาลาดินต้องการจะต่อสู้ด้วยเพลงดาบ พวกเขาจะรวบรวมมานา

    มาสถิตลงยังใบดาบและคงรูปของมันให้เป็นออร่าแสงสว่าง จนคล้ายคลึงกับ ดาร์คเอจ

    ที่ เรจิ หรือ คากามิ ใช้ ออร่าสีดำห่อหุ้มใบดาบ มันคือดาบแห่งพระวจนะ ดาบศักดิ์สิทธิ์(Holy Sword)

     

     

     

    =====================Holy Sword===================

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮาจิใช้ดาบแสงนี้ตัดมือของ เดธคาเมลจนขาดสะบั้นก่อนที่มันจะแตะต้องโลกิ พลังแสงที่ห่อหุ้มใบดาบ

    จะก่อให้เกิดความร้อนยามที่สัมผัสถูกวัตถุและจะเผาไหม้วัตถุจนทำให้สถานะของวัตถุอ่อนลงและง่ายต่อการตัดเฉือนของคมดาบด้วยการเสริมพลังแบบนี้เอง ดาบของฮาจิจึงมีพลังทำลายมากพอจะสู้กับมันได้

    บ้าง

     

     “จนกว่าจะส่งสารสำเร็จห้ามตายไปก่อนฉันซะล่ะ

    ฮาจิ พูดโดยไม่ได้มองหน้าโลกิ และไม่ได้เห็นสายตาของโลกิที่สะท้อนแววของความแปลกใจออกมา

    และเมื่อได้มองดูการขยับร่างกายของ ฮาจิ โลกิจึงรู้ได้ในที่สุดว่าตอนนี้ ฮาจิ กำลังฝืนร่างกายตัวเอง

    จิตใจที่ท้อแท้และโศกเศร้า ถูกข่มเอาไว้ด้วยความเชื่อต่ออะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นแค่จะลุกขึ้นเดิน

    เหินไปมา ฮาจิ ก็คงจะทำไม่ได้ หัวใจของเขาคงหมดอาลัยตายอยากไปแล้วก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้น

    เขาก็ยังลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องโลกิ ที่ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด

    ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องต่อสู้เพื่อเขาขนาดนี้เลย ด้วยความสงสัยที่มีอยู่อย่างเต็มอก จึงถามออกไปในทันที

     

    ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้น เพื่อผมงั้นเหรอ?!”

     

    รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของ ฮาจิ เขาทำท่าเหมือนจะหัวเราะอยู่ในลำคอแต่ก็เงียบเสียงลงไปก่อน

    จะตอบด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุดของเขา

     

    เพื่อนายเหรอ…..ก็ไม่เชิงฉันไม่ใช่คนดีขนาดจะปกป้องคนที่ไม่รู้จักกันได้หรอก แต่นายตัดสินใจจะแบกรับภาระที่จะส่งสาร ภาระที่จะเป็นตัวกำหนดความเป็นตายของพวกเรา ถ้าหากไม่มีนายพวกเราทั้งหมดที่

    อยู่ที่นี่ก็คงจะตายกันหมดหรือไม่ก็ตายอย่างไร้ค่า ในเมื่อนายตัดสินใจที่จะแบกรับสิ่งเหล่านั้นแล้ว

     ทั้งฉัน ทั้งนานะ แล้วก็พวกพ้องที่ตายไป ก็จะขอแบกรับชีวิตของนายในฐานะพวกพ้องของพวกเราด้วยเหมือนกัน”

     

    สิ้นคำ พาลาดินหมาป่าสีแดง ก็โจนทะยานออกไปดังสายลมยกดาบแสงทั้งสองเล่มขึ้นเข้าต่อกรกับ

    มันมี่ยักษ์ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายทั้งหมดที่มีเพื่อจะปกป้อง พวกพ้องที่สำคัญ  บัดนี้ ความรู้สึกของเขาได้ส่งไปถึงโลกิ ผู้ไม่เคยมีเพื่อนแล้ว สิ่งที่ทำให้ทั้งสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน ทั้งแข็งแกร่งและเปราะบาง

    โปร่งใสและไร้สีสันแต่กระนั้นมันก็ยังสวยงาม มันสามารถกดข่มความรู้สึกของการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่

    ให้สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ นี่คือคำตอบของคำถามที่เขาสงสัย

     

     

    ด้วยอุ้งมืออันแข็งแกร่งอีกข้างที่ยังเหลืออยู่ เดธคาเมลจับ หมาป่าแดงได้ในที่สุด และหมายจะบดขยี้

    ให้ตายคามือเหมือนที่ทำกับ นานะ แต่หนนี้มันจะไม่ได้กลืนกินเหยื่อของมันอย่างที่หวังได้ง่ายๆ

    ด้วยดาบแห่งแสง ฮาจิ ออกแรงบิดตัวเพื่อให้ดาบแสงที่ถูกมือของมันกำอยู่กับร่างของเขา

    ผ่านิ้วของมันจนขาดสะบั้น เมื่อหลุดออกจากอุ้งมือมาได้แล้วเขาถีบตัวสุดแรงอีกครั้ง กระโจนขึ้นไปจนถึงระดับศีรษะของมัน แต่ เดธคาเมล ก็รออยู่แล้วเช่นกันจังหวะก่อนที่ ฮาจิ จะทันฟาดดาบนั้นเอง

    ปากของ เดธคาเมล ก็ยกขึ้นพร้อมกับเขมือบร่างกายท่อนบนของฮาจิ เข้าไปร่างกายช่วงล่างขาดสะบั้นและหลุดร่วงลงจากปากของมัน มันกลื่นร่างท่องบนของ ฮาจิ เข้าไปด้วยท่าทีสบายอารมณ์

    และในตอนัน้นเองที่มันได้รับรู้ว่า ความน่ากลัวของการจู่โจมพลีชีพนั้นเป็นอย่างไร ภายในท้องของมัน

    ฮาจิ ที่น่าจะขาดใจตายไปแล้วยังประคองสติใช้แรงเฮือกสุดท้าย ปักดาบแสงลงบนร่างของตนเอง

     

    “…….พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์!!”

    คำพูดสุดท้ายเท่าที่เขาจะเค้นแรงพูดออกมาได้ คือพระสูตรของท่าแกรนครอส และในตอนนี้

    ดาบแสงที่ปักอยู่บนร่างของเขาก็ได้เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นยิ่งกว่าเดิมแสงสว่างนั้นกลืนกินทั้งหมด

    ทั้งร่างของเขา ไปจนถึงชิ้นส่วนร่างของ นานะ ที่ถูกย่อยอยู่ในกระเพาะของมัน

    ร่างของมัมมี่ยักษ์ แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ และลุกไหม้ด้วยไฟสีขาว พร้อมกับแสงสว่างที่แพรกระจาย

    ไปทั้งห้อง

     

    แสงสว่างนี้ให้ความกระจ่างกับคำตอบของคำถามที่ โลกิ ถามไป

     

    -ทำไมต้องทำเพื่อตัวเขาเองขนาดนี้-

    -เพราะนายคือพวกพ้อง-

     

    “….ทั้งโศกเศร้าและมีความสุขไปด้วยกัน ทั้งอ่อนแอ แต่ ก็เข้มแข็ง ทั้งที่ไร้ซึ่งสีสันแต่ก็สวยงาม

    นี่สินะมิตรภาพ น่ะ”

     

    โลกิ ซึ่งได้เข้าใจและได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพนั้น ได้เฉิดฉายดังแสงสว่าง

    ไฟชีวิตของ ฮาจิ ได้มอดดับลงไปพร้อมๆกับแสงสว่างของ แกรนครอส ที่จางลง

     

     

    คุณโลกิ…”

    แพนด้าแดง เรียกชื่อของเขาแต่โลกิ ก็ไม่ได้ตอบรับอะไรกับคำเรียกนั้นสายตาของเขายังคงค้างอยู่กับ

    ภาพเมื่อครู่

     

    ……………………………………………………………..

    ………………………………….

     

    ขณะเดียวกันที่นครแห่งแสงนั้น กษัตริยา ราชาแกะสาวผู้ปกครองนคร ก็ได้รับหมายสารจาก

    ฟีนิกซ์ของโลกิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ……………………………………

    …………………………………………………………………………………………

     

     

     

     

     

    ด้วยสัมผัสที่เชื่อมโยงถึงกันระหว่าง ฟีนิกซ์กับโลกิ เขารับรู้ได้ว่าหน้าที่ ซึ่งได้มอบหมายให้กับฟีนิกซ์

    จบลงแล้ว ถึงอยากจะแสดงความดีใจที่ภารกิจของเขาสำเร็จลงในที่สุด และคนอื่นที่ยังเหลือรอดในพีรามิดก็จะได้รับความช่วยเหลือแล้วก็ตามแต่ มัมมี่ยักษ์ เดธคาเมล ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะถูกระเบิดจากภายในจนร่างกายกระจายเป็นเสี่ยง แต่เพราะไม่ได้จัดการกับพวกอานูบี้ที่ล้อมห้อมเอาไว้ พวกมันจึงได้บริกรรมคาถาคืนชีพให้กับ เดธคาเมล

     

    อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถึงแม้เขาจะตายก็ไม่สำคัญอีกแล้ว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดิ้นรนอีก เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่สามารถรอดไปจากตรงนี้ได้

     

    ไม่ได้!”

    โลกิ สบถออกมา เขาแทบไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าทำไมถึงได้สบทออกมาแบบนั้น แพนด้าแดงเองก็มองมาที่เขาด้วยสายตาฉงน

     

    ถ้าตัดใจไปทั้งๆแบบนี้แล้วชีวิตของพวกนั้นล่ะ! นายเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอไงว่ามันคืออะไร!”

    ปากของเขาขยับไปเอง ทั้งที่ใจไม่ได้นึกจะพูดแบบนั้น เพราะในตอนนี้ไม่ว่าจะประมวลผลยังไง

    เขาไม่มีทางจัดการกับเดธคาเมลได้ตามลำพังแน่ หากเป็นเขาในตอนนี้ที่ยังทุกคนอยู่ ก็ยังพอจะจัดการ

    กับปีศาจที่ไม่มีวันตายตรงหน้านี้ได้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ตอนนี้ถึงเขาจะฆ่าเดธคาเมลได้ แต่ก็จัดการอานูบี้ไมได้ หรือต่อให้จัดการอานูบี้ทั้งหมดได้เขาก็คงไม่เหลือพลังพอจะจัดการกับเดธคาเมล

     

    ฉันจะ….มีชีวิตอยู่ต่อไปใช้ชีวิตต่อไปแทนในส่วนของพวกนั้น ฉันจะสู้!!”

     

    ในที่สุดโลกิ ก็เข้าใจว่าคำพูดที่สวนทางกับความสิ้นหวังในหัวใจของเขามันมาจากไหน

     มันหลั่งไหลออกมาจากจิตใต้สำนึก ว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตเมื่อมีภูมิปัญญาในระดับสูงก็จะสามารถ

    ควบคุมตัวเองไม่ให้เต้นไปตามอารมณ์และความรู้สึก เขารู้ว่ามันคืออารมณ์ชั่ววูบที่อาจจะมาจาก

    ความโกรธแต่เขากลับสมเพชปัญญาของตัวเองมากกว่าที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆกันแน่

     

    โลกิ ตัดสินใจได้ดังนั้นเขาจึงวางแพนด้าแดงลง แล้วดีดนิ้วเปาะนึงเพื่อเรียกมิเกะมิเกะ ภูตรับใช้ของเขาออกมา ไอควันปรากฏขึ้นในอากาศพร้อมกับการมาถึงของ ภูตรับใช้ตัวน้อยซึ่งมีรูปร่างกลมป้อมขนาดเท่าฝ่ามือ มานาในบรรยากาศกลั่นตัวมารวมกันยังร่างของโลกิ พวกมันแทรกซึมเข้าไปไหลเวียนในกระแสเลือด

    จนทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นสีแดง นี่คือวิชาที่จะช่วยให้เขาใช้เวทได้โดยไม่ต้องร่ายคาถา

    อินสแตนท์คาส

     

    อินสแตนท์คาส! ออกมาฟีนิกซ์!!”

     +  

     

     

    ===========================================

     

     

    [InstantCast + Phoenix] Combo to -->  Instant Pheonix

    ===========================================

     

    เมื่อผสาน อินสแตนท์คาส เข้ากับการอัญเชิญอสูรรับใช้ ทำให้เขาเรียกฟีนิกซ์ออกมาได้โดยละขั้นตอนการร่ายคาถาไป วิหกเพลิง พุ่งขึ้นมาจากพื้นทะยานขึ้นไปสู่อากาศบัดนี้การตอบโต้ของ อัจฉริยะ ผู้ลุกโหมไปด้วยความโกรธกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

     

     

    จากการที่ โลกิ เรียกฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นสาวกของสังกัดแห่งเทพไฟมูราดิน ออกมานั้นก่อให้เกิดความโกลาหลในหมู่พวกอานูบี้ขึ้นมา ราวกับว่าพวกมันหวาดกลัวต่อเปลวไฟสีแดงฉานที่ปล่อยออกมาจากร่างของ

    วิหกเพลิง

     

    ย้อมนภาให้เป็นสีชาด จงทะยานไปด้วยปีกแห่งเพลิง สกายคริมสัน!!”

     

    ===================Sky Crimson=============

     

    โลกิ ออกคำสั่ง แล้ววิหกเพลิงจึงขับเปลวไฟออกจากขนของมันมาห่อหุ้มร่างเอาไว้จากนั้นจึงทะยานขึ้นสู่เพดานห้องแสงสีแดงสาดออกมาจากร่างเพลิงของ ฟีนิกซ์อาบย้อมห้องทั้งห้อมให้กลายเป็นสีแดงไปชั่วขณะ ร่างเพลิงของฟีนิกซ์ ร่ายรำอย่างงดงาม และยามมันร่ายรำ ไฟซึ่งห่อหุ้มร่างกายก็จะหลุดและ

    ตกลงไป ยังกลุ่มของพวกอานูบี้ ที่ยืนล้อมอยู่รอบห้อง

    เพียงแค่พริบตาฝูงอานูบี้ ได้แตกกระเจิงกันไปคนละทิศทาง หลายตัวถูกไฟครอกตายในทันที และฟีนิกซ์

    ก็ยังไม่หยุดร่ายรำ ลูกไฟจึงโปรยปรายลงมาราวกับฝนแห่งเพลิง เดธคาเมล ที่ถูกฝนเพลิงเล่นงาน ก็ต้องขยับเดินไปมาเพื่อหลบหลีกและนั่นทำให้มันเผลอไปเหยียบโดนเอาพวกอานูบี้ที่หนีไฟลงมายังบ่อข้างล่าง

     

    ในระหว่างที่พวกมันกำลังวุ่นวายกันนี้เอง โลกิ คว้าตัวแพนด้าแล้วปีนขึ้นจากบ่อ ทันที

    เมื่อขึ้นมาได้แล้วเขาวางตัวแพนด้าแดงลง ก่อนจะเริ่มร่ายคาถาใหม่ โดยที่ ภูตรับใช้ มิเกะมิเกะ

    คอยบินวนอยู่รอบๆระหว่างพวกเขาเพื่อป้องกันอันตรายให้

     

    เดธคาเมล เริ่มหมดความอดทน มันกระทืบเท้าเพื่อถล่มเพดานลงมาหวังจะให้หินเพดานทับ

     ทั้งฟีนิกซ์ ทั้งโลกิ และพวกอานูบี้ที่ ลงมาวุ่นวายอยู่ที่เท้าของมันไปพร้อมกัน นี่อยู่นอกเหนือจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้มาก แต่มันกลับเป็นผลดีกว่าที่คิด เพราะต่อให้ฟีนิกซ์ถูกเพดานถล่มทับแต่มันก็จะ

    ฟื้นคืนชีพกลับมาได้เพราะเป็นวิหกอมตะ และตอนนี้พวกเขาก็มีมิเกะมิเกะ ที่คอยปัดป้องหินเพดานที่

    ตกลงมาในระหว่างร่ายคาถาอีกด้วย ดังนั้นการถล่มเพดานนี้เท่ากับเป็นการช่วยพวกเขาฆ่าพวกอานูบี้ทั้งหมดไปในตัว

     

    เมื่อเพดานห้องหยุดถล่มลงมา ผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในห้องนี้ก็เหลือเพียง เดธคาเมล กับพวกเขาเท่านั้น

    ฟีนิกซ์ และ อานูบี้ต่างก็ถูกทับตายอยู่ในกองหินเพดานที่ถล่มลงมา

     

    โลกิ ดีดนิ้วขึ้นหนึ่งเปาะ ซากของฟีนิกซ์ที่ถูกทับอยู่ใต้กองหินก็เกิดลุกไฟขึ้นและมอดไหม้กลายเป็นธุลีเถ้า

    แล้วกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่จากเถ้าธุลีนั้น ในช่วงที่เพดานห้องถล่มเขาได้บริกรรมคาถา ไฟร์บอล

    แล้วทำการหน่วงเวทเอาไว้เพื่อรอการปลดปล่อย โดยหน่วงไว้สองลูกด้วยกัน

     

    ==================Fire Up Keep==============

    เพิ่ม 20 dmg ให้สกิล fireBall และทำให้สามารถเก็บไว้ใช้ได้สองลูก (กดโจมตีปกติครั้งต่อไป)]

     

    เกนลูเบนิล ดิ นิลเบลูเกน!”

    โลกิ ประกาศรหัสเริ่มต้นการร่ายคาถาของเขา พร้อมๆกับจับตัว มิเกะมิเกะ ขว้างออกไป มิเกะมิเกะ ลอยเข้าไปกระแทกใส่หัวของ มัมมี่ยักษ์ นั่นทำให้มันเบนความสนใจมาที่เขา โลกิ รีบวิ่งออกจากที่ไปทันที

    เพื่อล่อให้มันตามเขาออกมา เมื่อทิ้งระยะห่างมามากพอ ก็ผายมือทั้งสองข้างให้หงายขึ้นแล้วอังมือเป็นงุ้ม

    พร้อมกับใช้พลังจิตใจที่เหลืออยู่กลั่นมานาในบรรยากาศมาก่อดวงไฟแห่งเวทมนต์บนงุ้มมือทั้งสองของตน

    ไอควันจากดวงไฟก่อตัวเป็นอักษรโบราณ 5 ตัวด้วยกันริมฝีปากขยับเอ่ยร่ายบทคาถาด้วยภาษาโบราณ

     

     

     

     

     

     

    เกโอฟู โอเธล ซีเกล ยูวห์ อิง ”( Geofu Othel Sigel Eoh Ing)

    [พรแห่งราชาสุริยะล้างผลาญโลกา]

     

    เดธคาเมล ไล่ตามเข้ามาในระหว่างที่ บริกรรมคาถามานาจำนวนมากปรากฏขึ้นในอากาศด้วยสภาพของ

    อณูละอองที่เปล่งประกายด้วยแสงสีแดงเพลิง พวกมันล่องลอยอยู่รอบๆตัวของโลกิ และมารวมตัว

    กันที่ดวงไฟในงุ้มมือทั้งสองข้างของเขา เมื่อการร่ายคาถาสิ้นสุดลง ดวงไฟในมือแปรเปลี่ยนเป็น

    เป็นแสงสว่างพุ่งผ่านอักษรควันแล้วกลายเป็นตัวอักขระโบราณจำนวนมากเรียงต่อกันเป็นสายพุ่งเข้า

    ไปมัดร่างของมัมมี่เดธคาเมล แต่สายอักขระนั้นก็มิได้พันธนาการ ร่างของมันไว้ยังคงตรงรี่เข้ามา

    หมายจะจับเขากิน

     

    อันซูส!!(จงตอบรับ)   ปลดปล่อย!! ไฟร์บอล

    โลกิ ประกาศลั่น พร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า ลูกบอลเพลิงสองลูกพุ่งทะยานออกจากมือของเขาด้วยความเร็วราวกับลูกกระสุน เดธคาเมล รับลูกไฟในระยะเผาขน ความแรงของการระเบิดตัวของลูกบอลไฟทำให้มันชะงักไปชั่วขณะ มิหนำซ้ำ พลังทำลายที่มันได้รับจากลูกบอลเพลิงยังมีมากกว่าปกติ

    ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากเวทย์สายอักขระที่รัดตัวมันเอาไว้ช่วยเพิ่มพลังทำลายของไฟร์บอลทำให้

    มันโดนการโจมตีนี้แรงขึ้น

     

    ไฟร์บอลของคุณโลกิ แรงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?!”

    แพนด้าแดงอุทาน ที่ผ่านมาเขาก็เห็นวิชานี้มาหลายครั้งแล้วแต่มีครั้งนี้ที่เขารู้สึกได้ว่ามันรุนแรงกว่าทุกครั้ง


    ================= World Ignition ==================

     

    เวิลด์อิกนิชั่น เวทอักขระขั้นสูงสุด ซึ่งช่วยเพิ่มความเสียหายให้กับสิ่งที่ถูกเวทนี้

    โลกิ กล่าวพร้อมกันเปลี่ยนมือมาวางในท่าใหม่โดยให้มือขวายื่นออกไปสุดแขนส่วนมือซ้าย

    เลื่อนมาประชิดอกทำเป็นซองแขน ขาซ้ายแยกออกเพื่อวางสมดุลของเท้า

     

    โดยพร้อมกันฟีนิกซ์ ได้บินลงมาและเปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นลูกศรเพลิง

     

    กุเรนโนะยูมิยะ!!” (Guren No Yumiya = Blazing Arrow)

    สิ้นคำ ศรแห่งเพลิงซึ่งเกิดจากฟีนิกซ์ ถูกผลักออกไปด้วยมือซ้ายดันออกไปจนสุดแขน ศรเพลิงพุ่ง

    ทะยานออกจากซองแขน พุ่งผ่านร่างของเดธคาเมล และเผาไหม้มันด้วยเพลิงที่ร้อนแรงที่สุด

     

    =================Blazing Arrow=================

     

    ร่างของมัมมี่ตกอยู่ในเปลวไฟ และทำท่าจะล้มลงโดยจะทับใส่ โลกิ พอดีแต่ทว่า

     

    และความสามารถอย่างที่สองของ เวิลด์อิกนิชั่น เมื่อสะสมความเสียหายจนถึงระดับหนึ่งก็จะระเบิดออกมา

     

    โลกิ เปรยพร้อมกับดีดนิ้วขึ้นอีกเปาะหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับไม่หวั่นเกรงต่อ

    ร่างยักษ์ที่ลุกโหมด้วยไฟกำลังจะหล่นลงมาทับตน

     

    เวิลด์ เอนด์”(World End)

     สิ้นคำเสียงที่ตามมาคือการระเบิดครั้งใหญ่ที่เสียงนั้นสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งพีรามิด ร่างของ

    เดธคาเมลที่ลุกไหม้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เปลวเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บนตัวของมันลุกลามมากขึ้น

    และเผาไหม้รุนแรงขึ้น ร่างมหึมาตรงหน้ามอดไหม้เป็นจุลโดยไม่เหลือแม้แต่เศษขี้เถ้าใดๆให้มันฟื้นคืน

    ชีพได้อีกต่อให้ยังมีอานูบิสที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้องนี้อีกก็ตาม

     

    ชนะแล้ว!”

    แพนด้าแดง พูดออกมาโดยอัตโนมัติ หลังจากที่ได้เห็นร่างมหึมาของ เดธคาเมล อันตรธานหายไปต่อหน้า

    ในที่สุดพวกเขาก็มั่นใจได้แล้วว่ามันจะไม่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน หลังจากการต่อสู้จบลง

    โลกิ รู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักอึ้งราวกับก้อนหิน เป็นผลมาจากการรีดเร้นพลังจิตใจทั้งหมดที่มี

    ออกมากลั่นมานาเพื่อโจมตีต่อเนื่องชุดใหญ่ ทำให้จิตประสาทของเขารับภาระมากเกินไปจนรู้สึกเหนื่อยล้า

    เขาเดินโซเซ เข้าไปหาแพนด้าแดงที่กำลังโบกมือรอเขาอยู่

     

    คุณโลกิ ข้างหลัง!”

    แพนด้าแดง จู่ก็ตะโกนขึ้นมา โลกิ ชะงักไปเป็นเพราะเขาเห็นเงาของอะไรซักอย่างซ้อนทับร่างของเขาอยู่

    เงานั้นมีขนาดที่ใหญ่พอๆกับความสูงของห้อง เขารู้ได้ในทันทีมันกลับมาอีกครั้งแล้ว

     

    เดธคาเมล แต่คราวนี้ในห้องมีเพิ่มขึ้นมาถึง 5 ตัวด้วยกันและหนึ่งในนั้น ได้เงื้อคมเขี้ยวเข้าหาเขา

    ร่างของ ลิงหนุ่มถูกกลืนลงไปในคำเดียว ต่อหน้าต่อตา

     

    คุณโลกิ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     

    **************************โปรดติตดามตอนต่อไป*************************** 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×