ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #48 : Login 46: มุ่งหน้าสู่จุดจบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 979
      56
      31 ธ.ค. 59

    ประกาศแก้ไขขอทำการเปลี่ยนวิธีเขียนชื่อของ ลิเทียม เป็น ลิเธียม ครับ


    Login 46: มุ่งหน้าสู่จุดจบ

     

                ...ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย...

                บนพื้นถนนหน้าประตูวิทยาลัย

                ก่อนที่คมดาบของอิงศรซึ่งโดนปีศาจสิงสู่จะกระทบกับดาบของลิเธียม

                "ถ้างั้นดิฉันขอห้าคนตรงนั้นก็แล้วกัน"

                ไทเทเนียมพูดแล้วจึงแยกตัวไป หล่อนย่างเท้ากึ่งวิ่งกึ่งกระโดดไปด้วยท่าทางน่ารัก หลังจากนั้นเสียงประดาบของชายทั้งคู่ก็ดังกังวาน

                ห่างออกไปจากจุดนั้นราวสิบเมตร

                บนทางเดินเท้าฝั่งติดกับประตูวิทยาลัย

                มีนาเพิ่งรู้สึกตัวว่าอิงศรพุ่งออกไปแล้ว

                "คุณอิงศรกลับมาก่อนค่ะล้ำหน้าไปแบบนั้นมัน..."

                แต่ไทเทเนียมกลับปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าคำพูดจึงหยุดชะงัก

                "อ๊ะ..."

                มีนารู้สึกตัวแต่ตอบโต้ไม่ทัน เงื้อมือของมนุษย์ต่างดาวสาวเอื้อมเข้ามาใกล้ ตอนนั้นเอง

                "ฟรอสฟิวรี่!"

                เสียงของกวินทร์ดังขึ้น จากนั้นคมดาบซึ่งห้อมล้อมด้วยผลึกน้ำแข็งก็ตวัดลงมา รวดเร็ว แม่นยำ และเป็นท่าฟันต่อเนื่องสิบสองครั้งในหนึ่งวินาที แต่ร่างของไทเทเนียมก็เลือนหายไปก่อนที่ดาบจะสัมผัสถูก ความเร็วแตกต่างกันถึงขนาดนั้น

                สาวต่างดาวปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ด้านหลังของกลุ่มห่างไปหลายเมตร ถ้ารวมอิงศรที่แยกตัวไปด้วยเท่ากับพวกเขาถูกขนาบด้วยมนุษย์ต่างดาวชั้นสูงจนไม่มีทางให้หนีได้เลย

                ไทเทเนียมพูด

                "ใช้ได้ขึ้นมานิดหน่อยนะแต่ยังช้าอยู่ดี"

                ดวงตาของหล่อนจ้องตรงมาที่กวินทร์

                "ตกลงว่าใช่พี่จริงๆ สินะ"

                กวินทร์พูดตอบแล้วเดินย้อนขึ้นมาเผชิญหน้ากับไทเทเนียม

                "แล้วชื่อนั่นมันอะไร"

                เด็กหนุ่มถามพลางชี้ไปที่ชื่อซึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะของหล่อน ชื่อแบบมนุษย์ต่างดาว

     

    Titanium Lv. 100

    [/////27000:27000/////]

     

                พอโดนถามแบบนั้นสายตาของไทเทเนียมก็เบี่ยงเป้าไป

                หล่อนมองข้ามหัวกวินทร์ มองข้ามกลุ่มของพวกเขา สายตาของหล่อนกำลังจ้องมองไปที่มิ่งขวัญ

                "ฉันไม่เหมือนกับเจ้าคนโลเลนั่นหรอกนะ ฉันเต็มใจที่จะกลายเป็นแบบนี้เอง ชื่อนี้คือหลักฐานความตั้งใจของฉันยังไงล่ะ"

                ดูเหมือนว่าหล่อนจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นมากกว่าจะเป็นเรื่องของตัวเอง

                "เอ่อคุณกวินทร์คะนี่มัน..."

                มีนาถามเพราะตามสถานการณ์ไม่ทันและไม่ใช่แค่เธอ แต่ทั้งเมษา ทั้งนรินทร์ รวมถึงพันโทข้าวหลามก็จ้องมองมาเหมือนกับจะรอคำตอบด้วย

                แต่กวินทร์ไม่ได้สนใจเลยซักนิด สายตาของเด็กหนุ่มเอาแต่จ้องไทเทเนียมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนดูไม่เหมือนกับกวินทร์ในแบบที่เป็นอยู่เสมอ

                กวินทร์กระชับดาบในมือแล้วพูดว่า

                "ยอมทิ้งความเป็นคนไปเพื่อเรื่องแค่นั้นน่ะเหรอ"

                "เรื่องแค่นั้น..."

                อีกฝ่ายทวนคำพูดแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หางตาเชิดขึ้นเหมือนกับจะหงุดหงิดในคำพูดของกวินทร์

                "ดูเหมือนนายจะยังไม่เข้าใจถึงความสมบูรณ์แบบสินะแต่ก็เพราะแบบนั้นนายถึงได้ทรยศฉัน หักหลังความคาดหวังของฉัน"

                "พี่ตั้งใจจะหลอกใช้ผมตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก"

                เด็กหนุ่มตะโกนสวนแล้วพุ่งออกไปพร้อมกับเงื้อดาบ

                กลายเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ไปแล้ว...

                มีนาไม่รู้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร เธอหันไปหาคนอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าใครก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ตอนแรกก็อิงศรคราวนี้ก็กวินทร์ทั้งสองคนต่างก็ทำตามใจตัวเองจนทีมเวิร์คที่รักษามาได้ตลอดเละไม่เป็นท่า

                กรณีของอิงศรนั้นพอจะทำความเข้าใจได้อยู่แม้จะสับสนไปบ้างก็ตามแต่อีกฝ่ายคือน้องชายที่คิดว่าตายไปแล้วจะขาดสติก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจส่วนกรณีของกวินทร์นั้นข้อมูลยังไม่พอ ทำไมเด็กหนุ่มถึงเคลื่อนไหวด้วยความกราดเกรี้ยวแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสาเหตุน่าจะเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหญิงสาวตนนั้น ทั้งสองพูดคุยราวกับรู้จักกันมาก่อน ไหนจะยังคำพูดก่อนหน้านี้กวินทร์ได้พูดเอาไว้ว่า ตกลงว่าใช่พี่จริงๆ สินะ

                มันหมายความว่ายังไงกันทั้งสองคนนั่นเคยเป็นพี่น้องกันมาก่อนเหมือนกรณีของอิงศรอย่างนั้นหรือ

                แต่ท่าทีที่กวินทร์มีให้อีกฝ่ายซึ่งน่าจะเป็นพี่สาวกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง

                “ไพโรเบลด

                เปลวไฟวนพันรอบตัวดาบกวินทร์ฟาดมันลงบนตัวของมนุษย์ต่างดาว

                "นั่นคือคำตอบของนายสินะ...ก็ได้จะให้นายได้เห็นพลังของชุดสกิลอันสมบูรณ์ที่ชั้นจัดขึ้นมา"

                ไทเทเนียมกล่าวแล้วมือขวาที่เคยว่างเปล่าก็ถูกติดตั้งถุงมือที่มีพลอยอัญมณีสีแดงสดประดับเอาไว้

                “ชาโดว์สเปลไนท์ไนฟ (Shadow Spell, Night Knife)”

                พลอยส่องประกายในพริบตาที่ร่ายสกิลเสร็จ เป็นประกายแสงสีดำที่ดูลึกลับ

                ไทเทเนียมเอื้อมมือไปแตะที่พลอยแล้วดึงบางอย่างออกมา บางอย่างที่คล้ายกับอาวุธลับของนินจา รูปร่างเหมือนมีดสำหรับปาซัดที่เรียกว่า คุไนแต่สิ่งนั้นเป็นสีดำสนิทราวกับทำขึ้นจากเงา

                คุไนถูกยกขึ้นรับดาบของกวินทร์แต่ถึงรับเอาไว้เปลวเพลิงที่หมนุวนรอบตัวดาบก็จะเผาผลาญศัตรูอยู่ดี กวินทร์ที่คิดแบบนั้นก็เผลอเปิดช่องว่าง

                “อ่อนหัดไม่เปลี่ยนคิดว่าแค่นั้นชนะแล้วหรือไง

                ไทเทียมพูดมาอย่างนั้นแล้วร่างกายก็เลือนหายไป

                “ฮึ่ม!

                กวินทร์ชักดาบกลับแล้วหันไปข้างหลังทันที หันไปโดยที่ตรงทิศนั้นไม่ได้มีอะไรอยู่เลย

                “ชาโดว์ไดรฟ์

                เสียงดังขึ้น ดังมาจากเงาของกวินทร์ไทเทเนียมพุ่งขึ้นมาจากเงานั่นแล้วซัด คุไนสองอันใส่แต่กวินทร์ปัดด้วยดาบได้ทั้งหมดแล้วร่ายสกิล

                “ฟรอสเบลด อิเล็คทริกส์เบลด

                น้ำแข็งและสายฟ้าห้อมล้อมดาบเพลิง เด็กหนุ่มใช้สองมือจับดาบหวดขึ้นด้านบน

                “ท่าฟันสามธาตุไทรสแลช!

                พลังงานทั้งสามธาตุใกล้จะระเบิดออกมา แต่ทว่า...

                “ชาโดว์ซุปเปอร์สเปลชาโดว์คอนโทรล (Shadow Super Spell, Shadow Control)”

                ไทเทเนียมร่ายสกิลสวนกลับมาแล้วหายเข้าไปในเงาของกวินทร์

                “เสร็จกัน

                เด็กหนุ่มสบถจากนั้นดาบที่เตรียมจะปล่อยพลังก็เบนทิศไปที่มีนา พลังของดาบระเบิดออกแล้วพุ่งจู่โจมใส่พวกพ้อง

                นรินทร์ออกมาขวางหน้ากลุ่ม ร่ายสกิลป้องกันอย่างรวดเร็วพร้อมกับยื่นมือไปรับคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามา

                “คับบาลาห์ เซฟิร่า เคเธอร์

                เกิดเสียงดังฟุ่บจากนั้นคลื่นพลังก็สลายไป แต่คมดาบของกวินทร์กลับพุ่งตรงมาหาแทน

                “เดี๋ยวสิกวินทร์

                นรินทร์ใช้ไม้เท้ารับดาบนั้นแต่พลังตามสายอาชีพเทียบกับกวินทร์ไม่ติดจึงถูกดันจนถอยครูดลงจากทางเท้าไปอยู่บนถนน แว่นตาปีศาจที่สวมอยู่ก็พลอยหลุดกระเด็นไปด้วย ตอนนั้นเองเมษาก็วิ่งอ้อมมาช่วยจับไม้เท้าจากด้านหลังเสริมแรงยันดาบของกวินทร์เอาไว้

                “เฮ้ยคลั่งไปแล้วรึไงเนี่ย

                เมษาพูด

                แต่กวินทร์ที่หันคมดาบเข้าใส่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ

                “ไม่ใช่ผมนะ เงาต่างหาก...ผมถูกควบคุมเงาอยู่

                “หาเงา?”

                “กวินทร์ถูกควบคุมเงาอยู่เป็นสกิลของบิลด์ชาโดว์เอ็นฟอร์สเซอร์น่ะแต่ปกติแล้วจะควบคุมได้กับคนที่เลเวลต่ำกว่าผู้ใช้เท่านั้น

                นรินทร์ซึ่งพอจะเดาสถานการณ์ได้ก็พูดออกมาอย่างนั้น

                มีนาพูด

                “ถ้ารู้ว่าอยู่ในเงาก็จัดการง่ายขึ้นแล้วล่ะค่ะ

                แล้วเงื้อเคียวเล็งไปที่เงาของกวินทร์ แต่ขณะเคลื่อนที่เพื่อให้เข้าระยะฟันของเคียวนั้นเงาของเธอก็ทับลงบนเงาเป้าหมาย

                พริบตานั้นแรงดันจากดาบของกวินทร์ก็ผ่อนลง แต่เคียวของมีนากลับตวัดใส่เมษาแทน

                “นี่เธอจะทำอะไรกันเนี่ย

                “ไม่ใช่นะมือมันขยับไปเองน่ะ ว้าย

                คมเคียวแล่นเข้าหาต้นคอของน้องชายฝาแฝดแต่ก็หยุดลงแค่ทิ่มลงไปลึกประมาณสามเซนติเมตร เป็นแผลแค่ให้เลือดซึมออกมาเล็กน้อย

                มีนารู้สึกว่าต้นขาของเธอนั้นเย็นเฉียบมา สาเหตุเพราะกระสุนอาคมที่พันโทข้าวหลามยิงในช่วงวินาทีฉุกเฉินนั่นเอง

                “เกือบไปๆ นี่มันย้ายเงาได้ด้วยสินะ

                ปืนของพันโทมีควันลอยฉุยออกมาทั้งสองกระบอกนั่นหมายความว่ายิงออกไปสองนัด

                นัดแรกแช่แข็งเงาของมีนาส่วนนัดที่สอง...

                “มีคนที่พอมีฝีมืออยู่บ้างนี่

                แช่แข็งเงาของพวกกวินทร์ที่ซ้อนทับกับเงาของเมษาและนรินทร์อยู่บนพื้นถนน

                ไทเทเนียมพุ่งขึ้นมาจากเงานั้นทลายน้ำแข็งที่เกาะออกไปจนหมดในทีเดียว

                “ถึงโดนเด็กชมก็ไม่ดีใจหรอกนะยิ่งเป็นสาวทอมต่างดาวแบบเธอด้วยแล้วยิ่งแหยงเลยล่ะ

                พันโทข้าวหลามพูด แสร้งทำเป็นพูดอวดดีเพื่อกลบเกลื่อนความว้าวุ่นในจิตใจ

                ไหนจะมนุษย์ต่างดาว ไหนจะสัตว์เทวะอีก ช่วงที่โดนดึงความสนใจอยู่แบบนี้พวกหงส์กับเต่าก็เดินหน้ารุกล้ำอาณาเขตค่ายเข้าไปแล้ว สนามพลังที่มีอยู่ก็โดนมิ่งขวัญทำลายจนไม่มีอะไรมาขวางกั้น

                สถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายสุดกู่...

                “ชาโดว์สเปลไนท์ไนฟ

                ไทเทเนียมซัดคุไนมาอีกแต่ก็ถูกพันโทข้าวหลามอ่านทางและยิงดักไว้ได้ทั้งหมด

                เสียงปืน เสียงคุไนกระทบกับลูกกระสุนดังแก๊งๆ ตอนนั้นเองก็มีลมพัดมา

                เป็นสายลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง สายลมนั้นหยุดการต่อสู้อันแสนวุ่นวายลง

                จากนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังด้านหลังที่ตัวการสร้างคลื่นลมนั้นยืนอยู่

                มิ่งขวัญนั่นเอง สร้างลมเพื่อช่วยชีวิตอิงศรที่เกือบจะโดนลิเธียมฆ่า

                ตอนนั้นเอง ร่างของอิงศรก็ลอยผ่านไปและตกลงในจุดที่ไม่ไกลนัก

                “คุณอิงศร

                มีนาตั้งท่าจะวิ่งไปแต่คุไนก็ซัดมาอีกซึ่งเบรกเท้าไว้ทันแบบฉิวเฉียดคุไนจึงลอยผ่านหน้าไป

                “ไม่ยอมให้ไปขัดขวางท่านลิเธียมได้หรอกนะ

                ไทเทเนียมกล่าวแล้วร่ายสกิลเรียกคุไนเงาออกมาซัดต่อเนื่องไม่ให้มีเวลาพัก

                การปะทะจึงดำเนินต่อไปอย่างยืดเยื้อจนไม่รู้ว่าสถานการณ์ฝั่งอิงศรเป็นอย่างไรบ้างเพราะลำพังแค่เอาตัวให้รอดจากคุไนเงาก็แทบแย่แล้วแต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่ตั้งใจเอาชีวิตเพราะการโจมตีทั้งหมดเป็นแบบฉิวเฉียดที่ไม่พอมีเวลาให้เหม่อนานนัก

                จนกระทั่งมีเมล์เข้ามา

                ปิ๊บๆๆๆ

                มีเมล์ส่งมาพร้อมกันถึงมีนา เมษา กวินทร์ และนรินทร์ แล้วหน้าต่างเมล์ก็เปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

                ภาพยามสิ้นชีพของอิงศรปรากฏแก่สายตาและกำลังจะกลายเป็นจริงในอีก 12 วินาที

                มีนาหันไปตรงจุดที่อิงศรเคยหล่นอยู่แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มคนที่ว่าก็หายไปแล้ว จึงกวาดสายตามองหา ถึงตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุไนที่ซัดออกมาต่อเนื่องถึงหยุดไป

                “นั่นมันอะไรกันน่ะ

                ไทเทเนียมพูดแล้วหยุดซัดคุไน พลางมองไปยังฝั่งตรงข้ามมหาลัย ขณะเดียวกันมีนาก็หาอิงศรเจอ

                เด็กหนุ่มดูเหม่อลอยแต่เท้ายังคงก้าวเดินอยู่อย่างนั้นอิงศรเดินจนมาขวางอยู่ด้านข้างกลุ่มของพวกเธอกับเกาะกลางถนน แวบหนึ่งที่มองข้ามอิงศรไป สายตาก็จับภาพสิ่งอยู่บนทางเท้าฝั่งตรงกันข้าม

                เงา...เงาจำนวนมากยืนเรียงรายอยู่ที่นั่น พอเพ่งสายตามองดีๆ แล้วก็พบว่าเงาเหล่านั้นคือคนใส่ชุดสีดำ ชุดเครื่องแบบของมนุษย์ต่างดาวชั้นศิษย์จำนวนมากกว่าสามสิบตน ประมาณคร่าวๆ ด้วยสายตาก็เห็นแต่เลขเลเวล 60 ขึ้นไปทุกตนแถมในนั้นยังมีพวกที่เลเวล 70 ขึ้นไปติดผ้าคลุมสีขาวซึ่งน่าจะเป็นชั้นครูอีกหลายตนปะปนอยู่ด้วย

                ราวกับสัญชาตญาณในตัวร่ำร้องออกมา มีนาตะโกนไปตามสัญชาตญาณนั้น

                “คุณอิงศรหนีไป!

                อิงศรได้ยินเสียงแล้วรู้สึกตัวจังหวะนั้นเองก็มองเห็นมนุษย์ต่างดาวตนหนึ่งยืนล้ำหน้ามนุษย์ต่างดาวตนอื่นที่ฝั่งตรงกันข้ามกำลังควงไม้เท้า ไฟลุกลามจากไม้เท้าที่กำลังหมุนควงกลายเป็นลำแสงเพลิงพุ่งออกมา

                ลำพระเพลิงมุ่งจู่โจมอิงศรตรงๆ แต่แค่นั้นเด็กหนุ่มต้องหลบมันได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเธอที่อยู่ตรงนี้ก็จะ...

                “ไม่เป็นไรหนีไปเถอะค่ะ...รีบหนีไปเถอะค่ะคุณอิงศร

                มีนาพึมพำด้วยเสียงพูดที่เบามากจนไม่มีใครได้ยิน ปรารถนาจะให้อิงศรรีบหนีไปเพราะภาพถ่ายยามสิ้นชีพได้กำหนดความตายของเขาไว้ เธอเป็นคนเดียวที่บอกกับอิงศรว่าเชื่อเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง เรื่องของเมล์ตัวจับเวลาตาย เรื่องของผู้ถูกลืมเลือน เรื่องของอาคานาร์ ดังนั้นเธอจึงรู้ในทันทีที่เห็นเมล์ฉบับที่ว่าต่อหน้าต่อตาและตอบสนองมันได้ก่อนใครในทีม

                แต่อิงศรก็เหมือนจะลังเล แล้วก้าวเท้าออกไปในวินาทีสุดท้ายซึ่งสายเกินไป...

                เขาถูกไฟคลอกร่าง

     

    อิงศร Lv. 60

    [.....0:3560.....]

     

    คุณเกมโอเวอร์แล้วจะเล่นต่อไหม?

    1.เล่นต่อ

    2.จบเกม

     

                อิงศรเลือกจบเกม...

                แต่กลับเลือกจบเกมไม่ได้...

                อิงศรเลือกเล่นต่อ...

                แต่ก็เลือกไม่ได้...

     

                'นี่ไม่ใช่เกม' เขารู้เรื่องนั้นดี

                ถ้าอย่างนั้นตัวเลือกเหล่านี้คืออะไรกันล่ะ?

                มันคือความยึดติดอย่างนั้นหรือ?

                ใช่...คงเป็นอย่างนั้น เขายังรู้สึกยึดติดกับความปรารถนาอยู่

                อยากปกป้องพวกพ้อง อยากสู้ร่วมกับพวกพ้อง อยากแก้แค้นมนุษย์ต่างดาว อยากช่วยมิ่งขวัญ ฯลฯ

                ความปรารถนามากมายกำลังมอดไหม้ไปพร้อมกับร่างกาย

                อิงศรล้มลง ฟุบหน้าลงกับพื้นแล้วไฟก็ดับมอดโดยที่สร้างความเสียหายทางกายภาพเพียงเล็กน้อย แต่พลังชีวิตว่างเปล่าไปแล้ว เขาตายแล้ว...

                “คุณอิงศร!!

                แต่กลับได้ยินเสียงตะโกนเรียกของมีนารู้สึกว่าน้ำเสียงนั้นสะอื้นเล็กน้อย

                “ศรนี่แกล้อเล่นใช่ไหมเนี่ยลุกขึ้นมาสิฟะ!

                จากนั้นก็เป็นเสียงของเมษา

                ก็อยากจะลุกอยู่หรอกแต่ตอนนี้ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามที่สั่ง

                “พี่ศร...

                คราวนี้เป็นเสียงของกวินทร์ต่อจากนั้นก็ของนรินทร์แล้วก็พันโทข้าวหลาม

                “อิงศร

                “อย่ามาล้อเล่นนะโว้ยศรขืนแกตายตรงนี้พวกฉันก็ซวยไปด้วยน่ะเซร่

                รู้สึกได้ว่าพวกพ้องกำลังห้อมล้อมตัวเองอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมเสียงเหล่านั้นถึงไกลออกไป     

                “ชาวโลกมักพลาดในตอนท้ายเสมอ

                คำพูดแบบนี้ เสียงแบบนี้ รู้สึกเหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน...

     

                อิงศรไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขารู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้จึงไม่รับรู้สถานการณ์

                ผู้ที่โจมตีเขาจนเสียชีวิตคือมนุษย์ต่างดาวเพศหญิงตัวสูงราวกับยักษ์กะคร่าวๆ ประมาณ 190 เซนติเมตร ท่าทางเย่อหยิ่งทรงผมสไตล์บ๊อบเส้นผมสีเงินแบบมนุษย์ต่างดาวทั่วไป แววตาภายใต้เลนส์แว่นนั้นดูเฉิดฉาย

                เธอคือมนุษย์ต่างดาวชั้นราชครู ลำดับที่ห้าโซเดียม

                กองทัพของโซเดียมล้อมถนนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

                มีนา เมษา กวินทร์ นรินทร์ และพันโทข้าวหลามถูกจับกุมโดยที่ไม่อาจต่อต้านได้พวกเขาถูกมนุษย์ต่างดาวชั้นศิษย์จับตัวไว้

                มิ่งขวัญ ไทเทเนียม ลิเธียม ทั้งสามก็ถูกควบคุมตัวเช่นกันโดยมนุษย์ต่างดาวชั้นครูทั้งหมด

                ระดับราชครูอย่างลิเธียมจะขัดขืนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เพราะผู้สั่งการกองทัพคือโซเดียมที่มีลำดับสูงกว่าจึงไม่ขัดขืนแต่ก็ไม่ได้อยู่เงียบๆ ให้ถูกจับกุมโดยที่ไม่รู้สาเหตุ

                “ท่านลำดับที่ห้าคิดจะทำอะไรกันครับ

                โซเดียมซึ่งกำลังสำรวจพวกมีนาที่จับตัวได้ก็หันมาตอบว่า

                “อยู่เฉยๆ ไปซะตอนนี้ทุกการกระทำมีสิทธิจะถูกประเมินว่าเป็นกบฏ

                “กบฏเหรอ ไร้สาระน่ะพวกเรา...

                แต่คำพูดของลิเธียมก็หยุดลงเพราะรอยยิ้มที่พิมพ์อยู่บนใบหน้าของโซเดียม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำให้ฉุกคิดได้ว่าบางทีนี่คงเป็นแผนที่วางเอาไว้ถ้าอย่างนั้นถึงจะขัดขืนไปก็ไม่มีทางชนะ

                เมื่อเห็นว่าลิเธียมเงียบไปแล้ว โซเดียมก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่มิ่งขวัญ

                “เจ้าเองก็อาละวาดได้ดีมากแต่หน้าที่จบลงแล้วล่ะ

                พูดจบหล่อนก็วางฝ่าเท้าลงบนหลังของอิงศรที่ล้มฟุบอยู่บนพื้น ตอนนั้นเองแววตาของมิ่งขวัญก็เปลี่ยนไป เด็กหนุ่มจ้องมองโซเดียมด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อแล้วพูดคำราม

                “เอาเท้าสกปรกของแก...

                แต่ไม่ทันขาดคำใบหน้าก็ถูกซัดด้วยหัวไม้เท้าของโซเดียมจนหน้าหันไปตามแรงฟาด

                “ปากดีนักนะเป็นแค่อดีตชาวโลกแท้ๆ ตอนแรกตั้งใจจะไว้ชีวิตอยู่แล้วเชียวเพราะเห็นว่าแกทำงานให้หรอกนะแต่เปลี่ยนใจแล้วจะฆ่าพวกแกไปพร้อมกันให้หมดนี่แหละแล้วค่อยไปเปิดโปงยัยรูบิเดียมที่เอามนุษย์มาเปลี่ยนเป็นพวกเราจนทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โตขนาดนี้คงจะพอทำให้ฉันเลื่อนขึ้นไปแทนที่ยัยนั่นในทันทีเลยเชียว

                “สรุปว่านี่เป็นแผนตั้งแต่แรกแล้วสินะคนที่ปล่อยให้มิ่งขวัญหนีออกมาคือท่านลำดับที่ห้าอย่างนั้นสินะครับ

                ในน้ำเสียงของลิเธียมสะท้อนถึงความเกลียดชังในตัวผู้บังคับบัญชาชั้นสูงกว่าที่ใช้วิธีลอบกัดอย่างนี้

                “ก็ไม่รู้สิ

                โซเดียมตอบปัดแล้วหันไปสั่งการเหล่าลูกศิษย์

                “ข้างหน้านี่คือรังของพวกชาวโลกที่น่ารังเกียจซึ่งมีชื่อว่ากองกำลังต่อต้านผู้รุกรานเมตไตรยจงกวาดล้างพวกมันที่คิดแข็งข้อให้หมดสิ้นอย่าได้เหลือไว้แม้แต่คนเดียวล่ะ

                อิงศรรับรู้สถานการณ์จากเสียงพูดคุยเท่านั้น ทำความเข้าใจได้แค่ว่าพวกมนุษย์ต่างดาวแตกคอกันเอง

                จากนั้นก็มีเสียงดังมา เสียงเฮโลของเหล่าทหารมนุษย์ดังกึกก้องมาจากด้านหลังของประตูมหาวิทยาลัย พวกกำลังเสริมที่ไปรวมตัวกันที่ประตูทิศใต้เพิ่งจะเคลื่อนทัพมาและคงกำลังต่อต้านสัตว์เทวะที่รุกล้ำเขตแดนโดยที่ยังไม่รู้เห็นเหตุการณ์ด้านนอกว่ามนุษย์ต่างดาวยกกองทัพมากวาดล้าง

     

                จากนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

                เสียงดังเอี้ยดอ้าด

                เสียงความปรารถนาที่ยังคงมอดไหม้ไม่หมด

                เสียงเคลื่อนตัวของฟันเฟือง

                สู่จุดจบของโลก

                สู่วันโลกาวินาศที่แท้จริง

                อิงศรรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง เหมือนถูกทดสอบ

                เพียงสิ่งเดียวที่สะท้อนสู่ดวงตาคือก้อนศิลาที่ร่วงหล่นจากสวรรค์มาเพื่อลงทัณฑ์เหล่าวัชพืชที่รุกล้ำอาณาเขต

                รุกล้ำสวนศักดิ์สิทธิ์

                “ว...วัช...วัชพืช...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×