ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #47 : Login 45: Game Over แห่งการพบกันอีกครั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 972
      51
      16 ธ.ค. 59

     

                "ศร"

                มิ่งขวัญพูด

                "ขวัญ"

                อิงศรพูด

                แล้วโลกอันแสนวุ่นวายก็หยุดแล่นไปพริบตาหนึ่ง

                มือที่หันอาวุธเข้าหากันต่างผ่อนแรง พวกเขาลดมือลงโดยไม่ทันคิด

                อิงศรจ้องมองใบหน้าของน้องชายที่มาอยู่บนตัวของมนุษย์ต่างดาว

                รู้สึกเหมือนภายในหัวโล่งไปหมด ทั้งแผนการ ทั้งวิธีต่อสู้ ทั้งความคิด ถูกลบหายไปจากสมองเหลือแต่เรื่องของมนุษย์ต่างดาวตรงหน้า ไม่สิน้องชายต่างหาก

                น้องชายที่น่าจะตายไปแล้วแต่กลับมาปรากฏตัวที่นี่?

                พอลองเชื่อมข้อมูลที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนั่นในสมองที่ว่างเปล่าก็ได้ใจความสำคัญแบบบ้าสุดกู่เลยทีเดียว

                ‘น้องชายกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว

                แบบนั้นควรจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะ?

                คำตอบคือทั้งคู่แต่หนักไปทางดีใจซะมากกว่าอย่างไรก็ตามการพบกันอีกครั้งที่น่าประหลาดใจก็ต้องจบลง

                มิ่งขวัญรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความอันตรายเป็นอย่างมากกำลังเข้าใกล้พี่ชาย

                "หลบไป"

                น้องชายพูดแล้วดิ่งลงไปทั้งที่โซ่ยังรัดพันอยู่ ผลักร่างของอิงศรจนกระเด็นในวินาทีนั้นเอง

                วินาทีที่อิงศรลอยกระเด็นไปใบดาบอันคมกริบก็ฟาดลงมาอย่างไร้ความปราณีเฉียดไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดและเกือบจะฟันโดนมิ่งขวัญไปด้วย

                "ทำอะไรน่ะถ้าผมฟันเร็วกว่านี้เธอได้ตายไปแล้วนะ"

                เจ้าของดาบพูด

                มิ่งขวัญจ้องมองไปยังชายเจ้าของดาบ มนุษย์ต่างดาวผู้มีผมสีแดงก่ำสวมเครื่องแบบราชครูสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ลิเที่ยมราชครูลำดับที่หกนั่นเอง

                ลิเที่ยมเก็บดาบลงฝักแล้วจึงถามว่า

                "ทำไมถึงช่วยมนุษย์"

                แต่มิ่งขวัญไม่ตอบ สายตาของเด็กหนุ่มจับจ้องแต่พี่ชายที่กระเด็นไปซึ่งตอนนี้พวกมนุษย์ที่ต่อสู้ด้วยกำลังเข้าไปห้อมล้อม พวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจซึ่งหลอกใช้พี่ชายของตน

                ขณะเดียวกันอิงศรก็จ้องมองมิ่งขวัญด้วยความรู้สึกเหลือจะกล่าว สายตาของตนมองไม่ผิดแน่มนุษย์ต่างดาวนั่นคือมิ่งขวัญ แต่ทำไมล่ะ?

                ตอนนั้นเอง มีนาที่มารวมกลุ่มเป็นคนแรกก็ถามด้วยท่าทางเป็นห่วง

                "คุณอิงศรเป็นอะไรรึเปล่าคะ"

                เมษาตามมาทีหลังแล้วก็ถามคำถาม

                "ทำอะไรน่ะเมื่อกี้ฆ่าได้ชัดๆ แล้วทำไมถึงหยุดมือฟะ"

                นรินทร์กับพันโทข้าวหลามพยุงกวินทร์ตามมาสมทบเป็นกลุ่มสุดท้าย

                พันโทข้าวหลามเองก็ถามคำถามเดียวกัน

                "มีอะไรรึเปล่าที่เห็นไม่ใช่แค่นายที่หยุดนี่หว่าเจ้าเอเลี่ยนเด็กเวรนั่นก็หยุดเหมือนกันมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

                สายตาของพันโทว่องไวพอจะมองช่วงเวลาเพียงพริบตานั้น

                "..."

                อิงศรยังไม่พูดเขาอยากจะให้แน่ใจจึงลุกขึ้นแล้วพยายามมองใบหน้าของมนุษย์ต่างดาวให้ชัดเจนทำให้เหลือบไปเห็นชื่อของมนุษย์ต่างดาวตนนั้นที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็น จนแทบจะแน่ใจ

                "เอเลี่ยนนั่น...คือน้องชายของชั้น"

                พอพูดไปอย่างนั้นสายตาของพวกพ้องก็เปลี่ยนไป ทุกคนทำหน้าตกตะลึงไม่ต่างกันแล้วจ้องมองไปที่มนุษย์ต่างดาวซึ่งอิงศรบอกว่าเป็น 'น้องชาย'

                อิงศรเดินแหวกกลุ่มออกไปด้านหน้าแล้วตะโกนถาม

                "เฮ้ย...นายน่ะคือขวัญงั้นเรอะ"

                ถึงจะฝืนทำเสียงกระด้างแต่น้ำเสียงก็สั่นไปหมด

                กลับกันมิ่งขวัญไม่ยอมตอบอีกทั้งยังพยายามหลบหน้า ปฏิกิริยาแบบนั้นทำแน่ใจอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นคือ มิ่งขวัญ ตัวจริงความรู้สึกของเด็กหนุ่มฟันธงเช่นนั้น

                "ใช่...ขวัญจริงๆ สินะ"

                ราวกับน้ำตาที่หลั่งออกมาไม่หมดในวันนั้นได้หวนคืนมา นัยน์ตาที่เคยแห้งผากด้วยความเย็นชากลับมาชุ่มชื้นอีกครั้งในรอบสามปีจนไม่อาจกลั้นมันไว้ได้อีก หยาดน้ำตาไหลรินอาบแก้มของเด็กหนุ่ม

                มิ่งขวัญที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มแสดงท่าทีหวั่นไหว นั่นทำให้ลิเที่ยมพอจะเดาเหตุการณ์ได้จึงหันไปมองทางอิงศร ตรวจสอบจนแน่ใจว่าใช่คนเดียวกับเด็กชายที่เจอเมื่อสามปีก่อน ดังนั้นจึงเสนอตัวเข้าช่วย

                "พอจะเข้าใจแล้วล่ะนั่นคือพี่ชายของเธอที่หนีรอดไปสินะถ้างั้นผมจะช่วยดึงความสนใจคนอื่นเอาไว้ส่วนเธอก็ไปพาเขากลับมาแล้วกัน"

                มิ่งขวัญได้ยินดังนั้นก็หันไปพูดว่า

                "คิดจะทำอะไรกันแน่"

                ตอนนั้นเองโซ่อาคมของอิงศรที่พันธนาการร่างกายไว้ก็คลายออกรวมถึงปีกที่เรียกจากแอพพลิเคชั่นปีศาจก็พลอยหมดฤทธิ์ไปด้วย

                ลิเที่ยมตอบคำถามนั้นด้วยคำพูดง่ายๆ

                "เพราะดูเป็นหนทางที่ดีที่สุดถ้าจะทำให้เธอยอมตามผมกลับไปโดยดีแถมท่านลำดับที่สามเองก็อยากได้ตัวพี่ชายเธอด้วยนี่นะ"

                แล้วตอนนั้นมิ่งขวัญก็จับสัมผัสได้อีก รู้สึกถึงตัวตนแบบเดียวกันเดินมาจากทางด้านหลังจึงหันกลับไป

                มนุษย์ต่างดาวเพศหญิงผมสีเงินไว้ผมสั้นมากจนเกือบจะเป็นทรงตัดเกรียน เครื่องแบบชั้นครูติดผ้าคลุมสีขาวเหมือนกับตน แววตาเย็นชาที่จับจ้องมายังเขากับลิเที่ยมชวนให้รู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับพบเจอกันมาก่อนใช้เวลาไม่นานนักมิ่งขวัญก็จำได้ว่าเธอคนนั้นคือ ไทเทเนียม ผู้ติดตามคนสนิทของราชครูลำดับที่สี่

                ไทเทเนียมเข้ามาสมทบด้วยแล้วพูดว่า

                "ท่านโพแทสเซียมสั่งให้มาช่วยเหลือการจับกุมตัวผู้หลบหนีค่ะ"

                แล้วชายตามองไปยังมิ่งขวัญ

                "ท่านลำดับที่สี่ยังน่ากลัวไม่เปลี่ยนเลยนะท่าทางว่าทั้งเธอทั้งผมคงจะกลายเป็นของเล่นที่ถูกจับมาวางบนฉากซะแล้วสิ"

                ลิเที่ยมพูดราวกับมองสถานการณ์ออกพลางยิ้มกระหยิ่ม

                ขณะเดียวกันฝั่งของอิงศรพอได้เห็นมนุษย์ต่างดาวมากันถึงสามตนทุกคนก็ออกอาการร้อนรน ในบรรดาพวกเขานั้นกวินทร์เป็นคนเดียวที่จ้องเขม็งไปยังมนุษย์ต่างดาวเพศหญิงที่มาใหม่แล้วพึมพำคำพูดที่เบาเสียจนไม่มีใครได้ยิน

                "...พี่..."

                จู่ๆ เมษาก็หน้าซีดเผือดแล้วพูดว่า

                "เฮ้ยเจ้าผมแดงนั่นมัน"

                พลางชี้ให้มีนาดูมนุษย์ต่างดาวผมสีแดง

                "ราชครูลำดับที่หกลิเที่ยม เจ้านั่นก็มางั้นเหรอเนี่ย"

                มีนาพูดโดยมีสีหน้าตกตะลึง

                "ใช่เจ้านั่นไงที่ฆ่าไอ้หัวหน้าเฮงซวยนั่นแล้วหยามน้ำหน้าพวกเราด้วยการไว้ชีวิตน่ะ"

                ดังนั้นเรื่องราวในอดีตจึงเป็นที่กระจ่างมนุษย์ต่างดาวที่เคยไว้ชีวิตพี่น้องฝาแฝดไว้ก็คือลิเที่ยมนั่นเอง

                นรินทร์ที่ได้ยินชื่อลิเที่ยมก็โพล่งด้วยความตกใจ

                "เดี๋ยวก่อนนะลิเที่ยมนั่นน่ะใช่ดาวหางสีแดงลิเที่ยมที่ว่ากันว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เร็วที่สุดน่ะเหรอ"

                มีนาพยักหน้าตอบ

                "ค่ะเจ้าหมอนั่นแหละราชครูที่ถล่มกองกำลังขององค์กรเราจนพินาศย่อยยับไปหลายครั้ง"

                อิงศรได้ยินเสียงของมีนาพูดว่า 'ลิเที่ยม' ขณะตกอยู่ในภวังค์ความคิดมากมายที่มีต่อมิ่งขวัญซึ่งน่าจะตายไปแล้วแต่กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าแล้วสวิตซ์ที่เป็นเหมือนบาดแผลในความทรงจำก็ทำงานภาพใบหน้าของมนุษย์ต่างดาวที่ฆ่าเหล่าครอบครัวในโลกหลังการล่มสลาย ภาพของมิ่งขวัญที่ถูกลิเที่ยมฟันจนตายที่สถานีเพื่อให้เขาได้หนีก็ย้อนกลับมา

                อิงศรจ้องมองไปที่ลิเที่ยมแล้วสมองก็ตีความว่ามิ่งขวัญถูกลิเที่ยมควบคุมตัวไว้ เป็นการคิดโดยละทิ้งซึ่งเหตุผลและการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมนั่นก็เพราะตอนนี้

                ภายในตัวของเด็กหนุ่ม...

                ภายในจิตใจทุกอย่างถูกย้อมเป็นสีดำ ดำสนิท ดำเป็นอย่างมาก

                กลายเป็นสีดำที่ไม่มีอะไรเลยแล้วจากที่ไม่มีอะไรเลยนั่นเอง

                ความโกรธ ความเกลียดชัง ความแค้น

                ความรู้สึกสามอย่างก็ผุดตัวเป็นรูปเป็นร่าง

                ปีศาจนั่นเอง...

                เอลิกอร์นั่นเอง...

                'ไงล่ะคราวนี้ตัดสินใจได้รึยังลองมีอารมณ์ด้านลบมากมายขนาดนี้คงไม่ลังเลแล้วสินะมนุษย์'

                เสียงของเอลิกอร์พูดขึ้นในจิตใจ

                อิงศรจ้องมองปีศาจแล้วดวงตาก็ถูกย้อมเป็นสีดำ ตาขาวกลายเป็นสีดำ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสัตว์ป่าแล้วพูดตอบปีศาจไปว่า

                "เออ อยากได้อะไรก็เอาไปเลยแต่ขอแค่พลัง...ขอพลังให้มากกว่านี้อีก ขอพลังที่จะช่วยปลดปล่อยขวัญจากเจ้านั่น"

                พริบตาที่ตอบออกไปก็รู้สึกได้ว่ามองเห็นรอยยิ้มสะท้อนจากใบหน้าใต้หมวกเกราะของเอลิกอร์

                ปีศาจได้พูดเอาไว้ว่า

                'แบบนั้นแหละดีแล้วยอมรับข้าเข้าไปอีกสิแล้วกลายเป็นปีศาจเพื่อทำลายทุกสิ่ง'

                จากนั้นอิงศรก็รับเอาปีศาจเข้าไปแล้วกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

                ภาพทิวทัศน์แห่งความจริงกลับคืนมาอีกครั้ง อิงศรตื่นจากภวังค์ความคิด สายตาจ้องเขม็งไปที่มนุษย์ต่างดาวผมสีแดง หยาดน้ำตาที่เอ่อล้นถึงกับแห้งผากไปเพราะไฟแห่งความแค้นที่ปะทุขึ้นในหัวใจเนื่องจากปีศาจยังคงจ้องเล่นงานในสภาวะที่จิตใจของอิงศรอ่อนแอลงเป็นอย่างมากนี้

                อิงศรตะโกนคำพูดอย่างเกรี้ยวกราด

                "ไอ้เอเลี่ยนหัวสตรอเบอรี่ปล่อยน้องชั้นนะโว้ย"

                รวมถึงแผลงศรออกไปพร้อมกันชนิดที่ไม่มีใครมองตามจังหวะการขึ้นลูกธนูได้ทัน ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอิงศรได้เล็งก่อนยิงหรือไม่แต่ธนูก็พุ่งไปหาลิเที่ยมราวกับตอปิโดติดระบบนำวิถี

                แต่ทว่า...

                "สตรอเบอรี่คืออะไรงั้นเหรอ"

                ลิเที่ยมหันไปถามกับไทเทเนี่ยมโดยไม่ได้สนใจเลยว่าลูกธนูที่ยิงมานั้นเร็วขนาดไหนแม่นยำถึงเพียงใดที่เขาทำก็แค่ตวัดดาบโดยที่ไม่ต้องมองแล้วลูกธนูอันทรงพลังซึ่งอาบไว้ด้วยกลิ่นอายแห่งปีศาจก็ถูกปัดกระเด็นไปอย่างง่ายดาย

                ไทเทเนี่ยมตอบคำถามเมื่อครู่ว่า

                "เป็นผลไม้สีแดงที่มีรสเปรี้ยวออกหวานน่ะค่ะ"

                ลิเที่ยมยกมือที่ว่างขึ้นมาชันคาง

                "ผลไม้สีแดงงั้นรึ"

                กล่าวออกมาอย่างนั้นแล้วจ้องมองอิงศร

                "มีรสนิยมดีเหมือนกันนี่รู้จักความวิไลของสีแดงไม่ใช่น้อยเลยนะ"

                "กรอด..."

                เสียงกัดฟันข่มความโกรธของอิงศรดังระงมแล้วเขาก็วิ่งออกจากกลุ่มแวะก้มตัวเก็บดาบสั้นที่ใช้สร้างเขตแดนก่อนหน้านี้แล้ววิ่งต่อทันทีโดยไม่ต้องหยุดตั้งตัวจากนั้นก็...

                "สเลปเนียร์"

                สั่งให้แอพพลิเคชั่นปีศาจทำงานเมื่อรวมพลังของเอลิกอร์ที่กำลังสิงสู่ร่างไปด้วยฝีเท้าขอบอิงศรก็ย่างเข้าสู่โลกของความเร็วที่มนุษย์ไม่อาจแตะต้อง

                พริบตาก่อนที่ร่างกายจะหายไปก็แลเห็นเขาสีดำงอกขึ้นจากขมับทั้งสองข้าง

                นรินทร์พูด

                "อิงศรโดนเดม่อนแอพครอบงำอีกแล้ว"

                จากนั้นอิงศรก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของลิเที่ยม

                "ใช้ได้นี่"

                มนุษย์ต่างดาวผมแดงยิ้มแล้วใช้ดาบรับดาบสั้นของอิงศรที่ชุ่มไปด้วยไอปีศาจ

                "ถ้างั้นดิฉันขอห้าคนตรงนั้นก็แล้วกัน"

                ไทเทเนี่ยมพูดขึ้นในจังหวะนั้นแล้วมุ่งหน้าไปหากลุ่มของมีนาทันที

                "งั้นเพื่อขอบคุณคำชมที่มีต่อสีแดงเมื่อกี้จะขอเล่นด้วยซักพักก็แล้วกัน"

                ลิเที่ยมพูดแล้วดันดาบกลับพร้อมกับใช้สกิล

                "เร้ดโซล"

                แล้วใบดาบก็ถูกย้อมด้วยออร่าจนกลายเป็นสีแดงก่ำ เพียงเท่านั้นแรงกายก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แค่ออกแรงเล็กน้อยก็ดันอิงศรกระเด็นไปพร้อมกับดาบได้

                ลิเที่ยมไล่ตามอิงศรที่กระเด็นไป แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมให้ถูกตามจึงได้เรียกปีศาจออกมา

                "อาคานาร์ฟอร์ซออกมาเอลิกอร์"

                ร่างของปีศาจที่สิงสู่ปรากฏขึ้นบนโลกแห่งความจริงเหมือนตอนที่สู้กับมังกร

                ปีศาจพูดว่า

                "กำลังรออยู่เลย"

                แต่อิงศรก็พูดขัด

                "ฆ่ามันซะ"

                แล้วปีศาจก็เงื้อทวนขึ้น ลิเที่ยมที่มองเห็นสิ่งนั้นก็พูดว่า

                "ปีศาจงั้นรึน่าสนุกนี่ ถ้าเป็นเธอในตอนนี้อาจจะตามความเร็วของผมทันก็ได้เอาล่ะนะ เร้ดวอริเออร์ (Red Warrior)"

                หลังคำพูดสนุกสนานนั่นจบลงร่างของเอลิกอร์ที่ปรากฏขึ้นก็ถูกผ่าเป็นสองส่วนด้วยความรวดเร็วที่มองตามไม่ทัน

                "บ...บ้าน่าข้าผู้นี้เนี่ยนะ....แพ้"

                เอลิกอร์สั่งเสียไว้แค่นั้นก่อนร่างจะสลายไป

                ดวงตาของเด็กหนุ่มเบิกกว้างยามที่เห็นปีศาจของตนถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย แล้วความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นแทนที่ความแค้น กลัวที่จะพ่ายแพ้ให้กับสัตว์ประหลาดที่เก่งยิ่งกว่าปีศาจซึ่งอยู่ต่อหน้า

                ร่างของลิเที่ยมหลังจากใช้สกิล 'เร้ดวอริเออร์' ก็ถูกปกคลุมด้วยออร่าสีแดงทั้งตัว นั่นเป็นการเพิ่มความเร็วจนทะลุขีดจำกัด สำหรับความเร็วที่ใช้สังหารเอลิกอร์ไปนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความเร็วแสงไปแล้ว

                ลิเที่ยมเคลื่อนไหวอีกครั้ง กลายเป็นลำแสงสีแดงที่ทะยานไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแซงหน้าอิงศรที่ยังลอยกระเด็นอยู่ อ้อมไปด้านหลังแล้วเงื้อดาบ

                "เสร็จกัน"

                อิงศรรับรู้ได้ว่าลิเที่ยมอยู่ข้างหลังแต่ตอบโต้ไม่ได้ ความเร็วไม่พอ พลังมีไม่พอ ไม่มีอะไรเทียบกับอีกฝ่ายได้เลยแค่จะหันตัวกลับไปเพื่อใช้ดาบบล็อกเอาไว้ยังทำไม่ได้ ถ้างั้นก็มีแต่ต้องตายไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว

                วินาทีที่คิดว่าความตายกำลังยื่นมือมานั้น แต่ทว่า...กลับห่างออกไป

                “...”

                มิ่งขวัญที่อยู่ห่างไปหลายเมตรตวัดดาบขึ้นในวินาทีนั้นแรงพลังของการตวัดนั้นสร้างคลื่นลมอันรุนแรงพุ่งเข้ามาปะทะกับดาบของลิเที่ยม แรงลมเป่าดาบกระเด็นหลุดมือไป แรงลมพัดเอาแว่นตากรอบสีรุ้งปลิวไป รวมถึงพัดเอาจิตสังหารทิ้งไปด้วย

                ลิเที่ยมกระโดดตีลังกาม้วนหลังไปสองรอบ ขณะที่ม้วนตัวกลางอากาศก็คว้าดาบกับแว่นตาที่หลุดไปกลับมาก่อนจะลงพื้นอย่างสวยงามแล้วหันไปกล่าวขอโทษกับมิ่งขวัญที่กำลังถลึงตาใส่อย่างน่ากลัว

                “ขอโทษนะเพลินไปหน่อยพอของขึ้นแล้วเป็นแบบนี้ทุกทีสิ

                ใบหน้าของลิเที่ยมเปิดเผยออกมาแวบหนึ่งก่อนจะถูกแว่นตาสวมทับลงไป แล้วอิงศรก็มองเห็นใบหน้านั้น แถมยังรู้สึกว่าเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน

                ลิเที่ยมหันมาพูดกับอิงศร

                “แต่เธอเนี่ยมีอะไรน่าสนใจเยอะนะทั้งทำให้ปีศาจสิงสู่ตัวเองทั้งเรียกออกมาตัวเป็นๆ ได้เธอเป็นใครกันแน่นะ

                ถึงจะพูดและจ้องมองด้วยแววตาสนอกสนใจก็ตามแต่ตอนนี้อิงศรกลายเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งไปแล้วเพราะเมื่อเอลิกอร์พ่ายแพ้พลังปีศาจที่สิงสู่อยู่ในร่างก็พลอยหยุดไปด้วยรวมถึง สเลปเนียร์ เองก็ถึงขีดจำกัดเช่นกัน

                อิงศรมองไปที่มิ่งขวัญโดยไม่ได้สนใจคำพูดของลิเที่ยมแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาครุ่นคิดอยู่ในหัวตอนนี้คือเรื่องที่ตัวเองรอดมาต่างหาก เพราะน้องชายช่วยเอาไว้จึงรอดจากการโจมตีที่ไม่สามารถตอบโต้ได้แต่มิ่งขวัญกลับตอบโต้มันแล้วช่วยชีวิตเขาไว้ นี่คือเรื่องย้ำเตือนอย่างหนึ่งว่ามิ่งขวัญไม่ใช่คนอีกต่อไปแล้ว

                ที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือมิ่งขวัญ...

                ที่ยืนอยู่ข้างหน้านี่คือมนุษย์ต่างดาว...

                ถ้างั้นที่ยืนอยู่ข้างหน้าคืออะไรกัน? น้องชายหรือศัตรู? ครอบครัวหรือศัตรูอิงศรตอบคำถามนั้นไม่ได้จึงตกอยู่ในความลังเล

                ลังเลว่าควรจะไปหามิ่งขวัญหรือว่าควรถอยห่าง ต้องเลือกอย่างไหนถึงจะดีล่ะ?

                ตอนนั้นเอง เมษา มีนา กวินทร์ และนรินทร์ ทั้งสี่คนที่กำลังปะทะกับมนุษย์ต่างดาวหญิงก็ได้รับเมล์

                ปิ๊บๆๆ

                เสียงเมล์เข้าดังขึ้น หน้าจอเปิดเองโดยอัตโนมัติถ่ายทอดข้อความอันน่าตกใจแก่ทั้งสี่คน

    ======================

    Subject: @Clipius Death Timing Delivery

    Form: GM

    Detail:

    ตัวจับเวลาตายของเพื่อนคุณมาถึงแล้ว!

    เวลาชีวิตที่เหลือของ อิงศร โรจน์จุฬาคือ

    [00:00:012]

    ======================

     

                เมล์แบบเดียวกับที่อิงศรได้รับจากผู้ถูกลืมเลือนกลับถูกส่งให้ทั้งสี่คนแทน

                เวลานับถอยหลังเหลือเพียงสิบสองวินาที

                ในสิบสองวินาทีนี้มีแต่ความสับสน

                12

                11

                สามวินาทีถัดมา มีนาก็รู้ตัว

                10

                9

                เด็กสาวมองไปข้างหน้า อิงศรมายืนขวางอยู่หน้ากลุ่มของพวกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

                8

                7

                6

                “คุณอิงศรหนีไป!

                เสียงตะโกนของมีนากระตุ้นให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัวและตื่นจากห้วงแห่งความคิด

                ยามเมื่อสัมผัสของสนามรบกลับคืนมาก็รู้สึกอึดอัดอย่างน่าประหลาด อิงศรหันไปทางซ้ายที่รู้สึกถึงแรงกดดันอันน่าอึดอัดนั่น

                สิ่งที่มองเห็นก็คือลำพระเพลิงขนาดใหญ่กำลังพุ่งเข้ามา

                แต่ยังหลบได้ ถ้าเป็นตอนนี้ก็ยังหลบทัน อิงศรคิดเช่นนั้นแล้วก้าวเท้า แต่ทว่า...

                อิงศรกลับนึกขึ้นได้ นึกเรื่องไม่เป็นเรื่องเอาเวลาแบบนี้เสมอ นึกขึ้นได้ว่ามีนาและพวกพ้องที่อยู่ข้างหลังเขาตอนนี้จะเป็นฝ่ายโดนลำพระเพลิงเผาผลาญแทนถ้าเขาหลบออกไป

                แต่ถ้าไม่หลบก็ได้ตายแน่ มีโอกาสที่จะตายสูงมากหากรับการโจมตีระดับนี้เข้าไปถึงพลังชีวิตจะเหลืออยู่เกือบเต็มก็ตามที

     

    อิงศร Lv. 60

    [/////3400:3560////.]

     

                เวลานับถอยหลังของเมล์ใกล้จะหมดลงไปทุกขณะ ตอนนี้เหลืออีกเพียงห้าวินาที

                5

                4

                ถ้าตายตอนนี้ก็จะช่วยน้องชายไม่ได้ ถูกบีบให้เลือกระหว่างมิ่งขวัญกับพวกพ้องอีกแล้ว เหมือนกับเมื่อตอนนั้นที่ชานชาลารถไฟ ครั้งนี้ก็จะก้าวซ้ำรอยเดิมอีกหรือ?

                แล้วอิงศรก็คิดว่า...

                เพราะเอาแต่ลังเลแบบนี้เสมอที่ควรจะช่วยไว้ได้ ก็เลยกลายเป็นช่วยอะไรไว้ไม่ได้เลย

               ถ้าตอนนั้นเลือกที่จะหนีไปกับ 'ขวัญ' ก็คงไม่ต้องมาพบกับชะตากรรมแบบนี้ ไม่ต้องมาพานพบเจ้าพวกน่ารำคาญที่กองกันอยู่ด้านหลังตอนนี้ด้วย

                ความลังเลช่วงชิงเวลาไปสองวินาที

                3

                2

                "ขวัญ"

                แล้วอิงศรก็ตัดสินใจในวินาทีนั้น ว่าเขาเลือกน้องชายและทิ้งพวกพ้อง

                1

                แต่มันสายไปแล้วเวลาแค่หนึ่งวินาทีไม่มีทางที่จะชักเท้าหนีทันด้วยซ้ำ

                ร่างกายที่เต็มไปด้วยปรารถนาอันมากเกินพอจึงหนักอึ้งเพราะความละโมบ แล้วความละโมบนั้นก็ถูกไฟชำระเผาไปพร้อมกับร่างกาย

                เบา... รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้นเป็นอย่างมาก ภาระที่เคยแบกไว้บนไหล่ได้หลุดออกไปแล้ว

                อิงศรถูกไฟคลอกแล้วตายลงที่นั่น

               

    อิงศร Lv. 60

    [.....0:3560.....]

     

    คุณเกมโอเวอร์แล้วจะเล่นต่อไหม?

    เล่นต่อ

    จบเกม

                อิงศรเลือกจบเกม...


    Login 45: Game Over แห่งการพบกันอีกครั้ง

     

     

     

    แวะคุยท้ายตอน

    เอ่อ...ยังไงก็ตามเรื่องยังไม่จบนะครับยังมีต่ออีกวันจันทร์หน้าเน่อ

    ตอนนี้ตั้งใจให้ชื่อตอนไปต่อกับตอน 'Restart แห่งการจากลา' น่ะครับตั้งใจแบบนี้ไว้ตั้งแต่ตอนที่วางพล็อตแล้วล่ะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×