คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #291 : Extra Log 287: Grand God Beast 6
Extra
Log 287: Grand God Beast 6
”ไปกันเถอะนิว”
เน็กส์พูดแล้วจูงมือเด็กสาว
“เดี๋ยวสิเน็กส์”
เด็กหนุ่มไม่ฟังเสียงทัดทานแล้วมุ่งหน้าต่อไปอันที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าเธอพูดอะไรสมาธิของเน็กส์ไปอยู่กับภารกิจหมดแล้ว
ไม่ใช่แค่เรื่องเวลาของภารกิจเพียงอย่างเดียวหรอกแต่สิ่งที่กำลังไล่ต้อนพวกเขาอยู่นั้นไม่แน่ว่านิวอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นซึ่งถ้าเขาไม่มีไซเบอร์อายยูนิทอยู่กับตัวก็คงไม่ทันรู้สึกตัวเหมือนกัน
แต่ว่ากระแสลมกำลังบีบเข้ามาหาศูนย์กลาง
เศษซากที่พัดอยู่รอบๆกำลังไล่พวกเขามาทีละนิดทีละน้อยจนแทบไม่รู้สึกตัวบางทีสัตว์เทวะคงเริ่มทำอะไรบางอย่างเข้าให้แล้ว
จนถึงตอนนี้ความจริงที่ว่าพวกเขาถูกมหาเทพสัตว์เทวะซิสกินเข้ามาก็ยังไม่เปลี่ยนดังนั้นคงจะต้องรีบชิงลงมือก่อนที่เกิดอะไรขึ้น
นั่นคือความคิดของเน็กส์ที่ถูกทิ้งให้ต้องตัดสินด้วยตัวเอง
เป็นครั้งแรกที่ต้องแบกรับความเป็นหัวหน้าของภารกิจเอาไว้
เพราะทีมของนรินทร์ที่อยู่ที่นี่ล้มเหลวไปแล้วดังนั้นเขากับนิวจะต้องทำภารกิจที่นี่ให้สำเร็จแทน
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่นี้กดดันเด็กหนุ่มอยู่
แล้วเน็กส์ก็เข้าใจเรื่องนั้นเป็นอย่างดี
เขารู้อยู่แก่ใจว่ากำลังถูกแรงกดดันของความรับผิดชอบบดขยี้อยู่แต่ก็ตั้งใจแบกรับมันเอาไว้
อยากได้รับการยอมรับ
อยากถูกชม
อยากเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งที่พวกพี่ๆ
ให้การยอมรับ
ด้วยความปรารถนาเช่นนั้นเน็กส์มุ่งหน้าไปพร้อมกับแบกรับภาระอันหนักอึ้งเกินตัวไปด้วย
พอมุ่งหน้าเข้าใกล้เสาส่งลังงานไปได้คืบหนึ่งก็มีกระแสลมพัดต้านออกมา
กระแสลมเข้าปะทะกับร่างกายมันพยายามดันเขาออกไปแต่บูสเตอร์ไอพ่นของปีกที่หลังก็เร่งกำลังผลักดันจนสามารถแทรกร่างกายผ่านกระแสลมแรงนั้นไปได้
แต่นิวไม่ใช่...
“กรี้ดด!!”
“นิว!”
มือของนิวที่เขาจับไว้หลุดออกเธอถูกลมพัดปลิวกระเด็นไปแล้วด้านหลังก็มีเศษซากที่มีแง่งแหลมยื่นออกมาลอยเข้ามาอยู่ในวิถีนั้น
เน็กส์หันกลับไปอย่างเต็มกำลังเพื่อจะช่วยเธอแต่เพราะไอพ่นจากบูสเตอร์ที่หลังทำให้เดินหน้าไปก่อนแล้วการจะพลิกลำกลับเป็นเรื่องยาก
ถ้านิวเป็นอะไรขึ้นมาทั้งหมดคือความผิดของเรา
เน็กส์ตำหนิตัวเอง
ตำหนิโทษเพื่อกระตุ้นร่างกายให้เร่งรีบทำเกินกว่าขีดจำกัดแต่ดุเหมือนจะยังไม่เพียงพอ
ตรงนี้เด็กสาวต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น
แต่ก็มีคนอื่นพุ่งเข้ามารับนิวไว้ก่อน
“พี่ริน!”
นรินทร์ที่หายตัวไปนั่นเอง
แต่ว่าแถวนั้นมีเศษซากที่ถูกกระแสลมด้านนอกพัดดีดเข้ามาในนี้
เศษซากรอบๆ
เองก็ถูกดีดเข้ามาด้วยสัตว์เทวะเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อจะจัดการกับพวกเขาอย่างเด็ดขาดแล้วจริงๆ
แต่มิกซ์
กับราชครูโพแทสเซียมและลิเธียมก็ปรากฏตัวตามมาทั้งสามช่วยกันทำลายเศษซากทั้งหมดแล้วกลับมารวมตัวกันในตอนที่เน็กส์ถอยห่างออกจากเสา
“พี่รินปลอดภัยดีสินะฮะ”
แต่คนที่ตอบรับคำถามของเขากลับเป็นราชครูผมสีเงินที่ตีหน้ายิ้มแย้มไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสภาพของตัวเอง
“ก็พูดได้ไม่เต็มปากด้วยสิครับแต่ว่าเหลือกันอยู่แค่นี้แหละนะ อะฮะ”
ที่เสื้อผ้าของราชครูมีรอยขาดวิ่นเต็มไปหมดชายเสื้อโค้ทก็ถูกตัดออกไปด้วย
ราชครูลิเธียมเองก็มีสภาพไม่ต่างกันทั้งสองยืนทรงตัวอยู่บนโฮเวอร์บอร์ดส่วนนรนิทร์กับมิกซ์บินด้วยพลังของร่างไฮพีเรี่ยน
นรินทร์ปล่อยนิวไว้ข้างๆ
ตัวเองแล้วเริ่มพูด
“ตอนที่เข้ามาในเขตแดนพวกเราก็ถูกซิสกลืนเข้ามาในนี้พอมาถึงตรงใจกลางนี่ก็เหลือกันแค่ไม่กี่สิบคนแล้วล่ะ”
“แต่ว่าตอนนี้เหลือกันอยู่สี่คนเหรอฮะแล้วคนอื่นล่ะ”
นรินทร์ส่ายหน้า
สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ตอนที่พวกเราเจอเสาแล้วคิดจะเข้าไปทำลายน่ะก็ถูกลมเป่าแบบที่นิวโดนเมื่อกี้พัดไปชนกับซากข้างนอกจนเหลือกันแค่นี้แล้ว”
“ถ้างั้นเราจะทำยังไงกันดีฮะ”
พอถามไปนรินทร์ก็จ้องเขม็งมาทางนี้
“เอ๋ ผมเหรอฮะ”
เน็กส์เข้าใจในทันทีว่านรินทร์เล็งใช้งานเขาบางทีอาจจะมีสิ่งที่มีแต่เขาที่ทำได้สายตาของนรินทร์มันพูดแบบนั้น
“เน็กส์เมื่อกี้นายบินฝ่ากระแสลมนั่นเข้าไปได้สินะ”
“ได้ฮะ คงเป็นเพราะร่างไฮพีเรี่ยนของมนมันมีบูสเตอร์ไอพ่นติดมาด้วยก็เลยมีกำลังพอจะบินฝ่าพายุได้น่ะฮะ”
“ได้การล่ะ”
นรินทร์ดีดนิ้วดังเปาะ
เขาพูดด้วยสีแบบมีความหวังขึ้นมา
“เน็กส์บินเข้าไปถอนเสาเองได้ใช่ไหม”
“ผมคนเดียวเลยเหรอฮะ”
“ใช่ ตอนนี้มีแต่เน็กส์ที่บินฝ่าเข้าไปได้”
เด็กชายทำหน้าลังเล
ทั้งที่เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะทำตัวห้าวหาญคิดจะแบกรับความคาดหวังของทุกคนเอาไว้แท้ๆ
แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกับนิวก็ชักจะรู้สึกว่าความมั่นใจที่เคยมีมันหดหายไป
ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริงๆ รึเปล่า
“ไปเถอะเน็กส์”
นิวพูด
“เน็กส์ทำได้นิวจะคอยเชียร์นะ”
เน็กส์มองหน้าเด็กสาว
ทั้งที่เธอเกือบจะต้องเป็นอะไรไปแล้วเพราะความหุนหันพลันแล่นของเขา
เธอช่างเป็นคนที่เข้มแข็งเหลือเกินเขาคงพูดแบบนั้นได้อย่างเต็มปากหากว่าไม่ทันสังเกตเห็นว่าเจ้าหล่อนเม้มริมฝีปากและพูดด้วยใบหน้าเหมือนกับจะร้องไห้
แล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่องที่พูดกันก่อนจะเข้ามาในเขตแดนของสัตว์เทวะตัวนี้
นิวกำลังกลุ้มใจที่เธอแทบไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้เลย
แล้วตอนนี้เขาที่มาด้วยกันกับเธอก็ยังจะได้หน้าที่สำคัญไปอีก
พอลองคิดถึงความรู้สึกของนิวแล้วก็คงอดน้อยใจไม่ได้ถึงเธอจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ตาม
ถึงจะไม่มีความทะเยอทะยานหรือของแบบนั้นอยู่ก็ตามแต่เป็นใครก็คงไม่ชอบที่รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า
ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่นิวก็ยังคอยให้กำลังใจ
“จะลองดูฮะ”
เน็กส์ไม่อยากปฏิเสธความคาดหวังที่เพื่อนเด็กสาวกัดฟันมอบให้
นรินทร์พูด
“พยายามเข้าล่ะเน็กส์พวกพี่จะช่วยซัพพอร์ทจากข้างนอกเอง”
แล้วจึงหันไปบอกคนอื่นๆ
“ทุกคนช่วยกันกำจัดซากที่ลอยเข้ามาในนี้ออกไปแล้วก็เตรียมทางนี้กันด้วยเราจะหนีออกไปทันทีที่เสาถูกโค่นลง”
เน็กส์ปล่อยเรื่องพวกนั้นให้เป็นหน้าที่ของนรินทร์กับคนอื่นๆ
แล้วบินออกจากกลุ่มไป
มุ่งหน้าไปหาเสาส่งพลังงาน
กระแสลมพัดต้านมาแต่เขาเร่งไอพ่นที่หลังสู้กับมันจนฝ่าไปถึงแผ่นดินที่เสาตั้งตระหง่านอยู่
เขาต้องลดเพดานบินลงให้อยู่ติดพื้นบนแผ่นดินนั้นให้มากที่สุดเนื่องจากกระแสลมรุนแรงเป็นอย่างมากและจำต้องกะแรงของไอพ่นให้มากพอจะรับแรงสะท้อนจากการใช้สกิลไม่ให้เสียหลักจนไหลไปกับกระแสลมด้วย
เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้วเน็กส์ก็ยื่นไม้เท้าทั้งสองอันเล็งไปที่เสา
“โซเดีย...”
ครั้งนี้จะใช้ลำแสงอมฤตในการโจมตีเนื่องมาจากการเผชิญหน้ากับสัตว์เทวะก่อนหน้านี้ก็พบว่าพวกมันมีลักษณะพิเศษที่จะต่อต้านการโจมตีพิเศษบ้าง
กายภาพบ้าง
หรือไม่ก็การโจมตีที่มีธาตุมาเกี่ยวข้องแต่สิ่งที่ได้ผลกับพวกมันที่สุดก็คือลำแสงอมฤตที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขของพวกมันเลยดังนั้นถ้าเสาส่งพลังงานนี่จะมีลูกเล่นล่ะก็มันคงมีไม่ต่างกับพวกสัตว์เทวะนั่น
อณูแสงที่หลั่งไหลมารวมกันตรงปลายไม้เท้าขยายตัวจนมีขนาดเกือบเท่าลูกฟุตบอล
“โซเดียราโอ!”
เน็กส์ตะโกนเพื่อปลดปล่อยการโจมตี
ลำแสงสีแดงชาดพุ่งทะยานจากปลายไม้เท้าทำให้เกิดแรงสะท้อนดีดกลับมาแต่เพราะกะเผื่อเอาไว้แล้วจึงเร่งไอพ่นด้านหลังต้านเอาไว้ในจังหวะเดียวกัน
ผลก็คือตัวเขาถอยไปด้านหลังเล็กน้อยส่วนลำแสงปะทะเข้ากับเสาอย่างจัง
ทว่า....
“ไม่ได้ผลงั้นเหรอ”
เสาไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนทั้งที่พื้นดินรอบๆ
โคนเสาถูกระเบิดกระจุยแต่รากของมันก็ยังยึดเกาะกับแผ่นดินนี้อย่างแน่นหนา
รากสีดำที่แผ่ขยายยึดเกาะพื้นดินราวกับรากต้นไม้พวกนั้นการจะทำลายแผ่นดินเพื่อหวังให้มันโค่นลงมาเองคงเป็นไปไม่ได้
ตอนนั้นเองก็มีการติดต่อมาจากซากิริ
‘แต่ว่ากลุ่มอื่นๆ ยังทำลายเสาได้เลยนะไม่มีการป้องกันพิเศษอะไรเลยนี่’
เธอรู้สถานการณ์ทางนี้?
พอหันกลับไปมองก็เห็นนรินทร์กำลังใช้หน้าจอสื่อสารเหมือนกันบางทีคงจะบอกเรื่องของทางนี้ไปแล้ว
“คนอื่นๆ เขาถอนเจ้านี่กันยังไงครับ”
‘ก็ใช้แรงถอนธรรมดาๆ นะเห็นว่ากลุ่มที่เขตแดนเบฮีมอทถอนกันด้วยมือเปล่าเลยล่ะ’
“หมายความว่าห้ามใช้สกิลสินะครับ”
นั่นหมายความว่าเข้าตาจนแล้ว
คนที่เขาใกล้เสาต้นนี้ได้มีแค่เขาเท่านั้น
แล้วเน็กส์คนนี้ก็ดันเป็นนักเวทที่อ่อนแอปวกเปียกเรื่องพละกำลัง
เด็กชายตกอยู่ในความสิ้นหวังทันที
ทำไมกันนะ
ทำไมเขาถึงได้อ่อนแอแบบนี้
เวลาแบบนี้อยากจะแข็งแรงแบบพี่ฟูไม่ก็พี่เมษาบ้าง
ถ้าอาชีพพื้นฐานไม่ใช่นักเวทล่ะก็
เน็กส์กำไม้เท้าแน่นด้วยความเจ็บใจ
แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย
“เน็กส์!”
เสียงของนิวดังแว่วมา
น้ำเสียงอันเปี่ยมด้วยความหวังจนไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นนิวที่ทำหน้าเศร้าตอนส่งเขาเลย
เด็กชายหันกลับไปมองด้วยความฉงน
“เดี๋ยวนิวช่วยเอง”
เด็กสาวพูดมาอย่างนั้นแล้วยกหีบไม้ใบเล็กที่แบกมาด้วยตลอดขึ้นมา
มันคืออาวุธไฮพีเรี่ยนที่จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำอะไรได้เพราะนิวยังไม่เคยแสดงให้เห็นแม้แต่ตอนที่ซ้อมด้วยกันก็ฝึกแต่การควบคุมสกิลของเครื่องทำสวนเท่านั้น
นิวเปิดฝาหีบออกมีออร่าสีดำที่ดูลึกลับแผ่ออกมาจากสิ่งที่อยู่ภายในหีบนั้น
เงาซึ่งเปล่งออร่าสีดำยืดหัวขึ้นมาจากหีบ
เงาเคลื่อนไหวขยุกขยิกเหมือนกับมีชีวิตซึ่งต่อมาก็มีไฟลุกขึ้นมาเป็นจุดๆ รอบเงาเหมือนกับใบหน้าของสัตว์มีจะงอยปากนั่นคงเป็นใบหน้าของเงา
ของสิ่งมีชีวิตนั่น
“โซเดียมิราจออกมาเลย มาริโอเน็ตซัพพอร์ตเฮฟวี่สตรองเกอร์”
ทันทีรับคำสั่งจากนิวเงามีชีวิตก็พุ่งออกจากหีบแล้วกลายร่างเป็นหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ที่หน้าตาเหมือนกับเก็บเศษเหล็กมาประกอบกันเป็นหุ่นกระป๋อง
มือเป็นคีมจับและเท้าก็มีล้อตีนตะขาบเหมือนกับรถถัง
หุ่นกระป๋องนั่นบินอยู่ได้ด้วยพลังของนิว
มันจึงไม่ตกลงไป
“เอาล่ะนะฟู”
นิวให้สัญญาณมาแต่เขายังไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะทำอะไรจนกระทั่งเธอร่ายสกิล
“มาริโอเน็กซัส”
นั่นเป็นสกิลที่บังคับให้ผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ปาร์ตี้เดียวกันไปสิงร่างอีกคนได้เธอคิดจะใช้มันกับหุ่นกระป๋องนั่นคงจะมีแผนอะไรอยู่
เน็กส์เชื่อใจนิวแล้วถอยกลับมาจนถึงจุดที่สกิลของเธอจะมาถึงเขาได้
เมื่อเห็นเน็กส์ตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้วนิวก็ผลักหลังเจ้าหุ่น
มันกลายเป็นลูกไฟแล้วพุ่งทะยานฝ่าสายลมไปถึงตัวเน็กส์ได้อย่างง่ายดาย
ทันทีที่ลูกไฟเข้ามาสัมผัสตัวพลังก็หลั่งไหลเข้ามาร่างกาย
“นี่มัน”
แขนกับขาของหุ่นกระป๋องนั่นประกบกับแขนและขาของเขา
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากชิ้นส่วนพวกนั้นทำให้กระแสลมไม่มีผลอีก เน็กส์เหยียบเท้าที่ตอนนี้เป้นล้อตีนตะขาบลงบนพื้นดิน
พื้นยุบตัวลงไปนิดหน่อยเมื่อน้ำหนักทั้งหมดถ่ายลงพื้น
“นั่นมัน”
นรินทร์พูด
“มาริโอเน็ตฟิวชั่นค่ะ”
นิวตอบ
“ปกติถ้าใช้มาริโอเน็กซัสกับคนจะทำให้ไปสิงอีกคนแต่ถ้าใช้กับมาริโอเน็ตซัพพอร์ทที่เรียกออกมาก็จะกลายเป็นการเสริมพลังให้คนที่เป็นเป้าหมายด้วยพลังของตัวมาริโอเน็ตซัพพอร์ทที่เรียกออกมา
สำหรับเฮฟวี่สตรองเกอร์น่ะจะทำให้มีพละกำลังมหาศาล”
นรินทร์เอาคำพูดนั้นมาวิเคราะห์รวมกับข้อมูลสกิลจากบิลด์คลาสมาริโอเน็ตแล้วก็ทำความเข้าใจได้ทันที
เพราะเดิมทีแล้วบิลด์คลาสมาริโอเน็ตนั้นเป็นสายสนับสนุนที่สามารถเปลี่ยนคุณลักษณะของพวกพ้องได้ไม่ว่าจะธาตุหรือค่าสเตตัสต่างๆ
เมื่อพลังนั้นพัฒนาไปอีกขั้นด้วยร่างไฮพีเรี่ยนและสกิลของเครื่องทำสวนตระกูล ‘โซเดียมิราจ’ ที่จะสร้างสิ่งจำลองขึ้นมาแล้วก็เลยได้ผลเป็นแบบนี้
“เน็กส์ตอนนี้น่าจะถอนเสาได้แล้วล่ะ”
“อื้ม ขอบใจนะนิว”
เน็กส์พูดแล้วเดินหน้าไปด้วยล้อตีนตะขาบซึ่งยึดเกาะพื้นได้ดีตอนนี้กระแสลมที่ส่งออกมาจากเสาทำอะไรเขาไม่ได้อีกแล้ว
พอเข้ามายืนใกล้ๆ แล้วเสาก็มีขนาดใหญ่และสูงมากกว่าที่เห็น มันกว้างประมาณตัวเขาห้าคนโอบถึงจะรอบและสูงเกือบจะยี่สิบเมตรได้
เน็กส์ใช้มือที่เป็นคีมยึดโคนเสาซึ่งมันถูกทำขึ้นด้วยวัสดุที่แข็งแต่เปราะบางเหมือนกับหินคีมเหล็กจึงบีบทะลุเนื้อเสาเข้าไป
แล้วเริ่มถอนเสาด้วยกำลังมหาศาลจากแขนกลกับล้อตีนตะขาบเสาจึงเริ่มที่จะเอนตามแรงโยก
แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่
ในขณะนั้นเองสายลมด้านนอกก็บีบตัวเข้ามาเร้วขึ้นราวกับรับรู้ได้ว่าเสาพลังงานกำลังถูกเล่นงาน
มีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งพุ่งเข้านิว
“โซเดีย...”
แต่เธอไหวตัวทันแล้วยื่นมือไปทางนั้นยิงเส้นใยออกจากมือไปสองเส้นโดยที่มีแสงอมฤตจับรอบเส้นใย
“ทวินฮอร์น”
แสงอมฤตที่จับตัวรอบเส้นใยพองขยายขึ้นในวินาทีนั้นกลายเป็นเหมือนกับเขาแหลมของกระทิงที่เสียบใส่ก้อนหินแล้วบดขยี้มันจนแตกละเอียด
เพราะเห็นว่าเธอพอจะดูแลตัวเองได้นรินทร์จึงเพ่งสมาธิไปกับการควบคุมโดรนเพื่อยิงทำลายซากที่ลอยเข้ามาได้มากขึ้น
ทว่า
ซากที่บีบเข้ามามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแล้วก็จับกลุ่มกันหน้าขึ้นจนเริ่มยิงทำลายไม่ทัน
“พี่รินครับไม่ไหวแล้วแบบนี้เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่าพี่ไปคุ้มกันทุกคนรอที่ทางหลบหนีเถอะ”
มิกซ์พูดเสนอตัวเองแล้วชี้ไปที่จุดหนึ่งซึ่งมีจำนวนของซากที่ลอยเข้ามาเบาบางกว่าจุดอื่นๆ
พวกราชครูทุ่มกำลังทำลายตรงจุดนั้นเพียงจุดเดียวและกันไม่ให้มีเศษซากทับเข้ามาอีกสำหรับใช้เป้นทางออกหลบหนี
“เข้าใจแล้ว”
นรินทร์ตอบรับข้อเสนอนั้นแล้วพาตัวนิวไปด้วยกัน
พื้นที่แวดล้อมถูกบีบเข้ามามากจนไม่มีที่ให้โดรนทำการได้มากพออีกแล้วตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ของฟูคอยยิงถ่วงเวลาไว้จนกว่าเน็กส์จะถอนเสาต้นนั้นเสร็จน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
เมื่อนรินทร์ย้ายไปรวมอยู่กับพวกราชครูแล้วมิกซ์ก็เก็บปืนพกโดยเหน็บมันไว้ที่เอวแล้วสอดแขนเข้าไปในห่วงล็อกของปืนเรลกันที่ยื่นมาจากด้านหลัง
มิกซ์สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด
“เอาล่ะนะ”
แล้วตั้งปืนเรลกันทั้งสองกระบอกเล็งไปยังกลุ่มซากหินที่กำลังบีบเข้ามา
พลังของร่างไฮพีเรี่ยนนี้คือการโจมตีและสกิลที่ยิงออกจากปืนจะมีโอกาสติดดับเบิลช็อทที่จะยิงซ้ำอีกนัดหนึ่งหรือร่ายสกิลซ้ำอีกครั้งทันที
ด้วยจุดเด่นแบบนั้นทำให้โซเดียอิมแพคที่เป็นสกิลท่าไม้ตายของเครื่องทำสวนเป็นการระดมยิงที่มีอานุภาพทำลายแบบต่อเนื่อง
“โซเดียอิมแพค!”
เรลกันส่งเสียงคำรามกระหึ่มขานรับคำประกาศ
“โซเดียเดสเพอราโด้บลาสเตอร์ (Zodia Desperodo Blaster)”
กระสุนอมฤตพุ่งจากเรลกันอย่างต่อเนื่อง
มันยิงระรัวไม่หยุดจนเห็นเหมือนกระสุนที่พุ่งออกไปถี่ๆ ติดๆ กันนั้นกลายเป็นเส้นลำแสง
มิกซ์ค่อยๆ
หันกระบอกปืนกราดยิงใส่จุดที่บีบเข้ามาใกล้มากที่สุดก่อน
กระสุนจะป่นก้อนหินก้อนเล็กเป็นผงละเอียดและขยี้ก้อนใหญ่แตกเป็นชิ้นๆ
ก่อนจะถูกกระสุนนัดต่อมาป่นละเอียดไปอีกที
เศษซากทยอยกลายเป็นฝุ่นผงไปทีละจุดจนทัศนวิสัยภายนอกเปิดให้เห็น
พวกเศษที่หลุดรอดและฝุ่นผงที่พัดเข้าไปหาจุดหลบหนีนั้นก็ได้โดรนของนรินทร์ช่วยกางกำแพงป้องกันเอาไว้ซึ่งพอเหลือแต่ก้อนเล็กๆ
กับฝุ่นผงแล้วการป้องกันจึงทำได้ดีขึ้น
เวลาผ่านไปห้าวินาทีจากที่เริ่มยิงสกิลก็จบลงพอดีกับที่เน็กส์ถอนเสาส่งพลังงานโค่นลงได้สำเร็จ
ที่เหลือก็รายงานไปที่เรือแล้วหนีออกจากที่นี่เพื่อตามอิงศรไปสู้ในศึกสุดท้าย
@@@@@@@
ที่เขตแดนของเบฮีมอท
เมษากับกรกฏเพิ่งจะต่อยเสาด้วยหมัดลุ่นจนหักโค่นไปเมื่อกี่นาทีก่อน
ตอนนี้พวกเขาถูกสัตว์เทวะล้อมขังเอาไว้ในแอ่งที่หักเสาส่งพลังงาน
ทหารที่มาด้วยมีจำนวนเบาบางลงไปมากกะดูแล้วน่าจะเหลือไม่ถึงยี่สิบนาย
เมษาพูด
“จะเอาไงต่อกับพวกสัตว์เทวะดี”
“เราไม่มีความจำเป็นต้องสู้กับพวกมันต่อแล้ว แต่ต้องรอยืนยันจากเรือก่อนว่าสนามคลายพลังแล้วจริงๆ”
รูบิเดียมพูด
“ถ้างั้นต่อไปก็เตรียมหนีสินะ”
เมษาทำท่าเข้าใจอย่างว่าง่าย
ตอนนี้ก็แค่รอเท่านั้น
….ขณะเดียวกัน
ที่เขตแดนของเลเวียธาน….
“โซเดียอิมแพค”
ฟูตะโกนขณะดำลงไปยังก้นทะเล
ความกดดันของน้ำเริ่มบีบเข้ามาจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ตอนที่ปรึกษากันว่าจะลงมาทำลายเสาส่งพลังงานที่ก้นทะเลอย่างไรนั้นเพราะมีอุปสรรค์อย่างความดันน้ำแล้วก็เรื่องที่สกิลยิงทำอะไรเสาไม่ได้จึงต้องลงไปถอนด้วยมือเท่านั้น
แต่ว่าแม้แต่ร่างไฮพีเรี่ยนเองก็ทนความกดดันใต้ทะเลลึกที่เสาตั้งอยู่ไม่ได้
ดูเหมือนจะเป็นพลังงานที่คอยคุ้มครองเสาที่สร้างความกดดันหนักขนาดทำร้ายร่างไฮพีเรี่ยนได้ขึ้นมาเป็นกลไกการป้องกันตัวเองนั่นเอง
“โซเดียพาวเวอร์ (Zodia
Power)”
อมฤตถูกรวมมาเคลือบร่างกายจนเปล่งแสงสีแดงอ่อนๆ
ออกมา ด้วยร่างกายที่เป็นอมตะขณะใช้สกิลนี้ต่อให้โดน
ลำแสงอมฤตจากพวกเดียวกันรุมยิงใส่ก็ยังไม่สะทกสะท้านดังนั้นจึงฝ่าความกดดันของทะเลไปได้อย่างง่ายดาย
ฟูที่ลงไปเหยียบที่ก้นทะเลก็พบว่าด้านล่างนี่มืดสนิทแทบไม่มีแสงส่องลงมาแต่เพราะแบบนั้นเสาส่งพลังงานที่เปล่งประกายท่ามกลางความมืดนี่จึงยิ่งเด่นชัด
เขาหวดค้อนใส่โคนเสาเต็มแรงเพียงแค่สามครั้งเท่านั้นเสาก็หักกระเด็นไปครึ่งต้นในการทุบครั้งที่สาม
ที่เป็นแบบนั้นเพราะพลังจากสกิลที่ใช้ป้องกันตัวนั้นช่วยเพิ่มพลังกายให้ด้วยนั่นเอง
@@@@@@@@
“โอเค
ตอนนี้เสาพลังงานทั้งสามต้นถูกถอนหมดแล้ว”
ซากิริพูดจบก็เงยหน้าออกจากจอโน้ตบุ๊คแล้ววิ่งไปดูที่กาบเรือ
ที่ด้านล่างกำแพงที่เคยปกคลุมเมืองส่วนกลางไว้กำลังจะหายไป
“กำแพงหายไปแล้ว”
ทันทีที่ยืนยันเสร็จสิ้นก็มีอะไรบินข้ามหัวเธอลงไปจากเรือ
พวกอิงศรนั่นเอง
ทุกคนอยู่ในร่างไฮพีเรี่ยนพร้อมทำศึกตัดสินครั้งสุดท้าย
ความคิดเห็น