คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #253 : Extra Log 249: อมฤต
Extra
Log 249: อมฤต
พวกเขาถูกย้ายออกมาข้างนอกร้านกาแฟ
สถานที่คือบนถนนหน้าร้านนั่นเอง
…แต่ว่าสภาพของอาคารไปจนถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวไม่ได้เป็นปกติเลยซักนิดเดียว
ท้องฟ้ามืดสนิท
อาคารบ้านเรือนมีสภาพรกร้าง ดูเก่ากว่าเคยเห็นก่อนหน้านี้
อย่างกับว่าที่นี่คือ…
“รากของอาคาชิกเรคคอร์ดงั้นเรอะ”
อิงศรสรุปตามที่เห็น
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าที่นี่คือมิติที่ ‘รูนรูม’
ซึ่งซีลอร์ดใช้เป็นที่นัดพบและติดต่อกับเขาในความฝัน
รากของอาคาชิกเรคคอร์ด
ก็คือโลกที่โดนความว่างเปล่ากลืนกินมายังอีกฟาก
ประเทศนี้กับประเทศจีนเป็นปาราการด่านสุดท้ายของการกลืนกินโลกจากความว่างเปล่า
ในช่วงที่พวกเขาขึ้นไปเผชิญหน้ากับแอดมินิสเทรเตอร์
ช่วงเวลานั้นเมืองคงจะถูกกลืนหายไปแล้ว
แล้วการที่พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ในทันทีนั้น…
อิงศรคาดเดาคำตอบเอาเอง
“นี่พวกเราใช้ชีวิตปลอมๆ
อยู่ในเมืองร้างตั้งแต่ที่ย้อนกลับมาเลยสินะ”
“ถูกต้อง”
เจ้าสิ่งมีชีวิตสีดำขนาดมหึมาพูดตอบ
สิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างประหลาดมีทั้งปีกที่ยุ่งเหยิงหลายปีกด้วยกัน
และหางยาวมีปลายเป็นลูกศร
ศีรษะคล้ายมนุษย์ไม่มีเส้นผมโผล่ออกมาจากปากขนาดใหญ่ที่มีเขี้ยวคมกริบเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ
เป็นสัตว์ประหลาดราวกับฝันร้ายที่หลุดออกมามีตัวตน
แต่แท้จริงกลับเป็นแอดมินิสเทรเตอร์ เป็นตัวตนที่เรียกว่าพระเจ้า
มันเรียกตัวเองว่ามหาเทพราหู ราหูลาริส
“พวกเจ้าอยู่ในภาพลวงตา
ไม่สิโลกทั้งหมดก็เป็นแค่ภาพลวงตา ความจริงในเรื่องโกหก เรื่องโกหกกลายเป็นจริง
ก็เหมือนดั่งหมอกพวกนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยซักอย่างเดียว”
มันพูดพร้อมกับโบกมือ กวนหมอกที่ล่องลอยอยู่รอบๆ
เหมือนกับเล่นเอาสนุก
แต่อิงศรสนใจประโยคที่มันพูดมากกว่า
ที่บอกว่าไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยแม้แต่อย่างเดียว
นั่นหมายถึงโลกมายาที่หลอกพวกเขาหรือเปล่า?
หรือเพียงแค่พูดลอยๆ
หรือว่าแอบแฝงความหมายเอาไว้ ก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าประโยคนั่นก็กระตุ้นเร้าต่อมความสงสัยขึ้นมา
อิงศรรู้สึกว้าวุ่นกับความคิดของตัวเอง
เขามีสมมติฐานที่เชื่อได้ยากอยู่เรื่องหนึ่งคอยรังควานใจตั้งแต่ย้อนกลับมา
ไม่สิมันเริ่มคลางแคลงใจขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่รับรู้เรื่องของโลกคู่ขนานกับความฝันเมื่อครั้งที่ได้เมอร์คาบาห์มาครอบครอง
เขาได้สัมผัสกับระบบการล้างสมองของมิติหรืออะไรก็ตามที่บงการความฝันซึ่งเป็นดั่งโลกคู่ขนานนั่นมาแล้ว
ซึ่งมันคล้ายกับวิธีการที่ราหูใช้
คอยป้อนความทรงจำที่ไม่มีอยู่จริง
โน้นน้าวความรู้สึกให้รู้สึกกลมกลืนเหมือนกับอาศัยอยู่ที่นั่น
วิธีการมันเหมือนกันจนเกินไป แล้วสมมติฐานที่น่าเคลือบแคลงก็แล่นขึ้นมา
บางทีตอนนี้ตนเองก็กำลังติดอยู่ในความฝันแบบเดียวกันหรือเปล่า
ไม่รู้เลยจริงๆ
ไม่รู้อะไรเลย ความจริงในเรื่องโกหก เรื่องโกหกกลายเป็นความจริง
คำพูดของราหูมันคืออะไรกันแน่
แต่ในตอนนั้นเอง
ราหูก็พูดขึ้นว่า
“แล้วก็มาถึงวันนี้จนได้นะอิงศร
เจ้าทำลายโซลาริสกับลูนาริl นำพามนุษยชาติก้าวไปข้างหน้าแต่การจะมาถึงตรงนี้ได้มันก็ไม่ง่ายเลยเพราะงั้นข้าก็เลยถือวิสาสะช่วยเจ้าไปเยอะเหมือนกันทั้งอาคานาร์ที่มอบให้เจ้าไปรวมถึง…”
จู่ๆ
ราหูก็เปลี่ยนโทนเสียงพูดไปเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำและยานคาง
กลายเป็นโทนเสียงอันคุ้นเคยสำหรับเขา
“จะใช้ปาฏิหาริย์ไปทำไม
ไม่ต้องพึ่งของอย่างนั้นหรอกในเมื่อสามารถใช้โศกนาฏกรรมได้
ชั่ววูบหนึ่งตอนที่เจ้าเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังที่ลูนาริสมอบให้เจ้าคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหมล่ะ”
อิงศรเบ้หน้า
เขาจำเสียงนั้นได้
“นั่นมัน...”
เสียงของราหูในตอนนี้เหมือนกับเสียงของคนที่บุกรุกรูนรูมและทำร้ายออร์ฟี่เมื่อยังเป็นซีลอร์ด
มิหนำซ้ำคำพูดที่มันกำลังสาธยายก็คือคำพูดเดียวกับที่ได้ยินเมื่อคราวที่ต่อสู้ตัดสินกับลูนาริส
ราหูพูดต่อ
“ปีศาจใช้กับลูนาริสไม่ได้
งั้นก็ไม่ต้องใช้ปีศาจสิ แค่ใช้พลังก็พอ พลังที่จะสยบผู้ควบคุมได้
เธอมีมันอยู่แล้วนี่เพราะว่าข้าเป็นคนมอบมันให้ไปเองถ้ามีความสิ้นหวังมากพอเมื่อไหร่ก็สามารถใช้งานมันได้
เอาสิทำลายหอคอยสูงที่เรียกว่าบัลลังก์แห่งพระเจ้านั่นให้หักโค่นลงมาเลย”
ราหูพร่ำบอกคำพูดที่เขาได้ยินเมื่อตอนนั้นออกมาไม่หยุด
”แล้วเจ้าก็ทำมัน
ทำตามเสียงของข้าที่แนะนำเจ้าซึ่งจมปรักอยู่ในความสิ้นหวัง
ข้าคือความหวังของเจ้าการช่วยให้พวกเจ้าข้ามผ่านการทดสอบที่ยากเกินไปก็อยู่ในแผนด้วยเมื่อพวกเจ้าจัดการแอดมินิสเทรเตอร์ที่ควบคุมบัลลังก์สวรรค์ลงก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในมือของพวกเจ้าข้าก็ได้เข้าแทรกแซงแล้วตั้งค่าให้มันสร้างโลกปลอมๆ
นี้ขึ้นมาหลอกพวกเจ้า”
อิงศรตะโกน
“ทำไม แกทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน”
“นั่นสินะเพื่ออะไรดีล่ะ
เจ้าก็ลองเอาไปคิดดูก็แล้วกันถ้ายังมีโอกาสจะคิดน่ะนะ”
สิ้นคำราหูประคองมือที่มีกรงเล็บแหลมคมขึ้นเสมอช่วงอก
มวลพลังงานสีดำทะมึนก่อตัวขึ้นเป็นก้อนทรงกลม ราหูโยนมันขึ้นไป
ก้อนสีดำนั่นลอยสูงขึ้นไปยังท้องฟ้า
”เพราะเจ้าช่วยจัดการโซลาริสกับลูนาริสให้
บัลลังก์สวรรค์ก็เลยหยุดการทำงานไปช่วงสั้นๆ
ระบบป้องกันจึงหยุดทำงานไปด้วยทำให้ข้าเอาร่างกายนี้เข้ามาที่โลกนี้ได้
ทีนี้ก็จะขอเริ่มโหมโรงของบทสรุปการเดินทางของพวกเจ้าแล้วล่ะนะ”
เมื่อคำพูดสิ้นสุดลง
จังหวะพอดีกับที่บนท้องฟ้าปรากฏหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้น
ก้อนกลมสีดำที่ราหูโยนขึ้นไปขยายตัวเป็นหลุมดำนั่นแล้วดูดเอาทุกสิ่งๆ
รอบเข้าไปข้างใน
อากาศถูกดูดเข้าไปจนเกิดแรงลมพัดทุกสิ่งบนพื้นดินขึ้นไปหาหลุมดำนั่น
อิงศรเดาะลิ้น
”ชิ
เหมือนกับตอนนั้นเลยสินะ”
สถานการณ์คล้ายกันมากกับตอนที่เขาได้รับเมอร์คาบาห์มา
ตอนนั้นก็เกิดหลุมดำขึ้นที่นี่เหมือนกัน ที่รากแห่งอาคาชิกนี่
ถ้าอย่างนั้นวิธีจัดการก็น่าจะเหมือนกัน
อิงศรคิดอย่างนั้นจึงชูมือขึ้นไปเพื่อจะเรียกเมอร์คาบาห์
ใช้ดาบของเมอร์คาบาห์สะบั้นหลุมดำเหมือนกับเมื่อตอนนั้น
“เมอร์คา…”
ทว่า
สัมผัสจากมือกลับหายไป อิงศรชะงักคำพูดเอาไว้เพราะความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นผ่านเข้ามาเสียก่อน
“อึก”
เขากัดฟันทนความเจ็บปวดนั้นโดยอัตโนมัติแต่ก็ยังมีเสียงครางเล็ดลอดออกมา
มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่ทันตั้งตัว แต่พอรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มือข้างที่ชูขึ้นไปเพื่อจะเรียกอาคานาร์ออกมาก็ลอยเคว้งกลางอากาศไปเสียแล้ว
ถูกตัดไปตอนไหนกัน
เจ้านั่นเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่ท่าร่างของราหูไม่ได้ขยับเปลี่ยนไปเลย
แล้วทำไมถึง…
วินาทีถัดมานั่นเอง
พวกพ้องก็รับรู้ถึงบาดแผลของเขา
นิวส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ
“กรี้ดดดด”
เลือดของเขาพุ่งออกจากแขนส่วนที่ถูกตัด
ส่วนมือที่ขาดกระเด็นนั้นลอยขึ้นไปข้างบน ถูกดูดหายเข้าไปในหลุมดำบนท้องฟ้า
มิ่งขวัญตะโกน
“ศร!”
กวินทร์ตะโกนเรียกพลอยซึ่งกำลังตื่นตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณพลอยครับช่วยที”
แต่นรินทร์ที่ไหวตัวทันก่อนเป็นคนที่ก้าวออกมาช่วยอิงศร
ทันทีที่มาถึงนรินทร์ก็จับแขนข้างที่ขาดไปดู สลับกับมองแถบพลังชีวิตไปด้วย
อิงศร
Lv.144 [/////43500:48000///..]
นรินทร์พูด
“อิงศรนายบาดเจ็บที่อื่นอีกไหม”
อิงศรส่ายหน้า
เขายังคงกัดฟันข่มความเจ็บปวดอยู่ทำให้พูดได้ไม่มาก
“เมื่อกี้นายมองเห็นตอนที่มันโจมตีมารึเปล่า”
แต่นรินทร์ก็ส่ายหน้าเหมือนกัน
“ไม่รู้สิ
แต่บาดแผลนาย”
แล้วเตรียมไม้เท้าจะร่ายสกิลรักษา
แต่อิงศรก็ห้ามไว้ก่อน
“ช่างมันก่อนเถอะรีบตั้งกระบวน…”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทำแบบนั้น
จำเป็นต้องยืนยันให้ได้ว่าศัตรูจู่โจมเข้ามาอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะถูกโจมตีตอนรักษาเพราะเป็นช่วงเปิดช่องว่างมากที่สุด
ทว่า
เสียงน่ารังเกียจกลับดังขึ้นเสียก่อน
เสียงอวัยวะของใครบางคนถูกเฉือนออกไป
ผู้เคราะห์ร้ายคราวนี้คือฟู
มิกซ์ที่อยู่เคียงข้างฟูเบ้หน้า
“ฟู”
ฟูที่ยืนอยู่ข้างหลังสุดคอยระวังหลังให้พวกเขาถูกเล่นงาน
ถูกตัดแขนกับขาขาดไปอย่างละข้าง มิกซ์ยื่นมือจะเข้าไปพยุงร่างของฟูไม่ให้ล้มกระแทก
แต่ตอนนั้นเอง
กลับเกิดเรื่องประหลาดขึ้น
“อ้ากกก!!!”
ร่างของมิกซ์นั้นจู่ๆ
ก็ลุกไหม้ เด็กหนุ่มล้มลงไปกลิ้งกับพื้น
ส่วนฟูล้มลงไปอยู่ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้น
“อึก…มิกซ์”
ฟูก็ยังร้องเรียกชื่อของเพื่อนเด็กกำพร้าที่สนิทด้วยกันเหมือนเป็นพี่น้องโดยไม่สนใจตัวเอง
อิงศรตะโกน
“ทุกคนระวังตัวด้วย
พลอยไปช่วยสองคนนั้น…”
ตอนนั้นเองที่สายตาของเขาจับได้ถึงความเคลื่อนไหวแปลกๆ
มีอะไรบางอย่างกำลังพุ่งไปหาพลอยที่หันหลังให้
“พลอย!”
เคร้ง
เสียงโลหะแหลมสูงดังก้อง
มิ่งขวัญไปโผล่อยู่ข้างหลังพลอยกำลังยันดาบเรเปียต้านดาบของศัตรูที่เพิ่งจะปรากฏร่างให้เห็น
ผู้หญิงผิวซีด
เส้นผมสีขาวยาวเฟื้อยพันยุ่งเหยิงไปทั่วทั้งร่างของหล่อน
ทั้งแขนและขาของเธอเป็นเหมือนเคียวที่มีความคมเป็นอย่างมาก
แล้วที่เคียวเหล่านั้นก็ยังมีคราบเลือดสดๆ ติดอยู่
มันนี่เองที่ตัดแขนขาพวกเขาไป
หล่อนตัวผอมเพรียวมากเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะยันกับมิ่งขวัญได้
หล่อนค่อยๆ กดเคียวเข้าไปหาคอของน้องชาย
“ขวัญ”
อิงศรพุ่งตัวออกไปพร้อมกับเงื้อคันธนูที่มีมีดติดอยู่สี่เล่ม
ตวัดจะฟันใส่แผ่นหลังอันบอบบางของผู้หญิงคนนั้น แต่กลับมีคนมาขวาง
ไม่สิ ไม่ใช่มนุษย์
“ปีศาจ”
สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาขวางทาง
เป็นสัตว์ประหลาดที่มีหัวเหมือนสิงโต แต่รูปร่างเป็นมนุษย์คล้ายกับ นรสิงห์ของ
สิงห์อยู่มาก เพียงแต่ผิวกายของมันลุกไหม้ไปด้วยเพลิงไฟ
คันธนูถูกหยุดด้วยอุ้งเล็บของมัน
แรงต้านมหาศาลชนิดที่อิงศรใส่แรงเต็มที่ยังทำให้ธนูขยับไม่ได้
ฟู่ม
เสียงเหมือนกับมีอะไรแหวกอากาศดังแว่วมา
อิงศรเพ่งสมาธิไปกับการโจมตีหมดแล้วจึงไม่ทันสังเกตว่ารอบตัวเกิดอะไรขึ้น
รู้เพียงแค่ว่า กวินทร์กับเมษาวิ่งผ่านหลังเขาไป สองคนนั้นออกไปต้านวัตถุคล้ายกับหมัดจรวดสองลำที่พุ่งมาทางนี้
เสียงปะทะกับหมัดจรวดนั่นดัง
กึง กึง กึง
กวินทร์กับเมษาหยุดมันไว้ไม่ได้แต่ก็พยายามจนเบี่ยงทิศทางของมันออกไปได้สำเร็จ
แต่ทันทีที่หมัดจรวดเบนเข็มออกไปแล้ว
ทั้งสองก็ปล่อยแขนห้อยตกในทันที แขนทั้งสองข้างมีร่องรอยว่าจะหัก การปะทะกับหมัดจรวดนั่นรุนแรงถึงขนาดนั้น
“พี่อิงศรก้มลงฮะ”
เสียงของเน็กส์ดังมาจากด้านหลังของปีศาจสิงโต
อิงศรทำตามทันที
วินาทีถัดมาหลังจากที่ก้มหัวลง
หัวของปีศาจก็ถูกตัดด้วยคมดาบเวทย์สีเขียวจนขาดสะบั้น
สกิลมหาวาโยของเน็กส์นั่นเอง
แต่ทั้งที่โดนตัดหัวไปแล้ว แค่วินาทีเดียวหัวของปีศาจก็ต่อติดกับลำตัว
มันเชื่อมเข้าหากันโดยกลายเป็นไฟแล้วหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ปีศาจสิงโตปล่อยหมัดฮุกใส่ท้อง
“อ่อก”
อิงศรถูกหมัดนั่นงัดจนเท้าลอยจากพื้น
ก่อนจะถูกปล่อยให้ล้มลงไปกองอย่างหมดสภาพ
แค่หมัดนั้นหมัดเดียวทำเอาแทบจะหมดสติให้ได้
แต่เบื้องหลังเปลือกตาที่เกือบจะปิดสนิทนั้นเขาก็ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าจนได้
“ข…แค่ก แค่ก…ขวัญ”
มิ่งขวัญที่ประดาบกับผู้หญิงผมขาวอยู่ด้านหลังปีศาจสิงโตไปอีกทีนั้นเสียท่า
ถูกตัดแขนกับขาไปอย่างละข้างและล้มลง
ผู้หญิงกำลังไล่ตามพลอยไป
ตอนนี้กองหลังนอกจากเน็กส์กับนิวก็ไม่เหลือใครคอยป้องกันอีกแล้ว
การโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้แนวรบของพวกเขาพังพินาศย่อยยับในพริบตา
เพราะประมาทนึกไปว่าศัตรูมีเพียงคนเดียว
เพราะเจ้านั่นประกาศว่าตัวเองเป็นแอดมินิสเทรเตอร์
ซึ่งทั้งโซลาริสและลูนาริสต่างก็ต่อสู้เพียงลำพัง
เขาประมาทเกินไปแล้วตอนนี้พวกพ้องกับตัวเองก็กำลังจะถูกฆ่า
“บ้าเอ้ย!”
อิงศรสบถแล้วดันตัวเองออกไปข้างหน้า
พยายามคลานไปเพื่อช่วยทุกคน คลานไปอย่างน่าสมเพช
ปีศาจสิงโตพูด
“อย่างนั้นแหละ
แสดงความหวังของเจ้าออกมาอีกแล้วก็สิ้นหวังไปเสียเถอะ”
มันระเบิดหัวเราะใส่ราวกับคนเสียสติจากนั้นจึงเหยียดเท้าไปเหยียบใส่หัวอิงศรกดจนกระทั่งใบหน้าแนบติดพื้น
“นี่คือที่นั่งวีไอพีที่ข้าจัดเตรียมให้
เอ้า จงกรีดร้องออกมาสิวัชพืชเอ๋ย ฮะฮะฮะ”
ช่างคล้ายกับออร์ทิเกสซาร์เหลือเกิน
ทั้งวิธีการและการพูดของมัน คอยเชิญชวนให้เหยื่อดิ้นรนด้วยการแสดงความหวังแล้วผลักให้ตกไปอยู่ในความสิ้นหวังทันที
อิงศรไม่สามารถขยับไปต่อได้อีก
เขาทำได้เพียงแค่มองน้องชายกับพวกพ้องถูกฆ่าอยู่ใต้เท้าของปีศาจสิงโต
“เอาเท้าสกปรกของแกออกไปจากหัวของพี่ฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงของมิ่งขวัญดังขึ้นแล้วน้ำหนักที่กดหัวอิงศรอยู่ก็เบาลงในพริบตา
ขาของปีศาจถูกตัดขาดกระเด็นแล้วขานั่นก็สลายไปในทันทีไม่ได้กลับไปรวมตัวเหมือนตอนที่เน็กส์ตัดคอของมัน
เมื่อครู่เขาได้ยินเสียงมิ่งขวัญ
แต่นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะมิ่งขวัญก็นอนกองอยู่ตรงหน้าเขาห่างไปไม่ไกลนี่เอง
อิงศรยันตัวขึ้นด้วยแขนข้างเดียวแล้วมองไปรอบๆ
มีผู้มาใหม่ปรากฏตัวขึ้นและกำลังไล้ต้อนผู้หญิงผมขาว
ปีศาจสิงโตที่ถูกเฉือนขาไปแล้วงอกขาของมันขึ้นมาใหม่แล้วเข้าไปผสมโรงช่วยผู้หญิงสู้แต่ก็ยังเทียบฝีไม้ลายมือของอีกฝ่ายไม่ติด
อิงศรหรี่ตามองผู้มาใหม่
ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครปากของเขาก็เผยอ ออกเล็กน้อย
”ขวัญ”
ผู้ที่มาช่วยเขาเอาไว้ก็คือมิ่งขวัญอีกคน…มิ่งขวัญที่ดูโตกว่าในตอนนี้ไปอีกสองปี
“…จากโลกคู่ขนานงั้นเหรอ”
อิงศรเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนเพราะได้ยินเสียงแปลกๆ
ดังลงมาจากท้องฟ้า เสียงดังเปรี้ยะๆ
ท้องฟ้ากำลังปริแตกเหมือนกระจกโดนทุบ
แล้วก็มีจุดที่แตกเป็นรูโหว่อยู่เป็นหย่อมๆ ตามที่ต่างๆ ทั่วท้องฟ้า จากช่องว่างพวกนั้นมองเห็นทิวทัศน์ด้านบนของเมืองอยู่ด้านหลังช่องว่างนั้น
ราวกับเป็นโพรงที่เชื่อมไปถึงมิติอื่น
หรือว่ามิ่งขวัญอีกคนบินข้ามมิติมาทางรูพวกนั้น
ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังทวีความสับสนวุ่นวายนี่เอง
ราหูได้พูดขึ้นว่า
“การหลอมรวมโลกจากทุกวัฏจักรได้เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อกวนทุกอย่างเข้าด้วยน้ำอมฤตก็จะสมบูรณ์”
ความคิดเห็น