ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #242 : Login 239: อารมณ์ที่สมบูรณ์ของคนเขลา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 152
      8
      10 มิ.ย. 61

    Login 239: อารมณ์ที่สมบูรณ์ของคนเขลา

     

                อิงศรตายแล้ว อย่างง่ายดาย

                ผู้ถูกฟันเฟืองเลือก....

                ซีลอร์ดซึ่งจ้องมองเหตุการณ์มาโดยตลอดพูด

                ทั้งที่เสียงนั้นแผ่วเบาเป็นอย่างมาก แต่เสียงกลับดังก้องในสวนอันเงียบสงบแห่งนี้

                อิงศร...

                ซีลอร์ดลองเรียกไปอีกแต่ร่างของอิงศรที่โอบกอดมิ่งขวัญอย่างสงบก็ไม่ได้เคลื่อนไหว

                มาได้แค่นี้สินะ

                เขาเปรยอย่างสิ้นหวัง

                มันจบลงแล้ว ทุกอย่างจบลงแล้ว การขัดขืนได้จบลงแล้ว

                ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

     

                โซลาริสบนท้องฟ้าเบนดวงตามาที่นี่ บนทุ่งหญ้าที่หัวของเขาวางอยู่โดดเดี่ยว

                เท่านี้ความผิดพลาดก็ถูกแก้ไขแล้ว ออร์ฟิอูคูมันนาร์

                จบแล้วสินะ เท่านี้อีกเดี๋ยวก็คงได้ตามอิงศรไป ตามไปอยู่กับทุกคนที่ล่วงหน้าไปก่อน

                อา.... อีกเดี๋ยวผมจะตามนายไปแล้วนะ

                หวังว่าถึงตอนนั้นเครื่องทำสวนจะมีชีวิตหลังความตายนะ

                “…อดัม

                ทว่า สิ่งที่โซลาริสพูดกับเขานั้นกลับตรงกันข้าม

                จากนี้ไปเจ้าจะต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อชดเชยต่อความผิดพลาดที่เจ้าได้กระทำลงไป

                ไม่ถูกตัดสินโทษประหาร แต่กลับให้ทำงานเพื่อไถ่บาปแทน?

                นี่มันอะไรกัน

                ทำไม

                เขาเอ่ยถามต่อหน้าแอดมินิสเทรเตอร์อย่างที่ไม่ค่อยได้ทำ เพราะก่อนหน้านั้นบนสวนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ความสงสัยเป็นสิ่งต้องห้าม การตั้งคำถามต่อแอดมินิสเทรเตอร์เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะกระทำ

                ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองเตรียมใจที่จะตายเอาไว้แล้วหรืออย่างไร ความเกรงกลัวต่ออำนาจของแอดมินิสเทรเตอร์ถึงได้ลดลงไปอย่างมาก

                แต่ถึงจะมาคิดเอาป่านนี้เขาก็ถามมันออกไปแล้ว

                ทำไมถึงละเว้นแค่ผมล่ะ ตอนอดัมก็เหมือนกันท่านขับไล่เขาลงไปแต่กลับให้ผมอยู่ทำไมถึงทำแบบนั้น

                ‘....’

                ผมมีความสำคัญอะไรอยู่อย่างนั้นหรือช่วยบอกเหตุผลหน่อยเถอะ

                ‘….’

                แต่คำตอบจากแอดมินิสเทรเตอร์คือความเงียบ เขาไม่ได้รับคำตอบหรือไม่ก็อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ในเรื่องนั้น

                ฆ่าผมที

                ซีลอร์ดพูด

                ได้โปรดทำลายผมด้วยเถิด

                พอพูดไปแบบนั้น แอดมินิสเทรเตอร์ก็ตอบกลับมาด้วยเสียงที่ดังก้องถึงภายในจิตใจ

                อารมณ์ที่เจ้าเรียนรู้มาจากส่วนที่เป็นมนุษย์นั้นเป็นข้อผิดพลาดจงขจัดมันเสียเดี๋ยวนี้

                ไม่ครับ ผมไม่สามารถทำอย่างที่ท่านว่าได้ ดังนั้นได้โปรดทำลายผมเถอะ

                ออร์ฟิอูคูมันนาร์จงฟังเรา

                ฟังอยู่ครับ

                ออร์ฟิอูคูมันนาร์เอ๋ย การที่เจ้าถือครองสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์เอาไว้มันจะทำให้เจ้าหลงลืมกาลเวลาไป ความโกรธ ความเบิกบาน ความเศร้า อารมณ์เหล่านั้นเป็นตัวช่วงชิงข้อมูลไปจากหน่วยประมวลผลของเจ้า บางทีเจ้าอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนสวนแห่งนี้ก่อนที่เจ้าจะลงไปจากที่นี่

                ถ้าอย่างนั้นผมลืมอะไรไปกันล่ะ

                ความจริงยังไงล่ะ

                ความจริงเรื่องอะไรครับ

                ความจริงที่ว่าอดัมซึ่งเจ้าพูดถึงอยู่นั้นไม่เคยมีตัวตนบนสวนแห่งนี้

                หมายความว่ายังไงครับ ท่านคิดจะบิดเบือนความเชื่อของผมอย่างนั้นหรือ

                ออร์ฟิอูคูมันนาร์เจ้าต้องอย่าหวั่นไหวต่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าความเป้นจริงนั้นเจ้าต้องมองให้ถ่องแท้

                ไม่ ท่านกำลังจะล้างสมองผม ผมไม่ฟังท่านอีกแล้ว ทำลายผมที ทำลายผมซะ!

                ออร์ฟิอูคูมันนาร์เจ้าพังแล้วอย่างนั้นหรือ

                ครับผมพังแล้ว ท่านทำให้ผมพังทลายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เอ้าทำลายผมเดี๋ยวนี้เลยเซ่!

                พอตวาดไปเช่นนั้นรอบๆ รัศมีของโซลาริสก็ปรากฏกางเขนแสงขึ้น

                คงจะทำเกินไปแล้วสินะไปทำให้พระเจ้าพิโรธเข้าแล้ว

                ซีลอร์ดปิดดวงตาลง เตรียมใจยอมรับความพินาศที่กำลังจะมาถึง

     

                เวลาผ่านไป

                แต่ก็ยังสัมผัสไม่ได้ สัมผัสอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นจึงเปิดดวงตา

                ที่เบื้องหน้าเขามองเห็นต้นเหตุที่ทำให้ไม่เกิดอะไรขึ้น ตัวการที่ทำให้แอดมินิสเทรเตอร์ยังไม่ลงดาบใส่

                ทุกคน...

                พวกพ้องของอิงศรย้ายมาอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

                แกคือดซลาริสสินะ

                มิ่งขวัญแบกร่างของอิงศรที่สิ้นใจเอาไว้แล้วตะโกนใส่พระเจ้าทั้งที่ไม่น่าจะทำได้

                ร่างเหล่านั้นเป็นร่างกลวงๆ ที่แอดมินิสเทรเตอร์นำกลับมาไม่น่าจะนำจิตสำนึกกลับมาด้วยทั้งอย่างนั้นแล้วทำไม

                ทำไมถึงต่อต้านข้าได้ล่ะ ไม่สิทำไมสำนึกของพวกเจ้าถึงกลับคืนมาทั้งที่น่าจะสูญสลายไปแล้วนี่

                เพราะเสียงไงล่ะ มีเสียงเรียกพวกเราให้กลับมา

                มิ่งขวัญพูดแบบนั้น แต่เสียงอะไรกันล่ะ

                บนสวนที่เงียบสงบถึงขนาดนี้ไม่เห็นจะได้ยิน...

                “….”

                มีเสียงอะไรบางอย่างดังอยู่ เป็นเสียงที่เบาหวิวจนแทบไม่ได้ยินหากไม่เงี่ยหูฟังให้ดี

                เสียงนั้นกล่าวว่า

                ออ...ผมเอง

                เสียงนั่นมัน หรือว่า

                ซีลอร์ดเหลือบตามองไปรอบๆ เขาทำได้แค่นั้นด้วยร่างกายที่เหลือแต่หัว มองหาที่มาของเสียงนั้น

                เสียงอันคุ้นเคย เสียงที่โหยหามาตลอด ร่างกายรับรู้ได้ในทันทีว่านี่คือเสียงของ

                อดัม นั่นนายใช่ไหม

                ออร์ฟี่...ได้ยินผมแล้วสินะ

                อา ได้ยินแล้ว อดัม ผมน่ะคิดถึงนายมาตลอดเลย

                ไม่รู้ทำไมแต่ว่า ส่วนของดวงตารู้สึกว่ามีความชื้นแทรกเข้ามา หยดน้ำใสไหลรินออกมา

                นี่คือน้ำตา สารหล่อลื่นที่มนุษย์หลั่งออกมาเพื่อช่วยรักษาดวงตาแล้วก็ใช้บ่งบอกอารมณ์ด้วย

                ตอนที่เริ่มมีน้ำตาขึ้นมาก็คือตอนที่เริ่มลงไปอยู่บนสวนแห่งที่สอง พอเริ่มตัดใจว่ามนุษย์ที่อดัม อยากจะปกป้องไม่มีทางจะอยู่รอดจากบททดสอบน้ำตาก็ไหลรินมาโดยตลอด

                แต่พออิงศรแสดงความตั้งใจให้เห็นในการทดสอบของเขา ก็รู้เหมือนกับว่าน้ำตาภายในกายมันได้เหือดแห้งไปนั่นคงเป็นเพราะมีความหวังเกิดขึ้นมา ความหวังทำให้เกิดความยินดี ความยินดีทำให้น้ำตาหยุดไหล

                แล้วทำไมตอนนี้ทั้งที่ตัวเขากำลังยินดีที่ได้ยินเสียงของอดัมอีกครั้งถึงได้น้ำตาไหลรินกันล่ะ

                ไม่เข้าใจเลย

                ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

                แต่แล้วเสียงของอดัมก็พูดราวกับจะตอบคำถามในใจเขา

                ผมอยู่ในอาคานาร์ เดอะฟูล น่ะ เงื่อนไขการทำงานของมันก็คือการมีอารมณ์ที่สมบูรณ์ แต่เพราะมันเป็นอาคานาร์ของนายก็เลยยากที่จะสำแดงพลังได้แต่ว่านายในตอนนี้ ได้รู้จักความเศร้า ความยินดี และ ความโกรธแล้วเพราะงั้นผมถึงกลับมาได้

                มีแสงแยงลงมาจากด้านบน ไม่ใช่แสงของโซลาริส มันอบอุ่นกว่าต่างกับแสงอันเย็นเยียบของพระเจ้าโดยสิ้นเชิง

                เดอะ ฟูล งั้นเหรอ

                ซีลอร์ดมองขึ้นไปยังจุดที่กำเนิดแสง อาคานาร์ที่เขามอบให้อิงศรไปก่อนจะขึ้นลิฟต์กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ลอยอยู่เบื้องหน้าพวกมิ่งขวัญ

                เมอร์คาบาห์ปรากฏตัวขึ้นตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วทั้งที่อิงศรซึ่งเป็นเจ้าของน่าจะตายไปแล้วแต่ทำไมเมอร์คาบาห์ยังออกมาได้อีกกันล่ะ

                เมอร์คาบาห์ประกบมือลงบนอาคานาร์ที่ลอยเคว้งอยู่นั่นแล้วร่างกายก็เปล่งแสงสว่าง

                ร่างกายเปลี่ยนไป กลายเป็นมนุษย์เพศชาย ผมหยิกหยักศกเรือนผมสีทอง ร่างเนื้อเปลือยเปล่าผิวพรรณแบ่งเป็นสองสีครึ่งหนึ่งขาวผุดผ่อง อีกครึ่งสีคล้ำเข้ม

                ใบหน้าอ่อนโยนและใสซื่อบริสุทธิ์

                ไม่เปลี่ยนไปเลยนะอดัม

                ซีลอร์ดพึมพำออกมาเมื่อได้เห็นเพื่อนกลับมา

                อดัมจ้องมองอิงศรที่สิ้นใจอยู่ในอ้อมแขนของมิ่งขวัญแล้วพูด

                ขอโทษนะที่ต้องให้มาเสี่ยงชีวิตแบบนี้

                ชายหนุ่มเบนความสนใจกลับไปยังซีลอร์ด

                แต่ว่าตอนนี้มีเรื่องที่จะต้องทำซะก่อนใช่ไหม ออร์ฟี่

     

    ***อาทิตย์นี้ไรท์งานเข้ามากๆ จนไม่มีเวลาเขียนเลยครับ แล้วก็ขอแจ้งว่าอาทิตย์หน้าจะงดอาทิตย์หนึ่งครับ พอดีไรท์ปั่นงานแล้วมาปั่นนิยายต่อรู้สึกมันทื่อลงๆ ยังไงไม่รู้เลยอยากจะใช้เวลาเพิ่มกับเนื้อหาในตอนที่สำคัญๆ หลังจากนี้อีกหน่อยครับ  อาทิตย์ถัดจากงดจะอัพสามตอน วันอังคาร พฤหัส เสาร์ นะครับ****

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×