ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #236 : Login 233: ความหมายของมนุษย์ 1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 128
      7
      22 พ.ค. 61

    Login 233: ความหมายของมนุษย์ 1

     

                ที่เบื้องหน้าของ กวินทร์ วชิระ คือชายที่น่าจะตายไปแล้ว

                เชื่อว่าชายผู้เก็บซ่อนความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดคนนั้นได้ตายลง ก็เพราะสิ่งที่พรากชีวิตของแฟรนเซียม ราชามนุษย์ต่างดาว คือแสงของพระเจ้าที่ลบได้ทุกอย่างได้สาดส่องใส่แฟรนเซียมที่สนามรบในวันนั้น

                เช่นเดียวกันกับในตอนนี้ แสงแห่งพระเจ้าก็ยังคงสาดส่องลงมาสำแดงอำนาจอันน่าสะพรึงให้เห็น

                แต่แฟรนเซียมคนนั้นกลับยังยืนอยู่ที่นี่

                ทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่

                กวินทร์ถามออกไปโดยที่จับดาบเท็งกะโกะเค็นที่เปลี่ยนเป็นพลังธาตุไฟในมือไว้มั่น

                “….”

                แต่แฟรนเซียมเมินคำถามนั้นแล้วเบนสายตาขึ้นไปยังจุดที่แสงแห่งพระเจ้าทะลวงผ่านเยื้อเมือกสีดำบางๆ ซึ่งแผ่กางครอบคลุมอาณาบริเวณบนลิฟต์ทั้งหมด

                จงอาบชโลมสรวงสวรรค์ให้มืดมิดอนธกาลมังกรสัมบูรณ์กาล อาซีดาฮากา อหุราคา          

                แฟรนเซียมพูดสิ่งที่เหมือนกับการร่ายสกิลหรืออะไรทำนองนั้นออกมา

                นั่นเป็นคำสั่งที่ทำให้ม่านเมือกบางๆ ข้างบนหัวของพวกเขาสมานตัวปิดรอยรั่วที่แสงแห่งพระเจ้าสาดส่องลงมา

                ม่านนั่นสามารถสะท้อนแสงแห่งพระเจ้าออกไปได้?

                ไม่สิมันเหมือนกับว่าเมือกสีดำนั่นดูดซับเอาแสงสว่างไว้เสียมากกว่า

                ม่านนั่นทนต่อแสงของพระเจ้าได้แต่กลับทะลุตอนที่พวกเขาตกลงมาจากลิฟต์ตัวบนที่พังไป แต่ก็เพราะเมือกนั่นทำให้พวกเขารอดตายจากการตกจากที่สูงมาด้วยเพราะได้มันช่วยชะลอความเร็วเอาไว้

                รูตรงที่อื่นซึ่งเกิดจากซากลิฟต์ตกทับลงมาก็ถูกซ่อมแซมแล้วเช่นกัน

                กวินทร์ถาม

                นั่นมันอะไรน่ะ

                แต่แฟรนเซียมก็ไม่ได้ตอบคำถามของเขาแต่พูดเหมือนเป็นเชิงถามกลับมาแทน

                รู้สึกว่าตอนที่ฉันไล่ตามพวกแกมามันก็ห่างกันไม่นานเท่าไหร่นะ

                แฟรนเซียมเบนสายตาลง จ้องมองมาทางนี้แล้วพูดต่อ

                แต่การที่เหลือกันแค่นี้เวลาที่ใช้เดินทางมาที่นี่คงจะเหลื่อมกันอยู่เยอะเลยสิ

                ดังนั้นกวินทร์จึงเปลี่ยนคำถาม

                ทำไมถึงมาที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่

                พอถามไปแล้วแฟรนเซียมก็หัวเราะเบาๆ

                กวินทร์ วชิระ เพราะแกไปนับถือคนแบบอิงศรมันแกถึงได้ตกต่ำจนต้องมาอยู่ในสภาพนี้ไงล่ะแล้วพี่สาวแกก็เหมือนกัน

                จู่ๆ ก็พูดถึงพี่สาวของเขา มันตั้งใจจะทำอะไรกันแน่

                อย่างไรก็ตามจิตใจของกวินทร์กำลังหวั่นไหวกับความตายของพวกพ้อง

                แล้วยิ่งสูญเสียมิ่งขวัญไปพร้อมกับต้องคอยปกป้องอิงศร ทำให้สมองไม่ค่อยแล่นนัก มีแต่อารมณ์ที่หมุนวนอยู่ในอกคอยขับเคลื่อนการกระทำ

                เด็กหนุ่มตะหวาดด้วยความเกรี้ยวกราด

                อย่ามาว่าพี่ฟ้านะ แล้วก็อย่ามาว่าพี่ศรด้วย!

                ไทเทเนียมน่ะนับถือในตัวฉันที่น่าสมเพชเหมือนกันกับเจ้านั่นก็เลยโดนแกฆ่าตายไปไง

                หุบปาก!

                กวินทร์เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่อีกแล้ว เมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดจาเหมือนจะประชดแกมดูถูก แถมยังเหยียดหยามพี่สาวลูกพี่ลูกน้องที่เขารักกับรุ่นพี่ที่เคารพ รุ่นพี่ที่เหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆ ที่เขาภาคภูมิใจ

                ทว่า.... แฟรนเซียมกลับพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คิดเอาไว้

                เหมือนกันเลยนะทั้งแกทั้งฉัน

                หา?”

                อีกฝ่ายกำลังจะบอกว่าตัวเองน่าสมเพชเหมือนกับที่ดูถูกพวกเขาไว้อย่างนั้นหรือ

                จากนั้นแฟรนซียมก็ยังพูดเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่รู้ทำไมจึงเอามาพูดต่อหน้าเขา

                 ฉันกับกุมภาเป็นพี่น้องคนล่ะแม่กันยัยนั่นเป็นพี่สาว

                “…”

                สงสัยที่สอนดาบให้ไทเทเนียมไปก็เพื่อให้ตัวเองตัดใจได้ล่ะมั้ง

                คิดจะพูดอะไรกันแน่

                นั่นสิ....จะมาพูดอะไรเอาป่านนี้กันเพราะฉันเองก็ฆ่ายัยนั่นไปแล้วก่อนจะขึ้นมาที่นี่

                ฮึ่ย!

                แบบนี้เอง... แบบนี้เองสินะ

                กวินทร์เข้าใจแล้วว่าแฟรนเซียมตั้งใจจะทำอะไร ตั้งใจยั่วโมโหเขาด้วยคำพูดที่ไม่รู้ว่าจริงหรือโกหกแต่ก็ล้ำเส้นมาแล้ว

                หมอนั่นบอกว่าตัวเองเป็นคนฆ่ากุมภาหรือรูบิเดียมที่เป็นพี่สาวด้วยมือตัวเอง

                จะบอกว่าตัวมันเองกับเขาเหมือนกันอย่างนั้นสินะ

                แฟรนเซียมพูด

                เหมือนกันแล้วใช่ไหมล่ะ เอ้าตอบมาได้รึยังล่ะว่าความรู้สึกที่ได้ฆ่าพี่สาวตัวเองพรากสิ่งสำคัญไปด้วยมือของตัวเองมันเป็นแบบไหน ตอบมาสิ กวินทร์ วชิระ!

                แล้วชักดาบที่เหน็บเอวไว้ออกมา ดาบของสิงห์ ธุวดารกะ ที่มีแอพพลิเคชั่นปีศาจติดตั้งอยู่

                กวินทร์จ้องมองไปที่ดาบนั้นแล้วประเมินฝีมือตัวเองว่าจะสามารถต่อต้านดาบที่ติดตั้งปีศาจของพลเอกได้ถึงแค่ไหนกัน

                ถึงแม้จะไม่ใช่ดาบมังกรเทวะแบบที่เคยเห็นที่สนามรบ พลังของดาบนั่นแข็งแกร่งเกินไปจนตัวเขาในตอนนี้ก็ยังเอาชนะไม่ได้ แต่ถ้าเป็นดาบติดตั้งปีศาจธรรมดาๆ นี่ล่ะก็ตัวเองจะมีโอกาสชนะรึเปล่า

                “….”

                ต่อให้ชนะไปก็เป็นแค่การต่อให้ของศัตรูเท่านั้น 5hkควักเอาดาบขี้โกงนั่นออกมาใช้เมื่อไหร่ก็จบ

                ถ้าอย่างนั้น...

                ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้เดี๋ยวจะให้เวลาจนกว่าเจ้าอิงศรมันจะฟื้นนั่นแหละระหว่างนั้นฉันก็จะเล่นกับแกรอไปก่อน

                แฟรนเซียมกล่าวมาแบบนั้นแล้วจึงพูดจุดประสงค์ที่แท้จริงให้เขาฟัง

                เมื่อกี้ถามสินะว่าฉันมาทำอะไรที่นี่

                “….”

                ก็มาฆ่าอิงศรไงล่ะแล้วรายต่อไปก็จะเป็นพระเจ้า

                สิ้นคำแฟรนเซียมก็ตวัดดาบแล้วบุกจู่โจมเข้ามาด้วยความรวดเร็วจนแทบตอบสนองไม่ทัน

                แกร๊ง เสียงโลหะแหลมสูงดังกังวานเมื่อดาบของพวกเขาเข้าปะทะกัน ตามมาด้วยเสียงระเบิดกับสะเก็ดไฟจากดาบของกวินทร์ที่ปลดปล่อยพลังไฟออกมาเมื่อมันสัมผัสถูกสิ่งใดก็ตาม

                การต่อสู้ที่รอเพียงแค่จุดจบได้เริ่มขึ้น...

     

                @@@

     

                 ทำเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ลงไปแล้วสินะอิงศร

                เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เรื่องอะไรกันน่ะ แล้วทำไม

                เอลิกอร์

                สเลปเนียร์

                โอดิน

                ปีศาจที่เขาครอบครองทั้งหมดจึงมาอยู่พร้อมหน้ากันในโลกสีขาวโพลนแห่งนี้กันล่ะ

                ที่นี่คือที่ไหน

                ดูคล้ายกับสถานที่ที่เคยพบกับซีลอร์ดเป็นครั้งแรกก่อนจะไปที่รูนรูม

                หรือว่าเป็นภายในจิตใจของตัวเอง

                จิตสำนึกของเธอตกลงมาที่นี่เพราะว่าร่างกายกำลังจะฟื้นตัวในอีกไม่ช้าน่ะสิ

                น้ำเสียงสดใสดังกังวานลงมาจากเบื้องบน แสงสว่างทอดตัวลงมาจากตรงนั้นเมื่ออิงศรมองขึ้นไปเขาก็ต้องยกมือขึ้นป้องดวงตาจากแสงจ้านั่น

                เมอร์คาบาห์...

                ปีศาจแห่งโชคชะตาของเขาปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางแสงสว่างนั้นและลอยตัวลงมายืนอยู่ต่อหน้า

                เวลามีอีกไม่มากแล้วจำเป็นต้องให้เธอรับรู้เงื่อนไขที่สำคัญก่อนจะกลับไปเผชิญหน้ากับแอดมินิสเทรเตอร์

                จากการที่มาพูดคุยกับพวกปีศาจที่เขาถือครองได้แสดงว่าแอดมินิสเทรเตอร์ลูนาริสน่าจะถูกจัดการไปแล้ว

                แอดมินิสเทรเตอร์ผู้มีพลังควบคุมและยับยั้งปีศาจทั้งปวงถูกจัดการไปแล้วเขาจังมาพบกับปีศาจของตัวเองได้

                “…”

                ความทรงจำยังกลับมาไม่ค่อยสมบูรณ์นัก อิงศรพยายามนึกเท่าที่จะนึกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนที่ตัวเขาจะเข้ามาอยู่ที่นี่

                ช่วงที่กำลังเรียบเรียงความทรงจำนั่นเอง

                ชายในชุดเกราะซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าที่น่ากลัวเหมือนปีศาจ เอลิกอร์ก็พูดมาด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว

                ก็ตามที่ยัยนี่ว่าน่ะแหละ ห้าวเหลือเกินนะอิงศร เป็นแค่มนุษย์แต่กล้าสังหารพระเจ้าด้วยมือตัวเอง

                เอลิกอร์หยุดคำพูดกะทันหันแล้วชายสายตาจากด้านหลังหมวกเกราะไปยังเทพเจ้าที่อยู่ในรูปลักษณ์ของชายชรามีหนวดเคราสีขาวร่างกายใหญ่โตแต่ทว่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม มหาเทพแห่งแดนเหนือโอดิน ที่ยืนอยู่ข้างๆ พลางก็พูดกระเซ้าว่า

                ถึงจะยืมมือตาลุงนี่ก็เถอะนะแต่ว่าต่อหน้าพระเจ้านั่นน่ะพวกข้าก็เหมือนไม่มีตัวตน

                แล้วเมอร์คาบาห์ก็พูดแทรกเอลิกอร์ทันที

                พวกเขายอมรับในตัวเธอที่โค่น ลูนาริสลงได้ดังนั้นจากนี้ไปพวกเขาจะให้ความร่วมมือกับเธอ

                คำพูดนั่น....

                หมายความว่าฉันจะสามารถใช้งานโอดินได้ตามต้องการแล้วใช่ไหม

                เขาเพ่งเล็งไปยังเทพเจ้าผู้หยิ่งทระนงและจงใจใช้คำพูดไม่ไว้หน้าเทพเพื่อทดสอบ ที่ผ่านมามีแต่โอดินที่มีปัญหาในการควบคุมใช้งานมากที่สุด ทั้งที่มีพลังอำนาจมากมายแต่ก็เอามาใช้งานไม่ได้จนแทบไร้ประโยชน์

                ถ้าเป็นปกติเขาคงโดนเทพเหยียบจมธรณีแต่ว่า

                เชอะ

                เทพเพียงแค่เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ

                “…”

                เป็นจริงหรือเนี่ย

                อิงศรไม่อยากจะเชื่อต่อความเป็นจริงตรงหน้าเลย แต่ว่ามันก็เป็นไปแล้ว

                เมื่อเขาเอาชนะพระเจ้าได้ตัวเองก็จะมีอำนาจมากขึ้น

                “…”

                อิงศรร้องไห้

                ทำไมเขาจึงร้องไห้ล่ะ เพราะว่าซาบซึ้งยินดีกับการได้รับพลังนี้อย่างนั้นน่ะหรือ

                ไม่ใช่... เขารู้สึกได้ว่าน้ำตานี้ไม่ได้มาจากความปลื้มปิ่ม แต่เป็นความโศกเศร้าแสนขมขื่น

                เมอร์คาบาห์พูดออกมาราวกับล่วงรู้ถึงจิตใจของเขา

                คิดว่าควรจะให้รู้เอาไว้

                แต่ที่นี่มันก็ข้างในจิตใจของตัวเขาเองอยู่แล้วนี่

                ข้างนอกตอนนี้พวกพ้องได้ตายกันไปหมดแล้ว

                พอหล่อนพูดมา

                ปีศาจที่ใบหน้าเหมือนกับตัวเองกล่าวว่าพวกพ้องที่แสนสำคัญ พวกพ้องที่เขารักมากตายอย่างง่ายดาย

                มันทำให้เขาก็จำขึ้นมาได้

                ทุกคนถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของพระเจ้าเหลือแค่มิ่งขวัญกับกวินทร์

                จิตใจของเขาเริ่มจดจำเรื่องตอนที่ยังมีสติได้ทีละน้อย ดังนั้นน้ำตาจึงไหลออกมา มันเป็นดั่งตัวแทนของความรู้สึกตัวเองในตอนนี้

                จำได้ถึงความรู้สึกที่หมุนวนในตอนนั้น

                ความโศกเศร้า

                ความโกรธ

                ความกลัว

                ถูกเติมเต็มด้วยพลังด้านลบอย่างเปี่ยมล้น แล้วในตอนนั้นเองความสิ้นหวังก็ถือกำเนิดขึ้น มันกัดกินหัวใจจนแทบหมดสิ้น จากนั้นก็มีอำนาจบางอย่างคุกคามเข้ามาแล้วทำให้ใช้พลังของอาคานาร์ออกไป

                ทำให้พระเจ้าบาดเจ็บสาหัสแต่เขาเองก็หมดสติเพราะว่าใช้พลังไปมาก

     

                เมอร์คาบาห์พูด

                ตอนนี้น้องชายอันเป็นที่รักของเธอก็ตายแล้ว

                “…”

                พอได้ฟังแล้วอิงศรนึกออกขึ้นมา

                ถึงจะจำไม่ค่อยได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่จำได้ว่าเขาได้ยินเสียงของกวินทร์ที่ร้องเรียกมิ่งขวัญ

                เสียงของหมอนั่นทรมานและโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

                ถ้าอย่างนั้นขวัญก็

                เขาก้มหน้าลง รู้สึกว่าตัวเองเม้มริมปากแน่นขึ้น กล้ามเนื้อใบหน้าเกร็งตัวพยายามจะอดกลั้นความเศร้าเอาไว้

                เพราะถ้าปลดปล่อยความเศร้าออกมาตอนนี้จิตใจคงจะพังทลายลง

                ถ้าร้องไห้หนักกว่านี้ออกมาพลังในตัวคงได้เหือดหายไปหมด

                เหมือนกับแม่มดในนิทานที่เมื่อเสียน้ำตาแล้วจะสูญเสียเวทมนต์ทั้งหมดไป ที่ว่านั่นมันเป็นแบบนี้เอง

                แค่ได้ยินเรื่องความตายของมิ่งขวัญ ขาของเขาก็แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว

                อิงศรส่ายหน้าแรงๆ เพื่อไล่ความรู้สึกที่กำลังเกาะกินตัวเองออกไปแล้วเงยหน้าขึ้น

                แล้ว...ต้องทำยังไงต่อ

                แต่ใบหน้าก็นองไปด้วยน้ำตา แววตามีแต่ความขมขื่นที่เฉิดฉายอยู่

                เมอร์คาบาห์ตอบ

                รีบตื่น... ถ้าไม่ทำอย่างนั้นพวกพ้องคนสุดท้ายก็จะไม่เหลือไปด้วย

                พอพูดมาแบบนั้นก็เหมือนสติดับวูบไปชั่วขณะ

                “…”

                อิงศรปรือตาขึ้น สัมผัสยังทำงานได้ไม่ค่อยเต็มที่นักแต่ร่างกายกำลังกลับมาทำงานทีละอย่างๆ

                การมองเห็นและรับรู้กลับคืนมาแล้ว

                “…”

                มองเห็นท้องฟ้าที่ไม่รู้ว่าเป็นรุ่งสางหรือยามเย็น

                การรับรู้สัมผัสของผิวหนังและรอบตัวก็กลับคืนมาด้วย

                “…”

                แผ่นหลังของตนแนบติดกับลานหินที่กว้างใหญ่และเย็นเยียบ

                เขายังอยู่บนลิฟต์ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังบัลลังก์ของพระเจ้า

                แต่มีส่วนที่ต่างออกไป

                เมื่อสัมผัสต่อรสและกลิ่นกลับคืนมาถึงได้รู้ว่า ที่นี่ไม่มีซากศพกับเลือดของพวกพ้องที่น่าจะนอนเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณนี้อยู่เลย

                “…”

                บนท้องฟ้าปรากฏสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ลักษณะเป็นแผ่นสีดำบางๆ คล้ายกับฟิมล์ที่มองทะลุไปข้างหลังได้แบบเรือนลาง

                แล้วตอนนั้นหูที่เริ่มกลับมาทำงานก็ได้ยินเสียง

                เสียงกรีดร้องของกวินทร์

                อ๊ากกกกก!!!

                อิงศรดีดตัวลุกขึ้นทันที

                กวินทร์!

                มือของเขาความหาอาวุธโดยอัตโนมัติแต่ก็หาไม่พบ สายตามองตรงไปยังทิศที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง

                ห่างออกไปไม่ไกลนัก

                ก...วินทร์

                อยู่ที่นั่น...

                แล้วแฟรนเซียมก็อยู่ด้วย ทั้งสองต่อสู้กันและการต่อสู้ก็จบไปแล้ว

     

    กวินทร์ Lv.144 [/....352:82200.....]

     

                กวินทร์ที่เผชิญหน้ากับแฟรนเซียมมีแต่บาดแผล ที่บริเวณท้องมองเห็นเครื่องในที่แลบออกมาจากใต้มือเล็กน้อย ซึ่งกวินทร์ใช้มันกดบาดแผลเอาไว้

                เลือดเจิ่งนองอยู่ใต้เท้าและไม่กระจายไปยังจุดอื่น กวินทร์ ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เริ่มสู้จนจบเลยหรือ

                ชุดเกราะซามูไรจากเวพอนไนซ์อยู่ในสภาพขาดยับจนแทบมองไม่เห็นเค้าเดิมของมัน กวินทร์ไม่ได้ยกดาบขึ้นแต่ปักมันลงกับพื้นนั่นแสดงให้เห็นว่ารุ่นน้องไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืนแล้วด้วยซ้ำ

                พริบตาหนึ่ง

                ไม่รู้ว่ากวินทร์ที่ร่อแร่ใกล้ตายนั้นได้ยินเสียงของเขาหรือแค่บังเอิญ แต่กวินทร์หันกลับมาด้วยใบหน้าที่มีรอยบากจากการโดนฟันและตาซ้ายถูกทำลาย

                กวินทร์ขยับปากพูด แต่เสียงนั้นเบามาก

                อิงศรจึงอ่านปากของรุ่นน้องแทน

                 ทันเวลาพอดี...

                วินาทีถัดมาดาบก็แหวกทะลุแผ่นหลังออกมา

                แฟรนเซียมแทงดาบใส่หน้าอกซ้ายของกวินทร์ ตรงตำแหน่งหัวใจพอดิบพอดี

     

    กวินทร์ Lv.144 […..0:82200.....]

     

                กวินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×