คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Login 18 : ทางเลือกที่จะยอมรับ
ณ สวนสาธารณะติดริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง มีสะพานพาดเหนือสวนข้ามไปถึงอีกฝั่ง
รถเก๋งจอดสนิทตรงทางขึ้นสะพาน อาศัยราวกั้นสะพานเป็นที่หลบสายตา
มีนากำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองออกไปทางสวนสาธารณะ ในนั้นมืดครึ้มแถมล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ การสอดส่องเป็นไปอย่างยากลำบากแต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
ระหว่างที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังสวนสัตว์ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเลเวลนั้น ก็บังเอิญขับเข้ามาในเขตที่มนุษย์ต่างดาวปกครองอยู่ ที่รู้ได้ก็เพราะกวินทร์สังเกตุเห็นชื่อที่แสดงเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสีฟ้าลอดออกมาจากมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ
ดังนั้นจึงต้องสอดส่องเพื่อดูลาดเลาเส้นทางเสียก่อน
หลังจากส่องกล้องทางไกลอยู่พักหนึ่งเด็กสาวก็มีการตอบสนอง เธอรายงานให้พวกเขาที่นั่งอยู่ในรถฟัง
“เห็นแล้วล่ะค่ะ เป็นรังของพวกมนุษย์ต่างดาวแล้วก็มีมนุษย์ NPC ถูกจับเอาไว้ด้วยล่ะ”
“พวกมันมีกันกี่คน”
เมษาถาม
“ไม่รู้สิคะต้นไม้มันบังเลยบอกไม่ได้แต่น่าจะเป็นแค่หน่วยย่อยๆ เลเวลส่วนใหญ่อยู่ที่สามสิบค่ะ ยังไม่เห็นตัวที่น่าจะเป็นชั้นครูด้วย”
“ถ้างั้นแค่พวกเราก็เหลือเฟือรีบไปช่วยกันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน”
อิงศรพูดขัดแล้วกล่าวต่อไปว่า
“คิดจะทำอะไรน่ะหน้าที่ของพวกเราไม่ใช่การทำตัวเป็นฮีโร่นะ”
พอพูดไปแบบนั้น เมษาก็โมโหแล้วหันมาตอบโต้
“เฮอะ ชั้นไม่คิดจะฟังคำพูดของคนขี้ขลาดหรอกนะ”
แล้วเปิดประตูลงจากรถไปทันที
“อ๊ะ เดี๋ยวสิ”
มีนาคิดจะห้ามแต่ก็สายไปแล้ว เด็กหนุ่มเลือดร้อนพุ่งตัวออกจากรถ มุ่งหน้าไปที่สวนสาธารณะ
“คุณกวินทร์ขอแรงด้วยค่ะ”
มีนาพูดแล้วชักอาวุธที่คล้ายกับจอบออกมาจากหน้าจอ Inventory
“ค...ครับ”
กวินทร์ขานรับก่อนจะตามลงไป ทั้งสองวิ่งตามเมษาไปติดๆ เหลือแต่อิงศรที่ยังคงนั่งเอ้อระเหยอยู่
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าแค่ในนามเท่านั้นสินะ
แม้แต่กวินทร์ที่ออกตัวว่าชื่นชมนับถือในตัวเขาก็ยังขัดคำสั่ง หรือจะต้องให้พูดว่าตัวเองไร้ความสามารถในการเป็นผู้นำคนโดยสมบูรณ์ดีกันล่ะ
เขาก็แค่ออกความคิดเห็นเลือกวิธีการที่ดีที่สุด
คิดว่าเหลือเวลาในการเก็บเลเวลอยู่เท่าไหร่กันถึงได้ว่างแวะทำตัวเป็นฮีโร่ได้กันนะ
“...ฮ้าว~”
เสียงหาวลอดออกมาจากปาก ความง่วงยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน
สถานการณ์ของพวกเมษาไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก ถ้ามีกันแค่พวกชั้นศิษย์ล่ะก็ ฝีมือระดับหัวกะทิห้องคิงมีตั้งสามคน คงพอจะทำอะไรได้บ้าง แถมสองในสามยังเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์จริงในกิลด์ขับไล่มาก่อนคงไม่เสียท่าง่ายๆ
ดังนั้นเขาจึงคิดจะงีบหลับต่ออีกซักหน่อย
...แต่ดูเหมือนโชคจะค่อยเข้าข้างซักเท่าไหร่
ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ
มีเสียงดังขึ้นมาอย่างนั้นแล้วหน้าจอเมล์เปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
หน้าจอฉายรายการเมล์ที่มีอยู่จนถึงปัจจุบันรวมไปถึงฉบับใหม่ที่เพิ่งมาถึง ชื่อของเมล์ทำให้ อิงศรเผลอเบิกตากว้างไปแวบหนึ่ง
โดยไม่ทันคิดนิ้วก็ทิ่มไปที่เมล์ฉบับนั้นแล้ว
ข้อความในเมล์ถูกเปิดขึ้นมาบนหน้าจอใหม่
======================
Subject: @Clipius Death Timing Delivery
From: GM
Detail:
ตัวจับเวลาตายของเพื่อนคุณมาถึงแล้ว!
เวลาชีวิตที่เหลือของ มีนา ธุวดารกะ, เมษา ธุวดารกะ, กวินทร์ วชิระ คือ
[00:30:00]
======================
อิงศรกระเด้งตัวขึ้นมาจากเบาะทันทีที่อ่านเมล์จบพลางสบถออกมา
“อีกแล้วเรอะ!”
เมล์ตัวจับเวลาตาย...
เหมือนกับฉบับก่อนที่เป็นของพิพัฒน์ แต่ทว่า คราวนี้กลับมีชื่อของเหยื่ออยู่ในเมล์ถึงสามราย แถมยังมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และเมื่อคลิกที่ตัวจับเวลา ภาพถ่ายยามสิ้นชีพก็ปรากฏให้เห็น
กวินทร์ มีนา และ เมษา ทั้งสามคนมีรูปอยู่ในภาพ ทุกคนนอนจมกองเลือดด้วยกัน ร่างกายมีแต่บาดแผล ข้อจำกัดของภาพทำให้มองเห็นเพียงแค่นั้น แต่รูม่านตาของทุกคนขยายออก
ดังนั้นทั้งสามคนในรูปคงตายไปแล้วแน่ๆ และมันจะกลายเป็นความจริงในอีก สามสิบนาที... ไม่สิเวลาเริ่มเดินไปตั้งนานแล้วตอนนี้มีเวลาเหลืออยู่ไม่ถึงสามสิบนาที...
‘อยู่ที่ว่าเธอจะยอมรับมันยังไง’
คำถามที่ผู้ถูกลืมเลือนถามเอาไว้หวนกลับขึ้นมา
มันคือคำถามที่ถามว่าจะยอมรับทางเลือกแบบไหนอย่างนั้นหรือเปล่า?
เมล์มีความแม่นยำที่จะเกิดขึ้นร้อยเปอร์เซ็น ถ้าอย่างนั้นเจ้าพวกบ้านั่นก็จะต้องตายอย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นภารกิจของเขาก็จะล้มเหลวอยู่แค่นี้ ต่อให้หนีกลับไปคนเดียวได้ ก็คงจะถูกสิงห์ฆ่าตายอยู่ดี ถึงจะหนีไปก็คงถูกตามล่าแล้วก็ถูกฆ่าตายอยู่ดี
ไม่ว่าจะเลือกทางไหนสุดท้ายเขาก็ต้องตายตามเจ้าพวกนั้นไป
หรือจะลองฝืนต่อชะตากรรมเข้าไปขัดขวาง ไปช่วยเจ้าพวกนั้นไม่ให้ตาย ทำให้เมล์ไม่เกิดขึ้นจริง แต่ว่าเขาเคยล้มเหลวมาแล้วสุดท้าย พิพัฒน์ก็ตาย
ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด คำถามที่มีผลต่อการเลือกตัดสินใจ ความกดดันทำให้เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นแล้วคำราม
“โธ่ว้อย!!”
แล้วเปิดประตูรถ แล้วก้าวเท้าออกไป...
“ยอมรับยังไงน่ะเหรอ ยังไงซะชั้นก็จะไม่ยอมตายอยู่แค่นี้หรอกน่า!”
เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะต้องมีชีวิตต่อไปเพื่อไม่ให้ชีวิตของมิ่งขวัญที่เสียสละให้เขาอยู่มาต้องสูญเปล่า
อิงศรชักคันธนูแล้วพุ่งตัวออกไป
ไปพร้อมกับปณิธานที่จะปกป้องพวกพ้องเพื่อปกป้องตัวเอง
ความคิดเห็น