ตอนที่ 183 : Login 180: Amageddon Epilouge 2
Login 180: Amageddon Epilouge 2
ตอนนั้น…
ที่ช่วยให้พวกอิงศรหนีไปจากห้องประชุมเมื่อวาน
ที่โดนกรกฏบีบขมับจนกระโหลกร้าวแล้วหมดสติไป
มาถึงตอนนี้ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ยังดื้อก็เคยโดนสั่งสอนแบบนี้มาก่อน
…ตัวเองกับมีนาเกิดขึ้นมาในตระกูลที่ให้การสนับสนุนธุวดารกะ พวกผู้ใหญ่ต่างก็ผลักดันพวกเขาที่ได้รับเลือกให้ใช้นามแห่งสิบสองดวงดาวที่สืบทอดกันมาของธุวดารกะ
แต่เพราะมีนาป่วยมาตั้งแต่เด็กพวกผู้ใหญ่ก็เลยไม่แยแสแล้วเอาแต่ประจบประแจงบอกให้เขาสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับของธุวดารกะเพื่อวงศ์ตระกูล
ดังนั้นจึงไม่สบอารมณ์เจ้าพวกผู้ใหญ่ที่มองตนกับมีนาเป็นแค่สิ่งของทำมาหากิน เลยประชดด้วยการหนีออกจากบ้านไปตอนอายุแค่ 12 ด้วยวัยเด็กอมมือปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมช่วงชีวิตเลยดิ่งลงเหวพอดู
หลังจากนั้นก็ไปชกต่อยมีเรื่องไปทั่ว บางทีก็ไปชกมวยตามงานวัดหาค่าขนมบ้าง โดยรวมแล้วทำตัวเป็นพวกกุ้ยอย่างสมบูรณ์
ในช่วงที่ตกต่ำเป็นหมาข้างถนนที่วงศ์ตระกูลไม่แยแสไปแล้วด้วยนั่นเอง กรกฎ ธุวดารกะ ก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าตน ด้วยความห้าวที่มีอยู่กับตัวจึงต่อต้านแล้วก็พ่ายแพ้อย่างหมดรูป
เขาโดนพาตัวกลับไปแต่ไม่ใช่ที่บ้าน เขาถูกพากลับมาที่ธุวดารกะ ทั้งหมดนั่นเป็นคำสั่งของกุมภา หล่อนใช้มีนาเป็นตัวประกันให้เขาทำตัวอยู่ในร่องของธุวดารกะแล้วแสดงเหตุผลอันจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้นให้เห็น
เทวทูต นั่นเอง… เขาได้เห็นเทวทูตเป็นครั้งแรกและได้รับรู้ชะตากรรมที่ถูกกำหนดให้แบกรับอะไร
เพราะถูกควบคุมตัวรวมถึงวงศ์ตระกูลของตัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งเขาทั้งมีนาจำใจต้องยอมรับชะตากรรมของธุวดารกะ สถานที่ซึ่งมีแต่การแก่งแย่งขิงดีชิงเด่น สนามรบของอำนาจที่ตัวเขาซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากพลังของเด็กอมมือคนหนึ่งจะทำได้ก็ถูก สิงห์ ธุวดารกะ มองเห็นพรสวรรค์หรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้แต่ถูกเรียกตัวไป ถูกส่งเข้าหน่วยทหารของเมตไตรย กองกำลังพิเศษที่เริ่มก่อตั้งเมื่อสี่ปีก่อนที่โลกจะล่มสลายที่กองทัพนั่นเขาถูกฝึกโดยกรกฏ จนมีฝีมือเก่งกล้าเช่นทุกวันนี้
อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากแต่เพราะสิงห์กับกรกฏ ถึงได้มีตัวเองในวันนี้ วันที่ภาคภูมิใจในตัวเองที่สามารถปกป้องคนสำคัญ ได้มีพวกพ้องที่สามารถเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องได้
แต่แล้วสิงห์ ก็กลายเป็นแฟรนเซียม ราขามนุษย์ต่างดาว ส่วนกรกฏก็…
กลายเป็นคู่ต่อสู้ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในสนามรบ
บนชายหาด ห่างออกไปจากจุดที่พวกอิงศรต่อสู้กันอยู่ ห่างจากความวุ่นวายของสนามรบ
เนื่องจากกรกฏให้ข้าวหลามกับวิเชียรมาศไปสมทบกับพวกรูบิเดียมแล้วตัวเองก็มาต่อสู้กับเมษาตัวต่อตัว
คำขอเจรจาของเมษาถูกปฏิเสธนั่นเอง
“ฮ่า!!”
กรกฏคำรามพร้อมกระแทกฝ่ามือเข้ามา ฝ่ามืออัดใส่ลิ้นปี่ดังปัก
ร่างกายสั่นสะท้านแถมยังถูกดันจนร่างลอยละลิ่ว
“อ่อก”
เมษาพลิกตัวลงพื้นแต่ความจุกจากากรโจมตีเมื่อครู่ก็ทำให้ยืนไม่ไหวจนต้องใช้เข่าข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ พลางกุมมือตรงจุดที่โดนกระแทกเข้ามา
หากไม่มีเสื้อเกราะอ่อนของเครื่องแบบใหม่ที่ได้มาจากซีลอร์ดช่วยป้องกันให้กระดูกซี่โครงอาจจะหักในไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกคลื่นไส้หับท้องไส้ปั่นป่วนอยู่ไม่น้อย
เมษากัดฟันลืมความเจ็บปวดแล้วยันร่างกายให้ลุกขึ้น
“ทำไมพี่ต้องเชื่อฟังพี่กุมภาถึงขนาดนั้นด้วย”
แล้วตะโกนถาม เพราะอีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบมาตลอด
“…”
“ต้องทำกับมีนาถึงขนาดนั้นมันมีเหตุผลอะไรอยู่สินะ พี่ที่เป็นคนสอนมวยผมมาไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นั้น…”
แต่กรกฏก็กล่าวขัดคำพูดนั้น
“เออ ข้าทำด้วยความสมัครใจเอง พอใจรึยัง”
“หา?”
กรกฏทำเมินปฏิกิริยาตอบรับของเมษาแล้วจ้องมองมือของตัวเองพร้อมกับรำพึงออกมา
“เคยบอกไปแล้วใช่ไหมนักสู้จะเลือกวิถีชีวิตด้วยตัวเอง”
นั่นเป็นคำพูดที่เคยใช้ฝึกสอนตอนเข้ากองทัพใหม่ๆ เมษาเชื่อมั่นในคำสั่งสอนนั่นแล้วพยายามมาตลอดจนสามารถเปลี่ยนชะตากรรมที่ต้องแบกรับมาเป็นหนทางที่ตัวเองเลือกเดินได้ด้วยตัวเอง สามารถภาคภูมิใจที่เป็นธุวดารกะได้แต่ว่านั่น
“งั้นพี่ก็เลยเลือกทำตามพี่กุมภาทุกอย่างเลยงั้นเหรอ”
เป็นเพียงเรื่องหลอกลวงอย่างนั้นสินะ ชายตรงหน้าก็แค่สุนัขรับใช้ที่จงรักภักดีกับเจ้านายจนถึงที่สุดโดยไม่สนใจว่าเส้นทางนั้นจะผิดหรือไม่ก็ตาม
ตอนนั้นเอง กรกฏกำหมัดแล้วยื่นออกมา
“ก็ตามนั้น ไม่ต้องมานั่งพ่นน้ำลายกันแล้วถ้าอยากรู้ก็เข้ามารับกำปั้นนี่ซะถ้าแกยังไม่ตายไปก่อนก็คงจะรู้เอง”
เพียงเท่านั้นการสนทนาก็จบลง
มีแต่ต้องสู้เท่านั้น แล้วก็เป็นการสู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง
“โธ่เว้ย!”
เมษาสบถ ถึงในใจจะนึกอยากแก้มือที่แพ้ให้เมื่อวาน ถึงการประมือกับอาจารย์สอนมวยของตนและปราบลงให้ได้จะเป็นหนึ่งในความต้องการที่มีอยู่ลึกๆ ก็ตาม
…แต่ก็ไม่อยากให้ออกมาในรูปแบบนี้เลย
เมษาทำหน้าเศร้าเล็กน้อย จ้องมองพี่ชายร่วมตระกูลผู้เป็นทั้งอาจารย์และเป้าหมายด้านความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยแววตาเสียดายอย่างสุดซึ้ง
…แต่เพื่อพวกพ้อง เพื่อทุกคนที่มาช่วยมีนาที่นี่เขาจะต้องเหนือกว่าอาจารย์ของตัวเองเท่านั้น
เขาสรุปเอาความคิดนั่นเป็นที่ตั้งแล้วตัดสินใจแบกความรับผิดชอบลดจำนวนศัตรูลงคนหนึ่งเอาไว้บ่นบ่า
ถ้าทำแบบนั้นได้พวกอิงศรก็จะเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ดังนั้น
“มีแต่ต้องชนะสินะ”
เขากล่าวให้ตัวเองแล้วจับที่คอเสื้อเกราะ
“เชิ้ตออฟ”
ทว่า ถึงสกิลจะทำให้ดึงมันออกได้ง่ายๆ แต่ผิวของชุดเกราะก็ลื่นเกินกว่าจะหยิบด้วยมือ
อย่างไรก็ตาม เสื้อเกราะกลับหายไปเอง ราวกับว่ามันถูกตั้งมาให้ตอบรับกับสกิลที่เขาร่าย
เมษาตัดสินใจละทิ้งการป้องกัน เพราะถึงเสื้อเกราะจะช่วยกันไม่ให้อวัยวะภายในเละเทะตอนที่โดนหมัดของอีกฝ่ายแต่ความเร็วกับพลังที่มีอยู่แค่นี้คงจะเอาชนะไม่ได้
”เทคนิคัลเวพ่อน”
จากนั้นจึงร่ายสกิลเปลี่ยนอาวุธ
ร่างกายร้อนขึ้นเพราะเลือดสูบฉีดไปที่แขนกับหลัง ลายสักบนผิวหนังเริ่มชัดเจนขึ้นจากแขนไปถึงแผ่นหลังมันคืออาวุธแบบหนึ่งของโลกที่ล่มสลายนี้
ลายสักเคลื่อนไหวขยุกขยิกแล้วไหลมารวมกันที่แขนซ้าย เปล่งแสงแล้วทำให้ปลอกแขนสีแดงสดปรากฏขึ้น
ขณะเดียวกันกรกฏก็ทำบ้าง
“เชิ้ตออฟ”
ถลกเสื้อเครื่องแบบออกด้วยสกิลที่เพิ่มพลังโจมตีกับความเร็วเหมือนกัน คงคิดจะเอาจริงแล้ว
‘ละทิ้งการป้องกันเพื่อเสริมการโจมตี เอาชีวิตศัตรูให้ได้ก่อนที่มันจะฆ่าเราก็พอ’
นี่ก็เป็นคำสอนอีกอย่างที่ได้รับการสั่งสอนมาจากพี่กรกฏ
”เฮอะ”
เมษาแค่นเสียงขึ้นจมูกพลางยิ้มขำ รู้สึกตลกในความอ่อนหัดของตัวเอง เขาช่างเป็นลูกศิษย์ที่ดีเกินไปจริงๆ
เชื่อฟังทุกคำสอนแล้วนำไปปฏิบัติโดยไม่ลังเล
“…”
เวลาผ่านไปหลังจากทั้งสองฝ่ายเตรียมพร้อม
หนึ่งวินาที
สองวินาที
แต่ยังไม่มีใครขยับตัว ต่างฝ่ายต่างก็ดูเชิงจ้องมองการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเพื่อจะตอบโต้ให้เหนือกว่า
สามวินาที
สี่วินาที
เสียงระเบิดดังมาจากทางด้านหลังห่างออกไปหลายช่วงตัว คนอื่นๆ คงกำลังเผชิญศึกหนักพอๆ กับที่เขาเจอ
ห้าวินาที
หกวินาที
เจ็ดวินาที…
“ห๊ะ”
เมษาเพิ่งจะรู้สึกตัวตอนวินาทีที่เจ็ดว่ากรกฏที่เขาจ้องอยู่นั้นเป็นเพียงภาพติดตาเมื่อวินาทีที่หก อีกฝ่ายชิงเคลื่อนไหวก่อนในเสี้ยววินาที
ตุบ เสียงอัดกระแทกดังสนั่น ท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาทันที
“อั่ก”
เข่าของกรกฏบินเข้ามาเสียบที่ลำตัวตั้งปต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ว่าเขาถูกอีกฝ่ายจับล็อกคลุกวงในไปเรียบร้อย
กรกฏเสียบเข่าซ้ำเข้ามาอีกสามที เมษาลำตัวคู้งอแทบจะเป็นกุ้ง
“อ่อก…เอื้อ”
เมษาร้องทรมาน เด็กหนุ่มหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ ขาสั่นทั้งสองข้างแทบจะล้มทรุดให้ได้
ร่างกายต้องการออกซิเจน แต่กลับไม่มีเวลาให้พักหายใจ
กรกฏเหวี่ยงกำปั้นอัดใส่แก้มขวา ใบหน้าเขาหันตามแรงปะทะแล้วจึงถูกหมัดแย็ปซ้ายจูบเข้ามา
เมษาเอนกายไปข้างหลังเพื่อลดความเสียหาย เขาก้าวขาถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อทรงตัว
ได้กลิ่นโลหะฉุนขึ้นจมูกพร้อมกับสึกแสบขึ้นมา หมัดนั่นคงทำให้ดั้งหักเลือดกำเดาไหลย้อยออกมา
แต่กรกฏยังบุกอย่างต่อเนื่องไล่ซ้อมจนเมษาไม่มีเวลาให้หายใจหรือโต้ตอบก่อนจะเหวี่ยงหมัดเสยคางส่งเมษาลงไปนอนนับสิบ
“…”
เด็กหนุ่มหอบหายใจแรงจนท้องยุบ
รู้สึกปวดไปหมดทั้งตัว ทรมาน หายใจไม่ออก อยากอาเจียน แต่กลับสั่งร่างกายให้ขยับไม่ได้
สามวินาที นับเวลาได้ราวๆ นั้น
แค่สามวินาทีนั่นเขาโดนอัดไปกี่หมัดกันนะ โดนจับตีเข่าไปกี่ที โดนเตะบ้างหรือเปล่า
เมษานึกไม่ออกแม้จะพยายามนึกอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเกินไป ดูเหมือนฝีมือจะยังห่างชั้นกันจริงๆ
แล้วก็ไม่ใช่แค่ฝีมือแม้แต่รูปร่างก็ยังเสียเปรียบ เทียบกับกรกฏแล้วเหมือนให้สุนัขมาสู้กับเสือ
อีกฝ่ายมีพร้อมทั้งร่างกายและฝีมือ เหมือนมีช่องว่างที่ถมไม่หมดขวางกั้นเขากับพันโทกรกฏไว้
ยิ่งเวลาผ่านไปความเจ็บปวดที่ได้รับก็เหมือนจะทวีคูณขึ้น ราวกับจะย้ำเตือนว่าเขาไม่มีทางเอาชนะศึกนี้ได้
“…”
แต่จะมาแพ้แค่นี้ได้ไง น่าสมเพชตายชัก
เมษาคิดแบบนั้นแล้วเค้นแรงฮึดที่เหลือดึงร่างกายขึ้นมานั่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนในวินาทีถัดมา
ถึงจะเสียเปรียบเรื่องฝีมือกับร่างกายแต่ว่าที่นี่คือโลกที่ล่มสลายไปแล้วโลกที่กลายเป็นเกมยังมีแต้มต่อให้เป็นสกิลกับสเตตัส
ความเสียหายเมื่อครู่ก็เหมือนกัน หากเป็นโลกก่อนหน้านี้เขาคงนอนสลบโดนนับสิบไปเรียบร้อย
เมษา Lv. 69[/////9002:10030///..]
แต่เพราะพลังของเกมก็เลยทำให้ฟื้นตัวได้เร็วความเสียหายก็ถูกลดทอนลงด้วยพลังกายที่ถูกตีค่าเป็นตัวเลข
พอเห็นเมษายืนหยัดขึ้นอีก พันโทกรกฏก็ตั้งการ์ดมวยแล้วเริ่มเต้นฟุตเวิร์คเหมือนเตรียมที่จะบุกเข้ามา
หมัดแรกที่เขาโดนไปคือกังฟู จากนั้นก็มวยไทย ตอนนี้เป็นมวยสากล
พันโทกรกฏเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงแล้วยังประยุกต์ใช้กับสกิลของเกมได้ทำให้สกิลที่เหมือนกันก็อาจจะสำแดงประสิทธิภาพต่างกันไปด้วย
“เร้ดโซล”
เมษาร่ายสกิลเสริมพลังโจมตีกับเพิ่มความเร็ว ผิวหนังเปล่งออร่าสีแดงอ่อนๆ ออกมา
จากผลของสกิลตอนนี้พวกเขาน่าจะเร็วเท่ากันหรือไม่ก็ไล่ตามอยู่ไม่มาก แต่ถ้าพันโทตามมาร่ายสกิลเดียวกันช่องว่างที่เพิ่งจะถมไปนี้ก็จะไร้ความหมาย
ถ้างั้นก็ต้องรีบบุกให้มันจบๆ ไป
เมษาย้ำกับตัวเองแบบนั้นแล้ววิ่งออกไปทันที ง้างหมัด รอจนกระทั่งเข้าไปใกล้พอ
พันโทไม่ตอบสนองกับการเคลื่อนไหวของเขาหรือว่าตอนนี้จะเร็วกว่าแล้วเพราะผลจากสกิลถมช่องว่างความห่างชั้นได้ถึงขนาดนั้น
แต่มันจะราบรื่นขนาดนั้นเชียว?
สังหรณ์ของเมษาเหมือนจะถูกต้อง ทันทีที่ปล่อยหมัดใส่พันโทก็โยกตัวหลบ เพราะเต้นฟุตเวิร์คอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้จึงหลบได้อย่างง่ายดายแล้วยังปล่อยหมัดฮุคสวนมา
เสียงหมัดกระแทกเข้าที่เนื้อข้างลำตัวดัง ตุบ ร่างกายเกร็งจนแทบจะขยับไม่ได้
แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้ที่ยอมแลกหมัดก็เสียเปล่าสิ
เมษากัดฟันทนความเจ็บปวดแล้วเหวี่ยงลำตัวไปพร้อมกับหมัดอีกข้างหวดกำปั้นใส่ท้องของพันโท
หมัดที่ได้แรงส่งจากเอวที่เหวี่ยงลำตัวไปพร้อมกับหมัดเป็นเทคนิกแบบมวยสากลที่ได้พันโทสอนสั่งมา
เมษายิ้มกริ่มนิดหน่อย ยิ้มด้วยใบหน้าที่กำลังบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดจากหมัดฮุคนั่น
หมัดแรกเข้าเป้าแล้วคงสร้างความเสียหายได้ไม่น้อย
แต่ทว่า…
“เยลโลว่โซล”
ร่างกายของพันโทกลับมีออร่าสีเหลืองห่อหุ้มไว้ ออร่านั่นช่วยลดทอนความเสียหายให้จนพลังชีวิตแทบจะไม่ลดลง
กรกฏ Lv.96 [/////24999:25010////.]
จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่แค่ฝีมือกับร่างกายที่เสียเปรียบ แม้แต่เลเวลกับค่าพลังในเกมก็ยังเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ
“คิงอินเยลโล่ว”
กรกฏร่ายสกิลต่อเนื่องจาก เยลโล่วโซล เป็นสกิลสำหรับอัพเกรดสกิลตระกูลเพิ่มพลังของอาชีพโคลสเซอร์ โดยแบ่งลักษณะการเสริมพลังตามสี สีแดงคือพละกำลังกับความว่องไว สีน้ำเงินจะเป็นพลังป้องกันพิเศษกับพลังโจมตีพิเศษ และสีเหลืองจะเป็นพลังป้องกันกายภาพกับพลังชีวิต
‘คิงอินเยลโล่ว’ จะทำให้พลังชีวิตสูงสุดเพิ่มเป็นสองเท่ารวมถึงพลังป้องกายภาพ
กรกฏ Lv.96 (King in Yellow) [/////49998:50020////.]
ออร่าสีเหลืองที่ห่อหุ้มร่างของพันโทยิ่งทวีความเจิดจ้ามากขึ้น พลังคงจะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างแล้วนั่นก็ทำให้เส้นผมของกรกฏเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไปด้วย
กรกฏหวดหลังมืออัดเข้าที่ปลายคางเมษา ส่งให้ร่างลอยกระเด็นไปข้างหลัง
“อั่ก”
หลังจากรับหมัดนั้นเข้าไปก็รู้สึกถึงรสเค็มในปาก รสชาติของเลือด ดูเหมือนว่าปากจะแตกเพราะการโจมตีนั่น
เมษา Lv. 69[/////8069:10030//...]
“สกายอัปเปอร์คัท”
พันโทร่ายสกิลพร้อมกับดึงหมัดกลับ
“อึก..ซวยแล้ว…”
เมษาทำตาโต เพราะรู้ว่าสกิลนั่นจะทำงานยังไงจึงพยายามเลี่ยง
เมื่อเท้าแตะพื้นแล้วก็ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อจะหลบแต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามที่คิด ความเสียหายจากหมัดที่หวดเข้าปลายคางยังหลงเหลืออยู่ ทำให้ประสาทยังตอบสนองได้ไม่ดีนัก
ตอนนั้นเอง ที่พันโทเคลื่อนตัวเข้ามาประชิดพร้อมกับโน้มตัวลงตั้งท่าจะปล่อยสกิล
กรกฏเหวี่ยงหมัดพุ่งทะยานเป็นแนวโค้งพาราโบล่ากลับหัว
เสียงทุบเนื้อดัง ‘ตูม’ ราวกับระเบิดลง
หมัดเสียบทะลวงไส้ ทะลวงใส่ท้องของเมษา หมัดยุบจมลงไปครึ่งข้อกดทับอวัยวะภายในทำให้หายใจลำบาก
เมษา Lv. 69[/////7002:10030/....]
“อ่อก....แค่ก”
ท้องไส้บิดมวนจนเกร็งไปทั้งร่าง แต่หมัดของกรกฏไม่ได้หยุดแค่นั้น
‘สกายอัปเปอร์คัท’ ก็ตามชื่อของสกิล เป็นการหวดหมัดอัดส่งศัตรูให้ลอยขึ้นไปแต่หมัดของพันโทผสมการหมุนข้อมือเข้ามาด้วยเหมือนหมัดของมวลสากล ด้วยหมัดนั่นทำให้กระเพาะแทบจะแหลกละเอียดเสียให้ได้
เมษาโดนหมัดงัดใส่ท้องจนเท้าลอยเหนือพื้นแล้วโดนส่งขึ้นฟ้าไปทั้งแบบนั้น
“โครก..”
เด็กหนุ่มสำรอกอาเจียนกลางอากาศอย่างหมดท่า
ตอนที่คิดว่าอาจจะได้พักหายใจในช่วงที่ลอยค้างอยู่ไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง
ความคิดนั่นกลับพังทลาย เมื่อสายตาจับการเคลื่อนไหวของพันโทกรกฏที่กระโดดตามขึ้นมาได้
คงคิดจะซ้ำต่อให้ตายกันไปข้าง
กรกฏง้างหมัด
“พัมเมลสไตรค์”
แล้วร่ายสกิลปลดปล่อยพายุหมัดออกมา เมษาหลบกลางอากาศไม่ได้จึงรับเอาหมัดทั้งหมดที่กระหน่ำเข้ามาไปเต็มๆ
“…”
ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเจ็บปวด เจ็บจนร้องไม่ออก
กรกฏปิดท้ายด้วยการหมุนตัวตอกส้นเท้าลงบนหลังคอ ส่งเมษาลงไปกระแทกพื้นข้างล่าง
เมษา Lv. 69[//...3305:10030.....]
หลังจบคอมโบพลังชีวิตของเมษาก็เหือดหายไปเกือบทั้งหมด
เด็กหนุ่มนอนฟุบใบหน้ากับพื้นชายหาด ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ
แต่เขายังไม่หมดสติ แม้ความเจ็บปวดจะทำให้รู้สึกทรมาน แม้ว่ากระดูกจะลั่นราวกับกรีดร้องในตอนที่เขาพยายามจะขยับตัว
เมษาฝืนจนลุกขึ้นมาได้ แต่ก็ยืนโซซัดโซเซ
สัมผัสได้ถึงรสชาติของเลือดที่ซึมเข้าไปในปาก เลือดไหลจากแผลที่คิ้วซึ่งคงโดนพายุหมัดถากใส่จนปริแตก เลือดไหลอาบชโลมร่างกายอย่างงดงามราวกับภาพของนักรบที่ยอมสู้จนตัวตาย
แต่เขายังไม่ตาย...แล้วก็จะตายไม่ได้ด้วย
ถ้าตายที่นี่คนที่เสียใจคงไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็นพวกพ้อง
ไม่อยากให้นรินทร์ต้องรู้สึกผิดที่ยอมทำตามคำขอทิ้งให้เขาต่อสู้ตามลำพังกับกรกฏ
ด้วยความรู้สึกรับผิดชอบนั้นเมษาจึงยืนหยัดอีกครั้ง ต่อให้ต้องล้มอีกซักกี่ครั้งก็ตาม...
เป็นความคิดที่เป็นอุดมคติน่าดูชมเกินไปจริงๆ
แม้แต่ตัวเองยังคิดแบบนั้น สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ พลังชีวิตไม่เหลืออีกแล้วถ้าโดนเข้าไปอีกหมัดคราวนี้คงไม่ใช่แค่ระฆังนับสิบก่อนจะน็อค แต่เป็นระฆังสวรรค์เลยล่ะมั้ง
แต่จะได้ขึ้นสวรรค์หรือเปล่านะ สำหรับพวกเขาที่เลือกต่อต้านพระเจ้าไปแล้ว เลือกจะติดตามอิงศร
คงไม่มีที่ให้สำหรับวิญญาณของคนบาปที่คิดต่อต้านพระเจ้าหรอก เมษาคิดแล้วยิ้มเจื่อน
รู้สึกแสบที่ปากนิดหน่อยตอนที่ยิ้ม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
