ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #157 : Login 154: อูโรโบรอส

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 252
      5
      27 ก.ย. 60

    Login 154: อูโรโบรอส

     

                อิงศรจ้องมองไปทางซีลอร์ดที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มของพวกพ้องคนอื่นๆ

                ในสภาพที่ตัวเขากับเมษากำลังจะประหมัดกันเพื่อตัดสินทางเดินของแต่ละคน

                เพราะเมษาถูกมัดมือชกให้ต้องมาเอาหัวของเขาไปแลกกับชีวิตของมีนาโดยที่ไม่มีหลักประกันอะไรเลยซักอย่างเดียว

                แล้วเขาเองก็ปรารถนาจะช่วยมีนาเหมือนกัน แต่ถ้าเมษาหักหลังเมตไตรยที่นี่ชีวิตของมีนาก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายทันที

                ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องทำตามที่ตัวเองเชื่อมั่น

                ถ้า เมษา ธุวดารกะ มีทางเลือกเพียงแค่ต่อสู้และหยุดเขาไว้ที่นี่

                ถ้าทางเลือกของ อิงศร โรจน์จุฬา คือการก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

                ทางเลือกทั้งสองจึงขัดแย้งกัน

                จึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้ แต่ทว่า…

                เจ้านั่นกลับทำได้ ทำให้การต่อสู้ที่ไร้สาระนี่จบลงโดยทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม

                บนจอภาพที่ซีลอร์ดหมุนมาให้ดู

                มีนากำลังทรมาน หล่อนอ้าปากกว้างเหมือนจะกรีดร้องแต่หน้าจอไม่มีเสียงออกมาอาจจะปิด     เอาไว้ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมซีลอร์ดจึงเลือกทำแบบนั้น

                ด้านหลังของมีนา มองเห็นแง่งของฟันเฟืองยื่นโผล่ออกมา นั่นคือฟันเฟืองที่ใบ้ควบคุมเครื่องทำสวนไม่ผิดแน่ ไหนยังจะฉากหลังในจอภาพนั่นก็มีสภาพเหมือนกับห้องควบคุมของเครื่องทำสวน

                ห้องแคบๆ ที่ผนังทั้งหมดเป็นกระจกใสที่ส่องออกไปเห็นฟันเฟืองสีทองอร่ามตาท่วมท้นไปทุกหนแห่ง

                ภาพฉายอยู่แค่สิบวินาที เวลาขนาดนั้นกับภาพเล็กเท่าจอโทรศัพท์กลับมีรายละเอียดที่มากเกินกว่าจะเก็บได้ทั้งหมดในสิบวินาทีนั่น แล้วภาพก็ตัดไปยังด้านนอก

                สถานที่แห่งนั้นน่าจะเป็นชายหาดหน้ากำแพงของศูนย์บัญชาการหลักเมตไตรยที่เคยเป็นสนามรบกับเรดบอสเลเวลเจ็ดสิบเมื่อวาน

                จำนวนของทหารมากมายที่ออกมาต่อสู้เหมือนๆ กับเมื่อวานราวกับเป็นภาพวิดีโอย้อนต่างกันแค่ศัตรู...

                ศัตรูที่บุกมาคือมนุษย์ต่างดาว

                เป็นการบุกโจมตีอย่างเต็มรูปแบบทั้งมนุษย์ต่างดาวชั้นศิษย์ติดอาวุธ ยานรบที่บินบนท้องฟ้าได้ ยานเกราะที่ระเบิดภาคพื้นดินด้วยปืนยิงลูกระเบิดจนทหารมากมายตัวแตก อวัยวะหล่นเกลื่อนกราดสนามรบ

                โลหิตสีแดงสดอาบนองผืนทราย ควันไฟตลบอบอวล หากว่าหน้าจอนั้นถ่ายทอดเสียงได้คงเหมือนกำลังดูหนังสงครามเรื่องไหนซักเรื่องอยู่แน่

                ภาพเบนไปทางซ้าย ทัศนวิสัยหมุนเคว้ง และหยุดลงที่กำแพงค่ายซึ่งล้อมเมืองเอาไว้สามชั้น จากทางด้านในที่เป็นตัวเมืองนั่นเอง

                ที่นั่นมีควันไฟ ไม่สิ ดูจากสีของควันแล้วเหมือนเป็นฝุ่นทรายมากกว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นที่ตรงนั้นแล้วไม่สร้างควันไฟหรือไม่ก็…

                วัตถุที่มวลมหาศาลพอจะทำให้ฝุ่นทรายลอยคละคลุ้งขึ้นมาได้ขนาดนั้น

                เมื่อฝุ่นทรายจางลงไปเล็กน้อยก็เริ่มมองเห็นวัตถุที่อยู่ภายใน

                เพียงแค่เห็นเสี้ยวเดียวของใบหน้าสิงโตที่โผล่พ้นออกมาจากกลุ่มควันนั่น

                ใบหน้าของสิงโตที่เป็นสีเงินและมีความมันวาวเหมือนอะลูมิเนียมหรือวัตถุที่ใกล้เคียง เมื่อรวมเข้า           กับรูปลักษณ์ของสิ่งที่กวินทร์อัญเชิญออกมาจากสกิลไม้ตายเท็งกะโกะเคนแล้วเจ้านั่นก็คือ…

                ซีลอร์ดเริ่มพูด

                ตอนนี้มีนาคนนั้นกำลังขับเคลื่อน ออร์ทิเกสซาร์ด้วยฟันเฟืองที่สังเคราะห์ขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะทำการทดลองโดยให้ต่อสู้ในสงครามแตกหักระหว่างเมตไตรยกับมนุษย์ต่างดาวนั่นคือสถานการณ์ปัจจุบัน”

                หน้าจอปิดตัวลงไป ความเงียบงันเข้าปกคลุมพระเจดีย์ที่พังไปครึ่งหนึ่ง

                อิงศรลดหมัดของตัวเองลงในขณะที่สายตายังจับจ้องจุดที่หน้าจอนั่นหายไป

                เมษาก็ทำแบบเดียวกัน

                “…”

                จากนั้นเมษาก็เอ่ยถามซีลอร์ด

                ทำไม…”

                แน่นอนว่าคำถามนั้นอิงศรก็อยากจะรู้

                ทำไมมีนาถึงโดนส่งไปอยู่ข้างในเครื่องทำสวน

                ทำไมมนุษย์ต่างดาวถึงบุกโจมตีเมตไตรยทั้งที่สัญญาสงบศึกน่าจะเพิ่งยกเลิกไปเองแต่กลับเตรียมกองกำลังขนาดนั้นไว้ได้

                ทำไมทางเมตไตรยถึงได้มีกำลังพลพอจะต่อต้านกับทัพมนุษย์ต่างดาวจำนวนขนาดนั้นได้ทั้งที่ส่งกองกำลังมาที่อารย_สนธยาตั้งขนาดนั้น

                คำตอบของสองคำถามหลังนั้นง่ายมาก สัญญาเป็นแค่เรื่องบังหน้าที่กะจะหลอกใช้พลังของอีกฝ่ายเพื่อจัดการก้างขวางคอในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างก็ไปเตรียมทัพของตัวเองเพื่อทำสงครามนี้

                หากเป็น กุมภา ธุวดารกะ ที่เหลี่ยมจัดขนาดนั้นคงจะทำได้จริงๆ นั่นแหละรวมถึงฝั่งมนุษย์ต่างดาวที่มีรูบิเดียมซึ่งเคยหลอกเขาอย่างแนบเนียนมาแล้วด้วย

                ทั้งสองฝั่งนั้นต่างก็มีผู้นำที่รอบจัดชนิดกินกันไม่ลง

                ตอนนั้นเองที่ซีลอร์ดพูดขัดความคิดเข้ามาว่า

                กุมภา ธุวดารกะ ที่พวกเธอรู้จักตัวจริงก็คือรูบิเดียม ราชครูลำดับที่สามยังไงล่ะ”

                หมอนั่นพูดเรื่องที่หากไม่อ่านใจก็คงไม่รู้ว่าคำพูดนี้จะทำให้เขาตกใจได้

                “…”

                เกือบจะตกใจไปแล้ว

                อิงศรแทบจะอ้าปากหวอหากไม่ฝืนกัดฟันเอาไว้สุดแรงเขาคงจะร้อง เฮ้ย! เสียงดัง…

                เฮ้ยยยย!!!!”

                นั่นเป็นเสียงของเมษา แล้วก็…

                หา!!!!”

                เสียงของกวินทร์

                นรินทร์ถึงจะไม่ได้ส่งเสียงโหวกเหวกเหมือนเจ้าพวกนี้แต่ก็ออกอาการทางสีหน้าชัดเจนว่าตกใจอยู่

                ซีลอร์ดมองไปที่เมษาแล้วเริ่มพูด

                ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้นหรอกนะ กุมภาที่ให้คำสั่งเธอมาน่ะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในสวนแห่งที่สองและตอนนี้พี่สาวของเธอก็ไปอยู่ที่สนามรบแล้วด้วย”

                แต่เมษาก็แย้งเป็นเชิงต่อว่ากลับไปด้วยคำถามซึ่งตอนนี้ทุกคนอยากรู้มากที่สุด

                จะบ้าเรอะ! พี่กุมภาเนี่ยนะเป็นเอเลี่ยนถ้าอย่างนั้นความไม่แตกไปนานแล้วเรอะไงก็พวกเรามีระบบตรวจจับการแฝงตัวของพวกมันแล้วนี่”

                ถูกอย่างที่เมษาว่า หากกุมภาคือรูบิเดียมราชครูมนุษย์ต่างดาวจริงแล้วล่ะก็ทำไมก่อนหน้านี้คอนแทคเลนส์ของเขาซึ่งก็ได้ติดตั้งระบบตรวจจับหลังจากที่ได้เก็บข้อมูลตอนที่เกิดเรื่องของห้องคิงมาแล้วแต่กลับไม่เห็นว่ากุมภาจะเป็นมนุษย์ต่างดาวเลยแล้วก็ยังมีช่องโหว่ใหญ่ในคำพูดของซีลอร์ดอยู่…

                ก่อนหน้านี้ตอนที่เอเลี่ยนหน้าเหมือนขวัญที่ชื่อเจ้าแบเรียมอะไรนั่นมาตามตัวฉันเพื่อให้มาที่อารย-สนธยา ฉันก็เห็นรูบิเดียมกับกุมภาอยู่พร้อมหน้ากันมาแล้วนะ”

                ถึงสิ่งที่เห็นจะเป็นจากหน้าจอมอนิเตอร์ของอุปกรณ์ที่มนุษย์ต่างดาวเอามาก็เถอะแต่คิดว่าการประชุมเมื่อตอนนั้นน่าจะเป็นของจริง มีการเผชิญหน้าพูดคุยกันอย่างจริงจังระหว่างคนที่ถูกบอกว่าเป็นคนๆ เดียวกัน

                แต่ซีลอร์ดก็ยังยืนยันเหมือนเดิมแล้วยกเหตุผลขึ้นมากล่าวอ้าง

                แล้วเธอคิดว่าระบบตรวจจับนั่นใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมากันล่ะแล้วก็ระบบปลอมตัวเป็นมนุษย์อีก ทั้งหมดคือฝีมือของรูบิเดียม อย่างเธอเองก็น่าจะรู้ดีเพราะโดนมากับตัวไปแล้วนี่”

                คำพูดนั้นสมเหตุสมผล ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนรูบิเดียมปลอมตัวเป็นมนุษย์แล้วใช้ชื่อปลอมว่าสีดามาแล้วดังนั้นจึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่ระบบตรวจจับจะถูกโปรแกรมให้ยกเว้นเจ้าตัวเอาไว้

                แต่ก็ยังตอบเรื่องที่สองคนนั่นอยู่พร้อมกันในเวลาเดียวกันไม่ได้อยู่ดี”

                ซีลอร์ดพยักหน้า

                นั่นน่ะเป็นทริคที่รูบิเดียมใช้เพื่อให้ตัวเองอยู่สองที่ในเวลาเดียวกันได้คิดว่าคงจะได้เจอกับอาวุธที่เรียกกันว่า ‘อาวุธติดตั้งอสุรา’ มาแล้วสินะ”

                อาวุธติดตั้งอสุรา’ ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้คือตอนที่ปะทะกับไทเทเนียมพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของกวินทร์ที่กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวเหมือนกับขวัญ

                หล่อนเก็บงำอาวุธนั่นไว้จนถึงตอนสุดท้าย จนกระทั่งบัดนี้ตัวเขาก็ยังจำความรู้สึกอันรุนแรงของอาวุธที่ไม่สามารถทำความเขาใจได้นั่นอยู่เลย

                เท่าที่พอจะรู้ อาร์มาอิติ อาวุธติดตั้งอสุราของไทเทเนียมมีพลังที่ทำให้การโจมตีเดี่ยวๆ ไร้ผลและพลังทำลายที่คว้านพื้นปฐพีขึ้นมาได้ราวกับตักไอศครีม

                จากนั้นก็เจอกับซีเซียมมนุษย์ต่างดาวฝาแฝดของตัวเอง หมอนั่นก็มีอาวุธติดตั้งอสุราเหมือนกันแต่พลังเป็นคนละแบบกับอาร์มาอิติ เป็นพลังที่ทำให้อาชีพของผู้ถือครองเปลี่ยนเป็น ‘ฮีโร่’ การที่อาวุธแต่ละอันมีชื่อเรียกเป็นของตัวเองจึงเป็นไปได้ว่าพลังของอาวุธติดตั้งอสุราทั้งหมดอาจจะไม่เหมือนกันเลยและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

                แต่ซีเซียมไม่ได้บอกชื่อของอาวุธตัวเองจึงมีข้อมูลไม่พอ

                ซีลอร์ดยังพูดต่อไปว่า

                ด้วยพลังของอาวุธติดตั้งอสุราทำให้รูบิเดียมสามารถสร้างร่างจำลองอีกร่างของตัวเองได้นั่นคือทริคที่หล่อนใช้แสดงให้เธอเห็นยังไงล่ะอิงศร”

                ถึงฟังคำอธิบายไปก็ช่วยแค่ให้รู้ว่าตนเองถูกหลอกเท่านั้น

                ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าอาวุธติดตั้งอสุราคืออะไรกันแน่แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้รู้ว่าทำไมรูบิเดียมถึงต้องแทรกแซงเข้าไปเมตไตรยแล้วจัดฉากสงครามนี้ขึ้นมาด้วย

                คนที่มีปฏิกิริยากับเรื่องของรูบิเดียมคงมีแค่ กวินทร์ เมษา นรินทร์ แล้วก็ตัวเองที่เคยอยู่กับเมตไตรยมาก่อน พวกฟูกับคนที่เหลือแค่ทำหน้างุนงงเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่กำลังพูดคุย

                และแล้ว...

                เจ้าซีลอร์ดนั่นก็ทำเรื่องน่าตกใจขึ้นมาอีก

                ไม่ใช่แค่รูบิเดียมหรอกนะ สิงห์ ธุวดารกะ เองก็เช่นกันอีกโฉมหน้าคือแฟรนเซียมดำรงตำแหน่งราชครูลำดับที่หนึ่งและเป็นผู้ที่บงการอารย-สนธยาในคราวนี้ก็เพื่อให้อิงศรสร้างเมอร์คาบาห์ขึ้นมา

                หา?!”

                กวินทร์ เมษา นรินทร์พากันร้องเป็นเสียงเดียว แต่กลับกัน

                ...

                อิงศรแค่อ้าปากหวอขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยตกใจซักเท่าไหร่

                พอได้ยินว่าสิงห์เองก็เป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วก็ยังเป็นแฟรนเซียมราชครูลำดับที่หนึ่งซึ่งเป็นผู้บงการสถานการณ์ที่ทำให้เขาได้มาที่อารย-สนธยา อย่างที่คิดจริงๆ แล้วก็รู้สึกได้ว่ามันสมเหตุสมผลอยู่

                ถ้าเชื่อว่ารูบิเดียมคือกุมภา การที่แฟรนเซียมจะเป็นใครซักคนที่เกี่ยวข้องกับเมตไตรยด้วยก็ไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่ เพียงแต่...

                ถ้างั้นสิงห์...เจ้านั่นยังไม่ตายสินะ

                ซีลอร์ดพยักหน้า

                อืม ตอนนี้คงกำลังใจจดใจจ่อกับการทดลองฟันเฟืองอยู่นั่นแหละ

                ถ้านั่นเป็นเรื่องจริงทั้งหมดก็จะสรุปสถานการณ์ของตัวเองได้แบบนี้

                สิงห์กับกุมภาจัดฉากเล่นละครกัน สิงห์แกล้งทำเป็นว่าตัวเองตายเพื่อจะได้ไปเตรียมการทดลองหรือไม่ก็เป็นผู้จัดเตรียมทัพมนุษย์ต่างดาวที่กำลังโจมตีเมตไตรยอยู่ในตอนนี้รวมถึงสร้างสถานการณ์ที่อารย-สนธยาเอาไว้ด้วย

                ส่วนกุมภาที่ฉากหน้าเป็นคู่แข่งแต่แท้จริงแล้วเป็นคนทีร่วมดำเนินแผนการกับสิงห์ พยายามจัดฉากเพื่อให้เขามาที่อารย-สนธยา

                ถ้าหากรวมเข้ากับเรื่องของเทวทูตที่ฟังมาจากโซเดียมคนใหม่ซึ่งเป็นราชครูลำดับที่ห้าแล้วล่ะก็เป็นไปได้ว่าทั้งสิงห์ และ กุมภาอาจจะพยายามต่อต้านพวกเทวทูตด้วยเหตุผลบางอย่างถ้าอย่างนั้นคำถามที่เหลืออยู่ก็คือ...

                จะต้องการเมอร์คาบาห์ไปทำไม

                ถ้าบอกว่าต้องการด้วยเหตุผลด้านพลังแล้วล่ะก็ดูมันจะขัดแย้งกับความเป็นจริงเกินไปหน่อย

                จากมุมมองของอิงศรถึงจะกลายเป็นเมอร์คาบาห์ฮันเซลัชช่าแล้วก็ตาม แต่แค่พลังอย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอต่อการจัดฉากที่ต้องเตรียมการมากมายถึงขนาดนี้มันน่าจะมีอะไรมากไปกว่านั้น

                เธออยากรู้เหตุผลที่สิงห์ต้องการเมอร์คาบาห์อย่างนั้นสินะ

                แน่นอนว่ามาถึงขั้นนี้แล้วความอยากรู้ของเขาแทบจะฉีกหัวใจออกมาเลยด้วยซ้ำ

                แต่แบบนั้นน่ะมันจะดีแล้วจริงๆ เหรอ

                หมายความว่ายังไง

                อิงศรไม่เข้าใจตามคำพูดของเขาเองเลย ทำไม? ถ้ารู้เหตุผลแล้วมันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นรึไงถึงเป็นแบบนั้นจริงๆ สภาพตอนนี้ยังจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีก

                มีนาถูกใช้เป็นตัวทดลอง

                โลกเหลือเวลาแค่หนึ่งเดือนหรืออาจจะน้อยกว่านั้น

                กับอีแค่รู้เหตุผลที่โดนหลอกให้มาเสียเวลาอยู่ที่อารย-สนธยา แค่นั้นมันจะส่งผลต่อสถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างไรกัน

                ยังไความเป็นจริงที่ว่าพวกเขาไม่มีเวลาเหลือมากนักก็ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี หรือเวลาอาจจะน้อยลงไปกว่านี้ก็คงไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่

                ซีลอร์ดสบตาเขาและรับรู้ความตั้งใจที่อยากจะล่วงรู้ถึงเหตุผลนั้น

                เพื่อไปให้ถึงคำตอบสุดท้ายที่ถูกต้องที่สุดฉันควรจะต้องรู้เรื่องทั้งหมด จำเป็นจะต้องขึ้นไปยืนบนเวทีเดียวกับสิงห์แล้วก็คนอื่นๆ ที่กำลังเล่นเกมชะตากรรรมบ้าๆ นี่เพราะงั้นบอกมาเถอะ

                อิงศรพูด ซีลอร์ดยอมรับคำขอนั้นแล้วก็...

                เธอ

                ชี้ไปที่กวินทร์ สายตาของทุกคนหันตามไปเป็นทิศเดียวกัน

                คือลูกของคนที่ฆ่าเจ้าอาวาส อารย-สนธยา พ่อของนรินทร์

                “อะ...

                กวินทร์หน้าถอดสีขึ้นมาทันที แต่ซีลอร์ดยังไม่หยุดพูด

                “พ่อของกวินทร์ วชิระ เป็นนักปิดปากที่คอยทำงานให้กับนักการเมืองคนที่มีปัญหาเจ้าอาวาสวัดอารย-*สนธยา

                กวินทร์เลิ่กลั่กตั้งท่าจะพูดแย้งกลับแต่ก็ถูกฟูดึงคอเสื้อเอาไว้

                นี่แกเองเรอะที่ทำร้ายพี่รินกับพ่อพี่รินน่ะ

                แล้วง้างกำปั้นขึ้น กวินทร์พยายามปฏิเสธ

                ด...เดี๋ยวเซ่ ผมไม่เห็นจะรู้เรื่อง...

                แน่นอนว่าเด็กที่หนีออกจากบ้านไปอยู่กับญาติแทนเพราะทนความเหลวแหลกของพ่อตัวเองไม่ไหวอย่างเธอน่าจะไม่รู้อะไรเลย

                แล้วซีลอร์ดก็พูดเสริมมาแบบนั้น กำปั้นของฟูจึงค้างอยู่อย่างนั้นไปด้วย

                พริบตาหนึ่ง อิงศรสังเกตเห็นท่าทีของกวินทร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาของหมอนั่นซึ่งมักจะดูสดใสอยู่ตลอดแต่กลับด่างพร้อยและมัวหมองขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตาก่อนจะกลับคืนไปสภาพเดิม

                จะว่าไปแล้วนอกจากเรื่องของพี่สาวกวินทร์แล้วตัวเขาเองก็ไม่ค่อยรู้ความเป็นมาของกวินทร์ซักเท่าไหร่ เพราะความร่าเริงและใสซื่อแบบเด็กๆ ของหมอนี่ทำให้ไม่เคยฉุกใจคิดไปถึงเรื่องฐานะทางบ้าน

                ก็เป็นถึงญาติกับลูกสาว ส.ส. อย่างไทเทเนียมหรือฟ้ากมล คนนั้นแสดงว่าบทบาททางสังคมของหมอนั่นคงยิ่งใหญ่พอๆ กับมีนา และ เมษาที่เป็นคนของธุวดารกะเลยล่ะมั้ง

                ทั้งอย่างนั้นแล้วกลับหนีออกจากบ้าน...บางทีเรื่องนี้คงห้ามถลำเข้าไปยุ่งมากกว่านี้

                ไม่ควรจะไปขุดคุ้ยอดีตที่ไม่มีใครอยากให้รู้

                แต่ก็ดูเหมือนจะมีคนที่ไม่คิดแบบนั้นอยู่

                ยังไม่หมดหรอกนะเมษา ธุวดารกะ

                คราวนี้ซีลอร์ดเบนสายตาไปทางเมษาบ้าง

                ตระกูลของเธอพี่น้องของเธอเองก็มีส่วนในการฆ่าปิดปากคราวนั้นจนทำให้นรินทร์ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราแถมยังฆ่าแม่ของเขาเพื่อแย่งชิงผลการทดลองมาสร้างเมอร์คาบาห์เพื่อสนองต่อความโลภที่ไม่รู้จักพอนั่นอีกโลกเลยล่มสลายยังไงล่ะ

                พอทุกคนได้ยินแบบนั้นเข้า...

                พอนรินทร์ได้ฟังเบื้องหลังของความจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่ามีความสัมพันธ์กับทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดตรงนี้เข้า...

                “…”

                เด็กหนุ่มก็ก้มหน้า

                ใบหน้าที่สวยเหมือนผู้หญิงนั่นมองเห็นลางๆ ในเงาว่ากำลังหวั่นไหวกับเรื่องนี้

                หากปล่อยเอาไว้แบบนี้กลุ่มอาจจะแตกสาแหรกขาดเอาได้

                ฟู ปล่อยกวินทร์ก่อน

                อิงศรสั่งจากนั้นก็หันไปพูดกับซีลอร์ด

                ส่วนแกก็เลิกพูดยุให้คนเขาตีกันซะที

                แต่ซีลอร์ดกลับแย้งมาว่า

                “ก็เธอเป็นคนขอเองนี่

                หรือจะบอกว่าที่เที่ยวยุพวกพ้องของเขานี่คือคำตอบเรื่องเหตุผลที่สิงห์กำลังหมายตาเมอร์คาบาห์อย่างนั้นหรือ?

                เพราะนรินทร์คือเด็กหนุ่มผู้ทำให้โลกล่มสลายเพราะเขาเป็นร่างทดลองอัญเชิญเมอร์คาบาห์เมื่อสี่ปีก่อนแต่เพราะใช้ตัวทดลองที่ผิดนั่นแหละทำให้มันพังพินาศสิ่งที่อัญเชิญออกมาก็คือนารายณ์

                ด...เดี๋ยวก่อนสิ

                อิงศรตั้งใจจะให้หยุดการยั่วยุไว้แค่นั้นแต่ทว่า...

                ซีลอร์ดกลับชี้นิ้วมาที่เขาแล้วพูด

                ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อกับแม่ของเธอปกปิดเรื่องตัวทดลองสร้างเมอร์คาบาห์ที่ถูกต้องเอาไว้บางทีผลลัพธ์อาจจะต่างออกไปจากนี้ก็ได้

                อึก...

                พอได้ยินแบบนั้นอิงศรก็กลั้นสะอึก

                แล้วซีลอร์ดก็พูดเหมือนกำลังข่มขู่เขาที่อยากรู้ความจริง

                คงไม่รู้สินะว่าพวกเธอทุกคนที่นี่ได้มารวมตัวกันด้วยปัญหาที่วนกันเป็นงูกินหาง เป็นอูโรโบรอสที่สิงห์สร้างเอาไว้ นี่ถ้าได้รู้เรื่องต่อไปนี้แล้วพวกเธอยังจะตีหน้าเป็นพวกพ้อง เป็นครอบครัวกันต่อไปได้รึเปล่านะ


    ***อาทิตย์นี้สองตอนที่ลองอาจจะสั้นๆ ลงบ้าง ต้องขอภัยด้วยนะครับ TwT ไรท์กลับจากต่างจังหวัดเมื่อคืนวันอาทิตย์ก็เจอสารพัดงานรุมเข้ามาจนตามทำกันไม่ทันแทบจะเจียดเวลามาเขียนไม่ได้เยย นี่ได้เวลาตอนนั่งBTSช่วยเอาไว้นะเนี่ยไม่งั้นตอนของวันนี้คงได้โกร๋นแหงม ฮรือออ~~~~***


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×