ตอนที่ 151 : Login 148: จ้าวแห่งเครื่องทำสวน
“เอ้าหนึ่งครั้งแล้วนะ”
จู่ๆ ก็ได้สติขึ้นมา
ความรู้สึก ประสาทสัมผัส ทุกอย่างที่คิดว่าหายไปแล้วกลับทำงานขึ้นมาอีก
อิงศรปรือตาขึ้น
แถบพลังชีวิตจากที่ว่างเปล่ากำลังทยอยฟื้นกลับคืนมา
อิงศร Lv.93 […..0:12500…..]
อิงศร Lv.93 [//…1500:12500…..]
อิงศร Lv.93 [/////6250:12500…..]
อิงศร Lv.93 [/////11800:12500///..]
อิงศร Lv.93 [/////12500:12500/////]
ถัดจากแถบพลังชีวิตขึ้นไปก็มองเห็นท้องฟ้า
เขานอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
ดวงดาวสุกสกาวบนท้องฟ้าเริ่มจะหายไปบางส่วน
รุ่งสางคงใกล้เข้ามาแล้ว
เด็กหนุ่มชันตัวลุกขึ้นมองตรงไปยังต้นตอของเสียงเมื่อครู่
ซีลอร์ดที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นคนพูด
“ที่นี้คงไม่ข้องใจเรื่องคืนชีพแล้วนะ”
“อึก”
เท่านี้ก็ยืนยันได้จากคำพูดนั้น…
เขาตายไปแล้วครั้งหนึ่งนั่นไม่ใช่ความฝันแล้วก็ถูกซีลอร์ดชุบชีวิตให้กลับมาพร้อมกับนับหนึ่ง แต่ว่านับอะไรอยู่กันล่ะ จำนวนครั้งที่สามารถคืนชีพให้ได้รึอย่างไร
ซีลอร์ดพูด
“สิบสองครั้ง”
“…”
“ผมจะฆ่าเธอสิบสองครั้งสรุปก็คือเธอมีโอกาสสิบเอ็ดครั้งตอนนี้เหลือแค่สิบแล้วนะ”
อิงศรมองสำรวจร่างกายตัวเองในขณะนั้น
“…”
ไร้บาดแผล
แขนกับขาที่จำได้ว่าโดนตัดขาดไปแล้วก็ยังอยู่ดี
เขาลองจับที่ใบหน้าตัวเองซึ่งโดนแทงเข้ามาในวินาทีก่อนความตายแต่มันก็ไม่มีรูอยู่บนนั้น
พอเหลือบมองไปทางพวกพ้องที่อยู่อีกฟากของลูกกรงก็เห็นแต่ล่ะคนทำหน้าซีดเผือดไม่มีเลือดกันอยู่ ฉากตายนั่นคงจะสยดสยองน่าดูชม
โดนเสียบทะลุกลางหัวแบบนั้นสมองจะไหลออกไปบ้างหรือเปล่า
แต่เลือดคงจะท่วมจนติดเรทที่จะให้เด็กเห็นเลยทีเดียว
จินตนาการที่เริ่มจะเตลิดชวนให้ขนลุกชันขึ้นมา เผลอคิดไปถึงความเจ็บปวดที่ได้รับในตอนนั้นแล้วสันหลังก็เย็นวาบไปหมด
น่าสงสารเน็กส์กับนิวอยู่เหมือนกันที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนั้น
ถึงจะอยู่ในโลกที่ล่มสลายและเจอกับการต่อสู้ถึงตายร่วมกับเขามาหลายครั้งแต่สองคนนั้นก็ยังเด็กเกินไป
“…”
เขาเอาแต่คิดเรื่องของคนอื่นอีกแล้วแต่นั่นก็ดีเหมือนกัน พอคิดว่าข้างหลังยังมีพวกพ้องกับครอบครัวแสนสำคัญรออยู่ก็ช่วยบรรเทาความกลัวที่กำลังคุกคามหัวใจลงไปบ้าง
อิงศรเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า
“ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”
“ก็บททดสอบไง เคยบอกไปแล้วนี่ว่าโชคชะตามีสิบสองแบบแล้วเครื่องทำสวนก็มีสิบสองเครื่องนี่ก็ เป็นการพิสูจน์ของผมเหมือนกัน”
“พิสูจน์เรื่องอะไร”
“มนุษย์จะสามารถอยู่เหนือโชคชะตาทั้งสิบสองที่เหล่าแอดมินกำหนดเอาไว้ได้หรือไม่”
“…”
“เพื่อที่จะตอบคำถามในเรื่องนั้นผมจำเป็นต้องได้เห็นการแสดงความตั้งใจที่จะก้าวต่อไปของเธอ”
“…”
“อิงศร เธอน่ะคิดว่าจะอยู่เหนือกว่ามนุษย์ในอดีตได้รึเปล่าคิดว่าจะอยู่ในจุดที่เหนือกว่าตัวเองในวันวานได้ไหมล่ะแต่ถ้าทำไมไม่ได้มนุษย์ก็สอบตก”
นั่นคงเป็นความหมายของความตั้งใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าที่ชอบพูดอยู่บ่อยครั้งและการกวาดล้างเมื่อการทดสอบนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจ
แต่ก็ยังมีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่
“ทำไมถึงต้องเป็นฉัน”
“…”
“ทำไมถึงต้องให้ฉันเป็นตัวแทนของมนุษย์เพื่อการพิสูจน์ของนาย”
ซีลอร์ดหุบยิ้มที่บานแฉ่งลง สีหน้าดูตึงเครียดขึ้นถนัดตา
“เพราะว่าเธอคือทางเลือกของผมยังไงล่ะ”
“หา?”
“ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่าสิงห์จะเป็นทางเลือกให้กับมนุษย์”
“สิงห์งั้นเหรอ”
“อา ไม่อย่างนั้นผมก็คงเลือกจะทำลายพวกเธอไปหมดแล้วแต่เพราะสิงห์ทำให้ผมยังสามารถเลือกได้อยู่”
“…”
การคาดเดาที่ผ่านมาถูกต้องอย่างนั้นสินะ
ดูเหมือนว่าสิงห์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โลกกลายเป็นเกมแล้วก็อาจจะรวมถึงใครซักคนที่บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดแต่ก็ไม่มีโอกาสจะรู้แล้วเพราะว่าสิงห์ตายไปแล้ว
บางทีการที่ซีลอร์ดมาทดสอบเขาก็อาจจะเป็นเพราะเหตุนั้น
เพราะสูญเสียตัวเลือกไปจึงร้อนใจจะรีบเค้นคอให้เขากลายเป็นตัวเลือกใหม่
ซีลอร์ดยังคงกล่าวต่อไปอีก…
“แต่สุดท้ายแล้วทางเลือกของสิงห์นั้นก็ยังไม่ใช่คำตอบอยู่ดี”
“…”
คำพูดนั่นอาจแปลได้ว่าเพราะสิงห์ตายไปแล้วตัวเลือกจึงใช้งานไม่ได้
“นี่แกเห็นชีวิตคนเป็นอะไรกันแน่”
เขาเผลอหลุดสบถออกไปเพราะความหงุดหงิด
เพราะอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วยังมาเจอคนอย่างหมอนี่อีกความเยือกเย็นที่มีถึงได้ละลายหายไปหมดแล้วกลายเป็นคนใจร้อนบุ่มบ่ามขนาดนี้
“…”
ซีลอร์ดคลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าจริงจังเลือนหายไป บางทีคงอ่านใจเขาแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาล่ะมั้ง
“ดูเหมือนเธอจะเข้าใจตัวผมผิดอยู่นะแต่ให้เล่าตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ไว้เธอแสดงคำตอบให้ผมได้ตอนนั้นค่อยบอกก็แล้วกัน เอาล่ะมาต่อกันดีกว่าเก็บอาวุธขึ้นมาสิแล้วลองเปิดดูแอพพลิเคชั่นหน่อยเป็นไง”
ถูกหมอนั่นอ่านใจจริงๆ นั่นแหละ
“…”
อิงศรทำตามที่บอก ลุกขึ้นไปเก็บธนูกับดาบที่กระเด็นไปตอนโดนตัดแขน ซึ่งตอนนี้ไม่มีแขนตกอยู่บนพื้นแต่มีเศษแขนเสื้อกับขากางเกงที่ขาดตกอยู่ใกล้กับอาวุธแทน
พอลองเปิดหน้าจอรายการแอพพลิเคชั่นปีศาจที่ติดตั้งไว้ในธนูก็ทำให้เขาตกใจนิดหน่อย
เพราะนอกจากเมอร์คาบาห์แล้ว…
เอลิกอร์
สเลฟเนียร์
โอดิน
เหล่าปีศาจที่เคยร่วมสู้กันมาซึ่งถูกนำไปรวมเป็นเมอร์คาบสห์กลับถูกติดตั้งเอาไว้
“ผมคืนปีศาจทั้งหมดให้”
แต่เมอร์คาบาห์ยังถูกเหยียบอยู่ที่เดิม ถึงอย่างนั้นจำนวนปีศาจที่คืนมาให้โดยไม่ต้องเสียเมอร์คาบาห์ไปก็ยังถือว่าทำให้ได้เปรียบขึ้นมา
“คิดจะต่อให้หรือไงนึกดูถูกกันอยู่เรอะ”
แต่ซีลอร์ดก็หัวเราะแล้วตอบคำพูดประชดประชันของเขาอย่างเยือกเย็น
“มอบทางเลือกให้ต่างหากก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่าอยากให้แสดงความตั้งใจให้ดู การมีทางเลือกทำให้มนุษย์สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ใช่ไหมล่ะ”
ใช่เคยมีเรื่องแบบนั้น เคยถูกบอกว่าการโลกกลายเป็นเกมคือทางเลือกสำหรับให้มนุษย์ได้แก้ตัว
อิงศรพยักหน้าให้คำพูดของซีลอร์ด
“แล้วนายจะเสียใจที่ทำแบบนี้”
เขาพูดออกไปโดยที่รู้อยู่แก่ใจ ถึงจะมีปีศาจในครอบครองทั้งหมดก็ยังเอาขนะซีลอร์ดผู้เป็นเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้
แต่ว่า
“ก็มีแต่ต้องสู้เท่านั้นนี่นะ”
อิงศรถีบตัวพุ่งออกไปพร้อมกับยกคันธนูและดาบขึ้นไขว้กันวิ่งไปจนเกือบถึงตัวซีลอร์ด
“ครอสวูลฟ์!!”
[Cross Wolf Lv(3/3)
Element: -
Attribute: Wolf, Battle Bow, Physical Attack
ท่าฟันไขว้เขี้ยวหมาป่า]
ดาบกับคันธนูลุกโชนด้วยเพลิงไฟสีเทา แล้วเมื่อตวัดดาบกับคันธนูออกจากท่าไขว้
เสียงหอนแหลมสูงของหมาป่าก็ดังก้อง
ไฟบนศาสตราวุธทั้งสองไหลออกไปรวมกันก่อตัวเป็นหมาป่าเพลิงพุ่งเข้าใส่ซีลอร์ด มันอ้าปากอวดคมเขี้ยวกับร่างเพลิงข่มขวัญอีกฝ่าย
แต่แค่นั้นทำให้เครื่องทำสวนกลัวไม่ได้หรอก
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ทันทีที่หมาป่าไฟเข้าไปจะถึงตัวมันก็ถูกแส้ใบมีดห้าเส้นพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางสะบั้นร่างแตกสลาย
“เทคนิคัลเวพ่อน”
แต่นั่นก็เป็นแค่ตัวล่อ อิงศรเปลี่ยนธนูเป็นหน้าไม้ขณะที่วิ่งเลี้ยวไปด้านหลังซีลอร์ด
“วินด์ช็อก! มาร์สไตรค์!!”
แล้วยิงลูกดอกเพลิงออกไปหากเข้าเป้าหรือกระทบถูกก็จะระเบิดจนแตกกระจายไปทั่ว
เป้าหมายของการทดสอบนี้ไม่ใช่การเอาชีวิตอีกฝ่ายเพียงแค่ทำให้บาดเจ็บได้ครั้งเดียวก็จะเป็นฝ่ายชนะ
ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขแบบนั้นคงไม่เหลือวิธีจะสู้กับเครื่องทำสวนแล้ว
เพราะตอนนี้แม้แต่ลูกดอกเพลิงที่คาดหวังเอาไว้ว่าเมื่อมันถูกแส้ทำลายก็จะกระจายเพลิงไปจู่โจมได้
แต่เจ้านั่นกลับทำยิ่งกว่าที่เขาคาดเดา
ซีลอร์ดกระชากเฮดโฟนที่สวมอยู่ออกแล้วขว้างสวนลูกดอกมา
ส่วนของฟองน้ำที่ติดอยู่ด้านข้างหูฟังหลุดออกแล้วเปลี่ยนเป็นจักรกลโดรนรูปร่างเหมือนหัวของงูจำนวนสองเครื่อง
“โซเดีย”
ทันทีที่ซีลอร์ดออกคำสั่งโดรนเหล่านั้นก็ยิงลำแสงออกจากรูที่เหมือนปากทำลายลูกดอก แม้แต่ไฟที่กระจายออกมาก็ยังถูกลำแสงลบหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
“ชิ!”
อิงศรเดาะลิ้นแล้วออกวิ่งต่อเพราะแส้ใบมีดไล่ตามมา
“เอลิกอร์!”
เขาสั่งให้แอพปีศาจทำงาน
จำเป็นต้องให้เอลิกอร์เข้าครอบงำเพื่อเพิ่มพลังกายสำหรับวิ่งหนี
พลังของเมอร์คาบาห์ยังคงส่งมาที่ร่างรวมกับของเอลิกอร์ทำให้เริ่มตามการเคลื่อนไหวของแส้ทัน และสามารถปัดมันทิ้งไปได้
เขาลองฟาดดาบแรงๆ หวังจะตัดแส้ทิ้งซักเส้นแต่ว่ามันแข็งมากจนมือของเขาสั่นเสียเอง
แล้วในตอนนั้นก็…
‘ไม่เจอกันนานเลยนะดูเหมือนจะเก่งขึ้นเยอะเลยนี่อิงศร’
เสียงของเอลิกอร์ก็ดังขึ้นมาอย่างเย้ายวน
รู้สึกได้ว่าพลังเอ่อล้นออกมามากขึ้น
เจ้าเอลิกอร์กำลังล่อลวงให้ทิ้งสติสัมปชัญญะเพื่อให้ถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์จึงได้เอาพลังมาเป็นเหยื่อล่อ
แล้วตอนนี้เขาก็ต้องการพลังเป็นอย่างมากจนต้องยอมงับเหยื่ออันนั้น แต่ว่า…
“เอาพลังของแกออกมาให้หมดเลยเอลิกอร์ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้ว”
เขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน
ตัวเขาที่เรียกเมอร์คาบาห์ออกมาได้ตอนนี้พูดได้อย่างเต็มปากว่าแข็งแกร่งกว่าเอลิกอร์แล้ว
ปีศาจไม่มีทางควบคุมเขาได้อีก
พลังที่เอ่อล้นออกมาจากตัวจนเป็นลวดลายสีดำขยุกขยิกไหลไปบนผิวหนังถูกดึงกลับเข้ามา
‘น…หนอย เก่งขึ้นนิดหน่อยอย่าคิดนะว่าจะ..’
เอลิกอร์กำลังทรมานเพราะมันสู้แรงเขาไม่ได้
“เลิกต่อต้านซะถ้าไม่ทำแบบนั้นก็เอาชนะซีลอร์ดไม่ได้”
‘ห๊ะ ทำไมข้าต้องฟังแกด้วย’
“เพราะฉันแข็งแกร่งกว่าไงเล่า! วินช็อก เมอร์คิวรี่สไตรค์”
อิงศรลั่นไกยิงลูกดอกน้ำออกไปแล้วมันก็ระเบิดกลายเป็นสายธารเย็นยะเยือกพุ่งใส่โดรนของซีลอร์ดที่ไล่ตามมา
น้ำน่าจะทำให้มันช้าลงไปบ้างหรือไม่ก็ระบบรวนแหละน่า
แต่เขาก็คาดเดาผิดไปอีกเมื่อโดรนนั้นยิงลำแสงใส่สายธารน้ำมหาศาลให้มันระเหยไปในพริบตา จนเกิดหมอกไอน้ำตลบบดบังทัศนวิสัย
“บ้าจริง! แบบนี้ก็มองไม่เห็นสิว่ามันจะมาทางไหนน่ะ”
อิงศรคำรามพลางหันหน้าไม้ที่ตอนนี้มียูนิทแสงลอยอยู่สองลูกไปทิศทางต่างๆ เพื่ออาศัยแสงจากลูกไฟส่องหาทาง
“…”
อีกสองอันก็จะใช้บัลลิสต้าพันนิชเชอร์ สกิลท่าไม้ตายที่ไม่สามารถหลบหลีกหรือป้องกันได้
ถึงจะฆ่าไม่ได้เพราะอีกฝ่ายน่าจะมีพลังชีวิตมหาศาลเหมือนตอนดีเซมแมร์ก็ตามแต่มันทำให้บาดเจ็บแน่นอนแล้วเขาก็จะเป็นฝ่ายชนะ
“เสร็จกัน!”
ทั้งที่คิดว่าระวังตัวเองเป็นอย่างดีแล้วแต่แส้ก็พุ่งมาจากทางด้านบน
แส้ยืดตรงเหมือนดาบสามเส้นฟาดลงมาเฉียงทำมุมสี่สิบห้าองศากับร่างกายซึ่งไม่สามารถถอยหลบได้เพราะด้านหลังเป็นลูกกรง
อิงศรถูกต้อนหลังชนฝาแล้วก็ถูกแส้ดาบสับเป็นชิ้น
ความรู้สึกที่ลำตัวช่วงล่างหายไปก่อนความเจ็บปวดจะแล่นขึ้นมาที่สมอง
แต่แล้ว…
“อะ..”
หัวไหล่ลงไปจนเกือบถึงสะโพกก็โดนฟันขาดสะบั้น ใบดาบเฉือนเฉี่ยวกินเนื้อหัวใจไปส่วนหนึ่งทำให้ลมหายใจขาดไป
“เฮือก...”
อิงศรครางได้แค่นั้นแล้วแส้ดาบเล่มสุดท้ายก็บั่นคอเขาหลุดกระเด็นไปลอยเคว้งกลางอากาศ
อิงศร Lv.93 […..0:12500…..]
“ครั้งที่สอง”
ซีลอร์ดพูดพร้อมกับดีดนิ้ว
อิงศร Lv.93 [/////12500:12500/////]
“…”
ร่างกายที่แยกเป็นชิ้นไปแล้วกับศีรษะที่ลอยกระเด็นก็ประกอบกลับคืนเป็นเหมือนเดิม
ไม่มีบาดแผลหลงเหลืออยู่รวมถึงไม่ทันที่เลือดจะได้ไหลออกจากร่างกายแม้แต่หยดเดียว
เขาถูกคืนชีพให้อย่างปัจจุบันทันด่วนจนกระทั่งจำความรู้สึกก่อนจะฟื้นกลับมาได้ทั้งหมด
“อึก”
และเริ่มหวาดกลัวความตายจนเข่าอ่อน ขาสั่นพั่บอย่างช่วยไม่ได้
อิงศรพิงหลังกับลูกกรงแล้วไหลลงมานั่งกองกับพื้นอย่างหมดท่า
ท่ามกลางเศษเครื่องแบบที่ถูกฟันขาดเป็นชิ้นและไม่ได้ฟื้นกลับคืนมาตกเกลื่อนพื้น
มองเห็นแต่ความพ่ายแพ้
พลังชีวิตเต็มหลอดถูกทำให้หายไปหมดในครั้งเดียวแล้วก็ถูกทำให้กลับมาเต็มหลอดในพริบตาเดียว
ถูกฆ่าส่งๆ เหมือนเป็นของเล่นจนรู้สึกท้อใจขึ้นมา
“ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จับดาบขึ้นมาล่ะผมจะยังไม่โจมตีเข้าไปจนกว่านะถึงตอนนั้น”
ซีลอร์ดพูดพลางรออย่างเย็นใจ
แต่มันใกล้จะถึงขีดจำกัดอยู่เต็มที เร็วกว่าที่คาดเอาไว้นึกไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าตนจะถูกต้อนจนสิ้นหวังได้ไวขนาดนี้
อิงศรเหลือบตาไปมองทางพวกพ้องเขาจ้องมองไปที่นรินทร์ซึ่งนอนตายอยู่ที่นั่นด้วยแล้วพยายามระเบิดความโกรธในใจขึ้นมาเป็นความกล้า
เพื่อนรินทร์ด้วยแล้วการต่อสู้นี้
“จะแพ้ไม่ได้”
อิงศรให้กำลังใจตัวเองแล้วลุกขึ้นมาเก็บดาบกับหน้าไม้
“งั้นมาต่อกันเลยนะ”
ซีลอร์ดพูด
“…”
อิงศรพยายามคิดหาทางสู้
ตอนนี้พลังของเอลิกอร์กับเมอร์คาบาห์ยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างแต่ถึงขนาดนั้นก็ยังสู้ไม่ไหวเพราะการโจมตีด้วยแส้ใบมีดที่ล้อมกรอบมาจากทุกทิศทางแถมยังปัดป้องไม่ได้เมื่อมันตวัดใส่ ดาบกับสกิลก็ไม่สามารถตัดมันให้ขาดหรือทำลายได้
ไหนจะมีโดรนที่ยิงจู่โจมได้ทุกระยะนั่นอีกแล้วการโจมตีแต่ล่ะครั้งก็สามารถลบพลังชีวิตทั้งหมดให้หายไปได้
มีแต่จะถูกฆ่าเหมือนกับมดถูกบี้
“สเลปเนียร์!”
ถ้าอย่างนั้นการบินขึ้นไปก็อาจจะช่วยเพิ่มหนทางในการหลบหลีก
เมื่อเดม่อนแอพเริ่มทำงานขาของอิงศรก็ลอยขึ้นเหนือพื้น มีเวลาจำกัดอยู่ที่ราวสิบวินาทีก่อนหน้าที่จะหมดพลังต้องจัดการให้สำเร็จ
เหลืออีกแค่สองยูนิทเท่านั้น
“วินด์ช็อก วีนัสสไตรค์”
อิงศรลั่นไกยิงลูกดอกกางวงเวทสัญลักษณ์เสกแท่งหินแหลมคมพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย
แต่แส้ก็ปัดป้องไว้ได้ทั้งหมดแล้วตวัดเข้ามาหา
อิงศรโยกตัวหลบแล้วจ้ำเท้าไต่ระดับหนีขึ้นไปข้างบน
‘ดูท่าจะเจอการต่อสู้ที่ยากลำบากซะแล้วสิ’
เสียงของเอลิกอร์ดังก้องขึ้น
“ถ้ารู้แล้วก็ช่วยกันหน่อยสิฟะ”
‘หึๆๆ โดนแกต้องการตัวขนาดนั้นแล้วมันรู้สึกจั๊กกะเดียมเหมือนกันแฮะ เอาเถอะถ้าไม่ช่วยเจ้าข้าคงได้หายไปแน่แต่ว่าถึงใช้พลังทั้งหมดของข้าก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกันเจ้านั่นเป็นใครกัน’
“เครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์น่ะ”
‘อาวุธของพระเจ้าหรอกเรอะ เจอตัวเจ้าปัญหาเข้าซะแล้วสิ’
นับเป็นครั้งแรกที่คำพูดสมเหตุสมผลที่สุดเท่าที่เคยได้ยินจากปากปีศาจแล้วรู้สึกเห็นด้วยอย่างสุดหัวใจ
เหลืออีกแค่ยูนิทเดียวก็จะใช้ท่าไม้ตายได้แล้วถึงถูกฆ่ายูนิทก็ไม่ได้หายไปดังนั้นจึงตัดสินใจว่าจะใช้สกิลเพื่อสะสมยูนิทโดยยอมเสียชีวิตหนึ่ง
“วินด์ช็อก จูปิเตอร์สไตรค์”
ลูกดอกอาคมที่ยิงไปสร้างวงเวทปลดปล่อยสายฟ้าพุ่งใส่โดรนที่ไล่ตามมา แต่คราวนี้พวกมันไม่ได้ยิงลำแสงสวนกลับมาลบสายฟ้าของเขา กลับเป็นแส้ที่พุ่งเข้ามาเป็นโล่ให้
พอมองไปที่ซีลอร์ดก็เห็นกำลังลอยตัวไล่ตามมา
“คิดจะสู้ประชิดรึไง”
แต่นั่นเป็นไปไม่ได้...ก็ในเมื่อมีแส้ใบมีดที่จะยืดออกมาเท่าไหร่ก็ได้กับโดรนแล้วทำไมยังต้องเข้ามาประชิดตัวอีกหรือจะบอกว่าอาวุธเหล่านั้นมีระยะทำการจำกัดกันแน่
“จะใช้ยูนิทพวกนั้นเรียกดีเซมแมร์สินะแต่ว่าไม่ปล่อยให้ทำได้หรอก”
ถูกทางนั้นล่วงรู้แผน? ไม่สิ มันก็ต้องรู้อยู่แล้วเพราะว่าอ่านใจเขาได้ถึงอย่างนั้นก็ตามการที่พยายามหยุดท่าไม้ตายนั่นแสดงว่า
“มันได้ผลกับแกสินะ”
อิงศรเล็งหน้าไม้ใส่
“บอกแล้วไงว่าไม่ให้ทำน่ะ”
แค่เหนี่ยวไกปืนแล้วร่ายออกไป
“จงตื่นขึ้น! ศรแห่งดวงดาวที่ทะยานผ่านฟากฟ้า!!”
ไม่รู้หรอกว่าฝ่ายนั้นตั้งใจจะทำอะไรถึงได้ไล่ตามขึ้นมาแต่ว่ามันจบแล้ว
“บัลลิสต้าพันนิชเชอร์!!”
อิงศรลั่นไก ปลดปล่อยห้วงอวกาศอันเป็นเขตแดนท่าไม้ตายออกมาทีนี้ทุกอย่างก็จะถูกแช่แข็งเวลาแล้วเครื่องทำสวนของเขาก็จะจัดการซีลอร์ด
รถลากของเครื่องทำสวนดีเซมแมร์ถูกลากมารออยู่ด้านบนตัวเองแล้ว
ทว่า...
ที่ด้านหลังซีลอร์ดก็มองเห็นเงาจางๆ ปรากฏขึ้นทางด้านหลัง
เงานั่นเป็นงูยักษ์หรืออะไรที่คล้ายกันขดตัวพันรอบกายซีลอร์ด
“น่าตกใจเหมือนกันนะที่ซีเซียมทำได้ถึงขนาดเอาพลังของเครื่องทำสวนให้มนุษย์ยืมใช้งานได้แบบนี้”
“ทำไม”
อิงศรรู้สึกประหลาดมือของเด็กหนุ่มสั่นเล็กน้อย
“ตกใจกับร่างจริงของผมเหรอ”
ซีลอร์ดถาม
แต่ว่าทำไมกัน... ทำไมจึงรู้สึกว่ายังเอาชนะไม่ได้
อิงศรพยายามหาสาเหตุที่ทำให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่ายังไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
“ทำไมถึงได้ยังใจเย็นอยู่”
สาเหตุก็คือซีลอร์ดไม่ได้ทำหน้าทุกร้อนหรือปฏิกิริยากับการใช้ท่าไม้ตายของเขาเลยอีกทั้งจนป่านนี้แล้วบัลลิสต้าพันนิชเชอร์ก็ยังไม่ยิงออกไป
“บอกไปแล้วนะว่านี่คือการทดสอบของเธอแล้วผมจะยอมให้เครื่องทำสวนอื่นเข้ามายุ่งได้ยังไง ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้สินะว่าชื่อของผมมีความหมายว่ายังไง”
แล้วเมื่อซีลอร์ดดีดนิ้ว
เป๊าะ! เสียงดังขึ้นมาแบบนั้น มิติอวกาศก็หายไป เครื่องทำสวนหายไป
ราวกับโกหกกันแต่ว่า..
“ท่าไม้ตายถูกยกเลิก”
อิงศรพูดสบถแล้วตอนนั้นเองพลังของสเลปเนียร์ก็หมดลงร่างของเขาค่อยๆ ลอยลงไปยืนบนพื้น
“ผมได้สั่งให้ดีเซมแมร์ถอนตัวกลับไปแล้วถ้าจะถามว่าทำไมล่ะก้เพราะผมคือโซดิแอกลอร์ด คือ....”
Login 148: จ้าวแห่งเครื่องทำสวน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ใช้ชื่อตอนมาเล่นมุกเอาช่วงจบน่ะเอง แง่มๆ ถ้าตัดออกเด๋วไม่มีชื่อบทเอา555+