ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #134 : Login 131: God Slayer

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 298
      11
      23 ก.ค. 60

    Login 131: God Slayer

     

                อิงศรฟอร์เมชั่นแบบใหม่

     

                หน่วยโจมตี

                            หน่วยสนับสนุน

                หน่วยโจมตี

     

                ที่จริงมันก็ต่างจากแบบเก่าแค่เพิ่มหน่วยโจมตีเป็นสองฟากเพราะมีคนเพิ่มขึ้นมา

                เริ่มจากหน่วยโจมตีสี่คน

                แนวหน้าที่เก่งที่สุดในกลุ่มคือมนุษย์ต่างดาวชั้นครูมิ่งขวัญกับชั้นราชครูโซเดียมตั้งแถวยืนขนานกันอยู่ด้านหน้าถัดมาเป็นมิกซ์ที่ปืนกับสกิลเป็นระยะกลางคอยคุ้มกันมิ่งขวัญและฟูที่ช่วยสนับสนุนโซเดียมเพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ดูจะไปด้วยกันได้

                ดังนั้นแนวโจมตีจึงไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว

                แถวของโซเดียมกับฟูเป็นแนวหน้าที่เน้นโจมตีและเปิดทาง

                แถวของมิ่งขวัญกับมิกส์จะเน้นไปที่การเปิดกลยุทธ์กับสลับไปเป็นแนวป้องกันในตัวเอง

                ถ้าเทียบกับแบบเก่าโซเดียมกับฟูก็คือตำแหน่งของเมษาที่จะเปิดทางให้กวินทร์เข้าไปแช่แข็งศัตรู

                มิ่งขวัญกับมิกส์จะเป็นตำแหน่งเดิมของกวินทร์คือเป็นตัวเปิดกลยุทธ์

                และหน่วยสนับสนุนที่มีอิงศรหรือตัวเขาเองกับคนอื่นๆ ก็จะเป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์หลักซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับในรูปแบบเก่าคือคนที่ยิงสายน้ำออกไปเพื่อเพิ่มพลังแช่แข็งจากเดม่อนแอปพลิเคชั่นของกวินทร์

                ระหว่างที่แนวหน้าทั้งสี่ต่อสู้ซื้อเวลาให้หน่วยสนับสนุนเตรียมแผน รูปแบบของฟอเมชั่นก็กลายเป็นอย่างที่ว่าไปโดยไม่รู้ตัว

                “เริ่มได้

                อิงศรประกาศเริ่มแผน แนวหน้าทั้งสี่คนก็แยกกันไปสองทางตีขนาบปีศาจให้อยู่ในเส้นทางโจมตีของหน่วยสนับสนุน

                “ยิงเลย!

                คำพูดนั้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนใช้สกิลธาตุน้ำโจมตีไป

                อิงศรใช้ยันต์หนึ่งแผ่นยิงลูกศรฉลามออกไป พลอย เน็กส์ และนิว ทั้งสามคนมีอาชีพพ้นฐานเป็นสเปลเลอร์อยู่แล้วถึงสามารถใช้สกิล ธาราซัดสายน้ำจากอาวุธออกไปโจมตีได้

                กวินทร์ที่อยู่ในโหมดเวพ่อนไนซ์ก็มีท่าที่ใช้น้ำในการโจมตีเหมือนกันพอเริ่มใช้พลัง

                “คมเขี้ยววารีพิชิตเภทภัย โอเทนตะ มิทสึโยะ

                ดาบในมือก็ส่งเสียงอย่างฮึกเหิมผิดกับตอนแรกที่วิ่งหางจุกก้นเลยทีเดียว

     พอก้มตัวปักดาบลงบนพื้นที่ว่างเปล่าน้ำจำนวนมากก็ไหลทะลักออกมาพร้อมกับตัวหนังสือเอฟเฟคเขียนว่า ซ่าดูเหมือนจะเป็นพลังอย่างหนึ่งของท่ากระมัง

                เป็นสกิลที่โหวกเหวกจนทำให้ศัตรูรู้ไต๋ระหว่างที่สู้อย่างไม่ต้องสงสัยอิงศรลงความเห็นเช่นนั้น

                สายน้ำที่ห้อมล้อมรอบกวินทร์ก่อตัวเป็นรูปจิ้งจอกตัวใหญ่ ขนาดที่ยืนคร่อมกวินทร์ไว้ตรงระหว่างขาหน้าได้

                จิ้งจอกน้ำส่งเสียงหอนแล้วสายน้ำก็เริ่มก่อตัวเป็นคลื่นซัดออกไป

                เทียบกับลูกศรฉลามหรือกระสุนสายน้ำแล้วความเร็วของคลื่นไล่ตามไปไม่ทัน

                จากลักษณะที่แผ่ออกไปมากกว่าจะพุ่งไปข้างหน้าตรงๆ ท่านี้น่าจะใช้สำหรับป้องกัน

                ปกติแล้วสายอาชีพที่เน้นสร้างความเสียหายจะมีปัญหาที่สกิลกับสายการบิลด์จะไม่ค่อยจะมีสกิลสำหรับป้องกันและหลบหนี

                ถึงมีก็น้อยมากส่วนใหญ่ใช้การไม่ค่อยได้แต่ชุดสกิลที่พี่สาวของกวินทร์จัดให้นั้นได้คำนึงถึงปัญหานี้ไว้และพ่วงวิธีแก้ทางมาให้ในตัว

                เป็นชุดสกิลของกวินทร์อย่างแท้จริงเพราะกวินทร์สามารถมองเห็นแก่นของการโจมตีที่มุ่งเข้ามาแล้วสะบั้นมันด้วยท่าโจมตีหรือหักล้างได้อย่างชำนาญสำหรับกวินทร์แล้วท่าโจมตีก็คือท่าป้องกันนั่นเอง

                ระหว่างนั้นปีศาจก็เหมือนจะรู้ตัวมันให้ไฮดร้าทั้งเจ็ดหัวพ่นไฟสวนทางน้ำมา

                สายน้ำเย็นปะทะกับเพลิงร้อนระอุระเหยเป็นไออยู่ตรงกลางทางแต่น้ำเหมือนจะมีภาษีดีกว่าเพราะเป็นธาตุที่ชนะทาง เกมโลกาวินาศกำหนดมันไว้แบบนั้นและแทบไม่สนความเป็นจริงเรื่องที่ไฟหรือน้ำฝ่ายไหนจะมีน้อยมากกว่ากัน

                อันจริงก็ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปเพราะครั้งหนึ่งก็เคยเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีพลังเวทสูงมากสร้างไฟที่ระเหยน้ำได้โดยไม่สนใจหลักการอะไรมาแล้ว

                ไฟเริ่มถูกดันกลับไป

                ไม่สิ

                “เสร็จกันเจ้านั่นมันคิดจะใช้ไฟแทนไอพ่นแล้วหนีอย่างนั้นหรอกเรอะ

                อิงศรพูดสบถ เขาไม่รู้เลยจนกระทั่งเห็นว่าร่างของปีศาจกำลังลอยออกห่าง

                เพราะทัศนวิสัยแย่เกินไป ไอหมอกที่ระเหยจากการปะทะกันของเปลวเพลิงกับสายน้ำกระจายปกคลุมพื้นที่จนหนาแน่นเกินไป

                ตอนนั้นเองเน็กส์ก็ร่ายคาถาเสียงดัง

                “…ข้าขอวิงวองสดับฟังเสียงชีพจรแห่งผู้ปกครองลมทั้งสี่ มหาวาโยราโอ!!

                มหาวาโยราโอ สกิลโจมตีขั้นสูงสุดธาตุสายลมของบิลด์คลาสควินเอสเซนท์ที่เป็นผู้ควบคุมเวทแห่งธาตุทั้งสี่ตามหลักวงจรเวทมนต์สายยุโรป ต้องอาศัยการร่ายบริกรรมที่เนิ่นนาน ท่อนที่ได้ยินนั้นเป็นท่อนปิดท้ายแล้วบางทีคงจะร่ายรอตั้งแต่ตอนที่เริ่มสาดสายน้ำออกไป

                เน็กส์สะบัดไม้เท้าทันทีที่ร่ายจบ ทันใดนั้นสายลมก็เริ่มก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังหมุนเป็นเกลียวและโหมกรรโชกอย่างรุนแรง เกลียวพายุแตกตัวเป็นห้าสายพุ่งอ้อมตัวผู้ร่ายไล่ตามสายน้ำไป

                ลมช่วยดันคลื่นของกวินทร์เกิดเป็นกระแสคลื่นที่ซัดอย่างเชี่ยวกราก แนวคลื่นเริ่มก่อตัวสูงล้มทับใส่เพลิงไฟแล้วพุ่งต่อไปข้างหน้า

                กระแทกใส่หัวของไฮดร้าทำให้พวกมันระเหยเป็นไอเสียงเหมือนน้ำมันเดือดดังฉู่ฉ่า คลื่นที่ได้ลมช่วยหนุนยังสาดกระทบขึ้นไปถึงตัวโครกระดูกที่อุ้มจอกและพัดมันตกจากหลังของไฮดร้าที่จมน้ำไปเป็นที่เรียบร้อย

                บางทีเน็กส์อาจจะคาดการไว้แล้วเด็กชายอายุน้อยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในวันนั้นเติบโตขึ้นจนกระทั่งคาดคะเนในสิ่งที่เขามองข้ามก็อยากจะชมเต็มๆ อยู่หรอกถ้าไม่ใช่เพราะว่าวิธีการมันมีจุดบอดมากเกินไป

                อย่างแรกพวกหน่วยโจมตีหวิดจะโดนคลื่นพัดไปเหมือนกัน แต่มิ่งขวัญที่บินได้ก็ช่วยแบกมิกส์ให้และฟูก็ถูกโซเดียมอุ้มด้วยแขนข้างเดียวพลางกระโดดสูงจนตัวลอยอยู่กลางอากาศได้นานเล็กน้อยถึงจะในส่วนนี้ความสามารถเอาตัวรอดของทีมโจมตีก็ช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้แต่ยังมี...

                อย่างที่สองน้ำซึ่งกลายเป็นคลื่นและกระแสเชี่ยวทำให้เป้าหมายถูกพัดจมน้ำหายไปทำให้กะเป้าหมายโจมตีได้ยากนี่ก็ถือเป็นเรื่องที่จะต้องตักเตือนกันในภายหลังแต่...

                แต่เอาเถอะแบบนี้เราอาจจะได้โอเปอเรเตอร์คนใหม่ก็ได้

                อิงศรก็คาดหวังในตัวเน็กส์อยู่ไม่น้อย

                ครั้นเมื่อจอกที่จมไปในกระแสน้ำลอยขึ้นมาทีมโจมตีก็ทุ่มแรงโจมตีใส่พร้อมๆ กัน

                “แทคีออนสไลเซอร์!

                มิ่งขวัญที่บินลอดห่วงเพลิงทะยานเป็นลำแสง มองเห็นจอกกลวงเป็นรูไปแวบหนึ่งก่อนจะจมหายไปในกระแสน้ำอีกครั้ง

                ปืนของมิกซ์ ค้อนของฟูที่ถูกโซเดียมจับโยนลงไปและหล่อนก็ใช้กำปั้นที่ร่ายสกิลซุกนัคเคิล เพิ่งจะตามมาถึง

                หน่วยโจมตีจมสู่กระแสน้ำหลังจากการโจมตีถล่มลงไปที่จอกซึ่งไม่รู้ว่าถูกพัดหายไปหรือยังแต่ตัวการที่นั่งอยู่ในนั้นน่าจะ

                จู่ๆ น้ำก็กระฉอกขึ้นมา ทารกปีศาจบินขึ้นจากน้ำนั่นเอง

                อิงศรเดาะลิ้นพลางพูดว่า

                “ชิ ตายยากตายเย็นจริง

                แล้วดึงสายธนูจนตึง เล็งเป้าไว้ที่ศีรษะของทารกแต่ก็ยิงออกไปไม่ได้เพราะหน่วยโจมตีทั้งสี่คนอยู่ในแนวยิงถึงจะมั่นใจฝีมือตัวเองขนาดไหนเขาก็ไม่กล้ายิงโดยที่ไม่ตกลงกันไว้ก่อน ไม่เหมือนตอนที่ตอนที่สู้กับมีนาที่ถูกสิงร่างโดยสัตว์เทวะมันไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น

                อิงศรกำคันธนูเหล็กติดตั้งใบมีดจนแน่น

                “…”

                ก่อนจะตัดใจได้จึงค่อยลดมือลง

                “รีบตามมันไปเร็ว

                แล้วสั่งแบบนั้นพร้อมกับวิ่งออกไป

                คลื่นจากสกิลหยุดไปแล้วน้ำเจิ่งนองท่วมพื้นตรงหน้า

                ทุกคนวิ่งตามหลังเขามา กลุ่มจู่โจมพอเห็นแบบนั้นเข้าก็เตรียมตัวลุกกันอย่างร้อนรนจนสะดุดน้ำลื่นล้มกันไปคนละที มีแต่มิ่งขวัญที่บินได้เท่านั้นที่ไม่ล้ม

                เมื่ออิงศรวิ่งมาถึงจุดที่เป็นแอ่งน้ำขังซึ่งทั้งสี่คนกระจุกตัวกันเด็กหนุ่มก็กระโดดข้ามไปแล้วปล่อยให้พวกที่ตามมาช่วยเป็นธุระดึงพวกนั้นขึ้นมาจากสภาพเปียกปอนนั่น

                ใกล้จะไล่ทันทารกปีศาจแล้ว...

                ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วถึงจะเสียดายที่ไม่ได้กินก็ขอขังพวกแกไว้ในนี้ไปตลอดกาลเลยก็แล้วกัน

                ได้ยินทารกพูดพึมพำอย่างนั้นด้วยการสนับสนุนของตัวเกมทำให้ประสาทสัมผัสที่เฉียบคมและหูที่ดีเยี่ยมเหนือมนุษย์ไปแล้ว มองเห็นว่าทารกกำลังทำอะไรบางอย่าง

                ที่ด้านหน้าของทารกเหมือนจะมีแสงสว่างแยงออกมา

                คิดจะหนีงั้นเรอะ

                อิงศรสรุปเช่นนั้นเมื่อเห็นต้นกำเนิดแสง

                แท้จริงแล้วมันคือแสงจากอีกด้านของช่องว่างมิติที่ทารกพยายามจะแหวกออก

                เห็นว่าสู้ไม่ได้ก็เลยจะขังพวกเขาไว้ในมิติแห่งนี้อย่างนั้นสินะ

                ไม่ยอมให้ทำได้หรอกน่า เมอร์คาบาห์!”

                พอเรียกปีศาจ ไพ่อาคานาร์ก็ปรากฏขึ้นในมือขวา

                เด็กหนุ่มโยนมันออกไป ปีศาจพุ่งออกจากไพ่

                รู้สึกได้ว่าพลังเพิ่มสูงขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ

                พอมีความรู้สึกอันรุนแรงพลุ่งพล่านอยู่ในอกปีศาจก็จะแข็งแกร่งขึ้น

                เมื่อความปรารถนาแรงกล้าขึ้นปีศาจก็เลยดาวน์โหลดข้อมูลตัวเองลงมาอยู่ในร่างผู้ใช้ได้มากขึ้น ความปรารถนาก็เหมือนกับพื้นที่เก็บข้อมูล...

                จู่ๆ ก็คิดอะไรแบบนั้นออกมาคิดในสิ่งที่ปกติแล้วไม่น่าจะคิดได้

                ดังนั้นตัวการก็น่าจะเป็นเมอร์คาบาห์ที่ถูกเรียกออกมาบางทีคงพยายามทำให้เข้าใจว่าควรจะใช้งานปีศาจอย่างไร

                จำได้ว่าซีลอร์ดเคยพูดไว้

                อาคานาร์คือสิ่งที่ผูกมัดปีศาจไว้กับมนุษย์  ปีศาจน่ะโหยหาโชคชะตาที่พวกเขาไม่มีดังนั้นเป้าหมายจึงเป็นมนุษย์แล้วอาคานาร์ก็ได้มอบพลังให้ปีศาจ

                ถ้าหากว่าที่แล้วมาตีความหมายของคำว่าอาคานาร์ผิดไปล่ะ

                หากอาคานาร์ไม่ได้หมายถึงโชคชะตาล่ะ

                ที่จริงแล้วมันคือก้อนความปรารถนาที่ทำให้เกิดโชคชะตาถ้าเป็นอย่างนี้แล้วคำพูดของซีลอร์ดก็จะเข้าร่องเข้าลอย

                ถ้าอย่างนั้นอะไรคือปรารถนาที่แรงกล้าในตอนนี้กัน?

                ความปรารถนาถ้าพูดอย่างง่ายๆ ก็คือความอยากจะมีความอยากก็จำเป็นต้องมีเป้าหมาย

                สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้คือฆ่าพระเจ้าสิบแปดมงกุฎที่อยู่ตรงหน้า

                นั่นคือความปรารถนาที่ทำให้เมอร์คาบาห์แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างนั้นหรือ?

                เมอร์คาบาห์เป็นทูตสวรรค์ดังนั้นมันจึงปรารถนาที่จะทำลายผู้แอบอ้างชื่อของพระเจ้าในศาสนานั้น

                คงตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว

                ฆ่ามันซะเมอร์คาบาห์!”

                อิงศรสั่งให้ปีศาจทำในสิ่งที่มันน่าจะต้องการแล้วก็เหมือนจะถูกต้อง

                เทวทูตกึ่งจักรกลขยับปีกทั้งหกขึ้นลงอย่างรวดเร็วพลางตั้งข้อศอกขึ้นเพื่อให้ใบมีดที่แขนหันคมเปิดออก

                ตอนนั้นเองที่ขาก้าวพ้นประตูมิติซึ่งทารกนำออกไปก่อนแล้ว

                ซากปรักหักพังของวิหารโผล่อยู่ตรงหน้า

                พระจันทร์เต็มดวง

                ดูเหมือนว่าจะกลับออกมาที่โลกแห่งความจริงได้ด้วยประตูนั้น

                พอหันกลับไปมองหลังแวบๆ ก็เห็นทุกคนกำลังวิ่งไล่หลังมา

                เมอร์คาบาห์ไล่ตามปีศาจทารกไปจนถึงระยะลงดาบ

                ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ความปรารถนาที่สะสมมาจากมนุษย์นับหมื่นนับพันไม่น่าจะ...

                แต่เมอร์คาบาห์ตวัดใบมีดที่แขนลงตัดเข้าที่ลำคอของทารกปีศาจขาดโดยไร้เสียง

                ศีรษะของทารกร่วงตกพื้นแล้วกลิ้งหลุนๆ ก่อนจะไปติดขัดอยู่ตรงกองหินไม่ไกลนักส่วนร่างกายที่เหลือก็สลายเป็นอากาศธาตุไป

                ใบหน้าของทารกหันมาทางนี้พอดีสายตากำลังจ้องเขม็ง

                โลกนี้ไม่มีพระเจ้า”       

                น้ำเสียงแหบแห้งราวกับเค้นแรงที่เหลือทั้งหมดออกมาถักทอคำพูด

                การก่นด่าหรือสาปแช่งนั่นคือสิ่งเดียวที่จะพึงกระทำในตอนที่เหลือเพียงศีรษะเท่านั้น

                แต่ทั้งอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะพูดความจริง...

                “...มีเพียงปีศาจที่คอยล่อลวงมนุษย์แสนโง่เขลาดั่งของเล่น

                พอได้ฟังที่มันพูดมาก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้น

                สัมผัสต่อการมีตัวตนของตัวเองกำลังหายไป

                รู้สึกตัวอีกทีทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มกับแสงแดดอันสดใสก็แผ่กว้างอยู่เบื้องหน้า

                มนุษย์จะถูกกอบกู้โดยมนุษย์เท่านั้น

                คำพูดนี้อีกแล้ว...

                ชายเจ้าของคำพูดยืนอยู่ท่ามกลางหญ้าเขียวขจีเหล่านั้นและดำเนินบทสนทนากับชายอีกคนที่น่าจะเป็นซีลอร์ด

                มโนภาพหรืออะไรก็ตามแต่มันกลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เคยเห็นเมื่อตอนที่ไปช่วยซีลอร์ดที่รากแห่งอาคาชิกเรคคอร์ดในตอนนั้นยังมองไม่เห็นใบหน้าของชายเจ้าของวลีมนุษย์จะกอบกู้มนุษย์

                ตอนนี้เองก็ยังไม่เห็นอีกเหมือนเคย

                แต่ปากก็เริ่มขยับไปเอง ตอบโต้คำพูดของปีศาจทารกยัลดาเบาธ์นั่น

                “พวกเราไม่ต้องการพระเจ้าให้มาช่วยเพราะว่ามนุษย์จะถูกช่วยโดยมนุษย์เท่านั้น

                ยัลดาเบาธ์ได้ฟังดังนั้นก็ปรายยิ้มออกมาราวกับว่ามันได้รับการตอบสนองอย่างที่หวังเอาไว้

                “นั่นสินะ...มนุษย์เราอาจจะมีแนวคิดเดียวกัน...ซักวันเราจะกลับมาหากมนุษย์ยังมีความปรารถนาอยู่นี่มิใช่การสูญสิ้นเราจะยังอยู่...อยู่ในความปรารถนาของพวกเจ้า

                ความปรารถนาของอารย-สนธยามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!”

                จู่ๆ ก็มีเสียงคำรามดังขัดการสนทนาระหว่างเขากับปีศาจ

                สายลมเริ่มโหมกรรโชกอย่างรุนแรงผิดวิสัยน์เป็นที่สุด

                ท้องฟ้ามืดลงฉับพลันมีเมฆหรืออะไรบางอย่างลอยมาบังแสงจันทร์เอาไว้

                มองเห็นเพียงแค่นั้นก็ต้องหรี่ตาลงเพราะเศษฝุ่นเศษดินถูกพัดหอบขึ้นมาจนคลุ้งไปหมด

                เงาของสิ่งนั้นเคลื่อนตัวลงมาแล้วยังเหยียดเท้ากรงเล็บเหมือนนกบดขยี้ส่วนที่เหลือของยัลดาเบาธ์จมดินไป

                มันร้องคำรามอย่างกึกก้องว่า

                อวโลกิตะชุบเลี้ยงเจ้าเพื่อให้รวบรวมความปรารถนาทุกอย่างที่เจ้าสะสมมาจะต้องเป็นพลังให้กับผู้กอบกู้

                อิงศรพยายามลืมตาสู้กับสายลมอันรุนแรงแล้วหันขึ้นไปเพื่อจะมองหน้าผู้ที่มาอย่างกะทันหัน

                กายเนื้อสีทองปีกใต้วงแขนสีแดง

                ใบหน้ามีจงอยปากยื่นยาวและมีหงอนเหมือนกับสวมชฎา

                ร่างกำยำสูงใหญ่เท่าบ้านทั้งหลัง

                แก...พญาครุฑเมื่อตอนนั้น

                โจทย์เก่าของเขานั่นเองเจ้านี่เริ่มตามมารังควานหลังจากที่พามีนาไปเปลี่ยนอาชีพแล้วก็มันอีกนั่นแหละที่ลักพาตัวนรินทร์มาที่นี่

                มีควันลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของพญาครุฑ

                “…”

                ดูเหมือนยัลดาเบาธ์จะจากไปโดยไม่หลงเหลือหลักฐานว่ามันเคยอยู่ที่นั่นอีกและทิ้งไว้เพียงคำพูดที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ตลอดไปซึ่งบ่งบอกว่าครั้งหนึ่งมนุษย์ได้สรรสร้างพระเจ้าด้วยความปรารถนาอันบ้าคลั่งและไม่หยี่ระต่อโชคชะตา

                แล้วความปรารถนาเหล่านั้นก็จะถูกสานต่อโดยเจ้าวิหกปีศาจที่โผล่มาไม่รู้จักเวลา

                นี่มันตัวอะไรกันล่ะเนี่ย!”

                นั่นเสียงของมิ่งขวัญดังมาจากข้างหลัง

                ทุกคนที่ไล่ตามมาพากันออกมาจากมิตินั่น

                จู่ๆ ก็ออกมาเจอบอสอีกตัวจะทำหน้าแบบไหนกันบ้างก็ไม่รู้แต่ว่า...

                ทุกคนเตรียมสู้ซะเจ้านี่ก็เป็นศัตรูเหมือนกัน!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×