ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #126 : Login 123: เกมเมอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 401
      8
      30 มิ.ย. 60

    Login 123: เกมเมอร์

     

                “ความเร็วขนาดนี้มันอะไรกัน”

                กวินทร์สบถขณะที่ใช้มือปาดเอาเลือดที่ไหลจากแผลฉีกบนใบแก้มซึ่งหายสนิทแล้วออก

                บาดแผลตามที่ต่างๆ ก็สมานตัวแล้วเหมือนกันเพราะพลังของเฟืองที่ช่วยเร่งอัตราฟื้นฟูทางกายภาพให้แต่ไม่มีผลกับพลังชีวิต

     

    กวินทร์ Lv. 69

    [/////6800:8200//...]

     

                พอได้ฟังที่พูดไปไทเทเนียมก็…

                “รู้จักค่าเฟรมเรตไหมล่ะ”

                ถามมาอย่างนั้น

                “…”

                กวินทร์ไม่ได้ตอบเพราะตอนนี้ที่ควบคุมร่างไม่ใช่จิตใจส่วนที่เป็นมนุษย์จึงไม่คิดจะตอบโต้คำพูดของวัชพืช

                ภายในกลุ่มของมิกซ์ที่ดูอยู่นั่นเองก็มีคำถามมาจากพลอย

                “มันคืออะไรเหรอ”

                มิกซ์จึงตอบว่า

                “เฟรมเรตคือจำนวนภาพเคลื่อนไหวในหนึ่งวินาทีน่ะเคยฟังมาจากพี่ศรเหมือนกันว่าเป็นคำศัพท์ที่วงการเกมเองก็ใช้บ่อยๆ แต่ว่ามันมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะเนี่ย”

                แล้วคำพูดของเขาก็ไปเข้าหูไทเทเนียมพอดีหล่อนจึงพูดต่อราวกับโอ้อวด

                เป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีนิสัยแปลกมากๆ หรือจะแปลกตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์กันนะ

                คำพูดโอ้อวดนั่นได้กล่าวว่า

                “จำนวนเฟรมเรตที่มนุษย์สามารถแยกแยะได้ระหว่างภาพเคลื่อนไหวกับภาพนิ่งขั้นต่ำอยู่ยี่สิบสี่เฟรมแต่เกมเมอร์จะมองเห็นได้มากกว่านั้นเพราะได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาให้ตอบสนองต่อภาพที่เกิดขึ้น ตัวฉันตอนที่เป็นมนุษย์ค่าเฟรมเรตอยู่ที่หนึ่งร้อยสี่สิบสี่เฟรมแล้วตอนนี้ก็เป็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งมีพลังเป็นสิบสองเท่าของมนุษย์”

                มิกซ์เริ่มยกนิ้วขึ้นมานับคำนวณตามคำพูดของหล่อน

                “สิบสองคูณร้อยสี่สิบสี่เอ่อ...”

                แต่พลอยกลับตอบได้ในทันที เพราะหล่อนเก่งเรื่องคำนวณมาแต่ไหนแต่ไร

                ”พันเจ็ดร้อยยี่สิบแปด”

                มิกซ์สะดุ้งกับตัวเลขที่ออกมา

                “พ...พันเลยเหรอ! แบบนั้นมัน…”

                แววตาของเด็กหนุ่มฉายแววตื่นตะลึง

                ไทเทเนียมไม่ได้พูดตอบกลับมาเพราะกวินทร์เริ่มการโจมตีอีกครั้ง

                แต่ข้อมูลแค่ที่หล่อนพูดมาก็เพียงพอจะคิดต่อได้แล้วว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร คำตอบมันอยู่ที่การต่อสู้นั่น

                ไทเทเนียมสามารถตอบโต้และสกัดการโจมตีได้ทั้งหมดก่อนจะออกกระบวนท่าด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องที่พูดเป็นความจริง การที่สามารถประเมินเฟรมเรตขนาดนั้นได้หล่อนจะต้องมองเห็นทุกอย่างเคลื่อนไหวแบบสโลวโมชั่นตลอดเวลาไหนยังจะพลังในการตอบสนองอีก

                ดูจากที่สู้กันคาดว่าประสาทสัมผัสกับอิมพัลส์หรือเวลาในการสั่งการจากสมองไปยังอวัยวะอาจจะเข้าใกล้ศูนย์สัมบูรณ์วินาที

                เหมือนแช่แข็งเวลาได้

                หรือแค่คิดก็เกิดขึ้นเลยและยังตอบโต้ได้เหมือนกับมองเห็นล่วงหน้าไปถึงอนาคตจะขยับยังไงจะวิ่งหนีหรือจะต่อสู้ก็รู้ได้ก่อนที่เจ้าของร่างกายจะรู้ตัวเสียอีก รู้แบบนี้แล้ว…

                “จะไปสู้ได้ยังไงกันเล่า”

                มิกซ์ตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง เขาจ้องมองการต่อสู้ของกวินทร์แล้วก็ได้แต่นับถอยหลังว่าเมื่อใดที่ความพ่ายแพ้จะมาเยือน

                การปะทะของสองคนนั่นยังคงอยู่ในโลกความเร็วแสงที่เอื้อมไปไม่ถึง ทว่า…

                แม้แต่กวินทร์ที่อยู่ในนั้นก็ยังถูกทิ้งห่าง

                การเคลื่อนไหวของกวินทร์ช้าลง ความเร็วตกลงอย่างชัดเจนเพราะมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็น

                เด็กหนุ่มเริ่มหอบมีช่วงที่หยุดพักหายใจเป็นระยะๆ

                ตอนที่หยุดหายใจครั้งนี้ไทเทเนียมก็ฟาดดาบลงไปบนพื้น

                “คราวนี้ขอดูหน่อยเถอะว่าฟันเฟืองกับอสุราอะไรจะแน่กว่ากัน…ตื่นได้แล้วอาร์มาอิติ”

                ได้ยินหล่อนพูดแบบนั้น พื้นที่เสียบดาบลงไปเกิดปริร้าวเสียงพื้นดินลั่นดังเปรี้ยะ แผ่นดินสีขาวเริ่มสั่นไหว

                สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

                พื้นด้านหน้าจุดที่ดาบเสียบลงไปนั้นเกิดรอยแยกแตกเป็นทางแต่ไม่กว้างมาก

                ร้ายที่สุดคือแรงกระแทกจากการฟาดดาบลงมาต่างหากที่ทำให้พื้นดินรอบๆ คว้านตัวเองขึ้นมาราวกับน้ำพุ

                พื้นดินทะยานไล่ไปหากวินทร์จนกระทั่งส่งตัวเด็กหนุ่มลอยขึ้นไปกลางอากาศ

                ไทเทเนียมดึงดาบแล้วร่ายสกิล

                “ขอสายฟ้าจงคำรน สายลมจงหมุนวน…”

                ถ้าหากว่าร่ายสำเร็จกวินทร์ได้ตายแน่

                พอคิดแบบนั้นมือก็ขยับออกไปซะแล้ว มิกซ์ยกปืนเล็งไปที่มนุษย์ต่างดาวแล้วลั่นไกยิงทันที

                แต่กระสุนสะท้อนกลับออกมาก่อนเข้าถึงตัวหล่อนทั้งที่ไม่ไดขยับมาตอบโต้

                “จริงสิ! สกิลติดอาวุธของผู้หญิงคนนั้นคือทำให้การโจมตีเดี่ยวๆ ไร้ผลนี่นา”

                มิกซ์ฉุกคิดขึ้นมาจึงหันไปขอให้พลอย...

                “ช่วยหน่อยนะพลอยโจมตีพร้อมกันทียังไงก็ต้องหยุดไม่ให้ร่ายสกิลได้”

                พลอยพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นจับคฑาแล้วโจมตีพร้อมกับมิกซ์

                อย่างไรก็ตามไทเทเนียมร่ายสกิลเสร็จไปแล้ว

                “ก่อเกิดพยุหะฝนฟ้าคะนองปัดเป่าสรรพสิ่งจนราบพนาสูญ”

     

    [Edge of Thunderstorms Lv(2/2)

    Element: Electric

    Attribute: Physical Attack , Special Attack

    (Cast Cost) สละ Buffs ธาตุสายฟ้าที่มีชื่อ Saber หรือ Blade , ร่าย ‘ขอสายฟ้าจงคำรน สายลมจงหมุนวน ก่อเกิดพยุหะฝนฟ้าคะนองปัดเป่าสรรพสิ่งจนราบพนาสูญ’; ควบคุมสายลมและสายฟ้าจู่โจมศัตรูด้วยพายุเขี้ยวอัสนี!! หากฝนตกจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น]

     

                ดาบอสุราที่เคลือบไว้ด้วยคลื่นไฟฟ้าตวัดขึ้นเหมือนกับไร้น้ำหนักโบกพัดสายลมกรรโชก

    หมุนวนพัดเป็นเกลียวห้อมล้อมอาณาบริเวณโดยรอบกักขังเป้าหมายไว้เหนืออากาศแล้วเมื่อไทเทเนียมฟันดาบลงมาก็บังเกิดสายฟ้าฟาดแล่นแปลบปราบ

                อัสนีบาตคำรนฉีกร่างกวินทร์ออกเป็นสองเสี่ยง...

                มองเห็นว่าเป็นอย่างนั้นไปแวบหนึ่ง เป็นภาพลวงตาที่เกิดจากแสงของสายฟ้าจำนวนมากสว่างขึ้นมาพร้อมกันลำตัวของกวินทร์ยังติดกันอยู่แต่ถูกสายฟ้าเผาจนชุดไหม้เกรียมไปส่วนหนึ่งผิวหนังสีขาวเปิดเผยออกมา

     

    กวินทร์ Lv. 69

    […..0:8200…..]

     

                พลังชีวิตเป็นศูนย์แต่นั่นยังไม่น่ากังวลหรอกเพราะฟันเฟืองจะไม่ยอมให้เจ้าของตายนี่คือสิ่งที่เขากับเหล่าครอบครัวได้ฟังมาจากอวโลกิตะ

                เสียงฟ้าร้องทำให้หูอื้อไปพักหนึ่งจนเมื่อเริ่มกลับมาได้ยินอีกครั้ง

                เสียงบางอย่างกระแทกกับพื้นดังตุ้บจากร่างของกวินทร์ที่หล่นลงมาก็แว่วเข้าหู

                ตามมาด้วยเสียงคราง

                “อึก...อา…”

                และสบถตวาดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดแต่น้ำเสียงไร้พลัง

                “หนอยเจ้าวัชพืชเอ้ย…”

                คำพูดหยุดลงแค่นั้นเพราะเท้าของมนุษย์ต่างดาวเหยียบทับลงบนหน้าอก

                กวินทร์กระอักเลือด จากนั้นก็ถูกจับที่คอ

                ฟันเฟืองหมุนเร็วจี๋น่าจะบาดมือหล่อน…

                แต่กลับมีเสียงกรอบแกรบดังออกมาท่าทางว่าฟันเฟืองจะถูกบีบจนแหลกไปแล้ว

                มิกซ์หันไปพูดกับนิวที่เป็นน้องเล็กของกลุ่ม

                “นิวถ้าให้สัญญาณเมื่อไหร่รีบดึงตัวกวินทร์กลับมาเลยนะ”

                เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

                “เดี๋ยวสิมีแผนแล้วเหรอ”

                พลอยถาม มิกซ์พยักหน้า

                “พอดึงตัวกวินทร์กลับมาได้แล้วเราจะหนีกันเลย”

                “แล้วจะหนีพ้นเหรอ”

                พลอยทำหน้ากังวลเล็กน้อย

                ถ้าแค่หนีธรรมดาๆ คงโดนตามทันในอึดใจเดียวพวกมนุษย์ต่างดาวฝีเท้าความไวแสงกันอยู่แล้ว

                “เพราะงั้นถึงจะใช้สะพานนั่นช่วยไง”

                มิกซ์ชี้ไปที่สะพานหินซึ่งอยู่ด้านหลังกลุ่มพวกตนพอดีมันเชื่อมกับแผ่นดินอีกฟากโดยที่หรี่เสียงพูดเหลือแค่กระซิบ

                แต่ก็ยังไม่น่าวางใจอยู่ดี ไม่รู้ว่ามนุษย์ต่างดาวจะหูดีขนาดไหนกัน

                “ไว้จะคอยบอกแผนนะตั้งใจกันหน่อยล่ะ”

                พลอยทำหน้าเข้าใจสาเหตุที่ต้องทำแบบนั้นพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและพลอยก็รู้ใจทุกคนมากที่สุด

                ตอนนั้นเองเสียงร้องทรมานของกวินทร์ก็ตัดบทสนทนาให้สิ้นสุด

                “อ๊ากกก อ่อก ค่อกแค่ก”

                คอของกวินทร์ถูกบีบจนแทบจะแหลกอยู่แล้ว

                มิกซ์จึงหันไปให้สัญญาณเริ่มแผน

                “พลอยช่วยกวินทร์ออกมาที”

                เด็กสาวตอบรับคำสั่งแล้วเริ่มโบกไม้คฑาร่ายคาถา

                “คับบาลาห์เซฟิร่าเชเซต”

                แสงพุ่งออกจากปลายไม้เท้าและในระหว่างนั้นเองมิกซ์ก็ลั่นไกปืนที่เล็งเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนที่สั่งเริ่มแผน

                ลูกกระสุนพุ่งนำแสงไปเล็กน้อยและเข้าปะทะกำแพงสกิลอาวุธอสุราจากนั้นลำแสงของพลอยก็กระทบตามมา

                การโจมตีทะลุผ่านกำแพงป้องกันเพราะกลายเป็นการโจมตีร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป

                ลำแสงของพลอยกระแทกเข้าที่แขนข้างที่บีบคอกวินทร์ ส่วนกระสุนของมิกซ์สะท้อนออกเพราะเจาะหนังมนุษย์ต่างดาวไม่เข้าพลังโจมตีน้อยกว่าพลังป้องกันเลยทำได้แค่สร้างรอยถากของการโจมตีเท่านั้น

                แต่ลำแสงของพลอยได้ผลแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

                มือที่จับคอกวินทร์คลายออกเพราะสกิล

                ทันทีที่กวินทร์เป็นอิสระ

                “ตอนนี้แหละนิว!”

                มิกซ์ก็ให้สัญญาณ

                นิวสะบัดมือที่เตรียมด้ายสกิลไว้ออกไป

                เส้นด้ายลอยไปรัดข้อมือข้อเท้าของกวินทร์ราวกับจับวางพร้อมจะดึงตัวกลับมาได้ทุกเมื่อน้ำหนักตัวของกวินทร์จะไม่เป็นปัญหาต่อนิวเพราะผลจากสกิลที่ใช้ชักเชิดนั้น

                “ท่าทางที่บอกว่าเห็นเฟรนเรตเป็นพันนั่นจะโม้สินะ”

                มิกซ์ยิ้มแสยะแล้วเล็งปืนลงไปบนพื้นตรงหน้า

                “กลูเกรเนด!”

                ร่ายสกิลพร้อมกับลั่นไกทำให้กระสุนที่ยิงกลายเป็นกระสุนกาว สร้างกับดักกาวเหนียวหนืดที่จะยึดจับเท้าของเหยื่อที่เข้ามาเหยียบ

                แค่ยิงเพียงครั้งเดียวกระสุนก็กระจายตัวออกเป็นแปดส่วนสร้างวงล้อมกาวที่เพียงพอจะปิดกั้นพื้นที่ด้านหน้าได้ทั้งหมด

                ร่างของกวินทร์ลอยใกล้เข้ามา

                จากนั้นเขาก็จะรับตัวกวินทร์ไว้พร้อมกับให้พลอยใช้สกิลเสริมพละกำลังเพื่อจะได้แบกตัวกวินทร์หนีได้และทำลายสะพานทิ้งระหว่างที่มนุษย์ต่างดาวสาระวนอยู่บนกับดักกาว

                พริบตานั้นเอง…

                ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไรแต่ในเวลาแค่เสี้ยววินาทีกวินทร์ก็ถูกชิงตัวกลับไป

                มือของไทเทเนียมคว้าคอกวินทร์เอาไว้อีกมือตวัดดาบเฉือนด้ายของนิวขาดสะบั้นพร้อมกันทุกเส้นแล้วเหวี่ยงตัวกวินทร์ทิ้งไปข้างหลัง

                แต่เท้าของหล่อนจะเหยียบลงบนกับดักกาวพอดีถ้าจังหวะนั้นให้นิวดึงตัวกวินทร์กลับมาอีกครั้งก็…

                “ไม่จริงน่า!”

                มิกซ์ทำหน้าไม่อยากเชื่อเมื่อเท้าของไทเทเนียมซึ่งควรจะเหยียบลงบนกาวกลับเหยียบลงบนหน้าครึ่งหนึ่งของพิจิก

                หล่อนใช้อีกเท้าเตะซากศพครึ่งหนึ่งที่ถูกผ่าขาดกลางเข้ามาในวงกาวแล้วใช้มันต่างแท่นเหยียบ

                “ทั้งการเคลื่อนไหวแล้วก็แผนการณ์น่ะอ่านขาดหมดแล้วแค่ไม่สนใจจะสกัดเท่านั้นเอง”

                ไทเทเนียมพูดราวกับจะแก้ตัวเรื่องที่ถูกมิกซ์กล่าวหาเมื่อครู่

                พัง…แผนพังพินาศหมดแล้ว

                มันเป็นแผนที่คิดง่ายเกินไปจริงๆ

                มิกซ์กัดฟันด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาประมาทพลังของไทเทเนียมจนทำให้ครอบครัวต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย

                ดาบที่สับพื้นดินให้แยกได้กำลังง้างขึ้นไป

                จบสิ้นกันแล้ว มีแต่ต้องหนีไปโดยที่ทิ้งกวินทร์ไว้

                ต้องทำตามแผนต่อ…ถ้าเป็นพลังของปีศาจที่ถูกปลูกถ่ายลงในร่างกายตั้งแต่เด็กคงจะพอช่วยให้พาพลอยกับนิวหนีไปได้

                ตอนนี้ต้องปกป้องคนที่ปกป้องได้ก่อนแค่รอดชีวิตไปให้ได้ก็พอ…ความคิดฝ่ายต่ำที่อยากจะเอาตัวรอดผลักดันอย่างไม่รู้จักหยุด

                แล้วมิกซ์ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในตอนนั้น

                เด็กหนุ่มปลุกให้ปีศาจในร่างฟื้นขึ้นมา

                ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงมีปีกค้างคาวงอกจากกลางหลัง

                รู้สึกว่าในปากจะมีเขี้ยวงอกออกมาด้วย

                แวมไพร์หรือปีศาจกระหายเลือดนั่นก็คือปีศาจที่ถูกปลูกถ่ายลงในร่าง

                เขาเป็นเดโมนอยด์แบบนั้น

                เป็นแค่ปีศาจกินเลือดที่อยากจะปกป้องคนสำคัญจนต้องยอมทิ้งพวกพ้อง

                พอเห็นแบบนั้นเข้าไทเทเนียมก็พูดเปรยๆ ว่า

                “น่าสนใจดีนี่แต่ว่าจบกันแค่นี้แหละ”

                แล้วตวัดดาบลง

                มิกซ์กระโจนตัวไปดึงพลอยกับนิวแล้วกางปีกหมายจะลากทั้งสองคนกระโดดลงไปจากแผ่นดินลอยฟ้าแล้วบินไปหาที่ลงชั้นข้างล่างเอาดาบหน้า

                ทว่าพื้นที่พวกเขายืนก็เกิดระเบิดขึ้นจากการลงดาบของไทเทเนียม

                แผ่นหินที่แตกกระดอนขึ้นมาแทงเข้าที่ปีก

                พังพืดปีกพรุนไปหมด บินไม่ได้แล้ว

                จากนั้นพื้นที่ยืนอยู่ก็ถล่มลงไป ร่วงหล่นไปยังท้องฟ้าไร้ขอบเขต

     

                ….

     

                กวินทร์ได้สติ

                รู้สึกเจ็บไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่คอปวดอย่างรุนแรงเหมือนถูกโซ่เหล็กรัดมา

                เด็กหนุ่มพยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกับกวาดสายมองไปรอบๆ ตรวจสอบสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

                แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ไทเทเนียมซึ่งกำลังส่งเหล่าครอบครัวของอิงศรลงไปข้างล่าง

                ตกลงไปในท้องฟ้าไร้ขอบเขตที่น่าจะทำให้ตายได้

                พี่สาวได้ฆ่าคนไปแล้ว

                นี่เป็นความจริง

                หล่อนฆ่ามิกซ์ พลอย แม้แต่เด็กเล็กอย่างนิว เหล่าคนที่เขาเพิ่งจะจำชื่อได้ถูกฆ่าด้วยน้ำมือของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องคนที่เคารพรักมาตลอด

                นี่เป็นความจริง

                ไม่อาจปฏิเสธได้อีกแล้วว่าเธอไม่ใช่คนอีกต่อไป

                หล่อนไม่ใช่พี่สาว…

                “ว้ากกก!!!”

                กวินทร์แหกปากตะโกนสุดเสียงพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้ากำดาบในมือจนแน่นแล้วก็ร้องตะโกนไปด้วย

                “พี่ฆ่าคนมากเกินไปแล้ว!”

                ฟันเฟืองที่ถูกทำลายไปฟื้นกลับคืนมาอีกครั้งแถมยังหมุนเร็วขึ้น

                ในหัวมีแต่เสียง…

                บอกว่าให้ฆ่า

                บอกว่าให้ถอนรากถอนโคนให้หมด

                พวกวัชพืชมันไร้ค่า

                “ทำไมถึงต้องฆ่าพวกเขาด้วย!”

                กวินทร์หวดดาบทั้งสองเล่มลงไปบนหลังพี่สาว

                ไทเทเนียมหันกลับมาแล้วตั้งดาบขึ้นกะจะใช้รับดาบของอีกฝ่ายแต่ก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นพลังของดาบติดตั้งอสุราก็จะหักล้างการโจมตีเพียงคนเดียวของกวินทร์ทิ้งไปเอง

                ทั้งที่ควรจะเป็นแบบนั้น

                แต่เสียงโลหะแหลมสูงก็ดังแกร๊ง ดาบคู่ฟาดลงบนดาบอสุรา

                “อึก…ได้ยังไงกันแถมหนักขนาดนี้เลยเหรอ”

                หล่อนทำหน้าตกใจแล้วบอกว่าหนัก

                บอกว่าดาบของมนุษย์ธรรมดาหนักทั้งที่มันเคยเป็นแค่ลมพัดเบาหวิวมาตลอด

                แต่กวินทร์ไม่ได้สนใจฟัง

                เด็กหนุ่มไม่เหลือสติพอจะไตร่ตรอง

                มีก็แต่ความโกรธ ความเศร้า ความเสียใจ

                ละเลงดาบฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง

                “ไพโรเบลด! อิเล็กทริคเบลด!

                เปลวไฟวนพันรอบดาบซ้าย สายฟ้าสถิตในดาบขวา เด็กหนุ่มกวัดแกว่งดาบทั้งสองราวกับพายุคลั่ง

                ทั้งๆ ที่ผ่านมาใช้ดาบเหมือนถือมีดกลับด้านมาตลอด

                เหมือนส่งมีดให้ศัตรูเพราะกลัวจะทำอีกฝ่ายเจ็บ แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาจับด้านมีดไล่ฟันเสียอย่างนั้น

                หัวใจของกวินทร์ฟันธงลงไปแล้วว่าตรงหน้าคือมนุษย์ต่างดาวกระหายเลือดจึงลงดาบเต็มที่ไม่มีการออมแรง

                ความลังเลที่หายไปนั้นจะบอกว่าเพราะโกรธที่คนเพิ่งรู้จักถูกฆ่าไปก็คงไม่ใช่

                มันซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย เพียงแค่เล็กน้อยจริงๆ

                เขาเสียใจที่ตัวเองยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าพี่สาวจะยังไม่เปลี่ยนไป

                คาดหวังอย่างไร้เหตุผลว่าจะยังมีความเป็นคนเหลืออยู่ในเปลือกของปีศาจ

                แต่กลับถูกหักหลัง

                เสียใจ

                ขมขื่น

                เสียใจมาก

                กวินทร์ร้องไห้ไม่หยุด

     

                “ฟรอสเบลด สโตนเบลด”

                ไทเทเนียมร่ายสกิลเสริมธาตุที่ตรงข้ามกับดาบของกวินทร์เพื่อต้านทานพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้น

                ใบดาบเคลือบด้วยน้ำแข็งผสมด้วยแขนงหินวนพันเป็นเกลียวทับไปอีกชั้น

                ที่ผ่านมากับมนุษย์ไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีแบบนี้ก็ได้เพราะพลังต่างกันมาก

                แต่กวินทร์ในตอนนี้กลับถมช่องว่างความต่างนั้นจนเต็ม

                ทั้งพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นมากจนเริ่มมองเห็นการเคลื่อนไหวแบบปกติทั้งที่เคยเห็นแบบสโลวโมชั่นมาตลอด

                “เพราะเฟืองนั่นสินะ”

                ไทเทเนียมสบถจากนั้นก็ยื่นมือตรงไปที่ลำคอหมายจะขยี้ฟันเฟืองทิ้ง

                ทว่าดาบของกวินทร์ก็แทรกเข้ามา

                ถูกฟันแขน…แต่พลังยังไม่มากพอจะตัดให้ขาด

     

                Titanium Lv.100 [/////25400:27000///..]

     

                หล่อนดึงแขนที่เกือบจะขาดสะพายแล่งกลับแล้วหวดดาบออกไป

                กวินทร์กระโดดหลบดาบนั้น กระโดดขึ้นไปสูงเกินกว่าตอนปกติ

                ตอนนั้นเองที่เริ่มมองเห็นออร่าที่เปล่งออกมาจากดาบทั้งสองเล่ม ในออร่ามีเงาลางๆ ที่มองได้ไม่ค่อยชัดแต่เห็นเงาหนึ่งเหมือนจะมีศีรษะเป็นฟักทองอีกเงารูปร่างคล้ายตุ๊กตาหิมะ

                แล้วสมมติฐานว่าทำไมกวินทร์ถึงทะลวงเกราะป้องกันของสกิลอสุราเข้ามาได้ก็แล่นขึ้นมาในหัว

                “ปีศาจพวกนั้นช่วยโจมตีด้วยจนกลายเป็นการโจมตีร่วมกันงั้นเหรอ”

                ไม่มีเหตุผลสนับสนุนเรื่องนี้แต่หล่อนก็ปักใจเชื่อแบบนั้น

                ส่วนเหตุผลที่อธิบายการเกิดขึ้นได้คงจะเป็นฟันเฟือง

                สวิตช์บางอย่างในตัวกวินทร์อาจจะติดขึ้นมาทำให้เฟืองหมุนกลับทิศทาง

                เพราะตอนนี้เฟืองบนคอก็กำลังหมุนกลับด้านกับตอนแรก

                “ฟรอสเบลด! สโตนเบลด!

                กวินทร์ร่ายสกิลเสริมธาตุเพิ่มเข้าไปอีก

                ดาบเพลิงมีผิวหินเคลือบเอาไว้ส่วนดาบไฟฟ้าก็ถูกเคลือบด้วยแผ่นน้ำแข็ง

                เช่นเดียวกันไทเทเนียมก็เพิ่มธาตุลงไปในดาบของหล่อนด้วย

                “ไพโรเบลด อิเล็คทริคเบลด”

                ผิวหินน้ำแข็งที่เคลือบดาบไว้กะเทาะตัวแตกแล้วกลายเป็นเส้นพลังสี่สีหมุนวนรอบใบดาบแทน

                เด็กหนุ่มตวาด

                “พี่ไม่มีหัวใจแล้วหรือไง”

                แล้วฟันขนาบเข้ามาสองทิศทางพร้อมกัน ไทเทเนียมยกดาบรับดาบแรกไว้แล้วกระแทกออกแต่ดาบอีกเล่มตั้งรับไว้ไม่ทันจึงถูกฟันเข้าที่สีข้าง

     

    Titanium Lv.100 [/////22050:27000/....]

     

                เลือดพุ่งจากปากแผลที่ถูกฟัน

                “…”

                เสียงปะทะของดาบเปลี่ยนเป็นเสียงระเบิดดังตูมตาม พลังของธาตุเข้าปะทะกันท่ามกลางเสียงอึกทึก

                กวินทร์เสียหลักเซถอยไปด้านหลังจากการถูกกระแทกตอนที่ดาบแรกเข้าปะทะกัน

                จังหวะนั้นไทเทเนียมก็ฟาดดาบโดยไม่สนใจบาดแผลตัวเอง

                พลังของอสุรากับพลังของธาตุระเบิดใส่พื้นแล้วคว้านแผ่นดินขึ้นเป็นทางโดยที่มี เปลวเพลิง สายฟ้าและแท่งน้ำแข็งแหลมพุ่งขึ้นมา

                แต่กวินทร์ก็กระโดดขึ้นไปเหยียบและไต่ตามแผ่นหินที่กระดอนขึ้นจนกลับมาได้แล้วฟาดดาบลงมาจากข้างบน

                ไทเทเนียมยกดาบรับไว้อีกครั้ง ดาบกระทบกัน ธาตุทั้งสี่ปะทะกัน

                ประกายไฟแลบออกมาในระหว่างที่ดาบยันกันอยู่

                แทบไม่มีจังหวะให้ร่ายสกิลแค่เสริมพลังดาบก็เต็มกลืน การต่อสู้จึงดำเนินไปด้วยกระบวนท่าเท่านั้น

                เธอถูกไล่ต้อนจนต้องสู้โดยไม่สามารถพึ่งพาสกิลที่จัดเตรียมมาไว้อย่างสมบูรณ์ได้

                โดนไล่ต้อนเหรอ จนแต้มงั้นเหรอ

                ไทเทเนียมกลั้นหัวเราะ

                “หึ ฮะฮะฮะ หัวใจสินะ...หัวใจอย่างนั้นสินะ

                จู่ๆ หล่อนก็พูดแบบนั้น

                มันจะไปมีของพรรค์นั้นได้ยังไงกันเล่า!”

                พริบตานั้นราวกับมีลมพายุลูกใหญ่พัดเข้ามาที่ดาบของไทเทเนียม

                แรงผลักกลับนั้นเอาชนะกระทั่งแรงกดดาบที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นปริศนาของเด็กหนุ่มไปพร้อมกับแรงโน้มถ่วง

                พัดกวินทร์ลอยขึ้นไป

                ไม่ว่าหน้าไหนๆ ก็เหมือนกันหมดทุกคนเอาแต่คาดหวัง...คาดคั้นเอาจากฉันไป กระทั่งพ่อ...แล้วตอนนี้ก็นายอีกฉันน่ะมันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว!!”

                หล่อนตวาดแล้วชูดาบขึ้นยืดจนสุดแขน

                เอจด์ออฟเอเลเมนท์

                สิ้นคำเส้นแสงสี่สีบนดาบก็คลายเกลียวแล้วแยกออกไปสี่ทิศ

                สายลมเริ่มโหมกระหน่ำราวกับจะพัดพาสรรพสิ่งขึ้นไปถึงสวรรค์

                หินงอกจำนวนนับไม่ถ้วนทะลวงขึ้นมาเหนือผิวดิน

                หิมะโปรยปรายแล้วหมุนรวมเข้ากับสายลมเกิดเป็นพายุหิมะ

                สายฟ้าฟาดลงมา

                ทันใดนั้นไฟก็ปะทุขึ้นมาจากใต้ดิน

     

    [Edge of Element Lv(1/1)

    Element: Fire , Electric , Water , Earth

    Attribute: Physical Attack , Special Attack , Charge

    (Cast Cost) สละ Buffs ธาตุ ไฟ น้ำ ดิน และสายฟ้า ที่มีชื่อ Saber หรือ Blade ; ศาสตร์ลับแห่งดาบไร้เทียมทานที่ควบรวมทั้งสี่ธาตุด้วยพายุแห่งวัฏจักร เมื่อผลของสกิลสิ้นสุดลงได้รับ Unit สีตามธาตุทั้งสี่]

     

                การโจมตีทั้งสี่ธาตุพุ่งเป้าไปยังร่างของเด็กหนุ่มที่ตัวลอยเคว้งกลางอากาศ

                แต่กวินทร์ก็ไม่ได้นิ่งเฉยเขาร่ายสกิลที่คล้ายกันสวนกลับมา

                สกิลผสานสี่ธาตุ

                ท่าฟันสี่ธาตุควอเต็ตแสลช!!!”

                หลังจากร่ายสกิลก็ประกบดาบรวมเป็นเล่มเดียว ยกเลิกสถานะของเทคนิคัลเวพ่อน

                ธาตุทั้งสี่ควบรวมเป็นหนึ่งเดียวกลายเป็นประกายแสงอาบดาบเนื้อสีดำให้กลายเป็นทองคำ

                เด็กหนุ่มกะจังหวะที่การโจมตีของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้พอแล้วจึงตวัดดาบ

     

    [ท่าฟันสี่ธาตุ Quartet Slash Lv(1/1)

    Element: Fire , Electric , Water , Earth

    Attribute: Physical Attack , Special Attack , Charge

    (Cast Cost) สละ Buffs ธาตุ ไฟ น้ำ ดิน และสายฟ้า ที่มีชื่อ Saber หรือ Blade ; ศาสตร์ลับแห่งดาบไร้เทียมทานที่ควบรวมทั้งสี่ธาตุ คมดาบแห่งวัฏจักรที่สะบั้นแม้สรวงสวรรค์ เมื่อผลของสกิลสิ้นสุดลงได้รับ Unit สีตามธาตุทั้งสี่]

     

                เพียงครั้งเดียวก็ทำให้เกิด ระเบิดเพลิง สายฟ้า น้ำแข็งและศิลา

                ระเบิดขึ้นพร้อมๆ กันสี่ครั้ง

                ธาตุของทั้งสองฝ่ายหักล้างกันเองแล้วหายไป

                พลังชีวิตของกวินทร์เริ่มจะฟื้นฟูกลับมา

     

    กวินทร์ Lv.69 [/....30:8200…..]

     

                ยูนิทแสงสี่สีปรากฏขึ้นห้อมล้อมอาวุธในเวลาเดียวกัน แล้ว...

                กวินทร์ก็บุกต่อทันที อาศัยพลังของแรงโน้มถ่วงเสริมแรงโจมตี

                เทคนิคัลเวพ่อน!”

                แยกดาบออกเป็นสองเล่มอีกครั้ง

                ควรจะหลบการโจมตีนี้ ถ้ารับไว้จะเสียเปรียบ...ไทเทเนียมคิด

                แต่กลับขยับขาไม่ได้ เวลาหน่วงจากการใช้สกิลยังหลงเหลืออยู่ ต่างจากสกิลที่กวินทร์ใช้ซึ่งมีระยะเวลาน้อยกว่า

                แค่เสี้ยววินาทีก็สร้างความแตกต่างได้มากโข

                กวินทร์ประชิดเข้ามาถึงตัว

                เวลาหน่วงจากสกิลหายไปแล้วไทเทเนียมจับดาบหวดออกไป

                แต่ถูกกวินทร์ใช้ดาบในมือขวาฟันกดเอาไว้แล้วอาศัยเป็นแท่นยันส่งตัวให้ลอยขึ้นไปอีกเล็กน้อย

                ทว่าดาบก็ตัดขาออกไปทั้งสองข้าง

                อึก

                กวินทร์ครางด้วยความเจ็บปวดแต่ก็กัดฟันแทงดาบในมือซ้ายออกไป

                หนอย...

                ไทเทเนียมคำรามพร้อมกับชักแขนซ้ายที่จับดาบไว้กลับมาทำเป็นมือดาบแล้วสับเข้าที่ข้อมือของอีกฝ่าย

                มือขวาขาดกระเด็นไปพร้อมกับดาบแต่เด็กหนุ่มก็ดึงดาบซ้ายแทงตามมาติดๆ

                ดาบเสียบทะลุหน้าอกพอดี

                แรงจากการตกช่วยส่งให้กดใบดาบลงไปลึกจนมิดด้าม

     

    Titanium Lv.100 [/////19000:27000.....]

     

                ไทเทเนียมกระอักเป็นเลือด

                อัก

                จากนั้นร่างของกวินทร์ก็ตกมากระแทกหล่อนจนล้มไปทั้งคู่

                ดาบที่เสียบทะลุไปถึงกลางหลังปักติดกับพื้นยึดร่างกายหล่อนไว้

                นี่คือพันธสัญญาว่าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ไปสู่เส้นทางทำลายล้าง

                กวินทร์กล่าวร่ายคาถาแล้วดาบก็กลืนยูนิทแสงทั้งสี่เข้าไป

                “…”

                ไทเทเนียมพยายามดึงดาบขึ้นมาแต่ปลายฝังลงพื้นดินไปตอนที่ล้มทำให้ดึงในสภาพที่นอนราบแบบนี้ไม่ได้

                ตอนนั้นเองท้องฟ้าก็มืดลง เมฆสีดำผุดออกมาปกคลุมอาณาบริเวณทั้งหมด

                เวลาในอาณาเขตถูกหยุดเอาไว้...เข้าสู่ช่วงแสดงผลของสกิลไม้ตาย

                เมฆดำหมุนขดเป็นน้ำวน

                แล้วตรงใจกลางหมู่เมฆนั่นเองเครื่องทำสวนก็ยื่นส่วนหัวที่เหมือนกับกระต่ายโผล่มา

                ร่างกายโลหะสีเงินแวววาวรูปร่างปราดเปรียว ดวงตาสีแดงเปล่งประกายในความมืด

                ใบหูเป็นดาบที่ประกบกันได้เหมือนกรรไกรลู่ไปทางด้านหลังยาวกว่าลำตัวอยู่ประมาณหนึ่ง

                ยืนด้วยสี่ขาและมีแขนเหมือนก้ามปูยื่นจากข้างลำตัวทั้งสองข้าง

                กระต่ายยักษ์ลอยค้างอยู่อย่างนั้น จนกระทั่ง

                จงกู่ร้อง! ดาบที่ใช้ปลดพันธนาการสวรรค์  กิก้าสเลฟ! แรคน่าเบลด!!”

                กวินทร์ร่ายประโยคจบของสกิล

                ร่างกายของกระต่ายก็เริ่มเปลี่ยนรูปร่างด้วยกลไกแบบเครื่องจักร

                ส่วนของใบหน้ายื่นออกมาโดยมีแท่งเหล็กเป็นแกนเชื่อมกับลำตัว ใบหน้านั้นหมุนกลับหัวจากนั้นหูที่เป็นใบดาบทั้งสองข้างก็ประกบติดกันเป็นดาบใหญ่

                ส่วนของหัวที่กลับด้านแล้วเลื่อนเข้ามาประกบที่โคนของดาบทั้งสองเล่มทำหน้าที่ยึดใบดาบทั้งสองให้ติดสนิทกันยิ่งขึ้นเกิดเสียงดัง ‘แกร๊ก’

                แขนที่เหมือนก้ามปูกางออกทำเป็นโกร่งดาบ มันพับขาเก็บติดกับลำตัวจากนั้นลำตัวก็ยืดออกเผยแกนเหล็กยาวเหมือนกับเป็นด้ามจับออกมา

                เครื่องทำสวนกลายเป็นดาบขนาดมหึมาหันปลายเล็งมาทางนี้

                แล้วดิ่งลงมา

                ใบดาบสับลงบนพื้น เกิดระเบิดขึ้น

                เสียงดังกัปนาทกึกก้องไปทั่ว

                พื้นดินตรงนั้นยุบตัวลงและคว้านบริเวณรอบๆ เหมือนไม้กระดก

     

    [Giga Slave, Ragna-Buster Lv(1/2)

    Element: -

    Attribute: Ultimate , Physical Attack  , Special Attack ,  Awakening

    (Cast Cost) 4 Awakening Unit (สีต้องไม่ซ้ำกัน), ร่าย 'นี่คือพันธสัญญาว่าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ไปสู่เส้นทางทำลายล้าง จงกู่ร้องดาบที่ใช้ปลดพันธนาการสวรรค์!!'; อัญเชิญอวตารแห่งนักษัตรกระต่าย จู่โจมด้วยดาบแห่งการทำลายล้าง ความเสียหายจะเกิดแก่เป้าหมายเดี่ยว หากความเสียหายทำให้ถึงตายจะไม่สามารถหักล้างความตายนั้นได้ (สามารถร่ายสวนกลับ Ultimate Skill ได้โดยจะเกิดผลก่อน)]

     

                ท่ามกลางฝุ่นควันที่ตลบอบอวลนั้นแถบพลังชีวิตไทเทเนียมลอยเด่นเป็นสง่า

    Titanium Lv.100 [//...7000:27000.....]

                ดาบมหึมาปักลงบนร่างและเป็นจุดเดียวกับที่ดาบของกวินทร์เสียบทะลุอก โดยที่ตัวดาบทะลุผ่านกวินทร์มาและไม่ได้ทำร้ายเจ้าตัว

                มีเพียงหล่อนที่ได้รับความเสียหาย

                ผลจากการใช้สกิลทำให้กวินทร์ติดระยะเวลาหน่วงไปชั่วขณะจนถูกคว้าคอเอาไว้

                มือของไทเทเนียมบีบเข้ามา ฟันเฟืองถูกบีบจนแตกเป็นหนที่สอง

                อึก อือออ

                เสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบๆ แต่กวินทร์พยายามขัดขืนโดยใช้มือข้างเดียวที่เหลือแกะมือพี่สาวออก

                ไร้ผล...สู้แรงไม่ได้เลย

                คงเพราะฟันเฟืองถูกทำลายไปพลังเลยตกลงจนตอนนี้สติเริ่มจะเลือนราง

                เพราะขาดอากาศ

                เพราะเนื้อที่ลำคอเริ่มปริขาด

                รู้สึกได้ว่าศีรษะกำลังจะแยกออกจากร่าง กระดูกสันหลังเคลื่อนตัวเหมือนจะหลุดออกไปพร้อมกันรวดเดียว

                “…”

                ตอนนั้นเอง...

                ดวงตาของไทเทเนียมก็เบิกกว้างแต่กวินทร์ไม่เหลือสติพอจะรับรู้แล้ว

                โดยที่ไม่รู้ตัวนั้น ด้านหลังของเด็กหนุ่มได้มีอาคานาร์ใบหนึ่งลอยเคว้งอยู่

                อาคานาร์ระเบิดออกกลายเป็นวงเวทสัญลักษณ์สิบวงเชื่อมกันแบบคลิฝอธ

                ดาบของกวินทร์ทั้งสองเล่มปล่งแสงขึ้นพร้อมกัน จากนั้นปีศาจก็ปรากฏออกมา

                ปีศาจตัวเล็กเหมือนภูตมีหัวฟักทองที่แกะเป็นรูปหน้าคนกำลังหัวเราะสวมเสื้อคลุมสีดำปกปิดมิดชิด กับ ปีศาจตุ๊กตาหิมะตกแต่งหน้าตาด้วยแครอทกับกิ่งไม้กำลังทำหน้ายิ้มอย่างชั่วร้าย

                ปีศาจทั้งสองตนถูกดูดเข้าไปในวงเวทแล้วให้กำเนิดปีศาจตนใหม่

                ปีศาจเด็กผู้ชายแต่งกายแบบย้อนยุคประมาณอังกฤษสมัยกลาง

                และมีใบหน้าเหมือนลอกแบบมาจากกวินทร์....

                มือที่พยายามจะกระชากหัวเจ้าของปีศาจจู่ๆ ก็ขยับไม่ได้

                เวลาถูกหยุดลงอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?

                “อะไรกันเนี่ย

                ไทเทเนียมสบถ ระหว่างนั้นปีศาจก็หมุนตัวเร็วๆ

                แรงหมุนสร้างสายลมดูดเมฆดำข้างบนลงมาโอบอุ้มร่างไว้ก่อนจะมีมือสีดำอัปลักษณ์พุ่งออกมาจากกลุ่มเมฆ

                มือยักษ์ลอยไปคว้าจับเอาด้ามดาบเครื่องทำสวนแล้วยกมันขึ้น

                เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามือยักษ์นั่นจงใจดึงดาบเพื่อใช้มันฟาดซ้ำลงมา

                ในเสี้ยววินาทีนี้เองที่หัวใจของไทเทเนียมหวีดร้องออกมา

                ไม่อยากตาย

                ไม่นะ...

                แต่ดาบของยมทูตก็ดิ่งลงมา

                ม่ายยย!!!”

                เสียงกรีดร้องจากหัวใจที่ว่างเปล่านั้นดังออกมาในตอนสุดท้าย

                เสี้ยววินาทีก่อนที่กิโยตินพิพากษาจะตัดคอหล่อน

                ก็มีภาพแทรกเข้ามา

                ภาพนั้นฉายลงยังสมองของกวินทร์โดยตรง

                สามปีก่อน

                ในคอนโดมิเนี่ยมที่เขากับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องใช้เป็นที่พักหลังจากโลกล่มสลาย

                ยังมีอีกคนที่อยู่อาศัยด้วยกันเป็นชายที่คบหาดูใจกันพี่สาวมาก่อนที่โลกจะล่มสลาย

                ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วก็เป็นแค่คนที่รู้จักทางโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คเท่านั้นเอง

                นี่น่าจะเป็นความทรงจำของไทเทเนียมเพราะมีเรื่องราวที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้มาก่อนอยู่หลายเรื่อง

                มันทำให้ได้รู้ความจริง

                ...ว่าชายคนนั้นเป็นแมงดาเข้าหาพี่สาวด้วยเรื่องเงินกับฐานะทางบ้าน

                แต่พี่สาวที่ใจแตกก็รู้สึกกับชายคนนี้เป็นที่พึ่งเดียว

                หลังจากโลกล่มสลายชายขี้ขลาดคนนั้นก็เอาแต่พึ่งพาพี่สาวเพื่อให้มีชีวิตรอด

                จนกระทั่งทั้งสองมีอะไรด้วยกัน

                จากนั้นก็ถึงวันที่เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว

                หลังจากที่ตัวเขาหนีออกไปจากล๊อบบี้และออกไปจากคอนโดฯ ทางประตูหลังด้วยความช่วยเหลือของพี่สาว

                ก็มีมนุษย์ต่างดาวชั้นราชครูตนหนึ่งเดินเข้ามาในล็อบบี้จากทางประตูหน้า

                ราชครูตนนั้นคือโพแทสเซียมลำดับที่สี่ของวงศ์วานต่างดาว

                พี่สาวพยายามถ่วงเวลาให้เขาที่หนีไปแต่เพราะพลังเทียบไม่ติดจึงเสียท่าให้ง่ายๆ

                โพแทสเซียมในความทรงจำพูดว่า

                เห เธอนี่เก่งดีนะเลเวลแค่นั้นยังดึงผมที่เป็นราชครูได้ตั้งสิบวินาทีแน่ะแล้วใครกันเอ่ยที่มีไอ้นั่นอยู่กันนะเอาเถอะลองฆ่าซะเดี๋ยวก็รู้เองก็ซุงลูลู่บอกมาแบบนั้นนี่นะ

                แล้วตั้งใจจะควักหัวใจออก

                ท่านลำดับสี่คะเราเจอตัวชาวโลกหลบซ่อนอยู่ชั้นบนคนหนึ่งค่ะ

                มนุษย์ต่างดาวชั้นศิษย์เดินลงมาจากบันไดพร้อมกับลากตัวชายคนนั้นมาด้วย

                หมอนั่นตัวสั่นงกๆ และเอาแต่ร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพช

                เป็นคู่รักที่น่าสิ้นหวังอะไรอย่างนี้นะเอาเป็นว่าไหนๆ แล้วผมจะตบรางวัลที่เธอต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นด้วยการให้ตายพร้อมกับคนรักก็แล้วกันนะแต่ถ้าเกิดว่าเธอเป็นคนที่มีไอ้นั่นขึ้นมาก็ช่วยไม่ได้ล่ะ

                โพแทสเซียมเหมือนจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงได้พูดแบบนั้น

                แล้วพี่สาวก็ถูกขว้างไปทับลงบนตัวของเจ้าหนุ่มแมงดา

                พี่สาวตัดใจยอมที่จะตายคงเพราะอยากถ่วงเวลาให้น้องชายได้หนีไปซ่อน

                แต่ทว่า..

                ด...เดี๋ยวก่อนอย่าฆ่าผมเลย นะนะนะ เดี๋ยวผมจะบอกที่ซ่อนของเด็กอีกคนให้ไว้ชีวิตผมเถอะ

                นี่คงเป็นสาเหตุที่พี่สาวหัวใจสลาย

                เพราะชายคนรักไม่ตอบรับที่จะได้ตายพร้อมกันแถมยังขายเธอกับน้องเพื่อเอาตัวรอด

                ท้ายที่สุดชายคนนั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างน่าสมเพช

                หล่อนเสียบมีดทะลุหัวใจของชายอันเป็นที่รักด้วยมือตัวเอง

                ชาวโลกเนี่ยน่าสนุกจริงๆ ซะด้วยแหะเสียดายจังผมอยากเก็บเธอไว้นะแต่นี่เป็นงาน

                โพแทสเซียมกล่าวเช่นนั้นแล้วจะลงมือ แต่ทว่า

                เดี๋ยวก่อนโพแทสเซียมผู้หญิงคนนั้นยังมีประโยชน์อยู่

                กลับมีเสียงที่หยุดราชครูเอาไว้

                ภาพของความทรงจำเหมือนจะแจ่มชัดขึ้น สดใสขึ้น

                อารมณ์กับความรู้สึกที่มีต่อความทรงจำนี้คงจะพิเศษเป็นอย่างยิ่ง

                ได้ยินโพแทสเซียมเรียกเจ้าของเสียงด้วยความนอบน้อม

                อะ อ้าวท่านลำดับที่หนึ่งอุตส่าห์มาด้วยตัวเองเลยหรือครับ

                แกเองก็อย่าปากโป้งเรื่องนี้ล่ะอย่าให้รูบิเดียมรู้ด้วย

                ต้องปิดกระทั่งซุงโซกับซุงลี่ด้วยหรือครับแหมเป็นเรื่องที่ลับจังเลยน้า~~~”

                จากนั้นชายผู้ที่น่าจะเป็นพระราชาของมวลมนุษย์ต่างดาวก็ก้าวเข้ามาในล็อบบี้

                มายืนต่อหน้าฟ้ากมลผู้ที่หัวใจแตกสลาย

                แต่เพราะแสงสว่างที่ลอดเข้ามาในล็อบบี้ซึ่งมืดสนิทจึงมองไม่เห็นใบหน้าของราชครูตนดังกล่าว

                “พรสวรรค์ด้านเกมนั่นคือสิ่งจำเป็นดังนั้นจะขอใช้พลังของเธอล่ะนะ เพื่อที่จะสร้างโลกแห่งอุดมคติมันจำเป็นต้องพึ่งพาพลังของเธอนะไทเทเนียม

                นั่นเป็นคำพูดเดียวกับที่ไทเทเนียมพูดเอาไว้ตอนที่ใช้เวพอนไนซ์แวริเอเบิลไนท์

                เป็นคำพูดที่กล่าวถึงคนๆ นี้นั่นเอง

                ...ภาพตัดไปตรงนี้

                แล้วฉายภาพใหม่ที่น่าจะเป็นความทรงจำหลังกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว

                หล่อนกำลังพูดคุยกับรูบิเดียมราชครูลำดับที่สาม

                เอาฟันเฟืองของมิ่งขวัญมาสิแล้วฉันจะช่วยเรื่องที่เธอกำลังกังวลอยู่เอง

                ราชครูสาวพูดแล้วชี้มาที่ไทเทเนียม

                อยากช่วยใช่รึเปล่าเด็กในท้องน่ะ

                ...และแล้ว

                ดาบแห่งเครื่องทำสวนก็ดำดิ่งลงมา

    Titanium Lv.100

    [.....0:27000.....]


    ***ชดเชยในส่วนที่เมื่อวันพุทธลงสั้นไปหน่อยตคอนนี้เลยพยายามพิมพ์ให้เท่ากับความยาวตอนที่ใช้ปกติกับอีกครึ่งหนึ่งครับ บทหน้าจะถึงบทสรุปส่วนที่ค้างคาของไทเทเนียมเสียทีและกลับเข้าสู่พล็อตหลักที่วางไว้ครับอันที่จริงตอนแรกที่วางไว้ส่วนของไทเทเนียมจะจบตั้งแต่ช่วงที่สู้กับอวโลกิตะเสร็จแต่เนื่องจากช่วงนั้นไรท์งานยุ่งจนเผลอเขียนผิดสเต็ปไหน่อยเลยต้องลากยาวกับพยายามหาทางแก้ให้กลับเข้าเส้นเรื่องเดิมจนทำสำเร็จจนได้ ทีนี้ขอพูดถึงอีกเรื่องหนึ่งไรท์กำลังคิดว่าข้อมูลบางส่วนพวกเรื่องส่วนตัวของตัวละครเนี่ยมีหยุมหยิมเต็มไปหมดเลยกะว่าจะทำเป้นตอนพิเศษแต่ถ้าเขียนจริงจังแบบนั้นจะทำให้ไม่มีเวลาเอาบวกกิมมิคส่วนใหญ่สรุปเป็นเรื่องเป็นราวให้เขียนได้ไม่มากนักเลยกะว่าจะทำเป็นบทพูดสั้นๆ สามสี่บรรทัดลงช่วงคุยกันท้ายตอนนี่ล่ะครับแต่คงต้องขอเวลาคิดก่อนล่ะนะว่าจะออกมาแบบไหนดี ไว้เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าตอนแรกวันอังคารนะครับ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×