ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #124 : Login 121: อาชาอนธกาลแห่งความตาย 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 343
      10
      24 มิ.ย. 60

    Login 121: อาชาอนธกาลแห่งความตาย 1

     

                “นี่รู้กันอยู่แล้วเหรอ

                มิ่งขวัญเบ้ปากหลังจากเล่าความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพวกมนุษย์ต่างดาวโจมตีรวมถึงเรื่องที่ตัวเองกลายมาเป็นมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไรแต่ทุกคนกลับรู้อยู่ก่อน

                ฟูชี้ไปที่อิงศรซึ่งวิ่งนำกลุ่มอยู่ข้างหน้า

                “พี่ศรเขาเล่าให้ฟังแล้ว เห็นบอกว่าไปเจอพี่สีดาก็เลยรู้น่ะ

                “ก็แค่บังเอิญไปเจอระหว่างทำงานนั่นแหละ

                อิงศรพูด แต่ความจริงคือเขาไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไปทั้งหมด

                เพียงแต่เล่าให้ฟังแค่เรื่องตัวจริงของสีดาไม่ได้บอกเรื่องการทดลองเมอร์คาบาห์

                แล้วเมอร์คาบาห์ที่ว่าตอนนี้ก็มาอยู่ในกำมือซะอย่างนั้น

                ตั้งแต่เข้ามาที่อารย-สนธยา ก็เจอการต่อสู้หลายครั้ง

                เมื่อเข้าตาจนก็ได้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นช่วยเอาไว้ราวกับปาฏิหาริย์

                ประหนึ่งนิทาน

                ดั่งภาพยนตร์

                นี่คงเป็นแผนของใครบางคนที่จัดฉากเอาไว้เพราะโลกคงไม่ง่ายดายแบบนั้น

                ไม่ใช่แค่ว่าพยายามแล้วจะได้ผลตอบแทน

                โลกแห่งความจริงมันโหดร้ายกว่านั้นตัวเขาเองที่ค้นพบว่าความเป็นจริงไม่ได้ง่ายเข้าใจเป็นอย่างดี

                ว่าไม่มีใครเชื่อถือได้แต่สุดท้ายก็เชื่อไปแล้วไม่ใช่เรอะ!

                เชื่อในตัวพวกพ้อง

                เชื่อใจกวินทร์ มีนา เมษา นรินทร์

                แล้วก็เกือบจะทำลายโลก

                แล้วตอนนี้ก็ได้ครอบครัวที่เสียไปคืนมา

                เริ่มจะเชื่อใจมากขึ้น

                ไหลตามสถานการณ์อย่างนี้มีแต่จะตกเป็นเหยื่อของผู้บงการ

                ผู้บงการที่ว่านั่นอาจจะเป็นราชาของเหล่ามนุษย์ต่างดาว ถ้าเชื่อตามที่ไทเทเนียมพูด

                อิงศรเบรกตัวเองไว้แค่นั้น

                เกือบจะหลงปล่อยใจให้เชื่อเรื่องที่ศัตรูพูด

                เชื่อใจง่ายเกินไปจริงๆ นั่นแหละ

                “…”

                ถึงคิดต่อไปก็เท่านั้นตอนนี้ต้องไปรวมตัวกับคนที่เหลือก่อน

                หลังจากใช้ระบบของปาร์ตี้ยืนยันตำแหน่งของ กวินทร์ พลอย มิกซ์แล้วก็นิวได้ว่าทั้งหมดอยู่ในสถานที่เดียวกันก็ฝากให้ซากิริที่มีแผนที่นำทางให้

                ตอนนี้ซากิริจึงวิ่งนำอยู่หัวแถว

                ข้างหลังเป็นมิ่งขวัญ ฟู เน็กส์ ถัดไปอีกก็เป็นอิซานามิกับโซเดียม

                ที่หนนี้ปล่อยให้มนุษย์ต่างดาวไปวิ่งอยู่หลังแถวได้ก็เพราะระหว่างโซเดียมกับฟูเหมือนจะมีความสัมพันธ์แปลกๆ ที่ทำให้สนิทกันและแสดงให้เห็นตอนที่ร่วมมือกันจัดการมิตราพุทธะ

                นี่ก็เชื่อใจเอาง่ายๆ อีกเหมือนกัน

                การเดินทางดำเนินมาเกือบหนึ่งชั่วโมงทั้งวิ่งขึ้นวิ่งลง บางทีก็หยุดรอเพื่อให้สะพานเปลี่ยนทิศเลยอาศัยช่วงนั้นพักเอาแรงได้

                ตอนนี้อยู่ระหว่างรอให้สะพานที่กำลังจะหมุนมาทางนี้เข้าเทียบแผ่นดินจึงใช้เวลานี้ตรวจสอบสภาพของทุกคน

                โดยที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มอย่างเน็กส์ เด็กชายหอบหายใจหนักแถมยังหน้าซีดคงพยายามฝืนวิ่งอย่างเต็มที่เพื่อตามทุกคนให้ทัน

                พักซักหน่อยไหมอิงศรคิดจะพูดอย่างนั้น

                แต่เพราะมิ่งขวัญเดินเข้าไปอุ้มตัวเน็กส์ขึ้นซะก่อนแล้วให้ขี่หลัง

                ฟูที่เห็นเข้าก็พูดว่า

                “เฮ้ๆ แบบนั้นนายจะไม่ไหวเอานา

                “แค่นี้เองจะให้แบกนายอีกคนก็ยังไหว

                มิ่งขวัญพูดอย่างสบายๆ ก็คงเป็นอย่างที่ว่าเพราะพลังเหนือมนุษย์ถึงสิบสองเท่าแค่แบกเด็กไปด้วยวิ่งไปด้วยน่าจะทำได้สบาย

                ฟูได้แต่เบ้ปากให้คำพูดนั้นด้วยความขยาดโดยที่ไม่พูดอะไร

                “…”

                จังหวะนั้นเองสะพานก็เทียบท่าพอดี

                ซากิริหันกลับมาสอบถามความพร้อม

                “จะไปกันต่อแล้วนะ

                “…”

                ไม่มีใครพูดตอบแต่ก็พยักหน้าแทน

                แล้วเริ่มขึ้นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่ง

                จู่ๆ ก็มีเสียงวิ้งยาวๆ ดังขึ้น รู้สึกเหมือนมีภาพแทรกเข้ามาในหัวโดยตรง

                สถานที่ในภาพนั่นคือสถานีรถไฟฟ้า

                บนชานชาลา

                ตัวแสดงมีอิงศรกับมิ่งขวัญในวัยเด็กกับมนุษย์ต่างดาวอีกสองตน

                “นี่มัน…”

                เหมือนกับเมื่อสามปีก่อน ไม่สิมันคือภาพอดีตของเมื่อสามปีก่อน

                ในภาพคือวันแห่งการจากลา

                เรื่องราวดำเนินไปตามความเป็นจริงทุกระเบียดนิ้ว

                มิ่งขวัญผลักเขาเข้าไปในรถไฟช่วงที่ควันจากระเบิดตลบอบอวลจากนั้นภาพก็ตัดออกมาด้านนอก มิ่งขวัญถูกฟันจนร่างขาดเป็นสองท่อน ภาพตัดไปอีก

                บนรถไฟตัวเขาที่ยังเด็กอยู่นั้นมองดูสถานีระเบิดพร้อมกับกรีดร้อง

                “ชิ..

                อิงศรเดาะลิ้นไม่ชอบเอาเสียเลย

                รู้สึกหงุดหงิด

                อยากอาละวาด

                ทั้งที่ภาพแค่นั้นไม่น่าจะกระตุ้นความรู้สึกได้ขนาดนี้

                ในตอนนั้นเอง...

                อย่าหวั่นไหวนะทำจิตใจให้เข้มแข็งซะถ้าหวั่นไหวจะถูกปีศาจเล่นงานเอานี่คือกฎเหล็ก

                เสียงเตือนสติของซากิริก็ดึงเขากลับมาจากความรู้สึกอันมืดบอด

                คงจะเป็นฝีมือของยฮวฮ ใช้วิธีเดียวกับอวโลกิตะเลยนะเนี่ยเพราะเจ้านั่นเป็นคนบ่มเพาะตอนยังเป็นจอกอยู่สินะ

                หล่อนกลับไปพูดพึมพำกับตัวเอง

                อิงศรหันมองรอบตัว ภาพที่มองเห็นกับความเป็นจริงแยกกันอย่างเป็นเอกเทศ

                น่ากลัวว่าถ้าไม่ได้สติซะก่อนอาจจะหลงไปกับภาพจนก้าวเท้าพลาดและตกจากสะพานเอาได้

                แล้วก็...

                ดูเหมือนว่าภาพอดีตจะไม่ได้มีแต่เขาที่เห็นคนอื่นๆ ก็คงจะมองเห็นมันเหมือนกัน จากสีหน้าของมิ่งขวัญที่ซีดขึ้นมานั่นช่วยยืนยันได้ดีเพราะคนที่จะตอบสนองต่ออดีตนั่นก็มีแค่เขากับน้องชาย

                พอเริ่มจะปรับตัวกับการจู่โจมด้วยภาพของศัตรูได้ ระลอกถัดไปก็มาถึง

                ภาพใหม่ถูกฉายลงในสมอง

                ฟูพูดราวกับจะตอบโต้ภาพฉายนั่น

                จะอะไรก็มาเถอะไม่หวั่นไหวหรอกน่า!”

                สถานที่ในภาพฉายปรากฏเป็นที่ไหนซักแห่งที่เหมือนกับคุก ตัวแสดงในคราวนี้คือ ฟูกับพลอยในวัยปัจจุบัน

                บางทีคงจะเป็นความทรงจำของฟูดูจากรูปร่างของทั้งสองคนแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ถึงปี พอลองหันไปมองก็เห็นฟูกำลังทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ

                ภาพอดีตดำเนินเรื่องราวของเด็กหนุ่มกับเด็กสาว

                ฟูในภาพฉายใบหน้ากำลังขึ้นสีแดงระเรื่อ

                ราวกับอยู่ในฉากสารภาพรักอะไรเทือกนั้น

                แต่พลอยที่เป็นฝ่ายรับคำสารภาพกลับทำหน้าลำบากใจ

                คือว่าสำหรับฉันแล้วคิดว่าฟูกับมิกซ์เป็นสิ่งที่ไม่ควรแยกออกจากกันน่ะเพราะงั้นคงตอบรับความรู้สึกของฟูไม่ได้หรอกแล้วก็ฉันรู้สึกเหมือนพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่าจะให้รู้สึกแบบนั้นคงใม่ได้จริงๆ

                ภาพฉายจบลงที่ตรงนี้ ใบหน้าของฟูที่อยู่ตรงนี้ก็กำลังขึ้นสีแดงเหมือนในภาพฉาย

                แดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศ เด็กหนุ่มก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย

                แล้วมิ่งขวัญที่ไม่ประสีประสาก็หันไปพูดว่า

                โดนปฏิเสธเหรอ

                พอโดนถามจี้จุดเข้าแบบนั้นฟูก็ยกมือปิดหน้า

                ทำไมต้องเอาเรื่องพรรค์นี้ออกมาแฉด้วยฟร้า~~~”

                พลางกรีดร้องอย่างเจ็บใจ จากนั้นซากิริก็หัวเราะลั่น

                ฮะฮะฮะ โชโจคนนั้นที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง

                หล่อนพูดแบบเข้าใจอยู่คนเดียว เข้าใจถึงสารลับที่แฝงมากับคำปฏิเสธคำสารภาพของฟู

                นี่พลอยเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอ...

                แล้วฟูก็พูดพร้อมกับทำท่านึกไปด้วย

     

                แต่จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่ามิกซ์มาเกี่ยวอะไรด้วยอยู่ดีแหะ

                มิ่งขวัญพูด

                ไม่ใช่ว่าพลอยเขาสนใจมิกซ์หรอกเหรอก็ทั้งฉลาดแถมหล่อกว่า ไอ้บ้าอย่างนายด้วย

                ว่าไงนะไอ้ตัวบ้าพลังอย่างนายไม่ต้องมาว่าคนอื่นเขาบ้าเลยนะคนที่ว่าคนอื่นบ้าตัวเองนั่นแหละบ้า

                แลกบทสนทนากันไปได้ครู่เดียวก็เริ่มจะวางมวยกันซะแล้ว

                เด็กกันหรือไงฟะเจ้าพวกนี้...อิงศรคิดในใจ

                พอเริ่มจะเอะอะขึ้นมาซากิริก็หันมาพูดปราม

                นี่ๆ เพิ่งจะพูดไปเมื่อกี้เองอย่าไปหวั่นไหวกับกลลวงของมันซี่

                แต่ภาพฉายก็แทรกเข้ามา

                คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นตาของซากิริ ตัวหล่อนในภาพฉายอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ดูธรรมดาเอามากๆ

                หล่อนในภาพฉายกำลังกอดเด็กผู้หญิงและตัวสั่นหงึกๆ แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น ไม่สิกรีดร้องอย่างขมขื่นเลยล่ะ

                โทโมโกะ!!!”

                ภาพฉายจบลงเพียงแค่นั้น

                เพียงแค่นั้นซากิริที่อยู่หัวแถวก็หวั่นไหว

                “…”

                ร่างกายของหล่อนโอนเอนไปมา จังหวะก้าวเท้าผิดไปไปก้าวหนึ่งทำให้ผลัดตก

                ซากิริหล่นลงไปจากสะพาน

                ระวัง!

                อิงศรพ่นคำพูดเตือนสติแต่มันสายเกินไปดังนั้นจึงพุ่งตัวตามไปทันทีและคว้าแขนซากิริไว้ทัน

                แม้จะห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศแต่ซากิริก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ

                มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ภาพนั่นมันคืออะไร

                มันดูเหมือนว่าหล่อนกำลังสูญเสียใครไป เด็กผู้หญิงในอ้อมกอดของเธอคนนั้นหรือ?

                แค่คนรู้จักหรือว่าเป็นลูกสาวของหล่อนแต่ว่าแต่งงานแล้วเหรอเธอคนนี้น่ะ นิสัยแบบนั้นชายที่มาหลงชอบจนกระทั่งมีลูกได้เนี่ยคงไม่ใช่คอมพิวเตอร์หรอกมั้ง

                อึก...หนักแหะ

                คงเพราะน้ำหนักของคอมพิวเตอร์พกพาทำให้ตัวเขาเกือบจะร่วงลงไปด้วย แขนเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมา

                แม้จะเป็นสถานการณ์แบบนี้ซึ่งควรจะลดน้ำหนักของตัวเองให้เบาที่สุดแต่กลับกอดเครื่องคอมฯนั่นแน่นยิ่งกว่าอะไร

                คงชอบคอมพิวเตอร์จริงๆ นั่นแหละยัยคนนี้

                ฟูที่วิ่งตามเป็นดึงเขากับซากิริขึ้นด้วยตัวคนเดียว พลังของสายอาชีพหรือว่าเป็นพลังของเดโมนอยด์กัน?

                แต่ก็กลับขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยต้องขอบคุณพลังมหาศาลนั่น

                อิงศรหันไปพูดกับซากิริที่ยังคงเงียบกริบ

                เป็นอะไรของเธอล่ะเนี่ยเตือนคนอื่นซะดิบดีแต่ดันมาโดนเองเนี่ยนะ

                ขอบใจนะ

                หล่อนพูดเบาเหมือนกระซิบแต่ไมได้หันมามองทางนี้เลย ยังคงเอาแต่ก้มหน้า

                “เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะไอ้ความทรงจำนั่น

                “เป็นอดีตของเจ้าของร่างนี้มันทำให้นึกถึงตอนที่ไปหยุดอับราฮัมไม่ให้ฆ่าบุตรของตัวเองขึ้นมาก็เลยเผลอใจไปหน่อย

                คำตอบที่เหมือนกับขุดไบเบิลมาตอบนั่นควรจะเชื่อดีรึเปล่า...ถึงอย่างไรตัวจริงของหล่อนก็เป็นเทวทูตแล้วที่บอกว่าเจ้าของร่างนั่น...

                หมายความว่าเธอฆ่าเจ้าของร่างแล้วเข้าสิงเหรอ

                แต่ซากิริส่ายหน้า

                เปล่าตอนที่เข้ามาอยู่หล่อนก็ตายไปแล้ว...ฆ่าตัวตายน่ะ

     

                ....

                ที่รูนรูม

                ผู้ถูกลืมเลือนกำลังต้อนรับแขกคนใหม่

                ที่จริงแล้วเป็นแขกที่แวะเวียนมาบ่อยๆ แต่ไม่สามารถเข้ามาในห้องได้

                ทุกครั้งที่หลับหรือว่าหมดสติไปแขกคนนั้นจะมองเห็นห้องแห่งนี้แต่ว่าสัมผัสไม่ได้พูดคุยไม่ได้และไม่สามารถทำให้ตัวตนเป็นที่รับรู้ของคนอื่นได้

                ผู้ถูกลืมเลือน...ซีลอร์ดได้พูดต้อนรับเด็กหนุ่มผู้เป็นแขกอย่างเป็นทางการในคราวนี้

                “ว่าไงแขกผู้ถูกบทละครแห่งโชคชะตาเลือกมาแต่วันนี้เธอไม่ใช่แขกแล้วสินะเพราะตั้งแต่วันนี้ไปเธอคือผู้ฟันเฟืองเลือก กวินทร์ วชิระ


    ***ใครจะไปนึกว่าตื่นเช้ามาปุบก็โดนลากให้ไปทรูเพื่อยกเลิกโปรโมชั่นแล้วพนักงานก็ลีลาเหลือเกิน TwT เลยต้องกลับมาปั่นงกๆ เอาตอนเย็นแทนนี่ล่ะครับถึงเลทซะขนาดนี้แอ่วว~~~ เลยทำให้ตอนนี้สั้นตามไปด้วย(ต้องติดเลขแบ่งพาร์ทอีกแย้ว) เอาเป็นว่าเจอกันใหม่ตามตารางใหม่คือวันพุธนะคร้าบ อาิทตย์หน้าจะเป็นสัปดาห์สองตอนวันพุธกับศุกร์เน่อ****

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×