คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #110 : Login 107: เส้นยาแดงผ่าแปด
Login
107: เส้นยาแดงผ่าแปด
กวินทร์ใช้แขนเสื้อปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดเต็มหน้าผากออก
อุณหภูมิรอบๆ
ซากโบสถ์สูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
บางทีอาจจะเกินสี่สิบองศาไปแล้วก็ได้
สาเหตุมาจากแสงรัศมีที่ปีศาจตนหนึ่งปล่อยออกมา
เบื้องหน้ากวินทร์คือปีศาจซึ่งมีร่างเป็นรูปปั้นหญิงนักบุญกำลังอุ้มจอกที่ใส่เด็กทารกไว้
ตัวเด็กเองก็เป็นรูปปั้นเช่นเดียวกันรวมถึงจอกด้วย
ฐานของรูปปั้นนักบุญเชื่อมต่อกับโครงสายหินจำนวนเจ็ดเส้นที่ยึดรูปหล่อทองคำของเทวทูตกำลังถือคันแตรอยู่ในมือ
ถ้าจะให้เปรียบจากที่เรียนมาในชั่วโมงปีศาจศาสตร์ของเมตไตรยแล้วเจ้าสิ่งนี้น่าจะเรียกว่ารูปปั้นพระแม่มารีย์หรืออะไรทำนองนั้นแต่ปีศาจกลับบอกว่ามันคือ
‘ยฮวฮ’
กวินทร์เหลือบตาไปมองซากิริ
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมหล่อนถึงได้มีท่าทางตกอกตกใจกับการปรากฏตัวของปีศาจตนนี้เพราะหล่อนเป็นเทวทูตแล้วยฮวฮก็เป็นชื่อของพระเจ้าถ้าว่ากันตามไบเบิลแล้วปีศาจตนนี้ก็เป็นเจ้านายของเธอ
ทว่า
ซากิริกับเปลี่ยนท่าที...
หล่อนเก็บสีหน้าตกตะลึงเมื่อครู่ไปแล้วตั้งคำถามกับปีศาจว่า
“อ้างพระนามสูงสุดเลยเหรอน่าสนใจนี่
แต่มันก็ยังมีข้อที่น่าสงสัยอยู่นะว่าเจ้าจะใช่ยฮวฮจริงๆ รึเปล่า”
ดูเหมือนว่าหล่อนจะไม่ได้ปักใจเชื่อที่ปีศาจพูดมาเต็มร้อย
”ถ้าสามารถตรวจสอบมันได้ล่ะก็แต่โชเน็นก็ไม่อยู่ที่นี่ด้วยสิ”
กวินทร์ค่อนข้างเห็นด้วยกับคำพูดตัดพ้ออย่างน่าเสียดายนั่น
ถ้าหากว่าพี่นรินทร์อยู่ที่นี่สถานการณ์อาจจะน่าชื่นใจกว่านี้
เด็กหนุ่มหันไปมองความหวังสุดท้ายซึ่งยังไม่ตื่นขึ้นมา
อิงศรยังคงสลบอยู่บนหน้าตักของพลอยและที่ตรงนั้นเองสายตาก็เหลือบไปเห็นอิซานามิหญิงสาวชุดจีนที่บอกว่าตัวเป็นปีศาจจากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นซึ่งขัดกันอย่างเห็นได้ชัดทำไมหล่อนถึงไม่ใส่กิโมโนหรืออะไรที่มันดูเข้ากับชาติกว่านี้นะแต่หล่อนเป็นปีศาจ...
สามัญสำนึกของมนุษย์คงเอามาใช้ตัดสินอะไรไม่ได้รวมถึงเรื่องที่ตอนนี้หล่อนกำลังจ้องอิงศรตาเป็นมัน
“ท่าทางจะต้องไปช่วยนะเนี่ย”
เขาได้ยินอิซานามิพึมพำออกมาแบบนั้น
แต่จะช่วยอะไร? หรือคิดจะช่วยปลุกพี่ศรขึ้นมากันนะ...กวินทร์คิด
จากนั้นอิซานามิก็จับแขนอิงศรขึ้นมาถือแล้วทำปากเหมือนกับพึมพำอะไรบางอย่างแต่เสียงมันเบามากจนเขาไม่ได้ยิน
ตอนที่พยายามจะเงี่ยหูฟังอยู่นั่นเองก็มีเงาคนพุ่งขึ้นมาจากหลุมห้องใต้ดินที่ซากิริกับอิซานามิเคยเข้าไปหลบ
มีด้วยกันสองคน...
คนหนึ่งเป็นผู้หญิง
ไม่สิเป็นมนุษย์ต่างดาวต่างหากแถมยังเป็นชั้นราชครูด้วยเลเวลของเธอมันบอก
Sodium
Lv. 144
[/////49500:49500/////]
ราชครูตนนั้นคล้ายกับคนที่เคยสู้ด้วยตอนไปปล่อยตัวมนุษย์
NPC กับตอนที่เกิดเรดบอสกับค่ายที่กรุงเทพ
ราชครูมนุษย์ต่างดาวลำดับที่ห้าโซเดียม
แต่นั่นก็แค่คนที่เหมือนกันเท่านั้นเพราะโซเดียมได้ตายไปแล้วในวันที่เกิดเรดบอสที่ค่ายกรุงเทพเธอคนนี้ดูเหมือนจะเป็นราชครูคนใหม่ที่มาแทนเป็นคนที่ค่อนข้างซุ่มซ่ามต่างจากคนก่อนลิบลับ
“ในที่สุดก็เจอทางออกซักทีนะคะ”
โซเดียมคนนั้นพูดด้วยใบหน้าที่มอมแมมเครื่องแบบราชครูก็มอมแมมเปื้อนทั้งคราบน้ำคราบดินโคลนเหมือนไปลุยท่อที่ไหนมาบางทีคงจะเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่พวกเขาเคยผ่านมานั่นก็ได้
แล้วก็อีกคนที่ตามโซเดียมออกมากลับเป็นมนุษย์
กวินทร์รู้จักชายคนนั้น
เขาคือพันเอกพิจิก ธุวดารกะ
พันเอกพิจิกก็สบักสะบอมพอกันแต่พอลองดูให้ดีที่เหมือนว่าจะไปคลุกฝุ่นคลุกดินมาก็ไม่มีบาดแผลบนตัวเลยหรือต่อให้มันหายดีแล้วเพราะไดรับการฟื้นฟูก็ควรจะมีรอยฉีกขาดของเสื้อหลงเหลืออยู่บ้างแต่นี่กลับไม่มีดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ว่าชายผู้น่าสมเพชคนนี้ร่วมมือกับมนุษย์ต่างดาวเพื่อหนีออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน
“ตกใจแทบตายแน่ะตอนที่ทางออกถล่มลงมาโชคดีจังที่มีทางเชื่อมมาห้องใต้ดินนี่อยู่ด้วยน่ะ”
พิจิกพูด
สรุปว่าเป็นไปตามที่คาดเดาไว้อย่างนั้นสินะ...กวินทร์คิด
เขาเองก็พอจะรู้มาบ้างว่าพิจิกเป็นธุวดารกะที่ไม่เอาไหนบางทีอาจจะรู้มากกว่าอิงศรที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เสียด้วยซ้ำ
ตอนนั้นเองยฮวฮก็เริ่มเคลื่อนไหว
รูปหล่อเทวทูตทั้งเจ็ดกำลังขยับ
พวกมันเอาแตรใส่ปากแล้วก็เริ่มเป่า
เสียงแตรดังกังวานค่อยๆ
ดังขึ้น
ดังขึ้น
ดังขึ้น
ดังจนแสบแก้วหู
กวินทร์ยกมือขึ้นปิดหูตัวเองทันทีคนอื่นๆ
ก็ทำแบบเดียวกัน
เสียงแตรดังกระหึ่มแถมยังแหลมสูงเหมือนเป็นเสียงกรีดร้องเสียมากกว่า
แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกอ่อนเพลีย
เรี่ยวแรงเหือดหายไปอย่างเป็นปริศนา
หรือจะเป้นเพราะเสียงพวกนี้...กวินทร์ได้แต่คิดแบบนั้น
“…”
จากนั้นก็หมดสติไป
...
ที่โลกฝั่งโน้น
บนรากของอาคาชิกเรคคอร์ด
อิงศรเพิ่งจะใช้แอพพลิชั่นปีศาจของนรินทร์ไป
‘เจ้า...ไม่ใช่นรินทร์นี่’
เสียงของปีศาจดังก้องอยู่ภายในหัวอิงศรจึงตอบกลับไปว่า
“ช่างเถอะตอนนี้ขอยืมพลังก่อนเรื่องเจ้านายแกพูดแล้วมันยาว”
ปีศาจนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคงกำลังชั่งใจอยู่ถึงค่อยตอบกลับมา
‘เอาเถอะข้าก็รู้ตั้งแต่ตอนที่เจ้ามาจับถูกตัวข้าแล้วเพราะข้าคือนัยน์ตาแห่งการทำนายนี่นะแล้วก็เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้เจ้าไปช่วยเจ้านายของข้าจะยอมให้ยืมพลังก่อนก็ได้’
“ขอบใจมาก”
อิงศรวิ่งอยู่บนถนนด้วยกำลังขาของตัวเองด้านหลังปีศาจที่ชื่อโลกิกำลังไล่ตามมา
หลังจากลาพาสตอบรับคำขอร้องร่างปีศาจโครงกระดูกของมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
พอเขาวิ่งมันก็ลอยถอยหลังห่างออกไปด้วย
“นายคือ...ปีศาจของนรินทร์เหรอ”
“…”
โครงกระดูกพยักหน้าตอบรับคำพูดของเขาแล้วประสานมือขึ้นเหนือศีรษะเรียกเอาแว่นตาแบบที่นรินทร์ใส่อยู่เสมอตอนที่สู้ออกมา
แว่นตาปีศาจลาพาส
โครงกระดูกสวมแว่นนั้นให้และหายไป
เมื่ออิงศรหันกลับไปมองปีศาจที่ไล่ตามมาข้อมูลของก็เริ่มปรากฏขึ้นมาให้เห็นเป็นตัวหนังสือลอยกลางอากาศ
นี่คือภาพที่นรินทร์เห็นอยู่เสมอเหรอ...อิงศรคิด
จากนั้นก็ลองหันไปมองปีศาจตนอื่นที่กำลังสู้กับซีลอร์ดบ้าง
ที่กำลังสู้กับโอดินบ้าง
ข้อมูลของปีศาจทั้งหมดปรากฏออกมา
อิงศรเริ่มอ่านชื่อของปีศาจเหล่านั้น
“จอมมารโลกิ
สัตว์อสูรเฟนริล วิญญาณร้ายอลิส แล้วก็...”
นอกจากข้อมูลของปีศาจแล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับเส้นสีดำที่ลอยอยู่เหนือตัวปีศาจแต่ละตนเส้นพวกนั้นเชื่อมติดกับสันคอและทอดยาวขึ้นไปข้างบนสูงไปถึงท้องฟ้ามันยังทอดยาวออกไปอีกแต่สูงกว่านั้นก็มองไม่เห็นแล้ว
“เจ้าเส้นดำๆ
นั่นมันอะไรกัน”
เขาถามลาพาส
จากนั้นก็มีเสียงตอบคำถามดังก้องอยู่ในหัว
‘นั่นสิ...น่าแปลกที่ข้าเองก็มองไม่ออกเช่นกันเป็นครั้งแรกไม่สิครั้งที่สองแล้วครั้งแรกคือตอนที่นรินทร์ขอให้ข้าตรวจสอบเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าเป็นผู้ขับเคลื่อนบางทีเจ้าสิ่งนี้อาจจะมีพลังในการปกปิดระดับเดียวกันก็ได้
เท่าที่ข้าจะบอกได้ก็คือมีพลังงานบางอย่างส่งผ่านสิ่งนั้นไปยังพวกปีศาจและควบคุมมัน’
“หมายความว่าเจ้าสามตัวนี้โดนเชิดอยู่อย่างนั้นเหรอ”
‘จะว่าแบบนั้นมันก็ใช่’
“งั้นถ้าตัดมันได้เจ้าพวกนี้ก็อาจจะหยุดสินะ”
อิงศรดึงเส้นเอ็นโก่งคันธนูจนงอแล้วหมุนตัว
เมื่อลูกศรเพลิงปรากฏขึ้นบนโก่งคันธนูแล้วก็ปล่อยมือแผลงลูกศรยิงตัดเส้นสีดำของปีศาจแต่มันกลับทะลุผ่านไป
‘ไม่ได้ผลหรอกสิ่งนั้นไม่ได้มีตัวตนอย่างที่เจ้ามองเห็นมันไม่เพียงอำพรางตัวเองแต่ยังไม่มีกระทั่งสสารให้ทำลายได้การที่เจ้ามองเห็นมันเพราะอำนาจเปิดสิ่งที่ปิดบังออกไปของข้าเท่านั้น’
พอได้ฟังที่ลาพาสพูดอิงศรก็เดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด
“ชิ
แปลว่ามองเห็นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีสินะ”
แล้วออกวิ่งต่อ
ตอนนี้มีแต่ต้องกำจัดปีศาจพวกนี้ด้วยกำลังเท่านั้นพอคิดแบบนั้นแล้วเด็กหนุ่มก็หันไปจ้องมองร่างกายมหึมาของหมาป่าปีศาจเฟนริลแล้วตัดพ้ออย่างเหนื่อยหน่าย
“ถึงจะบอกให้จัดการก็เถอะแต่แบบนี้ไม่ไหวหรอกไม่มีวิธีรับมือกับพวกมันบ้างเลยเหรอ”
‘ทั้งสามตัวเป็นประเภทเคออสถ้าใช้การโจมตีของปีศาจสายลอว์ก็จะได้เปรียบพวกมัน’
อิงศรเบ้หน้าเพราะลาพาสพูดเรื่องประหลาดออกมา
เขาไม่เข้าใจมันเลยซักนิด
“ห๊ะ? เคออส...
ลอว์.. อะไรกันน่ะนั่นพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย”
‘เป็นประเภทของปีศาจน่ะไม่รู้จักเหรอ’
“ถ้าแค่ธาตุก็พอจะรู้อยู่แต่ไอ้เคออสหรือลอว์อะไรนั่นไม่เห็นเคยได้ยินเลย”
‘คืองี้นะปีศาจน่ะนอกจากธาตุแล้วก็ยังจำแนกออกตามประเภทของปีศาจที่ให้คุณกับโทษหรือไม่ก็เป็นกลาง
ประเภทเคออส (Chaos)
คือคุณลักษณะของปีศาจที่ชั่วร้ายจะอ่อนแอต่อประเภท
ลอว์ (Law) ที่เป็นปีศาจจำพวกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หรือพวกที่มีหน้าที่ธำรงกฎแห่งความเป็นไป’
ลาพาสอธิบายมารวดเดียวจนเกือบจะตามไม่ทัน
ไหนยังจะต้องวิ่งหนีปีศาจอีกระหว่างที่ตั้งใจฟังไปพร้อมกับวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายปีศาจก็ไล่หลังมาติดๆ
ต้องรีบหาทางจัดการกับสถานการณ์นี้ซะก่อนคิดดังนั้นแล้วอิงศรก็เร่งฝีเท้าพร้อมกับมองหาโอกาสตอบโต้เขากวาดสายตามองไปทั่ว
ข้างหน้าที่กำลังจะวิ่งไปเป็นสี่แยกเขาจะเลี้ยวขวาตรงนั้นแล้วเตรียมการโจมตีสำหรับหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้ช่วงห่างของระยะทางน่าจะพอทำให้ปีศาจไม่ทันระวังตอนที่เลี้ยวตาม
อิงศรวิ่งมาถึงสี่แยกเขาเลี้ยวขวาพร้อมกันนั้นก็ดึงยันต์กระดาษออมาจากแขนเสื้อหลายแผ่น
ง้างธนูแล้วหนุนตัวกลับเตรียมพร้อมให้ปลดปล่อยสกิลได้ทุกเมื่อ
ทันทีที่ปีศาจโผล่หน้าออกมาถึงทางเลี้ยวจะใช้
’ชาร์คชู้ต’ ยิงซัดให้ชะงักไปก่อนแล้วร่าย ’ชาร์คแฟงค์ฟรอสไบท์’
เพื่อแช่แข็งมันคอมโบนี้นน่าจะหยุดมันไปได้ซักพัก
มาเลยเซ่...อิงศรคิดในใจ
“...”
แต่ปีศาจกลับไม่ตามมา
ทำไม...
วินาทีถัดมาอิงศรก็รู้ตัวประสาทสัมผัสอันเฉียบคมจับสัญญารอันตรายได้มันมาจากทางด้านบน
เด็กหนุ่มเงยหน้าทันที
ปีศาจบินอยู่ข้างบนนั่นกางมือที่เต็มไปด้วยเล็บยาวโง้งราวกับดาบและเปล่งเสียงหัวเราะน่าหมันไส้ออกมา
“ฮะๆๆ
มนุษย์นี่น้า~~”
พูดแบบนั้นและกำลังดิ่งลงมา
แต่อิงศรตอบโต้ทันควันยกคันธนูที่โก่งรอขึ้นไปด้านบนแล้วร่ายสกิล
“บัพ-แอโร่ว”
แผลงลูกศรที่กลายเป็นมหิงสาเพลิงพุ่งขึ้นไปขวิดใส่ปีศาจจนร่างลอยกระเด็น
ในตอนนั้นเอง...
ตอนที่คิดว่าจะซัดคอมโบแช่แข็งเพื่อหยุดยั้งโลกิก็พลันมีเสียงหวีดของเลื่อยไฟฟ้าดังใกล้เข้ามา
พอหันไปตามเสียงนั้น...
เลื่อยไฟฟ้าก็เหวี่ยงเข้ามาเกือบจะถึงใบหน้า
ถ้าไม่หันมาก็คงโดนฟันคอขาดแต่จะอย่างไหนก็ตายอยู่ดี
มาคิดตอบโต้เอาตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว
“กู๊ดไนท์นะพ่อหนุ่มฟันเฟืองเลือก”
ปีศาจเด็กสาวที่เหวี่ยงเลื่อยไฟฟ้าใส่พูดมาแบบนั้นที่จริงหล่อนควรจะต้องสู้อยู่กับซีลอร์ดไม่ใช่รึไง
เลื่อยไฟฟ้าอยู่ห่างจากใบหน้าแค่ไม่กี่เซนติเมตร
ยัยเด็กปีศาจตัวเล็กกว่าแต่อาศัยกระโดดแล้วหมุนตัวเหวี่ยงเลื่อยเข้ามาทั้งที่ตัวลอยอยู่และเพราะแบบนั้นน่ะเอง...
“อ้าวๆ
ยะตัวให้มันดีๆ หน่อยน่อแล้วก็ปิ๊กมาหาแม่ซะมามะ”
สำเนียงเหน่อกับภาษาเหนือก็ดังขึ้นมาและช่วยชีวิตอิงศร
อิซานามิปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเด็กปีศาจคว้าคอเสื้อเธอไว้แล้วกระชากออกก่อนจะเหวี่ยงไปกระแทกกับอาคารดังโครม
อิซานามิหันมาส่งยิ้มให้พลางกล่าวด้วยความยินดี
“เส้นยาแดงผ่าแป๊ดเลยล่ะน่อ”
ความคิดเห็น