ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #85 : Login 82: ในอุโมงค์ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 478
      24
      27 ก.พ. 60

    Login 82: ในอุโมงค์ 1

     

                ภายในสิบวินาที...

                ข้าวหลามพูดกดดันให้เขาเลือกภายในเวลาแค่นั้นบางทีคงเพราะอาคมบนพื้นที่กำลังทำงานจะสิ้นสุดเมื่อครบสิบวินาทีอย่างนั้นสินะ

                อิงศรตั้งใจจะเอื้อมมือไปชักดาบแต่มิ่งขวัญยังจับมือเขาอยู่จึงสะพายธนูแล้วใช้มือข้างนั้นชักดาบที่เอวออกมาจากนั้นก็ปักมันลงบนพื้น

                "ซีลเบรก!! (Seal Break)"

                พลางร่ายสกิลที่มีผลปลดการทำงานของกับดักและอาคมแบบครอบคลุมพื้นที่แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                "ไม่ได้ผลงั้นเหรอ"

                กวินทร์พูด

                "หรือว่าพลังเกมของพี่ศรก็หายไปด้วยแล้วน่ะ"

                มีเสียงหัวเราะดังมาจากทางข้าวหลาม

                "ฮะๆๆ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะแต่ว่าอาคมที่กำลังทำงานอยู่เนี่ยมันไม่ใช่สกิลของเกมแต่เป็นเดม่อนสกิลต่างหาก"

                "หมายความว่าเป็นสกิลของปีศาจสินะ"

                อิงศรเดาะลิ้นอย่างเจ็บใจแล้วดึงดาบเก็บไป

                ตอนนั้นเองหนุ่มพังค์ของเมตไตรย...รู้สึกซากิริจะเรียกเขาว่าพิจิก ธุวดารกะก็พูดออกมาว่า

                “ทุ่นเวลาหาไปได้เยอะเลยนะแกไอ้คนทรยศ

                แล้วตั้งท่าจะก้าวไปจัดการแต่กลับไม่ยอมขยับขาไม่สิน่าจะเป็นขยับไม่ได้มากกว่าเพราะผลของอาคมที่กำลังทำงานได้ตรึงขาของทุกคนเอาไว้ด้วย

                ข้าวหลามตอบโต้มาด้วยน้ำเสียงสบายๆ

                “แหมๆ แต่ถ้ามาถึงแล้วเจอบอสเลยมันก็ง่ายไปเนอะ

                พลางยิ้มอย่างสนุกสนานมองดูพวกเขาทำอะไรไม่ได้

                เวลาที่ข้าวหลามให้มาเหลืออีกหกวินาที ถ้าฝ่ายนั้นใช้เดม่อนสกิลก็แปลว่าเป็นสกิลของปีศาจจากแอพพลิเคชั่นซึ่งน่าจะมีหลักการคล้ายกับสกิลในเกมอยู่แล้วถ้างั้นก็ต้องจัดการกับจุดควบคุมอาคมให้ได้ซักจุดก่อน

                “เทคนิคัลเวพ่อน!

                อิงศรเปลี่ยนธนูเป็นหน้าไม้แล้วมองหาอย่างรวดเร็วในเวลาที่เหลือแค่สามวินาทีพอเจอจุดควบคุมหนึ่งซึ่งเป็นวงเวทอักขระเขียนด้วยภาษาสันสกฤตวาดอยู่บนพื้นก็ยิงไปตรงนั้นทันที

                แต่ลูกดอกกลับถูกปัดออกโดยอาวุธที่มีรูปร่างเหมือนทวน

                มีเงาของคนเข้ามาบังวงเวทเอาไว้

                พอลองมองดูดีๆ แล้วก็มีอีกสามจุดที่มีคนคุ้มหันวงเวทประจำอยู่ตามทิศต่างๆ รอบข่ายอาคมรวมเป็นสี่คนพอดี

                “สอง หนึ่ง ศูนย์ เอ้าหมดเวลาขอให้สนุกกับอารย-สนธยาแลนด์นะแขกทุกท่าน

                ข้าวหลามพูด

                หมายความว่าอาคมทำงานเสร็จสิ้นแล้ว

                มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่...อิงศรคิดแล้วยิ่งกุมมือมิ่งขวัญแน่นขึ้นจิตใต้สำนึกสั่งให้ทำอย่างนั้น

                เขาไม่อยากจะแยกจากมิ่งขวัญอีกแล้วแต่อาคมก็แผดแสงแรงกล้าจนตาพร่ามัวแทบมองไม่เห็นอะไรอีก

                รอบข้างเองก็เริ่มส่งเสียงเอะอะกันแล้ว

                “นี่มันจะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย

                เสียงของกวินทร์

                “แบเรียม!!

                “ขอรับท่านพี่

                เสียงของมนุษย์ต่างดาวที่หน้าเหมือนเข้ากับมิ่งขวัญ

                จากนั้นท่ามกลางแสงที่เจิดจ้าก็รู้สึกเหมือนถูกมือของใครซักคนเข้ามาคว้าแขนข้างที่ถือหน้าไม้เอาไว้

                แล้วสติรับรู้ของอิงศรก็ขาดหายไปตรงนั้น

     

                ...

     

                เย็น...

                รู้สึกเย็นและเปียกตั้งแต่ข้างหลังขึ้นมาถึงช่วงอก

                อิงศรปรือตาขึ้นเขาอยู่ท่ามกลางความมืดมิดทั้งเย็นทั้งอับชื้น

                รู้สึกได้ว่าเสื้อผ้าเปียกแฉะเหมือนแช่อยู่ในน้ำพอสายตาชินกับความมืดก็เริ่มมองเห็นผนังโค้งที่เต็มไปด้วยตะไคร่ ทางน้ำขนาดใหญ่ที่น้ำตื้นแค่ข้อเท้า ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นอุโมงค์ระบายน้ำหรืออะไรอย่างนั้น

                อิงศรนอนแช่อยู่ในน้ำโดยที่หัวพิงกับผนังทางขวายังคงมีคนจับมือเขาอยู่พอหันไปก็เห็นว่าเป็นมิ่งขวัญ

                น้องชายจับมือเขาไว้แน่นทั้งที่ยังไม่ได้สติ

                “เอาเถอะก็ยังดีล่ะนะที่นายยังอยู่

                อิงศรผุดยิ้มด้วยความโล่งอกแล้วชันร่างกายขึ้นเพื่อจะตรวจสอบสถานที่ให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยปลุกมิ่งขวัญ

                แต่สถานการณ์กลับวิกฤตขึ้นมาอย่างกะทันหัน...

                จากทางฝั่งที่มิ่งขวัญนอนอยู่นั้นเขามองเห็นแสงสะท้อนสีแดงสองดวงเหมือนเป็นดวงตากำลังจดจ้องมาทางนี้แล้วทันทีที่สบตากับสิ่งนั้นมันก็พุ่งเข้ามาหาอ้าปากกว้างจากนั้น...

                “ขวัญ!!

                อิงศรดึงแขนหมายจะลากตัวน้องชายที่ยังไม่ได้สติขึ้นมาแต่ก็สายเกินไปมิ่งขวัญถูกปากนั่นเขมือบเข้าไปพอถูกดึงจากฝั่งนั้นก็ทำให้มือที่กำแขนเขาไว้คลายหลุดออก

                มิ่งขวัญถูกกลืนเข้าไปทั้งตัวแล้ว

                “บัดซบ!

                อิงศรสบถแล้วเล็งหน้าไม้ใส่เจ้าตัวปริศนานั่นลั่นไกยิงโดยไม่ลังเลแต่ลูกดอกโลหะก็พุ่งไปกระทบถูกผิวที่หนาของมันแล้วกระเด็นออก

                ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้สกิล

                “ชิ! ถ้างั้นก็...จงสถิตในคันศรข้าบัพแอโร่ว!

                มหิงสาเพลิงพุ่งจากหน้าไม้เข้าไปชนปากยักษ์นั่นในระยะประชิดอิงศรหวังให้มหิงสาเพลิงขวิดงัดปากนั้นจนคายมิ่งขวัญออกมาแต่กลับไม่เป็นแบบนั้น

                เจ้านั่นกลืนมิ่งขวัญลงคอไปแล้วสะบัดหัวอัดใส่ลำตัวของมหิงสาเพลิงจนดับสลายไปอย่างง่ายดายก่อนจะหันมางาบอิงศรเป็นรายต่อไป

                ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอยไปตั้งหลักก่อนในระยะประชิดตัวขนาดนี้ถึงมีพลังของเกมก็ยังเสียเปรียบยิ่งไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นตัวอะไรแล้วด้วย

                สัตว์เทวะหรือปีศาจไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งเพราะรูปร่างที่ยามเหมือนกับงูของมันเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเรือนลางท่ามกลางความมืดของสถานที่ๆน่าจะเป็นทางน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ตรงไหนซักแห่งของอารย-สนธยาบางทีอาคมที่พวกเขาโดนไปก่อนจะลงมาที่นี่คงจะเป็นอาคมเคลื่อนย้าย

                สาเหตุที่ส่งแต่ปีศาจลูกกระจ๊อกออกมาตั้งรับตอนนั้นก็คงเพื่อจะถ่วงเวลาให้พวกเขามารวมกันครบเสียก่อนค่อยใช้อาคามส่งให้กระจัดกระจายกันออกไปตามที่ต่างๆ จะได้ประหยัดกำลังรบไปในตัวอย่างนั้นสินะ

                อิงศรประเมินสถานการณ์ไปด้วยระหว่างที่วิ่งหนี

                งูยักษ์ยังคงไล่ล่าตามมาอย่างไม่ลดละ ได้ยินเสียงรวมถึงสัมผัสลมหายใจที่มันพ่นออกมารดถึงต้นคอหากยังวิ่งต่อไปด้วยความเร็วแค่นี้คงจะหนีไม่พ้นอิงศรจึงเริ่มมองหาเส้นทางที่หลบหักออกไป

                แต่มันไม่มี...

                ที่นี่เป็นทางใต้ดินซึ่งทอดยาวเป็นทางตรงไม่มีแยกให้เลี้ยวเลยแม้แต่แยกเดียว

                ตอนที่เกือบจะตัดใจเรื่องหนีแล้วหันกลับไปสู้ตายอยู่แล้วนั่นเองสายตาก็เหลือบไปเห็นหลืบมุมที่เกิดจากเสาค้ำเพดานสองต้นเว้นระยะห่างกันแค่พอให้คนตัวผอมเข้าไปหลบได้

                อิงศรมุดเข้าไปในหลืบนั่นทันทีมันแต่แคบมาก แคบจนแทรกตัวผ่านเข้าไปแล้วก็ยังติดตรงหน้าไม้ดังนั้นจึงปล่อยมันทิ้งแล้วอัดตัวเข้าไปข้างในจนมิด

                ดูเหมือนว่างูยักษ์จะมองไม่เห็นและเลื้อยผ่านไปโดยไม่รู้ตัว

                หลังจากรอจนแน่ใจแล้วว่ามันไม่ได้วกกลับมาเด็กหนุ่มก็ดึงตัวออกมาจากซอกแล้วเก็บหน้าไม้ที่ทำตกไว้ขึ้นมาพลางคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์

                ศัตรูโจมตีปกติไม่ได้ผลแถมยังมีพละกำลังขนาดต้านทานมหิงสาเพลิงที่เป็นสกิลยื้อเวลาที่ดีที่สุดจะใช้ 'มหาเขตแดนไกลพ์นิล' ที่นี่ก็คับแคบเกินกว่าจะกางเขตอาคมได้

                ส่วนแอพพลิเคชั่นปีศาจที่มีตอนนี้อย่างโอดินก็ไม่ยอมฟังคำสั่งแล้วอาคานาร์ใบอื่นนอกจากเดอะแฮงค์แมนของโอดินแล้วก็มีเดอะเอมเพอเรอร์ที่ใช้เรียกปีศาจออกมา เดอะเทมเพอแรนซ์ที่ใช้รวมร่างปีศาจกับเดอะแชริออทที่ยังใช้งานไม่ได้ส่วนอาคานาร์ใหม่สองใบที่ได้มาอย่างเดอะทาวเวอร์กับเดอะจัดจ์เมนท์นั้นยังไม่เคยใช้งานจริง

                "ถ้างั้นก็ใช้มันตอนนี้นี่แหละ"

                อิงศรนึกถึงรายละเอียดพลังของอาคานาร์ที่รับรู้มาตอนที่จับมันแล้วก็คิดจะลองใช้เดอะทาวเวอร์ที่อนุญาตให้เอาสกิลของปีศาจที่ครอบครองออกมาใช้ด้วยตัวเองได้

                "อาคานาร์ฟอ..."

                แต่พอคิดจะเรียกอาคานาร์ออกมาสัมผัสอันว่องไวก็จับได้เสียก่อนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเพ่งจิตมุ่งร้ายมาที่นี่พอหันไปมอง

                "เหวอ!"

                อิงศรร้องเสียงหลงเมื่อปากของงูเคลื่อนเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

                โดยที่ไม่ทันรู้ตัวปากก็เคลื่อนเข้ามาถึงตัวเขาแล้วด้วยความที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกทำให้เคบื่อนไหวสะเปะสะปะจนเท้าลื่นเสียหลักล้มหลังกระแทกพื้น

                แต่นั่นก็ทำให้เขารอดมาได้...

                ปากของงูลอยข้ามตัวเขาไปอีกฝั่ง

                เขาพลาดไปที่เผลอตกใจ

                แต่ก็ทำให้มันพลาดโอกาสที่จะปิดเกมด้วยเช่นกัน

                ไม่รู้ว่าจะโชคดีแบบนี้ได้อีกรึเปล่าแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาลังเลเรื่องจะใช้อะไรแล้ว

                อิงศรที่คิดแบบนั้นก็กลิ้งตัวลอดผ่านลำตัวของงูที่บินตามปากที่พุ่งไปยังอีกฟาก

                เมื่อกลิ้งไปได้ระยะหนึ่งเขาก็พลิกตัวที่เปียกโชกไปด้วยน้ำขึ้นมาเผชิญหน้ากับมัน เล็งหน้าไม้ที่ชักคันขึ้นลูกศรแล้ว...

                "โอดิน!"

                สั่งให้แอพพลิเคชั่นปีศาจทำงานแน่นอนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                "ปัดโธ่เอ้ย นี่จะถือทิฐิกันไปถึงไหนล่ะเนี่ย"

                อิงศรเลิกล้มความคิดที่จะใช้โอดินตรงๆ เขาเรียกอาคานาร์เดอะทาวเวอร์ออกมาแทน

                "อาคานาร์ฟอร์ซ!"

                ไพ่เดอะทาวเวอร์ตกลงมาเขากำมันไว้ด้วยมือซ้ายบีบจนแตกเพื่อให้มันทำงาน

                ไพ่แตกกระจายเป็นเศษละอองแล้วหายไปพร้อมกับเปิดหน้าจอหนึ่งขึ้นมา

                บนนั้นเขียนชื่อของสกิลที่น่าจะมาจากแอพฯของโอดิน

     

                [Lord of thunder god:

                สร้างความเสียหายรุนแรงและทำลายความทนทานของอาวุธเป้าหมาย(หากมี)]

     

                มีปุ่มที่เขียนว่า 'Use' อยู่ใต้หน้าจอนั้นน่าจะเป็นปุ่มสั่งใช้สกิล

                อิงศรเล็งหน้าไม้ไปที่งูซึ่งกำลังกลับตัวหันมาทางนี้เขาต้องเล็งที่หัวเพื่อไม่ให้โดนมิ่งขวัญที่ยังอยู่ในท้องของมัน

                เมื่อเป้าเล็งนิ่งแล้ว...

                "เอานี่ไปกิน!"

                อิงศรก็กดปุ่มบนหน้าจอ

                ปัง!! เสียงดังเหมือนปืนแต่สิ่งที่พุ่งออกจากหน้าไม้คือมวลคลื่นของสายฟ้าที่เห็นเป็นแสงสีทองแล่นแปลบปลาบ

                ทำได้จริงแล้วเขาสามารถใช้สกิลของปีศาจที่ครอบครองได้จริง

                แต่แรงปะทะของพลังอันมหาศาลที่ปีศาจใช้ก็ย้อนกลับมาด้วยในรูปของแรงกระแทกที่เกิดขึ้นตอนยิงส่งให้ร่างของเด็กหนุ่มลอยกระเด็นไปข้างหลังไกลหลายเมตร

                อิงศรร่วงลงมากระแทกกับพื้นจนน้ำสาดกระจายไปทั่วแรงปะทะนั่นทำให้บาดเจ็บจนพลังชีวิตลดลง

     

    อิงศร Lv. 70

    [/////7300:7320////.]

     

                "อีก"

                เขาครางเพราะความเจ็บปวดแต่ไม่ใช่แค่นั้นร่างกายยังรู้สึกชาไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนกับถูกดูดแรงออกไปจากร่างกายจนลุกแทบไม่ไหวบางทีคงจะเป็นผลข้างเคียงจากการใช้สกิลของปีศาจซึ่งทรงพลังกว่าที่มนุษย์จะใช้เองทำให้มันดึงพลังกายไปใช้ในจำนวนมากกว่าปกติ

                เกมโลกาวินาศไม่มีระบบ MP หรือค่าพลังสำหรับการใช้สกิล สิ่งที่ต้องจ่ายให้กับมันนั้นจะเป็นพลังกายที่ไม่มีตัวเลขระบุชัดเจนขึ้นกับความอึดของแต่ละคนว่าจะมีมากหรือน้อยขนาดไหนและในบางทีสายอาชีพก็มีผลกับค่าพลังนี้ด้วยเหมือนกัน

                อิงศรนอนหงายแอ้งแม้งอยู่อย่างนั้นขณะเดียวกันการโจมตีก็พุ่งเข้าเป้าอย่างจังเกิดเสียงระเบิดดังเปรี้ยงปร้างเหมือนฟ้าผ่าสะท้อนกึกก้องไปทั้งอุโมงค์

                พอชันร่างกายขึ้นเพื่อจะดูผลลัพธ์ซึ่งก็ทำได้ยกหัวขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

                ภาพที่คาดหวังว่าหัวของงูน่าจะถูกเป่าประเด็นไปแล้วกลับกลายเป็นว่าหัวของมันยังอยู่ดีแถมสายฟ้ายังเหมือนกับถูกดูดกลืนเข้าไป

                แสงจากสายฟ้าทำให้มองเห็นรูปร่างของมันที่เคยซ่อนอยู่ในความมืด

                งูตัวใหญ่เหมือนพญานาคเกล็ดสีฟ้าครามมีหงอนเป็นเดือยสีแดงเหมือนไก่และมีปีกนกติดอยู่บนหลังคู่หนึ่งมันกางปีกที่หุบไว้แล้วดูดเอาสายฟ้าเข้าไปทางนั้น

                อะไรอีกวะเนี่ย

                อิงศรสบถและพยายามดึงตัวเองให้ลุกขึ้นมาแต่แขนขาก็สั่นไปหมด

                แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงพูดดังมาเป็นเสียงยานคางเหมือนคนพูดไม่เก่งหรือไม่ก็อาจจะไม่ใช่คน

                เป็นสายฟ้าที่ดีนะถ้าเป็นคนอื่นคงจะไหม้เป็นจุลไปแล้วน่าเสียดายที่ข้าคือ เกวตซัลโกอัตล์ (Quetzalcoatl) ราชาแห่งนภาสายฟ้าและสายลมคือสิ่งกระตุ้นที่เป็นพลังให้แก่ข้าเจ้าหนูผู้ถูกฟันเฟืองเลือกเจ้าชะตาขาดเสียแล้วล่ะ

                ระหว่างที่มันพล่ามอยู่นั้นอิงศรก็ยืนขึ้นสำเร็จโดยที่พิงมือค้ำกับผนังอุโมงค์เอาไว้ส่วนขายังคงสั่นพับๆ จึงยังก้าวเท้าวิ่งในทันทีไม่ได้ แต่งูยักษ์ที่ดูดสายฟ้าเข้าไปและเหมือนจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นก็ง้างคมเขี้ยวเล็งมาทางนี้แล้ว

                คงจะต้องตายที่นี่แล้วอย่างนั้นหรือ?

                ไม่สิบางทีถ้าปล่อยให้มันกลืนเข้าไปก็จะไปหามิ่งขวัญที่อยู่ข้างในได้แบบนั้นก็จะโจมตีมันจากด้านในได้ด้วยแต่ก็มีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นแบบนั้นหากว่าถูกเคี้ยวขึ้นมาคงไม่รอดแน่
                ระหว่างที่คิดอย่างลนลานในวินาทีเป็นตายอยู่นั่นเอง...

                เกิดเสียงดังฉับเหมือนกระดาษถูกตัดขาดจากนั้นคอของงูก็ลอยเคว้งพุ่งตรงมาทางนี้

                อิงศรหมอบลงเพื่อหลบหัวที่กระเด็นมา

                แล้วมองกลับไปยังจุดที่ลำตัวของงูยังอยู่

                ตรงนั้นเงาของมิ่งขวัญกระโดดออกมาจากลำตัวของงูที่ขาด

                ในมือก็ถือดาบแบบเรเปียเอาไว้บางทีคงจะใช้มันผ่าท้องงูแล้วหนีออกมา

                แต่ก็ผ่าได้รุนแรงเสียจนร่างของงูขาดเป็นสองท่อน

                อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่ายินดีที่มิ่งขวัญยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ได้ตายเพราะถูกงูกินเข้าไป

                ขวัญ

                อิงศรส่งเสียงเรียกใบหน้าเต็มไปด้วยความปิติยินดีก่อนที่จะได้ยินเสียงบ่นพึมพำจากมิ่งขวัญที่อยู่ตรงนั้น

                ตื่นมาก็อยู่ที่ไหนไม่รู้มีแต่น้ำเหนียวเหนอะหนะเต็มไปหมดพอลองผ่าดูก็ออกมาจ๊ะเอ๋คุณซะงั้นแหน่ะขอรับ

                มิ่งขวัญใช้คำพูดแปลกๆ

                พอลองจ้องมองดูดีๆ แล้วเหมือนจะเห็นแสงสะท้อนจากเส้นผมเป็นสีเงิน

                นั่นแก...แบเรียมงั้นเรอะ

                อื้อแล้วคิดว่าผมเป็นมิ่งขวัญหรือไง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×