ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #54 : Login 52: ช่วงเวลาแห่ง Eden Fall

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 856
      49
      23 พ.ย. 59

    Login 52: ช่วงเวลาแห่ง Eden Fall

     

                มิ่งขวัญถูกซ้อมจนหมดสภาพใบหน้าข้างซ้ายปูดบวมเล็กน้อย มีคราบเลือดกลบที่ริมฝีปาก จากนั้นก็ถูกลิเธียมจับทิ้งลงบนพื้น

                สถานที่คือห้องวิจัยของรูบิเดียม

                “มิ่งขวัญ

                รูบิเดียมเรียก

                มิ่งขวัญพยายามแหงนหน้าที่ฟุบกับพื้นมองขึ้นไปและพบว่าราชครูสาวผู้มีผมสีทองยาวสลวยกับสวมแว่นกันแดดกรอบหนาสีดำยืนอยู่ตรงนั้น

                “หยุดอาละวาดซักทีสินะ

                หล่อนก้มตัวลงสวมปลอกคอติดระเบิดอันใหม่ให้ที่คอ มันจะทำงานทันทีที่คิดหนี เท่านี้เขาก็กลับมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเธออีกครั้ง

                มิ่งขวัญเบิกตาที่ถูกซัดจนปูดบวมเพื่อให้มองหน้าของรูบิเดียมได้ชัดๆ จากนั้นก็นึกขึ้นได้

                นึกถึงอิงศรที่ถูกฆ่าตายต่อหน้าแล้วความโกรธก็พุ่งพล่านรู้สึกเหมือนร่างกายจะลุกเป็นไฟได้ เด็กหนุ่มขบกรามเสียงดังกรอด

                รูบิเดียมที่เห็นใบหน้าเคียดแค้นเข้าก็ปรายยิ้มออก จากนั้นหล่อนก็ลุกขึ้น

                “โกรธอยู่เหรอ

                แล้วพูดอย่างนั้น

                “ช่าย~ โกรธจังเลยล่ะพี่ชายผมถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเลยนะแงๆๆ

                น้ำเสียงสนุกสนานดังมาจากทางด้านหลังของมิ่งขวัญแต่ถึงไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ได้ว่านั่นคือ ราชครูลำดับที่สี่โพแทสเซียมอย่างไม่ต้องสงสัย

                “พูดด้วยนะว่าผมไม่มีเหตุผลจะต้องอยู่อีกต่อไปแล้วขอตายซะดีกว่า

                โพแทสเซียมยังคงพูดต่อไปอย่างนึกสนุกซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ว่ามาจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ยืดยาวขนาดนั้น

                ”ห้ามแทบแย่แน่ะถึงกับต้องให้ซุงลี่ลงไม้ลงมือเลยเพราะงั้นก็ควรจะเล่าให้พวกเราฟังได้แล้วนะว่าตกลงแล้วเบื้องบนน่ะเขาคิดจะทำอะไรกันแน่

                รูบิเดียมหรี่ตามองโพแทสเซียมซึ่งทำท่ากระตือรือร้นขึ้นมา

                “แกน่ะเป็นคนยุให้เจ้าโซเดียมมันทำลายห้องเครื่องจนไฟดับเพราะแบบนั้นมิ่งขวัญถึงหนีไปไม่ใช่รึไง

                “เย้ย~~ รู้ได้งายอ่ะ

                โพแทสเซียมร้องพร้อมกับก้าวถอยหลังไปสองก้าว

                “ไปค้นมาหมดแล้วล่ะย่ะรวมถึงเรื่องที่ยัยนั่นเคยฆ่าอิงศรตายไปครั้งหนึ่งตอนที่ไปจัดการกับเศษซากเมอร์คาบาห์ที่สถานวิจัยของอารย-สนธยาด้วย

                “กึ๋ย แต่ว่านะผมแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง ถ้าไฟดับล่ะก็คงแย่เลยเนอะ ถ้าซุงมิ่งหนีไปได้ล่ะก็จะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่เลยเนอะ อะไรแบบเนี้ยแค่พูดไปเรื่อยเท่านั้นเอ...

                ไม่ทันขาดคำลูกเตะของรูบิเดียมก็หวดเข้ามาสะบั้นคำแก้ตัวของโพแทสเซียมจนต้องเอนหลังแทบหงายท้องเพื่อหลบแต่ก็ยังเฉี่ยวถูกปลายผมจนขาดร่วงไปเล็กน้อย เป็นลูกเตะที่คมถึงขนาดนั้น

                “อย่ามาเล่นลิ้นนะจะฆ่าคนอย่างแกให้ตายน่ะไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับฉันเลยด้วยซ้ำ

                คำขู่ของรูบิเดียมเป็นความจริงหล่อนมีพลังในระดับที่ถึงจะห่างกันแค่ขั้นเดียวระหว่างราชครูลำดับที่ 3 กับ 4 แต่ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ระยะของความแตกต่างที่ว่าก็จะมีมากตามไปด้วย ดังนั้นโพแทสเซียมที่ยังยิ้มหน้าแป้นได้กระทั่งตอนนี้ก็จะถูกเธอขยี้ทิ้งอย่างง่ายดาย

                “แต่ก็ไม่ทำใช่ไหมล่ะ ไม่สิทำไม่ได้ต่างหากเพราะถ้าขืนฆ่าพวกผมซะที่นี่ตอนนี้มีหวังความแตกรู้ไปถึงเบื้องบนแหงแซะ

                โพแทสเซียมกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ

                แววตาใต้กรอบแว่นของรูบิเดียมฉายแววแห่งความลังเลอยู่ จากนั้นหล่อนก็มองลงไปที่มิ่งขวัญ ก่อนจะถอนหายใจ

                “ถือซะว่าให้นายรับรู้ไว้คงจะดีกว่าล่ะมั้งมิ่งขวัญจะได้เข้าใจด้วยว่าอย่าหนีไปจากฉันอีก

                รูบิเดียมกล่าวแล้วเรียกหน้าจอคลัง หยิบขวดบรรจุสารรักษาออกมาขวดหนึ่งก่อนจะก้มลงป้อมให้มิ่งขวัญกับปาก อึดใจต่อมาพลังชีวิตก็ฟื้นฟูจนเต็ม บาดแผลก็ถูกเยียวยาจนหายเป็นปลิดทิ้ง

     

    มิ่งขวัญ Lv. 90

    [/////16000:16000/////]

     

                “เอ้า ลุกสิมิ่งขวัญ

                รูบิเดียมพูด

                ชั่งใจอยู่พักหนึ่งมิ่งขวัญก็ตัดสินใจลุกตามที่สั่งและในทันทีที่ลุกขึ้นยืน...

                สวบ!

                มือของรูบิเดียมก็แทงทะลุอกซ้ายเข้ามาก่อนจะกระฉากออก รู้สึกเหมือนถูกดึงอะไรบางอย่างข้างในร่างกายออกไปด้วย พอมองดูดีๆ แล้วก้อนเนื้อสีแดงที่อาบชุ่มไปด้วยเลือดซึ่งอยู่ในมือเธอก็คือหัวใจของเขานั่นเอง

     

    มิ่งขวัญ Lv. 90

    [.....0:16000.....]

     

                พลังชีวิตลดเป็นศูนย์ในพริบตา มิ่งขวัญล้มหงายลงไปทั้งท่ายืน

                หายใจไม่ออก

                รู้สึกทรมาน

                รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังจะตาย

                แต่ทว่า...

                “เอ้าลุกขึ้นมาสิมิ่งขวัญอย่าทำสำออยเลยความเจ็บปวดแค่นั้นถ้าเป็นลูกผู้ชายคงยืนไหวอยู่แล้วใช่ไหม

                รูบิเดียมกลับพูดแบบนั้นทั้งที่ควักหัวใจไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่อาจทำให้ตายได้ จะว่าหล่อนไม่รู้เรื่องสำคัญนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ดังนั้น...

                มิ่งขวัญจึงพยายามลุก

                พยายามเป็นอย่างมากจนกระทั่งอาเจียนเป็นเลือด ทรมานอย่างแสนสาหัสราวกับกำลังปีนยอดเขาที่สูงจนอากาศเบาบางจนหายใจไม่ออก แต่เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นมาได้ทั้งที่พลังชีวิตเป็นศูนย์

                เขาไม่ตาย...

                รูบิเดียมยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า

                ”ทั้งนายทั้งอิงศรจะไม่มีวันจะได้ตายอย่างคนธรรมดาๆ อยู่แล้วเพราะฟันเฟืองอันน่ารังเกียจนั่นจะพยายามยื้อชีวิตของพวกนายเอาไว้อย่างเต็มที่

                “นี่..นี่มัน...อุ่ก...

                มิ่งขวัญสำรอก มีเลือดปนออกมากับอาเจียนจากนั้นก็เริ่มรู้สึกคันที่บริเวณหลัง

                รู้สึกคันเป็นอย่างมาก แล้วจากความคันก็กลายเป็นความเจ็บปวด

                “อุ่ก...อ๊ากก!!

                มิ่งขวัญกรีดร้อง อะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวขยุกขยิกอยู่ใต้ผิวหนังตรงบริเวณกระดูกสันหลัง จากนั้นเนื้อในบริเวณที่ว่าก็เริ่มปูดตัวไม่หยุดจนกระทั่งแหวกเนื้อและฉีกเสื้อผ้าออกมา

                “อ๊ากกกก!!!!

                นอกจากเสียงกรีดร้องก็มีเสียง เอี้ยดอ้าดเหมือนฟันเฟืองกำลังหมุนดังปนกันมาด้วย

                มิ่งขวัญพยายามหุบปากตัวเอง ทนกัดฟันสู้กับความเจ็บปวดทรมานเพื่อหันกลับไปมองข้างหลังและพบว่ามีฟันเฟืองสีขาวซีดเหมือนกระดูกงอกออกมา

                ฟันเฟืองกำลังหมุนไปอย่างเชื่องช้า

                สายตาของราชครูทั้งสามจับจ้องอยู่ที่เฟืองบนหลังของมิ่งขวัญ

                แล้วลิเธียมก็โพล่งออกมาเบาๆ

                “เฟืองนั่น...เหมือนกับตอนนั้นเลย

                เขายังคงจำเหตุการณ์ก่อนที่สัตว์ประหลาดยักษ์ซึ่งออกมาจากอุกกาบาตจะอาละวาดได้เป็นอย่างดีและตอนนั้นบนหลังของอิงศรก็ปรากฏฟันเฟืองขึ้นมาแบบนี้ด้วย

                “เอิ่ม จะช่วยอธิบายให้ได้ไหมเนี่ยซุงลี่

                โพแทสเซียมยิ้มพลางหรี่ตาที่หยีกันอยู่แล้วให้แคบลงไปอีก พลางจ้องมองเฟืองบนหลังของมิ่งขวัญไม่วางตา

                แล้วก็ทุบมือตัวเองเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

                “จริงด้วยสิตอนที่ไปรับตัวซุงมิ่งเมื่อสามปีก่อนก็มีโผล่ออกมาด้วยนี่นะเจ้าเฟืองสีขาวนี่น่ะจำไม่ผิดเป็นตอนที่ซุงรูรู่เปิดเผยตัวต่อหน้าซุงมิ่งเขาสินะ แต่เจ้าเฟืองนี่ดูเหมือนจะใหญ่กว่าตอนนั้นเยอะเลยน้า~”

                มิ่งขวัญหันกลับมาจ้องหน้ารูบิเดียมพลางส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

                ฟันเฟืองนี่คืออะไร

                ทำไมพลังชีวิตหมดแล้วถึงยังไม่ตายอีก

                ทำไมเขาถึงเป็นแบบเดียวกับอิงศรผู้เป็นพี่ชายด้วย

                แล้วรูบิเดียมก็เริ่มตอบคำถามทั้งหมดนั่นโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากถาม

                “ยังจำรายละเอียดการอัพเดทของเกมครั้งล่าสุดได้รึเปล่า เครื่องทำสวนทั้งสิบสองรอเวลาที่จะถอนรากวัชพืชอยู่แต่ก็ถูกซาตานขโมยฟันเฟืองอันแสนสำคัญไป นายกับอิงศรน่ะถูกเลือกโดยฟันเฟืองที่ใช้ควบคุมเครื่องมือสำหรับจัดการสวนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาแต่ถึงจะบอกว่าถูกเลือกความจริงแล้วพวกนายสองคนก็แค่ไปอยู่ในสถานที่ที่เฟืองตกลงไปเท่านั้นแหละนะจะเรียกว่าบังเอิญก็ได้ ส่วนเวลาก็ตอนที่เกิด อีเด็นฟอล’ ”

                จากนั้นรูบิเดียมก็เดินไปที่คอมพิวเตอร์แล้วเปิดคลิปวิดีโอให้ดู ภาพในวิดีโอคือวันนั้น

                วันแรกที่โลกล่มสลาย สัตว์เทวะขนาดยักษ์ที่บุกโจมตีเมืองหลังจากอุกกาบาตตกลงมา สัตว์เทวะรูปร่างคล้ายมังกรมีเจ็ดหัวกับสิบเขา ในเวลานั้นเขากับอิงศรน่าจะยืนอยู่ในชั้นสองของห้างสรรพสินค้าแถวนั้น

                รูบิเดียมเริ่มพูด

                “ ’อีเด็นฟอลก็คือการร่วงหล่นของสวนศักดิ์สิทธิ์ ดาวแม่ที่พวกเราจากมาคือสวนแห่งแรกซึ่งถูกเรียกว่า อีเด็นและสวนแห่งที่สองก็คือดาวโลกที่พวกนายอาศัยอยู่ พระเจ้าได้ตัดสินใจทอดทิ้งพวกเราแล้วส่งเครื่องทำสวนทั้งสิบสองลงมาเก็บกวาดสวนแห่งแรกแต่พวกเราก็หนีออกมาก่อนจะเป็นแบบนั้นแล้วมุ่งหน้ามาที่โลกนี้

                ถึงตรงนี้เองวิดีโอก็ฉายไปที่ชื่อของสัตว์เทวะตัวนั้น

     

    Satan Lv. 666

    [/////???:???/////]

     

                เมื่อมาถึงตรงนี้มิ่งขวัญก็เริ่มจะเข้าใจแล้วเพราะข้อความที่เขียนเหมือนกับเป็นคำทำนายซึ่งอยู่ในแพทซ์อัพเดทของเกมก็แทบจะตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                รูบิเดียมพูด...

                “อย่างที่เห็นนั่นคือซาตานที่ขโมยเฟืองไปพวกเราก็เลยไปเอามา แต่เฟืองกลับตกไปที่พวกนายพี่น้องแทนเพราะงั้นฉันถึงต้องไปพาพวกนายมายังไงล่ะ

                มิ่งขวัญที่ได้ยินเรื่องนั้นก็นึกออกทันที

                นึกออกถึงตอนที่ซาตานถูกโค่น ตอนนั้นกระจกหน้าต่างบานที่พวกเขาพี่น้องยืนดูกันอยู่ได้แตกออกแล้วก็รู้สึกเหมือนจะถูกเศษกระจกบาดใส่หลังแต่กลับไม่มีร่องรอย บางทีคงเป็นตอนนั้นที่ฟันเฟืองแทรกตัวเข้าไปในร่างกายของพวกเขา

                “เพราะงั้นก็เลยฆ่าฟู ฆ่ามิกซ์ ฆ่าพลอย แล้วก็ฆ่าทุกๆ คนเพื่อจะพาตัวพวกเราที่มีไอ้เฟืองบ้านี่มาอย่างนั้นน่ะเหรอ

                มิ่งขวัญตะหวาด ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นอีก เพราะเหตุผลที่เห็นแก่ได้ของพวกมนุษย์ต่างดาวพวกพ้องที่เป็นเหมือนครอบครัวถึงกับต้องถูกฆ่า

                แต่รูบิเดียมก็แย้งคำกล่าวหานั้น

                “ครึ่งหนึ่งแหละนะ แต่อีกครึ่งที่เหลือก็เป็นเหตุผลที่จะต้องเก็บกวาด เพราะว่าเด็กพวกนั้นเป็นเศษซากของเมอร์คาบาห์น่ะ

                มิ่งขวัญเลิกคิ้วขึ้น

                “เมอร์คาบาห์? อะไรกันน่ะนั่น

                “ก็สาเหตุที่ทำให้เกิดการร่วงหล่นของสวนศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ เพราะชาวโลกไปแตะต้องเรื่องที่ไม่ควรยุ่งเข้าทำให้แม้แต่สวนแห่งนี้เองก็พลอยต้องพินาศ ถึงต้องสร้าง เธียเตอร์ขึ้นมาควบคุมความประพฤติชาวโลกให้แสดงละครต่อว่าพวกเขายังไม่ได้ละทิ้งความตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไปเพราะถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่ดาวดวงนี้ก็จะพบกับจุดจบทันที

                “แล้วไอ้ความตั้งใจนี่มันเรื่องอะไรกัน

                “ก็เพราะชาวโลกคิดจะหยุดก้าวเดินถึงได้สร้างเมอร์คาบาห์ขึ้นมาไงเล่า

                “…”

                มิ่งขวัญเงียบไปพักหนึ่งเพราะต้องทำความเข้าใจสิ่งที่รับฟังมา แต่เนื้อหามันเหลือจะกล่าวเต็มที เรื่องที่พูดกันอยู่นี่เหมือนเป็นนิทานปรัมปรามากกว่าจะเป็นความจริง

                ในตอนนั้นเองโพแทสเซียมก็...

                “เอ้อ เรื่องดาวแม่เราแตกจนต้องย้ายมาที่นี่เนี่ยมันของรู้กันอยู่แล้วอ่ะนะแต่ที่อยากฟังมากกว่าก็คือทำไมถึงได้รวบรวมพวกซุงมิ่งที่มีฟันเฟืองมาต่างหาก

                พูดแทรกเข้ามาตัดบทสนทนา

                รูบิเดียมตอบคำถามนั้นอย่างง่ายดาย

                “ก็เพื่อกอบกู้ดาวโลกแห่งนี้ยังไงล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×