คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #290 : Extra Log 286: Grand God Beast 5
Extra
Log 286: Grand God Beast 5
ที่เขตแดนทะเลทราย
ทีมของเมษาที่อยู่ในระหว่างค้นหาเสาส่งพลังงานหลังจากที่จัดการมหาเทพสัตว์เทวะเบฮีมอทลงแล้ว
พวกเขาค้นหากันอย่างถี่ถ้วนเพราะว่าไม่มีตัวจัดขวางอยู่ที่นี่อีกแล้วทั้งที่คิดแบบนั้น
…แต่ทว่า
จู่ๆ
ทรายก็พูนตัวขึ้นมาแล้วกลายเป็นเบฮีมอท
แต่นั่นยังไม่แย่เท่ากับจำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นห้าตัว
”ฝันร้ายชัดๆ”
เมษาจ้องมองด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
จ้องมองเจ้าสิ่งมหึมาที่ผุดขึ้นมาสร้างเงาบดบังแสงตะวันได้เกือบจะมิดทั้งทะเลทราย
พวกเขาที่มีกันตั้งเป็นร้อยพอเทียบกับสัตว์เทวะที่มีแค่ห้าแล้วพวกเขายังกลายเป็นแค่มดปลวกไปเลย
“ชิ เจ้าพวกนี้มันยังไงกันนะ”
เมษาสบถ
สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอย่างมาก
“เสาพลังงานก็อยู่ตรงหน้านี่แล้วแท้ๆ”
เสาส่งพลังงานที่เป็นเป้าหมายถูกค้นพบอยู่ในจุดที่พื้นลาดเอียงลงไปเป็นแอ่งกระทะซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพวกเขาที่หันหน้าเผชิญสัตว์เทวะนี่เอง
สัตว์เทวะตัวหนึ่งจากทางซ้ายสุดของกลุ่มเริ่มเคลื่อนไหว
มันยกขาหน้าที่เป็นกรงเล็บตะปบใส่พวกทหารธรรมดาที่อยู่แถวนั้น
พลอยก็อยู่ตรงนั้นด้วย
“ว้าย!!”
หล่อนกำลังใช้หน้าจอสื่อสาร
ติดต่อไปหาพวกเน็กส์ทำให้ไม่ทันระวังตัวไม่อย่างนั้นด้วยพลังของร่างไฮพีเรี่ยนของหล่อนในตอนนี้คงดันขาหน้ายักษ์นั่นกลับไปได้ง่ายๆ
“เฮ้ เป็นไรป่าว”
เมษาตะโกนถามเขาวิ่งไปที่นั่นทันทีตั้งแต่ตอนที่เห็นมันยกขาหน้าขึ้น
แต่เสียงตะโกนก็ถูกกลบด้วยเสียงร้องของพวกทหารแถวนั้นที่หนีกันหัวซุกหัวซุนไปคนละทิศละทาง
ทั้งที่เป็นพวกชั้นยอดที่ถูกกุมภา ธุวดารกะหรือรูบิเดียมฝึกวินัยมาเมื่อไม่กี่วันมานี้
แต่เอาเถอะเขาไม่คิดจะโทษพวกนั้นหรอกเพราะพลังมันต่างกันเกินไปจริงๆ
พลอยที่ล้มลงไปเพราะกระโดดหลบเท้าของสัตว์เทวะกะทันหันก็ลุกขึ้นมาชักดาบเตรียมต่อสู้กลับ
“โซเดียเซเบอร์ฮอร์น”
พริบตาที่ร่ายสกิลอมฤตในอากาศก็กลั่นตัวเป็นแสงสว่างสีแดงสถิตลงยังตัวดาบ
หล่อนตวัดดาบสีแดงที่กำลังยืดตัวออก ตัดขาของสัตว์เทวะขาดกระเด็นไปข้างหนึ่ง
ขาข้างนั้นละลายเป็นทรายก่อนจะตกถึงพื้น
แต่ถ้าทำแบบนั้นล่ะก็
“ยัยบ้าเอ้ย
รีบหนีออกมาเร็วเข้า!”
คำเตือนของเขาดูจะไม่ทันการเสียแล้ว
สัตว์เทวะที่สูญเสียขาจึงทรงตัวไว้ไม่ได้และโน้มตัวลงมาทับทั้งพลอยแล้วพวกทหารที่ยังหนีไม่ทัน
ด้วยขนาดตัวของมันแล้วกับจำนวนคนที่อยู่แถวนั้นคงมีซักสิบคนที่จะโดนทับตายอยู่ตรงนั้นซึ่งพลอยไม่มีโอกาสรอดจากการเป็นหนึ่งในสิบนั้นได้เลย
“ต้องยิงไปจากตรงนี้”
ทางเดียวที่จะกอบกู้สถานการณ์นี้คือใช้ถังมิสไซล์บนหลังระดมยิงทำลายร่างกายของวัตว์เทวะให้หมดก่อนที่มันจะล้มทับ
‘ไม่ได้หรอกกระสุนกับพลังงานหมดไปแล้วแถมเวลาคงร่างกายนี้ก็เหลือไม่พอจนสะสมสำหรับยิงครั้งต่อไปด้วย’
เสียงของโดโกบาร์บอกมาอย่างนั้น
“บ้าเอ้ย
ทำไมต้องตอนนี้ด้วยนะ”
เมษาสบถแล้วยื่นแขนทั้งสองข้างที่ติดสนับปืนกลแต่พอลั่นไกมันแล้วก็มีแต่เสียงดัง
กริ๊ก แต่ไม่มีอะไรออกมา ดูเหมือนว่ากระสุนตรงนี้ก็จะหมดไปตั้งแต่ที่ใช้จัดการเจ้าตัวแรกแล้ว
‘แคสออฟสิ
ทิ้งปืนที่กระสุนหมดไปแล้วสู้ด้วยโหมดประชิดตัวแทน’
โดโกบาร์เสนอมาซึ่งนั่นคงเป็นวิธีเดียวที่จะต่อสู้ต่อไปด้วยร่างนี้ได้
แต่ว่ามันต้องทำอย่างไรกันล่ะ
โดยที่ไม่ต้องเอ่ยถามความนึกคิดของเขาก้จะส่งไปให้โดโกบาร์อยู่แล้ว
‘แค่สั่งแคสออฟก็พอ’
“แคสออฟ (Cast
off) !!”
เมษาตะโกนตามที่ว่า
ถังมิสไซล์ที่ลอยตามมา
จู่ๆ ก็ร่วงลงพื้น
รวมถึงอุปกรณ์ส่งสัญญาณควบคุมที่แบกอยู่บนหลังเขาก็ปลดตัวเองออกโดยอัตโนมัติ
ปืนกลแยกออกเป็นสองส่วนกรอบที่หุ้มไว้หลุดหล่นเท้งเต้งไปทั้งแบบนั้น
จากนั้นกรงเล็บที่พับเก็บไว้ด้านในของปืนกลมาโดยตลอดก็ดีดตัวประกบกับกำปั้น
เครื่องแบบเกราะอ่อนที่สวมอยู่ตอบสนองกับคำสั่งที่ดูเหมือนจะเป็นสกิล
เกราะเสื้อผ้าส่วนท่อนบนหายวับไปเหมือนกับกำลังใช้สกิล ‘เชิ้ตออฟ’ ร่างกายเบาขึ้นเป็นอย่างมาก
เบาหวิวจนวิ่งเร็วขึ้นมากกว่าเดิมแค่พริบตาก้ย่นระยะห่างไปถึงพลอยได้แล้ว
“อ๊ะ”
เด็กสาวเพิ่งจะรู้ตัวด้วยซ้ำ
เมษากระโดดพร้อมกับซัดหมัด
ส่วนที่เป็นกรงเล็บเสียบทะลุหนังหนาๆ
ของสัตว์เทวะส่วนแรงส่งจากการกระโดดผลักร่างมหึมานั้นเอนกลับไปทิศตรงข้าม
เมษาถอนหมัดออกแล้วถีบเท้าดีดตัวกระดอนกลับมายืนข้างๆ
พลอยขณะที่สัตว์เทวะหงายหลังล้มตึงจนทรายลอยคลุ้งเต็มอากาศ
“เหลือเวลาคงร่างไฮพีเรี่ยนอีกไม่นานแล้วเราต้องเปลี่ยนแผนกันแล้ว”
พลอยทำหน้าไม่เข้าใจที่เขาพูดดังนั้นจึงต้องพูดใหม่
“รีบแจ้งไปที่เรือก่อนเถอะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เด็กสาวเรียกหน้าจอสื่อสารขึ้นมาใหม่
สัตว์เทวะก็ยังอาละวาดอยู่
รูบิเดียมกับวิเชียรมาศนำทหารเข้าไปบุกตะลุยกันบ้างแล้วก็จริงแต่คงจัดการหมดทั้งห้าตัวไม่ทันเวลา
เมษาเดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิดแล้ววิ่งควงกำปั้นเข้าไปตะลุยกับพวกมัน
@@@@@@
ขณะเดียวกันที่เขตแดนทะเล
หลังจากฆ่ามหาเทพสัตว์เทวะเลเวียธานไปแล้ว....
“นี่มันหมายความว่ายังไงกันคะเนี่ย”
หล่อนพูดเล่นอย่างสิ้นหวัง
เพราะจู่ๆ ทะเลก็พูนตัวสูงขึ้นเป็นเสาน้ำมหึมาถึงห้าต้นด้วยกัน
เสาน้ำพวกนั้นกลายเป็นสัตว์เทวะที่พวกเขาเพิ่งฆ่าไปแถมเพิ่มจำนวนเป็นห้าตัว
สถานการณ์เกินจะควบคุมได้
แค่พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวก็เหมือนทะเลทั้งแผ่นมีชีวิตลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกเขาแล้ว
พวกมันโถมร่างกายที่เป็นน้ำกลืนพวกทหารต่างดาวทั้งหมดลงไปใต้น้ำในเวลาแค่อึดใจเดียว
จากนั้นเป้าหมายของพวกมันก็ย้ายมาที่เมืองจำลองที่เธอ กับ ฟู และ ซีเซียมยืนอยู่
โดยที่ไม่มีเวลาให้พักหายใจหรือคิดจะจะหนีด้วยซ้ำ
สึนามิสัตว์เทวะก็โถมลงมาจากทุกทิศทาง
เลเวียธานทั้งห้าตัวกระโจนใส่เมืองโดยพร้อมเพรียง
ทุกอย่างถูกกลืนลงสู่ใต้ทะเล
มีนาลืมตาขึ้นในน้ำก็พบว่าความเสียหากของพวกเธอนั้นหนักมาก
รอบตัวมองเห็นซากของเมืองจำลองที่โดนคลื่นถล่มจนพังยับแตกหักเป็นชิ้นเป็นอันลอยละล่องไปหมด
พอมองไกลออกไปหน่อยก็เห็นทั้งแขน
ขา ชิ้นส่วนร่างกายของพวกทหารต่างดาวที่โดนเล่นงานไปก่อนอยู่เกลื่อนกลาดกำลังจะลอยขึ้นไปเหนือผิวน้ำ
น้ำในบริเวณนั้นกลายเป็นสีปรอทเพราะเลือดของเผ่าต่างดาว
เท่ากับว่าเหลือแค่เธอ....
ตอนที่จะสรุปแบบนั้นสายตาก็ควานหาจนเจอพวกพ้องอีกสองคนที่ยังไม่เป็นอะไรไปเพราะอยู่ด้วยกันก่อนจะจมลงมา
มีฟูกับซีเซียม
เท่านี้ก็เหลือกันอยู่แค่สามคนแล้ว
ตกลงมาอยู่ในน้ำที่เป็นถิ่นของศัตรูแถมยังมีกันตั้งห้าตัวไม่มีทางกำจัดทั้งหมดนั่นทันเวลาก่อนร่างไฮพีเรี่ยนหายไปแน่
ตั้งแต่เริ่มภารกิจเวลาคงร่างกายก็ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ต้องเปลี่ยนแผน
ถึงจะไม่พูดออกไปเพราะอยู่ใต้น้ำตาพวกเขาส่งสายตากันเป็นสัญญาณก็เข้าใจตรงกันแล้ว
“…..”
ซีเซียมชี้ลงไปข้างล่าง
พอลองมองตามไปก็พบว่ามีแสงสว่างโทนสีม่วงเปล่งขึ้นมาจากใต้ทะเล
ซีเซียมทำท่าทางชี้ไปที่ตาตัวเองเป็นนัยจะบอกให้ใช้ไซเบอร์อายยูนิทส่องไปที่นั่น
มีนาทำตามนั้นส่องไซเบอร์อายยูนิทลงไปที่ข้างล่าง
แล้วภาพของเสาส่งพลังงานที่พวกเขากำลังหากันอยู่ก็ลอยขึ้นมา
ตอนนี้เจอเป้าหมายแล้ว
มีนาเปิดหน้าจอสื่อสารแล้วใช้มือป้อนข้อความติดต่อไปแทนการพูดด้วยเสียง
ติดต่อไปหาซากิริที่อยู่บนเรือ
@@@@@@@@
“เร็วเข้ามันจะไล่ทันแล้วนะ!”
เน็กส์พูดเสียงดังเพื่อเร่งให้นิวที่เขากำลังจูงมืออยู่เร่งความเร็วในการบินหนีจากมหาเทพสัตว์เทวะซิส
สัตว์เทวะซึ่งมีร่างกายเป็นพายุที่พัดหอบทุกอย่างในเขตแดนไล่ตามพวกเขาที่เพิ่งจะเข้ามาที่นี่
นอกจากสัตว์เทวะแล้วก็ไม่เห็นวี่แววของพวกนรินทร์ที่รับหน้าที่มาโจมตีเขตนี้เลย
หรือว่าจะเสร็จมันไปแล้ว
เด็กชายส่ายหัวพยายามไล่ความคิดด้านลบนั่นออกไป
ตอนนี้ต้องตั้งสมาธิกับการหนีออกไปจากเขตแดนเสียก่อน ต้องไปตั้งหลักกันใหม่
แต่สัตว์เทวะรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อพวกเขาบินหนีมันไม่ทัน
“หวา!!”
“กรี้ดดดด!!”
ถูกกลืนเข้าไปในวังวนของลมพายุอันบ้าคลั่ง
สายลมภายในนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก
ร่างกายแทบจะถูกลมฉีกขาดเอาง่ายๆ
พวกเขากำลังไหลไปตามกระแสของพายุและคงจะเข้าไปถึงแกนตรงกลางที่เป็นตาพายุในอีกไม่ช้าที่นั่นเป็นจุดที่ลมสงบตามธรรมชาติของพายุอยู่แล้วถ้าไปถึงตรงนั้นคงพอจะตั้งหลักกันใหม่ได้
แต่นั่นก็เป็นในกรณีที่ถ้าพวกไปถึงที่นั่นโดยไม่โดนวัตถุที่ถูกพายุหอบบี้ร่างกายเละเทะไปซะก่อนล่ะนะ
ภายในพายุสัตว์เทวะมีแต่ก้อนหินน้อยใหญ่บินกันให้ว่อนไปหมด
พวกเขาบินหลบหินก้อนใหญ่ได้แต่พวกก้อนเล็กๆ ที่มากันเป็นกระจุกนั้นไม่สามารถหลบออกไปได้
ท่ากลางเศษซากที่พุ่งเข้ามาเน็กส์ปัดป้องมันด้วยไม้เท้า
แต่ก็ปัดไม่ได้ทั้งหมด
ก้อนหินก้อนหนึ่งกระแทกเข้ามาที่คิ้วซ้าย
“โอ้ย”
แต่เด็กชายฝืนทนความเจ็บปวดลืมตาข้างนั้นค้างเอาไว้โดยใช้แขนคอยปกป้องดวงตาข้างนั้นเพื่อจะมองกะระยะทางที่หินก้อนใหญ่ซึ่งพวกเขาหลบมันไม่พ้นจะมาถึง
เมื่อก้อนหินเข้ามาใกล้พอเน็กส์ก็ร่ายสกิล
“วาโยเบลด”
แล้วตวัดไม้เท้าฟาดคลื่นดาบเวทผ่าก้อนหินขาดเป็นสองซีกแยกออกจากกันและลอยผ่านพวกเขาไป
รู้สึกแสบบริเวณคิ้วซ้ายขึ้นมา
พอลืมตาข้างนั้นก็มีเลือดไหลเข้าจนต้องปิดตาอีก
คิ้วข้างนั้นคงจะแตกตอนที่ถูกเศษหินกระแทกใส่
“สปิริตเน็ต (Spirit Net)”
นิวไล่ขึ้นมาจนแซงเขาไป
ในมือเธอมีเส้นใยที่ถักเป็นรังแมงมุมอยู่ด้วย เมื่อขว้างออกไปจากมือแล้วเส้นใยนั้นก็ขยายตัวกลายเป็นม่านที่ช่วยกันเศษก้อนหินชิ้นเล็ก
จากนั้นเด็กสาวก้หันมาถามอาการด้วยความเป็นห่วง
“เน็กส์เลือด…”
สีหน้าของเด็กสาวที่เห้นเลือดไหลอาบใบหน้าเขานั้นซีดเผือดด้วยความกลัว
เขาจึงพูดปลอบเธอทันที
“ไม่เป็นไร
รีบหาทางออกจากที่นี่ก่อนเถอะ”
ตอนที่คิดว่าจะพักคิดหาทางอยู่ที่นี่ไปก่อน ไซเบอร์อายยูนิทก็ดันจับความเคลื่อนไหวบางอย่างได้
“เมื่อกี้มัน…แสงเหรอ”
เน็กส์หันไปยังทิศที่จับความเคลื่อนไหวนั้นได้
มีแสงสะท้อนเล็กๆ
ปรากฏวูบไหวอยู่ที่ใจกลางของตาพายุนี้
พอลองเพ่งสายตาไปยังจุดที่ว่าแล้วไซเบอร์อายยูนิทก็ช่วยดึงภาพบริเวณนั้นเข้ามาใกล้
ด้วยระบบของมันจึงมองทะลุวัตถุที่บดบังและมองเห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน
“เสาส่งพลังงานอยู่ตรงนั้นน่ะเอง”
เสาส่งพลังมาอยู่ในตัวสัตว์เทวะแบบนี้ถ้าไม่โดนดูดเข้ามาคงหาไม่เจอ
ตาข่ายที่ขึงไว้ส่งเสียงตึงเครียดดัง
ปึด ปึด มันใกล้จะขาดเต็มทีแล้ว
“เน็กส์”
นิวพูดเร่งให้เขาตัดสินใจ
ถึงจะลังเลอยู่นิดหน่อยแต่ก็…
เน็กส์ยกไม้เท้าสีฟ้าไปเหน็บไว้ที่หลัง
“ไปที่นั่นกันเถอะ”
แล้วจูงมือนิวพุ่งไปข้างหน้าโดยที่ยิงทำลายก้อนหินที่มาขวางทาง
“โซเดีย!”
ด้วยการเหวี่ยงไม้เท้าสีดำที่มีพลังทำลายสูง
ลำแสงอมฤตแบบลูกกระสุนที่มีอำนาจทำลายต่ำแต่สามารถโปรยกระจายเป็นวงกว้างได้ก็ทำลายส่งกีดขวางทั้งหมด
แล้วจูงมือบินโฉบออกจากกระแสพายุเข้าสู่ใจกลางที่ลมสงบนิ่งกว่ารอบนอก
ที่นี่อากาศสงบนิ่งเป็นจุดที่เหมือนกับจะเป็นตาของพายุ
สภาพของมันเหมือนเป็นดินแดนที่เหมือนหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซี
แผ่นดินซึ่งเคยเป็นเมืองมาก่อนลอยเคว้งคว้างกระจัดกระจายอย่างเอื่อยเฉื่อยในเขตดวงตาพายุแห่งนี้
ที่ตรงใจกลางของตาพายุนี่เองมีแผ่นดินขนาดย่อมลอยอยู่โดดเดี่ยวและมีเสาสีดำกำลังเปล่งแสงโทนสีม่วงออกมา
สัมผัสอันชั่วร้ายของไอพลังที่อยู่รอบๆ
เสานั่นชวนให้นึกถึงราหูที่เคยเผชิญหน้ากันมาก่อน
เป็นสัมผัสที่ชวนให้สันหลังเย็นวาบเลยทีเดียว
ตอนนั้นเองก็มีสายติดต่อเข้ามาหลังจากที่การติดต่อขาดมาได้ซักพัก
ซากิรินั่นเอง
‘ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง’
เน็กส์ตอบ
“ปลอดภัยดีครับแล้วก็พวกเราเจอเสาส่งพลังงานแล้วด้วยครับ”
‘งั้นเหรอจังหวะพอดีไปหน่อยนะเนี่ย’
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
‘ก็นะ
ตอนนี้ติดต่อกับกลุ่มอื่นๆ ได้แล้วล่ะแต่สัญญาณไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่น่ะ’
พอได้ยินว่ากลุ่มอื่นๆ
ยังติดต่อกันอยู่ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมานิดหน่อย
”แต่ว่าทำไมถึงยังติดต่อกับกลุ่มของผมได้ชัดแจ๋วทั้งที่สัญญาณไม่ดีแบบนี้ล่ะครับ”
‘เรื่องนั้นน่ะซีลอร์ดบอกว่าเป็นผลมาจากพลังของร่างไฮพีเรี่ยนของเด็กผู้หญิงที่อยู่กับเธอน่ะ’
“พลังของนิวน่ะหรือครับ”
‘อืม
เห็นว่าตอนเป็นเครื่องทำสวนมีพลังในการขยายกำลังส่งหรืออะไรนี่ล่ะพอไปอยู่ใกล้ๆ
กันสัญญาณเลยแรงจนไม่ถูกรบกวนล่ะมั้ง
แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะตอนนี้อยากจะเปลี่ยนแผนนิดหน่อย’
“เปลี่ยนแผน?”
…ตอนนี้เนี่ยนะ
ถึงจะไม่บอกแต่ก็พอเดาได้ว่าจะดำเนินแผนการไปทางไหนถึงตัวเขาจะไม่ได้เก่งกาจเหมือนอิงศรหรือคนอื่นๆ
ที่มีประสบการณ์ต่อสู้มากกว่าตัวเองก็ตาม
เดิมทีแผนการนี้ต้องรักษาเรื่องเวลาเป็นอย่างมากดังนั้นถ้าเกิดอะไรที่ทำให้แผนการล่าช้าล่ะก็คงจะต้องข้ามขั้นตอนบางอย่างไป
มันคิดได้แต่วิธีแบบนั้นแล้วการข้ามขั้นตอนที่ว่าก็คือ
‘เราจะไม่ฆ่าสัตว์เทวะกันแล้วแต่ให้ค้นหาเสาพลังงานแล้วทำลายมันโดยตรงจากนั้นรีบหนีออกจากเขตแดนทันที’
เป็นอย่างที่เดาเอาไว้ เน็กส์ทำความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแผนการได้ในทันทีเพราะว่าเขาคิดเผื่อเอาไว้ก่อนจะได้ยินคำสั่งแล้ว
“แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
ก่อนจะเริ่มแผนต่อไปคงจะต้องขอทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันกันก่อน
เขาจำได้ว่าก่อนที่จะย้ายมาเขตแดนแห่งนี้สัตว์เทวะเขตอื่นถูกจัดการไปแล้วแน่ๆ
แต่ทำไมกลุ่มอื่นถึงขาดการติดต่อไปโดยที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมา
‘ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกหลอกน่ะ’
“ถูกหลอกเหรอครับ”
‘อืม
พวกเราไปคิดว่าเขตแดนถูกสร้างโดยมหาเทพสัตว์เทวะแต่ความจริงแล้วร่างจริงก็คือเขตแดนนั่นต่างหาก’
“ดะ
เดี๋ยวก่อนนะครับเมื่อกี้บอกว่าเขตแดนคือตัวสัตว์เทวะ…ถ้างั้นพวกเราก็สู้อยู่ข้างในตัวพวกมันมาตลอดเลยน่ะสิ”
เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนั้น?
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์แบบนี้อีกฝ่ายคงไม่ได้พูดล้อเล่นแน่ๆ
‘ดูเหมือนว่ากลุ่มอื่นจะเจอกับสัตว์เทวะที่เพิ่งจัดการไปแต่กลับโผล่ออกมาใหม่สี่ห้าตัวน่ะนะ’
นั่นเองที่เป็นสาเหตุให้พวกเขาส่งเสียงขอความช่วยเหลือมา
‘จากการคาดเดาของฉันเองคิดว่าที่สัญญาณติดต่อขาดหายแบบนี้น่าจะเป็นเพราะมหาเทพสัตว์เทวะรู้ตัวแล้วก็เลยทำอะไรบางอย่างที่ไปกระตุ้นให้สัญญาณสื่อสารขาดไปด้วยดีไม่ดีมันอาจจะพยายามตัดภายในเขตแดนออกจากโลกภายนอกก็ได้’
“เดี๋ยวสิครับถ้าเกิดว่ามันทำสำเร็จพวกเราก็จะติดอยู่ในนี้ไปเลยไม่ต่างกับถูกกินเลยสิ”
‘ก็ประมาณนั้นแหละ’
ซ่อนเสาส่งพลังงานไว้ข้างในตัวมหาเทพสัตว์เทวะเป็นการซ่อนที่แยบยลจริงๆ
สมแล้วที่เป็นราหูที่ทำพวกเขาลำบากกันถึงขนาดนั้นได้แม้แต่ตอนนี้พวกเขาที่แข็งแกร่งขึ้นก็ยังเข้าตาจนทั้งที่ยังไม่ได้ไปเผชิญหน้ากันตรงๆ
เลยด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังมีเรื่องน่าแปลกใจอยู่
”แล้วเรื่องนี้คุณซีลอร์ดเขาไม่รู้มาก่อนเหรอครับ”
คนที่บอกรายละเอียดของพวกมหาเทพสัตว์เทวะมาให้อย่างซีลอร์ดทำไม่ถึงไม่พูดเรื่องนี้นั่นล่ะที่แปลก
‘ดูเหมือนเจ้าตัวเขาจะไม่รู้นะบางทีราหูคงเล่นตุกติกล่ะมั้ง
เพราะงี้ถึงต้องเปลี่ยนแผนไงพวกเราไม่มีเวลาแล้วล่ะ’
เวลาที่จะคงร่างไฮพีเรี่ยนไว้ก็ด้วย
ถ้าหมดเวลาขึ้นมาคราวนี้คงจนตรอกจริงๆ แน่
“ครับ
ถ้างั้นจะเริ่มทำลายเสาเลยนะครับ”
ความคิดเห็น