ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #282 : Extra Log 278: Project Apocalypse Online 2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 129
      6
      12 พ.ย. 61

    Extra Log 278: Project Apocalypse Online 2

     

                แอสคลีพิอุส (AsclePius) นายแพทย์ผู้ที่เกือบจะทำให้มนุษย์เป็นอมตะ และเพราะการเลือกทางเดินเช่นนั้นพระเจ้าจึงสังหารเขา

                ออร์ฟีอุส (Orpheus) นักดนตรีผู้พยายามจะช่วยชีวิตภรรยาที่ตายไปแล้วจนถึงกับดั้นด้นไปถึงยมโลก เขาได้วิญญาณของภรรยาคืนมาและเกือบจะทำสำเร็จ แต่เพราะเลือกทางเดินผิดเขาหันกลับไปมองภรรยาตอนที่จะออกจากปากทางเข้ายมโลกนั่นทำให้เขาผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าแห่งนรกนำไปสู่ความล้มเหลวในการช่วยภรรยาอันเป็นที่รัก

                ไม่ว่าเมื่อไหร่มนุษย์ก็ต้องไปสู่ความตาย

                แม้จะต่อต้าน ขัดขืนขนาดไหนก็หนีไม่พ้นความตาย

                มนุษย์ทุกคนเลือกทางเดินแล้วก้าวต่อไปข้างหน้า ไปสู่ความตายที่ปลายทาง

                อดัมเองก็เป็นมนุษย์ดังนั้นจึงไม่อาจหลีกพ้นการเลือกทางเดินไปสู่ความตาย

                ดังนั้นผมถึงไม่เคยช่วยอดัมได้เลย

                ผู้เดินบนเส้นทางแห่งการกอบกู้ทุกสรรพสิ่ง เมไซอานิกมาสเตอร์ซูลวานลอร์ด”

                ออร์ฟี่ในรูปลักษณ์ที่ก้าวข้ามกฎแห่ง กาล-อวกาศ

                เสื้อวอร์มสีแดงที่ใส่อยู่เสมอถูกเปลี่ยนเป็นชุดแบบขุนนางยุโรป

                ผ้าคลุมสีขาวผืนเดิม

                ไม้เท้ามีงูทองคำสองตัวพันทับหันหน้าเข้าหากันงูเหล่านั้นมีปีก

                ราวกับสัญลักษณ์ ‘แอสคลีพิอุส’

                ราวกับ ‘คาดูเซียส’ (Caduceus)   ไม้เท้าแห่งเทพเฮอร์เมส

                ไม่ว่าจะคล้ายคลึงหรือเหมือนกับตำนานเหล่านั้นเพียงใด ไม้เท้านี้ซึ่งเปลี่ยนมาจากหอกแห่งเมสสิยาห์ ‘ลองกินุส’ นั้นไม่ได้สื่อถึงเรื่องราวพวกนั้นแม้แต่น้อย

                ไม้เท้านี้...ซูลวานลอร์ด คือนามแห่งอาวุธไฮพีเรี่ยนซึ่งสะท้อนตัวตนแห่งความเป็นไปได้ของออร์ฟี่

                ออร์ฟี่ที่ปรารถนาจะกอบกู้ทุกสรรพสิ่งและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเทพผู้สรรสร้าง

                ถึงจะดูเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงแค่ภายนอกก็ตาม แต่มันไม่ใช่แค่นั้น

                ไฮพีเรี่ยน’ ร่างกายพิเศษนี้ให้ความรู้สึกราวกับการปฏิวัติ

                สัมผัสได้ถึงการต่อต้านจากมิติที่พยายามปฏิเสธการคงอยู่ของร่างที่ก้าวข้ามกฏแห่ง กาล-อวกาศ นี้

                หากมีพลังไม่เพียงพอร่างนี้ก็จะกลับคืนสู่สภาพก่อนหน้าหรือก็คือมันมีระยะเวลาในการใช้งานจำกัดอยู่…

                ดูเหมือนมันจะเริ่มขึ้นแล้วด้วย

     

                อะไร!?”

                พวกเรากำลังจะตกลงไป”

                อิงศรกับนรินทร์กำลังตกลงไปอย่างเชื่องช้า น่าจะมาจากเวลาในการไฮพีเรียลไลซ์ถึงขีดจำกัด พวกเขากำลังจะสูญเสียความสามารถในการบินที่ได้จากร่างไฮพีเรี่ยน

                การร่วงหล่นเริ่มเร็วขึ้น ร่างกายพิเศษก็สลายหายไปแล้ว

                จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

                ออร์ฟี่ตะโกนแล้วพุ่งตัวไล่ตามไปสุดกำลัง

                แต่อิงศรก็ตะโกนกลับมาว่า

                ไปช่วยคนอื่นก่อนฉันบินเองได้”

                แล้วยกคันธนูที่เพิ่งเปลี่ยนสภาพคืนจากหน้าไม้ขึ้น

                สเลปเนียร์”

                อิงศรบังคับให้เดม่อนแอพทำงาน เด็กหนุ่มพลิกตัวกลางอากาศแล้วรับนรินทร์เอาไว้

                ถ้าอย่างนั้นคนอื่นที่อิงศรให้ไปช่วยก็คือ…

                มิ่งขวัญกับกวินทร์

                เหวอออ!!!”

                จะตกแล้วค้าบบบ!!”

                ออร์ฟี่หันหลังกลับไปตามเสียงนั่น ทั้งสองคนนั้นสูญเสียร่างไฮพีเรี่ยนและกำลังร่วงหล่นจากท้องฟ้า

                แต่ก็ถูกช่วยเอาไว้ก่อนที่เขาจะเข้าไป

                ถูกช่วยโดยปีศาจจากมหาโชคชะตาของพวกเขาเอง

                เฮลเลลกับแจ๊ค รับตัวมิ่งขวัญกับกวินทร์ได้ทันและพาไปส่งที่พื้นอย่างปลอดภัย

                นั่นถือเป็นเรื่องแปลก...

                ทั้งที่มันควรจะเป็นเรื่องธรรมดาถ้าไม่ใช่ว่าเพราะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

                สถานการณ์ที่อาคานาร์รูปแบบ 22 ใบก่อการปฏิวัติต่อพวกเขาภายใต้นามของซูลวาน ถ้าดูจากกรณีของเมอร์คาบาห์ของอิงศรแล้วล่ะก็ปีศาจพวกนั้นก็น่าจะเป็นศัตรู แล้วที่มิ่งขวัญกับกวินทร์บินขึ้นมาก็น่าจะตั้งใจสู้กับสองตนที่ว่านั่น

     

                นี่ก็อาจจะเป็นการคืนชีพแบบหนึ่งก็ได้”

                เสียงของเมอร์คาบาห์ดังมาจากด้านหลัง

                “…”

                ออร์ฟี่หันกลับไป เทวทูตไม่มีทีท่าว่าจะโจมตีหรือต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงยังไม่โจมตี แต่ก็ไม่ได้ลดไม้เท้าลง

                ออร์ฟี่หันหัวไม้เท้าไปยังเทวทูตแล้วถามคำถาม

                นี่มันหมายความว่ายังไง”

                เมอร์คาบาห์พูด

                ถึงจะไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์เดิมแต่นั่นก็เป็นซูลวาน”

                แล้วชี้มาที่ไม้เท้า คงกำลังหมายถึงซูลวานลอร์ด

                เมอร์คาบาห์ย้ายมือที่ชี้มายังไม้เท้าขึ้นไปด้านบน

                แอดมินิสเทรเตอร์เอ๋ยจนถึงตอนนี้ซูลวานก็ยังหลับไหลอยู่ ดังนั้นฉันจะเป็นผู้บอกความจริงให้เอง”

                นั่นหมายถึงเมอร์คาบาห์ตั้งใจจะพูดแทนซูลวานตัวจริงที่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนดวงตะวันลอยอยู่บนท้องฟ้าเกือบติดกับเพดานที่เป็นทะเลแห่งข้อมูล

                ตอนนั้นเอง อิงศรที่เพิ่งจะลงพื้นไปก็ตะโกนขึ้นมา

                หมายความว่าจะเลิกสู้แล้วอย่างนั้นเหรอ”

                เมอร์คาบาห์ก้มหน้าลงมองอิงศร

                 การทดสอบจบลงเท่านี้”

                การทดสอบ...”

                อิงศรทวนคำพูดนั้น

                จะว่าไปแล้วก่อนที่เมอร์คาบาห์จะเริ่มก่อปฏิวัติ ก่อนที่จะเริ่มพิธีกรรมคืนชีพซูลวานก็พูดเอาไว้ว่านี่คือการทดสอบ

                งั้นการทดสอบนี่พวกฉันก็เป็นฝ่ายชนะสินะเพราะว่าซูลวานคืนชีพไม่ได้แล้ว”

                ซูลวานคืนชีพขึ้นมาแล้ว”

                ว่าไงนะ”

                เมอร์คาบาห์เบนสายตาไปที่ออร์ฟี่

                อย่าบอกนะว่า”

                อิงศรมองตามไป

                ไม่อยากจะเชื่อเลย จะบอกว่าออร์ฟี่ตอนนี้คือซูลวาน...มันสายเกินไป

                เขาช่วยออร์ฟี่ช้าเกินไป...

                ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกอิงศร”

                ออร์ฟี่พูดขัดความคิดมา หมอนั่นคงจะอ่านใจเขาไปและรับรู้ถึงความกังวลที่ผุดขึ้นมานั่น

                ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจนักหรอกนะ แต่คิดว่าความตั้งใจของต้นไม้แห่งชีวิต ไม่สิ นี่น่ะเป็นความตั้งใจของซูลวานตั้งแต่แรก เป็นบททดสอบที่จงใจจะมอบพลังให้ต่อกรกับราหูมาตั้งแต่แรก”

                ออร์ฟี่เงยหน้ามองเมอร์คาบาห์

                ซูลวานผมมีคำถามที่คิดว่าคุณน่าจะตอบผมได้ช่วยตอบมาหน่อยจะได้ไหม”

                “…..”

                งั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”

                ดังนั้นออร์ฟี่จึงถามทั้งหมดในทีเดียว

                เมื่อครั้งที่ผมต่อต้านโซลาริสทำไมเขาถึงพยายามไว้ชีวิตผมมันเกี่ยวกับที่คุณบอกผมว่าเหล่าแอดมินิสเทรเตอร์รุ่นก่อนก็ร่วมทางใน ‘บท’ อะไรนั่นด้วยใช่ไหม นี่มันเกี่ยวกับพิธีกรรมคืนชีพด้วยงั้นสิ แล้วการคืนชีพอะไรนั่นก็คือแบบนี้สินะตัวผมที่ไฮพีเรียลไลซ์แล้วกลายเป็นซูลวานลอร์ดนี่น่ะ”

                เมอร์คาบาห์พูด

                ในอดีตก่อนที่จะแยกออกจากกันเธอคือแอดมินิสเทรเตอร์มาตั้งแต่แรกคอยปกป้องซูลวาน ด้วยความสัมพันธ์นั่นทำให้เธอได้พบกับเศษเสี้ยวของซูลวานที่แตกกระจัดกระจายไป”

                คำพูดนั่นบ่งชี้ถึงอิงศรอย่างชัดเจน ตั้งใจจะบอกว่าการพบกันกับอิงศรและเหล่าผู้ถูกฟันเฟืองเลือกคนอื่นๆ ...

                ไม่สิต้องบอกว่าที่ฟันเฟืองไปหาอิงศรกับพวกพ้องเหล่านั้นก็คือการชักนำของซูลวานอย่างนั้นสินะ

                จากเหตุการณ์ในคราวนั้นดูเหมือนเธอจะสูญเสียความทรงจำในส่วนนั้นไป ทั้งโซลาริสกับลูนาริสต่างก็เป็นสิ่งที่ซูลวานสร้างเมื่อแยกออกจากกัน เพื่อให้คอยดูแลเธอ เพื่อที่ซักวันหนึ่งทุกสิ่งจะกลับมาถูกต้องอีกครั้ง”

                คำพูดนี้ตอบคำถามสองข้อจากทั้งสามข้อที่เขาถามไป

                ตอบว่าทำไมโซลาริสถึงพยายามไว้ชีวิตเขา แล้วก็เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมคืนชีพซึ่งมีเขาเป็นส่วนร่วม

                แต่ยังไม่ได้ตอบคำถามสุดท้าย

                ถ้าอย่างนั้นผมที่กลายเป็นซูลวานลอร์ดก็คือซูลวานที่คืนชีพแล้วอย่างนั้นสิ”

                ก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ว่ามันจะออกมาในลักษณะไหน”

                คำตอบของเมอร์คาบาห์ค่อนข้างต่างจากที่คิดเอาไว้

                นี่จะบอกว่าซูลวานไม่ได้รู้อยู่ก่อนแล้วหรอกเรอะ”

                อิงศรพูดแทรกขึ้นมา เมอร์คาบาห์จึงตอบไปว่า

                เรื่องนั้นเธอเองก็เป็นซูลวานไม่ใช่รึน่าจะรู้คำตอบสินะ”

                อึก”

                ดูเหมือนอิงศรจะถูกยอกย้อนแบบที่โต้กลับไม่ได้ แต่ถ้าพูดแบบนี้มาก็แสดงว่าฝ่ายนั้นยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ

                อิงศรพูด

                ถ้าจะบอกว่าฉันคือซูลวานล่ะงั้นนายล่ะเมอร์คาบาห์ นายเป็นใครกันแน่”

                ก็คือเธอ”

                หมายถึงเป็นซูลวานเหมือนกันน่ะเหรอ”

                แต่เมอร์คาบาห์ส่ายหน้าปฏิเสธ

                อาคานาร์ต่างหาก เพราะอัตตาตัวตนที่เกิดขึ้นจากการเป็นอิงศรทำให้ส่วนที่เป็นซูลวานตกผลึกออกมาเป็นฉัน”

                แต่นายบอกเองนะว่าอาคานาร์เป็นสิ่งที่ราหูให้ฉันมาแล้วทำไมพลังของศัตรูถึงทำให้นายเกิดขึ้นมาโดยที่นับถือข้างซูลวานกันล่ะ”

                “…”

                เฮ้ย!”

                แม้จะส่งเสียงตวาดออกไปเมอร์คาบาห์ก็ยังคงนิ่งเฉย

                พอนานเข้าเจ้าตัวก็เปลี่ยนเรื่องพูดดสียอย่างนั้น

                จากนี้ไปซูลวานจะบอกความจริงให้ฟังความจริงที่พวกเธอน่าจะอยากรู้กันมากที่สุด”

                ได้ฟังแบนั้นเข้า อิงศรก็เริ่มคิดอย่างกลัดกลุ้ม

                คิดว่าความจริงที่จะบอกหลังจากผ่านการทดสอบนั้นต้องเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย เหมือนกับที่ออร์ฟี่สมัยยังเป็นซีลอร์ดบอกเรื่องตัวตนของแอดมินิสเทรเตอร์กับเขาเป็นครั้งแรก

                ในตอนนั้นคือหลังจากที่รู้ถึงการมีอยู่ของเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ นั่นเป็นเหมือนการทดสอบแบบหนึ่งก็ว่าได้การทดสอบที่รอให้เขามีประสบการณ์ก่อนไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีทางเชื่อเรื่องที่จะพูดต่อจากนั้น

                ต่อมาก็เป็นตอนที่มอบบททดสอบในการต่อสู้

                หากเขาไม่แสดงว่าสามารถเอาชนะเครื่องทำสวน เอาชนะซีลอร์ดได้ ก็จะไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงที่ขวางทางไปได้ การทดสอบนั้นเป็นการสอนหลักการตัดสินของพระเจ้าก็ว่าได้ เขาได้รับบทเรียนว่าพระเจ้าจะไม่ฟังคำทัดทานของผู้ที่อ่อนแอ เพราะคำพูดเหล่านั้นจะเป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อ

                แล้วในตอนนี้…

                บททดสอบที่ได้รับจากซูลวาน บททดสอบนี้คงเหมือนกัน

                เป็นการประเมินความสามารถของพวกเขาว่าจะยอมรับความจริงที่จะบอกต่อจากไปนี้ได้หรือเปล่า          เท่ากับว่าความจริงที่ซูลวานจะบอกต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

                แล้วก็คงเป็นความจริงที่หนักหนาสาหัสเอามากๆ บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่พวกเขากำลังกังวลกันอยู่

     

                เมอร์คาบาห์ดำเนินคำพูดถัดไปออกมา

                ตัวจริงของโลกใบนี้และโลกคู่ขนานทั้งหมด”

                นั่นปะไร

                ความจริงที่ว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่พวกเขากังวลกันอยู่จริงๆ

                ซูลวานจะฉายความจริงให้กับพวกเธอมันคงทำให้รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย”

                พอเมอร์คาบาห์พูดมาแบบนั้น

                อึก…นี่มัน”

                ภายในหัวก็เหมือนมีเสียง วิ้ง ดังขึ้นมารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

                อิงศรกุมขมับตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง คนอื่นรอบตัวก็มีอาการเหมือนๆ กันดูเหมือนว่าทุกคนจะโดนแบบเดียวกันกับที่เขาโดนไปด้วย

                “…”

                ภายในหัวเริ่มจะมีภาพของอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมา

     

     

                ห้องโถงกว้างที่เพดานสูงเทียมฟ้าเทียมเมฆ

                ห้องอยู่ในสภาพรกร้างไม่ได้ถูกใช้งานมานานมากแล้ว ภายในห้องมีเครื่องจักรรูปทรงเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำคล้ายกับตู้ล็อกเกอร์จำนวนหลายตู้วางเรียงกันเป็นทิวแถว

                ห้องโถงเต็มไปด้วยตู้พวกนี้และไม่มีสิ่งอื่นใดอีก ตู้เหล่านี้คล้ายกับเครื่องเซิฟเวอร์ เครื่องมือเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบขนาดใหญ่ สภาพของห้องเองก็ชวนให้นีกถึงห้องเซิฟเวอร์ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่จะคิดแบบนั้น

                “…”

                ไม่สิ ถึงจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีมากขนาดไหนก็ไม่น่าจะเดาสุ่มจากลักษณะภายนอกที่ไม่คุ้นตาของเครื่องจักรพวกนี้เป็นตุเป็นตะไปได้ขนาดนั้น

                ถ้าอย่างนั้นแล้วความรู้ความชำนาญที่สามารถตีความได้ว่านี่คือห้องเซิฟเวอร์ก็เป็นสิ่งที่ถูกยัดเยียดเข้ามา

                คนที่ทำแบบนั้นน่าจะเป็นซูลวานที่พยายามแสดงนิมิตนี้ให้พวกเขาเห็น วิธีการเองก็คล้ายกับความทรงจำที่ผุดขึ้นมาเป็นตัวอักษรด้วย บางทีซูลวานอาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่รับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมดนี้

                แล้วก็…

                ในตอนนั้นเอง

                ที่ ‘ความทรงจำตัวอักษร’ ความทรงจำซึ่งไม่มีเค้าที่มาและไม่มีความรู้สึกที่เกี่ยวข้อง ก็ถูกสลักลงภายในสมอง

                “…”

                ราวกับความทรงจำที่ถูกปิดผนึกมายาวนานถูกสะเดาะกลอนออก

                อิงศรตระหนักถึงความจริงของนิมิตนี้ ซูลวานพยายามทำให้เข้าใจ

                เข้าใจว่าห้องเซิฟเวอร์ที่ถูกทิ้งร้างพวกนั้น…

     

                เมอร์คาบาห์พูดขัดจังหวะมาว่า

                โปรเจค อโพคาลิปส์ออนไลน์ (Apocalypse Online)  นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของโลกใบนี้ คือข้อมูลบนเซิฟเวอร์ที่ยังออนไลน์อยู่ที่ไหนซักแห่ง ซูลวานก็คือชื่อของระบบควบคุมเซิฟเวอร์นั่น”

     

                ว่าไงนะ”

                อิงศรพูดสบถ

                และแล้ว

                ก็เริ่มจะเข้าใจขึ้นมาเอง

                เข้าใจและหวาดกลัวขึ้นมาพร้อมๆกัน

     

                โลกทั้งใบ

                โลกคู่ขนานทั้งหมด

                ความเป็นไปได้ทั้งหมด

                บรรจุอยู่ภายในเซิฟเวอร์พวกนั้น…

     

                อิงศรตวาด

                จะบอกว่าพวกเราเป็นแค่ข้อมูลอย่างนั้นเรอะใครมันจะไปเชื่อ”

                เมอร์คาบาห์ถามกลับมาทันที

                งั้นเธอก็จะปฏิเสธสิ่งที่เห็น?”

                อึก”

                อิงศรปฏิเสธไม่ได้

                ปฏิเสธไม่ได้

                ปฏิเสธไม่ได้

                ถึงแม้ว่ามันจะเหลือเชื่อจนอยากปฏิเสธขนาดไหนก็ตาม

                ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็เพราะว่าเข้าใจเป็นอย่างดี

                ในตอนที่ ‘ความทรงจำตัวอักษร’ ผุดขึ้นมา ร่างกายก็เข้าใจได้เองว่าบางอย่างในตัวเองถูกปลดล็อกออก มันไม่ใช่ทั้งการยัดเยียดหรือแทรกซึมเข้ามา

                ตัวของเขารู้อยู่แต่แรกแล้วว่าความจริงเป็นอย่างไรแต่ถูกปกปิดไว้ด้วยอำนาจบางอย่างที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ

                แล้วมูลเหตุความจริงมันก็มีอยู่

                ก่อนหน้านี้พวกเขาสันนิษฐานกันเรื่องตัวตนที่แท้จริงของโลกที่พวกเขาอยู่กันนั้นไม่มีอดีตที่ผ่านมา

    โลกที่แท้จริงคือส่วนที่นับจากสี่ปีก่อนซึ่งเกิดการล่มสลาย

                “…”

                แต่ก็ยังมีส่วนที่ขัดแย้งกันอีกมากอย่างความทรงจำในอดีตที่เก่ากว่านั้นไม่ได้เป็น ‘ความทรงจำตัวอักษร’

                เขาจดจำภาพกับความอบอุ่นในความทรงจำที่มีร่วมกับมิ่งขวัญในวัยเด็ก

                นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก

                ไม่ใช่ภาพลวงตา

                ไม่มีทางเป็นเรื่องไม่จริง

                “…”

                แต่ราหูก็ยังเคยพูดเอาไว้

     

                พวกเจ้าอยู่ในภาพลวงตา ไม่สิโลกทั้งหมดก็เป็นแค่ภาพลวงตา ความจริงในเรื่องโกหก เรื่องโกหกกลายเป็นจริง ก็เหมือนดั่งหมอกพวกนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยซักอย่างเดียว’

     

                คำพูดที่ว่านั่นมันหมายความแบบนี้เอง

                พอนึกถึงคำพูดนั้นขึ้นมา อิงศรก็รู้สึกว่าหัวใจของตนกำลังจะยอมรับมัน

                ยอมรับในความจริงข้อนี้

                ยอมรับว่าโลกใบนี้เป็นเพียงข้อมูล…

                จะยอมรับไม่ได้!!!

     

                บัดซบเอ้ย!”

                อิงศรสบถ

                ถ้ายอมรับแล้วลาะก็ ถ้าอย่างนั้นความตั้งใจขอวพวกเขาล่ะ

                ความตั้งใจในการเดินต่อไปข้างหน้าของข้อมูลอย่างพวกเขาล่ะมันคืออะไรกันแน่

                คือสมการของตัวเลขที่ซับซ้อน ที่เพียงแค่หมุนวนอยู่ในความจำของเครื่องจักรเองอย่างนั้นเหรอ

     

                ถึงจะเพียงเล็กน้อย

                แต่อิงศรก็คาดหวังอย่างน้อยนิดมาตั้งแต่แรก

                ตั้งแต่ตอนที่เริ่มคิดว่าโลกใบนี้จริงๆ แล้วอาจจะถูกสร้างขึ้นโดยราหู แต่ก็ยังคาดหวังว่ามันจะไม่ใช่อะไรเข้าใจได้ง่ายขนาดนี้

                อย่างน้อยที่สุดขอให้มันเป็นการสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของ ‘สิ่งที่เป็นจริง’ ขอเพียงแค่นั้นก็ยังดี

                ทว่าโลกใบนี้กลับถูกสร้างขึ้นมาด้วยพื้นฐานอันเรียบง่าย

                พื้นฐานที่เข้าใจได้ง่ายเกินไป อย่าง ‘เป็นข้อมูลในระบบ’ เพียงเข้าใจขึ้นมาความสิ้นหวังก็พองตัว

                ความสิ้นหวังขยายตัวจนแทบจะเบิดออกมา

     

                อืงศรเริ่มสังเกตท่าทีของพวกพ้อง

                ไม่มีใครที่แววตาจะไร้ซึ่งความสับสนและความสิ้นหวังเลย

                ไม่เว้นแม้เแต่แฟรนเซียม หมอนั่นกำลังแสดงให้ดูออกแบบง่ายๆ เลยว่ากำลังสับสนและต้องการจุดยืนที่แน่นอน

                ทุกคนก็เหมือนกันหมด พอได้รู้ความจริงอันหนักหน่วงนี้ก็แทบจะสูญสิ้นความหวังทั้งหมดไป

                มีแต่คำถามผุดขึ้นมา

                พวกตนสู้ไปเพื่ออะไร’ มีแต่คำถามแบบนั้นผุดขึ้นมาไม่หยุด

                ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างตอนนี้ล่ะก็

                ถ้าไม่รีบหาจุดยืนให้ทุกคนตอนนี้ล่ะก็…

                อิงศรเงยหน้าขึ้นพูดกับทุกคนตรงนี้

                ทุกคน…เราจะเริ่มประชุมแผนครั้งสุดท้าย”

                ด้วยใบหน้าเหมือนกับจะร้องไห้

     

                @@@@@

     

                บนดาดฟ้าของอาคารร้าง

                สถานที่คือ เมืองซึ่งถูกความว่างเปล่ากลืนเข้ามาอยู่ที่รากของอาคาชิกเรคคอร์ด

                คือแหล่งกบดานของมหาเทพราหู

     

                โธ่เว้ย!”

                เด็กหนุ่มชกใส่รั้วตาข่ายที่สูงกว่าสองเมตรครึ่งซึ่งล้อมกั้นทั้งดาดฟ้านี้ไว้

                เส้นผมผมสั้นสีทอง ชุดอวกาศรัดรูปสีดำอันเป็นเครื่องแบบของผู้รุกราน เวิร์สแอกเกรซเซอร์เอดีเอเอ็มสตอรี่เบรกเกอร์ ได้รับคำสั่งจากราหูให้รอจนกว่าจะถึงเวลาที่จะบุกครั้งต่อไป

                นี่มันอะไรกัน แกเป็นใครกันแน่”

                แต่หัวใจของเด็กหนุ่มยังคงสับสนจากการไปทำภารกิจครั้งที่ผ่านมา

                สับสนและสงสัยต่ออัตตาตัวตนของตัวเอง

                ตนเองเป็นใครกันแน่

                สปายของเทิร์นบริงเกอร์ ผู้รุกรานที่ไร้ความปราณี

                ไม่สิ ตัวตนอีกหนึ่งที่อยู่ภายในกายนี้ซึ่งขัดขวางภารกิจคราวก่อนต่างหากที่กำลังกลุ้มใจไม่ใช่เขา

                ไม่ใช่สตอรี่เบรกเกอร์ แต่เป็นอดัมที่เป็นเพื่อนกับออร์ฟี่

     

                ในตอนนั้นเอง…

                ห๊ะ”

                มีเค้าไอของใครบางคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลัง

                สตอรี่เบรกเกอร์ดึงไพ่อาคานาร์ออกจากช่องเก็บที่แขนแล้วหันกลับไป

                รูบิเดียม”

                ผู้มาเยือนคือราชครูสาวผู้ดำรงตำแหน่งลำดับที่สามแห่งวงศ์วานต่างดาว แต่ทำไมหล่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

                พวกศัตรูบุกกันมาแล้วอย่างนั้นรึ?

                อึก”

                จู่ๆ ก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมา

                ”…แกเป็นใครกัน…ไม่สิ”

                เด็กหนุ่มกุมขมับด้วยสีหน้าทรมาน

                นี่คือ อีฟ ผู้นำสารแห่งซูลวาน”

                รูบิเดียมพูดอย่างนั้น ดวงตาของหล่อนไร้ซึ่งแววตาราวกับเป็นหุ่นเชิดที่ไม่มีสติ

                อีฟ…เหรอ”

                สตอรี่เบรกเกอร์กล่าวอย่างยากลำบากเพราะลมหายใจถี่ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ

                มันถึงเวลาแล้วจงแสดงคำตอบออกมา”

                อีฟกล่าว แล้วตรงหน้าเขาก็มีหน้าจอระบบเปิดตัวขึ้นมา

                หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอคำถาม

     

                หากการแยกจากคือหนทางเดียวที่จะกอบกู้ทุกสิ่งเธอจะเลือกมันไหม

                [ใช่]

                [ไม่]

     

                นี่มันอะไร”

                สตอรี่เบรกเกอร์จ้องเขม็งไปยังหุ่นเชิดหญิงสาว

                “…”

                แต่สติก็หลัดลอยออกไปในตอนนั้น ดวงตาสีแดงของผู้รุกรานปิดลง

                แล้วปรือขึ้นมาด้วยดวงตาสีดำอย่างมนุษย์

                อีฟกล่าวว่า

                จงแสดงคำตอบต่อซูลวาน”

                “…”

                อดัมก้าวถอยหลังจนไปชนกับรั้วที่กั้นแล้วไหลครูดจนลงไปนั่งกองกับพื้น เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่หน้าจอด้วยสีหน้าอ่อนแอ

                พออ่านคำถามนั่นแล้วความทรงจำที่เคยมีร่วมกับออร์ฟี่ก็ผุดขึ้นมา

                “…”

                ราหูสร้างเขาขึ้นมาเพื่อให้แทรกแซงกระบวนการฟื้นคืนชีพของซูลวาน ดังนั้นจึงพยายามเข้าหาออร์ฟี่ เพราะออร์ฟี่จะกลายเป็นแอดมินิสเทรเตอร์ในท้ายที่สุด

                แต่แล้วตัวเขาที่เป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ก็ดันมีความรู้สึกขึ้นมาในระหว่างที่แทรกซึม

                เกิดความสงสัยต่อชีวิตของตัวเอง จนเลือกที่จะทำตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น

                อดัมพูด

                ผมอยากจะปกป้องพวกเขาทั้งหมด”

                คำพูดนี้ออร์ฟี่คงจะจดจำมันได้ในฐานะคำพูดของอดัมผู้ที่อยากจะปกป้องลูกหลานมนุษยชาติของตน

                แต่ ‘อดัม’ คนนี้คือผู้รุกรานแล้วก็ไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของมนุษยชาติ เรื่องนี้มีเบื้องหลังอยู่อีกมากที่ออร์ฟี่ยังไม่รู้

                ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

                เด็กหนุ่มกล่าวแล้วหยัดยืนขึ้นมา เขาเดินเข้าไปใกล้หน้าจอแล้วอ่านคำถามบนหน้าจอนั้น

                เนื้อหาที่แฝงอยู่ในคำถามนั้นสามารถเข้าใจได้ทันที นี่เป็นคำถามตรงตัวของมันเองเลย

                เพื่อ ออร์ฟี่จะยอมตายได้ไหมสินะ

                อดัมหลับตาลงแล้วคิด...

                ตนเองนั้นเป็นใคร?

     

                [เพื่อนของออร์ฟี่]

                [ผู้รุกราน]

     

                อดัมเปิดดวงตาขึ้น

                เมื่อตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แล้วจึงเลือกหนทางด้วยหัวใจของตนเอง

                เขาเลือกเป็น [เพื่อนกับออร์ฟี่] นิ้วจึงวางลงบนตัวเลือก [ใช่]

                เกิดเสียงดัง ปิ๊บ แล้วหน้าจอก็ดับหายไป

                อีฟก็เช่นกัน หล่อนคาบคำตอบของเขาไปบอกซูลวาน

                ไม่สิ...

                สำหรับเขาซึ่งเป็นผู้รุกรานนั้นจะเรียกตัวตนนั้นด้วยอีกชื่อหนึ่ง...

                ดูเหมือนจะคงสภาพจิตใจของอดัมไว้ได้จากการเลือกตัวเลือกนั้นสินะ

                มีเสียงดังมาจากทางซ้าย ตามมาด้วยเสียบปรบมือดังเปาะแปะ

                ชายผิวเข้มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น

                ชายผมหยิกยาวกับผ้ากันเปื้อนสีเขียว ราหู นั่นเอง

                ราหูพูด

                มีแต่เจ้าคนเดียวที่กดตัวเลือกนั้นนะทำไมล่ะอดัม ไม่อยากจะไขว่คว้าความหวังเหรอ

                “…”

                อดัมจ้องมองราหู

                ตนคือผู้ที่ทรยศต่อนายผู้สร้างหรือว่าการทรยศนั่นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ บท กันล่ะ

                ราหูพูดต่อ

                ทางเดินเปิดออกแล้วอดัมจงเลือกหนทางต่อไป จงเลือกทรยศให้กับข้าผู้นี้...

                แต่อดัมกล่าวขัดคำพูดนั้น

                ยังจะเล่น บทซูลวานต่อไปอีกหรือครับ

                ด้วยดวงตาของผู้รุกรานที่กลับเรืองแสงสีแดงฉาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×