ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #279 : Extra Log 275: พลังที่สืบทอด 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 118
      4
      2 พ.ย. 61

    Extra Log 275: พลังที่สืบทอด 2

     

                หลังจากคำสั่งของแฟรนเซียมที่สั่งการแทนอิงศรซึ่งไม่ได้อยู่ที่นี่

                พวกเขาก็แบ่งออกกันเป็นสองกลุ่ม

                มิ่งขวัญ กวินทร์ เมษา พลอย ฟู มิกซ์ แยกไปจัดการสัตว์เทวะที่หนีออกไป คนที่เหลือ มีนา นรินทร์ เน็กส์ นิว ร่วมมือกับแฟรนเซียมหาทางปิดประตูดินแดนแห่งความตาย

     

                แฟรนเซียมถามนรินทร์

                ใช้แอพวิเคราะห์ประตูหาจุดที่ค่าบิดผันของมิติน้อยที่สุดได้ไหม

                ไม่รู้ว่าอยู่ในสภาพแบบนี้จะยังใช้เดม่อนแอพได้ไหมนะครับ

                นรินทร์ตอบอย่างไม่มั่นใจนัก เด็กหนุ่มยกไม้เท้าที่เปลี่ยนไปเพราะการ ไฮพีเรียลไรซ์ ขึ้นมาแตะดู ได้แต่หวังให้หน้าจอระบบสำหรับจัดการเดม่อนแอพปรากฏขึ้นมา

                แต่มันกลับไม่มีอะไรออกมาเลย

                สงสัยจะไม่ได้…”

                ตอนที่คิดตัดใจว่าคงไม่มีทางเรียกใช้เดม่อนแอพในสภาพเช่นรี้ได้อยู่นั่นเอง

                ฟังชันก์เสริมทั้งหมดถูกย้ายไปที่เมนูส่วนบุคคลแล้ว

                เอ๋?”

                นรินทร์หลุดปากด้วยความตกใจ

                จู่ๆ เสียงของออร์ทิเกสซาร์เครื่องทำสวนที่ทำการทดสอบเขาก็ดังขึ้นมา นรินทร์ลองทำตามเสียงที่ว่าเขาเรียกหน้าจอระบบโดยทำท่าแตะลงไปบนอากาศอันว่างเปล่าตรงหน้าแทน

                หน้าจอส่วนตัวเปิดขึ้นและมีรายละเอียดที่แปลกตาไปพอสมควร มีเมนูใหม่ๆ ที่ไม่รู้จักอย่าง

     

                [Zodiac Skill]

     

                [Cyber Eye Unit]

     

                แล้วก็เมนูที่เขากำลังมองหาอยู่ซึ่งถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่เหมือนกัน

     

                [Demon App]

     

                นรินทร์กดลงบนเมนูที่ว่า แต่มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกอยู่ดี อันที่จริงปุ่มของ [Demon App] เองก็เป็นสีเทาเหมือนอยู่ในสภาพที่ไม่เปิดให้ใช้งานอยู่ด้วย

     

                ปีศาจของเจ้าเป็นแบบวิเคราะห์ข้อมูลสินะ ถ้าอย่างนั้นมันคงถูกดึงไปรวมกับไซเบอร์อายยูนิทแล้วล่ะ

                เสียงของออร์ทิเกสซาร์บอกมาอย่างนั้น

                ไซเบอร์อายยูนิทเหรอ มันคืออะไรน่ะครับ

                เป็นฟังชันก์ที่มีเฉพาะข้ากับ ดีเซมแมร์ เซปทรูสตาร์ เอกาพิลุซซาร์ แล้วก็ เอพบูรอาร์เป็นความสามารถของยูนิทที่สวมไว้ตรงหูของพวกเจ้าน่ะ

                นรินทร์ลองคลำแถวบริเวณหูตัวเอง

                หมายถึงหูฟังสีดำนี่น่ะเหรอ

                แล้วสอดส่ายสายตามองหาคนที่รับการทดสอบกับเครื่องทำสวนที่ออร์ทิเกสซาร์บอกซึ่งก็จะมี อิงศร เน็กส์ มิกซ์ แล้วก็ มีนา รวมเขาด้วยก็จะเป็นห้าคนที่มีไซเบอร์อายยูนิท

                ไซเบอร์อายยูนิทคือดวงตาที่ความสามารถวิเคราะห์ มองทะลุ เล็งเป้า และควบคุมยูนิทอื่นๆ อย่างของเจ้า ก็จะใช้ควบคุม แมทเทเรียลแฟงส์ยูนิท (Material Fangs Unit) ที่อยู่บนหลังอีกที

                ที่ออร์ทิเกสซาร์พูดน่าจะหมายถึงปีกจักรกลที่อยู่บนหลังของเขา


                ถึงจะบอกว่าเป็นปีกแต่มันคืออุปกรณ์รูปทรงเรียวยาวเป็นแท่งทำด้วยโลหะ ลักษณะคบ้ายกับเขี้ยวสัตว์จำนวนแปดอันมาประกบกันจนดูคล้ายกับปีก

                ไซเบอร์อายยูนิทจะดึงเอาความสามารถในกราวิเคราะห์ที่ตัวเจ้ามีไปรวมไว้ด้วยดังนั้นปีศาจของเจ้าตอนนี้เลยไปอยู่ที่นั่น ทางลัดในการเรียกใช้แค่บอกให้ไซเบอร์อายยูนิทแอคทิเวทก็พอแล้ว

                เข้าใจล่ะ งั้นก็ ไซเบอร์อายยูนิทแอคทิเวท

                พอลองพูดไปแบบนั้นก็มีเสียงดังกริ๊กเหมือนล็อกถูกปลดออก หูฟังเริ่มขยับไปเองมันขยับเปิดฝาครอบบางส่วนเผยเซ็นเซอร์ออกมา

                แสงสีฟ้าก็พุ่งจากเซ็นเซอร์หูฟังตัวหนึ่งไปยังเซ็นเซอร์ที่หูฟังอีกข้าง สภาพเหมือนกับสวมแว่นตา จากนั้นรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ก็เริ่มปรากฎขึ้นบนแว่นแสงนั่น

                ประตูมิติที่เขากำลังมองถูกร่างขึ้นมาเป็นแผนภาพสี่เหลี่ยมโพลีกอน รายละเอียดทั้งความลึก ความกว้าง อุณหภูมิ พลังงาน และค่าผันผวนถูกแสดงออกมาจากแผนภาพนั่น

                นรินทร์หันหน้าไปทางอื่นๆ เพื่อให้เซ็นเซอร์ที่หูฟังเก็บรายละเอียดมาเพิ่ม แผนภาพจึงยิ่งชัดมากขึ้นจนกระทั่งมองเห็นจุดที่มีเส้นคสามผันผวนน้อยที่สุดในระแวกนี้

                กระนั้นมันก็ยังใล้ไม่ได้

                ไซเบอร์อายมองเห็นค่าความผันผวนของมิติได้ก็จริงแต่ว่าประตูมันกว้างมาก ถ้าไม่สำรวจดูทั้งหมดก็คงจะไม่รู้ว่าตรงไหนน้อยที่สุด

                ตอนนั้นเองมีนาที่อยู่ด้วยก็อาสาตัวเอง

                ถ้างั้นฉันจะช่วยหาอีกแรงค่ะ คุณเอพบูรอาร์อธิบายเรื่องไซเบอร์อายยูนิทมาให้แล้วรู้สึกว่าจะเชื่อมข้อมูลเข้ากับของคนอื่นเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ได้ด้วยนะคะ

                ผมก็จะช่วยด้วยอีกแรงฮะ

                เน็กส์ก็เสนอตัวด้วย

                ถ้างั้นทั้งสองคนแยกกันไปที่มุมฝั่งนั้น แสกนพื้นที่แล้วส่งข้อมูลกลับมาทีนะ

                นรินทร์พูด

                เมื่อทั้งสองคนแยกกันออกไปแสกนพื้นที่ของประตูมิติมุมอื่นและได้ข้อมูลของพื้นที่ทั้งประตูแล้ว นรินทร์จึงสรุปให้แฟรนเซียมฟัง

                มีจุดผันผวนน้อยที่สุดสี่จุดด้วยกันแล้วต้องทำยังไงต่อ

                แฟรนเซียมพยักหน้า

                ต้องส่งพลังงานที่รุนแรงพอจะฉีกกระชากมิติได้เข้าไปที่จุดพวกนั้น เราจะสร้างคลื่นผันผวนที่รบกวนสมดุลของทั้งประตูถ้ามีสี่จุดก็ต้องทำทุกจุดเลยไม่อย่างนั้นพลังงานจะถ่ายออกไปนอกพื้นที่แล้วเราก็จะล้มเหลว

                คำพูดของแฟรนเซียมหากจะพูดให้เข้าใจแบบง่ายๆ แล้วก็เปรียบประตูมิติเป็นถาดทำน้ำแข็งที่น้ำยังไม่เต็มในบางช่อง การอัดพลังที่ว่าก็คือการเติมน้ำลงไปให้ตรงช่องที่ยังไม่มีน้ำเพราะถ้าไปเติมใส่จุดอื่นที่น้ำเต็มแล้วน้ำก็อาจจะล้นออกนอกถาดก่อนที่จะไหลไปยังช่องที่น้ำน้อยทำให้เกิดการเสียเปล่า ซึ่งก็หมายความว่าพลังงานที่พวกเขาส่งเข้าไปทำลายสมดุลจะเข้าไปไม่เต็มที่นั่นเอง

                ถ้างั้นใช้สกิลท่าไม้ตายอัดลงไปน่าจะพอทำให้มิติฉีกกระชากได้สินะ งั้นจะบอกมีนา กับเน็กส์”…”

                ทว่า แฟรนเซียมก็พูดขัดเอาไว้ก่อน

                แค่นั้นยังไม่พอหรอก จังหวะมันต้องตรงกันด้วย

                งั้นแค่นับสัญญาณพร้อมกันก็ดได้นี่

                ไม่ได้ ถ้าคลาดเคลื่อนไปแค่มิลลิวินาทีก็ใช้ไม่ได้แล้ว อีกอย่างจังหวะการปล่อยพลังของแต่ละคนไม่เท่ากันถ้าไม่ใช้วิธีปล่อยพลังออกไปแล้วหน่วงไว้ให้ปล่อยออกไปได้พร้อมกันเป๊ะๆ ก็ล้มเหลวแน่นอน

                นรินทร์จ้องมองแฟรนเซียมด้วยสายตาใคร่รู้ แต่ไม่ใช่เรื่องวิธีการแก้ปัญหาแต่เป็นความรู้ของแฟรนเซียมต่างหาก

                ทำไมถึงรู้ถึงขนาดนั้นล่ะครับ

                แฟรนเซียมตอบอย่างง่ายดายด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ง่าย

                ฉันคือคนที่ใช้ดาบมังกรมารอาซีดาฮากามาก่อน การใช้พลังที่เล่นสนุกกับมิติได้แบบนั้นก็ไม่แปลกที่จะมีความรู้ความเข้าใจมากใช่ไหมล่ะ

                ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีกูรูเรื่องประตูมิติอยู่กับพวกเขาแล้ว

                นรินทร์ที่หมดข้อสงสัยสุดหัวใจก็ถามว่า

                งั้นเราจะทำยังไงถึงจะปล่อยออกไปได้พร้อมกันล่ะ

                ตอนนั้นเอง นิวก็เสนอตัวขึ้นมา

                พี่รินหนูช่วยได้นะ

                นรินทร์ก้มหน้ามองเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เธอสูงเท่าเอวแฟรนเซียมเท่านั้นและที่ผ่านมาก็เป็นคนขี้อายที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ส่วนมากแล้วเน็กส์ที่อยู่กับเธอจะเป็นคนที่ช่วยพูดเรื่องของเธอให้

                แต่นิวในตอนนี้แตกต่างออกไป เธอมีแววตาที่เปล่งประกายกว่าแต่ก่อนและใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น ดังนั้นน่าจะเชื่อใจคำพูดอาสาตัวเองนั่นได้

                นรินทร์เริ่มนึกถึงอาขีพของนิว เหตุผลที่เธอบอกว่าช่วยพวกเขาได้

                นั่นสิ ถ้าเป็นนิวที่มีบิลด์คลาสเป็นมาริโอเน็ตต้าก็จะใช้สกิลควบคุมพวกเราให้ปล่อยการโจมตีออกไปพร้อมๆ กันได้

                นรินทร์เงยหน้าขึ้นมองแฟรนเซียน

                แผนนี้น่าจะใช้ได้

                ทั้งที่แฟรนเซียมพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยแล้วแต่ก็ยังพูดขัดแย้งมาอีก

                แต่ภาระการตัดสินใจจะมาตกอยู่กับเด็กคนนี้ ถ้าไม่แม่นยำจริงๆ มันก็ยังเสี่ยง

                ถ้ามีคนที่แม่นยำเรื่องเวลากับจังหวะแล้วก็คำนวณเก่งๆ ก็ดีสิ

                นรินทร์ตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง

                ตอนนั้นเอง....

                เฮ้ สิงห์!

                พันโทข้าวหลามตะโกนมาจากจุดที่ความมืดของประตูยังแผ่ไปไม่ถึง วิเชียรมาศเองก้อยู่กับเขาด้วย

                แฟรนเซียมพูด

                อ้อ มีอยู่คนหนึ่งนี่นะ

                หรือว่าจะหมายถึงพันโทข้าวหลามกันนะ

                พันโทเขาคำนวณเก่งเหรอครับ

                นรินทร์ถามขณะที่คิดตามหลักเหตุผลไปด้วย ซึ่งมันก็พอจะมีเค้าอยู่บ้าง พันโทข้าวหลามเป็นนักแม่นปืนฝีมือเยี่ยมของกิลด์เซเวียร์ บางทีฝีมือเล็งยิงนั่นอาจจะมีส่วนมาจากความแม่นยำและคำนวณเก่ง...

                ตรงกันข้ามเลยต่างหาก หลามมันนิ่งแค่เรื่องปืนเท่านั้นแค่มาประชุมให้ตรงเวลามันยังไม่เคยมาทันซักครั้งเลย

                เอ๋ ถ้างั้น....

                ที่ฉันพูดน่ะหมายถึงวิเชียรมาศต่างหากเธอมีบิลด์คลาสแมทจิกเชี่ยน ที่เป็นจอมเวทย์คณิตศาสรตร์อยู่ไงล่ะ

                นรินทร์ทุบมือดังปึก

                จริงสิ แมทจิกเชี่ยนมีสกิลเกี่ยวกับการทำจังหวะแล้วก็ควบคุมเรื่องของเวลาได้แถมถ้าเป้นคุณวิเชียรมาศล่ะก็ทำงานเอกสารบ่อยๆ ความแม่นยำก็น่าจะสูงด้วย

                เมื่อได้ข้อสรุปแล้วแฟรนเซียมก็เปิดหน้าจอสื่อสารติดต่อไปหาวิเชียรมาศ

                วิเชียรมาศเดี๋ยวจะให้เธอช่วยหน่อยแล้วก็หลาม

                เออ ว่าไง

                พันโทตอบรับโดยแทรกใบหน้าเข้ามาในจอของคุณวิเชียรมาศ

                แฟรนเซียมพูด

                แกไปดูพวกที่ฝึกกองทัพแล้วควบคุมสถานการณ์อย่าให้เกิดความวุ่นวายถ้าพวกสัตว์เทวะไปถึงที่นั่นก็ให้หลบหนีไป พวกของอิงศรจะเก็บกวาดพวกมันเอง

                เข้าใจล่ะ

                พอตอบรับแล้วพันโทก็ย้ายหน้าออกจากจอ ที่จุดที่พวกเขามองเห้นทั้งสองคนปลายสายนั่นพันโทก็วิ่งออกไปแล้วด้วย เหลือแค่คุณวิเชียรมาศ

                แล้วจะให้ดิฉันทำอะไรหรือคะ

                วิเชียรมาศถาม

     

                @@@@@

     

                ....ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง....

                พวกมิ่งขวัญที่แยกออกไปยับยั้งสัตว์เทวะก็กำลังตึงมืออยู่เช่นกัน

                รอยัลเซเบอร์

                มิ่งขวัญไถลมือไปบนตัวดาบ ทำให้แสงห้อมล้อมมันแล้วแทงดาบออกไปข้างหน้า

                บริโอแน็กส์

                แสงสว่างบนตัวดาบพุ่งทะยานออกไป มิ่งขวัญแทงดาบแสงที่ยืดยาวนั่นใส่คอของสัตว์เทวะเสือขาว

                เสือขาวยักษ์คำรามลั่นก่อนจะล้มตึงแล้วสิ้นใจลงตรงนั้น

                ขวัญข้างบน!”

                เสียงของกวินทร์ดังมา มิ่งขวัญจึงแงหนหน้าขึ้นมอง

                สัตว์เทวะหงส์ตัวใหญ่เท่าเครื่องบินและมีร่างลุกโชนไปด้วยไฟกำลังดิ่งลงมา มันคิดจะชนเขาแล้วเผาให้ตายด้วยไฟบนร่างของมันสินะ

                จังหวะมันฉุกละหุกเกินไป มิ่งขวัญยังถูกการหน่วงเวลาของสกิลหลังจากปล่อยท่าไปแล้วดึงเอาไว้ทำให้ขยับร่างกายทันทีไม่ได้

                หลบไม่ทันแน่

                เด็กหนุ่มสบถ

                ใช้มิราจสิ

                เสียงของจูเนอร์มินาร์คนพี่สาวดังมาจากดาบในมือ

                ตัวดาบสีแดงดั่งไฟ ใบดาบแยกเป็นสองแง่ง โกร่งดาบก็เป็นแง่งเหมือนกัน ตราสัญลักษณ์ตรงโกร่งดาบดูคล้ายกับนกกำลังยกปีก ด้วยรูปแบบเช่นนั้นทำให้ดาบเล่มนี้เหมือนเป็นดั่งนกเพลิงอีกตัว

                แล้วก็ยังมีโล่สีแดงอีกอัน โล่ทรงดาวสี่แฉกที่เข้าคู่กันกับดาบที่ต่างก็เปลี่ยนมาจากของดั้งเดิมก่อนจะติดตั้งไพ่ ออริจินอาคานาร์ เข้าไป

                เวลาผ่านไปวินาทีหนึ่ง มิ่งขวัญพอจะขยับแขนได้บ้างแล้วแต่สัตว์เทวะก็เข้ามาใกล้จนถอยหนีตอนนี้ไม่ทัน

                มิราจ...ไอ้นั่นสินะ

                มิ่งขวัญตัดสินใจทำตามที่จูเนอร์มินาร์แนะนำ ก่อนหน้านี้เขาได้รับการบอกเล่ารายละเอียดพลังของร่างไฮพีเรี่ยนที่ใช้อยู่ในตอนนี้มาแล้ว

                มิ่งขวัญตั้งโล่ที่ติดกับแขนซ้ายขึ้นไปข้างบน

                โซเดียมิราจ!!”

                ทันใดนั้นโล่ก็เปล่งแสง แสงสว่างสีเงินยวงแผ่ออกจากอัญมณีตรงกลางปกคลุมโล่ พื้นผิวที่แสงสีเงินปกคลุมเอาไว้จะสะท้อนภาพได้ราวกับกระจก

                แต่ภาพที่สะท้อนบนโล่ไม่ใช่ภาพของสัตว์เทวะที่กำลังดิ่งลงมา หากแต่เป็นภาพของมิ่งขวัญ

                มีมิ่งขวัญสองคนยืนอยู่ในเงาสะท้อนของโล่ มิ่งขวัญคนหนึ่งมีใบหน้าสงบมีปีกสีขาวราวกับเทวทูต และอีกคนท่าทางดุร้ายราวกับสัตว์ป่า ใบหูก็เรียวแหลมกว่าของเขานิดหน่อยและมีปีกสีดำดั่งปีศาจ

                วินาทีถัดมาภาพสะท้อนก็มีชีวิตขึ้นมา มิ่งขวัญที่แตกต่างออกไปทั้งสองคนนั้นพุ่งออกจากโล่กระจก

                มิ่งขวัญทั้งสองบินทะยานจู่โจมสัตว์เทวะ ตัดปีกของมันขาดสะบั้นทั้งสองปีกทำให้มันเสียหลักและเบี่ยงออกไป มิ่งขวัญตัวจริงเลยรอดมาได้


                จุดที่สัตว์เทวะตกลงไปมีกวินทร์ยืนคอยท่าอยู่แล้ว พร้อมกับดาบคู่สีแดงที่มีเปลวไฟ สายฟ้า  น้ำแข็ง และเศษหิน หมุนวนรอบใบดาบ

                ดูเหมือนจะเป็นการเสริมพลังอาวุธที่เหนือขึ้นไปกว่าปกติ

                มิ่งขวัญเองก็เป็นเอลเมนทัลเอนแชนเตอร์เหมือนกันจึงมองออก ว่าพลังของธาตุที่อยู่บนตัวดาบทั้งสองเล่มนั้นเป็นการเสริมพลังโดยไม่ได้แบ่งกันเสริมสองธาตุต่อเล่มเหมือนที่เคยทำ

                แต่เป็นสี่ธาตุทั้งสองเล่มเลย

                กวินทร์ตวัดดาบทั้งสองเล่มนั้นพร้อมกับตะโกนร่ายสกิล

                ท่าฟันแปดธาตุ ไฟนอลแสลช!”

                พริบตานั้นเอง ตุทั้งสี่ที่วนอยู่รอบใบดาบก็ควบรวมกันเป็นแสงสว่างสีทองฉาบลงไปบนดาบ กวินทร์ตวัดดาบเร็วไปหน่อย เพราะสัตว์เทวะยังเข้าไม่ถึงระยะฟัน

                กระนั้นสัตว์เทวะก็ถูกฟันร่างขาดเป็นสี่ส่วนอยู่ดี เพราะแสงที่ฉาบใบดาบพุ่งออกมาทำการโจมตีแทน

                ร่างมหึมาของสัตว์เทวะสลายหายไปไม่เหลือแม้แต่ซาก

     

                กวินทร์โบกมือให้แล้วตะโกนมา

                จัดการเรียบร้อยแล้ว

                มิ่งขวัญพยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะจัดการสลายร่างแยกของเขาที่สร้างขึ้นจากโล่ แล้วค่อยเดินไปรวมกับกวินทร์

                ทว่า...

                ระวัง!!”

                มีเสียงตะโกนดังแว่วมา จากนั้นฟูกับพลอยก็ปรากฏตัวขึ้นห่างออกจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ไม่ไกลนัก

                ทั้งฟูและพลอยช่วยกันปัดทำลายฉลามน้ำ ที่สัตว์เทวะเต่าสีดำปล่อยออกมา มันเป็นสัตว์เทวะจ่าฝูงกลุ่มเดียวกับเสือขาวและหงส์ไฟที่เพิ่งกำจัดไป

                พลอยหันมาถาม

                ทั้งสองคนไม่เป็นไรนะ

                ครับ มาช่วยได้ทันเวลาพอดีเลย

                กวินทร์ตอบไปอย่างสุภาพ

                จากนั้นฟูก็พูดบ่นโดยที่ยังเหวี่ยงค้อนปัดฉลามอยู่

                 พลังที่ได้มาใหม่มันก็สุดยอดอยู่หรอก แต่ว่านะ...

                จำนวนของฉลามเพิ่มมากขึ้นทำให้ฟูต้องหยุดพูดกะทันหันแล้วทุ่มสมาธิกับการป้องกัน

                มิ่งขวัญเลยพูดต่อให้

                อืม ถ้าประตูยังไม่ปิดแบบนี้กำจัดเท่าไหร่ก็ไม่หมดหรอก

                ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่มิ่งขวัญกังวลอยู่เหมือนกัน พวกเขาสู้ต่อเนื่องมาได้ซักพักแล้วแต่จำนวนของสัตว์เทวะกลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลงไปเลย

                แล้วตอนนั้นเอง...

                เสียงปืนดังขึ้น

                ไม่ใช่แค่นัดหรือสองนัด แต่ดังรัวหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แถมยังดังกระหึ่มราวกับขนปืนใหญ่มาเป็นกองทัพ

                มิ่งขวัญและอีกสามคนมองไปทางนั้น

                สัตว์เทวะเต่ายักษ์หยุดโจมตีพวกเขาเพราะมันกำลังถูกปืนของมิกซ์ไล่ต้อน

                มิกซ์ที่ไฮพีเรียลไรซ์แล้วสามารถโผบินกลางอากาศได้อย่างอิสระด้วยปีกที่เหมือนกับเศษโลหะแต่กลับบินได้สูงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ความเร็วจะไม่หวือหวาแต่ความสูงเป็นสิ่งที่เด่นชัดที่สุด มิกซ์บินขึ้นไปจนแทบจะสัมผัสกับท้องฟ้าที่เป็นทะเลข้อมูล

                แล้วกราดยิงด้วยปืนคู่ในมือกับปืนเรลกัน (ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า) อีกสองกระบอกที่ห้อยมาจากปีกที่หลังทำการยิงต่อเนื่องไม่ให้สัตว์เทวะได้หยุดพัก

                แต่ตัวการที่ทำเสียงระเบิดดังกระหึ่มเหมือนปืนใหญ่กลับไม่ใช่มิกซ์ แต่เป็นเมษา

                เมษาได้สนับมือปืนกลมาคู่หนึ่งกับตู้คอนเทนเนอร์สีขาวใบใหญ่ที่มีสายไฟต่อระโยงรยางค์ไปที่แบ็กแพ็คบนหลัง กำลังรัวสนับปืนกลยิงใส่สัตว์เทวะ จากข้างล่าง

                ในที่สุดพลังชีวิตของสัตว์เทวะก็ลดลงหมด โดยที่มีกระสุนฝังเจาะจนร่างแทบจะพรุนเป็นรังผึ้ง ร่างของมันจึงสลายไป

                มิกซ์บินลงมาทางนี้

                 นี่ดูนั่นสิ

                พร้อมกับชี้ไปยังทางที่ประตูมิติเปิดให้วัตว์เทวะผุดขึ้นมา

                นั่นมันอะไรน่ะ

                มิ่งขวัญพูดด้วยความตกใจ

                ฝั่งพี่นรินทร์คงหาทางอะไรได้แล้วล่ะมั้ง

                กวินทร์เดาเอา

                ท่ามกลางความมืดมิดที่แผ่กว้างไพศาลอยู่บนพื้นมีจุดที่ส่องแสงสว่างอยู่สี่จุด เหมือนกับว่ามีการระเบิดที่รุนแรงเกิดขึ้นตรงจุดพวกนั้น

                 เฮ้ ดูสิความมืดมัน

                ฟูสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้เป็นคนแรก จากนั้นคนอื่น ก็เริ่มเห็นว่าความมืดกำลังหดตัวลงไปหาจุดที่มีแสงสว่างส่องออกมา

                หายไปแล้ว

                พลอยพูด

                ความมืดกำลังจะหายไปหมด ไม่มีสัตว์เทวะผุดขึ้นมาจากที่นั่นอีกต่อไป

                สำเร็จแล้วสินะครับ ทีนี้ก็ไม่มีสัตว์เทวะออกมาเพิ่มอีกแล้ว

                กวินทร์พูด

                ดีล่ะงั้นที่เหลือก็แค่เก็บกวาดเจ้าพวกนี้

                มิ่งขวัญยิ้มออกพลางกระชับดาบในมือแล้วหันไปเตรียมจะออกตัวไปจัดการสัตว์เทวะที่เหลืออยู่

                ฉันจัดการเอง

                แต่เมษาที่ไม่รู้ว่ามาถึงตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ออกมาขวางไม่ให้มิ่งขวัญออกไป

                กวินทร์ถาม

                พี่เมษาคนเดียวเลยเหรอครับ

                เออ ฉันเองนี่แหละพวกนายหลบไปก่อนเดี๋ยวโดนลูกหลงเอา

                ถึงพวกเขาจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยอมหลบให้เมษาได้ทำตามที่ต้องการ ซึ่งที่จริงแล้วเพราะอุปกรณ์ของเมษาที่ใหญ่เทอะทะมันเกะกะจนขวางทางไปหมดนั่นเอง

                เมษาพูด

                โดโรธีเมื่อกี้บอกว่าสกิลอันติมันกลายเป็นโซเดียอิมแพคแล้วใช่มะแล้วยังไงต่อ

                เล็งโซเดียลิเบอเรเตอร์แทงค์บนหลังของเจ้าไปที่เป้าหมายแล้วพูดว่าโซเดียอิมแพคลิเบอเรชั่นบลาส

                เสียงของโดโกบาร์ดังออกมาจากหูฟังไร้สายที่ได้มาจากการไฮพีเรียลไรซ์เหมือนกัน

                ไม่ต้องใช้ยูนิท ไม่ต้องมีเงื่อนไขร่ายเพิ่มด้วยสินะ โอเค

                เมษากางขาออกเต็มที่แล้วหันลำตัวไปทางที่พวกสัตว์เทวะกระจุกตัวกันอยู่ เพราะตลอดเวลาที่สู้อยู่ที่นี่พวกเขาต้อนพวกมันให้ไปรวมกันจะได้ไม่มีตัวไหนหลุดรอดไปได้

                โซเดียอิมแพค ลิเบอเรชั่นบลาส!!

                เมษาตะโกน

                แผงตู้คอนเทนเนอร์ที่ลอยตัวอยู่ด้านหลังเมษาก็ทยอยเปิดฝาพับที่ปิดออก

                ภายในนั้นเป็นปากกระบอกปืนใหญ่จำนวนมากบรรจุอยู่หลายกระบอก หนึ่งในนั้นเริ่มส่งเสียงกัมปนาทแล้วพ่นไฟออกมา

                จากนั้นกระบอกอื่นๆ ก็เริ่มยิงบ้าง โดยที่มีทั้ง หัวรบมิสไซล์ ลำแสง กระสุนไฟ ไม่ซ้ำกันเลยซักแบบถูกยิงออกมาจากคอนเทนเนอร์

                ทั้งหมดพุ่งออกไปเป็นเส้นตรงมุ่งไปหาสัตว์เทวะแล้วแตกกระจายออกหรือไม่ก็เบี่ยงวิถีไล่ตามตัวที่หนี

                เสียงระเบิดกัมปนาทดังอย่างต่อเนื่อง แถบพลังชีวิตที่เห็นเป็นเส้นสีแดงลอยอยู่เหนือหัวพวกมันหดหายวับไปราวกับเล่นกล


                กวินทร์มองภาพเช่นนั้นแล้วก็พลันนึกถึงเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันขึ้นมา

                ครั้งหนึ่งที่มนุษย์อย่างพวกเขาตกอยู่ในสภาพเดียวกับพวกสัตว์เทวะนั่น

                ตอนที่อิงศรขึ้นบังคับเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรก พลังของดีเซมแมร์ทำให้องค์กรรแสนยิ่งใหญ่อย่างเมตไตรยกลายเป็นแค่รังปลวกแล้วพวกเขาก็ถูกฆ่าตายอย่างง่ายๆ ไม่ต่างกับมดปลวกเลยทีเดียว

                แล้วตอนนี้พลังอันยิ่งใหญ่แบบตอนนั้นก็มาอยู่ในมือของพวกเขาแทน

                ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงปืนก็สงบลง คอนเทนเนอร์ของเมษาหยุดยิงแล้วฝาพับก็ปิดตัวลง

                พวกสัตว์เทวะที่เคยอยู่กันมืดฟ้ามัวดินพากันอันตรธานหายไปหมด

                สุดยอด

                มิ่งขวัญพูด

                แจ๋วไปเลยครับพี่เมษา!!

                กวินทร์ออกปากชมอย่างอดเสียมิได้

                แต่ท่วา...

                แม้จำนวนจะลดลงไปมากแต่ก็ยังมีสัตว์เทวะที่เหลือรอดอยู่บ้างเหมือนกัน

                ฟูพูด

                แต่กลายเป็นว่ามีพวกมันที่รอดกระจัดกระจายกันไปคนละทิศหมดเลยนะแบบนี้ก็ต้องลำบากตามไปเก็บอีกสิ

                กึ๋ย

                เมษาสะดุ้งตัวลอยไปกับคำพูดแทงใจดำนั่น แต่กวินทร์ก็รีบออกตัวเสนอให้ทุกคนรีบไปจัดการ

                งั้นรีบตามไปจัดการเหอะครับ

                เดี๋ยวก่อนสิ นี่พวกมันหนีไปทางพี่ศรอยู่ไม่ใช่เหรอ

                พลอยพูด

                มิ่งขวัญหันไปมองทางนั้น

                สัตว์เทวะที่คิดว่าจะกระจัดกระจายกันไปคนละทางกลับกำลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน พวกมันคิดจะไปรวมตัวกันที่นั่น

                ที่ๆ อิงศรกับเมอร์คาบาห์กำลังต่อสู้กันอยู่

                ศร!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×