ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #278 : Extra Log 274: พลังที่สืบทอด 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 120
      6
      29 ต.ค. 61

    Extra Log 274: พลังที่สืบทอด 1

     

                จาก 12 กลายเป็น 22

                และตอนนี้จาก 22 ก็ย้อนกลับไปเป็น 12

                นั่นคือประวัติศาสตร์ที่เรียกว่าอาคานาร์

     

                อมฤตกำลังไหลบ่าเข้ามา

                ที่รู้ว่าเป็นแบบนั้นก็เพราะรู้สึกถึงพลังที่เอ่อล้นจากภายในกำลังดึงเอาพลังจากภายนอกเข้ามาสู่ร่างกาย เป็นหลักการทำงานเหมือนกับเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์...

                จิตใต้สำนึกบอกอิงศรเช่นนั้น

                เป็นการรับรู้เหมือนกับการที่เรียกพวกสัตว์ประหลาดว่า สัตว์เทวะ

                ร่างกายในตอนนี้เป็นเหมือน ไฮพีเรี่ยน ร่างซึ่งบิดเบือนกฎของ กาล-อวกาศ ความรู้สึกที่ได้อยู่ในร่างแบบนี้คือความรู้สึกที่แปลกใหม่ ราวกับว่าตัวเองทำการปฏิวัติอยู่ตลอดเวลา รู้สึกได้ถึงกระแสอันขัดแย้งจากมิติรอบตัวที่พยายามปฏิเสธการมีตัวตนในตอนนี้

                นี่ก็คือ อสุรา สินะ

                ครั้งหนึ่ง สมัยที่ออร์ฟี่ยังเป็นซีลอร์ดก็ได้บอกกับเขาเอาไว้ว่า

                เมื่อมนุษย์รับเอาอมฤตเข้าไปแล้ววิวัฒนาการ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็น อสุรา

                .....

                อิงศรจ้องมองไปยังเมอร์คาบาห์ โดยที่ตนกำลังเล็งหน้าไม้ไปที่นั่นโดยที่...

                กำลังบินอยู่กลางอากาศกันทั้งคู่

                ความรู้สึกที่ได้บินกลางอากาศมันไม่ได้แปลกใหม่สำหรับเขาเลยซักนิดเพราะว่าเคยทำตอนที่ใช้ เดม่อนแอพสเลปเนียร์มาหลายครั้งแล้ว แต่สิ่งที่แปลกใหม่ก็คืออุปกรณ์ปีกจักรกลที่อยู่บนหลังของตัวเองตอนนี้คือตัวช่วยพยุงร่างกายให้ลอยอยู่กลางอากาศได้โดยท้าทายกฎของแรงโน้มถ่วงอย่างน่าอัศจรรย์นี่ต่างหาก

                แม้จะผ่านการทดสอบของต้นไม้แห่งชีวิตและได้รับพลังใหม่กับร่างใหม่นี้มาแล้ว แต่เมอร์คาบาห์ก็ยังถือข้างที่จะคืนชีพให้ซูลวาน

                ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องสู้กันเท่านั้น ต้องเอาเมอร์คาบาห์กลับคืนมาจากซูลวาน

                ชาร์คชู้ต

                อิงศรลั่นไกหน้าไม้ทันทีที่ร่ายสกิล ชาร์คชู้ตทีปกติแล้วจะต้องใช้ยันต์อาคมหนึ่งแผ่นเป็นค่าใช้งานแต่ตอนนี้เงื่อนไขพวกนั้นมันไม่จำเป็น ด้วยพลังของ ซากิต้ามาเรเควียม สกิลที่มีคุณลักษณะเกี่ยวกับธนูหรือการโจมตีระยะไกลทั้งหมดจะใช้งานโดยไม่ต้องสนเงื่อนไข

                มวลน้ำรูปฉลามพุ่งออกไปจากหน้าไม้ ฉลามอ้าปากพุ่งใส่เมอร์คาบาห์

                แต่เมอร์คาบาห์แค่ตวัดใบดาบที่แขนเบาๆ ฉลามก็ขาดเป็นสองส่วนแล้ว แตกกระจายเป็นหยดน้ำ

                แต่ก็เพราะหยดน้ำมากมายที่แตกกระจายจากฉลามทำให้ทัศนิวิสัยถูกบดบัง จนเมื่อหยดน้ำกระจายตัวไปหมดแล้ว อิงศรที่เตรียมพร้อมโจมตีครั้งต่อไปก็ตั้งท่าจะยิงแล้ว

                อะ...

                เมอร์คาบาห์ขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่หนีไป หรืออาจจะกำลังลังเลว่าจะรับมือกับอาวุธของเขาอย่างไรอยู่ล่ะมั้ง

                อาวุธที่ว่าก็คือกระบอกปืนที่พับเก็บอยู่ในปีกจักรกล ตอนที่ฉลามแตกออก

                อิงศรก็ให้ปีกทั้งสองพับเข้าหากัน เมื่อปีกอยู่ตรงกับบริเวณหัวไหล่พอดี กระบอกปืนใหญ่ที่พับเก็บอยู่ในปีกก็ดันตัวเองขึ้นมาพาดบนไหล่โดยอัตโนมัติ

                โซเดีย!!”

                อิงศรคำราม

                เหมือนกับการร่ายสกิล นี่เป็นคำสั่งให้อุปกรณ์ที่เป็นเหมือนเครื่องทำสวนทำการโจมตี

                เสียงหวีดหวิวของอากาศดังขึ้น อากาศกำลังไหลเข้าไปในปากกระบอก

                จากนั้นลำแสงก็พุ่งทะยานออกไป เสียงปะทุของการยิงจากกระบอกปืนที่พาดอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างคงทำให้หูเขาดับไปแล้วถ้าไม่มีอุปกรณ์คล้ายกับหูฟังที่ติดมากับหมวกครอบหูปกป้องเอาไว้

                เมอร์คาบาห์ที่ไม่ทันตั้งตัวทำท่ายกแขนขึ้นเหมือนตั้งใจจะใช้ใบดาบตัดลำแสงแต่ก็เปลี่ยนใจเอาในวินาทีสุดท้ายแล้วบินหลักหลบออกไปด้านข้าง

                ลำแสงจึงพลาดเป้า...

                ไม่ใช่หรอก อิงศรไม่ได้ตั้งใจเล็งยิงเมอร์คาบาห์อยู่แต่แรกแล้ว

                ลำแสงที่ดูเหมือนพลาดนั้นพุ่งต่อไปและกระทบกับคุกแก้วที่ขังออร์ฟี่ซึ่งตอนนี้มันถูกหุ้มด้วยวัตถุสีดำที่ไม่รู้จัก ลำแสเข้าปะทะแล้วก็จริงแต่ก้อนกลมสีดำนั่นกลับไม่เป็นอะไรเลยซักนิดเดียว

                ชิ แข็งขนาดนั้นเลยเรอะ

                อิงศรสบถ ขณะเดียวกันปืนใหญ่ก็พับตัวเองกลับเข้าไปในปีกเพราะเมอร์คาบาห์กำลังพุ่งมาที่นี่

                หลบ...ไม่สิ ไม่ทันแน่

                อิงศรคาดการณ์จากความเร็วกับระยะทางแล้วฝั่งเมอร์คาบาห์ที่ออกตัวก่อนได้เปรียบแน่ ถ้าเขาหันหลังหนีก็จะถูกฟันจากข้างหลัง

                ถ้างั้นก็ต้องรับด้วยดาบ

                แต่ว่าดาบไม่มีอยู่แล้ว อาวุธที่ได้รับพลังใหม่มาไม่มีของที่ใช้ต่อสู้ในระยะประชิดเลย....

                มีสิ

                หา?”

                เสียงของดีเซมแมร์ดังแว่วมา แต่อิงศรไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร

                ที่หลังเอว

                อิงศรเอื้อมมือไปตามที่เสียงนั้นบอก

                นี่มัน

                เร็วเข้า

                เสียงนั้นเร่งเร้ามา ที่ๆ มือเขาเอื้อมไปนั้นมีบางอย่างเหน็บอยู่หลังเอว อิงศรเหลือบสายตาไปมองก็เห็นขนนกสีดำยื่นออกเป็นพู่ๆ ข้างเอวทั้งสองฝั่งตรงกลางที่มือเขาจับไปนั้น คล้ายกับมีที่ให้สอดมือเข้าไป

                ไม่มีเวลามาลังเลแล้ว อิงศรสอดมือเข้าไปในที่จับนั่นแล้วลองดึงออก มันส่งเสียงดัง ป๊อก เหมือนกับเสียงเปิดขวดโซดา แล้วสิ่งนั้นก็หลุดออก

                อิงศรดึงมันออกมาด้านหน้า มันเป็นอุปกรณ์ที่ดูคล้ายกับมือจับที่มีขนนกสีดำประดับเหมือนปีก เขาจ้องมองมันอย่างงุนงงอยู่เสี้ยวสินาทีหนึ่ง ก็เข้าใจขึ้นมาว่าสิ่งนี้มีรูปร่างเป็นอย่างไรแล้วมีไว้ทำไม

                ข้อมูลการใช้งาน วิธีใช้งาน วิธีต่อสู้ด้วยสิ่งนี้ไหลเข้ามาในหัวโดยตรง คิดว่าคงมาจากตัวอุปกรณ์ที่ตั้งเอาไว้ว่าเมื่อมันอยู่ในมือแล้วให้ส่งวิธีใช้งานมาให้

                อิงศรตวัดมือจับนั้นออกไปเหมือนตวัดดาบแล้วตะโกนไปพร้อมกัน

                โซเดียคัทเตอร์!!”

                พริบตานั้น ใบดาบลำแสงก็ยืดออกจากมือจับ กลายเป็นดาบไปนั่นเอง

                ใบดาบของเมอร์คาบาห์กับดาบลำแสงเข้าปะทะกัน เกิดเสียงปะทุดัง จี่ คล้ายเสียงเชื่อมเหล็ก

                ว้ากกก!!”

                อิงศรดันดาบออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว เพียงแค่นั้นก็ทำให้เมอร์คาบาห์ถอยออกไปได้ พลังกล้ามเนื้อก็เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าอย่างลิบลับ

                อิงศรเล็งหน้าไม้ไปตอนที่เมอร์คาบาห์ยังพยายามทรงตัวหลังจากถูกดันจนเสียหลัก อิงศรลั่นไก

                ลูกดอกที่ยิงจากหน้าไม้ใหม่ก้เป้นลำแสงที่เหมือนกับพวกเครื่องทำสวนปล่อยออกมาลำแสง โซเดีย หรือก็คือลำแสงที่เกิดจากการบีบอัดอนุภาคของ อมฤต จนกลายเป็นก้อนพลังงานแล้วยิงออกไป เมื่ออยู่ในสภาพควบแน่นเป็นลำแบบนั้น อมฤต จะมีความเปราะบางและระเบิดทันทีที่สัมผัสกับอะไรก็ตาม

                เมอร์คาบาห์บินเบี่ยงซ้ายหลบลูกดอกแสงทั้งหมด คงจะรู้เรื่องคุณสมบัติระเบิดทันที จากการที่เคยสู้กับออร์ฟี่ในการทดสอบเมื่อนานมาแล้ว กับรู้ด้วยว่าลำแสงอมฤตไม่สามารถลบล้างด้วยความสามารถลบล้างภาพลวงตาอย่าง อิลูชั่นเบรกเกอร์ ได้

     

                @@@@@

     

                ขณะเดียวกันคนที่ต้องต่อสู้ก็ไม่ได้มีแค่อิงศรคนเดียว

                ภายในสวนศักดิ์สิทธิ์กำลังเกิดความยุ่งเหยิง สับสนอลหม่านไปหมด

                เพราะที่กลับมาจากดินแดนแห่งความตายไม่ได้มีแค่พวกมิ่งขวัญแต่สัตว์เทวะ ในดินแดนนั่นก็ไล่ตามมาด้วย โดยผ่านทางเวิ้งแห่งความมืดที่เป็นเสมือนประตูมิติ เปิดแผ่อยู่บนพื้น

                ประตูมิติไม่ได้แค่เปิดอยู่เฉยๆ แต่มันยังแผ่ขยายออกไปด้วย

                นี่ฉันว่าไอมืดๆ นี่มันกว้างขึ้นกว่าเมื่อกี้นะ

                เมษาพูด

                ฉันก็คิดงั้นเหมือนกันค่ะบางทีถ้าไม่ทำอะไรกับเจ้านี่มันอาจจะแผ่ไปทั้งสวนแล้วก็ทำให้สัตว์เทวะออกมากันไม่หยุดก็ได้

                มีนากล่าวเสริม

                งั้นก็ต้องปิดมันก่อนจะเป็นแบบนั้น

                แฟรนเซียมพูดจากนั้นก็ชี้ไปที่ท้องฟ้า

                บนท้องฟ้านั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือจุดที่พวกสัตว์เทวะแห่กันไปกระจุกตัวอยู่ กับอีกส่วนที่อิงศรกับเมอร์คาบาห์กำลังปะทะกัน เพราะการต่อสู้ของทั้งสองรุนแรงเป็นอย่างมากทำให้ไม่มีสัตว์เทวะตัวไหนกล้าย่างกรายเข้าไป

                แล้วจะหยุดมันยังไงเล่า

                ฟูถาม

                วิธีที่จะหยุดหายนะคราวนี้จะมีอยู่จริงๆ น่ะเหรอ มิ่งขวัญได้ตั้งคำถามกับตัวเองอย่างนั้น

                เขามองเหตุการณืมาซักพักแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ต่อให้หัวทึบแบบตัวเองก็ยังเข้าใจดีว่ามันสิ้นหวัง

    ขนาดไหน

                แล้วต่อให้รู้วิธีจริงๆ ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ด้วยรึเปล่า

                แฟรนเซียมพูดตอบที่ฟูถาม

                ประตูนี่เกิดขึ้นจากการบิดเบือนของมิติถ้าสร้างระเบิดพลังงานที่สามารถฉีกกระชากมิติได้มันก็จะไปรบกวนการเชื่อมต่อประตูก้จะปิดตัวลงไปเอง

                ระหว่างที่พูดอยู่สัตว์เทวะกอลิร่าที่เพิ่งจะผุดขึ้นมาจากใต้ประตูมิติก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา

                กวินทร์พุ่งออกไปรับมือมันด้วยดาบที่ถือไว้ตั้งแต่แรกเพราะตอนอยู่ในดินแดนแห่งความตาย กวินทร์เป็นคนที่โดนสัตว์เทวะไล่ล่า

                กวินทร์ประสานดาบที่แยกเป็นสองเล่มด้วยโหมดเทคนิคัลเวพ่อน ต้านรับกำปั้นของกอลิร่าเอาไว้

                อึก

                แรงกำลังอันมหาศาลดันกวินทร์ถอยครูดกลับมาถึงหน้ากลุ่มพวกเขา

                เจ้านี่มันที่ไล่ตามผมเมื่อกี้นี่นา

                กวินทร์พูดแบบนั้น

                ดูเหมือนสัตว์เทวะตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกับที่กวินทร์เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้

                นอกจากกอลิร่าแล้วมิ่งขวัญก็จ้องมองไปยังสัตว์เทวะแต่ละชนิดที่ออกมาจากประตูมิติด้วย

                พวกมันเป็นชั้นจ่าฝูงระดับที่อยู่ในเรดบอสกันแทบทุกตัว พวกที่ไม่ใช่ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกน้องที่พวกระดับจ่าฝูงสร้างขึ้นมาอีกที

                นอกจากจะต้องปิดประตูแล้วก็ต้องกำจัดสัตว์เทวะที่หลุดออกมาก่อนด้วย แต่การจะกำจัดทั้งหมดนี่เป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้จะปิดประตูได้แต่ปริมาณของสัตว์เทวะที่ออกมาแล้วก็ยังมีมากเกินกว่าจะรับมือไหว

                มีแผนไหม

                มิ่งขวัญถามแฟรนเซียม

                ฉันเหรอ

                แฟรนเซียมถามว่ากำลังพูดกับเขาอยู่รึเปล่าสินะ

                นั่นสิจะสงสัยก็ไม่แปลกหรอกก็ขนาดตัวเองยังแปลกใจเลยที่คิดไว้ใจแฟรนเซียมขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตั้งแง่อีกแล้ว อีกอย่างในการทดสอบที่ผ่านมามันก็ทำให้รู้ตัวแล้วด้วยว่าเขาจะเอาแต่พึ่งพาอิงศรอย่างเดียวไม่ได้ มีครอบครัวกับพวกพ้องที่จะให้ยืมพลังอยู่อีกต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะหายนะคราวนี้

                ใช่ ถามนายนั่นแหละ

                แฟรนเซียมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางแค่นเสียงขึ้นจมูก

                เฮอะ เอาเถอะตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งพูดคุยเรื่องความบาดหมางนี่นะ แผนน่ะมันก้มีอยู่หรอกแต่พลังมีไม่พอนี่สิ

                ตอนนั้นเอง เน็กส์ก็พูดแทรกเข้ามา

                พี่ขวัญฮะไพ่นี่ไงครับ

                เด็กชายเดินถือไพ่เข้ามา ไพ่อาคานาร์ที่พวกเขาเองก็มีกันทุกคน

                อาคานาร์ประหลาดที่มรูปตัวเองอยู่บนหน้าไพ่

                เน็กส์พูดถึงไพ่นั้นด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างประหลาด

                ลองเงี่ยหูฟังเสียงไพ่ดูสิครับ

                ถึงจะยังไม่เข้าใจแต่ทั้งมิ่งขวัญ ทั้งแฟรนเซียมก็ทำตาม

                มิ่งขวัญรู้จักเน็กส์พอๆ กับที่อิงศรรู้ว่าเน็กส์นั้นเป็นเด็กที่ฉลาดแต่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกถ้าไม่ใช่ว่ามีเหตุจำเป็นจริงๆ ดังนั้นถ้าเน็กส์พูดขึ้นมาเองก็ต้องเป็นเรื่องที่จริงจัง

                แต่ว่าแฟรนเซียมก็รู้ถึงเรื่องนั้นด้วยเหรอ?

                ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงต้องถามกลับไปแล้วว่า พูดถึงเรื่องอะไรอยู่ หรือไม่ก็อาจจะคิดอยู่ในใจ

                เอาอาคานาร์ติดตั้งลงอาวุธสิ

                ได้ยินอย่างที่เน็กส์พูดจริงๆ  เป็นเสียงของจูเนอร์มินาร์คนพี่สาว

                นั่นเธอเหรอ

                มิ่งขวัญถามกลับไป

                ขณะเดียวกันแฟรนเซียมก็พูด

                ดูเหมือนว่าพวกเครื่องทำสวนจะกลายเป็นไพ่ไปแล้วนะพวกนายลองฟังเสียงของมันดูสิ

                คนอื่นๆ เริ่มทำตาม

                ได้ยินจริงๆ ด้วยค่ะเสียงของคุณเอพบูรอาร์

                มีนาพูด

                แต่ให้เอาไพ่ติดตั้งลงไปในอาวุธนี่ต้องทำยังไงล่ะ

                มิกซ์พูด

                อาจจะให้ทำแบบนั้นก็ได้มั้ง

                นรินทร์ชี้ไปยังท้องฟ้าที่อิงศรกับเมอร์คาบาห์สู้กันอยู่

                ตอนที่ขวัญขว้างธนูไปให้ผมเห็นอิงศรยื่นไพ่ไปแตะกับธนูจากนั้น อิงศรก็แปลงร่างเป็นแบบนั้น

                งั้นแค่เอาไพ่นี่แตะกับอาวุธก็พอสินะคะ

                มีนาพูด

                มิ่งขวัญตอบรับคำพูดนั้น

                ถ้างั้นก็ไปกันเลยเถอะ

                แล้วยกไพ่อาคานาร์ขึ้นมา คนอื่นๆ จึงเริ่มทำตาม

                ตอนนั้นเอง กวินทร์ก็ถอยฉากออกห่างจากกอลิร่าแล้วกลับมารวมกลุ่ม

                มีเสียงจากไพ่ดังขึ้นมาอีก เป็นเสียงของเครื่องทำสวนแต่เครื่องที่พวกเขาเข้ารับการทดสอบด้วย

                เสียงนั้นบอกให้พูดตาม

                ออริจินอาคานาร์ เรดดี้!! (Origin Arcana Ready)

                เสียงทั้งสิบเอ็ดประสานกันก่อนที่ไพ่อาคานาร์จะถูกวางลงบนอาวุธ

                มันใดนั้นหน้าจอระบบก็เปิดขึ้นต่อหน้าทุกคน หน้าจอนั้นแสดงออกมาแบบนี้

     

                [ARTIFACT HYPEREALIZE]

     

                ไพ่อาคานาร์เปล่งแสง แสงสว่างขยายตัวออกมาจากทั้งสิบเอ็ดจุดรวมกันกลายเป้นโดมไฟที่ส่องสว่างสดใสท่ามกลางความมืดมิดของประตูมิติ

                แต่แสงสว่างก็ไม่อาจข่มขวัญสัตว์เทวะได้ กอลิร่าปล่อยหมัดของมันตรงมาที่นี่

                ก็อดเวพ่อน!!”

                เสียงตะโกนของทั้งสิบเอ็ดคนดังกังวาน แล้วร่างของกอลิร่ายักษ์ก็ขาดเป็นสี่ส่วน

                มองเห็นเหมือนกับว่าทิวทัศน์ด้านหลังมันถูกตัดเป็นรอยกากบาทไปแวบหนึ่ง

                แสงสว่างดับมอดลง เรือนร่างของกวินทร์ที่ทำการโจมตีสวนกลับเผยโฉมออกมา

               


     

                ดาบคู่สีดำที่เคยแยกออกมาจากดาบเล่มเดียว กลายเป็นดาบใหม่ที่มีขนาดของแต่ละเล่มเท่าๆ กับดาบดั้งเดิม ปลายดาบแยกออกเป็นแฉกคล้ายก้ามปู ตัวดาบสีแดงก่ำ โกร่งดาบยื่นออกคล้ายใบหูกระต่าย ที่มันมีลักษณะแบบนั้นก็เพราะเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ที่ทำการทดสอบเขาคือจูลลับบิทตาร์ที่เป็นการควบรวมนักษัตรกระต่ายกับราศีกรกฏนั่นเอง

                นอกจากดาบก็มีผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มเพิ่มเข้ามา รู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่จากผ้าคลุม พลังที่ห่อหุ้มและยกร่างของเขาลอยจากพื้น ดูเหมือนว่าจะบินได้ด้วย

                แบ่งเป็นสองกลุ่มไปจัดการพวกสัตว์เทวะกลุ่มหนึ่งที่เหลือมาช่วยฉันปิดประตูนี่

                แฟรนเซียมที่แปลงร่างเสร็จแล้วพูด ร่างใหม่สวมชุดสีดำที่คล้ายกับเครื่องแบบราชครูตัวเดิมแต่มีรายละเอียดแตกต่างออกไป ในมือถือดาบที่ใบดาบนั้นกลวงโหว่เป็นร่อง


    ***อาทิตย์นี้ไรท์งานยุ่งไปหน่อยเขียนไม่ทันเลยต้องแบ่งตอนครับ แอ่วว ต้องขอโทษจริงๆ ตอนแรกว่าจะมีตอนพิเศษลงวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ด้วย จะเล่นกับบทที่พวกอิงศรวนอยู่ในวันที่ 1พฤศจิกายน ซะหน่อยแต่สงสัยจะไม่ทัน TwT****

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×