คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #239 : Login 236: หมาป่าผู้ล่าพระเจ้า 1
Login
236: หมาป่าผู้ล่าพระเจ้า 1
ไพ่อาคานาร์ที่แฟรนเซียมทาบลงไปบนตัวดาบเปล่งแสง
วงเวทอัญเชิญขนาดใหญ่พิเศษ
กินพื้นที่ด้านกว้างจนแทบมิดขอบลิฟต์ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
วัตถุสีแดง
แดงก่ำราวกับเลือด ผุดขึ้นมาจากวงเวทนั้น
อิงศรจ้องมองมันตาไม่กะพริบ
“…”
วัตถุสีแดงขนาดใหญ่
ใหญ่มาก
ใหญ่โตมโหฬาร
เจ้าสิ่งที่แดงเถือกเหมือนเลือดนี่ผุดขึ้นมาจากวงเวทไม่ยอมหยุด
แม้ว่าขนาดของมันจะสูงเกินตึกระฟ้าไปแล้วก็ตาม
สิ่งที่ผุดออกมานั้นเป็นหัวที่คอยาวเป็นอย่างมากแถมยังมีถึงเจ็ดลำคอด้วยกัน
หัวแต่ละหัวมีเขาที่ยื่นโง้งเหมือนกับใบมีดหัวละเขา
เว้นแต่หัวตรงกลางที่มีลำคอยาวที่สุด อยู่สูงที่สุดเหนือบรรดาหัวอื่นๆ
ที่มีเขาอยู่สี่เขา รวมทั้งหมดแล้วเท่ากับสิบเขา
ลำตัวของมันมีแต่กระดูกแล้วก็มีของเหลวสีแดงหลั่งออกมาเหมือนเป็นเหงื่อ
อยู่ตลอด ของเหลวนั้นส่งเสียงดังฉู่ฉ่าเหมือนน้ำมันเดือดในกระทะ
ลำตัวของมันไม่สามารถผุดขึ้นมาจากวงเวทได้อีก
เพราะขนาดขอวมันใหญ่เกินกว่าจะผุดออกมาจากวงเวทอัญเชิญได้ทั้งตัว
เป็นปีศาจที่ร้ายกาจไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แฟรนเซียมเรียกมันว่า ปีศาจร้ายซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอริของพระเจ้า
“ซาตาน…งั้นเรอะ”
ทันใดนั้นเอง
ก็ปรากฏวงเวทอัญเชิญขึ้นสองวงใหญ่ขนาบด้านข้างของลิฟต์
มือสีดำผิวหนังหยาบราวกับหินพุ่งออกมาจากวงเวท ขนาบเข้ามาหาอิงศรหมายจะบดขยี้
“ชิ”
…ต้องหยุดมันไว้
วิธีที่จะหยุดมือมหึมาที่กำลังพุ่งขนาบข้างเข้ามานั้นถึงเค้นสมองจนแทบไหม้ก็ยังหาคำตอบได้ยาก
ตัวเลือกมีเพียงหนึ่งเดียวแล้วก็ยังฟันธงผลไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
“แต่ถ้าไม่ทำก็ตายล่ะฟะ”
อิงศรสบถแล้วเรียกเอลิกอร์กลับมา
“กลับมาเอลิกอร์”
อัศวินมารหายไป
ตอนนี้อาคานาร์จักรพรรดิ์ก็ว่างแล้ว เขาจะใช้ ดิ เอ็มเพอเรอร์ เรียกปีศาจที่จะหยุดเงื้อมมือของซาตานที่กำลังบีบเข้ามา
“ออกมาโอดิน!”
พื้นเบื้องหน้าเปล่งแสง
แสงแห่งวงเวทอัญเชิญ นำพาเทพเจ้าร่างใหญ่ยักษ์ขึ้นมา
นี่เป็นปีศาจที่ตัวใหญ่ที่สุดที่เขาครอบครองและหวังว่าจะหยุดเงื้อมมือของซาตานได้
“ช่วยที”
อิงศรออกคำสั่งกับเทพ
หากเป็นตามปกติแล้วคงจะโดนตวาดใส่ หรือไม่ก็โดนบี้โทษฐานไม่มีสัมมาคารวะกับเทพ
แต่ว่า
โอดินยอมเชื่อฟังเขาแล้วเหมือนกับเอลิกอร์
เพราะว่าเขาได้โค่นลูนาริสที่เป็นพระเจ้าลงไป
ผลงานนั้นคงกลายเป็นอำนาจที่ทำให้พวกปีศาจยำเกรงตัวเขาขึ้นมาจนยอมรับฟังคำสั่ง
ราชันย์เทพแห่งแดนเหนือคำราม
“ย้ากกกกกกกกก!!!!!”
เสียงคำรามดังกึกก้อง
ยืดแขนทั้งสองข้างออกไปยันรับมือของซาตาน
แม้ว่าราชันย์เทพจะมีขนาดตัวที่ใหญ่โตอยู่มากแต่ก็ยังสูงไม่พ้นเงื้อมมือของซาตานเลย
เทียบกับขนาดตัวเต็มของซาตานคงได้กลายเป็นศึกช้างปะทะมด
โอดินสามารถยื้อเอาไว้ได้
มือหยุดบีบเข้ามาแล้วแต่คงได้ไม่นาน
เทพเจ้าของเขาแสดงสีหน้าทรมานเมื่อเกิดเสียงลั่นดัง กร๊อบๆ
จากแขนทั้งสองที่ยันมือซาตานไว้
ต้องจัดการกับซาตานเดี๋ยวนี้เลย
“แบบนี้ก็มีแต่วิธีนั้นน่ะสิ”
อิงศรจ้องมองไปยังซาตานที่อยู่ห่างออกไป
ด้านหลังเจ้ายักษ์สีแดงมหึมานั่นมีแฟรนเซียมยืนอยู่
กับปีศาจระดับนี้ถ้าไม่ใช่
เมสไซอาบัสเตอร์ ของเมอร์คาบาห์ก็คงโค่นมันไม่ได้
แต่แบบนั้นเท่ากับว่าเขาใช้ไพ่ใบสุดท้ายออกไปก่อนแล้วก็จะเป็นโอกาสของแฟรนเซียมที่จะจัดการเมอร์คาบาห์ของเขาแทน
เสียงครางเจ็บปวดของราชันย์เทพดังสั่นสะท้าน
โอดินทรุดเข่าลงข้างหนึ่งขณะที่มือของซาตานบีบระยะเข้ามาได้เล็กน้อย
สถานการณ์บีบให้ต้องเลือกเร็วยิ่งขึ้น
”ปัดโธ่เว้ย!”
ไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าไม่จัดการตอนนี้ก็จะจัดการไม่ได้อีก
สถานการณ์จะเลวร้ายลงอย่างแก้ไขไม่ได้เลยหากสูญเสียโอดินไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
แฟรนเซียมก็จะมีทั้งซาตานและอาซีดาฮากา ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็แพ้
ต้องเดิมพันกันตอนที่ทำลายซาตานลงได้
เขากับเมอร์คาบาห์จะบุกเข้าไปตัดสินในทีเดียว
“เมอร์คาบาห์ฮันเซลลัชช่า!!”
อาคานาร์ปรากฏขึ้นในมือยามที่เขาตะโกนเรียกหา
แชริออท อาคานาร์ สีทองเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า
เมื่อโยนออกไป
อาคานาร์ก็กลายเป็นเทวทูตผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับตนเอง
อิงศรยื่นคันศรออกไปข้างหน้า
ลูกไฟยูนิทที่สะสมมาตั้งแต่ตอนที่สู้กับลูนาริสมีอยู่สองลูก
เขาจ่ายให้เมอร์คาบาห์ลูกหนึ่ง
“เมสไซอาร์บัสเตอร์”
เมื่อเมอร์คาบาห์รับเอาลูกไฟเข้าไปก็ประกบใบดาบที่แขนทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วหมุนตัวเหวี่ยงมันออกไป
ดาบบัสเตอร์ของเมอร์คาบาห์พุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วที่แม้แต่
ซาตานก็ยังตอบสนองไม่ได้
บัสเตอร์บั่นคอทั้งเจ็ดของมันพร้อมกันในครั้งเดียวแล้วดาบก็แยกออกย้อนกลับมาหาเมอร์คาบาห์
ทำลายซาตานลงได้แล้ว
โอดินของเขาเองก็หมดสภาพด้วยเช่นกัน
ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่สลายไปพร้อมๆ กันร่างกายระเหยเป็นไอควันจนเกิดกลุ่มหมอกหนาทึบปกคลุมลิฟต์
“ไปกันเลย”
อิงศรเรียกเมอร์คาบาห์แล้วถีบตัวพุ่งทะยานไปข้างหน้า
สองข้างทางมีแต่หมอกควันเต็มไปหมดแต่เขาก็ยังมุ่งหน้าต่อไปพร้อมกับตั้งดาบกับคันธนูไขว้กันให้พร้อมปล่อยกระบวนท่าที่จะฆ่าแฟรนเซียมได้ทันทีที่ไปถึง
ยังมีแต่หมอกควัน
แม้จะวิ่งมาได้พักหนึ่งแล้ว ระยะทางเท่าที่จำได้คงอยู่อีกไม่ไกล
แฟรนเซียมยืนอยู่หลังม่านหมอกนี่
“…”
ลิฟต์ลอยขึ้นจนพ้นจากกลุ่มหมอก
แฟรนเซียมยืนห่างเขาไปประมาณสามเมตร
แต่ทว่า…
ตอนนั้นเอง
เสียงของแฟรนเซียมก็ดังขึ้นมา
“ซอร์ดไดรฟ์ อสูรมังกรเทวะอาซีดาฮากา ดาเอว่า!”
เมอร์คาบาห์ที่ไล่ตามเขามาก็ถูกมังกรดำที่โผล่อยู่เต็มลิฟต์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เข้ามารัดพัน เทวทูตพยายามขัดขืน
ใบดาบที่แขนสามารถเฉือนพวกมันขาดได้อย่างง่ายดายแต่เพราะจำนวนที่มีมากเกินแล้วยังจู่โจมแบบไม่ตั้งตัวทำให้เมอร์คาบาห์เสียท่าถูกมัดแขนมัดขาจนขยับไม่ได้
“เมอร์คาบาห์!”
อิงศรชะงักฝีเท้าในทันทีแล้วตั้งใจจะย้อนกลับไปช่วย
ขณะเดียวกันแฟรนเซียมก็พูดต่อจากที่ค้างไว้
”มันจบแล้วอิงศร ตอนนี้แกไม่มีอะไรจะทำลายอาซีดาฮากาได้แล้ว”
พูดแล้วกระโดดออกมา
กวัดแกว่งดาบมังกรเทวะด้วยท่าร่างอันดุดัน
ตัวดาบสีดำมะเมื่อม
รุกเข้ามา
อิงศรหันกลับไปยกคันธนูกับดาบตั้งรับมันไว้แต่แรงปะทะก็ยังมากเสียจนตัวเขาถอยครูดไปข้างหลัง
ดาบมังกรเทวะ…
อิงศรพูด
“ทำไมกัน ก็น่าจะกลายเป็นมังกรนั่นไปแล้วนี่”
แล้วทำไมแฟรนเซียมถึงยังมีดาบมังกรเทวะอยู่กับตัวอีก
เขาละความสงสัยนั้นไว้แล้วกระโดถอยหลังทิ้งระยะจากแฟรนเซียมโดยอาศัยแรงปะทะช่วยส่งตัวให้
ลอยออกไปได้ไกล
ลอยข้ามใจกลางลิฟต์กลับไปอยู่ตรงที่เดิมก่อนจะเริ่มวิ่งหลังจากทำลายซาตาน
แฟรนเซียมชี้ขึ้นไปข้างบนแล้วพูดว่า
“นี่คือพลังของอาซีดาฮากาที่ไปถึงจุดสูงสุดยังไงล่ะ มังกรสัมบูรณ์กาล
อาซีดาฮากา อหุราคา”
“อหุราคา…”
อิงศรทวนชื่อของดาบมังกรเทวะที่เป็นขั้นใหม่ด้วยความฉงนขณะแหงนหน้าขึ้นไปมองตามที่นิ้วของแฟรนเซียมชี้
“…”
มันคือสิ่งที่เหมือนกับแผ่นฟิมล์บางๆ
สีดำซึ่งปูคลุมเหนือลิฟต์ทั้งหมด
นั่นคือร่างสุดท้ายของมังกรเทวะงั้นเรอะ
“อหุราคาทำให้ใช้งานอาซีในร่างต่างๆ
ได้ตามใจนึกแล้วก็มีพลังพอที่จะต้านแสงของพระเจ้า”
ที่พูดมาว่าต่อต้านแสงของพระเจ้านั้นเป็นเรื่องจริง
จนถึงตอนนี้รูตรงกลางลิฟต์ก็ไม่มีแสงมฤตยูทะลุผ่านฟิมล์เมือกนั่นลงมาเลย
อิงศรถาม
“นี่คือการเตรียมการเพื่อโค่นพระเจ้าของนายงั้นเหรอ”
“เปล่า
เดิมทีแผนการที่จะใช้เครื่องทำสวนของฉันมันพินาศไปแล้วนี่ไม่ใช่แผนของฉัน”
“งั้นก็เป็นแผนของฟาวเดชั่นอี”
“ก็ไม่รู้สิ ฟาวเดชั่นอีน่ะถึงจะฟังดูเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ล้นฟ้าขนาดตั้งชื่อว่ากลุ่มเงินทุนสวรรค์อนธกาลเลยก็เถอะแต่ตัวจริงของมันเป็นแค่บริษัทที่มีคนบริหารอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น
ไม่สิเจ้านั่นมันเรียกว่าคนไม่ได้หรอก”
ก่อนหน้านี้แฟรนเซียมบอกว่าคนที่มอบอาคานาร์ให้คือหัวหน้าของฟาวเดชั่นอี
ถ้าอย่างนั้น…
“เจ้านั่นเป็น…แอดมินิสเทรเตอร์งั้นเรอะ”
“…”
“ใช่สินะ”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้วอิงศรแกน่ะตายด้วยดาบของฉันซะมาจบเรื่องทุกอย่างลงที่นี่เถอะ”
“ชิ”
อิงศรเดาะลิ้นให้กับบทสรุปอันน่าเบื่อที่สุดท้ายแล้วก็ยังต้องฆ่ากันอยู่ดี
แต่แฟรนเซียมคงไม่คิดอย่างนั้น
หมอนั่นทำหน้าตาระรื่นถึงจะมองไม่เห็นความแตกต่างจากปกติที่หน้าตายตลอดเวลาก็เถอะ
อิงศรรับรู้ได้ว่าชายผู้ที่เลี้ยงดูเขามานั้นกำลังแสดงอารมณ์ที่ต่างออกไปจากปกติ
“นี่นายสนุกที่จะได้ฆ่าฉันรึไง”
“ก็ไม่รู้สินะ”
แฟรนเซียมตอบแล้วตวัดดาบจากตรงนั้น
ดาบยืดตัวออก ผลุบหายเข้าไปในช่องว่างมิติ ย่นระยะทางโจมตีด้วยการมุดผ่านโพรงมิติแล้วมาโผล่ด้านหลัง
อิงศรหมุนตัวตวัดดาบปัดมันทิ้ง
แต่ดาบมังกรเทวะก็ยังไม่สิ้นลายง่ายๆ
มันมุดเข้าไปในโพรงมิติแล้วโผล่ออกมาจากทางด้านบน
อิงศรโยกหัวหลบไปเพียงเล็กน้อย
ใบดาบเฉือนแก้มซ้ายไปแค่นิดเดียว ผิวแก้มฉีกขาด
เลือดสีแดงสดไหลซึมอาบใบแก้มนั้นทันที
อิงศรหันกลับไปแล้วแผลงศรออกไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ลูกศรเพลิงพุ่งตรงไปยังคอหอยของแฟรนเซียม
ทว่า
หัวของมังกรดำก็เข้ามาขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“ชิ”
นอกจากดาบมังกรเทวะที่โจมตีได้ทุกระยะแล้วยังมีมังกรดำจากขั้น
ดาเอว่า คอยช่วยป้องกันอีกที การต่อสู้นี้เอาชนะไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่มีเมอร์คาบาห์
“เอลิกอร์ไปช่วยเมอร์คาบาห์ที”
อิงศรพูดด้วยเสียงเบาที่สุดขณะที่เรียกปีศาจออกมาแล้วจึงวิ่งแยกไปอีกทางคอยโจมตีดึงดูดความสนใจ
เอลิกอร์ซิกฟรีดที่ออกมาแล้วควบโฮเวอร์บอร์ดพุ่งทะยานไปหาเมอร์คาบาห์
แต่ลูกศรของเขาไม่มีอำนาจพอจะดึงดูดความสนใจแฟรนเซียมได้เลย
แม้ว่าจะใช้สกิลร่วมด้วยก็ตาม
“ชาร์คชู้ต!!”
ทั้งลูกดอกฉลาม
“ไวด์วูฟ!!”
ทั้งดาบสั้นที่เอามายิงต่างลูกธนู
ทั้งหมดนั่นถูกมังกรดำเข้ามาขวางและเจาะทะลุเกล็ดของมันไม่ได้เลย
แฟรนเซียมรู้เรื่องนั้นอยู่แล้วจึงเพ่งสมาธิไปที่การเล่นงานเอลิกอร์ที่เข้าไปช่วยเมอร์คาบาห์
แค่พริบตาที่เกือบจะเข้าถึงตัวเมอร์คาบาห์
หัวของมังกรดำนับสิบก็แหวกโพรงมิติออกมาล้อมกรอบไว้ทุกทิศทาง
เอลิกอร์ซิกฟรีดเสียท่าให้อย่างง่ายดายถูกเขมือบหายไปโดยที่ไม่ทันตอบโต้
แล้วตนเองก็จะกลายเป็นแบบนั้นด้วยเมื่อเสียปีศาจที่มีอยู่ไปหมดแล้ว
ไม่มีเดม่อนแอพอันไหนเหลือให้ใช้อีกแล้ว
จะใช้พลังของตัวเองเข้าสู้อย่างนั้นเหรอ?
อิงศรเข้าใจดีว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
วิชาต่อสู้ทั้งหมดเขาได้รับการถ่ายทอดมาจาก สิงห์
ทำเอานึกถึงที่กวินทร์เคยพูดเรื่องกระบวนดาบของพี่สาวคล้ายกับของเขา
พอมาคิดๆ ดูแล้วตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสิงห์คือแฟรนเซียมแต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมไทเทเนียมถึงมีกระบวนดาบแบบนั้นเพราะหล่อนได้รับการถ่ายทอดมาจากแฟรนเซียมนี่แหละ
แฟรนเซียมที่เคยเป็นสิงห์มาก่อน
รู้กำพืดทุกอย่างของเขารวมถึงฝีมือต่อสู้
จึงไม่มีทางเอาชนะได้
ถ้าไม่มีแต้มต่ออย่างอื่นนอกจากตัวเองแล้วก็ไม่มีทางโค่นแฟรนเซียมลงได้
แต่ว่า....
“นายยังไม่รู้ถึงพลังของฉันทั้งหมดหรอกน่า”
อิงศรก็ยังพูดข่มขู่ออกไป
แฟรนเซียมหัวเราะห้วนๆ
“หึหึหึ งั้นก็ลองแสดงให้ดูหน่อยสิว่านายจะเอาชีวิตรอดไปจากตรงนี้ยังไง”
ว่าแล้วแฟรนเซียมก็ปล่อยให้มังกรแหวกโพรงมิติออกมาล้อมกระนาบเขาจากทุกทิศทาง
ไม่สามารถหนีได้
แล้วก็โจมตีกลับไปไม่ได้ด้วย
แต่ว่า...
“ลาก่อนอิงศร”
เสียงของแฟรนเซียมดังมาจากด้านหลังของมังกรดำ
แต่ว่า....
มันยังมีอาคานาร์ที่แฟรนเซียมไม่ได้รู้ทั้งหมดอยู่
นี่คือแต้มต่อสุดท้ายที่ยังมีเหลืออยู่
อิงศรไล่เรียงพลังที่ตัวเองมีทั้งหมดเพื่อค้นหาเส้นทางที่เป็นคำตอบเพียงหนึ่งเดียว
คำตอบที่ใช้โค่นแฟรนเซียมลงที่นี่
เดอะแชริออท
เมอร์คาบาห์ซึ่งตอนนี้ถูกตรึงเอาไว้
เดอะ เลิฟเวอร์ สายสัมพันธ์กับมีนาที่มอบเดม่อนแอพสเลปเนียร์ให้คงไม่มีพลังพอ
ดิ เอ็มเพอเรอร์
สายสัมพันธ์กับเมษาที่ทำให้อัญเชิญปีศาจจากเดม่อนแอพได้แต่ก็ไม่มีปีศาจจะให้ใช้แล้ว
เดอะ เมจิกเชี่ยน ที่ได้มาจากโลกิปีศาจที่อิซานามิปราบลงได้ที่รากแห่งอาคาชิก
ยังไม่รู้ว่ามันมีพลังอะไรหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้
เดอะ สเตร็งท์
ที่ได้จากเฟนริลตอนอยู่ที่รากอาคาชิกเหมือนกับโลกิก็ช่วยแค่เพิ่มความสามารถเคลื่อนที่ระหว่างการใช้สกิลที่ต้องยืนนิ่งได้เท่านั้น
เดอะ แฮงค์แมน
ที่มอบโอดินให้ก็หมดสภาพไปแล้ว
เดอะ เดธ สายสัมพันธ์กับนรินทร์ที่มอบโอโรจิให้ก็ไม่มีทางป้องกันมังกรเทวะได้หรอก
เดอะ เทมเพอแรนซ์
สายสัมพันธ์กับกวินทร์ก็เป็นเพียงพลังที่ใช้รวมร่างปีศาจเอามาใช้ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้
เดอะ จัดจ์เมนท์
ที่เคยได้จากการช่วยชีวิตโดโกบาร์ก็ถูกใช้เป็นวัตถุดิบตอนที่ฟื้นคืนชีพให้กับเมอร์คาบาห์ไปแล้ว
และ....
เดอะ ฟูล
ที่ได้รับมาจากซีลอร์ดซึ่งยังไม่รู้ถึงพลังของมัน
อาคานาร์ทั้งสิบใบที่เขาถือครองไม่มีใบไหนที่จะมอบคำตอบสำหรับการแก้สถานการณ์นี้
มังกรดำกำลังเงื้อคมเขี้ยวตรงเข้ามา
อิงศรไม่ขยับตัว เขายังไม่ได้คำตอบที่จะฝ่าฟันความตายนี้เลย
“…”
ยังหรอก
ยังมีอีกใบหนึ่ง...
“เดอะ ทาวเวอร์”
สายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากการที่เมษาช่วยชีวิต
สิง ธุวดารกะ ไว้จากเรดบอส เลเวล 70 ที่ศูนย์บัญชาการหลัก
พลังของมันคือการอนุญาตให้เขาเอ่ความสามารถของปีศาจที่ถือครองมาใช้เองได้
พลังที่ใช้โค่นลูนาริสมาแล้ว
แต่ว่าถึงใช้พลังนั้นเอาสายฟ้าของโอดินมาโจมตีก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำอะไรมังกรดำไม่ได้เลย
ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ต้องเลือกวิธีที่ได้ผลแน่นอนที่สุด
เขาจะใช้อาคานาร์นี้ฝ่าฟันไปให้ได้
ใช้สายสัมพันธ์กับสิงห์ เอาชนะแฟรนเซียม
“สิงห์ นี่คือสายสัมพันธ์ระหว่างฉันกับนาย”
อิงศรเงื้อคันธนูขึ้นเตรียมจะขว้าง
บนคันธนูยังมีลูกไฟยูนิทเหลืออยู่อีกหนึ่งลูก
“เมสไซอาบัสเตอร์!!”
คันธนูดูดซับยูนิทนั้นไว้แล้วเปล่งแสง
อิงศรขว้างมันออกไป คันธนูหมุนควงเหมือนบูมเมอร์แรง
มังกรดำที่ขวางทางอยู่ถูกคันธนูสะบั้นหัวหลุดกระเด็นไปไปคนละทิศละทาง
ทำให้เส้นทางเปิดออก
อิงศรพุ่งตัวออกไปจากช่องว่างที่เปิดขึ้นในเสี้ยววินาทีพร้อมกับเปลี่ยนมาจับดาบด้วยสองมือ
ไล่ตามคันธนูที่มีพลังทำลายเหมือนกับ เมสไซอาบัสเตอร์ ของ เมอร์คาบาห์
“อะไรกัน!”
ได้ยินแฟรนเซียมสบถดังมาแบบนั้น
อีกฝ่ายไม่รู้ถึงพลังนี้และยังใช้มังกรดำเข้ามาขวางทางไว้
แต่มังกรดำก็ถูกสะบั้นไป
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
“ว้ากกก!!”
อิงศรคำรามพร้อมกับเร่งฝีเท้า
ตอนที่
แฟรนเซียมรู้ตัวว่ามังกรดำไม่สามารถสกัดกั้นคันธนูนั้นได้แล้วเตรียมจะเอี้ยวตัวหลบ
“อะ...นี่แก”
อิงศรก็โผล่มาอยู่ตรงจุดนั้นพอดี
เมื่อคันธนูหมุนผ่านไป ดาบของอิงศรก็เสียบทะลวงอกซ้ายของแฟรนเซียม
ตรงจุดเดียวกับที่ฆ่ากวินทร์
แฟรนเซียมถูกฆ่าด้วยวิธีการเดียวกัน
ราวกับเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ
ว่านี่จะเป็นโชคชะตา
ชะตาที่ถูกคนซึ่งเลี้ยงดูมาฆ่า
ชะตาซึ่งถูพลังของสายสัมพันธ์ของตัวเองกับคนที่มาฆ่าโค่นลง
ชะตาอันย้อนแย้ง ราวกับเป็นผลกรรม
พลังของชะตากรรมทำให้แฟรนเซียมกระอักออกมาเป็นเลือด
“อัก แค่ก”
ราชามนุษย์ต่างดาวพรูลมหายใจดัง
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
ความคิดเห็น