คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #232 : Login 229: Geis แห่งความตาย
Login
229: Geis แห่งความตาย
“นั่นมันอะไรน่ะ”
อิงศรถามตัวเองเช่นนั้นเมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปยังอีกโฉมหน้าของพระเจ้า
โฉมหน้าอันอัปลักษณ์ที่พระเจ้าซุกซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อคลุมสีเหลืองเบื้องหลังดวงจันทร์นั่น
ภายใต้หมวกของเสื้อคลุมได้ปิดซ่อนใบหน้าอันน่าเกลียดน่ากลัวราวกับอสูรปีศาจเอาไว้
ผิวหนังดำซีดเหมือนซากศพ
ดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีแดงก่ำดั่งเลือด
ดวงตาอีกข้างขาวสนิทไม่มีลูกนัยน์ตาดำเหมือนทำตาเหลือก
ปากอ้าเผยอตลอดคอยอวดคมเขี้ยวนับร้อยซี่เรียงกันอย่างน่ารังเกียจราวกับฟันของปลาปิรันย่า
ทำไมแอดมินสเทรเตอร์ผู้ที่เป็นดั่งพระเจ้า
เป็นผู้สร้างที่ได้รับการเคารพบูชาว่าศักดิ์สิทธิ์ถึงได้ซุกซ่อนรูปโฉมอันน่าสะพรึงกลัวเอาไว้
ทำไมถึงได้เผยมันออกมาต่อหน้าพวกเขา
ทำไม
ทำไม
ทำไม
คำถามว่า ‘ทำไม’ ผุดขึ้นมามากมายแต่ไม่มีคำตอบที่ตอบให้ได้เลยซักคำถามเดียว
แต่แล้วซีลอร์ดที่ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้และนอนกองอยู่บนพื้นลิฟต์ก็พูดตอบคำถามนั้น
“นั่นคือ ‘จันทราเทวะ’ เป็นร่างที่ไว้สำแดงพลังทำลายล้าง…อึก”
ซีลอร์ดกำลังพยายามชันร่างกายท่อนบนขึ้นมาแต่เหมือนจะไม่ไหว
ร่างกายของหมอนั่นได้รับความบอบช้ำมากขนาดนั้นทั้งที่แทบไม่มีบาดแผล
“ชิ้นส่วนข้อต่อในร่างกายของผมถูกทำลายทั้งหมดน่ะถ้าให้พูดแบบที่พวกเธอเป็นกันก็กระดูกหักหมดทั้งตัวไงล่ะ”
ดูเหมือนจะอ่านใจเขาแล้วตอบข้อสงสัยเอาเอง
แต่ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนั้นแล้ว
เมื่อกี้ซีลอร์ดบอกว่าโฉมหน้าอัปลักษณ์นั่นเป็นร่างสำหรับทำลายล้างหมายความว่ารูปแบบที่หันดวงจันทร์มาข้างหน้าคือรูปแบบที่ตรงกันข้ามซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบป้องกัน
นั่นหมายความว่าในรูปแบบโจมตีนี้มีสิทธิ์ที่พวกเขาจะโจมตีได้ผลด้วยสินะ
“โจมตีเลย!”
อิงศรตะโกนแล้วออกวิ่งนำทุกคนไป
ลั่นไกยิงลูกดอกเพลิงนับสิบครั้งเพราะเป็นการโจมตีปกติจึงระดมยิงได้โดยไม่มีผลข้างเคียงจากการหน่วงเวลาเหมือนกับสกิล
แต่จากความสูงระดับนั้นลูกดอกได้แค่เฉี่ยวปลายผ้าคลุมของพระเจ้าเท่านั้นแล้วมันก็ทะลุผ่านไปโดยที่ไม่ไหม้ติดผ้าคลุมด้วย
ร่างจริงคงจะมีแค่ดวงจันทร์ดวงนั้น ร่างที่สวมผ้าคลุมเป็นแค่ร่างหลอก
มิ่งขวัญกับพลอย
สองคนที่มีปีกบินแยกจากคู่ของตัวเองมาจับคู่กันบินขึ้นไป
ทำให้นรินทร์ย้ายไปเข้าคู่กวิทนร์แทน
ลูนาริสยังคงไม่เคลื่อนไหวราวกับรอดูท่าทีอยู่
ถึงตอนนั้นเองกวินทร์ก็ตั้งดาบขึ้น
“คมเขี้ยวพฤกษาสะบั้นเศียรปีศาจ”
ลูกแก้วแสงตรงรอยเว้าที่ปลายดาบแยกออกเป็นห้าลูกแต่ละลูกเปล่งประกายแสงสีต่างกันไป
เรียงร้อยล้อมรอบตัวดาบ
กวินทร์เปลี่ยนให้ลูกแก้วที่ส่องแสงสีเขียวมาอยู่ตรงรอยเว้าแล้วทำให้ลูกอื่นหายไป
“โดจิกิริ
ยาสุทซึนะ”
ออร่าพลังสีเขียวกระจายตัวห้อมล้อมเด็กหนุ่มดูคล้ายกับมีสุนัขตัวใหญ่ยืนค่อนหลังเขาอยู่
สายลมพัดกระหน่ำออกมารอบๆ ตัวพร้อมกับเศษใบไม้ที่เกิดขึ้นจากพลังของสกิล
เศษใบไม้ซึ่งมีความคมดั่งใบมีดแต่อ่อนช้อยพริ้วไหวดั่งสายลม
เมื่อกวินทร์ตวัดดาบคมมีดใบไม้ก็บินทะยานขึ้นไปหาพระเจ้า
พร้อมกับในตอนนั้นเองมิ่งขวัญและพลอยก็โจมตีเสริมไปด้วย
“แทคีออนสไลเซอร์!!”
มิ่งขวัญพุ่งตังทะยานผ่านกงล้อเพลิงที่สร้างขึ้นแล้วกลายเป็นแสงสว่าง
“เพอร์กาทอรี่เบลด!!”
พลอยฟาดดาบไปข้างหน้าปลดปล่อยลำแสงสีดำคล้ายใบดาบไล่ตามมิ่งขวัญที่ล่วงหน้าไปจู่โจมก่อน
[Purgatory
Blade Lv(4/4)
Element:
Dark
Attribute:
Technical, Special Attack, Blade
ปลดปล่อยดาบแห่งความมืดพุ่งตรงไปข้างหน้า]
แต่พระเจ้ายังคงนิ่งเฉย
ลูนาริสไม่แสดงท่าทีหรือความคิดที่จะหลบหลีกออกมาเลยแม้แต่น้อย
การโจมตีทั้งหมดเข้าเป้า
มิ่งขวัญที่พุ่งใส่ดวงจันทร์ด้วยความเร็วแสงน่าจะทะลุดวงจันทร์ไปอีกฝั่งแต่กลับกลายเป็นว่าร่างกระเด็นปลิวกลับมา
การโจมตีทางกายภาพคงไม่ได้ผล
แล้วการโจมตีแบบพลังพิเศษของกวินทร์กับพลอยก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน
ใบไม้มีดกับลำแสงกระทบใส่ผิวดวงจันทร์แล้วระเบิดออก
แต่ก็ไม่สามารถสร้างริ้วรอยให้กับดวงจันทร์ได้เลย
พระเจ้าเริ่มเคลื่อนไหว...เป็นครั้งแรกหลังจากแสดงโฉมหน้า
‘จันทราเทวะ’
พลังที่แท้จริงคงใกล้แสดงออกมาให้พวกเขาได้ประจักษ์กันเร็วๆ
นี้
อิงศรตะโกนบอกนรินทร์ที่อยู่ห่างออกไป
“นรินทร์เตรียมขัดขวางที!”
คงต้องหวังพึ่งสกิลคลาส
ฮอสปิทัลเลอร์ ที่มีสกิลหยุดยั้งการโจมตีของนรินทร์คนเดียว
เพราะพลอยที่มีสกิลเหมือนกันเพิ่มเข้าไปโจมตีและยังไม่ได้ถอยกลับมาอยู่ในระยะที่จะคุ้มครองพวกเขาที่อยู่ข้างล่างได้
แล้วการโจมตีของจันทราเทวะก็เริ่มขึ้น
ลูนาริสปล่อยกรงเล็บออกมาจากใต้ผ้าคลุม
เหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่ผิดแต่ความเร็วเหมือนจะเพิ่มขึ้น
เคลื่อนไหวรวดเร็วกว่าของเดิมชนิดเทียบกันไม่ได้
แต่ยังพอมีระยะทางให้กะจังหวะอยู่ถ้าเป็นนรินทร์ต้องทำได้แล้วกลุ่มของกรงเล็บก็เหมือนจะไม่สนใจพวกมิ่งขวัญที่บินอยู่ข้างบนดังนั้นจึงเพ่งสมาธิจัดการทีเดียวพร้อมกันได้
หลังจากรอจังหวะอยู่จนกระทั่งกรงเล็บเคลื่อนที่มาครึ่งทางนรินทร์ก็ชูไม้เท้าขึ้นแล้วร่ายสกิล
“คับบาลาห์เซฟิร่าเชเซ็ด!”
แสงสว่างพุ่งจากไม้เท้าอาบใส่กรงเล็บทั้งหมด
พวกมันหยุดกึกในทันที
จังหวะนั่นเองฟูกับมิกซ์ก็ระดมโจมตีทำลายกรงเล็บพวกนั้น
“เทคนิคัลเวพ่อน!”
มิกซ์เปลี่ยนปืนสั้นของตัวเองเป็นปืนยาวซึ่งมีสามลำกล้องบนแกนที่หมุนได้ถ้าเหนี่ยวไกปืนเมื่อไหร่ปืนก็จะยิงกระสุนต่อเนื่องเป็นวงกลม
เหมือนกับฟูที่ได้รับไอเทมสำหรับเปลี่ยนคลาสเทคนิคัลมาจากราชครูมนุษย์ต่างดาวลำดับที่ห้าโพแทสเซียม
ฟูก็เปลี่ยนค้อนให้เป็นอาวุธเทคนิคัลด้วยโดยดึงด้ามจับออกมาแล้วขยายหัวค้อนให้ใหญ่ขึ้นสองเท่า ทั้งสองใช้สกิลที่ต้องใช้อาวุธเทคนิคัลซึ่งมีระยะไกลโจมตีใส่กรงเล็บ
แต่ทว่า...
‘วัชพืชเอ๋ยเจ้าทำได้แค่นี้สินะ’
พระเจ้าก็ตรัสลงมาอย่างนั้นแล้วกรงเล็บที่นรินทร์หยุดเอาไว้...
ซึ่งมันควรจะหยุดนิ่งไปอีก 2 วินาทีแต่มันกลับเปลี่ยนรูปร่าง
กรงเล็บแต่ละอันเริ่มกลายเป็นรูปร่างอื่น
มีอยู่อันหนึ่งที่กลายเป็นร่างมนุษย์ซึ่งดูคุ้นตา
ร่างมนุษย์นั้นยังคงเป็นเงาที่เกิดจากกรงเล็บและมีสายโยงใยไปถึงตัวลูนาริส
มนุษย์เงาร่างกำยำสูงใหญ่สวมโค้ทยาวและถือดาบ
ลิเธียมนั่นเอง
ให้ถูกคือเงาคล้ายราชครูลำดับที่หกลิเธียม
“ชิ”
อิงศรเล็งหน้าไม้ไปที่ลิเธียมเงาทันที
ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตามแต่ไม่ควรปล่อยไว้
แต่ตอนนั้นเองลิเธียมเงาก็หายไปจากตรงนั้น
“อ๊ะ”
เลือนหายไปดั่งภาพลวงตา
เดี๋ยวสิความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนกับเคยเจอมาก่อน
พล่อก
เสียงน่ารังเกียจดังขึ้น เสียงเหมือนอะไรบางอย่างถูกกระชากออกจากกัน
“มิกซ์!!!”
เสียงดังมาจากทางฟู
มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
อิงศรหันไปอย่างสุดกำลังเพื่อจะประเมินสถานการณ์แล้วช่วยเหลือ
จะยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกพ้องไม่ได้เด็ดขาด
“….”
แต่มันสายไปแล้ว
คอของมิกซ์ลอยเคว้งกลางอากาศเสียแล้วโดยฝีมือของลิเธียมเงา
เจ้านั่นเพียงแค่ใช้มือเปล่าบั่นคอเดโมนอยด์อย่างมิกซ์...
คุ้นเคย
คุ้นเคย
มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ปากก็ร้องออกไปแล้ว
“ฟูหนีไปจากตรงนั้น!!”
แต่ฟูที่กำลังช็อกกับการตายของมิกซ์ไม่ขยับตัวเลย
ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าไปเอง
ไปช่วยฟูให้ได้
แต่ว่าจะทำได้รึเปล่านะ ฝ่ายนั้นทั้งพลังทั้งความเร็วเทียบเท่าตัวจริงหรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
ต้องเหนือกว่าอยู่แล้วไม่งั้นไม่มีทางฆ่ามิกซ์ที่มีเลเวล 144
และเป็นเดโมนอยด์อย่างเต็มตัวแล้วได้ง่ายดายขนาดนั้นหรอก
มันไม่เมหือนกับเมื่อสามปีก่อนแล้วนะ...
ตอนนั้นเองอิงศรก็นึกขึ้นมาได้
ทำไมถึงคุ้นเคย
ทำไมถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
เรื่องมันเหมือนกับเมื่อสามปีก่อน....ที่สถานีรถไฟ
ที่ๆ
พวกเขาในสมัยเด็กได้เผชิญหน้ากับพลังของมนุษย์ต่างดาวเป็นครั้งแรกนั่นเอง
ตอนนั้นมิกซ์ก็โดนตัดคอกระเด็นด้วยวิธีการเดียวกัน
แล้วทุกคนก็ถูกฆ่าโดยที่ตัวเขาซึ่งยืนอยู่บนบันไดขึ้นไปยังชานชาลารถไฟพยายามวิ่งอย่างสุดกำลังเข้าไปช่วยแต่ก็ไม่ไม่ทันการ
ลงท้ายก็เลยทำให้มิ่งขวัญต้องเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวอย่างที่ไม่สมควรจะได้รับด้วยวัยเพียงเท่านั้น
แล้วมันก็กำลังจะเกิดขึ้นอีก
“ม่ายย!!”
ไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกหรอกน่า!
อิงศรเพ่งสมาธิไปที่ฟู
แค่มองดูที่ฟูอย่างเดียว
พอทำแบบนั้นก็เริ่มมองเห้นการเคลื่อนไหวของเงาอะไรบางอย่าง
นั่นจะต้องเป็นลิเธียมเงาอย่างแน่นอน
เขาชักดาบสั้นที่เอวออกมาแล้วขว้างไปทันที
“วูฟล์เมอร์แรง!!”
ขอให้ทันทีเถอะ!
ดาบหมุนควงด้วยพลังจากสกิล
ถูกห้อมล้อมด้วยเพลิงสีฟ้าลักษณะเหมือนกับฟ้าหมาป่า
แต่ลิเธียมเงาก็ปัดมันทิ้งด้วยดาบ
ปรากฏขึ้นตรงหน้าฟูห่างไปแค่ไม่กี่เซนติเมตร ถึงอย่างนั้นก็ทำสำเร็จ
เขาหยุดลิเธียมได้พริบตาหนึ่ง แค่พริบตาเดียวจริงๆ
ฟูที่รู้ตัวแล้วกำลังจะถอยหนีแต่ว่าลิเธียมเงาเงื้อมืออีกข้างหมายจะทะลวงมันใส่หน้าอกของฟู
คงคิดจะควักหัวใจให้เหมือนกับเมื่อตอนนั้น
เมื่อสามปีก่อนฟูถูกฆ่าตายโดยการควักหัวใจ
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าจะใช้วิธีใดฆ่าแล้วต้องขัดขวางอย่างไร
แต่ระยะห่างที่มีไม่ถึงสิบเมตรด้วยซ้ำก้ยังห่างเหินราวกับอยู่กันคนละโลก
เวลาในโลกของฟูช่างสั้นนักกลับกันเวลาของเขามีแต่จะยืดยาวออกไปยิ่งเร่งฝีเท้าก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอืดอาดมากขึ้น
สัมผัสที่ลับจนคมกริบเพื่อมองการเคลื่อนไหวของลิเธียมเงาทำให้รู้สึกว่าตัวเองช่างอืดอาดเสียจริงทั้งที่ตอนนี้ตัวเองอาจจะกำลังวิ่งด้วยความเร็วเท่ากับจรวดเลยด้วยซ้ำ
แสง
ต้องความเร็วแสง จำเป็นต้องมีความเร็วขนาดนั้นถึงจะยับยั้งเรื่องนี้ได้
“ปัดโธ่เว้ยยยย!”
อิงศรสบถพลางยื่นมืออกไป ตอนนี้สมองคิดได้แค่ว่าขอให้ไปถึงตัวฟูเร็วที่สุดก็พอจะแค่แขน
หรือแค่นิ้วเดียวก็ยังดี
รู้สึกเหมือนกำลังฝืนชะตากรรม
เหมือนตอนที่วิ่งวุ่นกับเมล์ตัวจับเวลาตายจากซีลอร์ด มันเป็นแบบนี้เสมอ
เมื่อถึงเวลาพลังก็มักจะมีไม่พอ เวลามีไม่พอ
แต่แล้วแสงแห่งความหวังก็พุ่งตัดหน้าเขาไป
แสงที่เคยพานพบความสิ้นหวังในวันนั้นเมื่อสามปีก่อนกลายเป็นแสงแห่งความหวังแล้ว
มิ่งขวัญที่ใช้ร่างอัศวินทองคำซึ่งมีความเร็วเทียบเท่าแสงโผล่ขึ้นมาขวางหน้าฟูพร้อมกับแขนของลิเธียมเงาที่จะทะลวงหัวใจฟูก็ถูกตัดขาดกระเด็นไป
น้องชายตวาดใส่ร่างดงาที่ทำให้นึกถึงความขมขื่นในอดีตด้วยความโกรธ
“หายไปซะไอ้ปีศาจ!!”
กล่าวหาพระเจ้าว่าเป็นปีศาจแล้วกระหน่ำแทงหอกใส่ร่างเงานั้นจนพรุนเป็นรังผึ้ง
ร่างเงาเอนล้มหงายหลังลงแล้วก็แตกตัวสลายไปราวกับหมอกควัน
ทำสำเร็จแล้ว
ช่วยไว้ได้คนหนึ่งแล้วสินะ
“สำเร็จ...”
อิงศรหยุดฝีเท้าลงแต่คำพูดก็หยุดชะงักไปด้วยเพราะว่า...
“อ๊ากกก!!”
ฟูที่อยู่ข้างหลังมิ่งขวัญกรีดร้อง
เพราะหัวใจถูกดันออกจากร่างกายโดยที่ไปตกอยู่ในมือของชายคนหนึ่งที่ลอบเข้ามาทางด้านหลังตอนไหนก็ไม่รู้
มือของชายคนดังกล่าวจ้วงใส่แผ่นหลังของฟู
ทะลวงไปที่หัวใจแล้วดันมันทะลุหน้าอก
หัวใจของฟูถูกบีบแหลกเละ
เลือดจำนวนมากพุ่งทะลักจากหน้าอกจนกระเซ็นไปโดนมิ่งขวัญ
แล้วเมื่อมิ่งขวัญหันไปมอง
อิงศรเองก็มองดวงตานั้น
รู้สึกย่ำแย่เกินจะทน
ย่ำแย่เป็นอย่างมาก
มันเกิดขึ้นซ้ำอีกแล้ว
ซ้ำไปซ้ำมาราวกับจะตอกย้ำบาดแผลในหัวใจที่เคยหายสนิทไปครั้งหนึ่ง
ตอนนี้บาดแผลถูกเปิดขึ้นอีกครั้งแล้วมันก็กว้างขึ้นเป็นอย่างมากเพราะความผิดหวังต่อพลังของตัวเอง
ทั้งที่คิดว่าแข็งแกร่งขึ้นมาถึงขนาดนี้แล้ว
ทั้งที่ได้พลังมาไว้ในมือแล้ว
แต่ทั้งหมดนั่นมันสูญ...
“อิงศรอย่าสับสน!”
เสียงของซีลอร์ดดังมาจากข้างหลัง
“ตอนนี้ลูนาริสกำลังใช้เกสบังคับความตายของเพื่อนๆ
เธออยู่นะ!"
ความคิดเห็น