ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #229 : Login 226: ก่อนจะตกสู่ความสิ้นหวัง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 154
      7
      3 พ.ค. 61

    Login 226: ก่อนจะตกสู่ความสิ้นหวัง

     

                แฟรนเซียมเตรียมจะก้าวเท้าขึ้นไปบนวงสัญลักษณ์เดือนสิงหาคมแล้ว

                แต่ทว่า...

                ชิ!”

                ราชามนุษย์ต่างดาวเดาะลิ้นด้วยความเจ็บใจ เขานึกตำหนิตัวเองที่ย่ามใจเกินไปเพราะเพิ่งฆ่ารูบิเดียมที่เป็นพี่สาวของตัวเอง ฆ่าคนที่รักที่สุดแล้วก้าวข้ามความทรมานมาได้จึงไม่ทันตรวจสอบรอบๆ เสียก่อน

                ไม่สิถึงตรวจสอบไปก็เท่านั้นเขารู้ดีว่าสกิลที่ใช้ปกปิดร่องรอยนั่นถึงจะมีพลังขนาดไหนก็รับรู้ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรจะเผลอเรอขนาดนี้ คงเพราะไม่คิดว่าเจ้าของสกิลนั่นจะร่วมมือกับรูบิเดียมได้

                แฟรนเซียมหันหลังไปพร้อมกับตวัดดาบมังกรเทวะในมือ

                ชายในชุดสีแดงปรากฏตัวออกมาจากที่ๆ ไม่มีอะไรเลยโดยที่แทงดาบตรงเข้ามา ราชครูลำดับที่หกผู้มีฝีเท้าว่องไวที่สุดในหมู่ราชครู

                ลิเธียมเรอะ!”

                เคร้ง เสียงโลหะแหลมสูงดังกังวานเมื่อดาบปะทะกัน ดาบมังกรเทวะของเขาก็ปัดดาบของลิเธียม กระเด็นหลุดมือไปและทำให้เสียการทรงตัว

                แฟรนเซียมคิดจะเสียบมือซ้ายเข้าไปที่ลำคอของลิเธียมที่เสียการทรงตัว แต่ก็ทำไม่ได้

                ถ้าโจมตีกลับไปตอนนี่ถึงจะฆ่าลิเธียมได้ก็จะเปิดช่องให้เจ้าของสกิลที่ใช้พรางตัวเจ้าพวกนี้ฆ่าในทันที ต้องหาตัวเจ้านั่นให้เจอก่อน

                ตรงนั้นเรอะ!”

                แฟรนเซียมใช้มือซ้ายชักดาบที่เอวออก ดาบอันเดิมที่ถูกใช้ในฐานะ สิงห์ ธุวดารกะ ซึ่งมีเดม่อนแอพติดตั้งอยู่ในนั้น พลังของปีศาจที่ติดตั้งเอาไว้ไหลเวียนเข้ามาร่าง เขาหวดดาบไปทางขวาเต็มแรง

                เคร้ง! เสียงโลหะแหลมดังขึ้นอีก คราวนี้ดาบฟาดไปถูกคันธนู....

                คราวนี้เป็นโพแทสเซียมเรอะ!”

                เขาเหลือบตาไปมองแค่เห็นคันธนูเท่านั้นก็ละสายตาทันที เพราะจับสัมผัสได้จากทางด้าน

                สัมผัสจิตอันมุ่งร้ายที่พุ่งเข้ามาแล้วหันหน้าขึ้นไป เริ่มมองเห้นเงาลางๆ ของผู้จู่โจมที่กำลังจะคลายจากสภาพซ่อนตัวแล้ว

                ตายซะซีเซียม!”

                แฟรนเซียมดึงดาบทั้งสองมือพร้อมกันแล้วแทงขึ้นไปด้านบน ดาบเสียบทะลุร่างของผู้ทำการโจมตีและเปิดเผยมันออกจากสภาพโปร่งใส

                คนที่โผล่ออกมา คนที่โดนดาบของเขาเสียบใส่ท้องกับหน้าอกอยู่คือชายในเสื้อโค้ทราชครูสีดำ เรือนผมสีเงิน แต่ทว่า...

                ชายคนนั้นกลับโบกมือทักทายมา

                อ่อก...ไม่เจอกันนานนะท่านแฟรนเซียม”

                โพแทสเซียม แต่ทำไมล่ะ!”

                คนที่โดนเขาเสียบกลับเป็นโพแทสเซียม แต่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นกันล่ะ

                ก็เมื่อกี้โพแทสเซียมถูกเขาฟาดกระเด็นไปแล้ว... หรือว่า...

                แฟรนเซียมหันหน้ายังจุดที่คันธนูถูกฟาดกระเด็นไป ที่นั่นมีแต่คันธนูเปล่าๆ ตกอยู่ ที่จริงมันน่าสงสัยตั้งแต่ตอนที่ดาบฟาดถูกคันธนูแล้วจริงๆ นั่นแหละ ปกติไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพราะคนที่โจมตีระยะไกลจะเข้ามาประชิดตัวไปทำไมกัน ถึงจะมีสภาพซ่อนตัวที่ช่วยให้ได้เปรียบอยู่ก็เถอะ แต่เข้ามาประชิดก็ไม่ช่วยให้อัตราสังหารเพิ่มขึ้นอยู่ดี

                ดังนั้นถึงได้เข้าใจ โพแทสเซียมเป็นแค่นกต่อสองชั้นเท่านั้นคนที่รอโจมตีปิดฉากอยู่นั้นคือ…

                “…”

                สติของแฟรนเซียมหลุดลอยออกไปในตอนนั้น

                เพราะลำคอถูกตัดด้วยสันมือ หัวกับลำตัวจึงแยกออกจากกัน

     

                สุดท้ายก็จบแบบนี้เรอะแฟรนเซียม”

                ใบหน้าของอิงศรแต่เป็นมนุษย์ต่างดาวราชครูลำดับที่สองซีเซียม สะท้อนอยู่ในดวงตาของศพราชา ศีรษะแห่งราชาหมุนควงอยู่กลางอากาศสองถึงสามตลบก่อนจะตกลงพื้นแล้วกลิ้งต่อไปอีกหน่อย ส่วนลำตัวก็หงายหลังล้มตามไป

                เลือด

                เลือด

                เลือดสีแดงในปริมาณที่มากไหลทะลักลงสู่พื้นของบาเบล

                เลือดของราชาเจิ่งนองอยู่บนพื้นเยี่ยงเลือดที่ไร้ค่า

                จากนั้นบรรยากาศของห้องก็เปลี่ยนไป อาคารจำลองจำนวนมากปรากฏขึ้นภายใต้ทิวทัศน์ยามค่ำคืน ท้องฟ้าจำลองปรากฏขึ้นครอบคลุมพื้นที่ของทั้งหอคอย

                ฮีโร่เวิร์ส นั่นเอง พวกมันถูกปกปิดไว้ด้วยพลังของสกิลที่ใช้กางออกมาซึ่งเป็นขั้นพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของ ‘Hero Verse’ แบบปกติ

                เสียท่าให้กับฮีโร่เวิร์สทูว ดาร์คซิตี้ของฉันง่ายๆ เลยนะ”

                ซีเซียมกล่าวพลางปัดคราบเลือดที่ติดมือทิ้งไป

     

     

    [Hero Verse 2! Dark City Lv(1/1)

    Element: -

    Attribute: Field, Dark Hero

    มีแสงย่อมมีเงา จักรวาลฮีโร่มีทั้งด้านหน้าและด้านหลังนี่คือเมืองของ Dark Hero ผู้ทำทุกอย่างเพื่อความยุติธรรม ; สร้าง Hero Verse ขึ้นมาโดยไม่จำกัดเวลาการหายไปและ <ซ่อนตัว>(ปกปิดตัวตนทำให้ไม่ตกเป็นเป้าหมายหรือถูกจับสัมผัสได้ สถานะจะถูกยกเลิกเมื่อเริ่มโจมตีหรือใช้สกิล) ให้กับคุณและ Party ของคุณ อาณาเขตของสกิลจะปรากฏขึ้นเมื่อสถานะ <ซ่อนตัว> หายไป

     

                ที่ง่ายก็เพราะว่าเล่นทีเผลอนี่ครับ....แค่ก”

                เสียงพูดคล้ายจะทัดทานความคิดที่ว่าจัดการแฟรนเซียมได้ง่ายเอามากๆ ของเขาดังมา ซีเซียมจึงหันไป

                ลิเธียมกำลังช่วยถอนดาบออกจากตัวของโพแทสเซียมผู้เป็นเจ้าของคำพูดนั่น

                ไม่ใช่แค่เล่นทีเผลอหรอกนะ เจ้านี่มันไม่คิดอยู่แล้วว่าฉันจะร่วมมือกับรูบิเดียมได้ซึ่งมันก็คิดถูก”

                เอ๋ ถูกเหรอ”

                โพแทสเซียมถามมาหลังจากลิเธียมช่วยถอนดาบออกจากตัวจนหมดแล้ว

                เออสิ ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้ยัยรูบิเดียมตายเพื่อเล่นแผนนี้หรอกฉันน่ะไม่คิดว่าจะร่วมหัวจมท้ายกับยัยงูพิษนั่นอยู่แล้วทั้งหมดนี่ก็เพื่อไฮโดรเจนเท่านั้น”

                ซีเซียมกล่าว เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พวกอิงศรออกเดินทางแล้วก็คงจะต้องระวังรูบิเดียมเอาไว้จึงเกิดเป็นแผนขึ้นมาว่าจะใช้โพแทสเซียมเป็นนกต่อ

                แล้วเจ้าตัวก็ทักขึ้นมา โพแทสเซียมพูดมาแบบติดตลก

                แหมๆ ไอ้ที่ว่าเพื่อท่านไฮโดรเจนเนี่ยรวมถึงการใช้ผมตัวล่อด้วยหรือเปล่าครับเกือบตายเลยนา~”

                “…”

                ซีเซียมจ้องมองราชครูลำดับต่ำกว่าทั้งสองตนที่คอยติดตามช่วยเหลือมารวมถึงให้ความร่วมมือในแผนนี้ ซึ่งที่จริงแล้วโพแทสเซียมเป็นคนขอเข้ามาร่วมวงด้วยตัวเองเขาถึงคิดแผนลอบโจมตีขึ้นมาได้โดยตกลงกันเอาไว้แบบนี้

                พอส่งพวกอิงศรขึ้นไปแล้วจะจัดการรูบิเดียมดังนั้นจึงพยายามไม่ทำตัวให้เด่นและอยู่กันให้เงียบที่สุดจนถึงตอนที่เข้ามาในบาเบลแล้ววางกับดักนี้แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาก่อน

                แฟรนเซียมที่คิดว่าตายไปแล้วบุกมาที่นี่แล้วลงมือฆ่ารูบิเดียมซะเองแผนของพวกเขาเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมาย

                ไม่คิดจะปล่อยให้ตายอยู่แล้วล่ะน่า”

                ซีเซียมยิ้มขำแล้วเดินเข้าไปรวมกลุ่ม โพแทสเซียมจึงลุกขึ้นแล้วพูดตอบกลับมา

                แหม มันไม่ขำเลยนะครับ”

                ลิเธียมพูด

                แล้วจากนี้ไปจะเอายังไงต่อครับ”

                ไม่มีสิ่งที่เราทำได้อีกแล้ว มีแค่รอเท่านั้นแหละ”

                ซีเซียมสรุปเอาแบบนั้นแล้วมองไปที่แท่นศิลาตรงกลางห้อง

                “…”

                ตอนนี้ก็แค่รอเท่านั้น

                รอจนกว่าเหล่าวีระบุรุษที่ขึ้นไปบนสรวงสวรรค์จะทำภารกิจอันยิ่งใหญ่สำเร็จ แล้วจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนที่นี่ก็จะไม่เคยมีตัวตนอยู่อีกเพราะเวลาจะย้อนกลับไป

                ความบิดเบี้ยวในอดีตจะได้รับการแก้ไขซึ่งเท่ากับว่ามนุษย์ต่างดาวจะไม่ได้มาที่โลกใบ ดังนั้นพวกตนที่เกิดจากการโคลนนิ่งมนุษย์ต่างดาวอีกที เป็นผลลัพธ์ที่มาจากความบิดเบี้ยวนั่นก็จะถูกลบหายไป

                แต่ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร

                ถึงจะต้องหายไปก็คงไม่รู้ตัวอยู่ดี อย่างไรเสียช่วงเวลาในตอนนี้มันก็ไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อไปอยู่แล้ว

                ซีเซียมคิดว่าราชรูอีกสองตนก็คงคิดแบบเดียวกันไม่อย่างนั้นคงไม่ร่วมมือด้วย

                เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า

                หนึ่งวินาที

                สองวินาที

                ไม่มีใครพูดอะไรอีกเพราะต่างก็ไม่รู้จะพูดคุยเรื่องอะไร ได้แต่คิดเรื่องที่ว่าจะทำอะไรฆ่าเวลากันดี

                สามวินาที

                สี่วินาที

                แล้วในวินาทีที่ห้านั่นเอง

                อะ…”

                ซีเซียมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง สัมผัสได้ถึงความผิดแปลกของบรรยากาศ

                มือของเขาขยับไปเอง จากนั้นก็ลามไปถึงแขนกับขา โพแทสเซียมกับลิเธียมก็เหมือนจะควบคุมร่างกายไม่ได้ไปด้วย

                ลิเธียมพูด

                ควบคุมร่างกายไม่ได้เลย”

                โพแทสเซียมพูด

                อุหวา คราวนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกกันล่ะ”

                แต่ซีเซียมคาดเดาได้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อขาของเขากำลังพาตัวเองเดินถอยหลังกลับไปยืนในจุดที่ดักซุ่มโจมตีแฟรนเซียม คนอื่นๆ ก็เหมือนจะเดินกลับไปยังจุดประจำที่ของตัวเองด้วย

                มันเริ่มขึ้นแล้ว

                เวลากำลังจะย้อนกลับไปแล้ว!”

                ดูเหมือนว่าพวกอิงศรจะทำสำเร็จ เวลากำลังไหลกลับไปยังจุดเริ่มต้นอย่างนั้นสินะ

                ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องบอกลากันเสียที

     

                ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก เสียงเข็มวินาทีดังก้องไปมา

                เสียงเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่กำลังจะก้องกังวาน

                ซีเซียมที่คิดแบบนั้นได้รื่นรมย์ไปกับความคิดนั้นเพียงแค่ไม่กี่อึดใจต่อมาการย้อนกลับของเวลาก็หยุดลง

                พวกเขาทั้งสามตนกลับมาอยู่ในสภาพที่รอจะโจมตีแฟรนเซียม

                แต่ว่า…

                ขยับร่างกายไม่ได้

                ทำไมล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น

                ซีเซียมได้แต่วนคำถามนั้นอยู่สมองแล้วมองดูแฟรนเซียมที่กลับมามีชีวิตก้าวเท้าลงไปบนวงสัญลักษณ์

                ฟุ่บ เกิดเสียงแบบนั้นแล้วแฟรนเซียมก็หายตัวไป แสงบนวงสัญลักษณ์เดือนสิงหาคมดับวูบลง

                จากนั้นถึงเริ่มขยับตัวได้ เพราะแบบนั้นซีเซียมเลยหยุดแรงส่งจากการถีบตัวเองตอนที่จะเข้าไปโจมตีแฟรนเซียมไม่ได้แล้วพุ่งออกจากที่มั่นเข้าไปเหยียบวงสัญลักษณ์

                แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                พลังของเทอร์มินัลเคลื่อนย้ายถูกใช้ไปจนหมด ไม่สามารถติดตามขึ้นไปได้ แต่ถึงหาทางทำให้เทอร์มินัลใช้งานได้อีกครั้งมนุษย์ต่างดาวก็ขึ้นไปไม่ได้อยู่ดีมันมีข้อจำกัดอยู่ว่าถ้าไม่ใช่ชาวโลกที่ถูกกำหนดเอาไว้จะขึ้นไปไม่ได้

                สภาพซ่อนตัวถูกคลายออกในตอนนั้น อาณาเขตสกิลที่กางเอาไว้จึงปรากฏขึ้นมา

                บ้าน่า! นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

                ซีเซียมสบถอย่างหัวเสีย พวกเขาเพิ่งจะพลาดโอกาสช่วยเหลือไฮโดนเจนไป ไม่สิพวกเขาทำสำเร็จไปแล้วแต่ถูกบังคับให้ล้มเหลวโดยฝีมือของใครหรืออะไรบางอย่างที่พลังย้อนเวลากลับ

                ใครกัน

                มันอยู่ที่ไหน

                แต่ว่าความหวาดระแวงก็ผุดขึ้นมาด้วย ถ้าหากว่ารู้ตัวคนก่อเหตุแล้วจะต่อกรกับตัวตนที่มีพลังทำเรื่องแบบนั้นได้หรือเปล่า

                หรือไม่ก็ที่เห็นเมื่อครู่เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น ภาพลวงตาที่แฟรนเซียมใช้อะไรบางอย่างทำให้เห็นว่าพวกเขาฆ่าหมอนั่นได้ ต้องเป็นแบบนั้นแน่

                ทว่า ตอนที่หัวใจฟันธงลงไปแบบนั้นเอง

                ข้าเป็นคนทำเองแหละ”

                ก็มีเสียงตอบกลับมา เสียงที่ไม่คุ้นหูดังแว่วมาจากชายคนหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาอยู่บนบาเบลตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

                ชายผิวสีสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์คลุมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีเขียว เรือนผมสีดำหยิกยาว ใบหน้าปราดเปรื่องดูเหมือนผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก อีกฝ่ายมีแววตาที่ไม่ธรรมดา นัยตาสุกสกาวราวกับดวงดาว มีแต่สายตาของมนุษย์ต่างดาวเท่านั้นที่จะมองเห็นความวิเศษเพียงเล็กน้อยนั่นได้ ชายคนนี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน

                ซีเซียมเลื่อนมือไปวางบนปืนที่เอวโดยไม่ละสายตาไปจากชายคนนั้น

                “…”

                โพแทสเซียมกับลิเธียมก็คงจะรู้สึกอย่างเดียวกัน

                รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลนี้ถึงเริ่มหันอาวุธไปทางชายคนนั้น

                ชายผู้นั้นกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ ขณะที่โดนล้อมโดยราชครูมนุษย์ต่างดาวถึงสามตน

                เขียนทับความเป็นจริงที่ว่าพวกเธอฆ่าแฟรนเซียมให้กลายเป็นไม่เกิดขึ้นตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้ขอบเขตของอาคาชิกเรคคอร์ดจะเขียนแก้แทร็กซ้ำๆ ซักกี่ครั้งก็ได้”

                ไม่ใข่คนธรรมดาจริงๆ ด้วย

                แกเป็นใครกัน!”

                ซีเซียมถามขณะเดียวกันมือก็จับด้ามปืนเตรียมล้วงออกจากซอง

                คนขายกาแฟน่ะ”

                คำตอบคลุมเครือแบบนั้นไม่สำคัญต้องสนใจ อีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือไม่ก็คนที่คิดจะมาขัดขวางอย่างแน่นอนเพราะว่าช่วยเหลือแฟรนเซียมถ้าอย่างนั้นก็ต้องฆ่าทิ้งเท่านั้น

                งั้นก็ตายไปซะ!”

                ซีเซียมลั่นไกปืนยิง พร้อมๆ กับโพแทสเซียมที่แผลงลูกศรออกไปพอดี

                ลิเธียมร่ายสกิลใส่ดาบจนมันเปล่งออร่าสีแดงชาดราวกับมีเปลวไฟห้อมล้อมแล้วพุ่งทะยานออกมาด้วยความเร็วยิ่งยวดชนิดที่ว่าแซงลูกกระสุนของเขากับลูกศรของโพแทสเซียมไปเลยทีเดียว

     

                แต่ตอนนั้นเอง ชายในผ้ากันเปื้อนก็หยิบเอาบางสิ่งออกมา บางสิ่งที่เหมือนกับไพ่

                ไรท์(Write)…”

                ไพ่เปล่งแสงแล้วหายไปจากมือ ทันใดนั้นอากาศข้างๆ ก็แหวกออกเหมือนหลุมดำ มีอะไรบางอย่างพุ่งออกมาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าการเคลื่อนไหวของลิเธียม

                โพรเทคเวนท์ เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งโล่เหล็กไหลเซ็นจิน”

                แวบหนึ่ง

                “…”

                เพียงแค่แวบเดียวจริงๆ ซีเซียมมองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกระโดดออกมาจากหลุมอากาศนั่นพร้อมกับโล่ที่ใหญ่กว่าตัวเองเกือบสองเท่ายันรับดาบของลิเธียมก่อนจะเข้าถึงตัวชายผู้ที่อัญเชิญมันมา

                มีพลังงานหรือออร่าอะไรบางอย่างแผ่ออกจากโล่ปกคลุมทั้งสองคนนั่นไว้ทำให้การโจมตีของพวกเขากระดอนออกไปทั้งหมด

                ชิ ท่าป้องกันงั้นเรอะแต่ว่าไม่มีประโยชน์หรอกน่า”

                ซีเซียมลั่นไกปืนอีกครั้ง จากนั้นก็พูดประโยคสำหรับร่ายสกิลที่ใช้ยกเลิกการป้องกันได้ทุกรูปแบบ

                อะไรกันแม้แต่โล่ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยัง!”

                ถึงกระนั้นออร่าที่ครอบคลุมพวกนั้นก็ยังไม่ยอมหายไป กระสุนปะทะเข้ากับกำแพงนั่นดัง พิ้ง แล้วกระดอนออก

                ชายผ้ากันเปื้อนเขียวพูด

                มันคือสิ่งที่เรียกว่า พล็อตอาร์เมอร์ ไงล่ะแต่ถึงพูดไปมากกว่านี้ก็ไม่เข้าใจหรอก”

                ดูเหมือนจะพูดตอบคำพูดร่ายสกิลของเขา ที่ถามว่า ‘อะไรกัน’ นั่นอย่างนั้นสินะ

                ที่จริงจะฆ่าพวกเธอซะก็ได้แหละนะแต่ว่าปล่อยเอาไว้แบบนี้จะดีกว่า”

                หมายความว่ายังไง”

                ก็พวกเธอน่ะไม่มีสิ่งที่ทำได้อีกแล้วนี่ถึงปล่อยเอาไว้ก็ไม่กระทบต่อเส้นทางของวัฏจักรอยู่แล้วเพราะงั้นปล่อยให้จมไปกับความเจ็บช้ำนี้จนกระทั่งถูกความว่างเปล่ากัดกินซะยังจะทำให้สิ้นหวังได้มากกว่าอีกนี่”

                ความเจ็บช้ำที่ว่านั่นก็คือเรื่องที่ขัดขวางไม่ให้ฆ่าแฟรนเซียมได้อย่างนั้นสินะ

                อืม มันก็เจ็บใจจริงๆ นั่นแหละ โดนดูถูกโดยสมบูรณ์

                แต่ไม่หลงกลหรอก ถ้าหลงไปกับคำพูดของศัตรูก็จะมองข้ามบางอย่างไป การที่พูดมากถึงขนาดนั้นแสดงว่าต้องมีอะไรที่อยากจะปกปิด

                แต่ชายผ้ากันเปื้อนก็กล่าวขัดความคิดตรึกตรองนั่นไว้

                ไม่มีหรอก”

                เอ๊ะ!”

                ก็เหมือนกับคนรู้จักของเธอนั่นแหละความคิดความอ่านของพวกเธอมันลอยกันให้สลอนเลยน่ะ”

                ถูกอ่านใจ ?

                ใช่ แล้วก็ไม่ได้พยายามดูถูกหรอกนะแต่พวกเธอน่ะอ่อนแอเกินไปเองต่างหากขนาดว่าอยู่ในร่างที่อ่อนแอปวกเปียกนี่ยังฆ่าไม่ได้เลย อ่อนแอเกินไปจริงๆ”

                จะไหลไปกับคำพูดอีกฝ่ายไม่ได้เด็ดขาด ซีเซียมย้ำกับตัวเองแบบนั้นแล้วพยายามมองหาช่องทางที่จะโจมตีเข้าไปในเกราะกำบัง

                ไม่มีช่องที่ว่านั่นหรอกนะ”

                อึก”

                ซีเซียมพยายามกัดฟันข่มความโกรธ แต่ว่า...

                ช่าย~ แบบนั้นแหละขบเขี้ยวเคี้ยวฟันให้มากเข้าไว้โกรธแค้นให้มากกว่านี้อีกแล้วก็จะมีความหวังผุดขึ้นมา ความหวังที่ว่าจะทำอะไรซักอย่างเพื่อบรรเทาความโกรธที่สุมอยู่ภายในอกได้แต่ว่าสุดท้ายก็จะทำอะไรไม่ได้เลย แล้วก็จมลงในความสิ้นหวังอีก วนซ้ำไปซ้ำมาเป็นวัฏจักรจนกว่าความว่างเปล่าจะช่วยปลดปล่อย ทำแบบนั้นแล้วความว่างเปล่าก็ยิ่งขยายกว้างได้มากขึ้น”

                ไม่ไหวแล้วววว!!!

                ปืนทุกกระบอกยิง!”

                ซีเซียมร่ายสกิลพร้อมกับลั่นไกปืน กระบอกปืนจำนวนมากผุดขึ้นมาจากอากาศรอบๆ มีตั้งแต่ลูกซอง ไรเฟิล ไปจนถึงปืนใหญ่เรือรบ ทุกกระบอกยิงออกไปพร้อมกันเสียงปะทุระเบิดดังกึกก้องไปทั้งหอคอย

                แบบนั้นแหละ แบบนั้นแหละ”

                กระสุนยังคงเจาะกำแพงป้องกันไม่เข้าอยู่ดี

                ตอนนั้นเองโพแทสเซียมก็ตะโกนมาจากจุดที่ห่างออกไปเกือบด้านในสุดของหอคอย

                ท่านซีเซียมรุมโจมตีพร้อมกันเลยไหมครับ

                ไม่รู้ว่าเคลื่อนที่ไปไกลขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่แต่คงอาศัยช่วงชุลมุนตรงนี้แอบทิ้งระยะห่าง เพราะสกิลของบิลด์มิสติดชูตเตอร์ของโพแทสเซียมจะรุนแรงขึ้นเมื่อโจมตีในระยะห่าง

                ซีเซียมตะโกนตอบกลับไป

                เอาเลย!”

                แล้วชักปืนลูกซองอีกกระบอกจากเอวมา เล็งทั้งสองกระบอกไปที่เป้าหมาย

                ชายคนนั้นทำท่ายักไหล่พลางส่ายหัว

                ไม่ไหว ไม่ไหว เราไปกันเถอะ เซนจิน ไม่สิถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็

                แล้วยื่นมือไปสัมผัสที่หัวไหล่ของเด็กหนุ่มเจ้าของโล่เหล็กกล้า

                ซีเซียมตะหวาดพร้อมกับลั่นไกปืนดัง ปัง ปัง

                คิดจะหนีงั้นเรอะอย่าฝัน...

                ควรจะเรียกว่าเน็กส์สินะ

                ทันทีหลังจากคำพูดนั้น ซีเซียมก็มองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นได้อย่างชัดเจน

                ใบหน้าคลับคล้าย คลับคลา เหมือนเคยเห็นมาก่อน

                เหมือนสมาชิกคนหนึ่งของพวกอิงศรแต่ว่าดูโตกว่ามาก อายุของเด็กหนุ่มตรงนี้น่าจะซักสิบห้าปีแต่ เน็กส์ คนที่ว่าอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น

                แล้วชายคนกับเด็กหนุ่มก็หายตัวไปเสียก่อนที่การโจมตีจะเข้าถึง

                ลูกกระสุกกับลำแสงที่โพแทสเซียมยิงมาจากคันธนูเข้าปะทะกันแล้วระเบิดออก

                ภายหลังจากฝุ่นควันซึ่งตลบอบอวลขึ้นมาเพราะแรงระเบิดจางหายไป

                คนทั้งคู่ที่ว่าก็หายไปราวกับอากาศธาตุ ไม่หลงเหลือไว้แม้แต่ร่องรอยให้ติดตาม

                บัดซบเอ้ย!!”

                ซีเซียมสบถคำราม

                ตอนนี้เท่ากับว่าทำอะไรไม่ได้จริงๆ แล้ว

                แต่ว่า

                เดี๋ยวสิ...

                ซีเซียมก็ฉุกคิดขึ้นมา คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

                ความเป็นไปได้ว่าจะมองข้ามอะไรไปซักอย่าง เจ้าสิ่งที่พวกเขามองข้ามไปเพิ่งจะหนีไปเมื่อกี้เอง

                หรือว่าเจ้านั่นกับฟาวเดชั่นอีจะ...

                สมมติฐานพลันแล่นขึ้นมาเมื่อคิดถึงจุดเชื่อมโยงที่ชายปริศนาคนนั้นใช้พลังอันแปลกประหลาดและพยายามช่วยแฟรนเซียม

                ถ้าหากว่า ถ้าหากว่า ถ้าหากว่า...

                แม้แต่การย้อนกลับไปแล้วแก้ไขความบิดเบี้ยวในอดีตก็อาจจะอยู่ในแผนของฟาวเดชั่นอีด้วยล่ะ

     

                @@@

                @@@@

                @@@@@

     

                ท้องฟ้าที่สะท้อนแสงแดดจนเป็นสีม่วง เป็นท้องฟ้าในยามเย็นหรือว่ายามรุ่งสางกันแน่นะ

                ตอนนี้กี่โมงกันแล้วกี่วนาทีกันแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันบางทีที่นี่อาจจะไม่มีช่วงเวลา

                ท้องของอาคาชิกเรคคอร์ดซึ่งอยู่เหนือสวนแห่งที่หนึ่งขึ้นไปอีก

                เป็นอาณาเขตของพระเจ้าอิงศรอธิบายได้แค่นั้นเมื่อแรกเห็นดินแดนแห่งนี้ขณะที่ตนยืนอยู่บนแผ่นดินกว้างเท่าห้องในหอคอยบาเบล แผ่นดินกำลังลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนกับลิฟท์

                ลิฟท์ที่จะนำไปสู่อาคาชิกแซงทัวรี่ สถานที่พำนักของแอดมินิสเทรเตอร์และเป็นศูนย์กลางการควบคุม อาคาชิกเรคคอร์ด ระบบบันทึกเหตุกาณ์ที่กำหนดความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง

                แล้วเหนือลิฟท์ขึ้นไปนั่นเอง

                วัชพืชเอ๋ย เกมจบลงแล้ว

                พระเจ้าก็ตรัสลงมาเช่นนั้น...


    ***อีกตอนของอาทิตย์นี้รอวันเสาร์เลยนะครับไรท์หวัดกินอีกแล้วเลยลงช้าไปวันหนึ่งเต็มๆ เลยไม่ไหวปวดไปทั้งตัวน้ำมูกก็ไหลอีก แอ่ววว TwT***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×