ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #206 : Login 203: สถานที่ซึ่งอสูรตื่นจากนิทรา2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 173
      6
      16 ก.พ. 61

    Login 203: สถานที่ซึ่งอสูรตื่นจากนิทรา2

     

                พวกเขาตัดสินใจเข้าไปในศาลาซึ่งจมอยู่ในอ่าว

                พอเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นว่าศาลานั้นที่จริงแล้วเป็นบ้านเรือนไทยแบบโบราณโดยจมเอียงอยู่ครึ่งหลังเพราะเสาคานที่ยกใต้ถุนให้พ้นน้ำนั้นหักไปฝั่งหนึ่ง

                ตัวเรือนมีเสาอยู่หกต้นหักไปเสียสาม เป็นเสาฝั่งที่ยื่นออกไปฝั่งทะเลทั้งหมดคิดว่าในอดีตคงจะโดนคลื่นซัดช่วงที่มีพายุเข้าศาลาถึงได้จมอยู่ในสภาพหงายหลังนั่นเอง

                จากฝั่งไปถึงเรือนมีสะพานทำจากไม้ทอดไปถึง แม้จะมีสภาพผุพังไปตามกาลเวลาแต่ดูแล้วก็ยังพอใช้งานได้

                นรินทร์หยั่งเท้าลงไปบนสะพาน มันส่งเสียงเอี้ยดอ้าดและโอนเอนอยู่เล็กน้อย

                งั้นพวกเราจะข้ามไปก่อน…”

                นรินทร์ตั้งใจจะบอกแบบนั้นกับพวกราชครู

                ทว่า…

                โพแทสเซียมกับลิเธียมก็ชิงตัดหน้ากระโดดด้วยพลังเหนือมนุษย์ข้ามฟากไปถึงฝั่งศาลาก่อน

                ราชครูทั้งสองลงจอดบนชานระเบียง จากนั้นโพแทสเซียมก็โบกมือมา

                รีบๆ ตามมาน้า~~~

                พร้อมกับตะโกนอย่างสนุกสนาน

                ถึงจะดูน่าหมันไส้ไปบ้างแต่แบบนี้ก็หมดห่วงเรื่องลำดับการข้ามสะพานแล้วแถมยังไม่ต้องพะวงว่าจะโดนตลบหลังด้วยรึเปล่า

                ตอนนั้นเองเน็กส์ที่อยู่ข้างๆ ก็ดึงแขนเขา

                พี่รินฮะ”

                เน็กส์คงจะกังวลเรื่องความมั่นคงของสะพาน…นรินทร์ที่คิดแบบนั้นตั้งใจจะพูดให้กำลังใจว่าไม่ต้องห่วงตนจะคอยดูแลไม่ให้ตกลงไปข้างล่างเอง

                แต่ทว่า…

                “…”

                เมื่อหันไปมองใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความกังวลของเด็กชาย ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้น

                ...แต่เน็กส์ในตอนนี้กำลังยิ้มซื่อๆ อย่างไร้เดียงสา

                เด็กชายชักเอาไม้เท้าออกมาตอนไหนก็ไม่รู้สะบัดมันแล้วร่ายสกิล

                วินด์วาร์ป”

                ฟุ่บ เกิดเสียงแบบนั้นแล้วอากาศรอบตัวก็ผันผวนกลายเป็นสายลมโอบล้อมพวกเขา

                วินาทีถัดมาทั้งเขาทั้งเน็กส์ก็มาโผล่ที่เดียวกับพวกราชครู

                มากันไวดีนี่ครับ”

                โพแทสเซียมกล่าวแบบนั้นพลางยิ้มร่าอย่างเอ็นดู

                รีบเข้าไปข้างในกันเถอะฮะ”

                เน็กส์บอกเขาแล้วปล่อยมือที่จับไว้ตอนใช้สกิลพาข้ามฟากมาก่อนจะเดินตามหลังพวกราชครูที่ล่วงหน้าไปที่ประตูทางเข้าเรือน

                “….”

                ดูเหมือนคนที่ยังคิดด้วยสามัญสำนึกจนน่าอายคงมีแต่เราคนเดียวสินะ

                แถมยังโดนเมินกันเห็นๆ

                ฮะ ฮะ ฮะ”

                นรินทร์ได้แต่ ยิ้มเจื่อนแก้เขินแล้วเดินตามหลังพวกนั้นไป

    แต่เมื่อลองคิดดูแล้วการที่เน็กส์ทำแบบนั้นก็หมายความว่าเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีก

                พวกราชครูก็ว่าไปอย่างพวกนั้นเพิ่งจะมาถึงที่นี่โดยที่พังเส้นทางที่ใช้มาจึงถืออาวุธอยู่ในมือพร้ิมมาตั้งแต่แรก แต่พวกเขาที่มุดท่อกันมาเลยเก็บอาวุธไว้

                แล้วพอมาถึงที่นี่…

                ได้เห็นอสูรที่ลอยผ่านหน้าตัวเองไป

                จะไล่ตามสิ่งที่น่าจะเป็นอันตราย

                แต่กลับไม่เตรียมพร้อมตัวเอง

                พอคิดแบบนั้นแล้วความตึงเครียดก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เขาชักไม้เท้าของตัวเองออกมาเตรียมไว้บ้างแล้วเดินตามหลังทุกคนไป

                ระเบียงชานบ้านนี้เอียงชันอยู่พอตัวทำให้เดินลำบาก

                พวกเขามาถึงหน้าประตูไม้ตรงกลางเรือน มันถูกเปิดแง้มไว้และมีตะไคร่เกาะเต็มสองบานประตู

                ไม่รู้ว่าข้างในนั้นจะมีน้ำท่วมขังเต็มเลยรึเปล่าเพราะตัวเรือนด้านหลังบานประตูเป็นส่วนที่จมน้ำ

                เมื่อโพแทสเซียมผลักประตูมันก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดอย่างน่าวังเวง

                บานประตูข้างหนึ่งดูเหมือนบานพับจะเสียอยู่หลังจากที่มันเคลื่อนเข้าไปด้านในบานประตูก็หลุดออกจากวงกบประตูและไหลไปตามพื้นที่ลาดเอียงหายไปในความมืดของห้องจนกระทั่งมีเสียงดังซู่ขึ้นมา

                ท่าทางด้านในจะมีน้ำท่วมขังจริงๆ

                ภายในห้องนั้นมืดสนิทไม่มีหน้าต่างให้แสงเข้ามาได้

                ด้านนอกตอนนี้ก็ยังเป็นเวลากลางคืนจึงแทบไม่แสงให้ส่องเข้าไป

                โพแทสเซียมเปิดหน้าจอระบบขึ้นแล้วหันมันให้แสงจากหน้าจอส่องเข้าไปในห้อง

                น้ำท่วมขังอยู่ในห้องที่ลาดเอียงอยู่ครึ่งหนึ่งจนมีลักษณะเหมือนเป็นเนินลาดลงไปยังแม่น้ำ

                ข้างในไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของอำนวยความสะดวกตั้งอยู่ซักชิ้นเดียว

                เรือนไทยหลังนี้มีห้องใหญ่เพียงห้องเดียวและข้างในก็ว่างเปล่าบางทีในอดีตมันคงจะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของผู้ที่มาพักที่รีสอร์ท...

                หรือไม่ก็ใช้ประกอบพิธีกรรมอะไรซักอย่างเนื่องจากภายในห้องมีกลิ่นอายของอาคมที่เฉพาะอาชีพผู้ใช้เวทเท่านั้นจะสัมผัสได้ลอยอบอวลอยู่เต็มห้อง

                ทั้งที่เป็นแบบนั้น

                อะฮะ ได้กลิ่นไม่ดีโชยมาเลยนะครับเนี่ย

                โพแทสเซียมที่น่าจะมีอาชีพเรนเจอร์เหมือนกับอิงศรกลับพูดแบบนั้น พูดเหมือนกับว่าสัมผัสถึงกลิ่นอายของพลังเวทได้

                แต่พอโพแทสเซียมชี้ไปที่กลางห้องซึ่งแสงไฟจากหน้าจอส่องไป ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สัมผัสกลิ่นอายพลังเวทอะไรได้หรอก

                แต่เป็นกลิ่นอายของความตายต่างหาก

                ที่กลางห้องนั่นมีเชือกมัดกับคานห้อยต่องแต่งอยู่ ส่วนปลายผูกเป็นบ่วง จากความเก่าของเชือกที่เห็นคร่าวๆน่าจะผูกไว้นานมากแล้ว

                เห็นเพียงแค่นั้นก็เดาได้ทันทีว่า...

                เคยมีคนผูกคอตายที่นี่มาก่อนสินะ

                นรินทร์คาดเดาความเป็นไปได้ที่น่าจะใช่ที่สุด ซึ่งโพแทสเซียมก็เสริมมาอีกว่า

                หรือไม่ก็เคยมีคนถูกฆ่าโดยการแขวนคออย่างนั้นสินะ

                หมายความว่ายังไงน่ะ

                พอนรินทร์ถามอีกฝ่ายก็ขยับหน้าจอให้แสงส่องทั่วทั้งห้อง

                ก็มันไม่มีน่ะสิครับสิ่งที่ควรจะมีอยู่ที่นี่

                นรินทร์เข้าใจและพยักหน้าให้คำพูดนั้น

                ศพสินะ

                ที่นี่ไม่มีศพหรือแม้แต่โครงกระดูกของคนตายหลงเหลืออยู่เลย ถ้าจะบอกว่านั่นเป็นเชือกสำหรับห้อยของที่ไม่เกี่ยวกับการฆ่าใครซักคนเลยก็เป็นไปไม่ได้

                เชือกดูมั่นคงแข็งแรงแถมยังห้อยบ่วงต่ำลงมามากถ้าเอาอะไรไปแขวนไว้ก็จะเกะกะจนไม่น่าเป็นไปได้

                ราชครูลิเธียมกล่าว

                จะว่าไปอสูรล่ะหายไปไหนแล้ว

                พูดถึงเรื่องนั้นแล้วก็ยังมีอีกเรื่องที่น่าสงสัย

                นรินทร์หันไปถามกับพวกราชครูว่า

                จริงด้วยสิยังไม่ได้ถามเลยทำไมถึงรู้ว่านั่นคืออสูรล่ะ

                โพแทสเซียมตอบว่า

                ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเรายังทำงานเป็นราชครูอยู่มันก็มีภาระหน้าที่อันสำคัญที่ต้องไปเก็บกวาดสิ่งที่หลงเหลือของอารย-สนธยาเก่า ก่อนจะตกไปอยู่ในมือท่านแฟรนเซียมหนึ่งในนั้นก็คืออสูรนี่ล่ะนะ

                พอได้ยินว่า อารย-สนธยา แล้วนรินทร์ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาจนคิดอยากจะเปลี่ยนเรื่องคุย

                ตัวเขาที่เป็นเจ้าชายแห่งอารย-สนธยานั้นได้ตายไปแล้ว

                แล้วก็ได้อิงศรช่วยไว้ถึงได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

                ดังนั้นจึงตัดสินใจไปแล้วว่าจะก้าวเดินไปข้างหน้าโดยละทิ้งอดีต

                พูดถึงอดีตแล้ว...ในเมื่อสถานที่แห่งนี้น่าจะเก่าแก่ขนาดที่ไม่ใครเปิดมาหลายปีจนกระทั่งพวกเขามาถึงที่นี่ แต่...

                นี่รู้สึกกันไหมว่าเหมือนเพิ่งมีคนมาที่นี่ก่อนเราไม่นานมานี้เองน่ะ

                โพแทสเซียมเห็นด้วยกับคำพูดของเขา

                ก็จริงนะครับทั้งที่ข้างในนี่ปิดมิดชิดขนาดนี้แต่แทบไม่มีกลิ่นอับเลย

                กล่าวแบบนั้นแล้วเดินไปที่วงกบประตูที่ว่างเพราะบานประตูหลุดออกไป

                แถมประตูที่บานพับพังไปข้างนั่นรอยก็ยังใหม่อยู่ด้วย

                เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเพิ่งมีคนเข้ามาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้

                แล้วก็น่าจะไม่ใช่ฝีมือของอสูรด้วยเพราะพวกเขาเห็นมันทะลุผ่านประตูไปเลย ดังนั้นประตูไม่น่าจะถูกเปิดโดยพวกมัน แต่คงมีใครบนเกาะมาที่นี่มากกว่า

                สันนิษฐานหนึ่งผุดขึ้นมาทันที

                สันนิษฐานว่าศาลาแห่งนี้คงเป็นที่พักพิงของพวกอสูรแล้วคนร้ายที่เข้ามาในศาลานี้ปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นจะเป็น

                หรือว่ามิ่งขวัญ

                นรินทร์พึมพำกับตัวเองอย่างนั้น

                ถ้ามิ่งขวัญเคยเข้ามาที่นี่กันนะถ้าก็จะตอบเรื่องกลิ่นแปลกๆ ในห้องอิงศรได้

                มิ่งขวัญเพิ่งมีอาการแปลกๆ มาได้สองวันซึ่งถ้ามีสองวันหลังจากที่ประตูเปิดทิ้งไว้อากาศในห้องก็คงถ่ายเทออกไปหมดแล้วรวมถึงถ้ามีอสูรอยู่ที่นี่ก็คงจะออกไปเหมือนกัน


    ***บทนี้สั้นสุดๆ เลยต้องขอโทษจริงครับ เมื่อคืนตอนที่ปั่นต้นฉบับอยู่ก็มีเรื่องทำให้ไรท์ต้องหยุดปั่นกะทันหันเนื่องจากมีคนในครอบครัวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นมาครับ แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไว้บทที่จะลงวันอังคารหน้าจะเพิ่มความยาวชดเชยส่วนที่ขาดให้นะครับ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×