คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #180 : Login 177: กระต่ายขาวในเงาจันทร์ 4
Login
177: กระต่ายขาวในเงาจันทร์ 4
เครื่องทำสวนกระต่ายพุ่งกระโจนเข้าใส่ราชสีห์อย่างไม่กลัวเกรงพร้อมกับสะบัดใบหูที่คมเหมือนดาบ
อิงศรพอจะเข้าใจวิธีสู้ของเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์จูลลับบิตต้าขึ้นมาบ้าง
หากเทียบเรื่องพละกำลังกับออร์ทิเกสซาร์คงเทียบไม่ติดแต่ก็มีความว่องไวมาชดเชยตรงนั้น
นอกจากนี้ชิ้นส่วนที่เป็นแบ็คแพ็กคล้ายก้ามปูบนหลังยังใช้งานแบบนี้ได้ด้วย
ทันทีที่ออร์ทิเกสซาร์ก้าวถอยหลังหลบใบหูดาบ
และถอยต่อไปอีกสองสามก้าวเพื่อหวังสร้างระยะห่างแล้วกางแผงคอ
คิดจะยิงมาจากตรงนั้นสินะ
อิงศรจึงสั่งให้ก้ามปูข้างซ้ายพุ่งออกไปเหมือนฉมวกติดเชือก
ก้ามปูหนีบจับขาหน้าของออร์ทิเกสซาร์
จากนั้นแบ็คแพ็กก็ดึงจูลลับบิตต้าเข้าไปหาโดยที่ก้มหัวให้ดาบใบหูยื่นออกไปหวังจะเสียบยอดอกอีกฝ่าย
ทว่า...
ออร์ทิเกสซาร์หุบแผงคอของมันลง
“โอ๊ะโอ๋
คลุกวงในไม่ให้มีช่องว่างเลยนะคิดว่าข้าเป็นพวกถนัดสู้ระยะกลางถึงไกลงั้นสิ”
ทันใดนั้นเองร่องรูปลายพาดกลอนบนหลังก็พ่นไฟออกมา
มันถีบตัวกระโจนเข้าหาอิงศรอย่างไม่กลัวเกรงดาบใบหูที่ยื่นจ่อเข้ามา
แล้วม้วนตัวกลิ้งกลางอากาศกลายเป็นกงล้อเพลิง
ความเร็วในการหมุนของกงล้อเพลิงปัดทั้งก้ามปูและดาบของจูลลับบิตต้ารวมถึงพุ่งเข้ามาอัดจนกระเด็น
เครื่องทำสวนลอยเคว้งกลางอากาศ
อิงศรควบคุมมันอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้หล่นลงไปทับพวกเดียวกันจึงพลิกตัวกลางอากาศเหมือนเช่นที่ตัวเขาเองจะทำอยู่เสมอเวลาที่โดนอัดจนตัวลอย
เพราะเครื่องทำสวนเป็นแบบที่มีความคล่องตัวเช่นเดียวกับตัวเองจึงทำได้ง่าย
อิงศรสามารถลงพื้นได้อย่างปลอดภัย
”เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ”
เขาจ้องมองไปที่กงล้อเพลิงที่ยังคงหมุนติ้วอยู่ตรงนั้น
ครู่ต่อมามันก็หยุดหมุนและคลายตัวออก
แต่ออร์ทิเกสซาร์กระโจนพุ่งเข้ามาทันทีที่เท้าแตะพื้น
”เหวอ!”
อิงศรกระโดดหลบเบี่ยงไปทางด้านข้างได้อย่างฉิวเฉียด
ออร์ทิเกสซาร์จึงตะครุบฝุ่นไปแทน ทำเอาเกิดหมอกทรายคลุ้งขึ้นมาเลย
พวกข้างล่างคงจะตกอยู่ในความโกลาหลกันพอสมควร
ต้องลากมันออกไปสู้กันที่ทะเล
ถ้าเป็นที่นั่นก็จะลงมือได้อย่างเต็มที่ แต่ว่า
“เมื่อกี้เราเพิ่งหลบมันได้แบบฉิวเฉียดไปเองนี่นะ”
ฉิวเฉียด…ทั้งที่ก่อนหน้านี้การเคลื่อนที่ของออร์ทิเกสซาร์น่าจะช้ากว่าจูลลับบิตต้าของตนแต่กลับต้องหลบแบบฉิวเฉียดนั้นมันน่าแปลก
ตอนนั้นเองออร์ทิเกสซาร์ก็กางกรงเล็บแล้วพุ่งเข้ามาอีก
อิงศรหลบทันอย่างหวุดหวิดไปได้
แต่ความเร็วของออร์ทิเกสซาร์ราวกับเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มันจู่โจมหรือควรจะบอกว่ามันเพียงแค่กำลังเล่นเป็นสิงโตจับกระต่ายอยู่กันล่ะ
ไม่สิตอนนี้จากรูปร่างที่ดูปราดเปรียวขึ้นจากการเก็บแพงคอและไฟที่พ่นขึ้นจากร่องบนหลังทำให้มันดูเหมือนเสือมากกว่า
สัตว์ที่มีส่วนผสมระหว่างสิงโตกับเสือก็มี
ไลเกอร์ หรือไม่ก็ ไทกอน แต่จากลักษณะแล้วเจ้านี่น่าจะมีต้นแบบมาจากไลเกอร์…
แต่ซากิริเคยพูดไว้ว่าเครื่องทำสวนอาจจะเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
เหมือนจะเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องสารพันธุกรรมแซดหรืออะไรเนี่ยแหละ
แล้วซีลอร์ดก็ยังพูดอยู่บ่อยๆ
เจ้าสวนแห่งที่หนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสวนอีเด็นในตำนาน
ถ้างั้นลักษณะรูปร่างอาจจะเป็นการควบรวมของสัตว์ตระกูลแมว
ถึงมานั่งคิดเรื่องความเชื่อมโยงของเครื่องทำสวนไปก็เท่านั้น
อิงศรยืนยันได้เรื่องหนึ่งเป็นที่แน่ชัดเลยว่าออร์ทิเกสซาร์มีความสามารถเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ไปตามรูปร่างของสิงโตกับเสือ
โดยแบบสิงโตจะเน้นการยิงกวาดล้างเป็นวงกว้างส่วนรูปแบบเสือน่าจะถนัดการจู่โจมด้วยร่างกายเป็นหลักจึงมีความคล่องตัวและว่องไวสูงกว่า
เพียงแค่เริ่มสู้กันอย่างจริงจังไปได้สามสี่กระบวนโดยที่อิงศรเป็นฝ่ายรับอยู่ตลอดก็เริ่มจะตามความเร็วของออร์ทิเกสซาร์ได้ยาก
อีกฝ่ายบุกต่อเนื่องไม่มีข่องว่างให้สวนกลับเลย
“ขืนเป็นแบบนี้เสร็จมันแน่
เจ้านี่ไม่มีอาวุธอะไรอย่างอื่นแล้วเหรอ”
อิงศรรู้คำตอบดีว่ามันไม่มี
นอกจากแบ็คแพ็กก้ามปูบนหลังกับใบหูดาบแล้วจูลลับบิตต้าก็มีแค่ความเร็วกับความว่องไวเป็นอาวุธเท่านั้น
นั่นคือข้อมูลที่เครื่องทำสวนส่งมาให้ผ่านทางฟันเฟืองที่เชื่อมติดกับแผ่นหลังของตน
“โธ่เว้ยแล้วยิงลำแสงแบบพวกมันไม่ได้รึไงนะ
โซเดียราโอ!”
อิงศรคำรามอย่างสิ้นหวังกระทั่งลองพูดร่ายสกิลดูแต่เครื่องทำสวนของตนก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงได้แต่วิ่งวนไปรอบๆ
แต่ออร์ทิเกสซาร์ก็ไล่กวดเข้ามาจนแทบจะหายใจรดใส่แผ่นหลัง
“อ้า~ หอมหวนอะไรอย่างนี้กลิ้นนี่มัน
ใช่แล้วกลิ่นของคนที่ร่วงลงมาจากเนินแห่งความหวังอันสูงชันความสิ้นหวังยังไงล่ะ”
ออร์ทิเกสซาร์กล่าวอย่างยินดีพร้อมกับตะปบกรงเล็บลงมาที่หลังอิงศร
หลังของจูลลับบิตต้าคงจะฉีกขาดอย่างสาหัสเป็นแน่
“เวพอนไนซ์!
เท็งกะโกะเคน!”
เสียงของกวินทร์ดังขึ้นในตอนนั้นเอง
ออร์ทิ้กสซาร์อีกเครื่องปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าออร์ทิเกสซาร์
ไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรืออะไรแต่เสี้ยววินาทีหนึ่งที่มันเผลอชะลอความเร็วของกรงเล็บไปนั่นเอง
อิงศรก็หลบหนีออกมา
ขาหลังของจูลลับบิตต้าถีบพื้นอย่างรุนแรงดีดตัวกระดอนไปข้างหน้าจนทรายฟุ้งเป็นทาง
มิติท่าไม้ตายของกวินทร์กางออกมาครอบคลุมทั้งสนามรบ
ออร์ทิเกสซาร์ที่เป็นภาพลวงตาจากสกิลเวพอนไนซ์อยู่ในโหมดเสือ
มอบพลังให้กวินทร์จนเสร็จสิ้นพิธีก็หายตัวไปพร้อมกับยกเลิกมิติท่าไม้ตาย
กวินทร์ซึ่งสวมใส่ชุดเกราะซามูไรสีเขียวหม่นแกว่งดาบด้วยสองมือ
“เท็งเกคิ!”
พลางร่ายสกิลของอาวุธเวพ่อนไนซ์
ลูกบอลแสงห้าสีห้าลูกลอยออกมาจากดาบห้อมล้อมตรงใบดาบส่วนที่เว้าเข้าไปเป็นครึ่งวงกลม
ลูกบอลสีเขียวใบไม้หยุดอยู่ภายเว้าครึ่งวงกลมนั่น
“คมเขี้ยวพฤกษาสะบั้นเศียรปีศาจ โดจิกิริ ยาสุทสึนะ”
วิญญาณอันเป็นตัวแทนแห่งดาบสะบั้นปีศาจปรากฏขึ้นด้านหลังกวินทร์ในรูปลักษณ์ของเงาสุนัขที่มีร่างอันโปร่งใสสีเขียวขจีดั่งสีของป่า
ลูกบอลแสงทั้งหมดหายกลับเข้าไปในดาบแล้วทำให้เปลี่ยนแปลงรูปร่าง
กวินทร์แยกมันออกเป็นสองเล่มเป็นดาบคาตานะสีเขียวใบไม้ ใบดาบเกือบจะตั้งตรง
แคบและเรียวยาวใกล้เคียงกับกระบี่จีนแต่มีความโค้งมากกว่า โกร่งดาบเหมือนทำจากไม้
มีสายห้อยลูกปัดที่ทำเป็นรูปใบไม้ลูกหนึ่งห้อยลงจากด้ามดาบทั้งสองเล่ม
พอดาบกลายเป็นแบบนั้นเงาสุนัขก็กลายเป็นใบไม้สีเขียวขจี
หมุนวนห้อมล้อมรอบตัวกวินทร์ไปเหมือนดั่งพายุ
กวินทร์ลอยตัวขึ้นมาจากพื้นราวกับบินได้
คงจะเป็นพลังของเวพอนไนซ์
”พี่ศรผมจะช่วยด้วยอีกแรง”
รุ่นน้องตะโกนมาแล้วพุ่งเข้าไปหาออร์ทิเกสซาร์ตรงๆ
อิงศรจึงรีบห้าม
“อย่านะกวินทร์นายสู้มันตรงๆ
แบบนั้นไม่ได้…”
แต่สายเกินไป
กว่าเขาจะหันกลับไปพูดกวินทร์ก็เอาตัวเองเข้าไปอยู่ติดกับกรงเล็บของอีกฝ่ายแล้ว
“เลือกได้เก่งนี่เจ้าหนูเอาท่าไม้ตายที่ยืมพลังจากข้ามาใช้กำราบข้าเองเนี่ยนะ”
ออร์ทิเกสซาร์หัวเราะในลำคอแล้วกดขาหน้าลงไปเพื่อจะบี้กวินทร์ให้ร่างแหลกเหลวคาพื้น
ทว่า
สิ่งที่กรงเล็บตะปบลงไปนั้น ตัวกวินทร์ที่ถูกสัมผัสเข้ากลับแตกกระจาย
ใบไม้
ใบไม้
ใบไม้มากมายปลิวว่อนไปหมด
สิ่งที่กรงเล็บของราชสีห์ตัวตลกตะปบลงไปเป็นเพียงร่างแยกที่เกิดจากใบไม้เท่านั้น
พิ้ง
เสียงโลหะกระทบกันดังกังวาน
กวินทร์ตัวจริงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแถวหัวของออร์ทิเกสซาร์
เด็กหนุ่มตวัดดาบเป็นพัลวัน
ฟาดฟันใส่ศีรษะที่เป็นโลหะของเครื่องทำสวนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ดูเหมือนจะสร้างความเสียหายให้ไม่ได้
พลังชีวิตของออร์ทิเกสซาร์ไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
จากที่เริ่มสู้กันมาได้ซักพักแล้วอิงศรก็จับสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับเครื่องทำสวนได้
เกี่ยวกับพลังชีวิตของพวกมัน
แถบพลังชีวิตของเครื่องทำสวนไม่ได้แสดงอยู่ตลอดเวลาแต่มันจะปรากฏขึ้นเพียงแวบหนึ่งตอนที่พลังชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงแล้วหายไป
ไม่มีตัวเลขกำกับพลังชีวิตบอกเอาไว้
จากที่เคยฟังนรินทร์พูดเกี่ยวกับดีเซมแมร์ตอนที่เขาอาละวาดก็เห็นจะบอกว่าค่าพลังชีวิตมีจำนวนมากเกินกว่าจะแสดงออกมาได้และเป็นจำนวนที่ต่อให้รวมมนุษย์ที่เหลืออยู่มาทั้งหมดก็ยังเอาชนะไม่ได้
ที่จะสร้างความเสียหายให้กับเครื่องทำสวนได้ก็มีแต่เครื่องทำสวนด้วยกันเท่านั้น
นั่นคือสิ่งที่อิงศรตัดใจยอมรับมันในตอนนี้แม้ว่าทางเดินที่เขาเลือกจะต้องใช้พลังที่เป็นของมนุษย์เองในการโค่นเครื่องทำสวนเท่านั้นก็ตาม
พลังของปีศาจ
พลังของอาคานาร์
พลังของเกมโลกาวินาศ
พลังที่เป็นของตัวเองทั้งหมดนั่นยังเอาชนะเครื่องทำสวนในตอนนี้ไม่ได้
แล้วก็ต้องช่วยมีนาที่อยู่ข้างในออร์ทิเกสซาร์…ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวก็สามารถตัดทิฐิต่อทางเลือกของตัวเองออกไปได้
ต่อให้ต้องใช้เครื่องทำสวน
ต่อให้สิ่งที่ทำอยู่นั้นจะเหมือนกับวิธีที่สิงห์ใช้ก็ตาม
“แต่ฉันจะช่วยเพื่อนให้ได้
จะช่วยพวกพ้อง มีนา!”
อิงศรตะโกนออกมาแล้วบังคับเครื่องทำสวนพุ่งเข้าจู่โจม
จูลลับบิตต้าตั้งใบหูขึ้นแล้วผงกหัวตวัดดาบใบหูใส่
แต่ออร์ทิเกสซาร์กระโจนตัวถอยหลังทันที
อิงศรถีบขาหลังแล้วพุ่งต่ออีกชั้นหนึ่งแทงดาบไปข้างหน้า
ออร์ทิเกสซาร์ถีบตัวกระดอนหลบไปทางด้านข้างอย่างจวนเจียนแต่ก็หลบได้ไม่พ้นทั้งหมด
ใบดาบขูดเข้ากับต้นขาหน้าของมัน
เฉี่ยวไปเพียงเล็กน้อย
แต่ก็สร้างบาดแผลให้มันได้แล้ว
เนื้อโลหะส่วนนั้นยุ่ยเละเป็นทาง
ถ้าเทียบกับสัดส่วนของมันก็เหมือนแผลถากๆ
เท่านั้นแต่ความยาวของรอยแผลน่าจะได้ประมาณเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งทีเดียว
ทว่า จังหวะหลังจากโจมตีไปแล้วอิงศรกลับอยู่ในตำแหน่งหันหลังให้ศัตรู
เด็กหนุ่มเดาะลิ้นอย่างเสียรู้ให้กับตัวตลก
“ชิ
จงใจหลบแบบจวนตัวเพื่อจะอ้อมมาอยู่ข้างหลังเรอะ”
ออร์ทิเกสซาร์กางแผงคอของมันขึ้นแล้วเริ่มสะสมพลังงาน
“ขอลิ้มรสสีหน้าอันสีหวังของเจ้ากับเหล่าพวกพ้องหน่อยเถอะ
โซเดียแมทที…”
แต่ไม่ทันจะปล่อยออกมา
กวินทร์ก็…
“แจ็ค!”
มือยักษ์ซึ่งถัดทอขึ้นด้วยลำต้นของพืชล้มลุกสีเขียวขจี
ร่างแปลงของปีศาจที่กวินทร์เรียกมาก็เก็บดาบเครื่องทำสวนที่เรียกจากสกิลท่าไม้ตายก่อนหน้าขึ้นมาจากทะเลแล้วพุ่งมาทางนี้
พร้อมกับหวดดาบฟาดลงไปที่หน้าของออร์ทิเกสซาร์
“ป่วนนักนะเจ้าวัชพืช”
ตัวตลกคำรามสบถแล้วสลับพลังงานที่จะใช้โจมตีมาป้องกันแทน
กำแพงแสงแต่โปร่งใสกางขึ้นเบื้องหน้ามันและรับดาบของกวินทร์เอาไว้
ตึง!
เสียงปะทะดังกัมปนาทราวกับฟ้าลั่น
ออร์ทิเกสซาร์วิ่งอ้อมกำแพงในอึดใจต่อมาก็รุกเข้าหากวินทร์ที่ไร้การป้องกันตัว
ไม่สิป้องกันไม่ได้ต่างหาก ด้วยขนาดร่างกายกับพลังก็ต่างชั้นกันจนทำอะไรไม่ได้แล้ว
แต่ช่วงเวลาที่กวินทร์สร้างให้ก็ไม่ได้สูญเปล่า
อิงศรทุ่มตัวพุ่งเข้าชนสีข้างของออร์ทิเกสซาร์โดยอาศัยจังหวะที่กวินทร์สร้างให้วิ่งอ้อมมา
”อัก!”
ตัวตลกครางเสียงเจ็บปวดออกมา
มันได้ผลเหรอ...อิงศรคิดอย่างไม่ค่อยจะเชื่อตัวเองนัก
แต่ออร์ทิเกสซาร์ถึงกับเซไปวินาทีหนึ่งกวินทร์จึงถอยหนีออกมาได้
อิงศรเองก็ถอยด้วยเช่นกัน
“พี่ศรครับมีแผนรึเปล่า”
กวินทร์ถามขณะที่ลงมายืนบนหัวของจูลลับบิตต้า
“....”
อิงศรไม่สามารถตอบได้ในทันที
เขาจ้องมองไปที่เครื่องทำสวน...
ตัวตลก
ราชสีห์
แล้วคิดในใจว่ามันจะมีแผนการอะไรที่ใช้งัดกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่มีทั้งพลังและความเจ้าเล่ห์เพทุบายตัวนี้ได้อีก
“ก็พอมีอยู่”
อิงศรตอบรุ่นน้อง
“แต่ต้องให้นายช่วยด้วยแล้วล่ะกวินทร์...”
เขาพูดด้วยความลำบากใจ
ในแผนการนี้กวินทร์จะต้องเสี่ยงเผชิญหน้ากับศัตรู คอยเป็นตัวล่อตัวชนให้
มนุษย์ธรรมดาๆ
คนหนึ่งที่เป็นแค่อายุ 15 กับเครื่องทำสวนศํกดิ์สิทธิ์ที่มีพลังกวาดล้างเมืองทั้งเมืองให้พินาศในพริบตาได้
ไม่มีอะไรจะจับคู่กันเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว
“แน่นอนว่ามันอันตรายมาก”
“งั้นก็บอกมาได้เลยครับ”
ถึงอย่างนั้นกวินทร์ก็ตกปากรับคำอย่างง่ายดาย
“ถ้าเป็นแผนที่พี่ศรสร้างขึ้นมายังไงก็ต้องได้ผลแล้วพวกพ้องก็ไม่ต้องบาดเจ็บอยู่แล้วผมเชื่ออย่างนั้นครับ”
เด็กหนุ่มมีความเชื่อใจให้เขามากถึงขนาดนั้น
แต่อิงศรก็ยังไม่คิดว่ามันจะเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบอย่างที่กวินทร์คิด
“ไว้ถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมาพี่ศรก็มาช่วยแล้วกัน”
“เล่นโยนภาระให้ฉันหมดแบบนี้จะไว้ใจนายได้จริงๆ
เร้อ~”
“ฮะฮะฮะ
งั้นชนะให้ได้ก็พอครับผมกับพี่ศรซะอย่างยังไงก็มีแผนสองอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ”
หมอนี่ก็รู้มากซะจริงรู้สึกจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นกว่าเมื่อก่อน
อิงศรสูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนออก
รู้สึกว่าหัวโล่งขึ้นมาเล็กน้อย
พวกเขาเป็นวัชพืชจริงๆ
นั่นแหละถึงจะล้มซักกี่ครั้ง ถึงจะรู้ว่าสู้ไม่ได้แต่ก็ยังจะดึงดัน
มนุษย์ได้กระทำบาป
ควบคุมปีศาจเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
ชักบังเหียนของเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์เพื่อต่อต้านทัณฑ์สวรรค์
ต่อต้านประสงค์ของพระเจ้า
ก่อบาปเอาไว้มากมายจริงๆ
งั้นปลายทางก็คงจะเป็น...
“งั้นนายพร้อมจะลงนรกไปกับฉันแล้วใช่ไหมกวินทร์”
รุ่นน้องยิ้มตอบรับให้คำถามกึ่งประชดโชคชะตาของเขา
“ครับ!”
ดังนั้นอิงศรจึงบอกแผนไปโดยให้กวินทร์เปิดหน้าจอสื่อสารแล้วกระซิบบอกด้วยเสียงเบาที่สุด
รวมถึงรวบรัดกระชับใจความที่สุด
“งั้นก็ไปกันเลย”
อิงศรพูดแล้วพุ่งออกไป
กวินทร์ก็เช่นกัน
“เท็งเกคิ!”
รวมดาบแห่งพฤกษากลับเป็นเล่มเดียว
คืนกลับสู่สภาพก่อนเลือกธาตุให้กับดาบ
ใบไม้ที่ห้อมล้อมรอบตัวจึงหายไป
ลูกบอลแสงปรากฏล้อมรอบดาบอีกครั้ง
คราวนี้กวินทร์เปลี่ยนมันเป็นลูกที่มีสีน้ำตาลดิน
“คมเขี้ยวโลกธาตุขับไล่สัมภเวสี
จูซูมารุ ทสึเนะทสึกุ”
วิญญาณตัวแทนแห่งดาบปรากฏขึ้นในร่างของแมวสีดินที่โปร่งใสก่อนจะหลอมรวมเข้ากับดาบของกวินทร์และเปลี่ยนรูปร่างของมันให้กลายเป็นดาบยาวญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า
‘ทาจิ’
พอดาบปรากฏออกมากวินทร์ที่สูญเสียการลอยตัวและกำลังร่วงลงจากหัวของจูลลับบิตต้า
แต่ทรายเบื้องล่างก็พูนตัวขึ้นมาหา
กวินทร์ปักดาบลงไปบนทรายแล้วทรงจึงเหยียดเท้าเหยียบลงไปโดยที่ไม่จมทราย
เขาสามารถควบคุมทรายให้เคลื่อนไหวได้ดังเกลียวคลื่น
กวินทร์สร้าง ทซึนามิทราย ขึ้นมาแล้วโถมมันใส่ออร์ทิเกสซาร์
“คราวนี้อะไรอีกล่ะ”
เครื่องทำสวนพูดเปรยเหมือนไม่ทุกข์ร้อน
มันปล่อยให้ร่างของมันถูกทรายโถมใส่
แน่นอนนว่าทรายแค่นั้นทำอะไรเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แต่ก็ทำให้ทัศวิสัยมืดบอกไปชั่วขณะหนึ่ง
จนเมื่อทรายตกลงไปหมดแล้ว
จูลลับบิตต้าที่ควรจะมาอยู่ต่อหน้าเพราะพุ่งออกมาก่อนหน้านั้นกลับหายไป
“ย้ากก!!!”
ออร์ทิเกสซาร์หันไปตามเสียงคำรามที่ดังขึ้น
แหงนหน้ามองขึ้นด้านบน
กวินทร์กำลังลอยอยู่กลางอากาศ
ไม่สิกำลังร่วงลงมาหลังจากที่ขึ้นไปสูงถึงขีดสุดที่พลังของทรายจะดันให้กระดอนขึ้นไปได้
เด็กหนุ่มตวัดดาบทาจิ]’แล้วมือยักษ์ที่ลอยอยู่ข้างๆ กันก็จับดาบเครื่องทำสวนแทงลงมา
ออร์ทิเกสซาร์กางกำแพงพลังงานป้องกันเอาไว้ทันที
ถ้าหากว่านั่นคือดาบที่เกิดจากสกิลท่าไม้ตายก็คงจะป้องกันเอาไว้ได้แต่ว่า...
“ไอ้นั่นคือจูลลับบิตต้าสินะ”
ออร์ทิเกสซาร์กระโจนถอยไปข้างหลังหลบออกจากวิถีดาบ
“มันติดกับแล้วพี่ศร!!”
กวินทร์ตะโกนเหมือนจงใจจะให้ได้ยิน
“หืม”
ออร์ทิเกสซาร์สัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของอากาศที่ถูกตัดผ่าโดยวัตถุมวลมหาศาลจนเกิดการสั่นสะเทือนในบรรยากาศ
สัมผัสอันละเอียดอ่อนที่จำแนกได้ถึงขนาดนั้นทำให้มันแหงนหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง
ดาบเครื่องทำสวนอีกเล่มกำลังดิ่งตรงมาทางนี้
“นี่มัน!”
ตัวตลกเบ้หน้า...มันคงทำแบบนั้นหากใบหน้าที่เป็นโลหะทั้งดุ้นจะมีฟังชันก์ช่วยให้มันขยับได้ขนาดนั้น
ของจริงคืออันนี้
หรือว่าอันนั้น
มันมองดาบทั้งสองเล่มสลับกันไปมาอย่างลนลาน
หากจะหลบดาบเล่มนี้อีกมันก็ต้องถอยลงทะเลไปเลย
ด้านหลังเป็นทะเลที่หากถูกต้อนลงไปแล้วจะเสียเปรียบจูลลับบิตต้าที่มีความสามารถในการเคลื่อนที่เหนือผิวน้ำ
มันไม่มีทางเลือกมานักเพราะมัวแต่ลังเลจึงได้แต่วัดดวงกางกำแพงพลังงานป้องกันเอาไว้โดยหวังให้ดาบเล่มที่สองนี้เป็นดาบจากท่าไม้ตาย
ดาบที่มือยักษ์ของกวินทร์หวดตอนนี้ฟาดลงพื้นดินเป็นที่เรียบร้อย
เสียงปะทะดังกึกก้อง พื้นดินสั่นสะเทือน ส่วนอีกเล่ม
แกร๊ง! ปะทะเข้ากับกำแพงแสงแล้วกระดอนออกไป
นั่นเป็นดาบปลอม
รอดตัวไปที
วินาทีที่ออร์ทิเกสซาร์คิดเช่นนั้น
ก้ามปูของจูลลับบิตต้าซึ่งกลายเป็นส่วนของโกร่งดาบในร่างนี้ก็พุ่งเข้ามายึดจับหัวไหล่ซ้ายพร้อมกับดึงตัวดาบขึ้นจากทราย
“คิดจะพุ่งเข้ามาทั้งแบบนั้นเรอะ”
เป็นอย่างที่มันพูด
ดาบที่ดึงตัวเองออกมาจากทรายหมุนควงเข้ามาหาตามแรงเหวี่ยงจากการดึงของก้ามปู
ดังนั้นมันจึงหุบแผงคอลงแล้วกระโดดม้วนตัวกลิ้งเป็นกงล้อเพลิงเพื่อชนกับอิงศร
ก้ามปูถูกเหวี่ยงด้วยความเร็วสูงจนหลุดออกมา
อิงศรดึงมันกลับไปแล้วยิงออกไปพร้อมกันทั้งสองข้าง ก้ามปูยึดจับกับภูเขาที่เคยอยู่ด้านหลังเมืองที่หายไปแล้วหักเลี้ยวทิศทางพร้อมกับคืนสู่ร่างกระต่าย
อิงศรถอนก้ามปูกลับมาเก็บแล้ววิ่งไต่ไปตามแนวสันเขา
กระโดดลงไปบนผิวน้ำ วิ่งทะยานอย่างรวดเร็วอ้อมมาอยู่ข้างหลังของออร์ทิเกสซาร์
ความเร็วที่เสริมจากการวิ่งด้วยระยะทางขนาดนี้จะช่วยเสริมพลังทำลายจนอาจจะเสียบทะลุออร์ทิเกสซาร์ในสภาพกงล้อเพลิงได้
อิงศรเดิมพันไว้เช่นนั้นรวมถึงการต้อนมันลงมาในทะเล
ตอนนี้ออร์ทิเกสซาร์ลอยตัวอยู่เหนือพื้นน้ำตื้นหากตกลงมาเท้าก็จะจมจนเคลื่อนไหวไม่สะดวกคงหลบในทันทีไม่ได้
“โซเดียมิราจ!!”
เจ้าตัวตลกดิ้นรนเฮือกสุดท้ายโดยการส่งพวกสัตว์เทวะที่สร้างขึ้นมาเป็นโล่ป้องกัน
ตอนที่วิ่งมาถึงจุดๆ
หนึ่งแล้ว อิงศรก็เปลี่ยนเครื่องทำสวนกลับไปอยู่ในโหมดดาบขณะที่กระโดดพุ่งตัวไปด้วยแรงเสริมจากการวิ่งสะสม
ดาบพุ่งแหวกอากาศ
ทะลวงสัตว์เทะวที่เข้ามากำบังให้ออร์ทิเกสซาร์ไปอย่าง่ายดาย
“วัชพืช!!”
ออร์ทิเกสซาร์คำราม
มันคลายตัวออกในวินาทีสุดท้ายคงเพราะรู้ตัวดีว่าความเร็วในการหมุนตอนนี้ไม่สามารถปัดอิงศรที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูงสุดได้จึงคิดจะหมอบตัวเองแนบพื้นเพื่อหลบดาบ
ในตอนนั้นเอง...
“อย่าได้หวังเลยแกน่ะจบสิ้นแค่นี้แล้ว”
กวินทร์ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ
กับออร์ทิเกสซาร์แล้วให้มือยักษ์ที่ถือดาบเครื่องทำสวนสอดเข้าไปใต้ท้องของออร์ทิเกสซาร์เป็นคานค้ำเอาไว้มันจึงกดตัวลงหมอบไม่ได้จะวิ่งหนีทันทีก็ไม่ได้
จุลลับบิตต้าเสียบเข้าที่บริเวณก้นกกของมันแล้วทะลวงไปออกที่ท้อง
ตรึงร่างของราชสีห์ตัวตลกเอาไว้
“อ๊าก!!!”
ออร์ทิเกสซาร์ครางคำรามอย่างเจ็บปวด
หนนี้คงไม่ใช่การแสดงแล้ว มันบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีคราวนี้และจะขยับไปไหนไม่ได้อีก
ภายใต้เงาของดวงจันทร์ที่ปรากฏขึ้นในยามทิวา
ตัวตลกถูกจับตรึงเอาไว้บนไม้กางเขน
ตัวตลกผู้ป่าวร้องว่าพระเจ้าจะทรงทำลายมนุษย์
แต่กระต่ายก็จับตรึงราชสีห์ผู้น่าขบขันนั่นเอาไว้ในเงาของดวงจันทร์
“หึ
หึ หึ งั้นม่านก็จะปิดแล้วสิ”
ภายใต้เงาจันทร์นั่นเอง
ราชสีห์ผู้ถูกตรึงโดยกระต่ายขาวก็เหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายราวกับมีแผนการบางอย่าง
ความคิดเห็น