คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #118 : Login 115: พี่ปะทะน้อง
Login
115: พี่ปะทะน้อง
มิ่งขวัญแทงดาบตรงเข้ามา
ท่าร่างนั่นไม่ได้มีความลังเลเลยแม้แต่น้อยอย่างกับว่าตั้งใจจะฆ่าเขาจริงๆ
เป็นตัวปลอม
เจ้านี่ไม่ใช่ขวัญ
อิงศรบอกตัวเองอย่างนั้นแล้วก้าวไปทางซ้ายสองสามก้าวหลบคมดาบของมิ่งขวัญไปได้อย่างเฉียดฉิวจากนั้นจึงพลิกใบดาบหันคมขึ้น
ถ้าตวัดดาบขึ้นไปทั้งแบบนี้น่าจะตัดแขนได้อย่างง่ายดายอาศัยแรงพุ่งตัวกับเอียงใบดาบให้เฉียงเข้าไว้แล้วตวัดแค่นั้นใบดาบก็น่าจะจมเข้าแขนไปได้มากถึงจะเป็นหนังมนุษย์ต่างดาวก็ตาม
"ไม่รู้หรอกว่าแกเป็นใครแต่มิ่งขวัญไม่มีทางโจมตีฉัน"
จังหวะที่กำลังจะเงื้อดาบขึ้นไปหน้าจอสื่อสารก็กระเด้งตัวเปิดออกมาพร้อมฉายภาพของฟู
มันเป็นฟังก์ชันการสื่อสารของปาร์ตี้ทำให้เปิดเองอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องกดรับ
'พี่ศรเสียงดาบเมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ'
เผลอฟังเสียงของฟูไปแวบหนึ่งเพราะเหตุนั้นจึงเสียจังหวะที่จะตัดแขนเจ้าตัวปลอม
มิ่งขวัญเหมือนจะรู้ตัวจากเสียงของฟูด้วยจึงฟาดท่อนแขนที่แทงดาบพลาดออกไปทั้งอย่างนั้น
ท่อนแขนฟาดโดนกกหูเข้าอย่างจัง อิงศรตัวลอยเคว้งกลางอากาศในทันที
เจ็บจนแทบจะสลบลงตรงนั้น
กะโหลกคงจะร้าวแถมหูข้างซ้ายเหมือนจะไม่ได้ยินเสียง
อิงศรตัวลอยอยู่ราวสองสามวินาทีก่อนจะหล่นกระแทกพื้นเสียงดังตุ้บ
'พี่ศรทำใจดีๆ
ไว้!'
เสียงของฟูดังมาจากหน้าจอยังคงได้ยินด้วยหูข้างขวาอยู่แต่ดูเหมือนว่าหูข้างซ้ายจะดับสนิทไปแล้ว
อิงศรรวบรวมกำลังที่มีฝืนจนลุกขึ้นมาได้สำเร็จ
แต่ร่างกายก็โงนเงนทรงตัวไม่ค่อยได้เพราะเสียประสาทหูไปข้างหนึ่ง
เขาใช้แขนเสื้อปาดคราบเลือดที่ปากออก
ใบหน้าด้านซ้ายที่แขนเสื้อไปโดนรู้สึกเจ็บจี๊ดและดูเหมือนจะบวมอักเสบ
ดวงตาเองก็แทบจะลืมไม่ขึ้น
อิงศร Lv. 70
[/////3630:7320.....]
ที่พอจะมองเห็นด้วยตาขวาก็คือแถบพลังชีวิตที่ลดฮวบลงไปเหลือครึ่งเดียวในการโจมตีนั้น
ถ้าเป็นปกติอาจจะสลบไปแล้ว
มิ่งขวัญตั้งท่าจะบุกมาอีกดังนั้นจะมัวยืนเฉยไม่ได้
ต้องรีบหาทางตั้งหลักใหม่ก่อน
จู่ๆ
เสียงของซากิริก็ดังมาจากหน้าจอสื่อสาร
'นี่โชเน็นพี่ชายที่กำลังสู้อยู่น่ะคือน้องชายใช่ไหม'
พอเหลือบตาไปมองก็เห็นซากิริที่ใส่แว่นตาแห่งลาพาสเบียดหน้าฟูเข้ามาในกรอบจอ
อีกฝ่ายคงจะใช้มันมองทะลุหมอกลงมา
"เจ้านี่เป็นตัวปลอมที่เธอบอกใช่ไหม"
'โทษทีนะช่วยลืมเรื่องตัวปลอมนั่นไปเถอะเพราะว่าดูจากลาพาสแล้วเขาเป็นตัวจริงน่ะ'
"อะไรกันฟระ แล้วไอ้ที่พูดซะดิบดีก่อนหน้านี้ล่ะเฮ้ย"
'ฉันเป็นนักวิจัยนะการตีกรอบให้กว้างๆ
ไว้ก่อนน่ะเป็นสันดานไปแล้วล่ะ'
ถ้าเป็นอย่างที่ว่าตอนนี้สถานการณ์มันไม่ยิ่งแย่ไปกว่าเดิมเลยหรือ
อิงศรจ้องมองไปที่มิ่งขวัญด้วยความลำบากใจ
ถ้านั่นคือมิ่งขวัญจริงๆ
ก่อนหน้านี้ก็เกือบจะลงมือกับน้องไปเสียแล้ว
ยิ่งตอนนี้มารู้ว่าเป็นตัวจริงอีกเขาก็ไม่สามารถลงมือได้อย่างเต็มที่...
ไม่สิ
ถ้าแค่อัดให้สลบเฉยๆ ก็อยู่ในขอบเขตที่พอรับได้ สมัยเด็กๆ
ก็ทะเลาะกันออกจะบ่อยถึงหนนี้จะต้องเล่นแรงกว่าทุกทีก็เถอะ
ต่อยกันไม่ต้องมีคำว่าพี่น้องก็ได้
อิงศรกำหมัดที่ถือดาบเอาไว้แน่น
ตอนนั้นเองมิ่งขวัญก็พุ่งเข้ามา
แค่กะจังหวะให้พอดีแล้วเหวี่ยงหมัดออกไป
"ซะที่ไหนเล่า!"
อิงศรสบถแล้วหันหลังพลางตบเท้าโจนตัวพุ่งออกไปด้วยแรงทั้งหมดจนสามารถสร้างระยะห่างได้จากนั้นก็วิ่งเต็มที่
ก็ตอนนี้มิ่งขวัญไม่ใช่มนุษย์จะให้ซัดกันตรงๆ
คงไม่ไหวแถมก่อนหน้าที่โลกจะล่มสลายก็ไม่เคยทะเลาะชนะเลยซักครั้งกับไอ้ตัวบ้าพลังอย่างมิ่งขวัญนั้นให้เลิกล้มความคิดที่จะใช้กำลังไปได้เลย
เพราะเขาตั้งท่าเหมือนจะสู้แต่พอเปลี่ยนเป็นหนีแทนก็เลยทำให้อีกฝ่ายชะงักไปแวบหนึ่งจนไล่ตามให้ทันเลยไม่ได้แต่อีกไม่นานจะต้องไล่ทันอย่างแน่นอนเพราะพลังกายแตกต่างกันมาก
อิงศรหันหลับไปมองแวบหนึ่ง
แค่แวบเดียวจริงๆ มิ่งขวัญก็ไล่หลังกระชั้นเข้ามาแล้ว
จู่ๆ
ซากิริก็พูดมาจากหน้าจอสื่อสาร
'นี่ช่วยถ่วงเวลาไว้หน่อยได้ไหมฉันคิดว่าเขาถูกควบคุมอยู่น่ะอาจจะเป็นฝีมืของอวโลกิตะก็ได้'
"นานแค่ไหนล่ะ"
'ซักหนึ่งนาที'
"ไม่ไหวหรอก"
ระหว่างที่สนทนากันอยู่นี่มิ่งขวัญย่นระยะเข้ามาขนาดไหนปล้วก็ไม่รู้แต่ที่รู้ก็คือน่าจะอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตรได้
'งั้นแค่สามสิบวิพอ'
ซากิริเสนอเวลาใหม่มาซึ่งนั่นพอจะยอมรับได้
"จะทำอะไรก็รีบทำเลยเหอะ"
'งั้นก็สามสิบวิช่วยทนรอไปก่อนนะ'
การปรึกษาแผนการจบลงแค่นั้น
จากตรงนี้ไปจะต้องเล่นเกมไล่จับกับน้องชายเป็นเวลาสามสิบวินาทีฟังเป็นอะไรที่สนุกน่าดูถ้าไม่ใช่ว่าทันทีที่ถูกจับได้จะถูกฆ่าล่ะนะ
"เล่นไล่จับเนี่ยฉันเคยชนะนายมั่งไหมฟระ!"
อิงศรตะโกนหวังดึงความสนใจอีกฝ่ายจังหวะนั้นก็ควักกระป๋องระเบิดควันโยนไปทางด้านหลัง
เสียงตัดกระป๋องดังฉับ
มิ่งขวัญคงจะฟันมันทิ้งเพื่อป้องกันตัวแต่ก็ทำให้กระป๋องระเบิดออกและปล่อยควันจำนวนมากออกมาบดบังทัศนวิสัย
ทีนี้ก็จะเพิ่มการเล่นซ่อนหาเข้าไปในเกมถ่วงเวลาได้อีกหลายสิบวิแล้ว...อิงศรคิดอย่างนั้น
แต่ทว่า
"โอดินเบรธ!!"
สิ้นเสียงก็บังเกิดสายลมแผ่พุ่งออกมาพัดหอบกลุ่มควันกระจายออกไปหมดคราเดียว
แถมยังพัดต่อจนมากระแทกถูกหลังส่งให้ร่างของอิงศรลอยละลิ่วไปข้างหน้าและล้มลง
อิงศรยันตัวจากพื้นตั้งใจจะลุกขึ้นเพื่อวิ่งต่อแต่ก็เปลี่ยนใจกลิ้งตัวเบี่ยงออกไปทางขวาแทน
แล้วจากนั้นพื้นตรงที่เขาอยู่เมื่อครู่ก็โดนปักด้วยดาบแสงถูกเผาจนไหม้เกรียมเป็นรอยตามทาง
“ไม่ให้หนีหรอก”
มิ่งขวัญพูดคำรามแล้วคว้าแขนของพี่ชายที่กำลังกลิ้งหนียกขึ้นอย่างง่ายดาย
อิงศรถูกยกลอยราวกับไร้น้ำหนัก วินาทีถัดมาก็ถูกฟาดลงบนพื้นหลังกระแทกอย่างจัง
พลังชีวิตลดลง
สติก็ลดลงเช่นกัน
อิงศร Lv. 70
[///..3300:7320.....]
ตอนนี้แทบจะไม่มีสติเหลือให้ประคองร่างกายบาดแผลที่ได้รับก่อนหน้านี้ก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้วด้วย
ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ล่ะก็...
ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้จะต้องหมดสติแน่และถ้าหมดสติ...
ตอนนั้นเองกำปั้นของมิ่งขวัญก็หวดลงมาบนหน้าท้อง
“อัก...”
กำปั้นจมลึกเข้ามาแต่ติดแผ่นโล่ที่ติดอยู่บนมือทำให้คาอยู่แค่นั้น
แต่เพียงแค่นั้นก็เพียงพอจะทำให้หมดสติ
อิงศร Lv. 70
[///..3200:7320.....]
ดวงตาปิดลง
อิงศรถูกน็อกคาเวทีด้วยหมัดของน้องชาย
ตอนนั้นเองมิ่งขวัญก็ปีนขึ้นมาคร่อมบนตัวเงื้อดาบขึ้นหันปลายเล็งมาที่คอหมายจะแทงให้ทะลุ
ปลิดชีพในดาบเดียว
“มหาเขตแดนตรวนผนึกหมาป่าไกลพ์นิล...”
ปากของอิงศรกลับพึมพำออกมา
พึมพำทั้งที่น่าจะหมดสติ ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่มิ่งขวัญจะรู้ว่านั่นเป็นคำร่ายสกิลซึ่งมันก็สายเกินไปแล้ว
ลูกธนูเสียบยันต์อาคมจำนวนห้าดอกถูกวางอย่างกระจัดกระจายอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้
บางที...
บางทีคงจะเป็นตอนที่จับตัวฟาดใส่พื้นในตอนนั้นคงทำลูกดอกพวกนี้ไว้แล้วปล่อยให้กระจายออกมาพร้อมกับตอนที่กระแทกพื้นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่น่าจะมีเวลาบริกรรมอาคมเพียงพอ
ทั้งที่เป็นแบบนั้นลูกดอกเสียบยันต์ทั้งหมดกลับเปล่งแสงและกลายเป็นโซ่พุ่งออกมามัดแขนขาและลำคอเอาไว้ก่อนจะถูกดึงให้หมอบราบลงไปบนพื้น
จากนั้นอิงศรที่ควรจะหมดสติไปนั้นก็ลุกขึ้นยืนในสภาพตุปัดตุเป๋
“อูย...เจ็บชะมัด”
เด็กหนุ่มพูดจากนั้นก็ถ่มน้ำลายผสมเลือดลงไปบนพื้น
หมัดของมิ่งขวัญได้ผลเป็นอย่างมากถ้าในท้องมีอะไรอยู่คงไหลออกมาหมด สาเหตุที่ยังทนหมัดนั้นได้โดยไม่หมดสติไปเสียก่อนปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าและยืนกึ่งลอยอยู่ข้างตัวเด็กหนุ่ม
เมอร์คาบาห์นั่นเอง
ในตอนที่ถูกเหวี่ยงลงไปกระแทกพื้นอิงศรก็ให้อาคานาร์ทำงานเพราะตอนนี้ไม่มีแอพพลิเคชั่นปีศาจเหลืออยู่ในอาวุธอีกแล้วสิ่งที่จะต่อกรกับมนุษย์ต่างดาวได้ก็เลยมีแค่นี้
ด้วยพลังของเมอร์คาบาห์ทำให้ร่างกายได้รับการเสริมพลังและยังใช้สกิลปีศาจแบบติดตัวได้เป็นสกิลที่ทำให้สกิลประเภทเขตแดนทั้งหมดร่ายได้โดยไม่ต้องบริกรรมคาถาจึงย่นย่อสกิลสุดเยิ่นเย้อที่ต้องเตรียมการเป็นเวลานานเหลือแค่เสี้ยววินาที
“ถ้าทะเลาะกันนายเคยทันเหลี่ยมฉันอยู่แล้วนี่นะ”
อิงศรพูดระหว่างที่มองดูน้องชายกำลังขัดขืนดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการแล้วตอนนี้ก็ครบสามสิบวินาทีพอดี
ขณะเดียวกัน...
ในระหว่างที่อิงศรกับมิ่งขวัญต่อสู้กันอยู่นั้นซากิริก็นั่งรัวนิ้วมือลงบนคีย์บอร์ดเครื่องโน๊ตบุคที่วางไว้บนพื้น
ทำมาราวๆ สามสิบวินาทีได้แล้ว
"เท่านี้ก็เรียบร้อย"
ซากิริพูดแล้วกดปุ่ม
Enter ให้โปรแกรมทำงาน
ทันใดนั้นเอง
เบื้องหน้าหล่อนซึ่งหันไปยังทิศที่แผ่นดินที่มีอิงศรอยู่บนนั้นก็ปรากฎร่างของปีศาจผุดออกมาจากความว่างเปล่า
ปีศาจรูปแบบเทวทูตสวมชุดสีขาวปีกสีขาวแต่มีใบหน้าเป็นโคงกระดูกและถือคันแตร
เน็กส์ที่ได้เห็นปีศาจตนนั้นเข้าก็ถอยผงะไปกอดแขนฟูด้วยความกลัว
"ตัวอะไรน่ะ"
ฟูหันมาถาม
"ทรัมเป็ตเตอร์น่ะ
เป็นปีศาจที่ได้รับมาในฐานะของ ซากิริ อามาเนะ เจ้านี่สามารถส่งคลื่นเสียงรูปแบบพิเศษได้ผ่านการปรับปรุงด้วยโปรแกรมเฉพาะเมื่อกี้ฉันใส่ข้อมูลคลื่นควบคุมของอวโลกิตะลงไปเพื่อจะทำลายคลื่นควบคุมนั่น"
"เหมือนที่เจ้านักเต้นนั่นทำตอนนั้นน่ะเหรอ"
ฟูหมายถึงตอนที่เครื่อง
MP3 ของกวินทร์ทำลายการควบคุมของอวโลกิตะได้
ซากิริพยักหน้าตอบ
“อื้ม ฉลาดเหมือนกันนี่”
แล้วจึงหันไปออกคำสั่งให้สั่งปีศาจ
“จัดการเลยทรัมเป็ตเตอร์”
หลังจากคำสั่งนั้นปีศาจก็เริ่มบรรเลงคันแตร
เสียงแตรดังกระหึ่มข้ามไปถึงอีกฝั่ง มิ่งขวัญที่ถูกจองจำด้วยโซ่พันธนาการก็หยุดการขัดขืนและหยุดนิ่งราวกับสายป่านที่ชักใยถูกตัดขาดไป
แต่ทว่า...
‘คลื่นรบกวนอีกแล้วรึ’
มีเสียงดังขึ้นมาแบบนั้น
ดังกังวานมาจากตัวของมิ่งขวัญแต่เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนพูดและแทบไม่ได้เอ่ยปากด้วยซ้ำ
จู่ๆ ก็บังเกิดลมพายุพัดกรรโชกรอบตัวมิ่งขวัญ
แรงลมทำให้เห็นอิงศรถูกพัดห่างออกไป
ท่ามกลางพายุนั่นเองก็เริ่มปรากฏเงาอย่างเรือนราง
เงามีขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายมนุษย์เพศชาย
มีสิ่งยาวเลื้อยพันคล้ายกับเถาวัลย์และมีปีกด้านหลังมีวงเวทย์มันดาระลอยอยู่
ต่อมาร่างเงาก็เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นปีศาจที่มีหัวเหมือนสิงโตมีเขี้ยวหน้ายาวโง้งเหมือนใบมีดยืดออกมาถึงปลายคาง
สวมชุดสีขาวมีกระโปรงยาวปิดเท้าและส่วนที่เหมือนกับเถาวัลย์นั้นแท้จริงแล้วคืองูขนาดยักษ์ที่พันรอบตั้งแต่ขาขึ้นไปถึงเอว
ปีศาจ...ซากิรินิยามให้กับมันได้เพียงแค่อย่างเดียวเธอไม่แน่ใจว่านั่นจะเป็นอวโลกิตะมันไม่มีเค้าของรูปร่างเดิมเหลืออยู่เลย
ปีศาจเป็นเจ้าของเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่หลังจากที่ได้ยินมันเริ่มพูดต่อจากที่ค้างไว้
‘คิดว่าจะยอมปล่อยให้ใช้วิธีเดิมเล่นงานได้เจ้าก็คิดผิดเสียแล้ว’
สิ้นคำปีศาจตนนั้นก็ถอนเขี้ยวหน้าออกมาใช้ต่างมีดแล้วขว้างจู่โจมมาที่ทรัมเป็ตเตอร์ของซากิริ
เขี้ยวหมุนควงเหมือนบูมเมอแรงและพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วจนสั่งให้หลบไม่ทัน
ทรัมเป็ตเตอร์ถูกมีดตัดร่างแยกออกเป็นสามท่อนก่อนจะแตกสลายแล้วเขี้ยวก็ย้อนกลับไปหาเจ้าของ
’นี่คือร่างที่แท้จริงของเราผู้เป็นหนึ่งในสามกอร์กอนแห่งอารย-สนธยา
โพธิสัตว์นาคา มิตราพุทธะ’
ปีศาจพูดเช่นนั้นและเขี้ยวที่ย้อนกลับมา
***และแล้วสามกอร์กอนแห่งอารย-สนธยาก็ออกมาครบเสีย...ห๊ะว่าไงนะเกินเรอะอนันตาไม่นับเฟ้ย!! ห๊ะอะไรนะ! ขาดไปคนเรอะลองนับดูดีๆ
คนที่สามน่ะออกมาก่อนหน้านั้นแล้วนะ! ก็ว่าไปนั่นอาทิตย์นี้เหลืออีกตอนวันศุกร์จะพยายามให้จบในสองตอนครับเท่ากับว่าจบอวโลกิตะแค่วันอังคารหน้าเพราะยังเหลือฝั่งกวินทร์กับคนอื่นๆ
ที่ไม่รู้ว่ากระเด็นไปไหนล่ะนะ***
ความคิดเห็น