คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #204 : Login 201: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (โหมโรมม่านสุดท้าย)
Login
201: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (โหมโรมม่านสุดท้าย)
หลังจากกระจายข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันให้กับ
เมษา กวินทร์ ฟู มิกซ์ แล้ว
รวมถึงยืนยันตำแหน่งของมิ่งขวัญจากหน้าจอติดตามของระบบปาร์ตี้ซึ่งเจ้าตัวกำลังมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าบนเกาะ
เหมือนกับว่าสาเหตุของเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในคืนนี้และคืนก่อนๆ
จะถูกระบุได้อย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อย
พวกเขายืนรวมกลุ่มล้อมเป็นวงกลมหันหน้าเข้าหากันบนระเบียงทางเดินอันมืดมิดของชั้นสาม
แล้วมีนาก็พูดคำตอบที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลทั้งหมด
“ถ้าคุณมิ่งขวัญที่ช่วยหญิงแก่ที่เราเจอในคืนวันนั้นมุ่งหน้าเข้าป่าไปแบบนี้ศาลเจ้าในป่านั่นจะต้องเป็นต้นเหตุแน่นอนเลยค่ะ”
ฟูพูด
“เจ้าขวัญโดนควบคุมอีกแล้วสิเนี่ย”
มีนาทำหน้าไม่เข้าใจ
“อีกแล้วเหรอคะ ?”
อิงศรตอบข้อสงสัยนั่นให้
“เจ้าขวัญก่อนหน้านี้ที่ไปบุกอารย-สนธยาก็โดนปีศาจที่ชื่อ
อวโลกิตะเข้าสิงเอาน่ะตอนนั้นเล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน”
ในตอนนั้นเขากับน้องชายเกือบจะต้องฆ่ากันเอง
แต่ก็รอดมาได้เพราะขวัญปลุกให้อาคานาร์มหาโชคชะตา วีลออฟฟอร์จูน
ตื่นขึ้นมาและขับไล่อวโลกิตะที่กลายเป็น อสุรา มิตรา ออกจากร่างไปได้
“แล้วทำไมหมอนั่นถึงไม่ใช้
เฮเลลไล่อสูรที่สิงอยู่ออกไปกันนะ”
ปีศาจของมิ่งขวัญมีพลังในการยับยั้งพลังของปีศาจ
ถ้าจะบอกว่าทำไม่ได้เพราะตัวตนที่สิงสู่ในตอนนี้เป็นอสูรแล้วล่ะก็
มิตราที่เคยขับไล่ออกไปได้ยังเป็นถึงอสุราที่เป็นร่างสมบูรณ์ของอสูรด้วยซ้ำ
กวินทร์พูด
“อาจจะเป็นเพราะในตัวพวกเราไม่มีเฟืองแล้วก็ได้นะครับผมเองก็รู้สึกว่าร่างกายมันโหวงๆ
อยู่เหมือนกัน”
สมมติฐานของกวินทร์นั้นเข้าท่าอยู่เหมือนกัน
“ที่นายว่ามาก็อาจจะเป็นไปได้แต่อย่าลืมล่ะว่าปีศาจจากอาคานาร์น่ะถ้าไม่เรียกออกมาเองมันก็ทำงานไม่ได้ไม่เหมือนเดม่อนแอพที่ติดตั้งอยู่ตลอดเวลาบางทีขวัญอาจจะแค่ยังไม่ได้สติก็ได้”
มีนาพูดแทรกเข้ามาตัดบทว่า
“เอาเป็นว่าตอนนี้เราเข้าใจสถานการณ์กันแล้วงั้นก็ออกเดินทางกันเถอะค่ะ”
ทั้งที่ใจเขาตอนนี้ไปอยู่ในป่าแล้วแต่ก็พยายามดึงสติตัวเองอย่างที่มีนาช่วยดึงให้ก่อนหน้านี้แล้วพูดขัดไปว่า
“แต่ก่อนอื่นขอจัดฟอร์เมชั่นก่อนนะ”
เมษาพูด
“จะว่าไปไม่ไปเรียกพวกต่างดาวมาร่วมวงด้วยเหรอพวกนั้นมาน่าจะเดินลุยกันสบายๆ
เลยเผลอๆ ไม่ต้องมานั่งกลุ้มเรื่องฟอร์เมชั่นด้วย”
“อย่าดีกว่าถ้าเกิดต้องสู้กับขวัญแล้วเจ้าพวกนั้นจะไม่พลั้งมือฆ่าขวัญตายได้รึเปล่านายคิดว่าไงล่ะ”
“จะว่าไปมันก็จริงแฮะ”
เมษาพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเหตุผลที่เขายกขึ้นมาอ้าง…
ถึงแม้ความจริงแล้วจะเป็นเพราะเอลิกอร์ที่ควบคุมร่างเขาไปทำเพดานถล่มใส่ซีเซียมก่อนจะมาที่นี่
ถ้าไปชวนตอนนี้กว่าจะสะสางกันเสร็จคงไม่ทันการณ์
“งั้นก็มาเริ่มกันเลยก่อนอื่นบนเกาะนี้เราเปิดฮาบิแททพอยซ์เอาไว้หมดแล้วพื้นที่คลุมเกือบทั้งเกาะรวมถึงป่าทั้งหมดเอาไว้ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องสัตว์เทวะก็จริงแต่คงไปถึงศาลเจ้านั่นไม่ได้ง่ายๆ
เหมือนคราวก่อนที่ไปสำรวจหรอกตอนนี้ที่นั่นน่าจะเต็มไปด้วยฝูงอสูรดังนั้นเราจะใช้ฟอร์เมชั่นแบบล้อมเป็นวงกลม”
มันเป็นฟอร์เมชั่นตามชื่อ
คือให้คนที่ป้องกันตัวเองไม่ได้เข้าไปอยู่ในวงกลมที่ล้อมด้วยคนที่แข็งแกร่ง
เมษา
กวินทร์ ฟู
ทั้งสามคนทำท่าเหมือนจะรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ในตำแหน่งวงนอกที่คอยคุ้มครองคนข้างใน
“แต่ว่าถ้าจัดแบบนั้นตอนนี้จะมีแค่เมษา
กวินทร์
แล้วก็ฟูสามคนถ้าต้องมีใครคอยระวังสองทางเลยมันจะหนักไปเพราะงั้นคราวนี้ฉันจะอยู่วงนอกด้วย”
ทีนี้วงล้อมก็จะมีคนคอยกันให้ครบสี่ทิศ
มิกซ์กับพวกผู้หญิงจะไปคอยสนับสนุนอยู่ตรงกลางวงล้อม
แต่มีนาก็ขัดขึ้นมาว่า
“แต่ว่าคุณอิงศรมาอยู่กลางวงจะไม่ดีกว่าหรือคะ
ตัวชั้นถึงจะเป็นซัมมอนเนอร์แต่อาวุธของฉันเป็นเคียวที่มีระยะโจมตีในระยะกลางถ้าให้ไปอยู่ข้างในแบบนั้นมันจะแกว่งลำบากให้ฉันไปอยูาวงนอกแทนก็ได้ค่ะ”
”ตอนนี้ฉันเป็นแบทเทิลเรนเจอร์แล้วสามารถสู้ระยะใกล้ได้อีกอย่างในป่าน่ะมันมืดเพราะงั้นฉันจะเดินนำทางเองคงต้องไปอยู่ข้างหน้ากลุ่มอยู่ดี
อีกอย่างเราต้องเข้าไปในถิ่นศัตรูโดนล้อมอยู่ตลอดเวลาพวกมันต้องหาทางดึงพวกเราให้แยกออกจากกลุ่มแน่เพราะงั้นเธอไปอยู่ตรงกลางคอยใช้เดม่อนแอพดึงคนที่ถูกลากออกจากกลุ่มกลับมาก็พอ”
เมื่ออธิบายเหตุผลไปมีนาจึงยอมเข้าใจ
หล่อนเป็นคนฉลาดจึงไม่ต้องอธิบายมากนัก
อิงศรถามทุกคน
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”
ทุกคนพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วพวกเขาก็ออกเดินทาง
@@@
“ดูเหมือนว่าพวกซุงอิงจะออกไปกันแล้วนะ”
โพแทสเซียมใช้มือป้องหูไว้เพื่อฟังเสียงฝีเท้าจากห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นสองฝั่งติดบันไดจึงได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกอิงศรวิ่งผ่านห้องตัวเองไป
ห้องนี้เป็นห้องพิเศษสำหรับคู่รักที่ยอมจ่ายเงินมากเพื่อให้ได้มา
เป็นห้องสวีทนั่นเองห้องจึงมีความกว้างมากกว่าห้องอื่นๆ สองเท่า
เฟอร์นิเจอร์ภายในแตกต่างจากห้องอื่น ที่นี่ตกแต่งด้วยสีชมพูและโทนสีเกี่ยวกับความรักสีอื่นๆ
เตียงคู่หลังใหญ่ตั้งชิดผนังอยู่ตรงกึ่งกลางห้อง
เคาเตอร์บาร์เครื่องดื่มขนาดเล็กที่มีตู้เย็นใหญ่กว่าห้องอื่นซึ่งแช่แอลกอฮอล์หลากหลายชนิดเก็บเอาไว้ถึงตอนนี้มันจะไม่เย็นแล้วก็ตามแต่ของพวกนั้นก็ยังไม่เสีย
ถึงจะเป็นมนุษย์ต่างดาวแต่เพราะความสนใจในตัวของชาวโลกโพแทสเซียมจึงเคยดื่มของพวกนี้มาบ้างและติดใจในรสชาติของมันอยู่เหมือนกันดังนั้นอดีตราชครูลำดับสี่ผู้นี้จึงหยิบแอลกอฮอล์สามขวดจากตู้กับแก้วที่วางบนเคาเตอร์ออกมานั่งดื่มตรงโซฟาที่ตั้งอยู่ฟากตรงกันข้ามหน้าทีวีจอห้าสิบเก้านิ้ว
นอกจากเขาแล้วก็ยังมีเพื่อนที่เรียกมานั่งดื่มด้วยกันนั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวที่หันหน้าเข้าหาตัวเอง
ลิเธียมนั่นเอง
“แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดีล่ะ”
โพแทสเซียมรินน้ำจากขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เติมลงในแก้วที่ตนเพิ่งจะดื่มหมดไป
ดูเหมือนแอลกอฮอล์จะทำอะไรมนุษย์ต่างดาวไม่ได้
เคยได้ยินจากไทเทเนียมมาว่าเวลาชาวโลกดื่มสิ่งนี้เข้าไปก็จะเกิดอาการเมาเพราะแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่ม
เขาเองก็รินให้ลิเธียมด้วยแก้วหนึ่งแต่เจ้าตัวดูไม่สนใจจะแตะต้องเลยแม้แต่น้อย
“ถึงท่านซีเซียมจะพูดเองว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวโลกแต่ซุงลี่ล่ะคิดยังไง”
ลิเธียมตอบคำถามนั้นด้วยท่าทีจริงจัง
“ถ้าเป็นปรกติก็ต้องทำตามที่ราชครูลำดับสูงกว่าปฏิบัติครับ”
“แต่ว่าตอนนี้พวกเราไม่ใช่ราชครูแล้วนะ
ไม่สิไม่ได้เป็นมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยพวกเราเป็นแค่เครื่องมือที่ซุงลูลู่สร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง
ถ้าอย่างนั้นแล้วเราต้องทำตามที่เธอคนนั้นต้องการแทนรึเปล่าล่ะ”
“…”
“ทำหน้าแบบนั้นแปลว่าไม่สินะ”
“…”
เพราะลิเธียมไม่ยอมตอบเสียที
เขาจึงเบนความสนใจไปให้กับแก้วเครื่องดื่มในมือ หมุนมันสองสามทีก่อนจะกระดกดื่มอย่างออกรส
จนกระทั่งหมดแก้วจึงกล่าวว่า
“เอาเถอะไม่ต้องตอบตามใจกระผมก็ได้ยังไงซะจุดยืนของพวกเราตอนนี้ก็คงมีแค่เกาะพวกซุงอิงไปให้ถึงที่สุดอีกอย่างเธอน่ะถูกใจซุงมิ่งอยู่ใช่ไหมล่ะไม่งั้นคงไม่ประคบประหงมจนโตขนาดนี้หรอกเนอะ”
พอได้ยินแบบนั้นลิเธียมก็ปรายยิ้มแบบที่ไม่ค่อยจะได้เห็นขึ้นมา
เป็นรอยยิ้มที่บอกว่ารู้แกวคำถามของเขาแล้วว่ากำลังหมายเล็งสิ่งใดจากคำตอบของเขา
ลิเธียมกล่าว
“แบบนี้เองสินะครับท่านลำดับที่สี่”
“อ๊ะๆๆ
พวกเราไม่ใช่ราชครูแล้วนะ”
แต่ลิเธียมไม่สนใจคำโต้แย้งนั่นแล้วพูดต่อ
“เด็กคนนั้นพัฒนาการได้ไวมากผมอยากจะรู้ถึงขีดจำกัดของเขาว่าจะไปได้สูงแค่ไหนแล้วก็…”
ก่อนที่ลิเธียมจะพูดใจความสำคัญของคำตอบเขาก็ชิงพูดมันเสียเองเพราะรู้อยู่แล้ว
เพราะอยู่กับลิเธียมมานานพอจะเข้าใจในตัวชายคนนี้อย่างหมดเปลือก
“อยากจะลองฆ่าเองกับมือใช่ไหมล่ะ
อยากสู้กับคนเก่งๆ แล้วเชือดด้วยมือตัวเอง
เธอเนี่ยนะเป็นพวกบ้าการต่อสู้ที่น่ารังเกียจเป็นบ้าเลยจริงๆ
แต่กระผมก็ชอบเธอตรงนั้นแหละนะ”
“…”
“งั้นมาเริ่มกันเลยไหม”
โพแทสเซียมกล่าวพลางวางแก้วสุราลงบนโต๊ะแล้วลุกจากที่นั่ง
ในมือข้างซ้ายกำคันศรไว้แน่นมาตั้งแต่เริ่ม
ถึงจะคุยกับลิเธียมอย่างสบายๆ
ก็ตามแต่บรรยากาศในห้องสวีทไม่ได้เป็นแบบนั้น
พื้นห้องที่ปูด้วยพรมสีอ่อนแท้จริงแล้วเป็นเพราะแสงไฟที่ปรับเป็นสีพิเศษก็เลยทำให้ของเหลวสีดำที่เจ่งนองอยู่บนพื้นเปลี่ยนสีจนดูไม่ออกแต่ว่า
พื้นของห้องนั้นนองไปด้วยเลือดของ ’อสูร’
เมื่อโพแทสเซียมก้าวเท้าเดินผืนน้ำเลือดก็กระเพื่อมเป็นหย่อม
มันมีเลือดนองมากอยู่ถึงขนาดนั้น
ลิเธียมที่ยังนั่งอยู่ก็เช่นกัน
มือจับดาบที่ถอดจากฝักแล้วปักร่างของอสูรตนหนึ่งติดพื้น
อสูรผู้ชายแต่งกายแบบโบราณ
ไว้หนวดไว้เครา บนแผ่นหลังที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าปกปิดนั้นมีรอยสักอยู่มากมาย
อสูรนั่นแน่นิ่งไปแล้วแต่ยังไม่สิ้นใจร่างกายของมันขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่รวยรินอยู่เต็มที
เขาเรียกลิเธียม
มาที่นี่เพื่อดื่มและพูดคุยเรื่องเป้าหมายแต่ก็ถูกพวกอสูรรบกวนซะก่อนจึงจัดการทั้งหมดแล้วเหลือไว้ตัวหนึ่ง
โพแทสเซียมเดินไปเปิดประตูห้องทำให้เลือดอสูรไหลทะลักออกไปด้านนอก
”ถ้างั้นเราไปต้อนลูกแกะหลงฝูงกลับมากันเถอะ”
เมื่อพูดออกไปแบบนั้นลิเธียมที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นแล้วถอนดาบออกจากตัวของอสูร
อสูรที่แน่นิ่งไปแล้วกลับลุกขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วราวกับรอจังหวะจะหนีมาแต่แรก
มันวิ่งหนีไปที่ประตูทันที
โพแทสเซียมปล่อยให้อสูรวิ่งผ่านออกไป
“เอ้า รีบตามไปกันเถอะ”
แล้วเขากับลิเธียมก็ไล่ตามอสูรไป
ที่จงใจปล่อยให้อสูรหนีก็เพื่อใช้มันสาวไปยังต้นกำเนิด
เพื่อหาที่มาของพวกมันให้เจอจึงเหลือไว้หนึ่งตัวเพื่อการนั้น
ดูเหมือนอสูรจะไม่ค่อยฉลาดหรือไม่ก็มีแค่สัญชาตญาณเพราะสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปหมดแล้วถึงได้วิ่งไปตามแผนของพวกเขาแบบนี้
“ข้างหน้านี้จะมีอะไรอยู่กันนะ”
โพแทสเซียมพูด
แล้วตอนนั้นพวกเขาก็ไล่ตามอสูรขึ้นมาถึงชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นบนสุด
ทันทีที่วิ่งพ้นบันไดอสูรก็ทะลุหายเข้าไปในกำแพง
แต่แค่นั้นไหยุดการไล่ตามของพวกเขาไม่ได้หรอก
ลิเธียมตวัดดาบฟันกำแพงเพียงครั้งเดียว
ผนังก็แตกกะเทาะเป็นโพรงให้เห็น
เป็นโพรงที่ไม่ได้เกิดจากแค่แรงปะทะจากดาบของลิเธียมอย่างแน่นอนแต่เป็นของที่มีคนสร้างเอาไว้หรือที่เรียกว่า
‘ทางลับ’ นั่นเอง
“ท่าทางเกาะนี้จะมีความลับซ่อนอยู่สินะครับ”
โพแทสเซียมกล่าวเช่นนั้น
ความคิดเห็น