ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #204 : Login 201: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (โหมโรมม่านสุดท้าย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 165
      7
      11 ก.พ. 61

    Login 201: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (โหมโรมม่านสุดท้าย)

     

                หลังจากกระจายข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันให้กับ เมษา กวินทร์ ฟู มิกซ์ แล้ว

                รวมถึงยืนยันตำแหน่งของมิ่งขวัญจากหน้าจอติดตามของระบบปาร์ตี้ซึ่งเจ้าตัวกำลังมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าบนเกาะ เหมือนกับว่าสาเหตุของเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในคืนนี้และคืนก่อนๆ จะถูกระบุได้อย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อย

                พวกเขายืนรวมกลุ่มล้อมเป็นวงกลมหันหน้าเข้าหากันบนระเบียงทางเดินอันมืดมิดของชั้นสาม

                แล้วมีนาก็พูดคำตอบที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลทั้งหมด

                “ถ้าคุณมิ่งขวัญที่ช่วยหญิงแก่ที่เราเจอในคืนวันนั้นมุ่งหน้าเข้าป่าไปแบบนี้ศาลเจ้าในป่านั่นจะต้องเป็นต้นเหตุแน่นอนเลยค่ะ

                ฟูพูด

                “เจ้าขวัญโดนควบคุมอีกแล้วสิเนี่ย

                มีนาทำหน้าไม่เข้าใจ

                “อีกแล้วเหรอคะ ?”

                อิงศรตอบข้อสงสัยนั่นให้

                “เจ้าขวัญก่อนหน้านี้ที่ไปบุกอารย-สนธยาก็โดนปีศาจที่ชื่อ อวโลกิตะเข้าสิงเอาน่ะตอนนั้นเล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน

                ในตอนนั้นเขากับน้องชายเกือบจะต้องฆ่ากันเอง แต่ก็รอดมาได้เพราะขวัญปลุกให้อาคานาร์มหาโชคชะตา วีลออฟฟอร์จูน ตื่นขึ้นมาและขับไล่อวโลกิตะที่กลายเป็น อสุรา มิตรา ออกจากร่างไปได้

                “แล้วทำไมหมอนั่นถึงไม่ใช้ เฮเลลไล่อสูรที่สิงอยู่ออกไปกันนะ

                ปีศาจของมิ่งขวัญมีพลังในการยับยั้งพลังของปีศาจ ถ้าจะบอกว่าทำไม่ได้เพราะตัวตนที่สิงสู่ในตอนนี้เป็นอสูรแล้วล่ะก็ มิตราที่เคยขับไล่ออกไปได้ยังเป็นถึงอสุราที่เป็นร่างสมบูรณ์ของอสูรด้วยซ้ำ

                กวินทร์พูด

                “อาจจะเป็นเพราะในตัวพวกเราไม่มีเฟืองแล้วก็ได้นะครับผมเองก็รู้สึกว่าร่างกายมันโหวงๆ อยู่เหมือนกัน

                สมมติฐานของกวินทร์นั้นเข้าท่าอยู่เหมือนกัน

                ที่นายว่ามาก็อาจจะเป็นไปได้แต่อย่าลืมล่ะว่าปีศาจจากอาคานาร์น่ะถ้าไม่เรียกออกมาเองมันก็ทำงานไม่ได้ไม่เหมือนเดม่อนแอพที่ติดตั้งอยู่ตลอดเวลาบางทีขวัญอาจจะแค่ยังไม่ได้สติก็ได้

                มีนาพูดแทรกเข้ามาตัดบทว่า

                เอาเป็นว่าตอนนี้เราเข้าใจสถานการณ์กันแล้วงั้นก็ออกเดินทางกันเถอะค่ะ

                ทั้งที่ใจเขาตอนนี้ไปอยู่ในป่าแล้วแต่ก็พยายามดึงสติตัวเองอย่างที่มีนาช่วยดึงให้ก่อนหน้านี้แล้วพูดขัดไปว่า

                แต่ก่อนอื่นขอจัดฟอร์เมชั่นก่อนนะ

                เมษาพูด

                จะว่าไปไม่ไปเรียกพวกต่างดาวมาร่วมวงด้วยเหรอพวกนั้นมาน่าจะเดินลุยกันสบายๆ เลยเผลอๆ ไม่ต้องมานั่งกลุ้มเรื่องฟอร์เมชั่นด้วย

                อย่าดีกว่าถ้าเกิดต้องสู้กับขวัญแล้วเจ้าพวกนั้นจะไม่พลั้งมือฆ่าขวัญตายได้รึเปล่านายคิดว่าไงล่ะ

                จะว่าไปมันก็จริงแฮะ

                เมษาพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเหตุผลที่เขายกขึ้นมาอ้าง

                ถึงแม้ความจริงแล้วจะเป็นเพราะเอลิกอร์ที่ควบคุมร่างเขาไปทำเพดานถล่มใส่ซีเซียมก่อนจะมาที่นี่ ถ้าไปชวนตอนนี้กว่าจะสะสางกันเสร็จคงไม่ทันการณ์

                งั้นก็มาเริ่มกันเลยก่อนอื่นบนเกาะนี้เราเปิดฮาบิแททพอยซ์เอาไว้หมดแล้วพื้นที่คลุมเกือบทั้งเกาะรวมถึงป่าทั้งหมดเอาไว้ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องสัตว์เทวะก็จริงแต่คงไปถึงศาลเจ้านั่นไม่ได้ง่ายๆ เหมือนคราวก่อนที่ไปสำรวจหรอกตอนนี้ที่นั่นน่าจะเต็มไปด้วยฝูงอสูรดังนั้นเราจะใช้ฟอร์เมชั่นแบบล้อมเป็นวงกลม

                มันเป็นฟอร์เมชั่นตามชื่อ คือให้คนที่ป้องกันตัวเองไม่ได้เข้าไปอยู่ในวงกลมที่ล้อมด้วยคนที่แข็งแกร่ง

                เมษา กวินทร์ ฟู ทั้งสามคนทำท่าเหมือนจะรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ในตำแหน่งวงนอกที่คอยคุ้มครองคนข้างใน

                แต่ว่าถ้าจัดแบบนั้นตอนนี้จะมีแค่เมษา กวินทร์ แล้วก็ฟูสามคนถ้าต้องมีใครคอยระวังสองทางเลยมันจะหนักไปเพราะงั้นคราวนี้ฉันจะอยู่วงนอกด้วย

                ทีนี้วงล้อมก็จะมีคนคอยกันให้ครบสี่ทิศ มิกซ์กับพวกผู้หญิงจะไปคอยสนับสนุนอยู่ตรงกลางวงล้อม

                แต่มีนาก็ขัดขึ้นมาว่า

                แต่ว่าคุณอิงศรมาอยู่กลางวงจะไม่ดีกว่าหรือคะ ตัวชั้นถึงจะเป็นซัมมอนเนอร์แต่อาวุธของฉันเป็นเคียวที่มีระยะโจมตีในระยะกลางถ้าให้ไปอยู่ข้างในแบบนั้นมันจะแกว่งลำบากให้ฉันไปอยูาวงนอกแทนก็ได้ค่ะ

                ตอนนี้ฉันเป็นแบทเทิลเรนเจอร์แล้วสามารถสู้ระยะใกล้ได้อีกอย่างในป่าน่ะมันมืดเพราะงั้นฉันจะเดินนำทางเองคงต้องไปอยู่ข้างหน้ากลุ่มอยู่ดี อีกอย่างเราต้องเข้าไปในถิ่นศัตรูโดนล้อมอยู่ตลอดเวลาพวกมันต้องหาทางดึงพวกเราให้แยกออกจากกลุ่มแน่เพราะงั้นเธอไปอยู่ตรงกลางคอยใช้เดม่อนแอพดึงคนที่ถูกลากออกจากกลุ่มกลับมาก็พอ

                เมื่ออธิบายเหตุผลไปมีนาจึงยอมเข้าใจ หล่อนเป็นคนฉลาดจึงไม่ต้องอธิบายมากนัก

                อิงศรถามทุกคน

                ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ

                ทุกคนพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วพวกเขาก็ออกเดินทาง

               

                @@@

     

                ดูเหมือนว่าพวกซุงอิงจะออกไปกันแล้วนะ

                โพแทสเซียมใช้มือป้องหูไว้เพื่อฟังเสียงฝีเท้าจากห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นสองฝั่งติดบันไดจึงได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกอิงศรวิ่งผ่านห้องตัวเองไป

                ห้องนี้เป็นห้องพิเศษสำหรับคู่รักที่ยอมจ่ายเงินมากเพื่อให้ได้มา เป็นห้องสวีทนั่นเองห้องจึงมีความกว้างมากกว่าห้องอื่นๆ สองเท่า เฟอร์นิเจอร์ภายในแตกต่างจากห้องอื่น ที่นี่ตกแต่งด้วยสีชมพูและโทนสีเกี่ยวกับความรักสีอื่นๆ

                เตียงคู่หลังใหญ่ตั้งชิดผนังอยู่ตรงกึ่งกลางห้อง

                เคาเตอร์บาร์เครื่องดื่มขนาดเล็กที่มีตู้เย็นใหญ่กว่าห้องอื่นซึ่งแช่แอลกอฮอล์หลากหลายชนิดเก็บเอาไว้ถึงตอนนี้มันจะไม่เย็นแล้วก็ตามแต่ของพวกนั้นก็ยังไม่เสีย

                ถึงจะเป็นมนุษย์ต่างดาวแต่เพราะความสนใจในตัวของชาวโลกโพแทสเซียมจึงเคยดื่มของพวกนี้มาบ้างและติดใจในรสชาติของมันอยู่เหมือนกันดังนั้นอดีตราชครูลำดับสี่ผู้นี้จึงหยิบแอลกอฮอล์สามขวดจากตู้กับแก้วที่วางบนเคาเตอร์ออกมานั่งดื่มตรงโซฟาที่ตั้งอยู่ฟากตรงกันข้ามหน้าทีวีจอห้าสิบเก้านิ้ว

                นอกจากเขาแล้วก็ยังมีเพื่อนที่เรียกมานั่งดื่มด้วยกันนั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวที่หันหน้าเข้าหาตัวเอง

                ลิเธียมนั่นเอง

                แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดีล่ะ

                โพแทสเซียมรินน้ำจากขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เติมลงในแก้วที่ตนเพิ่งจะดื่มหมดไป

                ดูเหมือนแอลกอฮอล์จะทำอะไรมนุษย์ต่างดาวไม่ได้ เคยได้ยินจากไทเทเนียมมาว่าเวลาชาวโลกดื่มสิ่งนี้เข้าไปก็จะเกิดอาการเมาเพราะแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่ม

                เขาเองก็รินให้ลิเธียมด้วยแก้วหนึ่งแต่เจ้าตัวดูไม่สนใจจะแตะต้องเลยแม้แต่น้อย

                ถึงท่านซีเซียมจะพูดเองว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวโลกแต่ซุงลี่ล่ะคิดยังไง

                ลิเธียมตอบคำถามนั้นด้วยท่าทีจริงจัง

                ถ้าเป็นปรกติก็ต้องทำตามที่ราชครูลำดับสูงกว่าปฏิบัติครับ

                แต่ว่าตอนนี้พวกเราไม่ใช่ราชครูแล้วนะ ไม่สิไม่ได้เป็นมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยพวกเราเป็นแค่เครื่องมือที่ซุงลูลู่สร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง ถ้าอย่างนั้นแล้วเราต้องทำตามที่เธอคนนั้นต้องการแทนรึเปล่าล่ะ

                “…”

                ทำหน้าแบบนั้นแปลว่าไม่สินะ

                “…”

                เพราะลิเธียมไม่ยอมตอบเสียที เขาจึงเบนความสนใจไปให้กับแก้วเครื่องดื่มในมือ หมุนมันสองสามทีก่อนจะกระดกดื่มอย่างออกรส จนกระทั่งหมดแก้วจึงกล่าวว่า

                เอาเถอะไม่ต้องตอบตามใจกระผมก็ได้ยังไงซะจุดยืนของพวกเราตอนนี้ก็คงมีแค่เกาะพวกซุงอิงไปให้ถึงที่สุดอีกอย่างเธอน่ะถูกใจซุงมิ่งอยู่ใช่ไหมล่ะไม่งั้นคงไม่ประคบประหงมจนโตขนาดนี้หรอกเนอะ

                พอได้ยินแบบนั้นลิเธียมก็ปรายยิ้มแบบที่ไม่ค่อยจะได้เห็นขึ้นมา

                เป็นรอยยิ้มที่บอกว่ารู้แกวคำถามของเขาแล้วว่ากำลังหมายเล็งสิ่งใดจากคำตอบของเขา

                ลิเธียมกล่าว

                แบบนี้เองสินะครับท่านลำดับที่สี่

                อ๊ะๆๆ พวกเราไม่ใช่ราชครูแล้วนะ

                แต่ลิเธียมไม่สนใจคำโต้แย้งนั่นแล้วพูดต่อ

                เด็กคนนั้นพัฒนาการได้ไวมากผมอยากจะรู้ถึงขีดจำกัดของเขาว่าจะไปได้สูงแค่ไหนแล้วก็…”

                ก่อนที่ลิเธียมจะพูดใจความสำคัญของคำตอบเขาก็ชิงพูดมันเสียเองเพราะรู้อยู่แล้ว

                เพราะอยู่กับลิเธียมมานานพอจะเข้าใจในตัวชายคนนี้อย่างหมดเปลือก

                อยากจะลองฆ่าเองกับมือใช่ไหมล่ะ อยากสู้กับคนเก่งๆ แล้วเชือดด้วยมือตัวเอง เธอเนี่ยนะเป็นพวกบ้าการต่อสู้ที่น่ารังเกียจเป็นบ้าเลยจริงๆ แต่กระผมก็ชอบเธอตรงนั้นแหละนะ

                “…”

                งั้นมาเริ่มกันเลยไหม

                โพแทสเซียมกล่าวพลางวางแก้วสุราลงบนโต๊ะแล้วลุกจากที่นั่ง

                ในมือข้างซ้ายกำคันศรไว้แน่นมาตั้งแต่เริ่ม

                ถึงจะคุยกับลิเธียมอย่างสบายๆ ก็ตามแต่บรรยากาศในห้องสวีทไม่ได้เป็นแบบนั้น

                พื้นห้องที่ปูด้วยพรมสีอ่อนแท้จริงแล้วเป็นเพราะแสงไฟที่ปรับเป็นสีพิเศษก็เลยทำให้ของเหลวสีดำที่เจ่งนองอยู่บนพื้นเปลี่ยนสีจนดูไม่ออกแต่ว่า พื้นของห้องนั้นนองไปด้วยเลือดของอสูร

                เมื่อโพแทสเซียมก้าวเท้าเดินผืนน้ำเลือดก็กระเพื่อมเป็นหย่อม มันมีเลือดนองมากอยู่ถึงขนาดนั้น

                ลิเธียมที่ยังนั่งอยู่ก็เช่นกัน มือจับดาบที่ถอดจากฝักแล้วปักร่างของอสูรตนหนึ่งติดพื้น

                อสูรผู้ชายแต่งกายแบบโบราณ ไว้หนวดไว้เครา บนแผ่นหลังที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าปกปิดนั้นมีรอยสักอยู่มากมาย

                อสูรนั่นแน่นิ่งไปแล้วแต่ยังไม่สิ้นใจร่างกายของมันขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่รวยรินอยู่เต็มที

                เขาเรียกลิเธียม มาที่นี่เพื่อดื่มและพูดคุยเรื่องเป้าหมายแต่ก็ถูกพวกอสูรรบกวนซะก่อนจึงจัดการทั้งหมดแล้วเหลือไว้ตัวหนึ่ง

                โพแทสเซียมเดินไปเปิดประตูห้องทำให้เลือดอสูรไหลทะลักออกไปด้านนอก

                ถ้างั้นเราไปต้อนลูกแกะหลงฝูงกลับมากันเถอะ

                เมื่อพูดออกไปแบบนั้นลิเธียมที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นแล้วถอนดาบออกจากตัวของอสูร

                อสูรที่แน่นิ่งไปแล้วกลับลุกขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วราวกับรอจังหวะจะหนีมาแต่แรก มันวิ่งหนีไปที่ประตูทันที

                โพแทสเซียมปล่อยให้อสูรวิ่งผ่านออกไป

                เอ้า รีบตามไปกันเถอะ

                แล้วเขากับลิเธียมก็ไล่ตามอสูรไป

                ที่จงใจปล่อยให้อสูรหนีก็เพื่อใช้มันสาวไปยังต้นกำเนิด เพื่อหาที่มาของพวกมันให้เจอจึงเหลือไว้หนึ่งตัวเพื่อการนั้น ดูเหมือนอสูรจะไม่ค่อยฉลาดหรือไม่ก็มีแค่สัญชาตญาณเพราะสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปหมดแล้วถึงได้วิ่งไปตามแผนของพวกเขาแบบนี้

                ข้างหน้านี้จะมีอะไรอยู่กันนะ

                โพแทสเซียมพูด แล้วตอนนั้นพวกเขาก็ไล่ตามอสูรขึ้นมาถึงชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นบนสุด

                ทันทีที่วิ่งพ้นบันไดอสูรก็ทะลุหายเข้าไปในกำแพง แต่แค่นั้นไหยุดการไล่ตามของพวกเขาไม่ได้หรอก

                ลิเธียมตวัดดาบฟันกำแพงเพียงครั้งเดียว ผนังก็แตกกะเทาะเป็นโพรงให้เห็น

                เป็นโพรงที่ไม่ได้เกิดจากแค่แรงปะทะจากดาบของลิเธียมอย่างแน่นอนแต่เป็นของที่มีคนสร้างเอาไว้หรือที่เรียกว่า ทางลับ นั่นเอง

                ท่าทางเกาะนี้จะมีความลับซ่อนอยู่สินะครับ

                โพแทสเซียมกล่าวเช่นนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×