ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    A time of Love กาลครั้งหนึ่งของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 เหตุการณ์ประหลาด

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 50


                    นักท่องเที่ยวเดินขวักไขว่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์  บางคนกำลังถ่ายรูปที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์  บางส่วนเดินไปยังตลาด  บางส่วนเดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์
     เคียร์หันมาบอกกับชนิตสิรีว่า

                   “ระวังหลงนะ  ที่นี่คนเยอะ  ถ้ามาประเทศนี้ก็ต้องมาที่นี่ถึงจะเรียกว่ามาถึงจริงๆ  ไปเขาไปชมกันเถอะเดี๋ยววันนี้ฉันจะทำหน้าที่ไกด์พิเศษเอง”

                   วันนี้ชนิตสิรีและเคียร์ใส่ชุดพื้นเมืองเช่นเดียวกับเมื่อคืน  เคียร์ใส่สีฟ้า  ชนิตสิรีใสสีชมพูอมส้ม  ชนิตสิรีจะเหมือนชาาวพื้นเมืองทั่วไปถ้าหากผมที่ถูกเกล้าขึ้นไปนั้นเปลี่ยนจากสีดำสนิทเป็นสีน้ำตาลอย่างคนพื้นเมือง  

                   “กษัตริย์เซนต์ องค์นี้สำคัญมากเหรอ?”  หญิงสาวถามหลังจากก้าวพ้นประตูอันหรูหราอลังการ

                   “ท่านเป็นกษัตริย์นักรบ  ที่ทำให้ประเทศนี้มีเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้  แต่แปลกนะที่ประวัติศาสตร์ระบุว่าพระองค์ไม่มีองค์รานีเลยแม้แต่องค์เดียว”

                   “ไม่มีองค์รานีเหรอ? แปลกนะ…”

                   “ก็นั่นน่ะสิ  แต่มีเรื่องเล่าว่าพระองค์มีหญิงที่รักแต่ว่าหญิงคนนั้นตายด้วยน้ำมือของพวกเคซัส  จากนั้นพระองค์ก็ไม่รักใครอีก”

                   “พวกเคซัส?”

                   “เป็นศัตรูที่คอยหาเรื่องเมืองเรามาอยู่ตลอด  เหมือนกันพม่ากับไทยในสมัยก่อนนั่นแหละ”

                   “ถ้าเป็นเรื่องจริง  กษัตริย์องค์นี้ก็รักผู้หญิงคนนั้นมากๆ สินะ  ในสมัยนี้จะมีผู้ชายแบบนี้อีกไหมนะ”

                   “มีสิ  พี่ชายฉันไง  เขาเล่ามาอีกว่าผู้หญิงที่เป็นคนรักของพระองค์เป็นหญิงต่างชาติ  แต่ไม่รู้มาจากชาติไหน  บางทีพี่เซนด์อาจเคยเป็นกษัตริย์เมื่อชาติที่แล้ว  แล้วเธอก็เป็นหญิงคนรักคนนั้น  แล้วชาตินี้พี่เซนต์ก็ตามเธอมาเพื่อจะได้เกิดมาเป็นคู่กันจริงๆ เสียที  ว้าว…ช่างโรแมนติกอะไรอย่างนี้”

                   “เว่อร์  ช่างจินตนาการจริงๆ นะเธอ”

                   “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง…”  เคียร์ยังพูดไม่ทันจบชนิตสิรีก็ขัดขึ้น

                   “ซึ่งมันไม่มีทางเป็นจริง  อีกอย่างมันก็แค่เรื่องเล่า  ไปเหอะน่า  ตรงนั้นอะไรเหรอ  เป็นอาวุธที่พระองค์ให้เวลารบใช่ไหม?”

                    เคียร์ค้อนเพื่อนสาววงใหญ่

                   “น่าเพื่อนรัก  อย่าเพิ่งงอนฉันกำลังสนใจกับของพวกนี้อยู่  ไหนคุณไกด์พิเศษอธิบายหน่อยสิจ๊ะ”

                  “นั่นคือกริชประจำพระองค์  กริชจะใช้เฉพาะแต่กษัตริย์และคนในราชวงศ์เท่านั้น  กริชแต่ละอันจะมีลักษณะพิเศษของมัน  ทำให้รู้ว่ากริชอันนั้นเป็นของใคร”

                 “แล้วอันนี้มันพิเศษตรงไหนเหรอ?”

                 “ในสมัยของพระองค์จะแยกกริชได้โดยตราสัญลักษณ์ของแต่ละคน  อย่างอันนี้ดูดีๆ จะเห็นดาวหกแฉกอยู่ในดวงตะวัน”

                 “อือม์…จริงด้วย”

                 ชนิตสิรียกมือขึ้นลูบสร้อยบนคออย่างไม่รู้ตัว

                “ดาวหกแฉกเหมือนกันสร้อยของเธอนี่แหละ  ไปดูตรงนั้นดีกว่านั่นเป็นชุดในสมัยนั้น”

                “ไหน? ชุดคล้ายๆ กับสมัยนี้เลยนะ”

                “ใช่  พวกเราพยายามรักษาการใส่ชุดพื้นเมืองเอาไว้  มันเป็นสิ่งเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด  แต่ที่แสดงนี่เป็นชุดของชาววัง  ชุดของผู้หญิงที่อยู่ในวังต่างจากชาวบ้านตรงที่เอว  ผู้หญิงชาววังจะมีเชือกเป็นพู่ๆ ห้อยอยู่ทางด้านซายอย่างที่เห็น  เชือกจะแยกได้เป็นสีต่างๆ ตามสังกัดของตัวเอง”

                ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ เซนต์ เวสท์ เกือบครึ่งวันตามกำหนดการ  เคียร์พาชนิตสิรีออกมาหาอะไรทานง่ายๆ ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์  ทานเสร็จทั้งคู่ก็เริ่มเดินเที่ยวตลาดเซนต์ต่อ  

                ตลาดมีลักษณะเป็นตึกสองชั้นมีซอยมากมายแต่ละซอยสามารถเดินถึงกันได้  ในตลาดมีคนเที่ยวเยอะมากกว่าในพิพิธภัณฑ์ซะอีก  ตลาดนี้ขายของประเภทของที่ระลึก  ของฝาก  และของขึ้นชื่อของเอมเมอรัลด์

                ชนิตสิรีมาหยุดยืนมองสร้อยซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับของเธอ  แต่สร้อยเส้นนั้นเป็นสร้อยแบบเต็มทั้งอัน  ไม่มีช่องว่างตรงกลางเหมือนอย่างของเธอ

               “ของพวกนี้เป็นของปลอม  ทำเลียนแบบเพื่อขายนักท่องเที่ยวเท่านั้นแหละ”

               “แล้วเส้นนี้?”

               “ของแท้  สร้อยเส้นนี้เป็นสมบัติของตระกูลของฉัน  ที่จริงที่เธอใส่อยู่เป็นแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น  อีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่พี่เซนต์  ในส่วนที่เป็นช่องว่างของเธอไง  สร้อยอีกอันที่พี่เซนต์ใส่อยู่เป็นรูปดาวหกแฉกทำด้วยอัญมณีสีดำ  ถ้าเอามารวมกับของเธอจะเข้ากันได้พอดี”

              “ถ้างั้นสร้อยเส้นนี้ก็มีค่ามากสิ?”

              “ไม่ต้องคิดจะคืนเลยนะ  เธอใส่ไว้อย่างนั้นแหละดีแล้ว”  เคียร์พูดดักคอ

              “ก็ได้ก็ได้  ของสวยทั้งนั้นเลย  เคียร์มาช่วยฉันเลือกกำไลหน่อยสิ”

              “ฉันลืมไปว่าเธอเป็นนักช๊อป  รู้งี้น่าจะหาคนมาช่วยถือของสักคน”

              “ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง”

              “เดี๋ยวก็คอยดูแล้วกัน”

              “เล่นพูดซะแบบนี้อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าซื้อเยอะนะ”  พูดจบชนิตสิรีก็หันไปสนใจกับของ

              เคียร์สายหน้าอย่างระอาแกมเอ็นดู

              ชนิตสิรีเดินดูของไปเลื่อยๆ จนเพลิน  หันมาอีกทีก็ไม่เห็นเคียร์แล้ว

              “เคียร์  เคียร์”  หญิงสาวหันซ้ายหันขวาเรียกเพื่อนหวังให้เพื่อนรักยืนดูของอยู่ใกล้ๆ  แต่ไม่มี

              หญิงสาวเริ่มใจไม่ดี  เธอออกเดินตามหาเคียร์  ยิ่งเดินคนยิ่งน้อยลง  อากาศที่เคยสดใสเริ่มมืดครึ้มลงราวกับฝนกำลังจะตก  จนสุดท้ายคนหายไปจากตลาดหมดเหลือเพียงเธอยืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียวกลางตลาด

              ใจของชนิตสิรีเริ่มเต้นแรงรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่ปกติธรรมดา  หญิงสาวเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างจับใจ  ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งๆ

              หมอกลงหนาขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ออกยิ่งหมอกมากเหมือนกับอากาศหายใจยิ่งน้อยตามไปด้วย  ไม่นานสติของเธอก็ดับวูบไปพร้อมกับแสงที่สร้อยคอเป็นประกายวูบแล้วหายไปพร้อมกับร่างของเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×