คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - On The Way - 1st
- On The Way -
1st
วันรายงานตัวนักเรียนใหม่ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังของเกาหลีใต้ Inhyun High School หรือ ISH นักเรียนในชุดพิธีการของเรียน สวมสูทสีน้ำเงินกรมท่า ปักขอบแขนเสื้อสูทและชายสูทด้วยด้ายสีเทาเงิน ตราโรงเรียนถูกปักไว้ตรงอกด้านขวาของเสื้อสูท ป้ายชื่อพื้นกรมท่าตัดกับตัวอักษรสีเทาเงินติดยู่บนอกซ้ายรวมกว่าพันคนถูกจัดให้นั่งในหอประชุมแปดเหลี่ยมที่นักเรียนต่างเรียกว่าเรียกว่า Octahall
ชั้นล่างสุดของหอประชุมเป็นที่นั่งของเด็กนักเรียนใหม่ซึ่งก็คือนักเรียนม.ปลายปีแรก และม.ต้นปีแรก คุณครูและบุคคลากรในโรงเรียน ส่วนชั้นสองและสามเป็นที่นั่งของนักเรียนชั้นอื่นๆที่มาร่วมพิธีรายงานตัวในวันนี้
การรายงานตัวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี โดยนอกจากจะเป็นงานแรกพบระหว่างนักเรียนใหม่ด้วยกันแล้ว ยังเป็นงานที่รุ่นพี่จะมีโอกาสได้พบปะรู้จักรุ่นน้องอีกด้วย ที่สำคัญถือเป็นการเริ่มกิจกรรมปรับพื้นฐานของนักเรียนใหม่ที่ต้องเรียนปรับพื้นฐาน เข้าค่ายพักแรม และสอบวัดผลเพื่อคัดแยกห้อง โดยจัดห้องจากผลการเรียนให้คละกันไป โดยการจัดห้องนี้มีผลตลอดช่วงชั้นการศึกษา นั่นหมายความว่า นักเรียนจะได้เรียนด้วยกันจนจบ
นักเรียนใหม่ของ ISH มาจากการสอบคัดเลือกโดยแบ่งเป็นสามส่วน
ส่วนแรกเป็นการสอบเข้าทั่วไปคิดเป็น 50% ของนักเรียนใหม่
ส่วนที่สองเป็นการสอบเข้าโดยคัดจากนักเรียนที่มีพ่อแม่หรือญาติที่เป็นบุคคลากรในเครือธุรกิจอินฮยอน คิดเป็น 30% ของนักเรียนใหม่
และส่วนสุดท้ายเป็นการสอบเข้าในโควตาผู้อุปการคุณ ซึ่งก็คือการอุปการคุณโรงเรียนด้วยเงิน แต่ก็ยังยึดเกณฑ์คะแนนที่สามารถเข้าได้ โดยทุกคนต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ยิ่งคะแนนต่ำก็ยิ่งต้องจ่ายมากเพื่อแลกกับการได้มาเรียนใน ISH คิดเป็น 20% ของนักเรียนใหม่
โรงเรียนที่ไม่ได้มีประสิทธิภาแค่การพัฒนาความรู้ แต่ยังมุ่งเน้นการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และเพราะว่าเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนแต่ละชั้นไม่มากนัก ค่าเทอมแพงที่เป็นข้อจำกัดว่านักเรียนทุกคนค่อนข้างมีฐานะ ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม มักเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ หรือเป็นแพทย์ชื่อดัง เด็กในโรงเรียนจึงถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม เป็นลูกคุณหนูพอตัว อยู่ในกรอบและเส้นทางที่ผู้ปกครองกำหนดไว้ สังคมในโรงเรียนจึงปลอดภัยมากกว่าโรงเรียนมัธยมอื่นๆ ถึงจะมีนักเรียนที่นอกลู่นอกทางบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ดีและไม่ได้ทำตัวเหลวไหลจนเสียคน
ความพร้อมทั้งด้านการศึกษาและสังคมทำให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในไฮสคูลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้แม้จะก่อตั้งโรงเรียนได้เพียง 9 ปีเท่านั้น
ลู่หานเป็นหนึ่งในนักเรียนใหม่ที่อาศัยความสามารถของตัวเองก้าวเข้ามาใน ISH ได้ โรงเรียนแห่งนี้แปลกใหม่สำหรับลู่หาน เขาจบม.ต้นปีสามจากจีน แล้วย้ายมาเกาหลี แต่เพราะครอบครัวส่งมาเรียนภาษาเกาหลีทุกปิดภาคเรียน เรื่องภาษาสำหรับลู่หานจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่
ผิวขาวอมชมพู ดวงตาโตเป็นประกาย จมูกเชิดรั้นบ่งบอกความดื้อไม่ยอมคนของเจ้าตัว ริมฝีกปากเล็กเป็นกระจับ เครื่องหน้าที่รับกันอย่างลงตัวทำให้ใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงนี้ทำให้ลู่หานเป็นจุดเด่นดึงดูดตั้งสายตาทั้งนักเรียนเก่าและนักเรียนที่นั่งประจำที่เกือบทั้งหอประชุม ลู่หานกระตือรือร้น ตื่นเต้นสนใจกับบรรยากาศใหม่ๆทำให้ดวงตาที่มีประกายวิบวับอยู่แล้วเป็นประกายขึ้นไปอีก เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าทุกอากัปกิริยานั้นอยู่ในสายตาของโอเซฮุน
ภาพของนักเรียนใหม่ถูกถ่ายทอดสดขึ้นจอภาพขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งของเวที เพื่อให้ทุกคนในOctahall ได้เห็นบรรยากาศทั้งหมด กล้องจับภาพที่ลู่หานและเพื่อนคนอื่นๆในแถวกำลังเดินเข้าประจำตำแหน่งของตัวเอง ภาพนั้นทำให้หลายคนในฮอลล์จับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับลู่หาน
เซฮุนเห็นชื่อนักเรียนใหม่คนนี้ที่ป้ายบนอกด้านซ้าย มันเขียนว่า ลู่หาน น่าสนใจทั้งหน้าตาและชื่อ เซฮุนคิดแบบนั้น
เขาเจอลู่หานกำลังเดินออกจากตึกที่พักละแวกเดียวกับบ้านของเขา เครื่องแบบเดียวกับเขาทำให้เซฮุนและคุณแม่ที่กำลังขับรถสังเกตเห็น “คนนั้นน่ารักดีนะลูก” โอซอนยอพยักพเยิดให้ลูกชายเห็นเด็กผู้ชายแต่หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาแก้ว เซฮุนไม่ได้ตอบรับอะไร แต่โอซอนยอรับรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังเจอสิ่งที่สนใจ แววตาของเซฮุนจับจ้องอยู่ที่เด็กคนนั้น และเธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอมักไม่เคยปล่อยผ่านสิ่งที่สนใจ ไม่มีทางทีเซฮุนจะละสายตาจากเด็กคนนั้นไปได้แน่นอน
ที่นั่งของลู่หานอยู่ด้านหน้าเซฮุนหนึ่งแถว ลู่หานหันกลับมามองชื่อที่แปะอยู่บนเก้าอี้ของตัวเอง ก่อนจะสบสายตากับนักเรียนที่นั่งอยู่ด้านหลังอยู่แล้ว เหมือนเวลาหยุดเดินชั่วขณะ ดวงตากลมโตสบสายตากับแววตานิ่งติดจะเย็นชาที่เขาอ่านความคิดไม่ออก แต่ยิ่งมองยิ่งเหมือนถูกดึงดูดลงไปในดวงตาคู่นั้น เสียงประกาศให้เตรียมตัวเริ่มพิธีทำให้ลู่หานต้องรีบหันกลับมา แต่ก็ทันพอที่จะเห็นตัวอักษรบนป้ายชื่อนั้น โอ เซฮุน
หลังจากหันกลับมาลู่หานรู้สึกเหมือนตัวเองไม่สบาย ใจเต้นผิดจังหวะแปลกๆ เหมือนเขาถูกดูดลงไปในนัยน์ตาคู่นั้น ลู่หานเอามือทาบอกตรงตำแหน่งหัวใจเพื่อหวังคลายการเต้นที่ผิดจังหวะนั้นไป พิธีการตรงหน้าเบี่ยงเบนความสนใจของลู่หานได้มากพอจนไม่รู้ว่ามีคนข้างหลังนั่งมองเขาตลอดพิธีการ ภายใต้แววตานิ่งนั้นใครจะรู้ว่าหัวใจโอเซฮุนก็เต้นผิดจังหวะไม่ต่างจากคนข้างหน้าอย่างลู่หานเลย
------------------------On the way--------------------------
วันนี้วันจันทร์ !! และผมต้องตื่นไปโรงเรียนทั้งๆที่ผมเพิ่งจะได้หลับตอนตี4นี่เอง สาเหตุที่นอนไม่หลับก็เพราะเหตุการณ์เมื่อวานนั่นแหละครับ ผมแค่กังวล... ก็แบบว่าเมื่อก่อนถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่ปฏิสัมพันธ์ของผมกับเซฮุนแทบจะเป็นศูนย์ อย่างที่เคยบอกไปว่าเมื่อปีที่แล้วคุยกันยังไม่ถึงสิบประโยคเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้ถึงจะยังเป็นเป็นกัน แต่แน่นอนว่ามันคงไม่เป็นแบบเดิม อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของผม ผมไม่รู้ว่าจะวางตัวยังไง คือง่ายๆ ผมเขินเซฮุน ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา แค่เมื่อวาน ผมก็ไม่รู้ว่าผมควรจะมองไปที่ไหน จะเอามือไปวางตรงไหน มันทำให้ผมต้องใช้พลังงานในการควบคุมสติของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยล่ะ หัวใจก็เต้นแรงเกินไปด้วย เมื่อวานจึงกลายเป็นวันที่ผมไม่ได้ทำอะไรแต่กลับเหนื่อยกว่าวันทั่วไปซะอีก
ผมตั้งใจว่าวันนี้จะทำตัวเหมือนไม่มีอะไรก็ขึ้น เป็นวันที่ผมตื่นไปโรงเรียนปกติ ผมจะคุยเล่นกับกลุ่มเพื่อนของผมเหมือนเดิม เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยครับ แม้แต่ดีโอหรือว่าแบคฮยอนเพื่อนสนิทของผม แต่อาจจะรู้เร็วๆนี้เพราะแบคฮยอนกับดีโอจมูกไวสุดๆ ทั้งสายข่าววงในวงนอก สองคนนี้ไม่เคยพลาด ต่างจากผมที่ถูกตั้งฉายาให้ว่า ‘โลกรู้ ลู่หานไม่รู้’ โถ่ ก็แค่ผมไม่ได้สนใจคนอื่นขนาดนั้นครับ ก็สนใจอยู่คนเดียวมาตลอดนั่นแหละ ฮึ่ย!
ครืด ครืด
‘ลู่หานคนแมน อย่าลืมกินข้าวเช้านะ จะได้ไม่เอ๋อ’ คริสส่งคาทอล์คมาอีกแล้วครับ เขาทักผมทุกเช้าเย็นมาได้เกือบอาทิตย์แล้ว ยกเว้นเมื่อวานตอนเย็นครับ และผมก็ตอบกลับเกือบทุกอันแหละครับ
‘ไม่เคยเอ๋อเหอะ! L’
ไม่ถึงสองนาทีคริสก็ตอบกลับมา
‘โอ๋ๆ ไม่เอ๋อก็ไม่เอ๋อ อย่าหน้าบึ้งตอนเช้าสิ เดี๋ยวหน้าย่นเร็วนะ Have a nice day! ^^ เจอกันที่โรงเรียนครับ’
ผมเปิดอ่านแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ไม่รู้จะตอบอะไรครับ เพราะยังไงอีกไม่เกินสิบห้านาทีก็เจอกันที่โรงเรียนอยู่ดี
ผมสะพายกระเป๋าเป้ที่ห้อยพวงกุญแจรูปเพนกวินที่คริสซื้อมาเป็นของฝากแล้วออกไปรอรถโรงเรียนที่หน้าตึกที่พัก รถของเซฮุนก็ขับผ่านพอดี แต่ดูเหมือนรถชะลอนิดหน่อยตอนผ่านหน้าผม ก่อนจะขับผ่านไปเป็นปกติ รถหมอนั่นติดฟิล์มดำ และผมก็ไม่ได้พยายามจ้องขนาดนั้นด้วย ผมเลยไม่เห็นว่าชะลอทำไม
ผมมักจะพยายามหาอะไรทำให้วุ่นวายทุกครั้งที่รถคันนี้ขับผ่าน เหตุผลก็เดิมๆแหละ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องมองอะไร ถ้าทำไมเห็ฯทั้ที่อยู่ในระยะสายตาก็กลัวว่าจะเหมือนตั้งใจเมิน มองไม่เห็น พอจะมองก็กลัวว่าเหมือนจะจ้อง ก็เลยแก้ปัญหาด้วยการทำตัวยุ่งๆ จะได้ดูเนียนๆไป
ครั้งนี้ผมทำเป็นเล่นกับพวงกุญแจที่ห้อยอยู่กับเป้ครับ พวงกุญแจของที่คริสให้นั่นแหละ ส่วนแบมบี้ที่เซฮุนให้มาผมเก็บไว้อย่างดีครับ ไม่กล้าใช้หรอก กลัวมันเก่า มันเป็นพวงกุญแจแห่งความทรงจำเลยนะครับ
ผมมาถึงโรงเรียนก่อนเวลาเข้าเรียนนิดหน่อย แค่ผมเดินเข้าห้องก็รู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆของเพื่อนในห้อง ทุกคนมองผมแล้วก็ยิ้มๆแปลกๆ ผมพยายามไม่สนใจ ทักทายเพื่อน ทำตัวเหมือนปกติ ดีนะครับที่กลุ่มเซฮุนยังไม่มา ผมจะได้ใชเวลาตั้งสติอีกนิด
แบคฮยอนกับคยองซูที่เพิ่งเดินเข้าห้องมาพอดีกับที่ผมนั่งที่พอดี สองคนนั่นรีบมาเกาะแขนผมแล้วเริ่มสืบสวนผมทันที
“ลู่หาน เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น” แบคฮยอนรีบถามทั้งที่ยังไม่นั่งที่เลยด้วยซ้ำ
“ใช่ๆ แล้วแกตอบไปว่าไง” คยองซูถามแทรกขึ้นมาแบบนี้แล้วจะให้ผมเล่าทำไมเนี่ย
“ก็เอ่อ..เป็นเพื่อนกันไง” ผมพยายามตอบไปนิ่งๆ
“ทำไมไม่ตอบตกลงไปอ่ะ ก็ดูโอเคนะ”
“จะบ้าหรือไงแบคฮยอน เราแทบไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ” ผมตอบพร้อมใส่อารมณ์นิดๆเพื่อปกปิดความเขิน
“แน่ะ แอบเขินใช่มั้ยล่ะ ไม่ต้องปิดเลยลู่หาน เขารู้กันทั้งโรงเรียนแล้วว่าเซฮุนบอกชอบแก”
ขอบคุณคยองซูที่ช่วยเฉลยเหตุผลที่เพื่อนมองผมแปลกๆ และยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม ให้ตายเถอะ! ผมจะใช้ชีวิตในโรงเรียนแบบปกติได้ยังไงกัน!
“นั่น เซฮุนมาแล้ว” แบคฮยอนเขย่าแขนผมให้หันมองตัวการที่กำลังเดินเข้าห้องเรียน เซฮุนเดินผ่านโต๊ะที่ผม คยองซูและแบคฮยอนนั่งอยู่ ก่อนจะหยุดมองที่ผมแล้วยักคิ้วทักทายพร้อมยิ้มให้แบบนิ่งๆ นั่นทำให้ผมต้องยิ้มตอบแล้วรีบหันหลบทำเป็นวุ่นวายกับการหาของในกระเป๋าตัวเอง
แต่ความร้อนที่แก้มคงปิดอาการเขินของลู่หานไม่อยู่ และเหมือนเจ้าตัวก็รู้ดีจึงพยายามก้มจนคางจะชิดอกหวังปิดแก้มสีแดงระเรื่อนั้น
“ฮิ้ววว ชอบกันจริงๆด้วยโว้ยยย”
“แซวเล่นแต่ชอบกันจริงด้วย!”
“เซฮุนบอกชอบลู่หานยังไง! จะเปิดตัวเมื่อไหร่ดี”
เพื่อนในห้องที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโห่แซวลู่หานกับเซฮุน
ลู่หานพยายามตีหน้านิ่งไม่สนใจ ก้มหน้าไม่สนใจเสียงโห่แซว ทำเป็นจัดหนังสือบนโต๊ะ หาของในกระเป๋าจนแทบเอาหน้ามุดกระเป๋าตัวเอง ในขณะที่เซฮุนยิ้มรับเบาๆกับเสียงแซวจากเพื่อนๆอย่างหน้าตาเฉย ก่อนหันไปปะทะกับสายตาของคนตัวสูงที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งอย่างคริสที่ยืนอยู่ที่ประตูห้องเรียน
คริสมองเซฮุนตอบด้วยแววตานิ่ง ร่างสูงเกินคนทั่วไปเดินไปยังโต๊ะของตัวเองที่ย้ายมานั่งหลังลู่หานโดยความตั้งใจ วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ก่อนยื่นมือไปยีผมลู่หานเหมือนที่ทำเป็นประจำ และเรียกสายตาดุน่ากลัวเหมือนแมวขู่ของลู่หานได้เหมือนทุกครั้ง
“ไง กินเช้าข้าวมารึเปล่า ระวังแคระนะ” คริสถามหลังจากที่เก็บมือใหญ่โตเหมือนไม้พายนั่นกลับไป แล้วเอามือเทียบส่วนสูงลู่หานให้เท่าอกของตัวเอง
“กินแล้วล่ะน่า” ลู่หานตอบพร้อมแจกค้อนวงใหญ่
“เชื่อฟังดีแฮะ เชื่องจังเลยนะ” พูดอย่างเดียวไม่พอแถมยื่นมีมาเกาคางลู่หาน
ลู่หานย่นคอหนีพร้อมพยายามปัดมือคริสออกไป ได้คริสกับรวบมือทั้งสองของลู่หานไว้อย่างง่ายดาย แล้วแกล้งเกาคางอยู่แบบนั้น ลู่หานพยายามแกะตัวเองออกจากคริส แต่ดูเหมือนจะเป็นงานยากจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากคยองซูที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พอแล้วคริส เล่นเป็นเด็กๆไปได้” เสียงดุเรียบๆของคยองซูทำให้คริสปล่อยมือจากลู่หาน
“แค่เล่นๆแหละคยองซู ทำซีเรียสไปได้” คริสกลับไปนั่งที่ หันไปยักคิ้วกวนประสาททักทายเซฮุน ก่อนหันกลับมาพอดีกับเสียงออดเริ่มเวลาเรียน
เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาเซฮุนที่สายตายังคงนิ่งแต่ในใจกลับเดือดแทบประทุ เขารู้ดีว่าคริสชอบลู่หาน และเขาก็ชอบลู่หาน มันไม่ผิดที่คริสจะเล่นกับลู่หานแบบนั้น เราจะแข่งกันอย่างยุติธรรม คริสใช้ความขี้เล่นนั่นเพื่อสนิทกับลู่หาน เขาก็มีวิธีของเขา แต่เหมือนวิธีของคริสจะทำให้เขาโมโหได้มากขึ้นทุกวัน การเห็นคนที่ตัวเองชอบเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับคนอื่นมันคงไม่ได้รู้สึกดีนักหรอก เขาโมโหตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยทั้งหวงหึงหรือห้าม เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น เพราะตอนนี้เขากับลู่หานเป็นแค่เพื่อน
เหตุการณ์ตอนเช้ายังคงอยู่ในความคิดเซฮุน ลู่หานที่นั่งวุ่นวายกับพวงกุญแจที่กระเป๋าตัวเอง เซฮุนชะลอรถพยายามเพ่งมองพวงกุญแจหวังจะเป็นของขวัญที่เขาให้ลู่หาน แต่เซฮุนอาจจะหวังมากเกินไป เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลู่หานชอบของขวัญที่ให้รึเปล่า เขาแค่คิดว่าตุ๊กตาแบมบี้มันเหมือนลู่หาน กวางตัวเล็ก แต่ตาโตเป็นประกายสดใสตลอดเวลาทำให้เขานึกถึงลู่หาน เขาจึงซื้ออย่างไม่ลังเล
70%
ติชมให้กำลังใจ เม้นท์ แท็ก #hhotw นะคะ
ความคิดเห็น