คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : I’m always here for you
**********เหตุการณ์นี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ผู้แต่งสมมุติขึ้นมาเท่านั้น**********
วันที่ 19 ม.ค. 2559 .....
ไทย เสมอ เกาหลีเหนือ 2-2
.
.
.
ผมพูดไม่ออก
อยากยอมรับความจริงว่าเราทำเต็มที่แล้ว ทุกคนในทีมพยายามเล่น
พยายามสู้จนถึงที่สุดแล้ว แต่ผมคิดว่าเราน่าจะไปได้ไกลกว่านี้
ฝีมือเราไม่ได้แย่ถึงขนาดมาแจกแต้มให้ทีมแถวหน้าของเอเชีย
แต่ตอนนี้เราสามารถพิสูจน์ให้เอเชียรู้แล้วว่าไทยไม่ใช่ทีมที่อ่อนสำหรับพวกเขาอีกต่อไป เรามีคะแนน 2 คะแนนเท่ากับอีก 2
ทีมในกลุ่มซึ่งอยู่หัวแถวของเอเชีย
แต่....
‘เราตกรอบ’
ก่อนมาผมก็ยอมรับอยู่ลึกๆในใจแล้วว่าไทยเราเป็นรองทุกทีม แต่เมื่อเห็นการเล่นของทีมที่ผ่านมา
ทำให้ผมมีความหวังว่าเราอาจเข้ารอบได้
แน่นอนเมื่อเริ่มหวังแล้วไม่เป็นอย่างที่เราหวังก็ย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ด้วยความที่ผมเป็นกัปตัน มีความหวังของคนไทย
ความหวังของเพื่อนร่วมทีมแบกไว้อยู่บนบ่า
เมื่อไปไม่ถึงฝั่งฝันย่อมเสียดายและเสียใจมากกว่าคนอื่น 2 เท่า
“เจ! มึงดูคลิปตลกอันนี้ดิ่ กูว่ามันฮาดีว่ะ”
นฤบดินทร์ซึ่งนั่งข้างๆชนาธิปหันมาพูดพร้อมยืนโทรศัพท์ในมือให้
“ไม่เอาอ่ะ” ชนาธิปมองโทรศัพท์แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่สนใจคนข้างกาย
สายตาของชนาธิปเหม่อลอยออกไปไกลซึ่งในสายตาของเขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับภาพตรงหน้า
แต่เขายังคงนึกถึงเกมวันนี้ เกมที่เค้าพาทีมไปไม่ถึงฝัน
ผมรู้.....ว่าคนตัวเล็กเสียใจที่พาทีมเข้ารอบไม่ได้
แต่ผมบอกมันแล้วตอนรอขึ้นรถบัสว่าไม่ใช่ความผิดของมัน
เราทุกคนสู้เต็มที่แล้ว
ถึงไม่ได้เข้ารอบแต่การเล่นของเราถือว่าทำได้ดีเพราะฉะนั้นอย่าเสียใจเลย คนตัวเล็กพยักหน้ารับรู้ แต่ถึงกระนั้นชนาธิปยังคงมีทีท่าเซื่องซึม
ไม่ยอมพูดจากับใครอยู่ดี
แม้กระทั่งขึ้นรถจนถึงตอนนี้คนตัวเล็กก็ยังไม่ยอมพูดกับใคร ชนาธิปที่ซนเหมือนลิง ป่วนคนนู้น คนนี้ไปทั่ว
ตอนนี้ชนาธิปคนนั้นได้หายไปเหลือแต่ชนาธิปผู้ที่เมื่อผิดหวังหรือเสียใจอะไรจะเอาความรู้สึกนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว
“เจ
ฟังเพลงหน่อยมั้ย
เพื่ออารมณ์จะดีขึ้น”
ผมยื่นหูฟังข้างนึงให้มัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ การส่ายหัวน้อยๆของคนตัวเล็กแล้วก็หันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม
ผมไม่รอช้า ในเมื่อมันไม่เอาไปฟังดีๆ
ผมเลยยัดหูฟังใส่หูคนตัวเล็ก
“เห้ย!!!”
แต่ลิงหงอยตัวนี้แม้จะซึมๆแต่ยังออกฤทธิ์ออกเดชได้
ชนาธิปหันมาจ้องตาผมเขม็งพร้อมกับดึงหูฟังออกแล้วกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม
หึ! คิดว่าผมจะยอมแพ้เหรอ ผมยัดหูฟังใส่คนตัวเล็กอีกรอบนึง คนตัวเล็กก็ปัดออกอีก ผมก็ยัดเข้าไปใหม่อีก คนตัวเล็กคงเหนื่อยที่จะต่อสู้กับผมแล้ว
พอผมใส่หูฟังให้คนตัวเล็กอีกรอบก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบดึงดันกลับมา ผมไม่รู้นะว่าคนตัวเล็กจะฟังในสิ่งที่ผมกำลังจะเปิดต่อไปนี้หรือเปล่า
ความทุกข์ในใจของชนาธิปอาจบดบังสิ่งต่างๆรอบตัวก็เป็นได้ แต่ยังไงก็คงต้องผ่านหูบ้างแหละ
.
.
.
.
.
.
.
.
ปฏิกิริยาของคนตัวเล็กยังคงนิ่งเหมือนเดิม
ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะใจอ่อนยอมพูดความในใจบ้างนะ เห็นคนตัวเล็กเป็นแบบนี้แล้ว ผมก็ไม่สบายใจ
ทุกข์ไปด้วย ผมรู้ว่าคนตัวเล็กเสียใจ แต่ผมก็อยากให้มันระบายออกมาบ้าง เก็บไว้เดี๋ยวก็อกแตกตาย แม้ผมจะเป็นเพื่อนสนิทมากของมัน แต่ถ้ามันทุกข์ใจ เสียใจอะไร
มันไม่อยากให้ผมทุกข์ตามมันไปด้วย
เอ๊! ไอ้นี่! เพื่อนกันก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันดิ่วะ ผมจะยอมให้มันเสียใจคนเดียวได้ไง แต่กว่าจะง้างปากไอ้คนตัวเล็กได้ แต่พยายามหน่อย แต่ตอนนี้ชนาธิปก็คงเอาแต่โทษตัวเอง
.
.
.
.
..
.
.
.
“มึงไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนะ มึงยังมีกูอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆ
กูพร้อมเป็นที่ระบายให้มึง มึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วกูจะไม่รู้สึกอะไรเหรอ ตรงกันข้าม
กูกลับทุกข์ใจมากกว่าอีกที่เห็นคนที่กูรักเป็นแบบนี้ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปดิ่ว๊ะ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับกู.....นะเจ”
ผมอยากจะพูดติดตลกบ้างแต่เห็นหน้าของคนตัวเล็กที่ถอดหูฟังออกแล้วที่ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมาทางสายตา ทำเอาผมเล่นไม่ออก มือของผมที่กำมือของคนตัวเล็กเอาไว้นั้น
ได้ถูกสัมผัสกลับจากคนตัวเล็กซึ่งบีบแน่นเหมือนจะยึดไว้เป็นที่พึ่ง
“ต้น กูแม่งเป็นกัปตันที่แย่ว่ะ พาทีมเข้ารอบไม่ได้ กูทำเต็มที่แล้ว แต่แม่งยังไม่ดีพอ กูทำให้คนไทยผิดหวัง กูแม่งเหี้ย
อีกนิดเดียวเราก็จะได้เข้ารอบแล้วแต่กูทำไม่ได้ กูทำไม่ได้!!”
เสียงสะอื้นของคนตัวเล็กไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ แม้คนตัวเล็กจะปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา แต่ชนาธิปยังคงไม่โวยวายหรือเสียงดัง
เพราะคนตัวเล็กคงกลัวเพื่อนๆในรถได้ยินแล้วจะเป็นห่วงเค้า
“ชีวิตมึงนี่กะจะโทษเป็นความผิดตัวเองท่าเดียวเลยหรือไง งั้น...ถ้ามึงผิด กูก็ผิด”
“มึงจะผิดได้ไง มึงเป็นคนยิงประตูให้เราตามตีเสมอเกาหลีเหนือได้นะเว้ย”
“งั้นมึงก็ไม่ผิดเหมือนกัน
เพราะมึงก็เป็นคนยิงประตูให้เราตามตีเสมอได้เหมือนกัน” ปกติผมจะยอมคนตัวเล็กนะ แต่คราวนี้ไม่ยอมง่ายๆหรอก ผมจะต้องทำให้ชนาธิปกลับมาเป็นไอ้ลิงของผมเหมือนเดิมให้ได้
“ในเรื่องเลวร้าย อย่างน้อยก็มีเรื่องดีอยู่บ้าง นัดนี้กูกับมึงเป็นคนยิงประตู เป็นแฟนกันช่วยกันยิงประตู เจ๋งสัส! ”
“เจ๋งเหี้ยไร! ใคร
ใครเป็นแฟนมึง”
ชนาธิปสะบัดมือผมออกแล้วหันหน้าหนี
แหม! นึกว่าผมไม่รู้หรือไงว่าคนตัวเล็กหันหน้าหนีเพราะแอบเขิน
“นี่!! จะเขินก็เขินต่อหน้าดิ่วะ หลบทำไม
คิดว่าหลบพ้นเหรอ
มึงไม่รู้เหรอว่ากระจกนั้นมันสะท้อนหน้ามึงอ่ะ” คนตัวเล็กตกใจพร้อมสะดุ้งสุดขีด
“กูเห็นหมดแหละเมื่อกี้มึงทำอะไร” ชนาธิปมองที่กระจก
สายตาของมันปะทะกับสายตาของผมที่แผงไปด้วยความขำขันอย่างจัง คนตัวเล็กรีบหลบสายตาผมทันที
“ไอ้ต้น! ไอ้ห่า! แล้วก็ไม่บอกกู” คนตัวเล็กสบถออกมาอย่างกึ่งหัวเสียกึ่งเขิน
“เอ้า! บอกให้โง่เหรอ
ถ้าบอก
กูก็ไม่เห็นหน้ามึงสิว่ามึงทำหน้ายังไงอยู่” ผมยิ้มให้กับคนตัวเล็กผ่านหน้าต่างสะท้อน
ซึ่งคนตัวเล็กมองตอบพร้อมกับรอยยิ้มอันเป็นเสน่ห์ของไอ้ลิง เราสองคนต่างสบตากัน
ผมบอกความรู้สึกของผมผ่านแววตาที่คนตัวเล็กมองอยู่
‘มึงยังมีกูอยู่ตรงนี้นะ’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ยิ้มของเธอคือเหตุที่ทำให้ใจสั่น ชอบมองมันกว่าสิ่งไหน
ฉันชอบมองจึงอยากจะคอยช่วยให้รอยยิ้มไม่หายไป’
‘ไอ้หมีทำอะไรของมันวะ!?’ ผมงงกับมัน
อยู่ดีๆก็เอาหูฟังมาใส่หูผม
ผมอุตส่าห์กระตุกออกไปแล้วยังดึงกลับเข้ามาอีก ไอ้ห่าหนิ่! ผมขี้เกียจจะดึงดันกับมันแล้ว อยากทำไรก็ทำไปๆ ผมเลยปล่อยให้มันใส่หูฟังให้ผม แล้วมันก็เปิดเพลง กูหงุดหงิดอยู่เว้ย! ไอ้ต้น!
‘เห็นแววตาเธอเปลี่ยนไม่เคยคุ้นเลย ให้ฉันเฉยเมยได้อย่างไร
ก็ฉันชอบเธอ จึงอยากจะคอยช่วย ให้ความเศร้าเธอหายไป’
ยัง! มึงทำอะไร อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะ ไอ้ต้น!
กูแค่มองหางตาก็รู้แล้วว่ามึงกำลังทำอะไร ชนาธิปบ่นในใจเมื่อรู้ว่านฤบดินทร์ชะโงกหน้าไปหาเค้าเพื่อดูว่าเค้ามีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเขาเปิดเพลง แต่ชนาธิปยังคงเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง
ร่างกายยังคงนิ่งไม่ไหวติงเช่นเคย
‘รู้ไหมเธอว่าทุกข์นั้นเบาเมื่อแบ่งให้ใครสักคน
ก็เหมือนที่เธอเคยช่วยให้ฉันยิ้มได้
ก็เหมือนกัน’
“ทีตอนกูมีเรื่องไม่สบายใจ มึงยังคอยปลอบกู บอกให้กูระบายให้มึงฟังได้ทุกเรื่อง แต่ทำไมพอถึงคราวมึงบ้าง มึงกลับเงียบ ไม่ระบายในสิ่งที่ทุกข์ใจมาบ้างวะ” นฤบดินทร์พูดขึ้นลอยๆ พอให้คนตัวเล็กได้ยิน
“ก็กูไม่อยากให้มึงทุกข์ไปกับกูไง แค่นี้ไม่รู้หรือไง ไอ้เหล่!!
” ผมพูดออกมาเบาๆพอตัวเองได้ยิน
“อะไรนะ!”
นฤบดินทร์โพล่งออกมาทันที เห้ย! ได้ยินด้วยเหรอว๊ะ ฉิบหายแน่กู
“เมื่อกี้มึงพูดอะไรนะ กูได้ยินไม่ถนัด” ฮู่ววววววววว
เข้าทางผมสิ
มันได้ยินไม่ชัดอย่างนี้
ใครจะบอก โห่ววววว บอกกูก็ตายดิ่!
ชนาธิปยังนิ่ง ไม่พูด
ไม่ตอบอีกเช่นเคย
ชนาธิปทำเหมือนว่าเค้าไม่ได้พูดอะไรไปก่อนหน้านี้
‘เหนื่อยมากไหม
ฉันรู้ว่าเธอยังเก่งและยังไหว
แต่ขอวันใดที่เธอร้องไห้ อย่าร้องไห้คนเดียว ไม่บอกฉัน’
“อย่ามัวแต่ปิดบังความรู้สึกอยู่เลย พรุ่งนี้กูต้องกลับแล้วนะ กูคงไม่ได้อยู่เที่ยวต่อกับมึง กูคงไม่ได้เห็นหน้าลิงๆของมึง
กูคงไม่ได้ดูแลมึงจนกว่าจะเก็บตัวทีมชาติครั้งต่อไปนะ กูถึงอยากใช้ช่วงเวลาที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันให้ได้มากที่สุด หนึ่งนาทีก็ยังดี
มึงอย่าทำให้เวลาที่เหลืออยู่สูญเปล่าไปโดยไม่ทำอะไรเลยนะ” ก็จริงของนฤบดินทร์ เราจะต้องแยกจากกันแล้ว ไอ้หมีก็ดันกลับเร็วกว่าด้วย แล้วผมจะปล่อยเวลาที่มีค่าที่สุดตอนนี้ไปเหรอ?
‘อยากให้รู้ ว่าฉันจะยืนและอยู่ ไม่ไปไหน
ไม่รู้จะช่วยอะไรเธอได้
ก็เผื่อไว้
เผื่อเธอต้องการ
ก็ขอให้จับมือฉัน
ขอให้ผ่านอะไรไปด้วยกัน
อย่าเสียใจคนเดียว’
ความโรแมนติกมาเต็มเลยไอ้หมี!
ก็มันเล่นร้องท่อนสุดท้ายให้ฟัง
แถมยังเอามือมากุมมือของผมเอาไว้ เวลาผมทุกข์หรือเศร้าผมมักจะสร้างกำแพงมากันคนอื่นออกจากโลกของผม มีมันคนเดียวนี่แหละที่สามารถจะพังและเข้ามาอยู่ในโลกของผมได้ แม้ผมจะสร้างไว้หนาและแข็งแรงแค่ไหน คนตัวโตก็พังมันลงได้ทุกครั้ง
ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะทำสำเร็จอีกครั้งแล้วล่ะ.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“กูรู้ว่ามึงอยู่ข้างกูเสมอ” ผมส่งสายตอบไปให้ไอ้หมีผ่านทางกระจก
.
.
.
.
.
.
.
.
ไอ้หมีตาเหล่! ทำไมกลายเป็นหมีตาหวานล่ะฮะ
ขอบคุณเพลง อย่าเสียใจคนเดียว : เบ็ตเทอร์
เว็ตเทอร์
Writer : ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ บอกเลยว่าเรื่องนี้แต่งนานมาก แต่งตั้งแต่มกราพึ่งเสร็จมีนา 555
ไม่ใช่ว่าคิดเรื่องไม่ออกนะคะ
แต่ติดอ่านหนังสือ
แว๊บๆมาแต่งบ้างเพราะไม่ได้แต่งฟิคมาเกือบครึ่งปี คิดถึงงงงง
แต่งไป หยุดไปเพราะต้องตัดใจไปอ่านหนังสือ
แต่ตอนนี้สอบเสร็จอะไรเรียบร้อยแล้ว
เลยมาแต่งต่อได้จนจบ อ่านแล้วอาจเกิดความงงงวยบ้างเพราะแต่งค้าง
กลับมาแต่งต่อ ค้างไว้อีก อารมณ์เลยอาจไม่ต่อเนื่องกัน ต้อขอโทษด้วยนะคะ อีกอย่างแข่ง U23 ก็จบไปนานแล้ว จะเก็บตัวชุดใหญ่อีกรอบแล้วอีนี่เพิ่งลง 5555 หยวนๆ กันเนอะ
ไม่ว่ากันนะคะ
ไม่ฟินยังไงขออภัยด้วย
อ่านแล้วเป็นยังไงบอกกันได้นะคะ
ติได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ J :D ...............................................................................Gray ^ ^
ความคิดเห็น