ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ton & Jay = Chanabadin

    ลำดับตอนที่ #3 : คู่ชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 58



    ******เหตุการณ์ในเรื่องเป็นแค่เหตุการณ์สมมุติที่ผู้แต่งจินตนาการขึ้นเท่านั้น******


    ขอขอบคุณเพลง  คู่ชีวิต   :   Cocktail 






    “อะไรของมึงเนี่ย”   ผมพูดขึ้นหลังจากเห็นคุณนฤบดินทร์เรียกผมที่พึ่งอาบน้ำเสร็จพร้อมกับ

    ตบที่เตียงเบาๆ   ห่า!!  ตบเป็นเสี่ยเรียกอีหนูเลยนะมึง


    “แหม!   ทำตัวเป็นเสี่ยเรียกอีหนูเลยนะ   จั๊กจี้ว่ะ”    ผมพูดอย่างที่คิด


    “มานั่งข้างๆกูเร็วๆ  กูคิดถึง”   นั่น!  ตบเตียงไม่หยุดด้วย  กูเขินนะเว้ย  ไอ้หมี


    “กูแค่ไปอาบน้ำไม่กี่นาทีเอง  เว่อร์นะมึงเนี่ย”   ผมพูดเสร็จก็เดินไปแต่งตัว 

    ใส่ชุดนอนพร้อมนอน  แต่พอหันไปบนเตียงกลับพบว่าคุณนฤบดินทร์นั่งอยู่  

    เออ  ผมก็เพิ่งสังเกต  ว่ามันมานั่งอยู่ที่เตียงของผม 


    “ต้น  มึงไปนอนที่เตียงมึงสิ  นี่เตียงกู”   นั่น  ยังไม่สนใจอีก  เล่นแต่โทรศัพท์


    “ไปนอนเตียงมึงนู่น”   ผมย้ำ


    “เตียงไหนมันก็เหมือนกัน”    คุณนฤบดินทร์หันพูดด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่แบบไม่ใส่ใจกับสิ่ง

    ที่ผมพูดไปเมื่อกี้เลย


    “ไอ้ห่า!!  เค้ามีเตียงไว้ให้สองเตียง  แล้วมึงจะมานอนเบียดกับกูเพื่อ?”


    “ไม่ชอบเหรอ  นอนเบียดๆกันจะได้อบอุ่น”   เจ็บสีข้างไหมคุณนฤบดินทร์


    “แถไปได้เรื่อยนะมึง  กูก็มีผ้าห่ม”   ผมก็ไม่ยอมลดราวาศอกเหมือนกัน 

    ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน   ทั้งๆที่ผมก็อยากนอนใกล้ๆมัน 

    แต่อย่างน้อยก็ขอแกล้งมันหน่อยเถอะ   หมั่นไส้   ไม่ได้แกล้งมานาน


    ผลคือ   มันโยนผ้าห่มที่เตียงผมไปไว้ที่เตียงมันเฉย  แล้วมันก็หันมามองหน้าผมแบบกวนโอ๊ย

    แล้วหันไปเล่นโทรศัพท์ต่อ  โห!  มึงเล่นอย่างนี้เลยเหรอครับคุณนฤบดินทร์


    “เท่านี้  มึงก็ไม่มีผ้าห่มแล้ว   แต่ไม่เป็นไรนะ  เดี๋ยวกูจะเป็นผ้าห่มให้มึงเอง”  

    คุณนฤบดินทร์พูดเสร็จก็หันไปเล่นโทรศัพท์ต่อ   ผมเผลอเอามือมาจับหน้าตัวเองเพื่อดูว่าหน้า

    ตัวเองร้อนหรือเปล่า  ร้อนจริงๆว่ะ


    “เอ้า!  มัวแต่ยืนอึ้งอะไรอยู่  มานี่ๆ”   ตบเตียงอีกแล้ว  กูชนาธิปนะครับ  ไม่ใช่อีหนูที่ไหน 

    เรียกกูซะเสียเลย  คราวนี้มันไม่หันไปเล่นโทรศัพท์เหมือนเคย 

    แต่กลับจ้องผมอย่างไม่ละสายตา  ผมทำตัวไม่ถูก  ขนาดอยู่กับมันมาตั้งหลายปี 

    ทำไมผมยังรู้สึกเขินทุกครั้งที่มันจ้องผม 

    การจ้องผมของคุณนฤบดินทร์เหมือนสะกดจิตให้ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงกับมัน 

    เพราะรู้สึกตัวอีกทีผมก็ในวงแขนมันเรียบร้อยแล้ว


    “ทำเป็นเล่นตัวนะมึง”   คุณนฤบดินทร์พูดพร้อมกับประทับรอยจูบลงบนหัวของผม


    ผมหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมาเพื่อจะเล่นไอจี  แต่แล้วก็นึกอะไรบางอย่างออก


    “ต้น  กูมีเพลงจะให้มึงฟัง”


    “เพลงอะไร”   นฤบดินทร์ถามเสียงเบา


    ผมเริ่มเปิดเพลง  เริ่มแรกของเพลงมี ดนตรีคลอเบาๆก่อน


    “เพลงนี้กูให้มึงนะ”   ผมหันไปบอกคนตัวโต


    เธอคือทุกสิ่ง ในความจริงในความฝัน
    คือทุกอย่างเหมือนใจต้องการ
    เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน

     

    ผมหันไปมองหน้ามันพร้อมรอยยิ้ม   เป็นรอยยิ้มเวลาที่ผมได้อยู่ใกล้กับคนตัวโต 

    นฤบดินทร์ยิ้มตอบให้อย่างอ่อนโยน  บทเพลงกำลังเล่นไปเรื่อยๆ


    เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ
    ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ
    ได้มีเธอ เคียงข้างกัน

     

    นฤบดินทร์ยิ้มไม่หุบ  ตอนนี้ผมมีความสุขมาก  เพียงได้อยู่ใกล้คนตัวเล็ก 

    เท่านี้แหละที่ผมต้องการ  ผมรอวันนี้มานาน  รอวันที่จะได้อยู่กับคนตัวเล็กอีกครั้ง  

    หลายคนอาจจะคิดว่า  เพิ่งจะผ่านมาแค่เดือนกว่าๆเอง  สำหรับการห่างกับคนตัวเล็ก 

    แต่เดือนกว่าๆสำหรับผม  มันช่างยาวนานกว่าการรอคอยอย่างอื่น 

    เวลาในการจะได้เจอกับคนตัวเล็กดูเคลื่อนช้ากว่าปกติ   และถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเอง 

    คนตัวเล็กก็คงจะเป็นเหมือนกับผมเช่นเดียวกัน   เพราะฉะนั้นการได้อยู่กับคนตัวเล็ก 

    ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ  ไม่ต้องพูดอะไรให้มากมาย  เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับนฤบดินทร์ 

    แต่คนตัวเล็กยังมาทำให้ผมหลงรักมากขึ้นไปอีก   รักแล้วนับวันก็จะยิ่งรักมากขึ้น

    เพราะคนตัวเล็กทำอะไรให้ผมตั้งมากมาย   คิดถึงผมอยู่เสมอ 

    แม้แต่ไปเจอเพื่อนโดยที่ผมไม่ได้ไปด้วย  แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่ลืมที่ถ่ายรูปลงไอจีโดยแท็กผม

    เสมือนผมไปกับคนตัวเล็กทุกที่  คนตัวเล็กไม่เคยไม่นึกถึงผมเลย  แล้วยังตอนนี้อีก 

    คนตัวเล็กก็มาทำอะไรน่ารักๆโดยการเปิดเพลง  เพลงที่คนตัวเล็กบอกว่ามอบให้ผม 

    ผมจึงตั้งใจฟัง  ทุกเนื้อร้องที่คนร้อง  ร้องออกมา  คือความหมายที่คนตัวเล็กมีให้ผมสินะ 

    ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างชนาธิปก็มีมุมโรแมนติกแบบนี้เหมือนกัน 

    อย่างนี้จะไม่ให้ผมรักชนาธิปคนนี้มากมายได้ยังไง


    คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
    คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ

     

    ชนาธิปร้องท่อนนี้  พร้อมๆกับเอานิ้วชี้ของตัวเองมาวางไว้ตรงหัวใจของผม  

    ผมชอบทำให้คนตัวเล็กเขินนะ  แต่คราวนี้  เหมือนกับเวรกรรมมีจริง 

    เพราะผมโดนเข้าให้แล้ว   ผมยิ้มตอบให้กับคนตัวเล็ก   เป็นยิ้มที่ผมเขินมากๆ


    เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
    ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
    นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
    ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว

     

    “ขอโทษ”   ผมงงในสิ่งที่คนตัวโตพูด   ผมกดหยุดเพลงทันทีเพื่อจะถามมันว่าเกิดอะไรขึ้น


    “มึงขอโทษกูเรื่องอะไรวะ  แอบไปทำอะไรผิดป่ะเนี่ย”   ผมถามปนหัวเราะ 

    แต่ผลคือไอ้หมีไม่เล่นด้วย  หน้าคนตัวโตดูขรึม  เกิดอะไรขึ้น  เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย


    “หรือมึงไม่ชอบเพลงที่กูเปิด  กูไม่เปิดแล้วก็ได้นะเว้ย”   ในเมื่อมันยังไม่ยอมบอก  

    ผมเลยคิดเองว่ามันอาจไม่ชอบเพลงที่ผมเปิดก็ได้  แต่คนตัวโตอาจไม่กล้าพูดตรงๆ 


    “เปล่า”  อ้าว?  แล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าด้วย   มึงเป็นอะไรเนี่ย


    “แล้วตกลงมึงขอโทษเรื่องอะไร”


    “ขอโทษที่กูทำอย่างประโยคสุดท้ายของท่อนฮุคไม่ได้”   ผมงง  ประโยคสุดท้าย?  อะไร?

    ท่อนฮุค?   อะไรของมันวะ!   แล้วผมก็ลองร้องตั้งแต่ท่อนฮุคลงมา


    'ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว


    ผมเข้าใจได้ทันทีว่าคนตัวโตหมายถึงอะไร  ผมมองหน้านฤบดินทร์ 

    หน้าของคนตัวโตดูรู้สึกผิด   ผมรู้สึกแย่ทันทีที่ทำให้มันต้องคิดมาก


    “เฮ้ย!  อะไร  กูบอกแล้วว่าเพลงนี้  กูให้มึง  เพราะฉะนั้นประโยคนั้น  กูก็เป็นคนให้มึง”  

    ผมพูดปลอบคนตัวโตทั้งๆที่เหมือนเป็นการเอาเข็มมาจิ้มหัวใจตัวเอง  

    แต่ผมพยายามที่จะไม่รู้สึก   ไม่นึกถึง 

    แม้ประโยคนั้นอยากจะให้มันออกมาจากผมและนฤบดินทร์   แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้แล้ว 

    เราก็ต้องยอมรับ   ผมยอมที่หัวใจของผมจะมีคนตัวโตแค่คนเดียว 

    แม้หัวใจของคนตัวโตจะไม่ได้มีผมอยู่คนเดียวก็ตาม


    “ไม่ต้องคิดอะไรนะมึง  ฟังเพลงต่อนะ”   คนตัวโตพยักหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ 


    เธอคือรักจริง ฉันยอมทิ้งทุกๆ อย่างเพียงเพื่อเธอ
    ดั่งฟ้าให้มาเจอ ให้เธอคู่กับฉัน
    ให้เราได้เดินเคียงข้างกันนับจากนี้

     

    “เสียงยังกับหมาออกลูก”   คนตัวเล็กหน้านิ่วทันทีที่ผมพูดจบ  แถมหยุดเพลงไว้ก่อนด้วย 

    “ไอ้ห่า!  กูอุตส่าห์ร้องให้เลยนะเนี่ย”   มันทำหน้างอน  โอ๊ย!  ไอ้เตี้ย 

    มึงทำหน้าแบบนี้ให้กูได้แค่คนเดียวนะ  ผมละกลัวจริงๆ  ถ้ามันไปทำหน้างอนแบบนี้ใส่ใคร 

    ไม่ใครก็ใครต้องตกหลุมไอ้ลิงนี่แน่  ขนาดทำหน้าตาน่ารัก  คนยังชอบมันไปตั้งเยอะ  

    เจอหน้างอนเข้าไปนี่  หนักกว่าอีก  คนอะไร  งอนแล้วน่ารักเป็นบ้าเลย


    “โอ๋ๆ  กูแซวเฉยๆ  ก็แกล้งใครไม่สนุกเท่าแกล้งมึงนี่นา”   ผมละชอบแกล้งคนตัวเล็กจริงๆ 

    ชอบเวลาเห็นลิงงอน  น่ารักชะมัดเลย


    “ฟังต่อนะ  ฟังหยุดๆแบบนี้เมื่อไหร่มันจะจบเพลง”   คนตัวเล็กบอกผม  ผมหัวเราะออกมาทันที   


    คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
    คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ

     

    คนตัวโตกระชับอ้อมกอดที่กอดผมอยู่ให้แน่นขึ้น 

    นี่คือสิ่งที่ผมรอคอยมาตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆที่จากกัน 

    มันทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าการรอคอยของผมนั่นมันคุ้มค่าจริงๆ 

    ผมยิ้มให้กับความสุขที่ผมกำลังได้รับจากคนตัวโต


    เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
    ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
    นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
    ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง

     

    ผมประทับรอยจูบลงบนแก้มของคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว 

    ผมรู้สึกว่ารอยจูบแค่บนหัวมันคงไม่พอกับความรักที่ผมมีให้คนตัวเล็ก 

    เพราะตอนนี้มันแทบจะทะลักออกมาอยู่แล้ว 

    “ไอ้ต้น!!!”  คนตัวเล็กหน้าเหวอที่ผมเล่นทีเผลอ   ผมยิ้มให้อย่างกวนตีน   ยิ้มอย่างผู้มีชัย

    พร้อมยักคิ้วให้สองที  ลิงเริ่มหน้าแดง  ผมขำในใจ   มันหลบหน้าผม  

    ถึงมันจะไม่ได้หันหน้ามามองผม   แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความเขินของคนตัวเล็ก  

    ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอกไอ้เตี้ย   ไปเรียนการแสดงมาใหม่นะชนาธิป


    เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่เฝ้ารอ
    ฉันจะขอภาวนา ต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
    นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
    ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว

     

    ผมหันหน้าไปหาคนตัวโตพร้อมกับร้องท่อนนี้   ผมไม่กลัวหรอกว่ามันจะแซวผมอีก 

    แต่สิ่งที่ผมร้องออกไป   ผมถือว่านั่นเป็นคำสัญญาที่ผมจะให้คนตัวโต 

    มันก็ดูเหมือนจะรู้นะ    เพราะแทนที่จะแซวผมเหมือนเคย    แต่มันกลับยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน


    จะทุกข์หรือยามที่เธอนั้นสุขใจ
    ยามป่วยไข้หรือสุขกายสบายดี
    ฉันอยู่ตรงนี้และจะมีเพียงเธอทุกวินาที
    จะอยู่ใกล้ไม่ห่างไกล จะเคียงชิดไม่ห่างไป ไม่ไปไหน

     

    ผมเอื้อมมือไปหยุดเพลง  คนตัวเล็กมองหน้าผมงงๆ 

    “ถึงตัวของกูจะไม่ได้อยู่ใกล้มึงตลอดเวลา  แต่หัวใจของกูอยู่ที่มึงตลอดเวลานะเจ”  

    ผมบอกคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง  ถึงผมกับคนตัวเล็กจะห่างกัน  ก็ห่างเพียงแค่ตัว 

    แต่หัวใจของผมอยู่กับมันตลอดเวลา  และให้แล้วให้เลย  ผมจะไม่มีวันที่จะขอคืน 

    ผมให้หัวใจใครไปแล้วไม่มีวันที่จะเรียกคืนโดยเฉพาะกับคนตัวเล็ก 

    หรือต่อให้คนตัวเล็กจะทำร้ายใจของผม  ผมก็จะไม่ขอคืนเพราะหัวใจของผมให้ชนาธิปไปแล้ว 

    เจ้าของหัวใจจะทำอะไรก็ได้  ซึ่งผมมั่นใจว่าชนาธิปจะไม่มีวันทำให้หัวใจของผมต้องเจ็บหรือ

    เสียใจ   ซึ่งต่างกับผม.....


    “หัวใจกูก็อยู่ที่มึงตลอดเวลาและตลอดไปนะต้น”   เสียงของชนาธิปดังขัดความคิดของผม 

    ไม่บอกผมก็รู้ว่าคนตัวเล็กได้ให้หัวใจตัวเองมาไว้ที่ผมแล้ว  

    ผมจะพยายามดูแลหัวใจดวงนี้ให้ดีที่สุด   แม้ที่ผ่านมาผมจะทำได้ไม่ดีพอ  

    ผมต้องทำให้หัวใจดวงนี้ต้องเจ็บช้ำและบอบช้ำมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ 

    แต่คนตัวเล็กก็ไม่เคยคิดที่จะเรียกร้องมันคืน  

    ต่อไปผมจะพยายามดูแลหัวใจดวงนี้ให้ดีกว่าเดิม   ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลงต่อ


    เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
    ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
    นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
    ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง

     

    “เจ”  ชนาธิปหันไปตามเสียงเรียกของนฤบดินทร์   แต่สิ่งที่ชนาธิปได้รับไม่ใช่คำพูด 

    แต่คือ  การประทับรอยจูบของนฤบดินทร์ลงบนปากของชนาธิป 

    รอยจูบที่แทนความรู้สึกทั้งหมดของนฤบดินทร์ที่มีให้ชนาธิป 

    ที่เขาอยากจะขอบคุณชนาธิปที่อยู่ข้างเขาตลอดมา  ทำอะไรให้เขาในหลายๆอย่าง 

    จนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้   แม้จะเป็นความรู้สึกที่แผ่วเบา   แต่นุ่มนวล  ละมุนละไม

    ความอบอุ่น  ความรัก  ที่ส่งผ่านมาทางริมฝีปากนั้นช่างเต็มเปี่ยม 

    ท่วมท้นตามความรู้สึกของนฤบดินทร์ 

    ชนาธิปไม่ขัดขืน  ปล่อยให้ความรู้สึกนำทาง..........


    เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอ เพียงเธอที่รอ
    ฉันขอภาวนาต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
    นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
    เกิดชาติไหนฉันมีเธอ มีเธอเพียง คนเดียว

     

    ………………………………………………………………………………………….

     




    Writter   :   ขอบคุณเพลง  คู่ชีวิต   :   Cocktail    อีกครั้งหนึ่ง 

    Writter  ชอบเพลงนี้มาก  เปิดฟังทั้งวันก็ไม่เบื่อ  5555  เนื้อเพลงก็มีความหมายดี  

    เลยอยากลองเอามาใช้ประกอบในการแต่งฟิคดู  แน่นอน  ว่าจะแต่งคู่ไหนไปไม่ได้ 

    ต้องเป็น 
    #ต้นเจ  อยู่แล้ว   55555   แต่เนื้อเรื่องก็เรียบๆ ไม่หวือหวาอะไร ก็ไม่ว่ากันเนอะ 

    การเล่าเรื่องอาจจะ งงๆ นะคะ  Writter   อยากลองแต่งฟิคดราม่าดูซักครั้ง 

    แต่รู้สึกว่าแต่งยากมากกกกกกกกกก  ลองแต่งไปได้หน่อยนึง 

    แล้วก็ดองไว้แล้วมาแต่งตอนนี้ก่อน   55555  ไม่รู้จะแต่งได้ไหม 

    รู้สึกไม่ถนัดแนวดราม่าละมั้ง  ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ 

    อ่านแล้วเป็นยังไงก็บอกกันได้นะคะ  

    ขอบคุณค่ะ  :)
      :D  ………………………………………….Gray ^  ^

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×