ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานเเห่งวีรบุรุษ
"ไมนอส วีรบุษผู้สังหารมังกรดำอันเเสนชั่วร้ายลงไปได้ ถึงจะน่ายกย่องเพียงใด่ เเต่กลับโดนประหารข้อหาที่ว่า
ทำร้ายสัตว์ศักสิทธฺ์ถึงเเก่ความตายของลัทธิมังกร ก่อนโดนประหารนั้นเขาได้พูดขึ้นว่า
สิ่งที่เเข็งเเกร่งที่สุดจะอยู่คู่กับสิ่งที่อ่อนแอที่สุด
สิ่งที่สวยงามที่สุดจะอยู่ในสิ่งที่อัปลักษณ์ที่สุด
เหล่าราชาผู้ร่ำไห้กำลังกลับมา.. เหล่าผู้กล้าของข้า จงปกป้องบ้านเมืองเเห่งนี้ให้ถึงที่สุด
จากคำพูดเหล่านี้ หลายคนจึงคิดว่าเขาบ้าเพราะจะถูกประหารไป เพราะเขาสังหารมังกรดำไปเเล้ว เรื่องร้ายๆจะกลับมาอีกได้อย่างไร
และคำพูดว่าเขาบ้านั้นก็หายไปสิ้น เนื่องจากไม่นานมานี้ มีฝูงก็อบลินขนาดใหญ่ บุกเข้าโจมตีเมืองหน้าด่านของ ราชอาณาจักรเฮฟากัส
เรื่องนี้ทำให้ประชาชนนตื่นกลัวมาก ทางกษัตริย จึงรับสั่งให้มีการเพิ่มจำนวนทหารของทุกๆเมืองขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้บ้านเมืองของเรา
สงบสุขมาจนถึงวันนี้"
สิ้นเสียงของนักเล่านิทานเด็กเล็กเเละเด็กหนุ่มทั้งหลาย นั่งอึ้งอยู่นานแสนนาน เเล้วยิงคำถามมามากมายนับไม่ถ้วน
เว้นเพียงเด็กคนเดียว....เด็กที่มีดวงตาเเละผมสีฟ้าราวท้องสมุทร...เด็กคนนี้ชื่อว่ามาร์คัส อายุราวสิบสี่ปี เป็นเด๋กที่เข้าร่วม
'กิลด์นักพจญภัย'ที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งกำลังทำหน้าแบบพึ่งตื่นอยู่
"หืม มีอะไรรึ มาร์คัส" นักเล่านิทานถามแบบตื่นๆ กลัวเรื่องที่ตนเล่าจะไม่สนุกแต่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเด็กคนอื่นทำท่าตื่นเต้นเต็มที่
จริงๆเเล้วสมองของเด็กคนนี้กำลังประมวลผลสุดขีด เรื่องความจริงเเละเรื่องตำนาน
"มีส่วนไหนเป็นความจริงบ้างครับ"
"อ้อ อืม..เรื่องที่มีของสองอย่างน่ะข้าไม่รู้หรอกนะ แต่เรื่องไมนอสนั้นมีอยู่จริง แต่ว่าเขาตายตามธรรมชาติ ไม่ได้โนประหารอย่างเรื่อง
ที่ข้าดัดแปลงมาหรอก"
ได้ยินเเค่นั้นเเววตาของมาร์คัสพลันสว่างขึ้นทันที เเต่เพียงวูบหนึ่งเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตุเห็น
"งั้นข้าขอตัวล่ะ"
มาร์คัสลุกขึ้่นเเละเดินจากไป ไม่มีเเม้เเต่คำขอบคุณ เด็กที่เหลือนั้นคิดว่า เขาเบื่อเเล้วเดินกลับไป
เเต่ความริงไม่ใช่เลย มาร์คัสสนใจเรื่องนี้มาก เขาสงสัยว่าของที่มีลักษณะตรงกันข้ามกันนั้น จะมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
เขารีบมาก รีบจนไปชนใครบางคนเข้า เเค่เพียงดูจากเสื้อที่เป็นชุดคลุมเเละหมวกที่เป็นผ้าไหมสีขาวนั้น ดูรู้ได้เลยว่าเป็นนักพยากรณ์
"สวัสดีเจ้าหนู ข้าชื่อ เปโร"ชายชราเอ่ย
"......"
มาร์คัสเงียบไปอาจเป็นเพราะเเม่สอนว่าไม่ให้ยุ่งกับคนแปลกหน้า จึงไม่คิดทักทายกลับ เเต่คำพูดที่มาต่อจากนี้ทำให้เด็กชายถึงกับ
งงงวยทันที
"เจ้ากำลังสงสัย" เปโรจ้องลงมายังดวงตาสีฟ้าของเขา
"สงสัยในเรื่องที่ไม่ควรที่จะสงสัย"
คำมทิ้งท้ายนี้ ทำให้เด็กชายติดสงสัยมาก เขาเป็นใคร มาจากที่ไหน เมื่อเด็กชายจะถามนั้นเขาก็หายไปเสียเเล้ว
เด็กชายเดินกลับบ้านไปพลางมองไปที่กำเเพงเมือง เขาเห็นนกกาตาสีเเดงเลือด เกาะอยู่บนสุดของกำเเพง
"อิคาลัส"เด็กชายว่าพลางหยิบก้อนหินมาปาใส่กาตัวนั้น "มีอะไรก็รีบว่ามาสิ"
กาตัวนั้นบินหลบก้อนหินอย่างง่ายดายเเล้วร้อง เเกว๊กๆ บินมาอยู่หน้ามาร์คัสเเล้วกลายเป็นคนทันที
"เจ้าน่าจะต้อนรับหน่วยข่าวสารของกิลด์ให้ดีมากกว่านี้นะ"อิคาลัสบ่นอย่างหัวเสีย
"มีอะไรก็ว่ามาสิ"มาร์คัสยังคงพูดคำเดิม "ถ้าจะมาหาเฉยๆงั้นข้ากลับล่ะ"
"เกี่ยวกับไมนอส เเละถ้ำของเขาน่ะ เรื่องที่เจ้าสงสัยไม่ใช่รึไง"
อีกาดำทำท่าเอียงคอเล็กน้อย ซึงการเปลี่ยนแปลงของมาร์คัสนั้น ถูกใจเขาอย่างมาก
"งั้นไปที่บ้านของข้าก่อนละกัน"
เยี่ยม!
ภายในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งไม่ได้ต่างจากคำว่าคฤหาสน์อะไรนัก มีคนสองคนนั่งอยู่ในห้องที่มีเตาผิงเเละของหรูหรามากมาย
"เจ้ารู้ได้ไงว่าข้ากำลังสงสัยเรื่่องอะไรอยู่"แววตาของมาร์คัสเป็นประกายล้ำลึก ยิ่งสะท้อนกับเเสงไฟก็ยิ่งงดงาม
"ข้าก็นั่งสังเกตุเจ้าทั้งวันน่ะเเหละ"อีคาลัสเกาหัวเเกรกๆ เมื่อเห็นสายตตากินเลือดกินเนื้อของมาร์คัสจึงพูดต่อ
"หน่วยแทรกเเซงทางวังหลวงของเราได้ข่าวมาว่า พบถ้ำที่คาดว่าน่าจะเป็นของไมนอส เเต่ไม่สามารถเปิดได้ เพราะประตูถูกลง
อาคมไว้ซะเเน่นหนา ทางกษัตริยก็ไม่ยอมเเพ้ พระองค์สั่งระดมนักเวทย์ชั้นสูงมาเเต่ก็ไม่มีใครสามารถเปิดมันได้"
"อืม.."เสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเเค่เสียงของมาร์คัส ที่กำลังใช้ความคิด
"จริงสิ เเม่เจ้าล่ะ ไม่เเน่นางอาจช่วยได้"อีคาลัสดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนที่จะมองมาทางมาร์คัสอย่างคาดหวัง
"เเม่ข้าไปเข้าประชุมที่สภาเวทย์ ไม่น่าจะกลับบ้านเร็วๆเเน่"มาร์คัสอบทลายความหวังของอีคาลัสจนหมดสิ้น
"ว่าเเต่ไมนอสเป็นนักเวทย์เหรอ"ยิ่งฟังมาร์คัสก็ยิ่งสงสัย
"ไมนอสนั้นเป็นเเค่นักพจญภัยธรรมดา เเต่มีพรรคพวกมากมาย หนึ่งในนั้คงมีนักเวทย์หรือไม่ก็คนเผ่าอื่นๆ"
"วันนี้ขอบใจเจ้ามาก พรุ่งนี้เตรียมกน่วยสอดเเนมให้ข้าด้วย ข้าจะไปในราชวัง"
"ไปทำไมกัน"
"เรื่องของข้าน่า"
มาร์คัสไม่สามารถอยู่เฉนๆได้อีกเเล้ว เขาต้องการคำตอบ คำตอบจากตำนานที่เขาสงสัย
"ฮะ..เฮ้เดี๋ยวก่อนสิ"อิคาลัสยังไม่เข้าใจ จึงจะห้ามเด็กหนุ่มไว้ เเต่คงไม่สำเร็จ
"ได้ งั้นพรุ่งนี้สิบโมงเช้าเจอกัก็เเล้วกัน"พอพูดจบเขาก็กลายเป็นนกกาบินออกไป
ทำร้ายสัตว์ศักสิทธฺ์ถึงเเก่ความตายของลัทธิมังกร ก่อนโดนประหารนั้นเขาได้พูดขึ้นว่า
สิ่งที่เเข็งเเกร่งที่สุดจะอยู่คู่กับสิ่งที่อ่อนแอที่สุด
สิ่งที่สวยงามที่สุดจะอยู่ในสิ่งที่อัปลักษณ์ที่สุด
เหล่าราชาผู้ร่ำไห้กำลังกลับมา.. เหล่าผู้กล้าของข้า จงปกป้องบ้านเมืองเเห่งนี้ให้ถึงที่สุด
จากคำพูดเหล่านี้ หลายคนจึงคิดว่าเขาบ้าเพราะจะถูกประหารไป เพราะเขาสังหารมังกรดำไปเเล้ว เรื่องร้ายๆจะกลับมาอีกได้อย่างไร
และคำพูดว่าเขาบ้านั้นก็หายไปสิ้น เนื่องจากไม่นานมานี้ มีฝูงก็อบลินขนาดใหญ่ บุกเข้าโจมตีเมืองหน้าด่านของ ราชอาณาจักรเฮฟากัส
เรื่องนี้ทำให้ประชาชนนตื่นกลัวมาก ทางกษัตริย จึงรับสั่งให้มีการเพิ่มจำนวนทหารของทุกๆเมืองขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้บ้านเมืองของเรา
สงบสุขมาจนถึงวันนี้"
สิ้นเสียงของนักเล่านิทานเด็กเล็กเเละเด็กหนุ่มทั้งหลาย นั่งอึ้งอยู่นานแสนนาน เเล้วยิงคำถามมามากมายนับไม่ถ้วน
เว้นเพียงเด็กคนเดียว....เด็กที่มีดวงตาเเละผมสีฟ้าราวท้องสมุทร...เด็กคนนี้ชื่อว่ามาร์คัส อายุราวสิบสี่ปี เป็นเด๋กที่เข้าร่วม
'กิลด์นักพจญภัย'ที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งกำลังทำหน้าแบบพึ่งตื่นอยู่
"หืม มีอะไรรึ มาร์คัส" นักเล่านิทานถามแบบตื่นๆ กลัวเรื่องที่ตนเล่าจะไม่สนุกแต่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเด็กคนอื่นทำท่าตื่นเต้นเต็มที่
จริงๆเเล้วสมองของเด็กคนนี้กำลังประมวลผลสุดขีด เรื่องความจริงเเละเรื่องตำนาน
"มีส่วนไหนเป็นความจริงบ้างครับ"
"อ้อ อืม..เรื่องที่มีของสองอย่างน่ะข้าไม่รู้หรอกนะ แต่เรื่องไมนอสนั้นมีอยู่จริง แต่ว่าเขาตายตามธรรมชาติ ไม่ได้โนประหารอย่างเรื่อง
ที่ข้าดัดแปลงมาหรอก"
ได้ยินเเค่นั้นเเววตาของมาร์คัสพลันสว่างขึ้นทันที เเต่เพียงวูบหนึ่งเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตุเห็น
"งั้นข้าขอตัวล่ะ"
มาร์คัสลุกขึ้่นเเละเดินจากไป ไม่มีเเม้เเต่คำขอบคุณ เด็กที่เหลือนั้นคิดว่า เขาเบื่อเเล้วเดินกลับไป
เเต่ความริงไม่ใช่เลย มาร์คัสสนใจเรื่องนี้มาก เขาสงสัยว่าของที่มีลักษณะตรงกันข้ามกันนั้น จะมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
เขารีบมาก รีบจนไปชนใครบางคนเข้า เเค่เพียงดูจากเสื้อที่เป็นชุดคลุมเเละหมวกที่เป็นผ้าไหมสีขาวนั้น ดูรู้ได้เลยว่าเป็นนักพยากรณ์
"สวัสดีเจ้าหนู ข้าชื่อ เปโร"ชายชราเอ่ย
"......"
มาร์คัสเงียบไปอาจเป็นเพราะเเม่สอนว่าไม่ให้ยุ่งกับคนแปลกหน้า จึงไม่คิดทักทายกลับ เเต่คำพูดที่มาต่อจากนี้ทำให้เด็กชายถึงกับ
งงงวยทันที
"เจ้ากำลังสงสัย" เปโรจ้องลงมายังดวงตาสีฟ้าของเขา
"สงสัยในเรื่องที่ไม่ควรที่จะสงสัย"
คำมทิ้งท้ายนี้ ทำให้เด็กชายติดสงสัยมาก เขาเป็นใคร มาจากที่ไหน เมื่อเด็กชายจะถามนั้นเขาก็หายไปเสียเเล้ว
เด็กชายเดินกลับบ้านไปพลางมองไปที่กำเเพงเมือง เขาเห็นนกกาตาสีเเดงเลือด เกาะอยู่บนสุดของกำเเพง
"อิคาลัส"เด็กชายว่าพลางหยิบก้อนหินมาปาใส่กาตัวนั้น "มีอะไรก็รีบว่ามาสิ"
กาตัวนั้นบินหลบก้อนหินอย่างง่ายดายเเล้วร้อง เเกว๊กๆ บินมาอยู่หน้ามาร์คัสเเล้วกลายเป็นคนทันที
"เจ้าน่าจะต้อนรับหน่วยข่าวสารของกิลด์ให้ดีมากกว่านี้นะ"อิคาลัสบ่นอย่างหัวเสีย
"มีอะไรก็ว่ามาสิ"มาร์คัสยังคงพูดคำเดิม "ถ้าจะมาหาเฉยๆงั้นข้ากลับล่ะ"
"เกี่ยวกับไมนอส เเละถ้ำของเขาน่ะ เรื่องที่เจ้าสงสัยไม่ใช่รึไง"
อีกาดำทำท่าเอียงคอเล็กน้อย ซึงการเปลี่ยนแปลงของมาร์คัสนั้น ถูกใจเขาอย่างมาก
"งั้นไปที่บ้านของข้าก่อนละกัน"
เยี่ยม!
ภายในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งไม่ได้ต่างจากคำว่าคฤหาสน์อะไรนัก มีคนสองคนนั่งอยู่ในห้องที่มีเตาผิงเเละของหรูหรามากมาย
"เจ้ารู้ได้ไงว่าข้ากำลังสงสัยเรื่่องอะไรอยู่"แววตาของมาร์คัสเป็นประกายล้ำลึก ยิ่งสะท้อนกับเเสงไฟก็ยิ่งงดงาม
"ข้าก็นั่งสังเกตุเจ้าทั้งวันน่ะเเหละ"อีคาลัสเกาหัวเเกรกๆ เมื่อเห็นสายตตากินเลือดกินเนื้อของมาร์คัสจึงพูดต่อ
"หน่วยแทรกเเซงทางวังหลวงของเราได้ข่าวมาว่า พบถ้ำที่คาดว่าน่าจะเป็นของไมนอส เเต่ไม่สามารถเปิดได้ เพราะประตูถูกลง
อาคมไว้ซะเเน่นหนา ทางกษัตริยก็ไม่ยอมเเพ้ พระองค์สั่งระดมนักเวทย์ชั้นสูงมาเเต่ก็ไม่มีใครสามารถเปิดมันได้"
"อืม.."เสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเเค่เสียงของมาร์คัส ที่กำลังใช้ความคิด
"จริงสิ เเม่เจ้าล่ะ ไม่เเน่นางอาจช่วยได้"อีคาลัสดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนที่จะมองมาทางมาร์คัสอย่างคาดหวัง
"เเม่ข้าไปเข้าประชุมที่สภาเวทย์ ไม่น่าจะกลับบ้านเร็วๆเเน่"มาร์คัสอบทลายความหวังของอีคาลัสจนหมดสิ้น
"ว่าเเต่ไมนอสเป็นนักเวทย์เหรอ"ยิ่งฟังมาร์คัสก็ยิ่งสงสัย
"ไมนอสนั้นเป็นเเค่นักพจญภัยธรรมดา เเต่มีพรรคพวกมากมาย หนึ่งในนั้คงมีนักเวทย์หรือไม่ก็คนเผ่าอื่นๆ"
"วันนี้ขอบใจเจ้ามาก พรุ่งนี้เตรียมกน่วยสอดเเนมให้ข้าด้วย ข้าจะไปในราชวัง"
"ไปทำไมกัน"
"เรื่องของข้าน่า"
มาร์คัสไม่สามารถอยู่เฉนๆได้อีกเเล้ว เขาต้องการคำตอบ คำตอบจากตำนานที่เขาสงสัย
"ฮะ..เฮ้เดี๋ยวก่อนสิ"อิคาลัสยังไม่เข้าใจ จึงจะห้ามเด็กหนุ่มไว้ เเต่คงไม่สำเร็จ
"ได้ งั้นพรุ่งนี้สิบโมงเช้าเจอกัก็เเล้วกัน"พอพูดจบเขาก็กลายเป็นนกกาบินออกไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น