ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXT // ชั้นรักนายไม่ใช่เธอ 4 years later

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : EXT

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 52


    อาร์ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดอะไรตายอยากค่อยๆถอนหายใจแล้วหยิบ NDS ขึ้นมาเล่นแบบไม่ค่อยใส่ใจ วันนี้เป็นวันเสาร์ดังนั้นโรงเรียนหยุดไม่ต้องรีบร้อนลุก

    ไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่ต้องรีบลงไปกินข้าว แต่จู่ๆเสียงที่เข้ามาขัดความสุขของเขาก็เข้ามายังโสดประสาทของหู

    อาร์ ตื่นรึยัง!!!เสียงแม่ตะโกนขึ้นมาดังลั่นบ้าน

    อือ......ฮึอาร์ตอบแบบไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่แต่ก็จำใจตอบๆไป สงสัยในใจว่าจะต้องโดนเรียกลงไปกินข้าว ไม่ก็โดนใช้งานบางอย่างอย่างแน่นอน

    แปปนึงนะคะผมแอบได้ยินแม่พูดกับใครก็ไม่รู้เบาๆเหมือนพูดกับตัวเองงั้นแหละ ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่แล้วเสียงฝีเท้าแม่ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    นี่โทรศัพท์...แม่ของอาร์ยื่นโทรศัพท์บ้านสีดำยี่ห้อ Panasonic ให้อาร์อย่ารวดเร็วประมาณว่าแกจะรับไหมอย่างงั้นแหละ

    “ก็โทรศัพท์ใช่ฮะ แล้วแม่คิดว่ามันเป็นอะไร??” อาร์ย้อนถามแม่ด้วยน้ำเสียงกวนสุดๆ

    “”เอ้ารับสิ เขาโทรมาแพงนะ รับๆไปเร็วๆ” แม่ของอาร์รีบส่งโทรศัพท์ให้แล้วยัดใส่มือผม พอผมถือไว้แล้วแม่ก็เดินออกจากห้องปิดประตูปังลงไปทำอาหารเช้าต่อทันที

    อาร์โหมด...

    ผมละสงสัยจริงๆว่าใครกันมันโทรมาหาผมในเช้าวันที่น่านอนแบบนี้ตอนที่ผมไม่มีอารมณ์อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรที่ค้างคาอยู่ซะด้วยซิ ใครกันนะ ถ้ามันไม่สำคัญล่ะก็ตายแน่แก

    “ฮัลโหล...มีอะไรก็ว่ามานะฉันมีเวลาไม่นานต้องรีบไปซ้อมแฮนด์บอล” ผมรีบสวดใส่คนที่ถือโทรศัพท์อยู่ปลายทาง ตอนแรกก็นึกว่าต้องอึ้งไปแน่ๆต้องไม่กล้าพูดกับผมแน่ๆเลย

    “อ้าว?กี่ปีมาแล้วเนี่ย นายยังเล่นแฮนด์บอลอยู่อีกหรอ?”

    เสียงของคนปลายสายทำให้ผมตกใจจนพูดอะไรไม่ออกอึ้งไปเลย

    “ไม่เห็นคุณน้าบอกว่านายมีธุระ งั้นไว้โทรไปใหม่ก็แล้วกันนะ” เมื่อคนปลายสายสิ้นประโยคผมก็รีบพูดด้วยความดีใจ ยินดีอย่างรุนแรงที่มีอยู่ตอนนี้

    “ป่าวๆเอิ่ม...ว่างๆฉันแค่คิดว่าไม่ใช่นายเท่านั้นเอง”

    “แล้วคิดว่าเป็นใครล่ะ” คนปลายสายผมยังคงถามผมอย่างไร้เดียงสา

    “ไม่มีอะไรหรอก?พอดีเพิ่งตื่นน่ะ ก็นอนคิดถึงนายอยู่ไง” ผมหยอดคำหวานเข้าใส่เขา ผมไม่ได้ยินเสียงเขามา 4 ปีแล้ว เห็นได้แต่ลายมือ พอได้ยินเสียงนุ่มสุภาพและเป็นตัวของตัวเองของเขานั้นผมก็แทบจะร้องไห้ออกมาทั้งๆที่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น

    “อืมๆ ก็ฉันแค่จะบอกว่าพรุ่งนี้จะบินกลับไทยแล้วนะ แล้วก็กะว่าเย็นๆจะแวะไปบ้านนาย ถ้านายไม่รังเกียจ มีซ้อมแฮนด์บอลรึเปล่าล่ะ” ทีมพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับผู้หญิงมากขึ้นในความรู้สึกของผม ผมรู้สึกว่าของที่ผมรักและหวงแหนมานานกำลังจะกลับมาสู่อ้อมอกของผมจริงๆซะที

    “ไม่มีหรอก มาเลยๆนายจำทางได้นะ” ผมถามเขาบ้าง ถ้าผมพูดความจริงว่ามีซ้อมทุกวันอยู่แล้วเพราะตอนนี้ผมได้เป็นรองกัปตันทีมของโรงเรียน แต่โดดสักครั้งก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง?? อีกอย่างก็ใกล้งานกีฬาเข้ามาแล้วยิ่งต้องซ้อมเยอะ แต่ถ้าโดดแล้วผมจะได้เจอของที่ผมรักที่สุดแล้วล่ะก็ การวิ่งรอบสนาม 20 รอบก็ไม่ครนาแรงผมหรอก

    “อืมๆงั้นเอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันแวะไปหานายพรุ่งนี้นะ ทำอาหารเลี้ยงด้วยนะ^^” ทีมพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนเล็กๆทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

    “ได้ๆสิ เพื่อทีมฉันทำได้อยู่แล้ว” ผมหยอดคำหวานๆประโยครักที่ใครๆก็พูกันแต่สำหรับผมผมคิดว่าทีมก็คงรู้สึกดีกับประโยคเชยๆแบบนี้ แต่คนที่พูดคือคนที่เขารัก นั่นแหละคือประเด็น

    “งั้น...ฉันวางก่อนนะ” ประโยคนี้ทำเอาใจผมแทบหยุดเต้น โทรมาแค่นี้หรอ? ผมอยากจะได้ยินเสียงเขาอีกนาน ผมอยากจะได้ฟังเรื่องราวของเขาเร็วๆ และอยากจะนั่งกุมมือของเขาไว้จนกว่าผมจะพอใจ

    “อ๊ะ....เดี๋ยวสิ” ผมรีบขัดก่อนที่เขาจะวางหูไป “นายยัง...จำจูบของฉันได้อยู่รึเปล่า???” ผมถามเขา แต่ตัวผมก็ดันอายซะเอง

    “จำได้สิ!ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ...ไปก่อนนะต้องไปนอนแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ทัน Goodnight นะอาร์” ผมนั่งยิ้มจนจบประโยคที่เขาพูดก็เพิ่งตั้งสติได้แต่ว่าเขาก็ตัดสายไปเสียแล้ว

    ตู้ด....ตู้ด....ตู้ด....

    โทรศัพท์ถูกตัดไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือแต่ความทรงจำที่กำลังพรั่งพรูออกมาตอนนี้ ความทรงจำที่เต็มได้ด้วยความอบอุ่นความเจ็บปวดและเสียงหัวเราะของเรา 2 คน

    จริงๆแล้วตอนนี้เป็นตอนเช้าสุดๆของที่นี่ผมอยากจะพูดกับเขาว่าอรุณสวัสดิ์นะที่รัก มากกว่านะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×