~เพียงแค่ลองเปิดจัย~ - ~เพียงแค่ลองเปิดจัย~ นิยาย ~เพียงแค่ลองเปิดจัย~ : Dek-D.com - Writer

    ~เพียงแค่ลองเปิดจัย~

    ~อ่านจบแล้วเมื่อไหร่อะนะ..หัดเป็นคนเปิดจัยซะบ้าง~

    ผู้เข้าชมรวม

    109

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    109

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ธ.ค. 49 / 18:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       "ตาลๆมานี่สิมาดูรูปแฟนใหม่พี่สิ น่ารักไหม"เติ้ลพี่สาวคนเดียวของตาลนักเรียนม.4ที่หน้าตาน่ารักมากในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึงกำลังฟังพี่สาวของเธอพูดโอ้อวดแฟนใหม่พร้อมกับหยิบรูปถ่ายสติ้กเกอร์ที่ไปถ่ายกันในห้างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก และยื่นไปให้ตาลดู
      "ไหนๆไม่เห็นหล่อเลย ไม่เห็นอยากมีเลย ไอ-->-->ฟงแฟนเนี่ย มีไปทำไมกัน ถึงหล่อก็ไม่สนใจหรอกนะย่ะ"ตาลพูดพร้อมกับทำสีหน้าไม่ค่อยใจพอสักเท่าไรนัก ที่พี่สาวคนเดียวของเธอ ชอบเอารูปแฟนมาให้ดูอยู่เสมอ แถมยังเปลี่ยนแฟนบ่อยๆไม่ซ้ำหน้าอีกต่างหาก ตาลคิดว่าเรื่องพวกนี้มันยิ่งได้รับรู้มากเท่าไรก็ยิ่งน่าเบื่อมากเท่านั้น ไม่เห็นจะต้องมีเลย อยู่คนเดียวก็มีความสุข การได้ใช้ชีวิตคนเดียวคือสิ่งประเสริฐสุดสำหรับเธอ ตาลไม่เคยมีแฟนเลย และไม่เคยคิดที่จะมี เพราะเหตุผลอย่างที่ได้บอกไปนั้น
                  "นี่ๆพวกเธอเป็นอะไรกันหรอ ทำไมถึงได้เงียบกันขนาดนี้หล่ะ "ตาลพูดกับเพื่อนๆในห้องพร้อมกับทำหน้างง เมื่อเห็นเพื่อนๆในห้องของเธอเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่เลย
                                      
      ป๊าบ!!!
                  "โอ๊ย..เจ็บนะ"ตาลร้องอุทานออกมา หลังจากที่มีวัตถุอะไรบางอย่างมากระแทกหลังเธออย่างจัง ตาลเองที่นั่งหันหลังห้หน้าห้องนั้น ถึงกลับต้องหันมาหาต้นตอของวัตถุบ้าๆนั่น
                  "อะไรหรอ อรจิรา ทำไมหรอ แค่ครูฟ้าดเธอแค่นี้ ถึงกับร้องซะเสียงหลงเลยหรอ ออกไปยืนหน้าห้องเดี๋ยวนี้เลย"อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย ตวาดตาลแล้วไล่ตะเพิดตาลออกไป
                  "ปัดโธ่เอ้ย วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย เจอครูตีแต่เช้าเลย"ตาลคิดในใจ ว่าวันนี้คงเป็นวันซวยของเธอ พร้อมเดินออกไปยืนหน้าห้องอย่างที่ครูได้สั่ง เธอคิดว่าไม่น่ามัวแต่คุยเลย เพราะ 
      ความเป็นคนคุยเก่งของตัวเองแท้ๆทำให้ได้ต้องมารับโทษ แบบว่า ป้าบ!!!ชาตินี้เธอคงจะเข็ดไปอิกนาน
                                                          
      อ่อด!!!   
                    เสียงอ่อดพักกลางวันของโรงเรียนดังขึ้น ตาลก็ไปกินข้าวพร้อมกับเพื่อนๆทั้งที่ยังเจ็บหลังไม่หาย เธอคงจะซวยจริงๆ
                  "เจ็บไหมครับ"เสียงผู้ชายคนนึงได้แว่วเข้ามาในหูของตาลในขณะที่ข้าวผัดกระเพากำลังจะเข้าปากพอดี ทำให้ตาลถึงกับหยุดชะงัก แล้วหันไปมองต้นตอของเสียง
                  บอย นักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้เป็นวันแรก และเค้าก็อยู่ห้องเดียวกับตาลด้วย
                  "อย่ามายุ่งกับชั้น"ตาลพูดเสียงคล้ายๆกับคนอารมณ์เสีย คงจะเป็นเพราะไม่ชอบผู้ชายและคงเรื่องของวันนี้ด้วยหล่ะมั้ง
                   บอยมองหน้าตาลอย่างเป็นห่วงตาล ทั้งๆที่ไม่คุยกันเลยแล้วก็เดินจากไป ตาลเองก็งงเล้กน้อยแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อไป
                  "นี่ ยายตาลเสน่ห์แรงจริงๆเลยนะ เปิดเทอมวันแรกก็มีผู้ชายมาคุยด้วยแล้ว แถมยังเป้นเด้กใหม่อีกต่างหาก ชั้นว่าเค้าต้องชอบเธอแน่เลย ที่ชั้นรู้มานะผู้ชายคนนี้อ่ะชื่อบอย เคยเป็นขวัญใจโรงเรียนเก่าของเค้าด้วยแหละแถมยังเป็นเศรษฐีพันล้านอีกนะ ก็น่าตาหล่อขนาดนี้ก็สมควรนะเนี่ยที่เป็นขวัญใจ เธอน่ะใจร้ายชะมัด ดูซิน่ะ เดินหนีไปไหนแล้ว"แอนเพื่อนซี้อิกคนของตาล พูดแกมๆอิจฉาตาลที่มีคนหล่อๆมาพุดด้วยทั้งๆที่ไม่เคยคุยกันเลย
                  "นี่ยายแอน จะบ้าหรอย่ะ ใครจะมาชอบชั้น ถึงชอบก็เถอะชั้นไม่สนหรอก นายนั่นอาจจะมาเยาะเย้ยชั้นก็ด้าย ที่ชั้นโดนตีอ่ะ พูดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย
                                                          
      อ่อด!!!(อิกที)   
                            เสียงอ่อดโรงเรียนดังอีกครั้ง เตือนให้รู้ว่า ถึงเวลาเรียนภาคบ่ายแล้ว 
                  "เฮ้อ...น่าเบื่อชะมัด ได้เวลาเรียนอีกแล้ว"ตาลเดินเข้าห้องมา พร้อมกับใบหน้าที่ดูยัง ไงๆก็หงิกงอ แต่ยังไม่ทันที่ตาลจะเดินถึงโต๊ะของเธอ ตาลก็เห็น บอย นั่งยิ้มให้เธอ อยู่ในห้องเรียน ทำเอาตาลโมโหมากๆพร้อมกะโกนออกไปสุดเสียงแล้วพุด
                  "เป็นอะไรหะ ไม่เคยเห็นคนหรือยังไง นายจงใจจะมาเยาะเย้ยชั้นใช่ไหม นายนี่มัน"
                  "เอะอะ อะไรอีกเนี่ยยายอรจิรา อะไรกันเนี่ยเพิ่งเปิดเทอมวันแรกก็ออกฤทธิซะขนาดนี้แล้วหรอ เรื่องเมื่อเช้าเนี่ย เธอไม่เข็ดใช่ไหม งั้นก็ดี วันนี้เธออยู่ทำความสะอาดโรงอาหารคนเดียวหลังเลิกเรียน แต่ตอนนี้เริ่มเรียนได้แล้ว"ยังไม่ทันที่ตาลจะเอ่ยคำด่ากับบอย อาจารย์คนเดิมก็มาทำโทษตาลอีกแล้ว ใช่จริงๆด้วยวันนี้วมันวันซวยของตาล
                                                       อ่อด!!!
      (อิกทีนึงน้า...) 
                 "นี่ตาลเลิกเรียนแล้วอ่ะ ให้ชั้นไปช่วยเธอทำความสะอาดโรงอาหารมั้ยหล่ะ พอดีชั้นว่างอ่ะ"แอนเพื่อนซี้คนเดิมของตาลเอ่ยปากอาสาช่วยตาลทำความสะอาดโรงอาหาร
                 "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวยัยเพิ้งนั่นก็มาตรวจดูอีกแหละ ว่าชั้นน่ะทำหรือเปล่า และทำคนเดียวหรือเปล่า"ตาลตอบปฏิเสธแอน ทั้งๆที่เสียดายน้ำใจของเพื่อนมาก โรงอาหารก็ออกจะกว้างใหญ่ ดีนะที่ยังมีภารโรง แต่ถ้าเย็นมากก็คงจะกลับบ้านไปหมดแล้ว
                  ดงันั้นตาลจึงรีบเดินไปที่โรงอาหารเพื่อทำความสะอาดทันที แต่ยังไม่ทันที่ตาลจะก้าวเข้ามาในโรงอาหาร ตาลก็เห็นผู้ชายหน้าตาคุ้นๆมาทำความสะอาดก่อนหน้าเธอไปแล้ว
                 "นี่ๆนายเป็นใครอ่ะ ถึงได้มาทำความสะอาดในนี้อ่ะห้ะ"ตาลเดินเข้าไปถามผู้ชายคนนั้นด้วยความสงสัย ใบหน้าที่กำลังก้ม เก็บกวาดเศษอาหารตามพื้นโรงอาหาร ก็เงยหน้าขึ้นมามองตาล ในสายตาแบบเมื่อบ่าย นั่นคือรอยยิ้มของ บอย นั่นเอง
                 "หวัดดีครับ เราจะมาช่วยเธอทำความสะอาดที่นี่เองนะ เธอจะได้ไม่เหงาไง"บอยพูดกับตาลด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำใจ ตาลถึงกับอึ้งเล็กน้อย กับน้ำเสียงแบบนี้ มันทำให้เธอแทบจะลอย มันเหมือนได้ยินเสียงจากสวรรค์ ทั้งที่ๆมันเป็นเพียงประโยคสั้นๆเท่านั้น ตาลได้สติทันทีที่มัวแต่ล่องลอยไปในอากาศกับคำพูดของบอย
                 "นี่ๆนาย จะมาตามล้างจองผลาญชั้นไปถึงไหนกัน วันนี้ชั้นโดนลงโทษเพราะนายนะ เลยทำให้ชั้นต้องมาทำความสะอาดโรงอาหารแบบเนี้ย แย่จริงๆ"ตาลพุดพร้อมกับแย่งไม้กวาดจากมือของบอยมา พร้อมกับพูดว่า "จะไปไหนก็ไปเลยนายอ่ะ"ตาลพุดไล่บอยไป แต่นายบอยยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
                 "นี่บอกให้ไปไกลๆไง หูฟาดหรอห้ะ"ตาลตะคอกบอยอีกครั้ง
                 "ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจช่วยเธอนะ นะนะให้เราช่วยเธอนะ เราขอร้อง"ทันทีที่บอยหยุดพุด ตาลก็ออกอาการแบบเมื่อกี้ คือเหมือนได้ยินอะไรที่น่าฟัง จากคำออดอ้อนของนายบอยที่วิงวอนขอช่วยทำงาน และสติเธอก็กลับมาอีกครั้ง แล้วก็พุดกับบอยว่า
                 "ตกลงนายอยากจะช่วยชั้นใช่ไหม"บอยพยัคหน้าแล้วยิ้มให้ตาล"นี่ไม่ต้องมามองชั้นแบบนั้นนะ โอเค ถ้านายอยากจะทำก็ทำเลย ทำไปคนเดียวเลย ชั้นจะได้กลับบ้านเสียที เชอะ"
      ตาลพูดกับบอยเหมือนชาตินี้ยังไงก้ไม่มีวันใยดีอะไรกับนายนี่หรอก แต่..ตาลก็แอบงงเล็กน้อยกับคำพูดที่ไม่ค่อยมีความหมายอะไร เป็นเพียงประโยคสั้นๆเท่านั้นเอง แต่กลับทำให้ตาลเหมอืนได้ฟังคำบัญชาจากสวรรคถึง2ครั้ง2ครา มันเหมือนเป็นเสียงที่อยากได้ยิน ได้ยินแล้วมีสุข
      ทันทีที่ตาลพูดจบแล้วก็เดินออกไป พร้อมเสียงตะโกนออกมาจากบอย
                  "ก็ได้นะ เราจะช่วยเธอเอง เราจะทำเพื่อเธอเอง"ตาลหยุดฟังแล้วก็เดินหน้าต่อไป พร้อมกับบอยที่มองตามหลังตาลไป แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดโรงอาหารนั้นจนเกือบเสร็จ บอยก็เป็นลมล้มลงไป เพราะความเหนื่อยจัด ที่ทำความสะอาดโรงอาหารที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ในขณะนั้นเอง อาจารย์ประจำวิชาที่ลงโทษตาลไปเมื่อเช้าและภารโรงอีก2คน เดินมาดูว่าตาลยังคงทำความสะอาดอยู่หรือเปล่า แต่ก็พบบอยในสภาพที่เป็นลมนอนคาไม้กวาด ครูเห็นดังนั้นจึงรีบนำบอยส่งโรงพยาบาล และก็สงสัยว่าตาลหายไปไหน
                   รุ่งเช้า อาจารย์คนเดิมเรียกตาลมาพบ แล้วถามว่า"ทำไมคนที่ทำความสะอาดโรงอาหารไม่ใช่เธอ แต่ทำไมกลับป็นนายอัครเดชห้ะ ไหนเธอลองตอบชั้นมาสิ"ตาลอ้ำๆอึ้งๆอยู่สักพักก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ครูฟัง
                   "เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกันห้ะ งานนี้ครูมอบหมายให้เธอไม่ใช่หรอ แล้วครูก็ลงโทษเธอนะ ไม่ใช่นายอัครเดช เธอรู้ไหมว่าเธอน่ะ ทำให้นายอัครเดชเป็นลมล้มไป ต้องเข้าโรงพยาบาล  มารู้อีกทีจากพ่อของนายอัครเดชว่านายอัครเดชน่ะ มีสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงมีโรคประจำตัวอยู่ คุณพ่อของนายอัครเดชจึงขออณุญาติ ให้นายอัครเดชนอนพักอยู่ที่บ้านอีก2-3วันก็จะกลับมาเรียนเหมือนเดิม ชั้นจะทำยังไงกลับเธอดีห้ะเนี่ยยายอรจิรา ชั้นหล่ะหมดหนทางจริงๆ"
                   ตาลอึ้งไปสักพักหนึ่ง กับสิ่งที่ครูบอก ตาลคิดว่าเธอเป็นคนทำให้บอยต้องมาเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเธอเอง ตาลทำอะไรไม่ถูก ยืนนิ่งสักพัก
                  "ชั้นไม่อยากจะทำโทษเธอแล้ว ชั้นเบื่อทีจะมาลงโทษคนไม่เอาไหนแบบเธออีกแล้ว เอางี้ชั้นจะให้เธอลองคิดทบทวนนะ ว่าทำไมนายอัครเดชต้องมาเป็นแบบนี้"สิ้นเสียงของครูแล้วครูก็เดินจากไป ตาลรู้แล้วว่าทำไม ทำไมนายบอยถึงต้องเป็นแบบนี้ 
                  3วันต่อมา
                  ตาลยังคงไม่ลืมเรื่องของบอย กินไม่ได้นอนไม่หลับ ยังคงโทษตัวเองอยู่เสมอ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
                  "อ้าวๆ ทุกคน นั่งที่ได้แล้ว วันนี้ครูมีประชุมนะ วิชานี้ก็ให้พวกเธอนั่งอ่านหนังสือกันเบาๆนะรู้มั้ย"ตาลยังคงเหม่อลอย นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาโดยไม่สนใจคนรอบข้างเลย โดยเฉพาะแอนเพื่อนซี้ของตาลก็ยังสงสัยว่าตาลเป็นอะไร ทำไมถึงไม่พุดไม่จา ไม่ร่าเริงอย่างเช่นทุกวัน
                                                  อ่อด!!!(สักทีเหอะน่า...)
                  "ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้วนะตาล ไปกินข้าวกัน".............."นี่ตาลเธอเป็นอะไรน่ะไม่พุดไม่จาเลยนะ ยายตาล!!!"แอนตะคอกสุดเสียง จนตาลถึงกับสะดุ้ง "นี่เธอเป็นอะไรอ่ะยายตาล ไปกินข้าวกัน" แอนถามตาลไปกินข้าวด้วยความเป็นห่วง"ไม่อ่ะ ชั้นไมหิวเธอลงไปกินเถอะ เราจะรออยู่ข้างบนห้องนะ"ตาลพูดเสียงอ่อยๆ"เออๆ..ก็ได้งั้นเดี๋ยวชั้นมา"แล้วแอนก็เดินไปกินข้าวปล่อยให้ตาลอยู่ในห้องคนเดียว 
                  
                   "ทำไมเธอไม่ไปกินข้าวหล่ะตาล ไปกับเรามั้ย"สิ้นเสียงนั้นตาลรีบหันไปทันทีที่รู้ว่าเสียงนั้นคือ บอย ใช่บอยจริงๆด้วย เค้ากลับมาแล้ว เค้าหายดีแล้ว เอ..แล้วทำไมเราต้องดีใจด้วยหล่ะเนี่ย เราเป็นอะไรของเราเนี่ย 
                   "เธอเป็นอะไรน่ะ วันนี้เราเห็นเธอซึมๆไม่พุดไม่จาเลยนะ เราเป็นห่วงเธอนะ"บอยทักทายกับตาลด้วยประโยคที่ยาวขึ้น และประโยคนั้นแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนว่า บอยนั้นเป็นห่วงตาลมากแค่ไหน
                   "เออ...น..นี..นี่นายอ่ะ นะ..นา..นายเป็นอะไรไปอ่ะ นะ..นา..นายไม่มะ..มา..มาเรียนตั้ง3วะ..วันแล้วนะ"ตาลพูดตะกุกตะกักอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าเค้าไม่กล้าเท่าไรจะพุดกับผู้ชายที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา และคิดว่าเค้านี่แหละเป็นคนทำให้ชีวิตของเธอต้องเจอแต่เรื่องซวยๆ 
                  "เออ...คือเราไม่ค่อยสบายนิดหน่อยอ่ะนะ นี่เธอเป็นห่วงเราหรอ เราดีใจนะ"บอยดีใจมากที่ได้คุยกับตาลมากขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก
                  "คะ..คะ..ใครเป็นห่วงนาย ระ..รา..เราปล่าวนะ เราแค่ถะ..ถา..ถามเฉยๆเองอ่ะว่านะ..นา..นายหายไปไหนมา ก็เท่านั้น คะ..คือชั้นจะขอโทษนายอ่ะนะ คือ....เรื่องวันนั้นอ่ะนะ ชะ..ชั้นไม่น่าปะ..ปา..ปล่อยให้นายทำความสะ..สะอาดโรงอาหารเลย ไม่งั้นนะ..นา..นายคงไม่เป็นแบบนี้หระ..หรอก"ตาลยังคงไม่เลิกตะกุกตะกักในคำพุดของตน จนบอยเริ่มสังเกตุแล้วว่าตาลเริ่มเปลี่ยนไป
                 "นี่ตาล เธอไม่ต้องกลัวที่จะพูดกับเราหรอกนะ เราไม่มีวันทำอะไรเธอหรอก เธอพูกกับเราดีๆก็ได้นะ"บอยเริ่มพูดลองใจตาล
                 "คะ..คา..ใครกลัว ชั้นไม่ได้กะ..กลัวนายหรอกนะเพียงแต่....."ตาลเงียบไปนานพอควร
                 "เพียงแต่อะไรหล่ะ บอกเราสิ เราอยากรู้"บอยเริ่มซักไซร้ตาลมากขึ้น
                 "เพียงแต่.....ชั้นแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมนายต้องมาทำดีกับชั้น ชั้นนะเกลียดนายจะตาย"
      ตาลไม่อ้ำอึ้งแล้วก็บอกความรู้สึกที่เคยมีต่อบอยว่ามันเป็นอย่างไร
                 "ทะ..ทา..ทำไมอ่ะหรอ....คะ..คือ..คือว่า ระ..รา..เราคือเรา...เออออ...."บอยเริ่มพูดไม่เป็นภาษา
                 "คืออะไรหล่ะ มัวแต่พูดตะกุกตะกักอยู่ได้(ไม่ดูตัวเองเลยนะยัยตาล)"ตาลซักไซร้บอย
                                                 
      อ่อด!!!(ครั้งสุดท้าย)
      เสียงอ่อดดังขึ้น ทุกคนเริ่มเข้ามาในห้องเรียน แต่ตาลกับบอยยังคงยืนมองหน้ากันแบบชนิดที่ว่า แยกไม่ออก เพราะครูเดินเข้ามาในห้องก็แล้ว พูดก็แล้ว ทั้งคู่ยังคงเหมือนเดิม
                                              
                                         -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
                                      คือว่า
      "เรารักตาลนะ"
      บอยตะโกนออกมาดังไปทั่วห้องทุกคนได้ยินหมด โดยเฉพาะคาลที่ยังค้างอยู่ในคำพูดของบอย ทุกคนอึ้งจนกระทั่งครูเองก็อึ้ง ตาลเองก็คิดว่า จากคนที่เราไม่ชอบ คนที่เราเกลียด กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามความดีของเขาไป คนที่คอยช่วยเหลือเรา คนที่เป็นห่วงเรา ตอนนี้เค้าได้บอกรักเรา นี่เราฝันไปหรือเปล่า นี่..เราเป็นอะไรไปเนี่ย


                 และนับตั้งแต่วันนั้น คนที่เดินเคียงข้างตาลคอยดูแลเอาใจใส่ตาลอยู่สม่ำเสมอคือ บอยนั่นเองเค้าสองคนคบกัน เค้าสองคนเป็นแฟนกัน จนถึงปัจจุบันนี้

                และเรื่องนี้ก็มีข้อคิดด้วยนะคะ คือว่าการที่เราจะตัดสินใครเนี่ยนะคะ เราควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนนะคะ แค่เราลองเปิดใจเท่านั้น สิ่งที่เปลี่ยนไปอาจจะเป็นสิ่งที่ดี แบบนิยายรื่องนี้ก็ได้นะคะท่านผู้อ่าน แล้วคุณหล่ะ ลองเปิดใจดูบ้างหรือเปล่า

                  ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าเรื่องไม่ค่อยสนุก แค่ลองเขียนดูนะคะ มีอะไรก็ติชมกันเข้ามานะคะ ยินดีจะแก้ไขปรับปรุบทุกจุดค่ะ และต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เรื่องยาวไปหน่อย 

                                  ***-***-***-***-***-***-***-***-***-***


                                                                     


       
              
       



      แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 ตุลาคม 2549 / 02:12
      แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 29 ตุลาคม 2549 / 02:14


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×