คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รอยแผล : 03 [50%]
หลังจากความวุ่นวายตอนเช้าได้จบลง
เฉาก๊วยกับเล้งก็ลงไปทานอาหารเช้าข้างล่างท่ามกลางสายตาที่มองมาของเหล่าแม่บ้าน
ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณนายใหญ่ของบ้าน มันไม่ใช่สายตาที่ไม่ดี
แต่มันก็แปลกๆให้ความรู้สึกเหมือน...
แซว...
อะไรประมาณนี้
เล้งที่ทนไม่ไหวจึงเอ่ยถามแม่ของตัวเองซึ่งคำตอบที่ได้รับทำเอาเขาปวดหัวกันเลยทีเดียว
เฉาก๊วยช่วยเล้งปฏิเสธข้อกล่าวหาที่พาทุกคนเข้าใจผิด
อธิบายกันอยู่สักพักทุกคนถึงเข้าใจแต่ก็ไม่วายยิ้มกรุ้มกริ่มกันอยู่ดี
แม้ว่าวันนี้เป็นวันเสาร์แต่เล้งก็ยังต้องไปดูงานที่ไร่ฟ้า
เผื่อมีอะไรฉุกเฉินเขาจะได้ตัดสินใจหน้างานได้ทันเวลา
ส่วนเฉาก๊วยก็ได้แต่นอนเล่นอยู่บ้านปล่อยเวลาทิ้งไปจนถึงเย็นก็มีสายเรียกเข้าจากเฮียโทรเข้ามา
“ครับ..เฮีย”
[เย็นนี้มึงจะไปร้านไอเดฟกับกูป่ะ กูไม่ได้อยากชวนมึงหรอกนะ
แต่ไอเดฟมันฝากมา] เฉาก๊วยเกือบจะดีใจที่เฮียโทรมาชวนเขาออกไปข้างนอกหลังจากที่เขานั่งๆนอนๆอุดอู้อยู่ในบ้านทั้งวัน
แต่ประโยคถัดมาก็ทำเอาใจดวงน้อยห่อเหี่ยวลงไปเลย
“ไม่เป็นไรครับ... เฮียไปเถอะ” เสียงหวานตอบไปเอื่อยๆ
[อือ แค่นี้แหละ]
อีกด้านหนึ่งหลังจากเล้งวางสายเฉาก๊วยไปแล้วก็อยากจะเอาหัวตัวเองโขกลงกับโต๊ะทำงาน
จริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากพูดออกไปแบบนั้น แม้ว่าเดฟจะฝากชวนก็จริงแต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ
ไม่อยากให้คนที่อายุน้อยกว่าคิดอะไรไปไกล ทำได้แค่ทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
เวลาทุ่มครึ่งรถแลโบกินีคันสีขาวมาจอดเทียบอยู่หน้ารั้วประตูบ้านของตนเองก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาใครบางคน รออยู่สักพักปลายสายก็กดรับ
“ครับ...”
[ลงมา]
“อะไรนะครับ...” เพราะปลายสายไม่เข้าใจในความหมายถึงต้องขอให้ร่างสูงพูดใหม่อีกรอบ
[ลงมาขึ้นรถ กูจะพาไปร้านไอเดฟ]
“เอ่อ...”
[มึงอย่าสงสัยมากได้ป่ะ กูบอกให้มาก็มาดิ]
เฮียเล้งคนเดิมกลับมาแล้วสินะ
เฉาก๊วยได้ยินเสียงทุ้มที่ติดไปทางหงุดหงิดแล้วก็รีบตอบรับก่อนจะกดวางสาย แล้วคว้าเอากระเป๋าสตางค์วิ่งมาที่รั้วหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว
เมื่อขึ้นมาบนรถก็ไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งติดไฟแดงร่างสูงถึงหันมาสำรวจคนที่ที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะพบว่าชุดที่ร่างเล็กใส่มานั้นมัน...
ล่อเสือล่อตะเข้มาก
“มึงใส่ชุดเหี้ยไรเนี่ย”
เฉาก๊วยได้ยินดังนั้นก็ก้มลงมองชุดตัวเองซึ่งมันก็เป็นชุดอยู่บ้านธรรมดา
คือเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาว กับกางเกงขาสั้นสีดำ
“ทำไมต้องว่าด้วย.. ก็ก๊วยรีบนี่ครับ”
“กางเกงมึงน่ะจะสั้นไปไหน”
“ชุดอยู่บ้านนี่หน่า ก็อยู่ดีๆเฮียก็โทรมาเร่ง
ก๊วยยังไม่ทันจะได้เปลี่ยนชุดเลย”
“ก็ไอเดฟมันให้มึงมาด้วย” แต่พอดีไอโง่คนนี้มันดันพูดอะไรออกไปจนคนข้างๆไม่ยอมมาด้วยในตอนแรกน่ะสิ
“แล้วทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะครับ?” เฉาก๊วยเอียงคอถามอย่างสงสัย
ซึ่งเล้งก็ตอบมาแค่ว่า ‘เรื่องของกู’ ร่างเล็กจึงไม่ถามอะไรต่อเพราะว่าขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคนชอบเอาชนะอย่างเฮีย
รถแลมโบกินีคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดหลังร้านซึ่งเป็นที่
VIP ก่อนร่างสูงจะเอื้อมมาจับมือคนตัวเล็กแล้วเดินพาเข้าไปข้างใน
เฉาก๊วยมองมือที่ถูกจับอยู่งงๆ
แต่ก็เข้าใจได้เมื่อเดินเข้ามาถึงข้างในร้านที่มีทั้งสายตาน่ากลัวอละดูหื่นกามจากผู้ชายหลายโต๊ะที่นั่งอยู่
แถมยังมีกลิ่นควันบุหรี่กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งไปทั่ว เฉาก๊วยเลยเอามืออีกข้างขึ้นมาปิดจมูก
“เหม็นหรอ” คนพี่ที่สังเกตเห็นอาการของเฉาก๊วยก็กระชับมือให้แน่นขึ้นรีบพาน้องเดินมาให้พ้นๆตรงนั้น
เดินเข้ามาจนถึงโซนในสุดของร้านที่เงียบกว่าโซนด้านนอกหน่อย
สอดส่ายสายตาอยู่ไม่นานแจ็คสันที่เห็นผู้มาใหม่ก็ลุกขึ้นยืนกวักมือเรียกอย่างเอาเป็นเอาตาย
สงสัยมันจะเมาแล้ว...
นี่เขาว่าเขามาเร็วแล้วนะ แต่ดูท่าเพื่อนๆเขาจะกินกันไปก่อนแล้ว
เฉาก๊วยที่เดินมาถึงโต๊ะก็ยกมือไหว้เพื่อนๆของเฮียที่เขาก็เคยเจออยู่บ้างเวลาเฮียมีงานสังสรรค์ที่บ้าน
รวมถึงพี่แจ็คสันที่พ่วงมาสองตำแหน่งคือเพื่อนของเฮียเล้งและว่าที่แฟนของยัยแจน
เห็นว่าพี่เขากำลังตามจีบเพื่อนสนิทของเขาอยู่น่ะนะ
“น้องเฉาก๊วยยย ไม่เจอกันนานสบายดีนะ” คนที่เดินมากอดเขาคือพี่จินแฟนพี่เดฟ
พี่จินคนนี้ใจดีกับผมมากๆ
ถึงขนาดบอกว่าถ้าเฮียเล้งทำตัวไม่ดีให้โทรมาฟ้องได้เลย เขาจะจัดการให้
“แหม วันนี้ไอเล้งมันพกเมียมาด้วยหรอ” คนนี้พี่แรนดี้ เป็นกันเองมากๆแต่ก็ดูเจ้าชู้พอสมควรดูจากลักษณะนิสัยที่เข้ากันได้กับทุกคนแล้ว
“พกเมียมาด้วยหรอ พกเมียมาด้วยหรอเนี่ย
แหมมาแค่นี้ต้องพกเมียมาด้วย~ ” เป็นพี่แจ็คสันที่ร้องเพลงแซวเฮียขึ้นมา
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่แซวของเพื่อนคนอื่นๆจนเฮียเล้งต้องเอ่ยปากด่าตามสไตล์เขา คนอื่นๆถึงได้หยุดโห่แซวแล้วก็ขำกัน
อ่ะพึ่งเห็นว่าโจอี้ก็มาด้วย
เฉาก๊วยไม่ค่อยได้เจอเลยเพราะเจ้านั่นแทบไม่ได้กลับบ้านเลยน่ะสิ
เจ้าชู้พอๆกับพี่แรนดี้เลยนะ อยู่ด้วยกันได้เลย
“โจอี้!” ร่างเล็กเอ่ยเรียกคนวัยเดียวกันด้วยความดีใจเพราะไม่ได้เจอเป็นอาทิตย์
โบกมือทักทาย ก่อนที่โจอี้จะส่งยิ้มและลุกขึ้นมากอดทักทายร่างเล็กตามความเคยชิน
กอดอยู่ไม่นานเล้งก็เดินมาจับแยกทั้งสองคนออกจากกัน
ก่อนจะจับมือพาคู่หมั้นตนเองไปนั่งลงข้างๆ
เป็นอะไรของเขา?
“ทำหวงว่ะ” พี่เดฟพูดขึ้นก่อนจะหยิบแก้วที่ชงเหล้าเสร็จสรรพส่งให้เฮียเล้ง
“ไม่ได้หวง” เฮียตอบ
“หรา ปากหนักตลอดอ่ะเฮีย” เป็นโจอี้ที่เถียงแทนทุกคน เพราะใครๆเขาก็เห็นอยู่ว่าอาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
“ไอโจ อย่ากวนส้นตีน” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนกระดกเหล้าในมือจนหมดรวดเดียว
“เฉาก๊วย เอาน้ำอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่เทให้” พี่แรนดี้ที่เห็นเฉาก๊วยนั่งเงียบฟังทุกคนคุยกันเอ่ยถามขึ้น
หยิบแก้วตักน้ำแข็งเตรียมเทน้ำ
“เอ่อ...”
“สักหน่อยมั้ยค้าบน้องก๊วย ไอเดฟมันเปิดร้ายทั้งที
แค่วันเดียวไม่เป็นไรหรอก”
แจ็คสันยุยงสุดฤทธิ์ แต่กลับพบว่าไม่เป็นผลเพราะมีคนตีหน้ายักษ์ส่งสายตาดุๆนั่นมาให้ไอเพื่อนตัวดี
“ไม่ได้”
“หรือจะไวน์ ไวน์ร้านมันชั้นดีเลยนะครับน้องก๊วย”
“ไม่”
“โว๊ะ ไอนู่นก็ไม่ได้ไอนี่ก็ไม่ได้
แล้วจะพาน้องมานั่งทำไรฮะเล้ง กินเป๊ปซี่หรอวะ” แจ็คสันรู้ดีว่าเพื่อนเขามันขี้หงุดหงิดแต่ก็อยากจะยั่วให้มันแสดงอาการ
‘บางอย่าง’ สักหน่อย
“เออ ให้มันแดกเป๊ปซี่ไป” เล้งว่าก่อนจะคว้าแก้วที่แรนดี้ถืออยู่ไปใส่น้ำเป๊ปซี่เองแล้วยื่นให้เฉาก๊วย
“ข...ขอบคุณครับ” เฉาก๊วยรับมาอย่างเก้ๆกังๆ เฮียทำอะไรแบบนี้ให้เขาด้วยเหรอเนี่ย
ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็.. น่ารักดีแฮะ
นั่งกินกันเป็นชั่วโมงจนคนตัวเล็กเริ่มเมื่อยก้นเมื่อยขาอยากจะลุกไปสูดอากาศ
เลยขออนุญาตเล้งออกไปที่โซนหลังร้านซึ่งก็เป็นที่จอดรถของเขาน่ะแหละ
เล้งอนุญาตและไม่ได้ว่าอะไรเพราะก็เห็นว่าไม่ไกลจากโต๊ะที่เขานั่งอยู่
แล้วก็เข้าใจว่าเด็กๆมานั่งแบบนี้ก็อาจจะเบื่อ
เฉาก๊วยออกมายืดเส้นยืดสายตามที่บอก
จริงๆก็ไม่รู้จะเดินไปไหนเหมือนกัน ใบหน้าหวานเงยหน้ามองบนท้องฟ้าที่วันนี้พระจันทร์สวยเป็นพิเศษ
เห็นแล้วก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้...
แม่จะสบายดีไหมนะ...
ก๊วยยังคิดถึงแม่เหมือนเดิมเลย..
“อ่ะ!” เฉาก๊วยสะดุ้งและหลุดจากภวังค์ที่เมื่อมีมือเย็นๆแตะลงบนไหล่ของเขา “เฉาก๊วย :)”
เมื่อร่างเล็กหันไปก็เจอกับรอยยิ้มอันคุ้นเคย...
“พี่ต๋า!”
.
.
.
50%
ความคิดเห็น